Fish Immunology and Nutrigenomics Lab

Fish Immunology and Nutrigenomics Lab Applied Animal and Aquatic Sciences Research Unit 🐟💉🧬🦠🧫

🎉 ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง 🎉หลักสูตร วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีชีวภาพและธุรกิจชีวภาพภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะเทค...
21/10/2025

🎉 ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง 🎉

หลักสูตร วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีชีวภาพและธุรกิจชีวภาพ
ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ขอแสดงความยินดีกับ นางสาวพิชชารัตน์ สุนทมาลา
โดยมี รศ.ดร.เอกพล วังคะฮาต อาจารย์ที่ปรึกษา
ในโอกาสสำเร็จการศึกษา และผลงานวิจัยได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ

📘 เรื่อง
“IL-11 acts as a vaccine adjuvant in Nile tilapia (Oreochromis niloticus) against Streptococcus agalactiae, enhancing both cellular and humoral immune responses”

วารสาร Fish & Shellfish Immunology
DOI: https://doi.org/10.1016/j.fsi.2025.110917
ฐานข้อมูล ISI Q1

ขอชื่นชมในความมุ่งมั่นและความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจ 💐
ขอให้ก้าวต่อไปบนเส้นทางนักวิจัยด้วยความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป 🌟

🎉 ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง 🎉หลักสูตร วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีชีวภาพและธุรกิจชีวภาพภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะเทค...
21/10/2025

🎉 ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง 🎉

หลักสูตร วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีชีวภาพและธุรกิจชีวภาพ
ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ขอแสดงความยินดีกับ นางสาวจันทร์จิรา พุดเกลี้ยง
โดยมี รศ.ดร.เอกพล วังคะฮาต อาจารย์ที่ปรึกษา
ในโอกาสสำเร็จการศึกษา และผลงานวิจัยได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ

📘 เรื่อง
“Studies on the use of mycotoxin binders as an effective strategy to mitigate mycotoxin contamination in aquafeed: A case study in Nile tilapia (Oreochromis niloticus)”

วารสาร: Aquaculture Reports
DOI: https://doi.org/10.1016/j.aqrep.2025.102984
ISSN: 2352-5134
ฐานข้อมูล: Scopus Q1

ขอชื่นชมในความมุ่งมั่นและความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจ 💐
ขอให้ก้าวต่อไปบนเส้นทางนักวิจัยด้วยความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และงดงามยิ่งขึ้น 🌟

“บทความวิจัยได้รับการตีพิมพ์เพิ่มอีกแล้ว มาถี่…แบบสับ”🐟 บทบาท IL-11 ที่ทำหน้าที่เป็นสารเสริมฤทธิ์ของวัคซีนในปลานิล (Oreo...
21/10/2025

“บทความวิจัยได้รับการตีพิมพ์เพิ่มอีกแล้ว มาถี่…แบบสับ”

🐟 บทบาท IL-11 ที่ทำหน้าที่เป็นสารเสริมฤทธิ์ของวัคซีนในปลานิล (Oreochromis niloticus) เพื่อป้องกันเชื้อ Streptococcus agalactiae โดยกระตุ้นการตอบสนองภูมิคุ้มกันทั้งแบบในระดับเซลล์และแบบฮิวมอรัล 🐠✨

📍ห้องปฏิบัติการภูมิคุ้มกันวิทยาของปลาและโภชนพันธุศาสตร์ (Fish Immunology and Nutrigenomics Laboratory) #ขอแสดงความยินดีกับ นางสาวพิชชารัตน์ สุนทมาลา และรองศาสตราจารย์ ดร.เอกพล วังคะฮาต พร้อมทั้งคณะผู้วิจัย #ในโอกาสที่ผลงานวิจัยได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ Fish and Shellfish Immunology ภายใต้หัวข้อเรื่อง

“IL-11 acts as a vaccine adjuvant in Nile tilapia (Oreochromis niloticus) against Streptococcus agalactiae, enhancing both cellular and humoral immune responses”

📍ทั้งนี้ บทความวิจัยฉบับนี้มุ่งเน้นการประเมินศักยภาพของ rIL-11 ในฐานะสารเสริมฤทธิ์ทางโมเลกุล (molecular adjuvant) เมื่อใช้ร่วมกับวัคซีนชนิดฟอร์มาลินฆ่าเชื้อ (formalin-killed vaccine; FKC) ต่อเชื้อ S. agalactiae ในปลานิล โดยหลังการฉีดวัคซีนได้ทำการศึกษาการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันทั้งแบบผ่านเซลล์ (cell-mediated) และแบบฮิวมอรัล (humoral) ที่ถูกกระตุ้นจากวัคซีนที่ผสมสารเสริมฤทธิ์ rIL-11 อย่างไรก็ตามได้ทำการประเมินในหลายมิติที่สำคัญ ประกอบด้วยการวิเคราะห์การแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน การหาปริมาณระดับแอนติบอดี IgM จำเพาะ ตลอดจนการทดสอบความท้าทายด้วยเชื้อก่อโรค เพื่อยืนยันศักยภาพในการป้องกันโรคของวัคซีน FKC ที่เสริมด้วย rIL-11 โดยใช้อัตราการรอดชีวิตของปลาหลังการติดเชื้อเป็นตัวชี้วัดหลักของประสิทธิภาพวัคซีนในการศึกษาครั้งนี้

📍 Interleukin-11 (IL-11) ถือเป็นไซโตไคน์ชนิดพลีโอโทรปิกที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน การสร้างเม็ดเลือด และกระบวนการอักเสบ ในปัจจุบันข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทของ IL-11 ในปลายังคงมีจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการใช้เป็นสารเสริมฤทธิ์ในวัคซีน นอกจากนี้ IL-11 ยังมีส่วนสำคัญในการควบคุมการทำงานของเม็ดเลือดขาว ทั้งชนิดที่มีอยู่ตามธรรมชาติและที่เพาะเลี้ยงในสภาวะควบคุม ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อก่อโรคที่รุกราน

📍ผลการศึกษาพบว่า ปลานิลที่ได้รับวัคซีนชนิดฟอร์มาลินฆ่าเชื้อ (formalin-killed vaccine; FKC) ร่วมกับโปรตีน rIL-11 แสดงค่ากิจกรรมของเอนไซม์ไลโซไซม์ ไมอีโลเพอร์ออกซิเดส กลูตาไธโอนเปอร์ออกซิเดส และกลูตาไธโอนรีดักเทส สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม นอกจากนี้ ระดับแอนติบอดี IgM จำเพาะในซีรัมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปลาทุกตัวที่ได้รับ FKC ร่วมกับ rIL-11 สอดคล้องกับการตรวจพบความหนาแน่นของเซลล์บี IgM⁺ ในม้ามที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน การวิเคราะห์การแสดงออกของยีนไซโตไคน์เผยให้เห็นการกระตุ้นที่มีนัยสำคัญของยีน TNF-α, IL-6, IL-8, IL-1β, IL-11a และ IL-11b ในม้าม และยีน TNF-α และ IL-8 ในตับ โดยเฉพาะในระยะเริ่มต้นหลังการฉีดวัคซีน (วันที่ 1–3) ที่แสดงการตอบสนองเด่นชัดที่สุด ที่สำคัญ การทดสอบประสิทธิภาพการป้องกันโรคพบว่ากลุ่มที่ได้รับ FKC ร่วมกับ rIL-11 มีอัตราการรอดชีวิตสัมพัทธ์ (Relative Percent Survival; RPS) อยู่ที่ 78.78% ซึ่งสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับ FKC เพียงอย่างเดียว (RPS 60.60%)

📍อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า rIL-11 สามารถทำหน้าที่เป็นสารเสริมฤทธิ์ของวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อใช้ร่วมกับวัคซีนชนิดฟอร์มาลินฆ่าเชื้อ (FKC) โดยมีส่วนช่วยเสริมสร้างการป้องกันของระบบภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย S. agalactiae ในปลานิล การกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันทั้งโดยกำเนิดและโดยปรับตัว รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันทั้งในระดับฮิวมอรัลและระดับเซลล์ บ่งชี้ถึงบทบาทของ rIL-11 ในการส่งเสริมประสิทธิภาพของวัคซีนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะปลาที่ได้รับวัคซีน FKC ร่วมกับ rIL-11 แสดงให้เห็นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่รวดเร็วและเข้มข้นกว่ากลุ่มที่ได้รับวัคซีน FKC เพียงอย่างเดียว ผลลัพธ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของการใช้ไซโตไคน์ร่วมในสูตรวัคซีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในปลานิลได้อย่างมีนัยสำคัญ

📍 กล่าวโดยสรุป งานวิจัยฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนชนิดฉีดที่ประกอบด้วยวัคซีนฟอร์มาลินฆ่าเชื้อ (FKC) ร่วมกับโปรตีน rIL-11 ซึ่งสามารถมอบการป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงต่อการติดเชื้อ S. agalactiae ในปลานิล ผลลัพธ์ดังกล่าวสะท้อนถึงศักยภาพของแนวทางการใช้สารเสริมฤทธิ์ทางโมเลกุลในการเพิ่มประสิทธิภาพของวัคซีน เพื่อส่งเสริมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันทั้งโดยกำเนิดและโดยปรับตัวอย่างเป็นระบบในสัตว์น้ำ กลยุทธ์นี้ไม่เพียงสนับสนุนแนวทางการจัดการวัคซีนเพื่อป้องกันโรคในอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในระดับอุตสาหกรรม และมีศักยภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนในอนาคต
อ้างอิง: https://doi.org/10.1016/j.fsi.2025.110917

เก็บข้อมูล เก็บประสบการณ์ เก็บความรู้ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืน🐟🌊🍃☀️
14/10/2025

เก็บข้อมูล เก็บประสบการณ์ เก็บความรู้ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืน🐟🌊🍃☀️

เตรียมอุปกรณ์กันครับวันหยุดสุดหรรษา🧹🍕🍟🥤🍗
12/10/2025

เตรียมอุปกรณ์กันครับ
วันหยุดสุดหรรษา🧹🍕🍟🥤🍗

“ศักยภาพเมล็ดอินทผลัม Raziz: ตัวช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและเสริมภูมิคุ้มกันปลานิลแดงลูกผสม”🦠📍วันนี้ ห้องปฏิบัติการภูมิคุ้ม...
08/10/2025

“ศักยภาพเมล็ดอินทผลัม Raziz: ตัวช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและเสริมภูมิคุ้มกันปลานิลแดงลูกผสม”🦠

📍วันนี้ ห้องปฏิบัติการภูมิคุ้มกันวิทยาของปลาและโภชนพันธุศาสตร์ (Fish Immunology and Nutrigenomics Laboratory) ขอเผยแพร่บทความวิจัยที่มีคุณค่าต่อวงการวิทยาศาสตร์การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมุ่งเน้นการประยุกต์ใช้สารสกัดจากเมล็ดอินทผลัมซึ่งมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและภูมิคุ้มกันของปลา งานวิจัยนี้ศึกษาทั้งฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและศักยภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของปลานิลแดงลูกผสมที่ติดเชื้อ Streptococcus agalactiae ทั้งนี้ การศึกษาครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับสารสกัดเมล็ดอินทผลัมที่มีต่อปลานิลในระดับเซลล์ระหว่างระยะการติดเชื้อ ตลอดจนแนวทางบรรเทาผลกระทบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อันจะเป็นรากฐานสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนในอนาคต

🐟การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำถือเป็นภาคส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมอาหารที่มุ่งผลิตปลาเพื่อการบริโภคเชิงพาณิชย์ โดยปลานิลเป็นชนิดปลาที่มีความต้องการสูงและได้รับการเพาะเลี้ยงอย่างแพร่หลายทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญที่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงต้องเผชิญคือการระบาดของโรค โดยเฉพาะที่เกิดจากเชื้อ S. agalactiae ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ เนื่องจากก่อให้เกิดอัตราการตายสูงและความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมาก ปัญหานี้มักนำไปสู่การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการดื้อยาปฏิชีวนะและกระทบต่อความยั่งยืนของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

📣การศึกษานี้มุ่งประเมินศักยภาพของเมล็ดอินทผลัมสายพันธุ์ Raziz ซึ่งเป็นของเหลือจากอุตสาหกรรมแปรรูปอินทผลัม ในการต้านเชื้อ S. agalactiae และการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของปลานิล ทั้งในระดับหลอดทดลองและในร่างกาย สำหรับการทดลองในหลอดทดลอง ได้ใช้ไตส่วนหน้าและซีรัมจากปลานิลโตเต็มวัยที่มีสุขภาพดี ขณะที่การทดลองในร่างกายได้แบ่งปลานิลออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ติดเชื้อและกลุ่มที่ไม่ติดเชื้อ S. agalactiae โดยแต่ละกลุ่มประกอบด้วยปลาที่ได้รับสารสกัดจากเมล็ดอินทผลัมและปลาที่ได้รับน้ำกลั่นเป็นกลุ่มควบคุม จากนั้นทำการประเมินกิจกรรมของ respiratory burst, lysozyme และ myeloperoxidase

📍ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าสารสกัดเมล็ดอินทผลัมสายพันธุ์ Raziz ที่สกัดด้วยเมทานอลในความเข้มข้น 1 กรัม/มิลลิลิตร สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ S. agalactiae ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ความเข้มข้น 10, 2 และ 0.016 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร แสดงค่ากิจกรรมสูงสุดของเอนไซม์ respiratory burst, lysozyme และ myeloperoxidase ในการทดสอบในหลอดทดลอง ตามลำดับ นอกจากนี้ ในการทดลองในร่างกายพบว่าปลานิลที่ได้รับสารสกัดและติดเชื้อ S. agalactiae มีค่ากิจกรรมของ respiratory burst และ lysozyme สูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในขณะที่ไม่พบความแตกต่างในกลุ่มที่ไม่ติดเชื้อ ผลดังกล่าวบ่งชี้ว่าสารสกัดเมล็ดอินทผลัมสายพันธุ์ Raziz ที่สกัดด้วยเมทานอล มีศักยภาพทั้งในการต้านเชื้อแบคทีเรียและการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดของปลานิลระหว่างการติดเชื้อ S. agalactiae

📌กล่าวโดยสรุป สารสกัดเมล็ดอินทผลัมสายพันธุ์ Raziz ที่สกัดด้วยเมทานอลแสดงศักยภาพในการยับยั้งการเจริญของเชื้อ S. agalactiae และส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด โดยเฉพาะกิจกรรมของเอนไซม์ไลโซไซม์และระบบป้องกันเชิงเซลล์ในระยะการติดเชื้อที่รุนแรง ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าเมล็ดอินทผลัมสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบเสริมในอาหารปลานิลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันและลดการพึ่งพาการใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งช่วยส่งเสริมความปลอดภัยของผู้บริโภคและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
อ้างอิง: https://doi.org/10.3390/biology14101356

23/09/2025
🐟 ห้องปฏิบัติการฯ ขอต้อนรับคณะผู้บริหารและอาจารย์ที่ปรึกษาจากมหาวิทยาลัย Guangxi Minzu ประเทศจีน🤝🗓️ วันอังคารที่ ๒๓ กันย...
23/09/2025

🐟 ห้องปฏิบัติการฯ ขอต้อนรับคณะผู้บริหารและอาจารย์ที่ปรึกษาจากมหาวิทยาลัย Guangxi Minzu ประเทศจีน🤝

🗓️ วันอังคารที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๘ เวลา ๑๐.๓๐ น. ห้องปฏิบัติการภูมิคุ้มกันวิทยาของปลาและโภชนพันธุศาสตร์ (Fish Immunology and Nutrigenomics Laboratory) ขอต้อนรับคณะผู้บริหารและอาจารย์ที่ปรึกษา คณะเคมีและวิศวกรรมศาสตร์อุตสาหกรรมเคมี มหาวิทยาลัย Guangxi Minzu ประเทศจีน เพื่อร่วมหารือความร่วมมือด้านการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรความร่วมมือไทย - จีน พร้อมทั้งความร่วมมือทางวิชาการในการส่งนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาเข้าร่วมทำวิจัยกับอาจารย์ที่ปรึกษาในทั้ง ๔ คณะ ประกอบด้วย คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ และคณะเทคโนโลยี ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในระหว่างช่วงเดือนสิงหาคม - ตุลาคม ๒๕๖๘ นี้

”บทความวิจัยมาใหม่ ไขปริศนาเชื้อคู่ร้ายในปลากะพงปากกว้าง“🔎🦠📌 การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ ภ...
22/09/2025

”บทความวิจัยมาใหม่ ไขปริศนาเชื้อคู่ร้ายในปลากะพงปากกว้าง“🔎🦠

📌 การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ ภูมิคุ้มกัน และการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยาของปลาปลากะพงปากกว้างในการตอบสนองต่อการติดเชื้อแบบเดี่ยวหรือร่วมของ Aeromonas veronii และ Nocardia seriolae🦠

📌 ห้องปฏิบัติการภูมิคุ้มกันวิทยาของปลาและโภชนพันธุศาสตร์ (Fish Immunology and Nutrigenomics Laboratory) ร่วมกับ Wuhan Polytechnic University โดย Prof. Hongsen Xu และ Prof. Weiguang Kong Institute of Hydrobiology, Chinese Academy of Sciences ขอนำเสนอบทความวิจัยที่มีคุณค่าต่อวงการศึกษาการติดเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในสัตว์น้ำ ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวมุ่งเน้นการทำความเข้าใจโรคที่เกิดจาก N. seriolae และ A. veronii ในปลากะพงปากกว้าง รวมถึงการศึกษากลไกการตอบสนองต่อการติดเชื้อร่วมของแบคทีเรียทั้งสองชนิด ทั้งนี้เพื่อยกระดับองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับมาตรการบรรเทาผลกระทบของการติดเชื้อแบคทีเรียต่อการผลิตปลากะพงปากกว้าง อันจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน

🐟 ปลากะพงปากกว้าง (Micropterus salmoides) เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ปลาเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่ยอมรับในด้านอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว ความทนทานต่ออุณหภูมิต่ำ คุณค่าทางโภชนาการสูง และศักยภาพทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น ทั้งนี้ การระบาดของเชื้อแบคทีเรียก่อโรคที่มีความรุนแรง ได้แก่ N. seriolae และ A. veronii ถือเป็นปัญหาสำคัญในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เนื่องจากสามารถก่อให้เกิดโรค Nocardiosis และโรค Enteric Septicemia ในปลากะพงปากกว้าง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพการผลิตและความยั่งยืนของอุตสาหกรรม

🦠 โดยทั่วไป ในสภาพแวดล้อมของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ปลามักเผชิญกับการติดเชื้อจากเชื้อโรคมากกว่าสองชนิดพร้อมกัน โดยเชื้อก่อโรคแต่ละชนิดมีความสามารถในการก่อโรคและอาจทำงานร่วมกัน ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อร่วม (co-infection) ได้ ทั้งนี้ การติดเชื้อร่วมของ A. veronii และ N. seriolae พบว่าก่อให้เกิดอัตราการตายที่สูงกว่าและรวดเร็วกว่าเมื่อเทียบกับปลากะพงปากกว้างที่ติดเชื้อจากเชื้อชนิดเดียวอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม กลไกการก่อโรคภายใต้การติดเชื้อร่วมดังกล่าวยังคงไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ดังนั้น งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นการศึกษาและวิเคราะห์เปรียบเทียบปริมาณเชื้อแบคทีเรียในอวัยวะสำคัญ ได้แก่ ตับ ม้าม และไต ตลอดจนการประเมินความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ การตอบสนองภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะ การเปลี่ยนแปลงทางจุลพยาธิวิทยา และรูปแบบการแสดงออกของยีนในปลากะพงปากกว้างภายหลังการติดเชื้อทั้งในลักษณะเดี่ยวและร่วม

✅ ผลการศึกษาในครั้งนี้พบว่าปริมาณเชื้อแบคทีเรีย A. veronii และ N. seriolae ทั้งหมดในตับ ม้าม และไตส่วนหน้าของปลาที่ติดเชื้อร่วมนั้นสูงกว่าปริมาณในปลาที่ติดเชื้อจากแบคทีเรียเพียงชนิดเดียวอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะเดียวกัน กิจกรรมของการต้านอนุมูลอิสระอย่าง SOD, GSH-Px, AKP และ LZM ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในปลาที่ติดเชื้อ ขณะที่ความสามารถของ CAT และ ACP เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ระดับการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันในม้ามและไตส่วนหน้าเพิ่มขึ้นในช่วงแรกและลดลงในช่วง 96 ชั่วโมงหลังการติดเชื้อ ในขณะที่ยีนที่เกี่ยวข้องกับการตายของเซลล์กลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง mRNA ของยีนจากปลาที่ติดเชื้อร่วมมีค่าสูงกว่า mRNA ของปลาที่ติดเชื้อเพียงชนิดเดียว

📣 กล่าวโดยสรุป ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลไกการป้องกันของปลากะพงปากกว้างและพลวัตของการแพร่กระจายเชื้อภายในร่างกาย ภายหลังการติดเชื้อทั้งในรูปแบบเดี่ยวและร่วมของ A. veronii และ N. seriolae โดยพบว่าการติดเชื้อร่วมส่งผลให้มีปริมาณแบคทีเรียในเนื้อเยื่อสูงขึ้น การตอบสนองด้านภูมิคุ้มกันและระบบต้านอนุมูลอิสระถูกยับยั้ง รวมถึงเกิดความเสียหายต่อระบบภูมิคุ้มกันอย่างรุนแรง ส่งผลให้ปลาที่ติดเชื้อร่วมมีอัตราการตายที่รวดเร็วและสูงกว่าการติดเชื้อจากเชื้อเพียงชนิดเดียว นอกจากนี้ การศึกษายังช่วยเสริมสร้างความเข้าใจต่อปฏิสัมพันธ์ระหว่างเชื้อก่อโรคกับระบบภูมิคุ้มกันของโฮสต์ ทั้งในภาวะการติดเชื้อแบบเดี่ยวและแบบร่วม ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนากลยุทธ์การจัดการเพื่อบรรเทาผลกระทบของการติดเชื้อแบคทีเรียต่อการผลิตปลากะพงปากกว้างในเชิงพาณิชย์

อ้างอิง : https://doi.org/10.1016/j.fsi.2025.110886

🎉“ สุดยอดบทความวิจัย ดีต่อใจ ดีต่อปลา ”📍บทบาทใหม่ของยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและการตอ...
18/09/2025

🎉“ สุดยอดบทความวิจัย ดีต่อใจ ดีต่อปลา ”

📍บทบาทใหม่ของยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและการตอบสนองภูมิคุ้มกันภายใต้สภาวะเครียดจากความหนาวเย็นในช่วงฤดูหนาวของปลานิล

🐟 วันนี้ ห้องปฏิบัติการภูมิคุ้มกันวิทยาของปลาและโภชนพันธุศาสตร์ (Fish Immunology and Nutrigenomics Laboratory) ขอนำเสนอบทความความวิจัยที่มีคุณค่าต่อวงการอาหารเสริมในสัตว์น้ำ โดยมุ่งหวังให้เป็นมาตรการเชิงกลยุทธ์เพื่อลดผลกระทบเชิงลบในช่วงอากาศที่หนาวเย็นและในสภาวะที่ท้าทาย รวมถึงการยกระดับองค์ความรู้เกี่ยวกับการเสริมอาหารสำหรับการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนในอนาคต
ปลานิลจัดเป็นปลาน้ำจืดที่มีการเพาะเลี้ยงมากที่สุดในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม ฤดูหนาวที่ยาวนานประมาณ 2–3 เดือนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงเป็นความท้าทายสำคัญต่อการเพาะเลี้ยง เนื่องจากการสัมผัสกับอุณหภูมิประมาณ 13 °C สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางจุลพยาธิวิทยา ภาวะเครียดออกซิเดชัน และความเสียหายของเนื้อเยื่อในปลานิลได้ อีกทั้งความผิดปกติด้านเมตาบอลิซึมและภูมิคุ้มกันที่เกิดจากสภาวะดังกล่าวยังเพิ่มความไวต่อการติดเชื้อ Streptococcus agalactiae อย่างมีนัยสำคัญ

🍞อย่างไรก็ตาม ยีสต์ขนมปัง (Saccharomyces cerevisiae) ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำว่าเป็นโปรไบโอติกที่มีศักยภาพในการส่งเสริมการเจริญเติบโต อัตราการรอด การพัฒนาของระบบทางเดินอาหาร และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะในระยะตัวอ่อนและวัยอ่อนของปลา ดังนั้น งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นการศึกษาความท้าทายของการเพาะเลี้ยงปลานิลภายใต้สภาวะเครียดจากความหนาวเย็นในช่วงฤดูหนาว โดยใช้การเสริมยีสต์ในอาหารเป็นโปรไบโอติกทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์ที่ปลาต้องเผชิญกับการติดเชื้อ S. agalactiae

📍ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการเสริมยีสต์ขนมปัง (S. cerevisiae) ในอาหารปลานิลที่ระดับ 10–20 กรัมต่อกิโลกรัม มีส่วนช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มกิจกรรมของเอนไซม์ย่อยอาหาร และเพิ่มความยืดหยุ่นทางสรีรวิทยา ส่งผลให้ปลามีความทนทานต่อความเครียดที่เกิดจากสภาวะอุณหภูมิต่ำในช่วงฤดูหนาวได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยีสต์และอนุพันธ์ยังมีบทบาทในการลดผลกระทบเชิงลบจากความหนาวเย็นผ่านการกระตุ้นกิจกรรมของเอนไซม์และการดูดซึมสารอาหาร ซึ่งส่งผลเชิงบวกต่อการเจริญเติบโตและสุขภาพโดยรวมของปลานิล

✅ โดยสรุป ผลการศึกษาครั้งนี้ยืนยันว่าการเสริมยีสต์ขนมปัง (S. cerevisiae) ในอาหารปลานิลระหว่างฤดูหนาวก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญต่อประสิทธิภาพการเจริญเติบโต การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และความสามารถในการต้านทานโรค อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์พบว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการเสริมยีสต์ส่งผลให้อัตรากำไรลดลง ดังนั้น การประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ การพิจารณาแหล่งยีสต์ทางเลือก ตลอดจนการประยุกต์ใช้ร่วมกับโปรไบโอติกหรือวัตถุเสริมอาหารจากพืชอื่น ๆ อาจเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งเหมาะสมต่อการประยุกต์ใช้ในระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเชิงพาณิชย์ และเป็นทิศทางที่มีศักยภาพในการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนในอนาคต
อ้างอิง : https://doi.org/10.1155/anu/9955148

🐟ห้องปฏิบัติการภูมิคุ้มกันวิทยาของปลาและโภชนพันธุศาสตร์ (Fish Immunology and Nutrigenomics Laboratory) ขอแสดงความยินดีกั...
11/09/2025

🐟ห้องปฏิบัติการภูมิคุ้มกันวิทยาของปลาและโภชนพันธุศาสตร์ (Fish Immunology and Nutrigenomics Laboratory) ขอแสดงความยินดีกับทีม “Gen R” ที่ได้รับรางวัล สุดยอดนวัตวณิชย์ จากผลงานวิจัยซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 5 ทีมตัวแทนของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เข้าสู่เวทีการแข่งขันระดับภูมิภาคและระดับประเทศ ภายใต้ผลงานวิจัยเรื่อง “ประสิทธิภาพของการเสริมผลอินทผลัม (Phoenix dactylifera) ในอาหารปลาหมอไทย (Anabas testudineus)”
อาจารย์นักวิจัย : รศ.ดร.เอกพล วังคะฮาต คณะเทคโนโลยี�อาจารย์ที่ปรึกษา : ผศ.ดร.นาถนภา นิลนิยม คณะการบัญชีและการจัดการ

🗓️ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2568 ศูนย์ความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้จัดการแข่งขันโครงการ “เส้นทางสู่นวัตวณิชย์” (Research to Market : R2M) ระดับมหาวิทยาลัย ครั้งที่ 13 ณ ห้องประชุม 1 สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยมีทีมเข้าร่วมกว่า 15 ทีม เพื่อนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมมาต่อยอดสู่แผนธุรกิจ หลังจากการนำเสนอผลงานอย่างเข้มข้น คณะกรรมการได้ประกาศผลการคัดเลือก 5 ทีมตัวแทนมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในระดับภูมิภาค ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พร้อมมอบรางวัลสนับสนุนและประกาศเกียรติบัตร

📍ทั้งนี้ โครงการ R2M ไม่เพียงเป็นเวทีสะท้อนศักยภาพของนิสิตในการต่อยอดงานวิจัยและนวัตกรรมสู่เชิงพาณิชย์ หากยังเป็นก้าวสำคัญในการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของประเทศ ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ทั้ง 5 ทีม ในการก้าวสู่เวทีการแข่งขันระดับภูมิภาคและระดับประเทศต่อไป

อ้างอิง: https://www.facebook.com/MSUSP
https://www.facebook.com/MSUSP?locale=th_TH

วันนี้นำบทความวิจัยที่พึ่งได้รับการตีพิมพ์มาฝากทุกคนครับ📃✨“ประสิทธิภาพของวัคซีนชนิดเซลล์ทั้งหมดในรูปแบบโมโนวาเลนต์และไบว...
09/09/2025

วันนี้นำบทความวิจัยที่พึ่งได้รับการตีพิมพ์มาฝากทุกคนครับ📃✨
“ประสิทธิภาพของวัคซีนชนิดเซลล์ทั้งหมดในรูปแบบโมโนวาเลนต์และไบวาเลนต์ต่อเชื้อ Nocardia seriolae และ Aeromonas veronii ในปลากะพงปากกว้าง (Micropterus salmoides)”
วันนี้ ห้องปฏิบัติการภูมิคุ้มกันวิทยาของปลาและโภชนพันธุศาสตร์ (Fish Immunology and Nutrigenomics Laboratory) ขอนำเสนอบทความความวิจัยที่มีคุณค่าต่อวงการวัคซีนในสัตว์น้ำ โดยมุ่งหวังให้เป็นแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญและยกระดับองค์ความรู้เกี่ยวกับวัคซีนสำหรับการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนในอนาคต
ในปัจจุบัน N. seriolae และ A. veronii จัดเป็นเชื้อก่อโรคสำคัญในปลาหลายชนิดและก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันการติดเชื้อทั้งสองชนิดพร้อมกันได้ การใช้ยาปฏิชีวนะและสารเคมีแม้มีประสิทธิผล แต่ก่อให้เกิดปัญหาสำคัญ เช่น การดื้อยา การสะสมสารตกค้างในสิ่งแวดล้อม และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของอาหาร
ผลการศึกษาล่าสุดชี้ให้เห็นว่า วัคซีนชนิดโมโนวาเลนต์และไบวาเลนต์ที่พัฒนาขึ้นสามารถกระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของปลากะพงปากกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมเอนไซม์ในซีรั่ม โดยเฉพาะในกลุ่ม Bivalent Av-Ns ซึ่งมีค่าการตอบสนองสูงสุดในสัปดาห์ที่ 3 หลังการฉีดวัคซีน รวมถึงการแสดงออกของยีนภูมิคุ้มกันในม้ามและไตส่วนหน้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แอนติบอดีจำเพาะถูกตรวจพบตั้งแต่สัปดาห์แรกและสูงสุดในสัปดาห์ที่ 4–5 ก่อนลดลงในสัปดาห์ที่ 6
นอกจากนี้ ผลการทดสอบ Relative Percent Survival (RPS) ชี้ให้เห็นว่า วัคซีนโมโนวาเลนต์ต่อเชื้อ A. veronii และ N. seriolae ให้ค่า RPS 56.67% และ 22.22% ตามลำดับ ในขณะที่วัคซีนไบวาเลนต์ Av-Ns ให้ค่า RPS 33.33% และ 76.67% สำหรับการทดสอบเชื้อชนิดเดียว และ 44.44% สำหรับการทดสอบการติดเชื้อร่วม
โดยสรุป ผลการศึกษาในครั้งนี้ช่วยยืนยันว่าการฉีดวัคซีนทั้งสองชนิดสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งด้านเอนไซม์ แอนติบอดี และการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันในปลากะพงปากกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นว่าวัคซีนไบวาเลนต์ที่มีส่วนประกอบของ N. seriolae และ A. veronii มีศักยภาพเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันโรคโนคาร์ดิโอซิสและโรคติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งมีความเหมาะสมสำหรับการประยุกต์ใช้ในระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเชิงพาณิชย์ และเป็นแนวทางที่มีคุณค่าเพื่อยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนในอนาคต
อ้างอิง: https://doi.org/10.3390/vaccines13090942

ที่อยู่

มหาสารคาม
Maha Sarakham
44150

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Fish Immunology and Nutrigenomics Labผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์