
06/08/2025
📌 6 สิงหาคม 2568 วันที่ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยต้องจารึกว่า กฎหมายชาติพันธุ์ฉบับแรกได้ถือกำเนิดแล้ว
"ถือกำเนิดแล้วต้องยังไงต่อ" หลายคนอาจยังไม่เก็ทว่าพี่น้องชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองจะได้รับประโยชน์อะไรจากร่างกฎหมายฉบับนี้ ไม่เห็นรู้มาก่อนเลยว่ามีกฎหมายชาติพันธุ์ด้วยเหรอ
📌 "งั้นเรามาทำความเข้าใจกัน" ตั้งต้นจากสถานะปัจจุบันนี่แหละ ส่วนที่มาที่ไปก่อนหน้าเดี๋ยวเราเอาข้อมูลมาแปะให้ด้านล่าง
ณ ปัจจุบัน ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. ... ได้ผ่านโหวตในรัฐสภาครบทุกขั้นตอนแล้ว และต่อไปคือ นายกรัฐมนตรี (หรือรักษาการฯ) จะนำร่างกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ในหลวงทรงลงพระปรมาภิไธย ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยร่างกฎหมายจะมีผลบังคับใช้นับจากวันประกาศไปอีก 120 วัน
📌 พี่น้องชาติพันธุ์ (และชนเผ่าพื้นเมือง) จะได้รับอะไรจากกฎหมายชาติพันธุ์
🫶 สิทธิการมีส่วนร่วม เช่น กำหนดนโยบาย มาตรการ ระเบียบ ข้อบังคับ ร่วมกับภาครัฐและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือการแสดงความคิดเห็น ให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจต่อโครงการรัฐที่อาจมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตหรือวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ (ครอบคลุมมาตรา 6 และ 11)
🫶 สิทธิทางวัฒนธรรม เช่น ความเชื่อ พิธีกรรม งานประเพณี หรืออัตลักษณ์การแต่งกาย หากมีความเชื่อมโยงกับทรัพยากรในพื้นที่ เช่น ป่า ทะเล ขุนน้ำ ไร่หมุนเวียน พื้นที่จิตวิญญาณ โดยที่หัวใจสำคัญมิอาจแยกจากกัน ก็ไม่มีใครมีสิทธิที่จะสามารถทำให้เป็นอื่นได้ (ครอบคลุมมาตรา 7, 9 และ 10)
🫶 สิทธิทางการศึกษา เช่น หลักสูตรท้องถิ่น วิชาชาติพันธุ์ศึกษา บูรณาการร่วมกับหลักสูตรแกนกลางของกระทรวงศึกษาธิการ (ครอบคลุมมาตรา 8)
🫶 สิทธิในที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ชุมชนสามารถจัดการ อนุรักษ์ ฟื้นฟู บำรุงรักษาหรือใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้ เพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ความสัมพันธ์เชิงจิตวิญญาณทางวัฒนธรรม โดยที่ต้องไม่ทำลายสมดุลระบบนิเวศ และต้องปลอดจากภัยคุกคามหรืออันตรายใด ๆ ที่เกิดจากโครงการภาครัฐหรือเอกชน (ครอบคลุมมาตรา 7, 9 และหมวด 5 พื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์)
🫶 สิทธิในการดำรงชีวิตเพื่อเศรษฐกิจ เช่น การยกระดับผลผลิต การรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน (ครอบคลุมมาตรา 10 และ 12)
🫶 สิทธิในการเข้าถึงสาธารณูปโภคและสวัสดิการขั้นพื้นฐาน เช่น น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก รวมทั้งเรื่องการศึกษา การรักษาพยาบาล สัญชาติ (ครอบคลุมมาตรา 10 และ 12)
🫶 พื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ มีเป้าหมายเพื่อให้กลุ่มชาติพันธุ์เข้ามามีส่วนร่วมบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ และไม่ได้มีเป้าหมายที่จะให้กรรมสิทธิ์ในที่ดินเฉพาะบุคคล แต่เป็นแนวทางคุ้มครองสิทธิให้กลุ่มชาติพันธุ์ได้มีความมั่นคงในที่ดินระดับชุมชนในลักษณะสิทธิส่วนรวม โดยการกำหนดเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ต้องไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงเขตหรือสถานะ หรือเพิกถอนสภาพพื้นที่ของรัฐ รวมทั้งไม่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ สุขภาพอนามัย หรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ครอบคลุมหมวด 5 มาตรา 37-39)
📌 แต่ !! มีบางเรื่องที่ต้องผลักดันต่อ เพราะการมีกฎหมายชาติพันธุ์ไม่ได้แปลว่าเราชนะแล้ว
✌️ ผลักดันคำว่า "ชนเผ่าพื้นเมือง" ให้กลับไปอยู่ในกฎหมายมาตรา 3 และรัฐธรรมนูญมาตรา 70 เพื่อให้สอดคล้องกับปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิชนเผ่าพื้นเมือง
✌️ ผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิชาติพันธุ์ เช่น กฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว กฎหมายนิรโทษกรรมคดีป่าไม้ - ที่ดิน รวมถึงการออกกฎหมายลูกให้ครอบคลุมทุกประเด็นอย่างรอบด้าน
✌️ กำหนดข้อห้ามการโฆษณาหรือเผยแพร่ในลักษณะที่เป็นการเหยียดหยาม สร้างความเกลียดชัง หรือเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อกลุ่มชาติพันธุ์ แม้ว่า สส. จะเห็นชอบในวาระ 3 แล้ว แต่ สว. กลับตัดออก
✌️ พื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธ์ุ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ เนื่องจากพื้นที่คุ้มครองฯ ยังอยู่ภายใต้กฎหมายป่าไม้ซึ่งรัฐกำหนดให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ ทำให้กฎหมายกลายเป็นเครื่องมือผลักดันกลุ่มชาติพันธุ์ออกจากพื้นที่หรือไม่สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินไปได้มากกว่าการเพาะปลูก
📌 กล่าวแบบสรุปคือ แม้เรากำลังจะมีกฎหมายชาติพันธุ์ฉบับแรกเร็ว ๆ นี้ แต่ในทางปฏิบัติจริงเรายังคงต้องจับตาการบังคับใช้และการปฏิบัติโดยรัฐว่า กฎหมายมีประสิทธิภาพบังคับใช้ได้จริงหรือเป็นแค่เสือกระดาษ ควบคู่ไปกับการผลักดันให้มีการแก้กฎหมายหรือเสนอร่างกฎหมายที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายชาติพันธุ์ฉบับนี้
🎉 สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณและแสดงความยินดีกับทุกคน ทุกการเคลื่อนไหวที่อยู่กับเรื่องนี้และทำให้เรื่องนี้ได้เดินหน้าอย่างต่อเนื่องไปจนถึงฝั่งฝันในวันนี้ครับ
#โลเคิลซะเป้ดท้องถิ่นซะป๊ะ #กฎหมายชาติพันธุ์ #พื้นที่คุ้มครองชาติพันธุ์ #ชาติพันธุ์ก็คือคน #คนเท่ากัน #ชนเผ่าพื้นเมือง