ตำนาน ศาสตร์และศิลป์ แห่งอาคม

ตำนาน ศาสตร์และศิลป์ แห่งอาคม ตำนาน ศรัทธา ปาฏิหาริย์ เรื่องราวเกจิอาจารย์
อนุรักษ์สืบสานศาสตร์วิชาโบราณมิให้สูนหาย
ศาสตร์และศิลป์ แห่งอาคม
(1)

08/11/2025

ตำนานหินกะมีเงินมีทอง แร่วูลแฟลมบนเขาศูนย์ พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ #ศาสตร์และศิลป์แห่งอาคม

08/11/2025

พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ
ผู้สร้างตำนานพระปิดตาน้ำนมควาย
ผงปถมัง นะปัดตลอดศักดิ์สิทธิ์ขจรไกล
อริยสงฆ์แห่งแดนทักษิณ ผู้ไม่รับเงินทอง แต่เปี่ยมเมตตาบารมี
#ศาสตร์และศิลป์แห่งอาคม

📍📍ประวัติ พระครูวิธูรธรรมสาสน์ (กล่อม นนฺโท)อดีตเจ้าคณะแขวงบ้านดอน อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธาวาส อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี💥๑.กำเน...
08/11/2025

📍📍ประวัติ พระครูวิธูรธรรมสาสน์ (กล่อม นนฺโท)
อดีตเจ้าคณะแขวงบ้านดอน อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธาวาส อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
💥๑.กำเนิด
พระครูวิธูรธรรมสาสน์ มีนามเดิมว่า กล่อม นามสกุล แก้วกล่อม กำเนิดเมื่อ วันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๓๘๙ ตรงกับวันพุธ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑(อ้าย) ปีมะเมีย ณ บ้านพุนพิน พื้นที่ หมู่ ๑ ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ในปัจจุบัน เป็นบิดาชื่อนายคงแก้ว แก้วกล่อม มารดาชื่อนางเงิน แก้วกล่อม มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๔ คน ดังนี้
๑.นางคง แก้วกล่อม
๒.นายกล่อม แก้วกล่อม (พระครูวิธูรธรรมสาสน์)
๓.นางหนุน แก้วกล่อม
๔.นายพรม แก้วกล่อม
ต่อมาครอบครัวของท่านได้ย้ายมาทำมาหากินแถบบ้านคลองชุมโถ ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
💥๒.วัยปฐม
อายุได้ ๘ ขวบ บิดาถึงแก่กรรม อยู่กับมารดาจนกระทั่งอายุได้ ๑๒ ปี มารดาได้ส่งท่านไปฝากเรียนอักขระสมัย ขอม-ไทย ในสำนักพระอธิการหมื่นแกล้ว วัดปากบางชุมโถ ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ศึกษาอยู่เป็นเวลา ๔ ปีเศษ จนจบหลักสูตรอักขระสมัยเบื้องต้น
💥๓.บรรพชา
อายุได้ ๑๖ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ในสำนักพระใบฎีกาเกิด วัดหน้าเมือง ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ศึกษาพระธรรมวินัยเป็นเวลา ๑ ปีเศษ จากนั้นได้ลาสิกขาบทออกมาช่วยเหลืองานทางบ้านและปฏิบัติดูแลมารดา
💥๔.ชีวิตฆราวาส
เมื่อลาสิกขาบทจากสามเณร ท่านก็ช่วยเหลืองานทางบ้านและปฏิบัติดูแลมารดาอย่างชายหนุ่มทั่วไป ในระหว่างนั้นท่านได้ชอบพอกับสตรีผู้หนึ่ง จนอยู่กินกันมีบุตรชาย ๑ คน ชื่อนายเอียด (ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านบางชุมโถ ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี) ต่อมาท่านมีความเหนื่อยหน่ายในฆราวาสวิสัย จึงตัดสินใจอุปสมบท
💥๕.อุปสมบท
เมื่ออายุได้ ๒๕ ปี พ.ศ.๒๔๑๔ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดโพธาวาส อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี
- พระครูการาม (จู) ป.ธ.๔ วัดท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นพระอุปัชฌาย์
- เจ้าอธิการมี วัดโพธาวาส (ภายหลังได้รับสมณศักดิ์ทินนาม "พระครูสุวรรณรังษี" เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๗) อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นพระกรรมวาจาจารย์
- พระอธิการจันทร์ วัดกลาง (กลางเก่า) อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายาทางธรรมว่า "นนฺโท" แปลว่า ผู้มีความเพลิดเพลินในธรรม
***การปกครองคณะสงฆ์ในสมัยนั้น พื้นที่เขต อ.พุนพิน อ.เมือง อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก รวมทั้ง อ.เกาะสมุย ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะอยู่ในเขตการปกครองคณะสงฆ์ของเมืองกาญจนดิษฐ์ มณฑลนครศรีธรรมราช ซึ่งจะมีพระอุปัชฌาย์จาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในพิธีอุปสมบท ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงการปกครองหัวเมือง จึงได้เป็นพื้นที่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ในปัจจุบัน
***พระครูการาม (จู) ป.ธ.๔ วัดท่าโพธิ์ฯ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มรณภาพ พ.ศ.๒๔๒๗
💥๖.เล่าขานพ่อท่านกล่อมวัดโพธิ์บ้านดอน
เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษา ศึกษาพระธรรมวินัยในสำนักของเจ้าอธิการมี หรือ พระครูสุวรรณรังษี ผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ณ วัดโพธาวาส โดยมีความตั้งใจ แน่วแน่ เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ โดยยึดผู้เป็นอาจารย์เป็นแบบอย่าง ศึกษาสรรพวิชาต่างๆจากเจ้าอธิการมี (พระครูสุวรรณรังษี) ซึ่งพระอาจารย์มี รูปนี้เป็นพระดีและมีอาคมขลัง เนื่องจากท่านเป็นศิษย์ในสำนักของหลวงปู่รอด วัดโคนอน กทม. (สายวิชาหลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ กทม.) ซึ่งพ่อท่านมีได้เดินทางไปศึกษาอยู่หลายปี ก่อนที่จะกลับมาจำพรรษาที่วัดโพธาวาส พ่อท่านกล่อม ท่านก็ได้เรียนสรรพวิชาสายนี้โดยตรงจากพ่อท่านมี บวกกับการปฏิบัติที่งดงามตามธรรมวินัย เคร่งวัตรปฏิบัติต่างๆ ทำให้พ่อท่านกล่อมเป็นที่เคารพนับถือของทายก ทายิกา รวมถึงเพศสมณะในสมัยนั้น อีกทั้งเป็นที่ไว้วางใจของพระอาจารย์ มีความรู้พอควรจึงได้รับจำแหน่งพระใบฎีกา และพระวินัยธร ในฐานานุกรมของพระครูสุวรรณรังษี(มี) ผู้เป็นพระอาจารย์
***ก่อน พ.ศ.๒๔๔๒พระครูสุวรรณรังษี (มี) ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะเมืองกาญจนดิษฐ์ มณฑลนครศรีธรรมราช ภายหลังประกาศกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.๒๔๔๒ ให้รวมพื้นที่เมืองกาญจนดิษฐ์กับเมืองไชยาเข้าด้วยกัน โดยเรียกว่าเมืองไชยา พื้นที่แขวงเมืองกาญจนดิษฐ์เดิมจึงขึ้นกับเมืองไชยา มณฑลชุมพร ทั้งหมด แขวงบ้านดอนเมืองกาญจนดิษฐ์ จึงกลายเป็น แขวงบ้านดอนเมืองไชยา และต่อมาได้มีการตั้งอำเภอและจังหวัด จึงเป็นพื้นที่ อ.พุนพิน อ.เมือง อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก และ อ.เกาะสมุย ของจังหวัดสุราษฎร์ธานีในปัจจุบัน จากเดิมเป็นแขวงที่ขึ้นกับเมืองไชยา
💥พ่อท่านกล่อม เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างยิ่ง ท่านลงโบสถ์ทำวัตรเช้า-เย็น ทุกวันไม่เคยขาด แม้จะอาพาธก็ตาม ท่านเคยกล่าวไว้ว่า "วันใดที่ท่านไม่ได้ลงโบสถ์ นั่นหมายถึงวาระสุดท้ายของชีวิตได้สิ้นแล้ว" นอกจากนี้ ยังตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมและท่องบทสวดมนต์เจ็ดตำนานสิบสองตำนานจนขึ้นใจ มุ่งมั่นปฏิบัติวิปัสสนาธุระ จนเป็นที่เคารพศรัทธาของพระภิกษุ สามเณร และชาวบ้านทั้งหลาย
พ่อท่านกล่อม เป็นปูชนียบุคคลทางสงฆ์ที่มีคุณธรรม ศีลธรรม เพียบพร้อม ประกอบอยู่ในสัมมาปฏิบัติ บำเพ็ญตนและบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นควบคู่ไปกับชีวิตและสังคมอย่างแรงกล้า ทะนุบำรุงศาสนา และสนับสนุนความเจริญให้เกิดขึ้น ท่านปกครองคณะสงฆ์มานาน อีกทั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้อุปสมบทและบรรพชาให้แก่กุลบุตรเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าตั้งแต่สัทธิวิหาริกตลอดจนอันเตวาสิก นับตั้งแต่รุ่นพ่อจนรุ่นลูกรุ่นหลานเลยทีเดียว ท่านเป็นผู้ฉลาดในการอบรมนิสัยแก่ศิษยานุศิษย์ เป็นผู้หนักแน่นในสังคหวิธี เหนี่ยวรั้งน้ำใจของผู้อื่นไว้เป็นอย่างดี ไม่เป็นที่ขัดขวางของศิษย์ในการศึกษาและอื่นๆที่เป็นประโยชน์ ซึ่งเปลี่ยนแปลงมาตามสมัย แม้ไม่สันทัดหรือไม่สามารถหมุนตามได้ ท่านก็อนุมัติและสนับสนุนตามความพอใจ ปฏิสังขรณ์พัฒนาวัด ให้เรียบร้อย ตามยุคสมัย เทศนาสั่งสอนประชาชน เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนคนบ้านดอน และผู้เคารพนับถือโดยทั้วไปทั้งแผ่นดิน
พ่อท่านกล่อม เป็นพระเกจิผู้ทรงวิทยาอาคม ซึ่งวิชาอาคมของท่านที่เป็นที่กล่าวขานคือ วิชามหาทมื่น หรือ มหาทะมึน มหาตะหมื่น มหาเมิ้น แล้วแต่ผู้เรียก เป็นวิชาสายชาตรี คงกระพัน ปลอดภัย กันสิ่งไม่ดี อีกทั้งยังมีวิชาสาริกาลิ้นทอง ที่เป็นเลิศด้านเมตตามหานิยมอีกด้วย ซึ่งท่านจะใช้วิชาเหล่านี้ทำสมาธิจิตประจุลงในวัตถุมงคล เช่น เหรียญรูปเหมือนที่ระลึก ตะกรุด ผ้ายันต์ เป็นต้น
พ่อท่านกล่อม มีชื่อเสียงโด่งดังมากเรื่องเรือแข่ง ในงานประจำปีของ จ.สุราษฎร์ธานี ที่เรียกว่า งานชักพระ ซึ่งจะมีการแข่งขันเรือยาวกัน สมัยนั้น เรือของวัดโพธาวาสไม่มีคำว่าพ่ายแพ้ต่อผู้ใด เล่ากันว่า ท่านให้ลูกศิษย์จัดการขุดเรือขึ้นมา พอเวลาเช้าของวันแข่งขันท่านจะออกมายืนริมคลองมะขามเตี้ยแล้วบริกรรมคาถา ปรากฏว่าเรือที่จอดอยู่บนคานแล่นลงน้ำได้อย่างอัศจรรย์
นอกจากนี้ ท่านยังสามารถบริกรรมคาถาสะกดจระเข้ ซึ่งชุกชุมยิ่งนักในบริเวณลำน้ำมะขามเตี้ยและแม่น้ำตาปี ร่ำลือกันว่าคาถาสะกดจระเข้ของพ่อท่านกล่อม จะทำให้จระเข้ที่ว่ายน้ำผ่านหน้าวัดต้องโผล่หัวผ่านไป และปากก็ไม่สามารถอ้าขึ้นได้ จนกว่าจะพ้นเขตวัด และอีกมากมายโดยกล่าวไม่หมด เป็นต้น
ทั้งนี้คณะศิษยานุศิษย์ที่มีความเคารพนับถือต่อท่าน ด้วยเหตุดังที่กล่าวมาทั้งหมด ยังความศรัทธาในจิตใจของศิษย์ จึงได้มีการหล่อรูปเหมือนขนาดเท่าองค์จริงขึ้นมา โดยทำการแกะพิมพ์เสร็จ ต่อมาได้ทำการหล่อ ณ วัดสามหม้าย (วัดไตรธรรมารามฯ) เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๐ ในสมัยที่ท่านยังดำรงขันธ์อยู่ ต่อมาได้ทำการแห่มาประดิษฐาน ณ มณฑปวัดโพธาวาส และในครั้งนี้ได้จัดสร้างวัตถุมงคลประเภทเหรียญขึ้นเป็นครั้งแรก โดยนำเศษทองที่เหลือจากการหล่อรูปเหมือนมาหลอมใหม่เพื่อหล่อเป็นเหรียญขนาดห้อยคอ ซึ่งสร้างจำนวนไม่มาก อีกทั้งยังสร้างเหรียญปั้มเนื้อเงินผสม(อัลปาก้า) เป็นที่ระลึกขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นที่หายากและค่านิยมสูงมากในปัจจุบัน
💥๗.สมณศักดิ์/การคณะสงฆ์
- พ.ศ.๒๔๒๗ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระใบฎีกากล่อม นนฺโท ในฐานานุกรมของ พระครูสุวรรณรังษี (มี) เจ้าคณะเมืองกาญจนดิษฐ์ มณฑลนครศรีธรรมราช
- พ.ศ.๒๔๓๕ พระครูสุวรรณรังษี (มี) ย้ายไปครองวัดกลาง (กลางเก่า) พระใบฎีกากล่อมจึงดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธาวาสสืบแทน และได้เลื่อนเป็นพระวินัยธรกล่อม นนฺโท ในฐานานุกรมของ พระครูสุวรรณรังษี (มี) รูปเดิม
- ***ต่อมา พ.ศ.๒๔๔๒ เมืองกาญจนดิษฐ์ ได้ยุบรวมเป็นเมืองเดียวกัน เรียกว่าเมืองไชยา
- ก่อน พ.ศ.๒๔๔๓ ได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าคณะแขวงมะขามเตี้ย(บ้านดอน) เมืองไชยา และ เป็นพระอุปัชฌาย์
- ประมาณ พ.ศ.๒๔๔๘ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูชั้นประทวน ที่ พระครูกล่อม นนฺโท
- ๑๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๕๒ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพระครูเจ้าคณะแขวง มีราชทินนามว่า “พระครูวิธูรธรรมสาสน์” เจ้าคณะแขวงบ้านดอน เมืองไชยา
- ๒๘ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๑ อายุได้ ๘๒ ปี พรรษาที่ ๕๘ ได้รับการยกขึ้นเป็นพระครูเจ้าคณะแขวงกิตติมศักดิ์ เนื่องจากชราภาพ แต่ได้รับการโปรดเกล้าให้มีนิตยภัตต์คงเดิม
***ราชทินนามท่าน ตามราชกิจจานุเบกษา คือ “พระครูวิธูรธรรมสาสน์” เป็นราชทินนามที่มาจากคำ ๓ คำ คือ
- วิธูร แปลว่า ผู้ฉลาด / ผู้คงแก่เรียน / ผู้ชำนาญ
- ธรรม แปว่า ธรรมะ / คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
- สาสน์ แปลว่า ศาสนา ความหมายเดียวกับคำว่า ศาสน์ ซึ่งเป็นการเขียนตามสมัยนิยมของภาษาที่วิวัฒน์ไปตามยุคสมัย ซึ่งในภาษบาลีใช้ สาสนา ส่วนภาษาไทยใช้ ศาสนา
“พระครูวิธูรธรรมสาสน์” หมายถึง พระผู้ชำนาญด้านพระธรรมและศาสนา

๘.ศิษย์ของพ่อท่านกล่อม
พระครูวิธูรธรรมสาสน์ หรือพ่อท่านกล่อม ท่านมีลูกศิษย์มากมาย ทั้งบรรพชิตและฆราวาส ซึ่งท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ และพระคู่สวดให้พระคณาจารย์ต่างๆ เช่น
๘.๑)เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ของ
- พระอุปัชฌาย์พัฒน์ นารโท วัดพัฒนารามฯ
- พระครูประกาศิตธรรมคุณ (เพชร อินฺทโชติ) วัดวชิรประดิษฐ์ (เฉงอะ)
เป็นต้น
๘.๒)เป็นพระอุปัชฌาย์ ของ
- พระครูดิตถารามคณาศัย (ชม คุณาราโม) วัดท่าไทร สมัยที่พ่อท่านชมบรรพชาเป็นสามเณร
- พระอุปัชฌาย์พุ่ม ฉนฺโท วัดปากคู
- พระเทพรัตนกวี (เกตุ ธมฺมวโร) วัดไตรธรรมารามฯ
เป็นต้น
๘.๓)อันเตวาสิกของพ่อท่านกล่อม
- พระครูอรุณกิจโกศล (พริ้ง โกสโล) วัดแจ้ง อ.เกาะสมุย
เป็นต้น

๙.มรณภาพ
พระครูวิธูรธรรมสาสน์ (กล่อม นนฺโท) มรณภาพลงด้วยความชรา เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ.๒๔๗๔ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๒(ยี่) ปีมะแม เวลาประมาณ ๒๑.๐๐ น. สิริอายุ ๘๕ ปี ๖๑ พรรษา ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ วัดโพธาวาสเป็นเวลา ๕ เดือนเศษ
วันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๕ รับพระราชทานเงิน ๕๐๐ สตางค์ ผ้าข้าว ๑ พับ เพื่อใช้ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ และได้แห่ศพเพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิง ณ วัดพัฒนารามฯ (วัดใหม่) เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๕ ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๖ ปีวอก
เล่าขานกันว่า ในเช้าวันที่ท่านจะมรณภาพนั้น หลวงพ่อเกิดอยากฉันน้ำมะพร้าวอ่อนขึ้นมา ลูกศิษย์จึงได้ปีนต้นมะพร้าวเก็บมาให้ท่านลูกหนึ่ง ครั้นเมื่อผ่ามะพร้าวออกมา ปรากฏว่ามีลูกปลาอยู่ภายในมะพร้าวนั้นอย่างน่าอัศจรรย์ ท่านจึงให้ลูกศิษย์นำไปใส่ไว้ในโถแก้ว ตกค่ำเวลาประมาณสามทุ่มของวันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ.๒๔๗๔ ท่านก็ละสังขารอย่างสงบ และปลาที่พบในมะพร้าวก็ได้หายไปอย่างน่าประหลาด
💥***การนับศักราชแบบเดิมจะขึ้นศักราชใหม่ในเดือน ๕ หรือ วันที่ ๑ เมษายน ตามปฏิทิน ซึ่งการนับแบบจันทรคติก็เช่นกัน จะเปลี่ยนปีนักษัตรในวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ซึ่งจะอยู่ในช่วง ปลายเดือนมีนาคม และต้นเดือนเมษายนของทุกปี เพิ่งได้มาเปลี่ยนการนับศักราชแบบใหม่เป็นเดือนมกราคม เมื่อ วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๕ ดังนั้นวันที่พ่อท่านกล่อมมรณภาพ ๒๓ มกราคม พ.ศ.๒๔๗๔ ถ้านับตามการเปลี่ยนศักราชในปัจจุบัน จะตรงกับ วันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ.๒๔๗๕

#พ่อท่านกล่อม
#วัดโพธาวาส
#ศาสตร์และศิลป์แห่งอาคม

07/11/2025

ตำนานได้ข่าวว่า พ่อท่านคล้าย ศักดิ์สิทธิ์ #ศาสตร์และศิลป์แห่งอาคม

07/11/2025

ตำนานลอดซุ้มประตูป่า หลวงปู่สีมั่น วัดห้วยหลาด #ศาสตร์และศิลป์แห่งอาคม

📍📍ประวัติหลวงพ่อนิ่ม ธมฺมสโร  อดีตเจ้าอาวาสวัดไทรทอง (เกาะหยี)💥หลวงพ่อนิ่ม ธมฺมสโร เดิมชื่อนิ่ม ชัยภักดี เกิดที่บ้านเคีย...
07/11/2025

📍📍ประวัติหลวงพ่อนิ่ม ธมฺมสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดไทรทอง (เกาะหยี)
💥หลวงพ่อนิ่ม ธมฺมสโร เดิมชื่อนิ่ม ชัยภักดี เกิดที่บ้านเคียนพอก ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลช่อง อำเภอนาโยง เกิดราว พ.ศ.๒๔๓๐ สมัยรัชกาลที่ ๕ สมัยวัยเรียนได้บวชเณรเรียนหนังสือที่วัดท่าจีน เมื่อ พ.ศ. (ปัจจุบัน วัดประสิทธิชัย ตำบลบางรัก อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ) สมัยก่อนไม่มีโรงเรียนใครจะเรียนหนังสือจะต้องไปถวายตัว ที่วัด สามเณรนิ่มได้รับการอุปถัมภ์ ให้เรียนหนังสือ โดยพ่อท่านจีด
💥ต่อมาราวพ.ศ. ๒๘๕๐ สามเณรนิ่มได้อุปสมบทที่วัดปากเหมือง (วัดรัตนาภิมุข อ.นาโยง จ.ตรัง )
โดยมีพ่อท่านวัน วัดท่าจีน เป็นพระอุปัชฌาย์ และมีพ่อท่านช่วง วัดหน้าเขาเป็นพระคู่สวด พระนิ่มได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดปากเหมือง ในเรื่องพุทธศาสนาและคาถาอาคมจนเก่งกล้าสามารถ พ่อท่านนิ่มเกี่ยวข้องกับวัดเกาะหยีอย่างไร ตามตำนานที่เล่าต่อกันมาว่า "วัดเกาะหยี" เป็นสำนักสงฆ์เล็กๆ ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านเกาะหยี หรือบ้านในเกาะอยู่ทางทิศตะวันตกของวัดในปัจจุบัน สร้างประมาณ พ.ศ. ๒๔๔๔ - ๒๔๕๔ ) สำนักสงฆ์เกาะหยีสมัยนั้น มีพ่อท่านพร้อม เป็นเจ้าสำนัก ต่อมาพ่อท่านพร้อมเห็นว่าอยู่ในเกาะพัฒนาวัดให้เจริญยาก จึงย้ายนาตั้งสำนักสงฆ์เกาะหยี ในปัจจุบัน ต่อมาท่านพ่อจีด ก็ได้ขอร้องให้พระนิ่มมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์เกาะหยี่ เพื่อช่วย พ่อท่านพร้อม ร่วมกันพัฒนาวัด ประกอบกับพระนิ่มก็มีความตั้งใจที่จะพัฒนาวัดในชนบทและอยู่ใกล้บ้านเกิดก็ตัดสินใจมาอยู่ที่วัดเกาะหยี่ เพื่อร่วมกันดูแลพระศาสนา และพัฒนาวัดอย่างที่ตั้งใจไว้ต่อมาประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ พ่อท่านพร้อมได้มรณภาพ พระนิ่มได้เป็นเจ้าอาวาส และหลวงพ่อนิ่มก็ได้ร่วมกับชาวบ้านพัฒนาวัด วัดก็มีชื่อเสียง หลวงพ่อนิ่มก็มีชื่อเสียงโด่งดังราว พ.ศ. (๒๔๖๐-๒๔๘๔ )
💥สมัย พ.ศ.๒๔๘๔ เรียกว่าสมัยญี่ปุ่นขึ้นเมือง หลวงพ่อนิ่มโด่งดังมากในเรื่องปลุกเสกผ้ายันต์ - ตะกรุด - สายเอว ได้ปลุกเสก และแจกลูกศิษย์ ชาวบ้าน ตำรวจ ทหาร มากมายในสมัยนั้น พ.ศ.๒๔๙๗ - ๒๕๐๗ เป็นเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเรื่อง เครื่องราง ของยลัง อยู่ยงคงกระพัน ในเรื่องปลุกเสกลูกอม คาถาหวาดหรือวาจาสิทธิ สามารถห้ามลม ฝน ได้ เดินตากฝนไม่เปียก และเสกสุราให้จืดได้ ลูกศิษย์คนสำคัญที่ยังมีชีวิตอยู่ พอจะสอบถามประวัติความ ศักดิ์สิทธิ์ของ พ่อท่านนิ่มเป็นพระที่มีชื่อเสียงทางเกจิเครื่องราง ของขลังที่คนนับถือมาก ติด ๑ใน ๕ ของพระดังในจังหวัดตรัง และเป็นพระที่อยู่ยงคงกระพัน ร่วมถึง ๕ แผ่นดิน จากรัชกาลที่ ๕ ถึงรัชกาลที่ ๙ (๒๙๓๐-๒๕๑๖)
ในที่สุด พ่อท่านนิ่ม ก็ได้ละสังขาร รณภาพเมื่อพ.ศ.๒๕๖ เป็นที่โศกเศร้าเสียใจแก่ลูกศิษย์ ลูกหา พี่น้องชาวบ้านเกาะหยี และชาวบ้านใกล้เคียงมาก กรรมการวัดพร้อมชาวบ้าน ลูกศิษย์ ได้ร่วมกันจ้างช่างมาปั้นรูปเหมือนหลวงพ่อนิ่ม มาประดิษฐาน ไว้ให้พวกเราได้บูชาจนถึง ปัจจุบัน
💥หลวงปู่นิ่ม ธรรมสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดไทรทอง ตำบลโคกสะบ้า อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง มีอภินิหาร ห้ามลม ห้ามฝนได้ หากบุคคลใดประสงค์มีบุตร ,ไม่ประสงค์ให้บุตรติดทหารเกณฑ์ ท่านจะรับตามสิ่งที่เราบน สามารถช่วยได้ตามที่ปรารถนา ปัจจุบันชาวตำบลโคกสะบ้า เลื่อมใสศรัทธามาก และถือเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของบุคคลทั่วไป มีป่าไม้ไทรเป็นที่ร่มรื่นจึงได้ขนานนามว่า “วัดไทรทอง ”แต่ชาวบ้านมักเรียกว่า “วัดเกาะหยี ”

#หลวงพ่อนิ่ม
#วัดไทรทอง
#ศาสตร์และศิลป์แห่งอาคม

06/11/2025

ตำนานก่อสร้างเจดีย์วัดธาตุน้อย พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ #ศาสตร์และศิลป์แห่งอาคม

06/11/2025

ตำนานรถสิบล้อผี พ่อท่านยอด วัดสระประดิษฐ์ #ศาสตร์และศิลป์แห่งอาคม

📍📍ประวัติพระครูพรหมทอง วัดถ้ำยะลา💥ประวัติโดยสังเขปของ พระครูพรหมทอง เท่าที่ทราบ คือ พระครูพรหมทอง ฉายา จนฺทสิริ เป็นเจ้า...
06/11/2025

📍📍ประวัติพระครูพรหมทอง วัดถ้ำยะลา
💥ประวัติโดยสังเขปของ พระครูพรหมทอง เท่าที่ทราบ คือ พระครูพรหมทอง ฉายา จนฺทสิริ เป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำยะลา รูปที่ ๔ (ต่อมาเรียกชื่อวัดว่า "วัดคูหาภิมุข") ครองวัด พ.ศ.๒๓๔๕ ถึง พ.ศ.๒๔๗๐ โดยย้ายมาจากวัดตานีสโมสร ขณะที่ครองวัด ท่านได้พัฒนาถาวรวัตถุขึ้นหลายอย่าง อาทิ สร้างอนุสาวรีย์ ที่เจ้าอาวาสรูปก่อนได้สร้างค้างเอาไว้) เพื่อบรรจุอัฐิของอดีตท่านเจ้าอาวาส รูปที่ ๒ พระเถระสำคัญของภาคใต้ ในยุคพ.ศ. ๒๔๐๔-๒๔๑๘ คือ ท่านพระครูธรรมขันธ์ (เพ็ชร ฐิตวํโส) นอกจากนี้ท่านยังบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระพุทธไสยาสน์ และพระพุทธรูป ๑๕ องค์ สร้างบันไดชั้นล่าง ด้วยอิฐถือปูนขาว เพื่อเป็นทางขึ้นถ้ำพระนอน สร้างอุโบสถแบบก่ออิฐถือปูนขาวอย่างถาวร ๑ หลัง สร้างกุฏิถาวร เพิ่ม ๑ หลัง ศาลาการเปรียญ ๑ หลัง สร้างถนนข้ามลำห้วย และการย้ายวัดออกทางตะวันตกของลำห้วย อันเป็นที่ตั้งวัด ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ท่านพระครูพรหมทอง มรณภาพเมื่อพ.ศ.๒๔๗๐ ฉะนั้น เหรียญพระครูพรหมทอง รุ่นแรก ที่สร้างเมื่อพ.ศ. ๒๔๗๘ จึงเป็นเหรียญที่สร้างขึ้นในภายหลัง โดยเจ้าอาวาสรูปต่อมา ซึ่งเป็นศิษย์สายตรงของท่าน คือ พระพุทธไสยารักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำพระนอน ในช่วง พ.ศ. ๒๔๗๕ -พ.ศ. ๒๕๒๘ เพื่อแสดงความเทิดทูนเชิดชูเกียรติของท่านนั่นเอง

#พระครูพรหมทอง
#วัดถ้ำยะลา
#ศาสตร์และศิลป์แห่งอาคม

05/11/2025

พ่อท่านนิ่ม แห่งวัดไทรทอง
พระผู้เปี่ยมเมตตา คุ้มครองผู้คนกลางแดนดุ
อดีตถิ่นบ้านป่า ดั่งเท็กซัสเมืองตรัง
ศรัทธาพ่อท่านนิ่ม พ้นภัยทั่วแผ่นดินใต้
#ศาสตร์และศิลป์แห่งอาคม

05/11/2025

ตำนานวัวชนหยุดโลก ศึกพ่อท่านวัน มะนะโส ปะทะ พระท่ามก๋งเยี่ย เทพจีนที่คนนับถือมากสุดในจังหวัดตรัง #ศาสตร์และศิลป์แห่งอาคม

📍📍ประวัติหลวงพ่อเจิม วัดหอยราก พ่อท่านเจิม อชิโต หรือ พระครูพิศาลวรเวทย์ อดีตพระเกจิอาจารย์ขลังแห่งลุ่มน้ำปากพนัง ท่านถื...
05/11/2025

📍📍ประวัติหลวงพ่อเจิม วัดหอยราก
พ่อท่านเจิม อชิโต หรือ พระครูพิศาลวรเวทย์ อดีตพระเกจิอาจารย์ขลังแห่งลุ่มน้ำปากพนัง ท่านถือกำเนิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2451 ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 8 ค่ำ เดือน 7 ปี วอก เป็นบุตรของนายภู่ นางคล้าย แก้วช่วย ท่านได้บรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดคงคาสวัสดิ์ (วัดใต้) โดยมี หลวงพ่อนุ่ม เกสโร พระครูประภาสภูมิสถิตย์ เป็นพระอุปัชฌาย์บวชแล้วก็ประจำพรรษาที่วัดคงคาสวัสดิ์ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย และพระเทวอาคมกับหลวงพ่อนุ่มผู้เป็นอุปัชฌาย์ จารย์จนมีความเชี่ยวชาญในสรรพเวทวิทยาคมอย่างลึกซึ้ง พ่อท่านเจิม อชิโต ได้มารั้งตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีสมบูรณ์เมื่อปี พ.ศ.2479 และได้ละสังขารลงเมื่อ ปี พ.ศ.2527 รวมสิริอายุ 76 ปี 57 พรรษา
ครั้งเมื่อพ่อท่านเจิม อชิโต สมัยท่านยังไม่ละสังขารอยู่นั้น ท่านได้สร้างพระเนื้อผงดินเผา พระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปิดตา ปี พ.ศ. 2499 เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา พ่อท่านเจิมได้เสาะแสวงหาและรวบรวมมวลสารที่เป็นมหามงคล โดยใช้ระยะเวลาอยู่นานร่วม 7-8 ปี เมื่อได้มวลสารที่ต้องการแล้ว พ่อท่านเจิมได้ทำพิธีกดพิมพ์พระพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพิมพ์ปิดตา เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2499 ซึ่งมวลสารที่พ่อท่านเจิมได้ใช้ในการสร้างล้วนมีพุทธคุณ และคุณวิเศษมากมายในตัวซึ่งเป็นมวลสารที่หายากยิ่ง พ่อท่านเจิมอยากให้วัตถุมงคลที่สร้างออกมาให้มีพุทธคุณ จึงต้องทำให้ตรงตามตำราโบราณทุกอย่าง ทุกขั้นตอนอย่างประณีต
💥โดยเฉพาะมวลสารที่เป็นดินพรายสมุทร (ท้องทะเล) ต้องใช้ถึง 108 ปั้น โดยต้องดำน้ำลงไป และเถ้าคนที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคารให้ได้ 7 ป่าช้า เอามาบดเป็นผงให้ได้ 108 จอกชา และยังมีมวลสารที่สำคัญอีกร่วม 700 ชนิด พ่อท่านเจิมได้นำพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และ พิมพ์ปิดตา เข้าปลุกเสกเดี่ยวในพระอุโบสถ วัดศรีสมบูรณ์อีก เพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ด้วยพระคาถาพระมหาหมื่น 10,000 จบ พ่อท่านเจิมใช้ระยะเวลาการปลุกเสกนานถึง 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2499-2501 พระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปิดตา ของพ่อท่านเจิม จึงเป็นวัตถุมงคลที่มีความเข้มขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ในพุทธคุณสูง
💥บทความต่อไปนี้เป็นบทความจาก พระสมุห์เจิม แก้วช่วย เจ้าอาวาสวัดศรีสมบูรณ์ (หอยราก) อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช “สวัสดีท่านที่เคารพและนับถือทั้งหลาย การที่ข้าพเจ้าจัดทำรูปหลวงพ่อ อะชิโตขึ้นครั้งนี้ ทำตามแบบโบราณ ที่ท่านเขียนไว้ในคำภีร์ใบลาน พัสดุที่เอามาประสมเกินกว่า 700 สิ่ง แต่ละสิ่งล้วนเป็นของศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น ข้าพเจ้าเที่ยวหาของต่าง ๆ นั้น 2 ปีซ้อน ทำแต่ผงนั้นราว 4 เดือน และทำแต่รูปหลวงพ่อ อะชิโต ก็ราว 3 ปี และโดยเฉพาะปลุกเสกอยู่นั้นย่างเข้า 5 ปี คือเริ่มปลุกเสกในฤกษ์ของวันเสาร์ เดือน 5 ปี มะเส็ง กระทั่งถึงวันเสาร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 12 ปีระกา พ.ศ.2512 เป็นอันสัมฤทธิ์ผลโดยสมบูรณ์ รุ่งขึ้นวันอาทิตย์ ขึ้น 8 ค่ำเดือนเดียวกัน เป็นปฐมฤกษ์ของการแจกจ่ายให้เช่า อันเป็นมหามงคลฤกษ์ของอมฤคฆโชค แปลว่า เป็นโชคอันไม่ตาย ข้าพเจ้าขอเตือนว่า ทุก ๆ ท่านที่มีรูปหลวงพ่อ อะชิโต ไว้นั้น อย่าสักแต่ว่าเอาไว้เฉย ๆ เท่านั้น มันไม่เกิดเป็นมงคลและผลประโยชน์อะไรเลย เหมือนอย่างไก่ไปพบพลอย พลอยก็ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับไก่เลย ฉะนั้น ขอท่านอย่าได้ประมาท อุตส่าห์กราบไหว้บูชาอยู่เสมอ เป็นรูปที่ทำขึ้นแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น พอถึงวันอังคาร หรือวันเสาร์ ควรจัดของถวายข้าวพระ มีน้ำสิ่งหนึ่ง ข้าวสิ่งหนึ่ง คาวสิ่งหนึ่ง หวานสิ่งหนึ่ง อย่างน้อยให้ได้เดือนละหนึ่งครั้ง
เวลาจะหลับนอนหรือไปไหน ให้ยกเอารูปหลวงพ่อ อะชิโต ขึ้นตั้งเหนือหัวขอท่านช่วยคุ้มครองป้องกันรักษาเถิด
💥พระพุทธเจ้าทรงตรัสภาษิตไว้ว่า อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ แปลว่า ท่านทั้งหลายจงยังไม่ประมาทให้ถึงพร้อม พระพุทธภาษิตขึ้นนี้ท่างจะยึดถือไว้ให้มั่น นี้เป็นหลักของหลวงพ่อ อะชิโต ที่จะต้องปฏิบัติคือ อย่าได้ประมาทเลย และขอให้ท่านทุกท่านที่มีหลวงพ่อ อะชิโต ไว้กับตัวและครอบครัวของท่าน จงสัมฤทธิ์ผลดลบันดาลให้สำเร็จทุกประการเทอญ” ปัจจุบันพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปิดตา เป็นที่เสาะแสวงหาในวงการพระเครื่องพระ ศิษยานุศิษย์สายพ่อท่านเจิม และบุคคลทั่วไป
💥วิธีการบูชาพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปิดตา ปี 2499 ของพ่อท่านเจิม อชิโตนั้น มีดังนี้
นะโม 3 จบ กล่าวต่อ ติวาคะภะ โธพุทนังสา นุสมะวะเท ถาสัตถิระ สามะทัมสะ ริปุโรตะ นุตอะทูวิ กะโลโตคะ สุโนปันสัม ณะระจะชา วิชโธพุทสัมมาสัมหังระ อะวาคะภะ โสปิติอิ

#หลวงพ่อเจิม
#วัดหอยราก
#ศาสตร์และศิลป์แห่งอาคม

ที่อยู่

Nakhon Si Thammarat
80220

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ตำนาน ศาสตร์และศิลป์ แห่งอาคมผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ตำนาน ศาสตร์และศิลป์ แห่งอาคม:

แชร์