ส่องแดนใต้นิวส์

ส่องแดนใต้นิวส์ ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก ส่องแดนใต้นิวส์, บริษัทด้านสื่อ/ข่าวสาร, Pattani.

อบจ.ยะลา ผนึกกำลัง 15 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้งในจังหวัดยะลาและปัตตานี จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (...
07/07/2025

อบจ.ยะลา ผนึกกำลัง 15 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้งในจังหวัดยะลาและปัตตานี จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ครั้งสำคัญ เพื่อยกระดับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากอุทกภัยในพื้นที่

วันนี้ (7 ก.ค. 68) เทศบาลนครยะลา นำโดย นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมด้วย รองนายกเทศมนตรีนครยะลา สมาชิกสภาเทศบาล และคณะผู้บริหาร ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อยกระดับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากอุทกภัยในพื้นที่
ในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ฉบับนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 15 แห่ง ได้แก่ เทศบาลนครยะลา เทศบาลเมืองสะเตงนอก เทศบาลตำบลท่าสาปเทศบาลตำบลยุโป เทศบาลตำบลบุดี องค์การบริหารส่วนตำบลเนินงาม องค์การบริหารส่วนตำบลบาโงย องค์การบริหารส่วนตำบลตาเซะ องค์การบริหารส่วนตำบลหน้าถ้ำ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ลาน องค์การบริหารส่วนตำบลพร่อน องค์การบริหารส่วนตำบลเปาะเส้ง องค์การบริหารส่วนตำบลละแอ องค์การบริหารส่วนตำบลวังพญา และองค์การบริหารส่วนตำบลท่าธง ได้แสดงเจตจำนงที่จะประสานงานและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากอุทกภัย โดยมุ่งเน้นให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสาธารณภัย มีความพร้อมด้านทรัพยากร และส่งเสริมให้ประชาชนมีจิตสำนึกด้านความปลอดภัยเพื่อร่วมกันสร้าง "วัฒนธรรมความปลอดภัย" (Safety Culture)
ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นโดยมีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา, หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา รวมถึงผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นจาก อปท. ต่างๆ เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
นายมุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา กล่าวว่า การลงนาม MOU นี้ เป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของการบูรณาการทรัพยากรและศักยภาพของท้องถิ่น เพื่อรับมือและแก้ไขปัญหาอุทกภัยร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อม ระวังป้องกัน บรรเทา และฟื้นฟูหลังเกิดภัยอย่างครบวงจร
ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมถึงการพัฒนาทักษะ ความรู้ และการบูรณาการกำลังพล วัสดุอุปกรณ์ ตลอดจนทรัพยากรที่มีอยู่ของแต่ละหน่วยงาน เพื่อรับมือและระงับเหตุได้อย่างทันท่วงทีในสถานการณ์จริง โดยยึดหลักการแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่อย่างเป็นระบบและยั่งยืน

ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ยะลาติดตามการแก้ปัญหายาเสพติด “เวทีประชาชนจิตอาสา เอาชนะยาเสพติด”วันนี้(6 กค.68) คณะผู้แ...
06/07/2025

ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ยะลาติดตามการแก้ปัญหายาเสพติด “เวทีประชาชนจิตอาสา เอาชนะยาเสพติด”

วันนี้(6 กค.68) คณะผู้แทน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำโดย พลเอก วิชาญ สุขสง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนาย กูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการ รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.ยะลา เพื่อติดตาม เร่งรัด การดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ปัญหายาเสพติด(ครส.) และร่วมกิจกรรม “เวทีประชาชนจิตอาสา เอาชนะยาเสพติด” ที่ มัสยิดตะโล๊ะหะลอ ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา พร้อมรับฟังการดำเนินงานในส่วนของการบำบัดรักษา ผู้ติดยาเสพติดจาก ผู้นำในพื้นที่ รวมทั้ง รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะจากผู้ที่เคยผ่านการบำบัดรักษา พบปะเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ร่วมกันแก้ปัญหายาเสพติด โดยมี ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ส่วนราชการ หน่วยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ประชาชน เข้าร่วมกว่า 500 คน

พลเอก วิชาญ สุขสง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าว เป็นความพยายามของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่ต้องการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะเรื่องของยาเสพติดที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขเป็นลำดับต้นๆ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีพืชใบกระท่อมที่ได้นำไปดัดแปลงพัฒนามาเป็นสารเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนกำลังรณรงค์ให้หมดไปจากพื้นที่

โดยการดำเนินการ ได้กำหนด 2 มาตรการ คือ รณรงค์ให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ผู้นำชุมชน ประชาชน ตลอดจนผู้นำศาสนา ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ทำให้พืชกระท่อมหมดไป และประการที่ 2 คือ จะร่วมผลักดันนโยบายไปสู่การทำให้พืชกระท่อมกลับไปเป็นยาเสพติดตามกฎหมายอีกครั้ง เพื่อแก้ปัญหาและปกป้องลูกหลานของพี่น้องประชาชนไม่ให้ตกไปเป็นนเหยื่อของสิ่งเหล่านี้

ศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) ตัรเบียตุลอัฏฟาล บ้านกาแป๊ะฮูลู จัดงานต้อนรับปีใหม่อิสลาม ฮิจเราะห์ศักราช 1467วั...
06/07/2025

ศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) ตัรเบียตุลอัฏฟาล บ้านกาแป๊ะฮูลู
จัดงานต้อนรับปีใหม่อิสลาม ฮิจเราะห์ศักราช 1467

วันที่ 6 กรกฎาคม 2568 ที่ศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) ตัรเบียตุลอัฏฟาล บ้านกาแป๊ะฮูลู อ.เบตง จ.ยะลา นายใช้ วงศ์นิตยลัภย์ นายกเทศมนตรีเมืองเบตง เป็นประธานในพิธีเปิดงานฮิจเราะห์ศักราช 1467 (ต้อนรับปีใหม่อิสลาม 1467) เพื่อรำลึกวันสำคัญทางศาสนาอิสลาม เพื่อให้นักเรียนเกิดองค์ความรู้เกี่ยวกับฮิจเราะห์ศักราชอย่างถ่องแท้ ฝึกให้นักเรียนมีความกล้าแสดงออกอย่างมีทักษะในเชิงวิชาการ รู้จักคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น และถ่ายทอดเป็น และสร้างความสัมพันธไมตรีระหว่างโรงเรียน ชุมชน ผู้ปกครอง ซึ่งจะก่อให้เกิดความรักความสามัคคี โดยมี นายซัมซูเด็น มะมิง ผู้บริหารศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) ตัรเบียตุลอัฏฟาล สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน ผู้ปกครอง คณะครู และนักเรียนเข้าร่วม

นายซัมซูเด็น มะมิง ผู้บริหารศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) ตัรเบียตุลอัฏฟาล กล่าวว่า ปีใหม่อิสลามเป็นวันที่เป็นจุดเริ่มต้นของปีฮิจเราะฮ์ใหม่ และเป็นวันแรกของปฏิทินอิสลามที่สังเกตโดยมุสลิมในวันที่ 1 มุฮัรรอม ซึ่งเป็นปีที่ศาสดามุฮัมมัดกับผู้ติดตามอพยพจากมักกะฮ์ไปยังมะดีนะฮ์ เป็นปีที่มีความสำคัญในการเริ่มแผ่ขยายการเผยแพร่ศาสนาอิสลามจนประสบกับความสำเร็จในเวลาต่อมา จึงเริ่มต้นนับศักราชของอิสลามตั้งแต่ปีที่ท่านนะบีมุฮัมมัด และบรรดามุสลิมได้อพยพจากมักกะห์สู่มะดีนะห์ คือ ฮิจเราะห์ศักราช (ฮ.ศ.) นับแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบันมีผู้นับถือศาสนาอิสลาม หรือที่เรียกว่ามุสลิมอยู่ทั่วโลกไม่น้อยกว่า 1,800 ล้านคน
โดยปีฮิจเราะฮ์ศักราช ตามปฏิทินอิสลามนั้นถือตามทางจันทรคติ ซึ่งจะมีจำนวนวันในแต่ละเดือนแตกต่างกับปฏิทินสากล คือ แต่ละเดือนตามปฏิทินอิสลามจะมี 29 หรือ 30 วันเท่านั้น จะไม่มีเดือนที่มี 28 วัน และ 31 วัน เหมือนปฏิทินสากล ซึ่งถือตามทางสุริยคติ เมื่อครบ 1 ปี ตามปีปฏิทินอิสลามจำนวนวันในรอบ 1 ปี จะมีจำนวนวันน้อยกว่าจำนวนวันตามปีปฏิทินสากลประมาณ 10 วัน ดังนั้นวันขึ้นศักราชใหม่ หรือวันขึ้นปีใหม่ของอิสลามก็จะร่นเร็วขึ้นประมาณปีละ 10 วัน ทุกปี

ภาพ/ข่าว
ทีมข่าวเบตง

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  ลงพื้นที่ปัตตานีเปิดงานเบญจสหกรณ์สัมพันธ์ชายแดนใต้ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 เชื่อว่าสถา...
05/07/2025

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ปัตตานีเปิดงานเบญจสหกรณ์สัมพันธ์ชายแดนใต้ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 เชื่อว่าสถานการณ์ในพื้นที่ จังหวัดชายแดนใต้ จบลงได้ด้วยการเจรจา

วันที่ 5 ก.ค. 2568 ที่ โรงแรม เซาท์ เทิร์น วิว ปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานเบญจสหกรณ์สัมพันธ์ชายแดนใต้ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 โดยมี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวต้อนรับ นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปัตตานี กล่าวรายงาน มี รองผุ้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ผู้อำนวยการศูนย์ขับเคลื่อนการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สหกรณ์จังหวัดปัตตานี ศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ปัตตานีผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดปัตตานี ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชน จังหวัดปัตตานี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 เขต 2 เขต 3 ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปัตตานี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จังหวัดปัตตานี ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดภาคใต้ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมจำนวนมาก
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูบปัตตานี จำกัด ในฐานะตัวแทน สหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั้ง 5 จังหวัดชายแดนใต้ได้แก่ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูยะลา จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนราธิวาส จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสงขลา จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสตูล จำกัด และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปัตตานี จำกัด กล่าวว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน"เบญจสหกรณ์สัมพันธ์ชายแดนใต้ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568" ในวันนี้ วัตถุประสงค์ในการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการบริหารงานสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งสร้างความคล่องตัวในการประสานงานระหว่างสหกรณ์ และเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสหกรณ์
ด้านนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ จะจบลงได้ด้วยการเจรจา เพราะฉนั้นไม่เชื่อว่าปัญหาในชายแดนใต้จะแก้ไขไม่ได้ ตนคุยกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ถ้าพี่น้องมีเศรษฐกิจดี มีความสุข ลูกหลานมีความสุข แล้วพี่น้องจะไปก่อเหตุเพื่ออะไร และผมมีความต้องการที่จะทำให้เศรษฐกิจนำหน้า ใน 5 จังหวัดชายแดนใต้

ภาพ/ข่าว/บดินทร์ ส.ปชส.ปน.

คนร้ายซุ่มยิง ตำรวจ สภ.กรงปินัง ด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ เสียชีวิตวันนี้ 5 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 19.40 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ก...
05/07/2025

คนร้ายซุ่มยิง ตำรวจ สภ.กรงปินัง ด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ เสียชีวิต

วันนี้ 5 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 19.40 น. ศูนย์วิทยุ สภ.กรงปินัง จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดก่อเหตุซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กรงปินัง ขณะออกปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่รับผิดชอบ

เหตุเกิดบริเวณด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 ใกล้กับบริเวณสามแยกทางเข้าที่ว่าการอำเภอกรงปินัง หมู่ที่ 7 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา

เบื้องต้นมีตำรวจรวจได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย ทราบชื่อ ส.ต.ท.ธัญเทพ สิกขาจารย์ อายุ 24 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป) ปฏิบัติหน้า จราจร สภ.กรงปินัง จ.ยะลา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดและชนิด บริเวณศรีษะ จำนวน 1 นัด อาการสาหัส ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิต ขณะนำตัวส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลกรงปินัง

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ สั่งการทุกหน่วยในพื้นที่ร่วมปฏิบัติการ 120 วัน วา...
05/07/2025

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ สั่งการทุกหน่วยในพื้นที่ร่วมปฏิบัติการ 120 วัน วาระพืชกระท่อม ภายใต้แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดชายแดนภาคใต้

ล่าสุด ชุมชนเข้มแข็ง ในพื้นที่ตำบลควน ที่ได้รวมพลัง เอาชนะกระท่อม ห้ามจำหน่ายในพื้นที่ตำบลควน ภายใต้การนำของ นายภาคิน ซูสารอ นายก อบต.ควน อำเภอปะนาเระ กำนันตำบลควน ผู้ใหญ่บ้าน อีหม่าม รพ.สต.ควน แขวงการทางปะนาเระ และแขวงการทางสายบุรี ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะนาเระ
จากเดิมร้านจำหน่ายพืชกระท่อม ตั้งอยู่ใกล้ชุมชน ประมาณ 7 ร้าน บริเวณ สาย 42 ซึ่งตั้งแต่ปักป้าย “พวกเราไม่เอาน้ำกระท่อม” ประกาศห้ามจำหน่ายในพื้นที่ ก็ไม่มีร้านจำหน่ายอีกเลย

เป็นการขยายผลจากที่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบนโยบาย เพื่อลดปัญหาการค้าและการใช้พืชกระท่อมอย่างผิดวัตถุประสงค์ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ อ.จะนะ, นาทวี, เทพา, และสะบ้าย้อย รวมทั้งหมด 688 ชุมชน

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมยกพลลงใต้ ฟาดแข้ง ซาบาห์ ในศึกอาเซียนชารีตี้ชิล 2025 เพื่อหารายได้ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสวันที่ 3...
04/07/2025

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมยกพลลงใต้ ฟาดแข้ง ซาบาห์ ในศึกอาเซียนชารีตี้ชิล 2025 เพื่อหารายได้ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส

วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เวลา 17.30 น. ที่ สนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานการแถลงข่าว เตรียมจัดแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตร เพื่อการกุศล “ASEAN Charity Shield 2025” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบทีม ซาบาห์ เอฟซี จากประเทศมาเลเซีย เพื่อนำรายได้ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส อย่างยิ่งใหญ่ 13 กรกฎาคม 2568 นี้ โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ทั้ง 3 ท่าน นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้แทนทีมสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นายอรุณ เบ็ญจลักษณ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี นายเจษฎา แวอีซอ กำนัน ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ผู้ประสานงานทีม ซาบาห์ เอฟซี จากประเทศมาเลเซีย นายอำเภอทั้ง 12 อำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน กองเชียร์ และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน
นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า จังหวัดปัตตานี กำหนดจัดแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับ มิตร เพื่อการกุศล “ASEAN CHARITY SHIELD 2025” ระหว่างทีมสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมฟุตบอลชั้นนำในลีกของประเทศไทย พบทีมฟุตบอลซาบาห์ เอฟซี ลีกชั้นนำของประเทศมาเลเซีย ในวันอาทิตย์ ที่ 13 กรกฎาคม 2568 ณ สนามกีฬากลาง อบจ.ปัตตานี (สนามเดอะ เรนโบว์ สเตเดี้ยม) เปิดสนามตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ ผ่านกีฬาฟุตบอล และนำรายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่าย สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือเด็กกำพร้า เด็กด้อยโอกาส เด็กพิการทางสติปัญญาในพื้นที่ ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจด้านกีฬาฟุตบอลให้กับเยาวชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างความสุข ความสามัคคีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับช่องทางการติดต่อซื้อบัตรล่วงหน้าได้ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ, ที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน, นายก อบต., เทศบาลทุกแห่ง บัตรราคา 1,000 บาท, 500 บาท และ 100 บาท และหน้าสนามในวันแข่งขัน บัตรมีจำนวนจำกัด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ กลุ่มงานปกครอง ที่ทำการปกครองจังหวัดปัตตานี โทร. 073-349517 นอกจากนี้ ผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคเงิน เพื่อสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือเด็กพิการทางสติปัญญา ผ่านบัญชี : มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยใน พระบรมราชินูปถัมภ์ (ศูนย์ฯ ปัตตานี) ธนาคาร : ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี : 020-288431-5

มณฑลทหารบกที่ 46 ร่วมบันทึกเทปรายการพิเศษถวายพระพร แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เ...
03/07/2025

มณฑลทหารบกที่ 46 ร่วมบันทึกเทปรายการพิเศษถวายพระพร แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น. ณ ห้องแสดงส่วนบริหารกิจการโทรทัศน์ ภาคใต้ จังหวัดยะลา

พลตรี ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 46 มอบหมายให้ พันเอก จิรศักดิ์ คงทน รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 46 เป็นผู้แทนหน่วย เข้าร่วมบันทึกเทปโทรทัศน์รายการพิเศษถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคม 2568

กิจกรรมครั้งนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกถึงความจงรักภักดีของประชาชนและภาครัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีนางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และประชาชนจากทุกภาคส่วน ที่พร้อมใจกันแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

มณฑลทหารบกที่ 46 ในฐานะกองทัพของพระราชา ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ “ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์” อย่างแน่วแน่ พร้อมเดินหน้าปฏิบัติภารกิจด้วยความเสียสละ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศ และเป็นหลักยึดมั่นทางจิตใจของประชาชนในทุกสถานการณ์

แอร์เอเชียเปิดเส้นทางบินใหม่ “นราธิวาส-สุวรรณภูมิ” พร้อมโปรพิเศษแก่นักท่องเที่ยว(index pointing right)นราธิวาส - เปิดอีก...
02/07/2025

แอร์เอเชียเปิดเส้นทางบินใหม่ “นราธิวาส-สุวรรณภูมิ” พร้อมโปรพิเศษแก่นักท่องเที่ยว

(index pointing right)นราธิวาส - เปิดอีก 1 เส้นทางของสายการบินแอร์เอเชีย “นราธิวาส-สุวรรณภูมิ” หลังได้รับการตอบรับอย่างดีจากชาวนราธิวาส พร้อมโปรพิเศษค่าตั๋ว 1,400 บาทต่อเที่ยวบิน สามารถจองตั๋วและเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1 -31 ก.ค.68 นี้ ขณะที่ผู้ว่าฯนราธิวาสเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสบรรยากาศทางธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์

(index pointing right)วันนี้ (1 ก.ค.) ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ร่วมเป็นเกียรติเปิดเส้นทางใหม่ “นราธิวาส-สุวรรณภูมิ” ของสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งก้าวสู่ปีที่ 21 ในการให้บริการชาวนราธิวาส เริ่มบินตรงปฐมฤกษ์เส้นทางบินใหม่ “นราธิวาส-สุวรรณภูมิ” ทุกวันๆ ละ 1 เที่ยวบิน เสริมทัพเส้นทาง “นราธิวาส-ดอนเมือง” โดยมี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนราธิวาส, ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส , ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมเป็นเกียรติในพิธี พร้อมกันนี้ได้ร่วมต้อนรับในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ FD4252 สุวรรณภูมิ-นราธิวาส นำผู้โดยสาร 110 คน เดินทางถึงท่าอากาศยานนราธิวาส ในเวลา 12.55 น.

(index pointing right)ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาสพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสัมผัสบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ มีทั้งภูเขา ทะเล และน้ำตก และวัฒนธรรมพื้นถิ่นที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูฝนนี้เชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวป่าฮาลาบาลา ป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็น “อเมซอนแห่งอาเซียน” มาชมนกเงือกหลากหลายสายพันธุ์ที่หาชมยาก เป็นหนึ่งในประสบการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยากในประเทศไทย เป็นการเปิดมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวที่นราธิวาส โดยการเปิดเที่ยวบินเพิ่มของสายการบินแอร์เอเชียครั้งนี้ จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดนราธิวาสได้เป็นจำนวนมาก และยืนยันความพร้อมต้อนรับท่องเที่ยวด้วยความประทับใจ

(index pointing right)นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ไทยแอร์เอเชียผูกพันกับชาวนราธิวาสมายาวนาน และให้บริการเส้นทางบินตรงกรุงเทพ-นราธิวาสต่อเนื่อง ปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 21 แล้ว พนักงานทุกคนที่สถานีนราธิวาสของแอร์เอเชียก็เป็นชาวนราธิวาสที่เติบโตมาด้วยกัน เราขอขอบคุณชาวนราธิวาสที่ให้การสนับสนุนแอร์เอเชียด้วยดีเสมอมา การเปิดเส้นทางบินใหม่ครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวความสำเร็จร่วมกัน เราหวังว่าการเปิดบินครั้งนี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกการเดินทางให้ชาวนราธิวาส บินได้ทั้งดอนเมือง (DMK) และสุวรรณภูมิ (BKK) รวมทั้งโอกาสในการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่บินมาลงที่สุวรรณภูมิ สามารถต่อเที่ยวบินตรงมาที่นราธิวาสได้สะดวกและคุ้มค่า ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและเศรษฐกิจต่อไป

(index pointing right)นายนูอิลเลียส อิลยาฌาอ ตอยิบฌูโกร ผู้จัดการแอร์เอเชีย ประจำท่าอากาศยานนราธิวาส กล่าวว่า ที่ผ่านมาเส้นทางนราธิวาส-ดอนเมืองได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่อง จนเราสามารถเพิ่มบินเป็นสูงสุด 2 เที่ยวบินต่อวัน และด้วยการผลักดันจากทางภาครัฐ เอกชน ชาวนราธิวาส ทำให้แอร์เอเชียตัดสินใจเปิดเส้นทางบินใหม่ “นราธิวาส-สุวรรณภูมิ” บินตรงทุกวันๆ ละ 1 เที่ยวบิน ส่วนเส้นทางบิน “นราธิวาส-ดอนเมือง” ยังเปิดให้บริการต่อเนื่องทุกวันจันทร์ อังคาร พฤหัสฯ และวันเสาร์ จำนวน 2 เที่ยวบิน และจัดโปรโมชั่นในราคา 1,400 บาทต่อเที่ยว ทั้ง 2 เส้นทางบิน สนใจสามารถจองตั๋วและเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1 -31 ก.ค.68 นี้

ทุเรียนเบตง ฉายาเนยหวานแห่งรัฐยะโฮร์ นทท.มาเลย์สายทุเรียนเลิฟเวอร์ จัดกรุ๊ปทัวร์กินทุเรียนเบตงคึกคักวันนี้ 2 ก.ค.68 ในช่...
02/07/2025

ทุเรียนเบตง ฉายาเนยหวานแห่งรัฐยะโฮร์ นทท.มาเลย์สายทุเรียนเลิฟเวอร์ จัดกรุ๊ปทัวร์กินทุเรียนเบตงคึกคัก

วันนี้ 2 ก.ค.68 ในช่วงทุเรียนออกผลผลิตนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ จัดกรุ๊ปทัวร์มากินทุเรียนในพื้นที่บ้านบ่อน้ำร้อน ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา อ.เบตง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกทุเรียนหลากกลายสายพันธุ์และผลไม้นานาชนิดกันอย่างคึกคัก ทำให้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างนำทุเรียนสายพันธุ์มูซานคิง ทุเรียนโอวฉี่ ทุเรียนพวงมณี ทุเรียนไอโอไอ ทุเรียนเบญจพรรณ ก้านยาว ชะนี หมอนทอง ทุเรียนพันธุ์พื้นบ้านของเบตง ซึ่งออกผลผลิตซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่โปรดปรานของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์เป็นอย่างมากนำมาวางจำหน่าย
นางกัทธมน ศรีกิ้ม แม่ค้าขายทุเรียน กล่าวว่า ช่วงนี้ขายได้บ้างเพราะเป็นช่วงทุเรียนสายพันธุ์มูซานคิง ออกผลผลิตทำให้ช่วงนี้ยอดขายดีเพราะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาเยอะและราคาทุเรียนมูซานคิงปีนี้มีราคาไม่แพงมากนัก ถ้าหากลูกเล็กขายอยู่ที่ 150 – 250 บาทต่อกก. ส่วนลูกใหญ่ อยู่ที่ กก.ละ 300 บาท และทุเรียนโอวฉี่ ปีนี้ขายอยู่ที่ กก.ละ 250 – 400 บาท ส่วนทุเรียนพันธุ์มณี ขายอยู่ที่ กก.ละ 130 – 160 บาท ส่วนตัวท็อปจะเป็น ทุเรียน 101 หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไอโอไอ เป็นทุเรียนสายพันธุ์จากประเทศมาเลเซีย และทุเรียนพันธุ์นี้มีรสชาติที่โดดเด่นคือมีความมันและหวานน้อยกว่าทุเรียนพันธุ์อื่นๆ เหมาะกับคนที่รักสุขภาพ โดยมีฉายาว่า "เนยหวานแห่งรัฐยะโฮร์ " เนื้อดีมากปีนี้เนื้อทุเรียนอร่อยไม่เป็นน้ำเลย ทำให้ทุเรียนสายพันธุ์นี้จะขายดีกว่าสายพันธุ์อื่นๆ และมีไม่เพียงพอกับความต้องการ เพราะปีนี้ทุเรียนออกผลผลิตน้อย มีเท่าไรก็หมด ราคาอยู่ที่ กก.ละ 170 บาท เท่านั้น ส่วนที่ประเทศมาเลเซีย ขาย กก.ละ 300 บาท ส่วนทุเรียนก้านยาว ชะนี ขายอยู่ที่ กก.ละ 120 บาท ทุเรียนเบญจพรรณ กก.ละ 40 - 50 บาท โดยคนไทยมาซื้อกินจะเป็นลูกตัด ทางร้านมีไว้ให้คอยบริการลูกค้า ส่วนชาวมาเลเซียจะชอบลูกที่หล่นจากต้นเนื้อจะมีรสชาติออกเข้มข้น หากเป็นลูกตัดชาวมาเลเซียจะไม่ซื้อกินเลย ส่วนคนไทยบ้านเราชอบกินเนื้อทุเรียน ห่ามๆ ทุเรียนที่สุกกำลังดี ไม่ดิบหรือสุกเกินไป ส่วนชาวมาเลเซียจะกินแบบนิ่มๆเลยแบบสุกหล่นจากต้น
ส่วนสาเหตุที่ชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ ชอบกินทุเรียนในพื้นที่ อ.เบตง มาจากสภาพดิน น้ำ และอากาศในพื้นที่ ที่แตกต่างจากฝั่งมาเลเซียที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้ทุเรียนพันธุ์มูซางคิง มีรสชาติที่อร่อยต่างออกไปจากต้นตำรับที่ปลูกกันในมาเลเซีย ซึ่งทุเรียนที่ปลูกในอำเภอเบตงจะให้รสชาติหวานมัน และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทุเรียนที่มีเนื้อมากและมีเมล็ดเล็กหรือลีบ จึงเป็นที่โปรดปรานสำหรับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นอย่างมาก และนอกจากรสชาติความอร่อยแล้วยังมีราคาถูกกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว

ภาพ/ข่าว
ทีมข่าวเบตง

มณฑลทหารบกที่ 46 จัดอบรมให้ความรู้ด้านการประชาสัมพันธ์และกิจการพลเรือนแก่ทหารใหม่ ผลัดที่ 1/2568เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 25...
02/07/2025

มณฑลทหารบกที่ 46 จัดอบรมให้ความรู้ด้านการประชาสัมพันธ์และกิจการพลเรือนแก่ทหารใหม่ ผลัดที่ 1/2568

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.00 น. ณ หน่วยฝึกทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 46 ค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

พลตรี ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 46 มอบหมายให้ กองกิจการพลเรือน มณฑลทหารบกที่ 46 ดำเนินการจัดอบรมให้ความรู้แก่ทหารใหม่ ผลัดที่ 1/2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ด้านการประชาสัมพันธ์ รวมถึงภารกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจการพลเรือนของกองทัพบก

เนื้อหาการอบรมมุ่งเน้นให้ทหารใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของหน่วย การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การประพฤติตนอย่างเหมาะสมทั้งในและนอกเครื่องแบบ ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทหารกับประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ

ภายในกิจกรรมยังได้จัดให้มีการ ตอบคำถามแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อเปิดโอกาสให้น้องทหารใหม่ได้แสดงความคิด เห็น เสริมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม พร้อมทั้งมีการ มอบของรางวัล เพื่อสร้างแรงจูงใจและกำลังใจในการเข้าร่วมกิจกรรมอย่างกระตือรือร้น

กิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งเสริมความรู้และทัศนคติที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกความเป็นทหารของพระราชาและของประชาชน ตามเจตนารมณ์ของกองทัพบกในการพัฒนาเยาวชนชายไทยให้เป็นกำลังสำคัญของชาติอย่างมีคุณภาพ

มณฑลทหารบกที่ 46 ร่วมกิจกรรมสร้างงานและเส้นทางสู่อาชีพ “JOB FAIR 2025 @ปัตตานี” ประจำปี 2568เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 เ...
02/07/2025

มณฑลทหารบกที่ 46 ร่วมกิจกรรมสร้างงานและเส้นทางสู่อาชีพ “JOB FAIR 2025 @ปัตตานี” ประจำปี 2568

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.30 น. ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี

พลตรี ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 46 ได้มอบหมายให้ พันเอก จิรศักดิ์ คงทน รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 46 เข้าร่วมกิจกรรมสร้างงานและเส้นทางสู่อาชีพ “JOB FAIR 2025 @ปัตตานี” ซึ่งจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโลกทัศน์ จุดประกายความคิด และแนะแนวทางอาชีพให้แก่ประชาชน นักเรียน และนักศึกษาในพื้นที่

ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การจัดแสดงนิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน การให้ข้อมูลด้านตลาดแรงงาน การศึกษาต่อ และการฝึกอาชีพอิสระ การสาธิตธุรกิจแฟรนไชส์ ฟู้ดทรัค การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าจากกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน คนพิการ ผู้สูงอายุ และการให้บริการจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้มีโอกาสเรียนรู้ ฝึกฝน และต่อยอดองค์ความรู้ไปสู่การประกอบอาชีพที่มั่นคงในอนาคต

ในโอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บดินทร์ แวลาเตะ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานด้านความมั่นคง เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง โดยมี นางจีระภา บุญรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิด

ทั้งนี้ มณฑลทหารบกที่ 46 ได้นำกำลังพลทหารกองประจำการเข้าร่วมเยี่ยมชมและศึกษาดูงานภายในกิจกรรม เพื่อเปิดมุมมองและเสริมสร้างแนวคิดในการวางแผนชีวิตหลังปลดประจำการ ให้สามารถเตรียมตัวสู่เส้นทางอาชีพได้อย่างมั่นใจและยั่งยืน

กิจกรรมในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคแรงงาน ที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมการจ้างงาน เพิ่มโอกาสทางอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน

ที่อยู่

Pattani
94000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ส่องแดนใต้นิวส์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์