สมาคมผู้สื่อข่าวนครลำปาง

สมาคมผู้สื่อข่าวนครลำปาง เป็นเพจของสมาคมผู้สื่อข่าวนครลำปาง

จ.ลำปาง จัดอบรมงานด้านจราจร แก่เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองและสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน รุ่นที่ 1 ปลุกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยควา...
07/08/2025

จ.ลำปาง จัดอบรมงานด้านจราจร แก่เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองและสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน รุ่นที่ 1 ปลุกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยความมีน้ำใจ และวินัยจราจร
วันที่ 7 ส.ค.68 เวลา 10.30 น.นางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผวจ.ลำปาง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการงานจราจร ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและสมาชิกกองอาสามัครรักษาดินแดน จังหวัดลำปาง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (รุ่นที่ 1) โดยมี นายทวีศักดิ์ คำบรรจง ป้องกันจังหวัดลำปาง กล่าวรายงานฯ ณ ชั้น 1 อาคารหอประชุมจังหวัดลำปาง
ทั้งนี้ที่ทำการปกครองจังหวัดลำปาง ได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการงานจราจรของเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปาง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) เพื่อปลุกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยความมีน้ำใจ และวินัยจราจร ในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน สร้างเครือข่ายด้านความปลอดภัย ทางถนน ในการร่วมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และเพื่อเพิ่มทักษะความรู้ด้านการจราจร แก่เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปาง ให้มีประสิทธิภาพในการบริการและอำนวย ความสะดวกได้อย่างถูกต้อง โดยจัดฝึกอบรมตามโครงการฯ ดังกล่าว ให้แก่เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จังหวัดลำปาง จำนวน 2 รุ่น รวม 160 คน
การอบรมในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ ทักษะ และความเข้าใจเกี่ยวกับงานจราจรให้กับเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง และสมาชิก อส. เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานด้านการจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อชุมชน โดยเนื้อหาการอบรมเกี่ยวกับกฎหมายจราจรเบื้องต้น การควบคุมและจัดการจราจร การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร การใช้สัญญาณมือ การเป่านกหวีด การฝึกระเบียบแถว และการปฐมพยาบาลและแจ้งเหตุเบื้องต้น .

มทบ.ที่ 32 ลำปาง จัด กิจกรรม รวมพลังปกป้องแผ่นดิน และสดุดีนักรบผู้กล้า ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรำลึกถึงดวงวิญญาณของทหารหา...
04/08/2025

มทบ.ที่ 32 ลำปาง จัด กิจกรรม รวมพลังปกป้องแผ่นดิน และสดุดีนักรบผู้กล้า ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรำลึกถึงดวงวิญญาณของทหารหาญและประชาชนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาพลีชีพเพื่อธำรงไว้ซึ่งอธิปไตยแห่งชาติ และศักดิ์ศรีของผืนแผ่นดินไทย พร้อมอธิษฐานขอให้ดวงวิญญาณของวีรบุรุษเหล่านั้นไปสู่สุคติ และขอให้ทหารที่ยังปฏิบัติภารกิจอยู่แนวหน้า ปลอดภัยและกลับคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัวโดยสวัสดิภาพ
วันที่ 4 ส.ค. 68 เวลา 08.00 น. พลตรี วิชาญ ศรีภัทรางกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32/หัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตลำปาง เป็นประธานกิจกรรม “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน และสดุดีนักรบผู้กล้า ชายแดนไทย-กัมพูชา” ณ บริเวณหน้ากองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 พร้อมนี้มีคณะผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารในพื้นที่ ,กำลังพล, สมาคมแม่บ้านทหารบกสาขามณฑลทหารบกที่ 32, ชมรมสายใจไทยจังหวัดลำปาง , ทหารผ่านศึกในพื้นที่ และพนักงาน สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตลำปาง ร่วมกิจกรรม
โอกาสนี้ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32/หัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตลำปาง ได้กล่าวถึงกิจกรรมจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงดวงวิญญาณของทหารหาญและประชาชนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ต่อจากนั้น ร้อยเอก ศักดิ์ชัย หงษ์ใจสี ได้กล่าวสดุดีพร้อมรำลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของบรรดาทหาร ตระเวนชายแดน และอาสาสมัครทหารพราน โดยเฉพาะทหารกล้าจำนวน 15 นาย ที่พลีชีพเพื่อธำรงไว้ซึ่งอธิปไตยแห่งชาติ และศักดิ์ศรีของผืนแผ่นดินไทย พร้อมอธิษฐานขอให้ดวงวิญญาณของวีรบุรุษเหล่านั้นไปสู่สุคติ และขอให้ทหารที่ยังปฏิบัติภารกิจอยู่แนวหน้า ปลอดภัยและกลับคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัวโดยสวัสดิภาพ ภายหลังคำกล่าวสดุดี เสียงเงียบสงัดปกคลุมทั่วบริเวณเมื่อผู้ร่วมพิธียืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที เพื่อแสดงความเคารพอย่างสูงสุดแด่เหล่าวีรชน ทหารกล้าอีกครั้ง พร้อมเชิดชูเกียรติแห่งความเสียสละของนักรบผู้กล้าที่ยืนหยัดปกป้องผืนแผ่นดินไทยอย่างไม่หวั่นเกรงภัยอันตราย
ช่วงสุดท้ายของกิจกรรม ผู้ร่วมพิธีและลูกหลานเยาวชนจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กค่ายสุรศักดิ์มนตรี ได้ร่วมกันร้อง“เพลงชาติไทย ”เพลง “ข้าคือทหารผ่านศึก” และ “ความฝันอันสูงสุด” ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความภาคภูมิใจ และโบกธงชาติไทยด้วยความศรัทธาและจงรักภักดี เสมือนเป็นคำมั่นว่าจะยืนหยัดเคียงข้าง พร้อมส่งกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่มีความภาคภูมิใจและปลอดภัย รวมทั้งรักษาอธิปไตยของชาติไทยไว้ให้อยู่คู่ลูกหลานตลอดไป

จ.ลำปาง ฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์แผ่นดินไหว ประจำปี 2568 จัดทำแผนเผชิญเหตุแผ่นดินไห...
01/08/2025

จ.ลำปาง ฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์แผ่นดินไหว ประจำปี 2568 จัดทำแผนเผชิญเหตุแผ่นดินไหวในแต่ละระดับ เตรียมความพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตามแนวทางของระบบบัญชาการเหตุการณ์ เผย จ.ลำปาง มีรอยเลื่อนที่มีพลังพาดผ่าน ได้แก่ รอยเลื่อนเถิน และรอยเลื่อนพะเยา และสถานการณ์ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าภัยแผ่นดินไหวใกล้ตัว และส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่และ จ.ลำปาง ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างความเข้าใจในการทำงานร่วมกันของภาคส่วนต่างๆ ในศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด อำเภอ ให้ครอบคลุม
วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. นายกฤษณะ พินิจ รอง.ผวจ.ลำปาง เป็นประธานการฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง กรณีแผ่นดินไหว ประจำปี พ.ศ.2568 รูปแบบการฝึกบนโต๊ะ (Table Top Exercise : TTX) เพื่อจัดทำแผนเผชิญเหตุแผ่นดินไหวในแต่ละระดับ เตรียมความพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตามแนวทางของระบบบัญชาการเหตุการณ์ โดยมีหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง กล่าวรายงาน มีผู้เข้ารับการฝึกกว่า 200 คน เป็นเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จากหน่วยงานระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อปพร. และอาสาสมัคร จากมูลนิธิต่างๆ เข้าร่วมฯ ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง อ.เกาะคา จ.ลำปาง
จ.ลำปาง จัดทำโครงการฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรณีแผ่นดินไหว ประจำปี พ.ศ. 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนเผชิญเหตุแผ่นดินไหว ในแต่ละระดับให้สอดคล้องกับคู่มือบัญชาการเหตุการณ์สำหรับผู้ว่าราชการจังหวัด กรณีแผ่นดินไหว และนำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564 - 2570 ไปสู่การปฏิบัติทุกระดับ ทดสอบประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามแผนเผชิญเหตุฯ แต่ละระดับ ให้เกิดการบูรณาการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสร้างความตระหนักและเตรียมความพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในระดับจังหวัด และระดับอำเภอ
ทั้งนี้ จ.ลำปาง มีรอยเลื่อนที่มีพลังพาดผ่าน ได้แก่ รอยเลื่อนเถิน และรอยเลื่อนพะเยา และสถานการณ์ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าภัยแผ่นดินไหวใกล้ตัว และส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่และ จ.ลำปาง ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างความเข้าใจในการทำงานร่วมกันของภาคส่วนต่างๆ ในศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด อำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ตอบโต้และรองรับสถานการณ์ภัยแผ่นดินไหวที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จังหวัดลำปาง จึงได้ดำเนินการฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง กรณีแผ่นดินไหวประจำปี พ.ศ.2568 ในครั้งนี้ เนื่องจากภัยจากแผ่นดินไหว ไม่สามารถที่คาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดขึ้นในห้วงเวลาใด.

กฟผ.แม่เมาะ ชี้แจงตอบตรงทุกประเด็นคณะกรรมการสิทธิ์ฯ      ยืนยันดำเนินการตามกฎหมายและมาตรการอย่างเคร่งครัด     กฟผ.แม่เมา...
30/07/2025

กฟผ.แม่เมาะ ชี้แจงตอบตรงทุกประเด็นคณะกรรมการสิทธิ์ฯ
ยืนยันดำเนินการตามกฎหมายและมาตรการอย่างเคร่งครัด
กฟผ.แม่เมาะ ออกชี้แจงกรณี “กสม. ชี้โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ลำปาง ยังก่อผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของประชาชนในพื้นที่ฯ” ตอบทุกประเด็นเกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันมีการดำเนินการกฎหมายและมาตรการอย่างเคร่งครัด
ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้มีการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ครั้งที่ 24/2568เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 โดยมีประเด็นสำคัญคือ “กสม. ชี้โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ลำปาง ยังก่อผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของประชาชนในพื้นที่ แนะ กฟผ.แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้ถูกต้อง ตามหลักวิชาการ” นั้น กฟผ.แม่เมาะ รับข้อมูลดังกล่าว พร้อมจัดทำชุดข้อมูลเพื่อชี้แจงในส่วนที่มี ความเกี่ยวข้อง ในประเด็นของข้อร้องเรียนดังนี้
ประเด็นข้อร้องเรียน ด้านมลภาวะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กฟผ. ได้รับเรื่องร้องเรียน ด้านสิ่งแวดล้อม เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ด้านน้ำและนิเวศวิทยาทางน้ำ ด้านคุณภาพอากาศ กลิ่นและ
ด้านเสียง นั้น ในด้านน้ำและนิเวศวิทยาทางน้ำ โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำทิ้ง ก่อนปล่อยออกสู่แหล่งสาธารณะพบว่ามีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกดัชนี อย่างไรก็ตามการตรวจวัดคุณภาพน้ำ ซึ่งประกอบด้วยน้ำผิวดิน น้ำใต้ดิน ตะกอนดินน้ำผิวดิน และน้ำทิ้ง จะดำเนินการเก็บตามแหล่งน้ำโดยรอบ ทั้งแหล่งอ่างเก็บน้ำต้นน้ำ จุดบำบัด และในพื้นที่ชุมชน พบว่า ในส่วนที่มีค่าเกินเกณฑ์ เช่น ค่า BOD ใน อ่างเก็บน้ำแม่จาง เป็นค่าที่วัดได้บริเวณอ่างเก็บน้ำต้นทุนก่อนเข้าสู่โรงไฟฟ้า จึงเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลจากกระบวนการผลิตไฟฟ้าแต่อย่างใด, ค่าคุณภาพน้ำผิวดินอ่างเก็บน้ำแม่เมาะ พบคัลโคลีฟอร์มจากการทำปศุสัตว์ (โค กระบือ) เป็นต้น
ด้านคุณภาพอากาศ ตามที่มีการพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินเกณฑ์ในช่วง ก.พ. ถึง เม.ย. ในปี 2565-2566 นั้น เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวของทุกปี มีการเผาไหม้ในพื้นที่โล่ง การเผาเศษวัสดุทางการเกษตรและไฟป่า ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบ ส่งผลให้เกิดปัญหาหมอกควันทั่วทั้งภูมิภาค
ในขณะเดียวกันค่าควบคุมก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ในบรรยากาศของพื้นที่ อ.แม่เมาะ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานมาโดยตลอด ส่วนประเด็นด้านอัตราการระบายของก๊าซ และค่าความเข้มข้นของก๊าซ ที่ระบายออกจากปล่องของโรงไฟฟ้าเกินเกณฑ์ค่าควบคุม EHIA นั้น เกิดจากการแก้ไขปัญหาเชิงเทคนิคภายในโรงไฟฟ้าเป็นครั้งคราว และยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2566 และไม่ส่งผลกระทบต่อค่าควบคุมก๊าซในบรรยากาศภาพรวมของพื้นที่ อ.แม่เมาะ
ด้านกลิ่นจากการลุกไหม้ของถ่าน (เหมืองแร่ลิกไนต์) จากการตรวจวัดกลิ่นที่เกิดจากการลุกไหม้ของถ่านตามมาตรการ EIA บริเวณชุมชนด้านทิศเหนือและทิศใต้ของพื้นที่ กฟผ.แม่เมาะ ปี 2565-2567 บริเวณหมู่บ้านดงและหมู่บ้านห้วยคิง พบว่าไม่สามารถตรวจวัดก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟล์และก๊าซเมธทิลเมอร์แคปเทนได้ เนื่องจาก มีค่าน้อยมาก
ด้านเสียง หลังจากได้รับข้อร้องเรียนเรื่องเสียงรบกวนในปี 2565 กฟผ.แม่เมาะ ได้ดำเนินการตรวจวัดเสียง โดยใช้เครื่องมือตรวจวัดเสียงและ Sound Camera หาแหล่งกำเนิดเสียงรบกวน โดยพบความถี่แหล่งกำเนิดเสียงมาจากอุปกรณ์ในโรงไฟฟ้าบางส่วน จึงได้ดำเนินการแก้ไขอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับดำเนินการ ปลูกต้นไม้เพื่อเป็นแนวกั้นเสียงเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ผลจากการตรวจวัดเสียงในส่วนของเหมืองแม่เมาะ พบว่าอยู่ในเกณฑ์หรือดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานควบคุมระดับเสียงและความสั่่นสะเทือนจากการทำเหมืองหิน ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนผลการตรวจวัดเสียงในส่วนของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ปีล่าสุด พบว่า มีการตรวจวัดเสียงถูกต้องตามหลักสากล โดยพบว่าระดับเสียงเฉลี่ย (Leq24hr) มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกสถานีตรวจวัด และระดับเสียงรบกวนมีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั้งหมด
ประเด็นข้อร้องเรียน ด้านการจัดสรรค่าภาคหลวงแร่ให้แก่ อบต.สบป้าด โครงการเหมืองแร่ลิกไนต์และหินปูนมีการจ่ายเงินค่าภาคหลวงแร่ให้กับหน่วยงานราชการอย่างต่อเนื่องทุกปีตามที่พระราชบัญญัติแร่กำหนด โดยกรณีของ อบต.สบป้าด จะได้รับการจัดสรรร้อยละ 10 ของค่าภาคหลวง ที่จัดเก็บได้ตามหลักเกณฑ์การจัดสรรฯ เนื่องจาก พื้นที่ประทานบัตรที่ผลิตแร่ถ่านหินลิกไนต์และหินปูนของ กฟผ. ไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่ของตำบลสบป้าดโดยตรง
ทั้งนี้สามารถอ่านข้อมูลคำชี้แจงโดยละเอียด ลำดับเหตุการณ์ และการดำเนินการเบื้องต้นเพื่อรองรับข้อเสนอแนะได้ในเว็บไซต์ https://mpp.egat.co.th/hellomaemoh/index.php?option=com_content&view=article&id=1392:2025-07-30-06-33-49&catid=10&Itemid=101 หรือแสกนดาวน์โหลดไฟล์ผ่าน QR code

EGAT Website Template - โครงสร้างเว็บไซต์ตามมาตรฐานเว็บไซต์ กฟผ.

จ.ลำปาง ร่วมกับพัฒนาชุมชน และ อำเภอวังเหนือมอบบ้านตามโครงการบ้านห่วงใยจากใจ GLO ประจำปี 2568 โดยได้รับการสนับสนุนงบประมา...
30/07/2025

จ.ลำปาง ร่วมกับพัฒนาชุมชน และ อำเภอวังเหนือมอบบ้านตามโครงการบ้านห่วงใยจากใจ GLO ประจำปี 2568 โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณตามโครงการบ้านห่วงใยจากใจ GLO ประจำปี 2568 จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 200,000 บาท ดำเนินการสร้างบ้าน สร้างโอกาสให้ครัวเรือนยากจน ได้มีโอกาสอยู่อาศัยบ้านที่มีความมั่นคงถาวร

วันที่ 29 ก.ค. 68 เวลา 09.30 น. นายชุติเดช มีจันทร์ ผวจ.ลำปาง มอบหมายให้นางสาวนิติยา พงษ์พานิช รอง.ผวจ.ลำปาง เป็นประธานในพิธีมอบบ้านตามโครงการบ้านห่วงใยจากใจ GLO ประจำปี 2568 โดยมีนายทศพล จักรบุญมา นายอำเภอวังเหนือ กล่าวต้อนรับ และนายวิทยา ชมภูคำ พัฒนาการจังหวัดลำปาง กล่าวรายงาน พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้
โครงการบ้านห่วงใยจากใจ GLO เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ในการสร้างโอกาสให้ครัวเรือนยากจน ได้มีโอกาสอยู่อาศัยบ้านที่มีความมั่นคงถาวร จากการวิเคราะห์ข้อมูลครัวเรือนยากจนเป้าหมายในระบบ TPMAP เพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการต่าง ๆ ด้วยการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
โดยอำเภอวังเหนือ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณตามโครงการบ้านห่วงใยจากใจ GLO ประจำปี 2568 จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 200,000 บาท ดำเนินการสร้างบ้านให้แก่ นางธัญพิมล สุธรรม ราษฎรบ้านใหม่พัฒนา หมู่ที่ 2 ตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นครัวเรือนที่อยู่ในระบบ TPMAP ของอำเภอวังเหนือ
ณ บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ที่ 2 ตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง

จุดรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ และผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา     ...
28/07/2025

จุดรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ และผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

ศาลากลางจังหวัดลำปาง
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลำปาง

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ                             สมาคมผู้สื่อข่าวนครลำปาง
28/07/2025

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
สมาคมผู้สื่อข่าวนครลำปาง

กองทัพไทย สรุปสถานการณ์สู้รบชายแดน 26 ก.ค. 2568 ยันจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ   ...
27/07/2025

กองทัพไทย สรุปสถานการณ์สู้รบชายแดน 26 ก.ค. 2568 ยันจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
จากรายงานของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 กองทัพบก และกองทัพเรือ ได้สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พบว่าสถานการณ์ยังคงมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการเสริมกำลังเพิ่มเติม โดยเฉพาะในพื้นที่สำคัญ ได้แก่ ช่องบก ช่องอานม้า ซำแต ช่องตาเฒ่า ภูมะเขือ ปราสาทตาควาย และกลุ่มปราสาทตาเมือนธม โดยมีการยิงปืนใหญ่ตกในพื้นที่พลเรือนหลายแห่ง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ในขณะเดียวกัน มีการอพยพพนักงานคาสิโนชาวกัมพูชาออกจากบ่อนบริเวณชายแดนฝั่งตรงข้ามช่องสายตะกู จังหวัดบุรีรัมย์
สรุปสถานการณ์ในพื้นที่สำคัญ ดังนี้
ช่วงบ่ายของวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 กำลังฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงปืนใหญ่ ค. และ BM-21 อย่างหนัก พร้อมพยายามเข้ารุกรานพื้นที่สำคัญ ได้แก่ ซำแต ภูผี ช่องตาเฒ่า และปราสาทตาเมือนธม โดยฝ่ายไทยได้ตอบโต้ด้วยอาวุธประจำกาย ปืนใหญ่ ค. และการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ช่องอานม้า ภูผี ช่องตาเฒ่า และช่องบันไดหัก
ฝ่ายไทยสามารถยึดควบคุมพื้นที่ภูมะเขือได้ทั้งหมดตามแนวเส้น 1:50,000 ส่วนพื้นที่ปราสาทตาควายยังคงมีความพยายามผลักดันจากฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง แต่จำกัดการใช้กำลังเนื่องจากอยู่ใกล้โบราณสถาน สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะหนัก ได้แก่ ภูมะเขือ ปราสาทตาเมือนธม ช่องบก ช่องอานม้า ซำแต และช่องตาเฒ่า
พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ได้แก่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และอำเภอกาบเชิง กับอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยคาดว่าฝ่ายกัมพูชาอาจใช้วิธีการยิงปืนใหญ่โจมตีพื้นที่พลเรือน เพื่อกดดันให้รัฐบาลไทยยุติการสู้รบในสภาพเสียเปรียบ
ในส่วนของกองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 ได้ดำเนินการผลักดันและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของฝ่ายกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย อันเป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 รวมทั้งสิ้น 4 พื้นที่ ในเขตอำเภอตาพระยา 2 พื้นที่ และอำเภอโคกสูง 2 พื้นที่ จังหวัดสระแก้ว
ขณะที่พื้นที่จังหวัดตราด ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดพื้นที่โจมตีใหม่ในเวลา 05.10 นาฬิกา ของวันนี้( 26 กรกฎาคม 2568 )จากนั้นกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดได้ตอบโต้ด้วยการเปิดปฏิบัติการ “ยุทธการตราดพิฆาตไพรี 1” ณ บ้านชำราก จังหวัดตราด โดยส่งกำลังพลและเรือป้องกันชายแดนเข้าไปผลักดันและทำลายพื้นที่ที่ทหารกัมพูชารุกล้ำเขตแดนไทย 3 จุด จนกระทั่งเวลา 06.40 น. ของวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ฝ่ายกัมพูชาต้องล่าถอยออกจากพื้นที่ดังกล่าว
ในด้านการอพยพประชาชน ได้มีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายแดนเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยและศูนย์รวบรวมพลเรือนใน 4 จังหวัด ดังนี้
- จังหวัดบุรีรัมย์: 1 จุด 8,363 คน
- จังหวัดสุรินทร์: 65 จุด 39,350 คน
- จังหวัดศรีสะเกษ: 82 จุด 35,009 คน
- จังหวัดอุบลราชธานี: 76 จุด 14,709 คน
รวมประชาชนที่อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้วทั้งสิ้น 97,431 คน (เพิ่มขึ้น 9,393 คน) ส่วนจังหวัดตราด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจและรวบรวมจำนวนผู้อพยพ
ด้านการช่วยเหลือประชาชน กำลังจิตอาสาพระราชทานในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งในการช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกในศูนย์พักพิงชั่วคราว และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ และกำลังพลจิตอาสา 904 จาก ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน จ.ใกล้เคียง รวมทั้งสิ้น จิตอาสา 904 129 นาย, จิตอาสาประชาชน 2,480 และ รด.จิตอาสา 220 นาย
นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อประกอบอาหารดูแลประชาชนผู้อพยพ โดยมีโรงครัวพระราชทานในพื้นที่ 4 จังหวัด จำนวน 7 แห่ง พร้อมรถครัวประกอบอาหาร 9 คัน ซึ่งได้ผลิตข้าวกล่องเพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ตั้งแต่วันที่ 24–26 กรกฎาคม 2568 รวมจำนวน จำนวน 100,100 กล่อง
สรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบจากการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ณ วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.00 น.
ยอดเพิ่มเติมเฉพาะวันที่ 26 กรกฎาคม 2568
ทหาร
เสียชีวิต: เพิ่ม 1 นาย
บาดเจ็บ: เพิ่ม 11 นาย
ยอดสะสมรวมตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน
1.พลเรือน
เสียชีวิต: 13 ราย
บาดเจ็บสาหัส: 10 ราย
บาดเจ็บปานกลาง: 12 ราย
บาดเจ็บเล็กน้อย: 13 ราย
รวมทั้งสิ้น: 48 ราย
2. ทหาร
เสียชีวิต: 7 นาย
บาดเจ็บ: 45 นาย
รวมทั้งสิ้น: 52 นาย
กองทัพไทยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย และขอประณามอย่างรุนแรงต่อการที่ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมาย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ การกระทำดังกล่าวขัดต่อหลักมนุษยธรรม กฎหมายระหว่างประเทศ และหลักความมั่นคงที่พึงมีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ กองทัพไทยยืนยันจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและดูแลความสงบสุขของประชาชนชาวไทยอย่างถึงที่สุด

นายอำเภอเมืองลำปางนำกำลัง อส.เดินหน้าเชิงรุก ปฏิบัติการจัดระเบียบสังคม ตรวจค้นยาเสพติด พบผู้กระทำผิด 7 ราย พร้อมยึดยาบ้า...
26/07/2025

นายอำเภอเมืองลำปางนำกำลัง อส.เดินหน้าเชิงรุก ปฏิบัติการจัดระเบียบสังคม ตรวจค้นยาเสพติด พบผู้กระทำผิด 7 ราย พร้อมยึดยาบ้า 179 เม็ด
วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 20.30 น. นายอำเภอเมืองลำปาง/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอเมืองลำปาง นำโดย นายสุทธิพันธ์ เครือสุข ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง และ นายภูมิทัศน์ พิศไทย ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองลำปางที่ 1 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง ลงพื้นที่ดำเนินการปฏิบัติการด้านการจัดระเบียบสังคม ตรวจสอบสถานประกอบการ และค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดและผู้ค้ายาเสพติด (Re X-ray)
ทั้งนี้ ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบาย “No Drugs No Dealers” พร้อมผนึกกำลังภาคประชาชนในการสร้างชุมชนปลอดยาเสพติดในพื้นที่อำเภอเมืองลำปาง
จากการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่สามารถตรวจพบผู้กระทำความผิดรวม 7 ราย ได้แก่ ผู้ต้องหาเสพยาเสพติด 6 ราย จากการตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดในร่างกาย จึงนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู
ผู้ต้องหาอีก 1 ราย เสพและมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 179 เม็ด และเงินสดของกลางจำนวน 3,560 บาท
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้กระทำผิดทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โรงไฟฟ้าแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) แจ้งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่ เข้มงวดการเข้าออก ตรวจคัดก...
25/07/2025

โรงไฟฟ้าแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) แจ้งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่ เข้มงวดการเข้าออก ตรวจคัดกรองบุคคล ยานพาหนะทุกชนิด กำหนดดพื้นที่หวงห้ามเด็ดขาด ประกอบไปด้วย พื้นที่โรงไฟฟ้าที่มีรั้วล้อมรอบชั้นใน, พื้นที่ควบคุม ได้แก่ พื้นที่อาคารประกอบรอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่อยู่นอกเขตพื้นที่หวงห้ามเด็ดขาด และ พื้นที่ทั่วไป ได้แก่ พื้นที่นอกเขตรั้วโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่ปรากฏของอาคารทรัพย์สินของ กฟผ.

วันที่ 25 ก"8"68 จากเหตุการณ์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชานั้น โรงไฟฟ้าแม่เมาะเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าสำคัญของภาคเหนือซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ จึงได้แจ้งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อควบคุมรักษาสถานที่และป้องกันอันตรายจากกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีตามแผนรักษาความปลอดภัย กฟผ. โดยยกเป็นระดับ 3 สีส้ม เป็นการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เมื่อคาดว่าจะมีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นสามารถติดอาวุธที่ กฟผ.มีใช้อยู่ ทั้งนี้โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จะดำเนินการ ตรวจสอบการเข้า-ออก ให้เข้มข้น ตรวจค้นอาวุธ ยานพาหนะเข้า-ออก โดยให้ลดกระจก เปิดท้ายรถ และตรวจคัดกรองบุคคลอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะบุคคลภายนอกและชาวต่างชาติ
สำหรับพื้นที่ในการควบคุมดูแลการรักษาความปลอดภัยได้กำหนดดังนี้ พื้นที่หวงห้ามเด็ดขาด ได้แก่ พื้นที่โรงไฟฟ้าที่มีรั้วล้อมรอบชั้นใน, พื้นที่ควบคุม ได้แก่ พื้นที่อาคารประกอบรอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่อยู่นอกเขตพื้นที่หวงห้ามเด็ดขาด และ พื้นที่ทั่วไป ได้แก่ พื้นที่นอกเขตรั้วโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่ปรากฏของอาคารทรัพย์สินของ กฟผ.

สำนักงานสาธารณสุขลำปางจัดส่งทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดน่าน   วันที่ 25 ก.ค.68 เวลา 06...
25/07/2025

สำนักงานสาธารณสุขลำปางจัดส่งทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดน่าน
วันที่ 25 ก.ค.68 เวลา 06.00 น. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปางได้จัดส่งชุดปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน จำนวน 21 คน เพื่อให้บริการช่วยเหลือทางการแพทย์ แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ 25 – 27 กรกฎาคม 2568
โดยนพ.วรินทร์เทพ เชื้อสำราญ สาธารณสุขนิเทศก์เขต 1 พร้อมด้วยนายแพทย์สุวรรณ เพ็ชรรุ่ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้มอบนโยบายพร้อมทั้งให้กำลังใจและร่วมส่งทีมงานในการเดินทาง ทั้งนี้ชุดปฏิบัติการประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล /paramedic/AEMT, รถ EMS และพนักงานขับรถ, รถสนับสนุน (บรรทุกสัมภาระและบุคลากร) และพนักงานขับรถ, เวชภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็น
สำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่ประสบอุทกภัย การจัดส่งทีมแพทย์ฉุกเฉินในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจเชิงรุกในการช่วยเหลือประชาชน ในสถานการณ์วิกฤต เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและดูแลด้านสุขภาพของผู้ประสบภัยให้ดีที่สุด
ขอส่งกำลังใจให้ทีมปฏิบัติการทุกท่าน และขอขอบคุณในความเสียสละและความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสังคมอย่างเต็มกำลัง

จ.ลำปาง เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด (No Drugs No Dealers) ผนึกกำลังฝ่ายปกครอง และ ตำรวจทั่วจังหวัด เข้มข้นเอาจริงและต...
23/07/2025

จ.ลำปาง เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด (No Drugs No Dealers) ผนึกกำลังฝ่ายปกครอง และ ตำรวจทั่วจังหวัด เข้มข้นเอาจริงและต่อเนื่องกับการบูรณาการให้ชุมชนต้องปลอดยาเสพติด พร้อมวางทางแนวหลักสำคัญๆไว้ 8 ข้อใหญ่
วันที่ 23 ก.ค. 68 เวลา 13.00 น.นายชุติเดช มีจันทร์ ผวจ.ลำปาง พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง นายปกรณ์ กรรณวัลลี ปลัดจังหวัดลำปาง ผู้กำกับการสถานีตำรวจ/หัวหน้าสถานีตำรวจทุกสถานี นายอำเภอทุกอำเภอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด No Drugs No Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด จังหวัดลำปาง เพื่อรับทราบแนวทางข้อสั่งการของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย/รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบนโยบายการปราบปรามยาเสพติดให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจ .ปาง (ที่ทำการหลังเก่า) ถ.พระแก้ว ต.เวียงเหนือ อ.เมืองลำปาง
ทั้งนี้ลำปาง ได้กำหนดแนวทางและวิธีการดำเนินการที่สำคัญ ดังนี้
1. ทบทวนบัญชี Re X-ray : ให้ทุกอำเภอ/เขต ทบทวนบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด (ผู้เสพ/ผู้ติด/ผู้ค้า) ที่ค้างการดำเนินการ และเร่งรัดดำเนินการให้ครบถ้วน พร้อมค้นหาเป้าหมายรายใหม่ ในระยะเร่งด่วน
2. ตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่เสี่ยง : ให้ดำเนินการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในเส้นทางคมนาคมหลักและรอง รวมถึงพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชนที่เป็นจุดแพร่ระบาดรุนแรง โดยบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ส. และฝ่ายปกครอง เพื่อสกัดการลำเลียงยาเสพติดและสุ่มตรวจสารเสพติดจากบุคคลต้องสงสัย
3. ขับเคลื่อนกลไกชุมชนเข้มแข็ง : ใช้กลไกชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)และเครือข่ายประชาชนร่วมเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแส และปูพรมตรวจค้นหมู่บ้านที่มีปัญหาอย่างจริงจัง
4. "กวาดบ้านตัวเอง" ตามโครงการ Save Zone No Drugs : ให้หน่วยงานภาครัฐทุกระดับโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เข้ารับการตรวจคัดกรองสารเสพติดโดยความสมัครใจ เพื่อสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นแก่ประชาชน
5. ขยายผล "1 ผู้เสพ ต่อ 1 ผู้ค้า" : บูรณาการข้อมูลจากผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพคิด เพื่อสืบหาผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ และขยายผลไปสู่ผู้ค้ารายใหญ่หรือเครือข่าย
6. จัดทำบัญชีเป้าหมายรายใหม่ :กรณีผู้เสพ/ผู้ติด ให้จัดทำบัญชีร่วมกับสำนักงานสาธาธารณสุขในพื้นพื้นที่ พร้อมลงนามรับรองโดยนายอำเภอ และหัวหน้าสถานพยาบาล กรณีผู้ค้าให้จัดทำบัญชีร่วมกับสถานีตำรวจ พร้อมลงนามรับรองโดยนายอำเภอและหัวหน้าสถานีตำรวจ
7. รายงานผลการดำเนินงานให้รายงานผลการค้นหาผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในระบบ MOI Drugs GIS พร้อมภาพถ่ายกิจกรรมเป็นประจำทุกวัน โดยผลการดำเนินงานต้องสอดคล้องกับเอกสารรายชื่อที่ส่งให้กระทรวงมหาดไทย
8. กำหนดสัปดาห์สีขาว (Intensive Days Screening Week) ระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2568 ให้ทุกพื้นที่เร่งรัดดำเนินการ Re X-ray อย่างเข้มข้น ทั้งผู้เสพ/ผู้ติด และผู้ค้ารายสำคัญในหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมาย "หมู่บ้านปลอดยาเสพติด"ให้เกิดผลอย่างแท้จริง
หลังสิ้นสุด "สัปดาห์สีขาว" ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ต้องดำเนินการ Re X-ray อย่างต่อเนื่อง และบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน จนกว่าผู้เสพและผู้ค้าจะหมดไปจากพื้นที่อย่างยั่งยืน ภายใต้แผนปฏิบัติการ "No Drugs No Dealers" ปลดปล่อยชุมชนจากภัยยาเสพติด สู่ "หมู่บ้านชุมชนปลอดยาเสพติอย่างแท้จริง"
จ.ลำปาง ขอความร่วมมือจากทุกทุกภาคส่วน รวมถึงพี่น้องประซาชน ร่วมเป็นหู เป็นตา แจ้งเบาะแส และมีส่วนร่วมในการสร้าง "หมู่บ้าน/ชุมชนปลอดภัยจากยาเสพติด" เพื่อความสงบสุขของสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป

ที่อยู่

Lampang
52000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สมาคมผู้สื่อข่าวนครลำปางผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์