27/08/2025
ชวนอ่าน
วิจัยกรุงศรี ประเมินความเสี่ยง – ผลกระทบอุทกภัยปี 2568
| Research Reports | วิจัยกรุงศรี คาดว่าพื้นที่ประสบอุทกภัยของประเทศไทย ในปี 2568 จะอยู่ที่ 9.5 ล้านไร่ สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินราว 3.7 พันล้านบาท ขณะที่มูลค่าสินค้าเกษตรเสียหาย 1.99 หมื่นล้านบาท (กรณีฐาน) ทำให้ความเสียหายรวมกันอยู่ที่ 2.36 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นราว -0.13% ของ GDP
ตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยเผชิญมรสุม และร่องมรสุมที่พัดผ่านประเทศ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดอุทกภัยในบางพื้นที่โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคกลาง
โดยช่วง 30 มิถุนายน - 29 กรกฎาคม 2568 มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 0.9 ล้านไร่ และบ้านเรือนได้รับผลกระทบจำนวน 7,483 หลังคาเรือน จังหวัดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ได้แก่ เชียงราย มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2.6 แสนไร่ รองลงมาเป็น พะเยา 0.8 แสนไร่ สกลนคร 0.7 แสนไร่ หนองคาย 0.7 แสนไร่ และสุโขทัย 0.7 แสนไร่
สำหรับพื้นที่ทำการเกษตรที่เสียหาย ได้แก่ พื้นที่ปลูกข้าวที่เสียหาย 3.3 แสนไร่ รองลงมาเป็นพืชไร่และพืชผัก 46,274 ไร่ และไม้ผล ไม้ยืนต้น และอื่นๆ 13,738 ไร่
ในช่วงที่เหลือของปี 2568 ประเทศไทยมีแนวโน้มเสี่ยงต่ออุทกภัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเดือนกันยายน - ตุลาคม ที่ความเสี่ยงสูงขึ้นมากในพื้นที่ทุกภาค (ยกเว้นภาคใต้) จากปริมาณฝนที่คาดการณ์ว่าจะสูงกว่าค่าปกติ ขณะที่ภาคใต้ความเสี่ยงอุทกภัยจะเพิ่มขึ้น ในเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม จากอิทธิพลของมรสุม ร่องมรสุม และพายุหมุนเขตร้อน ที่เคลื่อนผ่านไทยเป็นประจำทุกปี
เมื่อพิจารณาปัจจัยร่วมอื่น ๆ ในการเข้าสู่ฤดูฝน ทั้งสภาพอากาศและปัจจัยแวดล้อม ที่ส่งสัญญาณภาวะอุทกภัย วิจัยกรุงศรีได้คาดการณ์ความเสี่ยง และพื้นที่เสี่ยงภายใต้สมมติฐาน ดังนี้
1) จำนวนพายุที่จะเข้าไทย คาดว่าจะมีพายุเข้าประเทศไทยอย่างน้อย 2-3 ลูก โดยจะนำฝนมาให้มากกว่าปกติ เนื่องจากค่าดัชนี ONI (ตัวชี้วัดภาวะเอลนีโญ-ลานีญา) กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง และอาจเข้าสู่ภาวะลานีญาในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน 2568
2) ปริมาณน้ำฝน ผลกระทบจากลานีญาจะทำให้ปริมาณฝน ในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปีนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งยิ่งฝนตกมาก ความเสียหายก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นตามไปด้วย
3) พื้นที่ฝนตก หากฝนตกในพื้นที่ที่เขื่อนรองรับไม่ได้ ความเสียหายจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะภาคกลางที่มีความเสี่ยงสูง หากฝนตกบริเวณใต้เขื่อน 13 ทุ่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากหรือพื้นที่รับน้ำ
4) แนวโน้มสถานการณ์น้ำในลำน้ำสายหลัก หากปริมาณฝนและพื้นที่ฝนตก มีมากเกินกว่ารองรับได้ อาจเกิดน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่โดยรอบเส้นทางน้ำ โดยในปีนี้พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมหลัก จะเป็นภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทั้งนี้ วิจัยกรุงศรี ประเมินพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งปี 2568 ภายใต้การจำลองสถานการณ์ 3 ฉากทัศน์
▪️ กรณีดีที่สุด (Best case) หรือกรณีที่เกิดความเสียหายน้อยสุด จะมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 7.4 ล้านไร่ มูลค่าทรัพย์สินเสียหาย 2.8 พันล้านบาท ขณะที่มูลค่าผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย 1.54 หมื่นล้านบาท คิดเป็นความเสียหายรวม 1.82 หมื่นล้านบาท หรือราว -0.10% ของ GDP
▪️ กรณีฐาน (Base case) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 9.5 ล้านไร่ มูลค่าทรัพย์สินเสียหาย 3.7 พันล้านบาท ขณะที่มูลค่าผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย 1.99 หมื่นล้านบาท คิดเป็นความเสียหายรวม 2.36 หมื่นล้านบาท หรือราว -0.13% ของ GDP
▪️ กรณีเลวร้ายที่สุด (Worst case) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 11.7 ล้านไร่ มูลค่าทรัพย์สินเสียหาย 4.5 พันล้านบาท ขณะที่มูลค่าผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย 2.45 หมื่นล้านบาท คิดเป็นความเสียหายรวม 2.9 หมื่นล้านบาท หรือราว -0.16% ของ GDP
ติดตามอ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็มที่ [คอมเมนต์]
#ผลกระทบอุทกภัยปี2568 #พื้นที่น้ำท่วมปี2568 #วิจัยกรุงศรี #ไทยพับลิก้า