Ultramad Runner’s

Ultramad Runner’s “ผมเชื่อว่าการวิ่งนั้นเรียบง่ายและยากเย็นจนชั่วชีวิตอาจไม่เข้าใจมัน...”

🧠 การวิ่งอัลตร้า การนอนน้อย และความแปรปรวนทางพฤติกรรม:วิ่งไกล…นอนน้อย…แล้วเกิดอะไรในสมอง?ในหมู่นักวิ่งอัลตร้า มีพฤติกรรม...
07/08/2025

🧠 การวิ่งอัลตร้า การนอนน้อย และความแปรปรวนทางพฤติกรรม:

วิ่งไกล…นอนน้อย…แล้วเกิดอะไรในสมอง?

ในหมู่นักวิ่งอัลตร้า มีพฤติกรรมที่น่าสังเกตหลายอย่าง เช่น การแสดงออกที่ “นอกกรอบ” หรือการทำอะไรที่ชอบความท้าทาย (มากขึ้นเรื่อยๆ) จนคนทั่วไปมองว่า “เสี่ยง”

บางคนกล้าทำอะไรเสี่ยงๆมากขึ้น ประสาทสัมผัสที่ตอบสนองต่อความกลัวลดต่ำลง สามารถวิ่งท่ามกลางความมืดได้ ไปจนถึงเข้าป่าคนเดียวโดยไม่กลัว

ซึ่งคำถามที่น่าสนใจก็คือ:

“พฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะอะไร? มันคือความแปรปรวนของระบบประสาทและสมองหรือไม่? และจริงไหมที่ระดับฮอร์โมนจะเปลี่ยนแปลงไป?

และคำตอบคือ "ใช่"

ระดับฮอร์โมนที่สำคัญจะแปรปรวนเมื่อคุณนอนน้อย

✅ 1. ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol): สูงขึ้น

คอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนแห่ง “ความเครียด” ที่มีหน้าที่กระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัว เมื่อคุณนอนน้อยหรือพักผ่อนไม่พอ ร่างกายจะมองว่านั่นคือ “สถานการณ์ฉุกเฉิน” ทำให้หลั่งคอร์ติซอลมากขึ้น

ผลเสียเมื่อคอร์ติซอลสูงเกินไป มันรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเพศ และยับยั้งการผลิตเทสโทสเทอโรน

✅ 2. ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone): ต่ำลง

นี่คือฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับเพศชายในหลายด้าน ทุกครั้งที่คุณนอนน้อยนั่นทำให้มวลกล้ามเนื้อ และความแข็งแรงค่อยๆลดต่ำลง

งานวิจัยจาก University of Chicago ปี 2011 พบว่า:

ผู้ชายที่นอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อคืนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จะมีระดับเทสโทสเทอโรนลดลงถึง 10–15%

อีกหลายงานวิจัย พบว่า:

เทสโทสเทอโรนถูกสร้างมากที่สุดระหว่าง ช่วงนอนหลับลึก (deep sleep) และการนอนน้อยแค่ 1 คืน ก็อาจส่งผลต่อระดับฮอร์โมนเพศในวันถัดไปแล้ว

⏰ #การวิ่งอัลตร้า = พักผ่อนน้อยกว่าปกติ?

นักวิ่งอัลตร้าต้องซ้อมอย่างหนัก และในวันแข่งก็มักเผชิญภาวะ อดนอน 24–36 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ทั้งก่อนแข่ง (ตื่นตีสาม) ระหว่างแข่ง (ไม่ได้นอนเลย) และหลังแข่ง (หลับไม่ลึก)

งานวิจัยชี้ว่า การอดนอนแม้เพียงคืนเดียว สามารถส่งผลให้ระบบประสาทส่วนกลางทำงานผิดปกติ รวมถึงสมองส่วน Prefrontal Cortex ซึ่งควบคุมการยับยั้งชั่งใจอ่อนล้าลง

ทั้งหมดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความแปรปรวนทางพฤติกรรม

🌀 #เมื่อสมองแปรปรวน…พฤติกรรมก็เปลี่ยน

เราอาจเห็นหลายกรณีศึกษาที่พบว่า “นักวิ่งคนหนึ่งที่ในชีวิตแต่งตัวเรียบง่าย แต่พอวิ่งอัลตร้ากลับกล้าใส่เสื้อสีฉูดฉาด” หรือ "อีกคนที่ในชีวิตจริงเป็นคนเงียบๆ แต่พออยู่ในสนามแล้วกลับกลายเป็นคนพูดจาเฮฮาราวกับคนละคน"

สมองที่เหนื่อยล้าและฮอร์โมนที่ไม่สมดุลทำให้เกิดพฤติกรรมที่คนทั่วไปอาจมองว่า "ต่างไปจากปกติ"

- แต่งตัวไม่เหมือนเดิม
- แสดงอารมณ์มากขึ้น
- กล้าทำอะไร “นอกกรอบ” มากขึ้น

ซึ่งในบางคน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ “ของใหม่”

แต่เป็นสิ่งที่ถูกกดทับไว้นานแล้ว, อยู่ใต้จิตสำนึก, และรอเพียง “จังหวะที่ความยับยั้งอ่อนแรง” เพื่อเผยมันออกมา

🧬 #พฤติกรรมเปลี่ยนไป หรือ ตัวตนที่แท้จริง?

ที่สำคัญคือ เราไม่ควรสับสนระหว่าง “พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป” กับ “ความเป็นตัวตน”

การที่ร่างกายอ่อนล้า สมองพร่าเลือน และฮอร์โมนไม่สมดุล อาจทำให้ “ความเป็นตัวตน” ที่เคยเก็บซ่อนไว้ลึกที่สุด เริ่มมีเสียง

ไม่ใช่เพราะมันเพิ่งเกิดขึ้น แต่เพราะมันเคยอยู่แล้ว เพียงแค่ตอนนี้...ไม่มีแรงจะปิดมันอีกต่อไป

❗ #การนอนน้อย: ปัจจัยเสริม ไม่ใช่ต้นเหตุ

เราควรเน้นย้ำว่า “การนอนน้อยไม่ใช่ต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่แปลกไป”

แต่มันสามารถเป็น “ปัจจัยเสริม” ที่เปิดโอกาสให้บุคคล รับรู้, แสดงออก, หรือ ตระหนักรู้ ถึงสิ่งที่เคยกดทับอยู่ข้างในได้ง่ายขึ้น

🧩 #สรุป

การวิ่งอัลตร้าอาจไม่ได้จำเป็นต้องนอนน้อย เราเพียงต้องบริหารระบบฮอร์โมนเราให้สมดุล ด้วยการพักผ่อนที่เพียงพอ

แต่ไม่ว่าอย่างไร สิ่งที่เผยออกมาก็อาจไม่ใช่ความแปลกใหม่ใดๆ

แต่มันคือความเป็นตัวเองดั้งเดิม ที่เพิ่งมีโอกาสได้หายใจ
เราไม่ได้เห็น “ความแปลก”
แต่เราได้เห็น “ตัวตนที่แท้จริง”

หมู่บ้านอุลตร้า
Ultramad Runner’s

🔍 คำถามยอดฮิตของนักวิ่งอัลตร้า:🛏️ นอนสะสมหลายวัน แต่นอนน้อยวันแข่ง😴 อดนอนมาหลายวัน แต่นอนเต็มที่วันแข่งคุณคิดว่าแบบไหนส่...
05/08/2025

🔍 คำถามยอดฮิตของนักวิ่งอัลตร้า:

🛏️ นอนสะสมหลายวัน แต่นอนน้อยวันแข่ง
😴 อดนอนมาหลายวัน แต่นอนเต็มที่วันแข่ง
คุณคิดว่าแบบไหนส่งผลต่อการวิ่งมากกว่ากัน?

ว่าแต่…“นอน” มันสะสมได้ด้วยเหรอ?

หลายคนที่เตรียมตัวสำหรับการแข่งขันระยะไกล เช่น อัลตร้ามาราธอน 100K / 100 ไมล์ อาจสงสัยว่า...การนอนสะสมหลายวันก่อนแข่ง แต่คืนก่อนแข่งนอนน้อย กับ การอดนอนมาหลายวัน แต่คืนก่อนแข่งนอนเต็มที่ แบบไหนช่วยให้วิ่งได้ดีมากกว่ากัน?

คำตอบอาจทำให้คุณแปลกใจ...แต่ การนอนล่วงหน้าหลายวันมีผลดีมากกว่าชัดเจน และนี่คือเหตุผล

✅ การนอนสะสม (Sleep Banking) คืออะไร?

Sleep banking คือการ เพิ่มเวลานอนในแต่ละคืนล่วงหน้าก่อนกิจกรรมสำคัญ เช่น การแข่งขัน

เปรียบเหมือนการ เก็บแบตเตอรี่ไว้ใช้ในวันที่ต้องใช้พลังงานเยอะ หรืออดนอน

ตัวอย่างเช่น: ปกตินอนวันละ 7 ชั่วโมง → เปลี่ยนเป็นนอนวันละ 8.5 ชั่วโมง 5–7 วันก่อนวันแข่ง

📊 หลักฐานทางวิทยาศาสตร์

🧪 งานวิจัยจาก Journal of Sleep Research พบว่า: คนที่นอนเพิ่มขึ้นวันละ 1–1.5 ชั่วโมง ล่วงหน้า 6 คืน มีความล้าและง่วงน้อยลงขณะทำกิจกรรมหนัก แม้จะนอนน้อยในวันถัดมา

🧪 นักกีฬาชั้นนำหลายคน เช่น: Kilian Jornet, Courtney Dauwalter, Camille Herron
ใช้เทคนิคการนอนสะสมก่อนแข่งอัลตร้าแบบข้ามคืน

❌ การนอนเต็มที่คืนก่อนวันแข่ง “ไม่เพียงพอ”

แม้ว่าจะนอนเต็มที่คืนก่อนแข่ง แต่…ถ้าร่างกายล้า/ขาดการฟื้นตัวสะสมจากวันก่อนหน้า

- กล้ามเนื้อจะยังมี micro damage จากการใช้ชีวิต/ซ้อม
- ระบบประสาทยังค้างจากการนอนน้อยสะสม
- การนอนคืนเดียวไม่สามารถ ล้างความล้าสะสมได้หมด
- และในคืนก่อนแข่งจริง…หลายคนก็มักนอนไม่หลับเพราะความตื่นเต้นอยู่ดี

🧠 เปรียบเทียบง่ายๆ

#นอนสะสมหลายวัน
ความสดของกล้ามเนื้อ: ✅ สด ฟื้นตัวดี
ความชัดเจนของสมอง: ✅ โฟกัสดี
ทนทานต่อความง่วง: ✅ สูง
สมรรถนะระหว่างวิ่ง: ✅ สม่ำเสมอ
ตะคริว / ความล้า: 🔽 ลดลง

#นอนเต็มแค่คืนก่อนแข่ง
ความสดของกล้ามเนื้อ: ⚠️ ยังมีล้าสะสม
ความชัดเจนของสมอง: ⚠️ เสี่ยงเบลอ
ทนทานต่อความง่วง: ⚠️ ต่ำ
สมรรถนะระหว่างวิ่ง: ⚠️ ดรอประหว่างทาง
ตะคริว / ความล้า: ⚠️ เสี่ยงเพิ่มขึ้น

📌 #สรุป: คำแนะนำสำหรับนักวิ่งอัลตร้า

หากต้องเลือกระหว่างการนอนล่วงหน้า 5–7 คืน กับการนอนเต็มคืนเดียวก่อนแข่ง...จงเลือกนอนสะสมล่วงหน้า แล้วปล่อยให้คืนก่อนแข่งเป็นเพียง “โบนัส”

✅ นอนล่วงหน้า = วางแผน
❌ นอนคืนเดียว = ลุ้นเอาเอง

📅 #ตัวอย่างแผนนอนสะสมก่อนแข่ง

7 วันก่อนแข่ง: +60 นาทีจากเวลาปกติ
6 วันก่อนแข่ง: +60 นาที
5 วันก่อนแข่ง: +60 นาที
4 วันก่อนแข่ง: +30 นาที
3 วันก่อนแข่ง: +30 นาที
2 วันก่อนแข่ง: เข้านอนเร็ว งดคาเฟอีน
1 วันก่อน (คืนก่อนแข่ง): พักเต็มที่ ถ้านอนไม่หลับก็ไม่ต้องเครียด

การนอนคือส่วนสำคัญของการวิ่งอัลตร้า ซ้อมดีแล้วต้องนอนให้ดีด้วย
ว่าแต่….เมื่อคืนคุณนอนกี่ชั่วโมง?




หมู่บ้านอุลตร้า
Ultramad Runner’s

☀️ ร้อนมากแต่ไม่นาน...🌤️ ร้อนน้อยแต่ยาวนาน — แบบไหนยากกว่ากัน?---------------สนาม Thailand 100K Ultra Marathon ปี 2025 ท...
05/08/2025

☀️ ร้อนมากแต่ไม่นาน...
🌤️ ร้อนน้อยแต่ยาวนาน
— แบบไหนยากกว่ากัน?
---------------
สนาม Thailand 100K Ultra Marathon ปี 2025 ที่ผ่านมา หลายคนอาจรู้สึกว่าสภาพอากาศ “ร้อนจัด” บ้างก็ว่าร้อนกว่าปีที่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับสถิติของปี 2023 และ 2024 แล้ว...อุณหภูมิเฉลี่ยในปีนี้ กลับต่ำกว่าราว 2°C

แต่เหตุใดจึงยังรู้สึก ”หนักหน่วง?“ และทำไมอัตรา DNF (Did Not Finish) ในระยะ 100 km. ยังคงสูงกว่า 30% เหมือนปีก่อนๆ

🔥 คำตอบคือ: "ความร้อนสะสม" (Heat Accumulation)

แม้อุณหภูมิสูงสุดของปีนี้จะไม่รุนแรงเท่าปีก่อน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ

“ปีนี้ร้อน นาน กว่าเดิม 4-5 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย”

แล้วระหว่าง...
☀️ ร้อนมากแต่แค่ช่วงสั้น
🌤️ ร้อนน้อยแต่ยาวนาน
แบบไหนหนักกว่ากันจริงๆ?

📚 งานวิจัยพบว่า:

เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ทุกๆ 1°C
→ อัตราการเต้นหัวใจ (Heart Rate) อาจเพิ่มขึ้น 5–10 bpm

เพราะร่างกายต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อระบายความร้อน โดยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังผิวหนัง
→ ใช้พลังงานมากขึ้น
→ สูญเสียน้ำมากขึ้น
→ ความสามารถทางกายภาพลดลง

และเมื่ออุณหภูมิภายนอกเท่ากับหรือมากกว่า 36–37°C ซึ่งเทียบเท่าอุณหภูมิภายในร่างกาย
→ การระบายความร้อนแทบจะทำได้ยาก
→ เสี่ยง heat stroke, ภาวะล้าเร็ว, pace ตกลงอย่างชัดเจน

📈 อุณหภูมิที่สูงขึ้น มีผลต่อ performance อย่างไร?

อ้างอิงจาก: American College of Sports Medicine (ACSM)

อุณหภูมิ (°C) ส่งผลต่อ pace ลดลงโดยเฉลี่ยต่อชั่วโมง (เมื่อเทียบกับอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 30°C )
30°C เพซลดลง ~1%
33°C เพซลดลง ~2%
36°C เพซลดลง ~3%
38°C เพซลดลง ~5–6%

🧪 เปรียบเทียบสนามสมมุติ:

🎯 กำแพงแสน100 ปี 2024:

#ร้อนมากแต่ไม่นาน
- 2 ชั่วโมงที่อุณหภูมิ 38°C
- หากนักวิ่งใช้ pace ปกติที่ 9:00 นาที/กม ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 30°C → pace จะช้าลง ~6% = ~9:33 นาที/กม.
- ใน 2 ชม.จะวิ่งได้ ~13.3 กม. (ปกติ) → แต่จะวิ่งได้เพียง ~12.6 กม. → สูญเสียระยะทางราว 700 เมตร → แปลเป็นเวลา ~6–7 นาที

🎯 กำแพงแสน100 ปี 2025:

#ร้อนน้อยกว่าแต่ยาวนาน
- 5 ชั่วโมงที่อุณหภูมิ 36°C
- pace ลดลง ~3% = ~9:16 นาที/กม.
- ระยะทางที่ได้ใน 5 ชม. คือ ~33.3 กม. (ปกติ) → วิ่งได้จริง ~32.4 กม. → สูญเสียระยะทาง ~900 เมตร → แปลเป็นเวลา ~8–9 นาที

🔍 จะเห็นว่าสภาพอากาศ "กำแพงแสนปี 2025" สร้างปัญหามากกว่าปี 2024 ในระยะยาว

(สถิติน้ำแข็ง 18 ตัน Breaking New Record ที่กำแพงแสนปีนี้คือเครื่องยืนยัน) 👉 https://www.facebook.com/share/p/1E8teanyVh/?mibextid=wwXIfr

💥 ความจริงที่ซ่อนอยู่: "ความร้อนสะสม"

ในกำแพงแสนปี 2025 ถึงแม้อุณหภูมิจะต่ำกว่าปี 2024 แต่สิ่งที่นักวิ่งไม่ค่อยพูดถึงคือ:

- ความเครียดจากความร้อน (Heat Stress) ที่สะสมเรื่อยๆ
- การสูญเสียน้ำและเกลือแร่ ต่อเนื่องหลายชั่วโมง (ขนาดน้ำแข็งในถังยังละลาย น้ำในร่างกายตอนวิ่งไม่ต้องพูดถึง)
- อัตราการเต้นหัวใจสูงผิดปกติ แม้ pace จะช้า
- ระบบควบคุมอุณหภูมิร่างกาย (Thermoregulation) เสื่อมลง เมื่อวิ่งต่อเนื่องนาน
- นักวิ่งจะไม่สามารถ "ฟื้นคืน performance" ได้ทันภายในชั่วโมงถัดไป

📌 หากอยู่ในสภาพอากาศระดับ 33–36°C ต่อเนื่องไปอีก 6–8 ชม.

Pace อาจตกลงได้มากกว่า 5–8% โดยรวม → เวลาจบ (finish time) อาจเพิ่มจาก 15 ชม. → เป็น 16–16.5 ชม. ได้จริงในบางกรณี

นั่นหมายความว่าด้วยระดับ performance ที่เท่ากัน แต่สภาพอากาศ "กำแพงแสนปี 2025" จะทำให้นักวิ่ง (โดยทั่วไป) ทำเวลาได้ช้าลง 1 ชั่วโมง - 1 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อเทียบกับปี 2024

หมายเหตุ: กรณีของนักวิ่งอิลิทอาจแตกต่างออกไป เนื่องจากนักวิ่งอิลิทจะใช้เวลารวมต่ำกว่า 10 ชั่วโมงในการวิ่งอัลตร้าระยะ 100 กิโลเมตร

#สรุป:

การวิ่งอัลตร้า ความท้าทายไม่ได้อยู่แค่ที่ "ความร้อนสูงสุด" เท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับว่า…

“ร้อนระดับไหน และนานแค่ไหน”

ในสนาม Ultra 15 ชั่วโมงขึ้นไป ความต่างเล็กน้อยในอุณหภูมิ อาจกลายเป็นความต่างระดับชั่วโมง ในเวลาจบการแข่งขันได้

ร่างกายสามารถทนความร้อนสูงๆได้ชั่วคราว แต่หากต้องเจอกับ “ความร้อนระดับกลางๆ” แต่นานเกิน 5–6 ชั่วโมงขึ้นไป → ความร้อนสะสมจะเริ่ม กัดกินความสามารถทางกายภาพแบบช้าๆ แต่ต่อเนื่อง นั่นไม่นับระดับความเครียดในจิตใจ (Mindset) ที่ทำให้รู้สึกไม่อยากไปต่อ

และนั่นคือเหตุผลที่..."ร้อนน้อยแต่ยาวนาน" รับมือได้ยากกว่า "ร้อนมากแต่ไม่นาน"
..โดยเฉพาะในการแข่งขัน Ultra ที่ใช้เวลาหลายสิบชั่วโมง

💡 อย่ามองแค่ “อุณหภูมิสูงสุด” ในพยากรณ์อากาศ
แต่จงถามว่า...

“มันจะร้อน... นานแค่ไหน?”

เพื่อนๆมีวิธีจัดการความร้อนสะสมยังไง มาแชร์ไอเดียกัน...




หมู่บ้านอุลตร้า
Ultramad Runner’s

ชวนคุยเรื่องอุณหภูมิที่สนาม  #กำแพงแสน100Thailand 100K Ultra Marathon--------------จากที่เคยไปกำแพงแสน100 มาทุกปีตั้งแต่...
04/08/2025

ชวนคุยเรื่องอุณหภูมิที่สนาม #กำแพงแสน100
Thailand 100K Ultra Marathon
--------------
จากที่เคยไปกำแพงแสน100 มาทุกปีตั้งแต่ปีแรก 2023 จนถึงล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ปี 2025 ที่ผ่านมา มีข้อสังเกตอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ อยากเอามาแชร์กับเพื่อนๆ คือเรื่องอุณหภูมิในเรซ

#ปี2023 - 18 มิถุนายน
ร้อนจัด อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในช่วงเช้าอยู่ที่ 33 องศา และพีคสูงสุดมากถึง 38 องศาในช่วงเที่ยง - บ่ายโมง และหลังจากร้อนถึงขีดสุดแล้ว ฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักทำให้อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว สายเทรลดี๊ด๊าเดินเอามือไขว้หลังกันเป็นแถบทั้งที่ไม่มีเกน (ฮาา) 😂

(สถิตินักวิ่ง DNF ปี 2023: 36.3%)

#ปี2024 - 16 มิถุนายน
เป็นปีที่นักวิ่ง DNF เยอะที่สุด และเป็นสถิติ DNF ที่สูงที่สุดในบรรดาสนามอัลตร้าซีรีส์ทุกสนาม อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในช่วงเช้าอยู่ที่ 31 องศา และพีคสูงสุด 38 องศาในช่วงเที่ยง - บ่ายโมง และร้อนยาวนานไปจนถึงช่วงเย็นไม่มีฝนลงมาอย่างปีแรก ☀️

(สถิตินักวิ่ง DNF ปี 2024: 43.9%)

#ปี2025 - 3 สิงหาคม
นับเป็นปีแรกที่สนามกำแพงแสนตัดสินใจเปลี่ยนช่วงเดือนแข่งมาอยู่ที่สิงหาคม ความคาดหวังเรื่องอุณหภูมิของนักวิ่งส่วนใหญ่จะคิดว่าคงจะไม่ร้อนมากเท่า 2 ปีแรก เรามาดูกันว่าอุณหภูมิของปีนี้เป็นอย่างไร...

ในช่วงเช้าอุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 30 องศา พีคสูงสุด 36 องศาในช่วงเที่ยง - บ่ายโมง ไม่พีคเท่าปีที่แล้วก็จริง แต่...มันร้อนยาวนาน 4-5 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำที่อุณหภูมิแช่อยู่แถวนี้ ต่างจากปี 2024 ที่ยังเห็นความสวิงของอุณหภูมิอยู่บ้าง 🥵

(สถิตินักวิ่ง DNF ปี 2025: 32.2%)
โดยสรุปจะเห็นว่าการเปลี่ยนวันจัดงานของสนามเป็นช่วงเดือนสิงหาคม สามารถลดอุณหภูมิลงได้โดยเฉลี่ยประมาณ 2 องศา (ทุก 1 องศาหัวใจจะทำงานหนักขึ้น 5-10 bpm) นั่นหมายถึงอุณหภูมิของเมื่อวานที่กำแพงแสน100 อาจทำให้หัวใจของนักวิ่งเบาลงเมื่อเทียบกับปีก่อน

แต่...สิ่งที่เราไม่อาจคาดเดาได้คือการยืนระยะของอุณหภูมิ จะเห็นว่าปีนี้อุณหภูมิแช่สูงค่อนข้างนาน ความร้อนสะสมทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้า พลังงานกายและพลังใจโดนบั่นทอนได้ง่ายๆ จากความยาวนานของมัน

นักวิ่งหลายคนจัดการความร้อนสะสมได้ดีมาก ทั้งน้ำราดตัวเป็นระยะ และผ้าพันคอใส่น้ำแข็ง (ช่วยได้เยอะมาก) ทำให้สถิตินักวิ่ง DNF ในปีนี้น้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา

ถึงอย่างนั้นตัวเลข 30% ของนักวิ่งที่ DNF ในปีนี้ที่กำแพงแสนก็ยังคงยืนยันได้ว่า ไม่ว่าพี่หมุดจะเปลี่ยนไปจัดที่เดือนไหน มนต์เสน่ห์ของกำแพงแสน100 ยังคงไม่เสื่อมคลายนั่นคือ...
“ร้อนนนบันเทิงมากเลยครับ🫠” (จริงๆอยากพิมพ์คำอื่น กัวโดนด่า 555)

แล้วพบกันใหม่ปีหน้า 2026

หมู่บ้านอุลตร้า
Ultramad Runner’s

03/08/2025

สถิติกำแพงแสน100 ปี 2025

รอผลอย่างเป็นทางการจากเพจหลัก Thailand 100K Ultra Marathon อีกทีนะครับ


นักวิ่ง 747 คน
Starter: 694 คน
Finisher: 461 คน
Survival: 9 คน
Dnf: 224 คน (32.2%)


นักวิ่ง 482 คน
Starter: 428 คน
Finisher: 359 คน
Survival: 26 คน
Dnf: 43 คน (10.0%)

ยินดีกับทุกความสำเร็จ และไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ทุกคนก็สุดยอดแล้วครับ นับถือหัวใจสู้ของทุกคน 🙌

หมู่บ้านอุลตร้า
Ultramad Runner’s

วันรับบิบ (แล้ว) Thailand 100K Ultra Marathon 🤘🇹🇭 ขอให้พรุ่งนี้แดดแรงๆ ซ้อมแดดมาหนักมากก ! 🤞Ultramad Runner’s
02/08/2025

วันรับบิบ (แล้ว) Thailand 100K Ultra Marathon 🤘🇹🇭 ขอให้พรุ่งนี้แดดแรงๆ ซ้อมแดดมาหนักมากก ! 🤞
Ultramad Runner’s

วันรับบิบ Thailand 100K Ultra Marathon 🤘🇹🇭Ultramad Runner’s
02/08/2025

วันรับบิบ Thailand 100K Ultra Marathon 🤘🇹🇭
Ultramad Runner’s

วันนี้เพื่อนๆที่จะมารับบิบงานกำแพงแสน100 Thailand 100K Ultra Marathon เผื่อเวลาช่วงบ่ายด้วยนะครับ มีขบวนเสด็จของสมเด็จพร...
01/08/2025

วันนี้เพื่อนๆที่จะมารับบิบงานกำแพงแสน100 Thailand 100K Ultra Marathon เผื่อเวลาช่วงบ่ายด้วยนะครับ มีขบวนเสด็จของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาที่องค์พระปฐมเจดีย์

☝️เจ้าถิ่นแนะนำมาสามารถใช้เส้นทาง M81 จากบางใหญ่ หน้าเซ็นทรัลเวสต์เกต มาลงกำแพงแสน เร็วกว่า เปิดเย็นวันศุกร์ ถึงวันอาทิตย์เย็น ไม่ต้องผ่านเส้นบรมราชชนนี

📌 ถ้ามาจากลพบุรี สระบุรี อยุธยา: ใช้เส้นกาญจนาภิเษก และแยกหน้าเซ็นทรัลเวสต์เกต ปักหมุดมาเลย ช่วงนี้ฟรี วิ่งง่าย ลดระยะทางเยอะเลย

📌 ถ้ามาจาก กทม: ใช้เส้นรัตนาธิเบศร์ ตรงขึ้นด่าน M81 มาเลย หาง่าย

📌 ถ้ามาจากบรมราชชนนี: ต้องเลี้ยวเข้าเส้นกาญจนาภิเษก แล้วขึ้นทางด่านบางใหญ่ ก่อนถึงเซ็นทรัลเวสต์เกต

---------------
📍M81 ด่านบางใหญ่ ปักหมุดให้ครับ (เลือกจุดเริ่มต้นเป็นตำแหน่งของคุณได้เลย) https://maps.app.goo.gl/nTNEivFMBdGzo7XJ7?g_st=ic
---------------

เจอกันครับเพื่อนๆ 🙌
(อุนต้าเต๊นท์ 25-27)
Ultramad Runner’s

Find local businesses, view maps and get driving directions in Google Maps.

ซ้อมน้อย…Arcoxia ช่วยได้?------------หลายคนเลือกใช้มันก่อนรูดเจลซะอีก! แฟนพันธุ์แท้ Arcoxia (อาร์โคเซีย) ไม่ควรพลาดโพสต์...
01/08/2025

ซ้อมน้อย…Arcoxia ช่วยได้?
------------
หลายคนเลือกใช้มันก่อนรูดเจลซะอีก! แฟนพันธุ์แท้ Arcoxia (อาร์โคเซีย) ไม่ควรพลาดโพสต์นี้!

🔹 คำตอบสั้นๆ ก่อน

✅ กิน Arcoxia (etoricoxib) ได้ในกรณีจำเป็นระหว่างวิ่ง ultra แต่ต้องระวังมาก

❌ ไม่ควรกินแบบ “กันไว้ก่อน” หรือกินพร่ำเพรื่อ เพราะอาจอันตรายต่อตับ ไต และหัวใจ

💊 ขนาดที่ปลอดภัย: ไม่เกิน 60–90 mg ต่อวัน, ห้ามเกิน 120 mg

🏃‍♂️ ถ้าคุณซ้อมดีพอ อาจ "ไม่จำเป็น" ต้องใช้เลย
📌 Arcoxia คืออะไร? ใช้ยังไง?

ชื่อยา: Etoricoxib (กลุ่ม NSAIDs – ต้านการอักเสบที่ออกฤทธิ์นาน)

ออกฤทธิ์: ลดปวด / ลดการอักเสบ (โดยเฉพาะกล้ามเนื้อ ข้อ เส้นเอ็น)

นิยมในนักกีฬา ultra เพราะ “แรง และออกฤทธิ์ได้นาน” แต่...
⚠️ อันตรายและข้อควรระวัง

ทำร้ายไต โดยเฉพาะตอนร่างกายขาดน้ำ

เวลาวิ่ง ultra ร่างกายเสียเหงื่อมาก → ไตทำงานหนัก

หากกิน Arcoxia ในภาวะขาดน้ำ → เสี่ยงไตวายเฉียบพลัน
💖ผลข้างเคียงต่อระบบหัวใจ

โดยเฉพาะในคนอายุ 40+ หรือมีประวัติความดันสูง

หลอกอาการเจ็บ ทำให้ “ฝืนวิ่งจนบาดเจ็บหนัก”

เจ็บจริงแต่ไม่รู้ เพราะยา “กลบสัญญาณเตือนของร่างกาย”

Arcoxia 60–90 mg จะกลบการอักเสบ/เจ็บกล้ามเนื้อได้ชั่วคราว 6–12 ชม.

แต่มันไม่ช่วยให้กล้ามเนื้อ ฟื้นตัว แกร่ง หรือทนทานขึ้นเลย
🔁 สรุปแบบเปรียบเปรยให้เข้าใจง่าย

"Arcoxia 1 เม็ด" เทียบเท่ากับการที่คุณ “ซ้อมต่อเนื่อง 40–60 km/สัปดาห์ เป็นเวลา 4–6 สัปดาห์”

💊 หากคุณกิน Arcoxia ในเรซเป็นประจำ...

หนึ่งเม็ดก็จะเท่ากับระยะที่คุณควรจะเพิ่มไมล์เลจในการซ้อมให้มากขึ้นประมาณ 40-60 km/สัปดาห์

เช่น หากคุณเคยซ้อมอยู่ที่ 70 km/สัปดาห์ แล้วไปวิ่งในเรซทีไรต้องกิน Arcoxia ทุกที คุณอาจต้องพิจารณาเพิ่มไมล์เลจคุณเป็น 140-150 km/สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น จะได้ไม่ต้องพึ่ง Arcoxia อีก
🧠 สุดท้าย: วิธีคิดของนักวิ่ง ultra ที่ยั่งยืน

ยา = ทางลัดสั้นๆ ช่วยให้คุณ “วิ่งจบ” วันนั้น

การซ้อม = เส้นทางยาว ที่ทำให้คุณ “วิ่งต่อได้” ไปตลอดชีวิต

คุณจะเลือกลงทุนกับ "Arcoxia 1 เม็ด" หรือ "ไมล์เลจ 50 km/สัปดาห์" ขึ้นอยู่กับคุณ...


Ultramad Runner’s

  ใกล้จะถึงวัน  #กำแพงแสน100 หนึ่งในสนามอัลตร้าโร้ดที่ไม่มีเกน (ทางเรียบ = ง่าย?) แต่ในความราบเรียบนั้น ตามมาด้วยชุดกล้า...
31/07/2025

ใกล้จะถึงวัน #กำแพงแสน100 หนึ่งในสนามอัลตร้าโร้ดที่ไม่มีเกน (ทางเรียบ = ง่าย?) แต่ในความราบเรียบนั้น ตามมาด้วยชุดกล้ามเนื้อที่ต้องทำงานซ้ำๆในรูปแบบเดิมๆตลอดเวลา ตะคริวถามหากันเป็นแถว

สถิตินักวิ่ง DNF สูงที่สุดในบรรดา 4 สนามอัลตร้ามาสเตอร์ก็อยู่ที่นี่….43.95% เป็นเครื่องยืนยัน มันคือตัวเลขของนักวิ่งที่ DNF ใน Thailand 100K Ultra Marathon ปี 2024

หนึ่งในตัวแสบสำหรับระยะอัลตร้าคือตะคริวครับ ผมเลยอยากพูดถึงมันซะหน่อย มีหลายบทความพูดถึงข้อควรข้อห้ามเวลาเจอกับตะคริว บ้างก็ว่าห้ามเย็น บ้างก็ว่าให้เย็นทันที ตกลงแบบไหนแน่?

ลองถาม ai เพื่อนสายสวรรค์ดู ได้ข้อมูลมาแบ่งปันกันแบบนี้ครับ
-------------

✅ 1. ขณะเป็นตะคริว ควรทำอะไร
🔹 หยุดกิจกรรมทันที
ยืดกล้ามเนื้อที่เป็นตะคริวอย่างช้า ๆ

เช่น ถ้าเป็นตะคริวที่น่อง → ดันปลายเท้าขึ้น หรือยืนเหยียดขาแล้วก้มตัวไปจับปลายเท้าเบา ๆ

🔹 ใช้สเปรย์เย็นหรือร้อน?
ขณะเป็นตะคริว:
❄️ สเปรย์เย็น หรือ ประคบเย็น จะเหมาะกว่า
→ ช่วยลดการหดเกร็งเฉียบพลันของกล้ามเนื้อ

แนะนำ: สเปรย์เย็นสามารถฉีดได้ทันทีเพื่อบรรเทาความเจ็บ ปรับระบบประสาทรอบกล้ามเนื้อให้สงบลง

✅ 2. หลังจากอาการดีขึ้นแล้ว (30 นาที - 1 ชม. หลังตะคริวคลาย)
🔸 ควรใช้ความร้อน
♨️ สเปรย์ร้อน / แผ่นประคบร้อน
→ เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ยังตึงอยู่ และเพิ่มการไหลเวียนเลือด

✅ 3. แล้วน้ำแข็งล่ะ?
หากมี อาการปวดมาก บวม หรือมีอักเสบ → ใช้ น้ำแข็งประคบ 10-15 นาที เพื่อบรรเทาอาการ

แต่ถ้าแค่เป็นตะคริวทั่วไป ไม่จำเป็นต้องแช่น้ำแข็งเสมอไป

✅ สรุปให้สั้นๆ:
เมื่อเกิดขึ้นทันที
❄️ สเปรย์เย็น / ประคบเย็น + ยืดกล้ามเนื้อเบา ๆ

หลัง 30 นาที
♨️ สเปรย์ร้อน / ประคบร้อน

มีปวด/บวมมาก
❄️ น้ำแข็งประคบ 10–15 นาที

#ห้ามทำ
ไม่ควรนวดแรง ๆ ขณะยังปวดเกร็ง เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดได้

#ควรทำ
ต่อไปก็ซ้อมบ้างนะ ซ้อมน้อยอ่ะ ตะคริวเลยมา...
อันนี้เติมเอง (ฮาาา)

เพื่อนๆว่าไง? มาแชร์กัน!
Ultramad Runner’s

ที่อยู่

Basecamp หมู่บ้านอุลตร้า @ห้วยกระแทก
Lop Buri
15000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Ultramad Runner’sผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Ultramad Runner’s:

แชร์