นนทบุรี เมืองน่าอยู่

06/09/2023

https://www.facebook.com/100067967885448/posts/630787342530190/?sfnsn=mo&mibextid=Na33Lf

04/06/2023

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=813008640193694&id=100044536955010&sfnsn=mo&mibextid=RUbZ1f

"นนทบุรี" (Nonthaburi)

ภาพบรรยากาศ "คลองบางกระสอ" เมืองนนทบุรี ที่สงบร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่บริเวณริมสองฝั่งคลอง เมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมา

นนทบุรี., กรุงเทพมหานคร (Nonthaburi., Bangkok)
(ไม่ทราบปี พ.ศ. ค่ะ..)
.........
"นนทบุรี" ก่อตั้งมากว่า ๔๐๐ ปี (เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น) รู้จักกันในชื่อของ "บ้านตลาดขวัญ"
ซึ่งเป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นสวนผลไม้ที่ขึ้นชื่อของกรุงศรีอยุธยา

พุทธศักราช ๒๐๙๒ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา ได้ยก "บ้านตลาดขวัญ" (ขึ้นเป็น "เมืองนนทบุรี")

ตัวเมืองนนทบุรีแต่เดิมนั้นตั้งอยู่ที่ "ตำบลบางกระสอ" ในปัจจุบัน โดยมี..
- "วัดหัวเมือง" (ปัจจุบันเป็นวัดร้าง ที่ทางราชการใช้เป็นสถานที่ตั้งของ "โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า") เป็นเขตเหนือ
- "วัดท้ายเมือง" เป็นเขตใต้

พุทธศักราช ๒๑๗๙ "พระเจ้าปราสาททอง" ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ "ขุดคลองลัด" ตอนใต้วัดท้ายเมือง ไปทะลุออกหน้าวัดเขมา (เพราะเดิมทีนั้น "แม่น้ำเจ้าพระยา" ไหลวกวน) โดยเข้าแม่น้ำอ้อมไหลมาทางบางใหญ่ แล้ววกเข้าคลองบางกรวย ข้างซอยวัดชะลอ มาออกหน้าวัดเขมา

เมื่อ "ขุดคลองลัด" แล้ว กระแสน้ำจึงเปลี่ยนทางเดิน ไหลเข้าคลองลัดที่ขุดใหม่ นานเข้าก็กลายเป็น "แม่น้ำเจ้าพระยาใหม่" (ในปัจจุบัน)

ส่วน "แม่น้ำเจ้าพระยาเดิม" ก็ตื้นเขิน กลายเป็น "คลอง" ไปในที่สุด
...........................................
(*ขอบพระคุณภาพและข้อมูล)
: FB: Tony Nobra
: 77kaoded com (คุณทศพร โชคชัยผล)
มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ..🙏🌺
: ประตูสู่อดีต
: ประตูย้อนเวลา
: แอดมินจ๋า..🌺

30/05/2023

21/05/2023

NASA พบสัญญาณเอลนีโญในมหาสมุทรจากอวกาศ ชี้ ถ้าเป็นมันเป็นขนาดใหญ่ โลกจะร้อนตับแตก และจะกลายเป็นช่วงเวลาแห่งความปั่นป่วนทางสภาพอากาศแน่นอน ถ้ามันเกิดขึ้นจริง
ข้อมลจากดาวเทียม Sentinel-6 Michael Freilich ที่คอยตรวจสอบระดับน้ำทะเล ได้เผยให้เห็นสิ่งที่เรียกว่า ‘คลื่นเคลวิน’ (Kelvin Waves) หรือเข้าใจง่าย ๆ ว่ามันคือคลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นในทะเลและมหาสมุทร กำลังก่อตัวและเคลื่อนผ่านมหาสมุทรแปซิฟิกจากตะวันออกไปตะวันตก
คลื่นนี้มีความลึกประมาณ 2-4 นิ้ว แต่กว้างหลายร้อยกิโลเมตร โดยทั่วไปแล้วนักวิทยาศาสตร์ถือว่าปรากฏการณ์นี้เป็นสัญญาณของเอลนีโญ ที่จะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและอุณหภูมิเฉลี่ยของมหาสมุทรร้อนกว่าปกติ
ทาง Josh Willis นักวิทยาศาสตร์ที่ดูแลดาวเทียมจาก NASA กล่าวไว้ว่า “เราจะเฝ้าดูปรากฏการณ์เอลนี
โญนี้เหมือนเหยี่ยว” (แปลสำนวนนี้คือจับตาดูอย่างใกล้ชิด) พร้อมเสริมว่า “ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ โลกจะร้อนเป็นประวัติการณ์”
แล้วมันจะเกิดขึ้นจริง ๆ รึเปล่า? คำตอบคือมีโอกาสสูงมาก เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางหน่วยงานบริหารด้านชั้นบรรยากาศและมหาสุทร สหรัฐฯ (NOAA) กล่าวว่ามีโอกาส 90% ที่จะเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญในปีนี้ และพวกเขาก็คาดว่าโอกาสเป็นเอลนีโญระดับปานกลางมีอยู่ 80%
ขณะที่ระดับรุนแรงจะมีโอกาสเกิดประมาณ 55% ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิมหาสมุทรสูงขึ้นอีก 1.5 องศาเซลเซียส NASA กล่าวว่าความร้อนเหล่านี้จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงให้กับสภาพอากาศปกติ ทาง NOAA และ NASA จะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
“ถ้าปรากฏการณ์เอลนีโญเกิดขึ้นจริง ๆ ปีที่จะมาถึงนี้จะต้องปั่นป่วนแน่นอน” Willis กล่าว เอลนีโญนี้อาจทำให้อุณหภูมิมหาสมุทรเข้าสู่ “จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์” ในอีก 12 เดือนข้างหน้า
เอลนีโญเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรสภาพอากาศเอนโซ่ (ENSO) ที่สลับกับ ลานีญา ทำให้ภูมิภาคทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลียแห้งแล้ง แต่กลับมาฝนตกหนักที่ทวีปอเมริกาใต้แทน โดยปกติแล้วปรากฏการณ์เอลนีโญจะเกิดขึ้นทุก ๆ 3-5 ปี แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยหรือน้อยกว่านั้น
โดยเอลนีโญครั้งสุดท้ายคือในปี 2562 และกินเวลานาน 6 เดือน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิงหาคม
ที่มา
JPL NASA : International Sea Level Satellite Spots Early Signs of El Niño
Live Science : NASA spots sign of El Niño from space: 'If it's a big one, the globe will see record warming'
Phys.org : International sea level satellite spots early signs of El Niño

13/04/2023

07/04/2023

คลื่น ปัจจุบันใช้ได้ 3 คลื่นคือ 2.4 , 5 , 6 GHz (ในไทยยังใช้ 6 GHz ไม่ได้) แล้วทั้ง 3 คลื่นนี้แตกต่างกันอย่างไร มาดูอินโฟกราฟิกกันครับ

สรุปง่าย ๆ คือยิ่งคลื่นต่ำ ยิ่งไปได้ไกล แต่ความเร็วน้อย ส่วนคลื่นสูง ส่งได้สั้น ผ่านสิ่งกีดขวางได้น้อย แต่ความเร็วและช่องสัญญาณเยอะ

31/03/2023

ขอบคุณภาพจาก ch7hd จร้า

30/03/2023

30 มี.ค. - 3 เม.ย. 66 ปิดการจราจรตั้งแต่แยกศรีพรสวรรค์ ถึงหอนาฬิกาท่าน้ำนนทบุรี เพื่อใช้เป็นตลาดถนนคนเดินงาน "วัฒนธรรมสองฝั่งเจ้าพระยา มหาเจษฏาบดินทร์ ประจำปี 2566" ช่วงเวลา 18.00 - 24.00 น.

(Cr.งานจราจรสภ.เมืองนนทบุรี)

17/03/2023

16/03/2023

🔵 หมอนิติเวช เฉลย ทำไม #นอนในรถ แล้วเสียชีวิต

หมอหมู - รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ให้ความรู้ พร้อมตอบคำถามกรณีมีผู้สงสัยว่าทำไม นอนในรถยนต์ที่ติดเครื่องไว้แล้ว #เสียชีวิต โดยคุณหมอระบุว่า

“ขอตอบแบบใช้ความรู้ทางนิติเวชบวกกับประสบการณ์ในการตรวจผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในรถยนต์ นะครับ

1) สาเหตุการเสียชีวิตจากการนอนในรถยนต์ คือ การได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าสู่ร่างกาย โดยก๊าซดังกล่าวเกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และมีคุณสมบัติสำคัญ คือ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และสามารถแย่งจับกับเม็ดเลือดแดงแทนออกซิเจน ได้ดีกว่าถึง 200 เท่า ทำให้คนที่ดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไป จะขาดออกซิเจนและเสียชีวิตได้
2) การรั่วไหลของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ เข้ามาในตัวรถ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ คือ การเสื่อมสภาพของตัวรถ และการดัดแปลงตัวรถ โดยปกติแล้วรถยนต์ที่ผลิตออกมาจะสามารถปกป้องการรั่วไหลของก๊าซเข้ามาในรถได้อยู่แล้ว (ไม่ 100% ห้องโดยสารในรถยนต์ไม่ใช่ห้องที่ถูกผนึกแน่นจนอากาศไม่สามารถไหลเวียนได้ แต่ทว่าตามช่องประตู หรือรูอุดที่ไม่เห็นในห้องโดยสารรถยนต์ จึงยังมีช่องทางให้อากาศไหลเวียนได้ซ่อนอยู่) แต่หากใช้งานไปนานๆ โดยไม่มีการดูแลบำรุงรักษา รวมถึงมีการดัดแปลงสภาพรถ ก็อาจทำให้เกิดการรั่วไหลเข้ามาในตัวรถได้ในปริมาณมากครับ
3) 'การนอนในรถยนต์ถึงตาย' สามารถอธิบายได้ว่า สาเหตุมาจาก รถยนต์มีการรั่วของก๊าซเข้าในตัวรถ และในขณะที่นอนหลับจะได้รับก๊าซเข้าสู่ร่างกายทีละน้อย จนสลบไป ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และเมื่อได้รับก๊าซต่อเนื่องจึงเสียชีวิต
4) 'แต่นั่งในรถยนต์ทั้งวันกลับไม่ตาย' สามารถอธิบายได้ว่า ถึงแม้จะมีการรั่วของก๊าซเข้าในตัวรถ และได้รับก๊าซเข้าสู่ร่างกายทีละน้อย แต่ร่างกายของเราจะแสดงอาการที่ทำให้เรารู้สึก เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เจ็บแน่นหน้าอก หอบเหนื่อย ซึ่งผู้ประสบเหตุยังมีสติจึงสามารถช่วยเหลือตนเองออกมาจากสถานการณ์นั่นได้
สรุป
1) ไม่ควรนอนในรถยนต์ที่ติดเครื่องยนต์
2) ไม่ควรดัดแปลงสภาพรถยนต์จนเป็นเหตุให้ไอเสียรถยนต์เข้าไปในตัวรถ
3) ควรตรวจสอบและซ่อมบำรุงรถอย่างสม่ำเสมอ