https://www.facebook.com/113619460035831/

Hỗ trợ Cài Đặt Tool Soi Lá Bài, Ha Loi (2025)

28/02/2025

วาณา ลองจีวิตี้ (บางแสน) ทุ่มงบประมาณกว่า100 ล้านบาท เปิดตัว “VAANAA บางแสน” ศูนย์สุขภาพระดับไฮเอนด์ ยกระดับการดูแลสุขภาพและการชะลอวัยด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ล้ำสมัย รวมถึงศูนย์เก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์แห่งแรกของ จ.ชลบุรี

เมื่อเวลา 18.30 น.วันนี้ (28 ก.พ.) นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นายแพทย์ พรพิทักษ์ ตั้งจิตนพ ประธานกรรมการบริหาร ,นายพรพล ตั้งจิตนพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาณา ลองจีวิตี้ (บางแสน) จำกัด และนายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันตัดริบบิ้น เปิดตัว VAANAA บางแสน ศูนย์ดูแลสุขภาพเชิงลึกและศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์แห่งแรกของ จ.ชลบุรี

โดยใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาทเนรมิตพื้นที่กว่า 4 ไร่ในเขตบางแสน ให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและ Medical Tourism รับการขยายตัวของ EEC ที่จะมีทั้งนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ต้องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจและกลุ่มเจ้าสัวยุคใหม่ที่ต้องการสร้างชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพแข็งแรงให้กับตนเอง

นายแพทย์พรพิทักษ์ ตั้งจิตนบ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วาณา ลองจีวิดี้ (บางแสน) เผยว่า "VAANAA บางแสน เป็นสถาบันการรักษาและดูแลสุขภาพของคนไข้ที่จะก่อให้เกิดความสมดุลทั้งภายในและภายนอกด้วยแนวทาง Individualized ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลโดยเน้นการป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก ด้วยการนำแนวทางเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging) และเวชศาสตร์ฟื้นฟู (RegenerativeMedicine) มาช่วยให้มีสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาวขึ้น

โดยคลินิก VAANAA บางแสน พร้อมให้บริการด้าน Longevity & Regenerative Medicine โดยใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและการตรวจสุขภาพเชิงลึกคล้ายการเติม "จิ๊กชอว์" ของชีวิตที่ขาดไปหายให้สมบูรณ์มากขึ้น

“คนไข้ในอดีตมักจะมาหาหมอเมื่อเป็นโรค หรือมีอาการหนักมาก แต่ในปัจจุบันเรามีคนไข้กลุ่มที่ป้องกันสุขภาพของตนเองเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคที่เคยประสบกับกลุ่มเพื่อน หรือแม้แต่พี่น้อง ซึ่งการตื่นตัวของนชลบุรีและคนในภาคตะวันออกช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีแนวคิดเรื่องของการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรค และคนส่วนใหญ่อยากมีอายุที่ยืนยาวและสุขภาพที่แข็งแรงจนสามารถทำงานและดูแลตัวเองได้เหมือนคนหนุ่มสาวได้ ซึ่งลูกค้าของเรามีทุกกลุ่มโดยเฉพาะการเก็บสเต็มเซลล์ที่หากทำในช่วงที่อายุยังน้อยย่อมจะดีกว่าการเก็บในวันที่อายุมากแล้ว” นายแพทย์พรพิทักษ์ กล่าว

ด้านนายพรพล ตั้งจิตนบ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาณา ลองจีวิตี้ (บางแสน) จำกัด บอกว่า "VAANAA บางแสน” ไม่ใช่แค่คลินิกสุขภาพทั่วไปแต่ยังเป็นคลินิกที่ให้บริการเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์นานถึง 60 ปี รวมทั้งการเก็บ NK เซลล์ซึ่งเป็นสเต็มเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สามารถป้องกันไวรัส และเซลล์มะเร็งได้

ขณะที่จุดเด่นของ VAANAA บางแสน คือการให้บริการ Wellness & Longevity Center หรือการตรวจสุขภาพเซ็งลึกแบบองค์รวม ,Adianced RegeneratiMedicine หรือวิเคราะห์ระดับเซลล์เพื่อการฟื้นฟูร่างกายด้วยเทคโนโลยีเวชศาสตร์เฉพาะบุคคล

Personalized Anti-Aging Program การออกแบบโปรแกรมดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล

Exclusive & Private Healthcare Experience - การดูแลสุขภาพแบบส่วนตัวในบรรยากาศสุด

และ Cell Harvesting Center – ศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันและเซลล์รากผมเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์

“ ฐานลูกค้าของเรามีทุกระดับซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเจ้าของกิจการและเจ้าของโรงงานใน จ.ชลบุรี และภาคตะวันออก ที่เคยเดินทางไปใช้บริการในกรุงเทพฯ โดยลูกค้ากลุ่มนี้มีไลฟ์สไตล์ที่ให้ความสำคัญของการใช้จ่ายไปกับการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับตนเอง ด้วยการเลือกใช้นวัตกรรมในการสร้างชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพแข็งแรงและมีรูปลักษณ์ที่ดีอยู่เสมอ ” นายพรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว

28/02/2025

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว คว้ารางวัล winner ในกลุ่มรางวัล Best Brand Performance on Social Media สาขา public service ในงาน THAILAND SOCIAL AWARDS ครั้งที่ 13

วันนี้ ( 28 กุมภาพันธ์ 2568) นายณรงวิทย์ ชดช้อย ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ได้เข้ารับรางวัล winner ในกลุ่มรางวัล Best Brand Performance on Social Media สาขา public service ในงาน THAILAND SOCIAL AWARDS ครั้งที่ 13
ทั้งนี้เรายังคงมุ่งมั่นที่จะใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการทำงานเพื่อนำเสนอคาแรคเตอร์ของตัวสัตว์บนมาตรฐานการจัดการด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่ดีผ่านพี่ๆผู้ดูแลสัตว์ในการทำคอนเท้นท์ที่สร้างสรรค์ให้กับผู้ใช้โซเชียลมีเดียได้เข้าถึงและได้รับองค์ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่าต่อไป ณ ทรูไอคอน ฮอลล์, ไอคอนสยา กรุงเทพมหานคร

28/02/2025

AIS ลงพื้นที่ พร้อม นายกฯ ลุยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สกัดสัญญาณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

AIS ยกระดับมาตรการแก้ไขและควบคุมเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือบริเวณชายแดนที่มีความเสี่ยง เดินหน้าภารกิจร่วมกับภาครัฐ เพื่อสนับสนุนมาตรการซีลชายแดน ปฏิบัติการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ล่าสุดดำเนินการรื้อถอนสัญญาณบริเวณชายแดน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติงานและมอบนโยบาย ซึ่งที่ผ่านมา AIS ได้ปฏิบัติตามมาตรการเชิงรุกของ กสทช. อย่างต่อเนื่อง

นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “AIS มุ่งมั่นสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ หน่วยงานความมั่นคง ตำรวจ และ กสทช. อย่างเคร่งครัด เพื่อร่วมกำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทยให้หมดไป พร้อมดำเนินการแก้ไขเสาสัญญาณเพิ่มเติมในพื้นที่ 9 จังหวัด ตามมาตรการของ กสทช. โดยล่าสุด ได้มีคำสั่งให้ยกระดับเพิ่มความเข้มงวดในการจัดระเบียบเสาส่งสัญญาณบริเวณแนวชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยในพื้นที่กลุ่ม 1 ซึ่งอยู่ห่างจากเขตแดนไม่เกิน 50 เมตร ได้ทำการรื้อถอนสายอากาศที่ตลาดเบ็ญจวรรณ และปรับลดระดับสายอากาศลงมาที่ 10 เมตรที่ตลาดโรงเกลือ ส่วนพื้นที่กลุ่ม 2 ซึ่งอยู่ห่างจากเขตแดนไม่เกิน 1 กิโลเมตร ได้แก่ บ้านโคกสะแบงและช่องแคบเขาดิน ได้ทำการปรับลดระดับสายอากาศลงมาที่ 15 เมตรเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการยกระดับการป้องกันการใช้งานในลักษณะที่ผิดกฎหมาย ตามมาตรการของภาครัฐ AIS ได้ดำเนินการติด Tag ชื่อเครือข่ายที่สายสื่อสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังได้ดำเนินการระงับบริการ WIFI Calling ที่มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต WIFI ของผู้ให้บริการเครือข่ายที่ประเทศกัมพูชา เพื่อปิดกั้นช่องทางการสื่อสารข้ามพรมแดนของมิจฉาชีพอีกด้วย ทั้งนี้ เอไอเอสยังได้ดูแลเครือข่ายการใช้งานให้ลูกค้าและประชาชนในพื้นที่ ด้วยการเตรียมรถสถานีฐานเคลื่อนที่และติด Small Cell ให้สามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง”

“AIS ในฐานะผู้ให้บริการระบบสื่อสาร ขอยืนยันความมุ่งมั่นในการสนับสนุนมาตรการของรัฐบาลอย่างเต็มที่เพื่อปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อเสริมสร้างมาตรการป้องกัน ติดตาม และจับกุมผู้กระทำความผิดทางกฎหมาย เพื่อยกระดับสู่ปีแห่งความปลอดภัยไซเบอร์ของคนไทยอย่างแท้จริง”

28/02/2025

รวบแล้วช่างรับเหมาแสบ 18มงกุฏ ตุ๋นมัดจำต่อเติมบ้านและบ้านน็อคดาวน์ มูลค่าหลายล้านบาท

ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี , พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จว ชลบุรี, พ.ต.อ.ภาสกร ไพรจิตต์ ผกก.สืบสภ.จว.ชลบุรี ได้สั่งการให้ชุดจับกุม กก.สืบสวน ภ.จว.ชลบุรี นำโดย พ.ต.ต.ศราวุธ เห็มภิระ สว.กก.สืบสวนฯพร้อมกำลังชุดปฎิบัติการ 4 (-)ร่วมกันจับกุมตัว(-)
นายสกล นาสมนึก อายุ 43 ปีพร้อมของกลาง
- ยาบ้า จำนวน 6 เม็ด
และทำการตรวจยึด
- อาวุธปืนแบล็งค์กัน จำนวน 1 กระบอก
(ยึดเพื่อทำการตรวจสอบ)
โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง และเสพฯ โดยผิดกฎหมาย”
นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.มาบตาพุด สืบเนื่องมากจาก เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายว่าผู้ถูกจับมีพฤติการณ์หลอกลวง ฉ้อโกง และข่มขู่ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นลูกค้าที่ว่าจ้างให้สร้างบ้านน็อคดาวน์ ซึ่งต่อมา ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.หนองขาม และต่อมา ทราบว่าศาลจังหวัดชลบุรี อนุมัติหมายจับบุคคลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ถูกจับได้หลบหนีมาหลบซ่อนอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งในเขตตำบลตาพุด จังหวัดระยอง จึงได้ไปทำการตรวจสอบ และทำการจับกุมบุคคลดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.มาบตาพุด ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในส่วนหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี พนักงานสอบสวน สภ. หนองขาม จะได้ดำเนินการอายัดตัวเพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

27/02/2025

ชลบุรี วงจรปิดจับภาพ โจรขโมยเครื่องตัดหญ้า ขณะเจ้าของร้านวิ่งตามแต่ไม่ทัน หลบหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับเรื่องร้องทุกข์จากเจ้าของร้าน คุณกฤษฏิ์ หมึกซ๊อต หมู่ 2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ. ชลบุรี
มีโจรขโมยเครื่องตัดหญ้า ราคา 2,900 บาท โดยใช้จยย.ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน,ฟ้า ทะเบียน 3 กน 9246 ชลบุรี ใช้ในการหลบหนี ขณะเจ้าของร้านวิ่งตามแต่ไม่ทันหลบหนีอย่างลอยนวล เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุ ร้านคุณกฤษฏิ์หมึกซ๊อตในที่เกิดเหตุ พบเจ้าของร้านชื่อนางสาวชลธิชา ขัดหนูวงศ์ อายุ 39 ปี เบื้องต้นแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แต่คดีไม่คืบหน้า
สอบถามนางสาวชลธิชา ขัดหนูวงศ์ อายุ 39 ปี เล่าเหตุการณ์วันนั้นให้ฟังว่า วันนั้นเป็นวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น.ได้เข้ามาเปิดร้านเตรียมของแล้วได้ยกเครื่องตัดหญ้าไว้ข้างร้านและได้เตรียมของที่จะไว้ขาย สักพักได้ยินเสียงจยย.มาจอดแต่ก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไรเพราะ รถจักรยานยนต์วิ่งผ่านตลอด คิดว่าเป็นวิน เป็นไลน์แมนมาจอด ฟังไปฟังมาไม่น่าจะใช่แล้ว เงียบเหลือเกิน ก็เลยหันไปดูเห็นแต่ใส่หมวกกันน๊อกก็เลยเดินออกไป สักพักไปเจอคนขโมยเครื่องตัดหญ้าไปแล้ว วิ่งตามก็ไม่ทัน วิ่งกลับมาเอา จยย.ขับตามก็ไม่ทันคนร้ายแล้ว และเบื้องต้นได้แจ้งความไปแล้วแต่ก็ต้องรอ
อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งรัดคดีนี้ให้หน่อยครับ มีเจ้าทุกข์เยอะมากที่โดนโจรขโมยลักษณะนี้ เพราะละแวกนี้มีแต่คนประเภทนี้ กลุ่มนี้มาขโมยของ กับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของข้างทางมันอันตรายมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดคดีให้เร็วที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รับเรื่องคดีดังกล่าวแล้ว และจะตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

27/02/2025

ทลฉ.ทำพิธีลงเสาเอกเปิดงานการก่อสร้าง โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ส่วนที่ 2 ) งานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค บริเวณการก่อสร้างสะพานยกระดับ 4 ท่าเรือแหลมฉบัง เผยคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการให้ทันในปี 2570

วันนี้ ( 27 ก.พ.) เรือโท ยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง
เป็นประธานในพิธีลงเสาเอกการเปิดงานก่อสร้าง โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ส่วนที่ 2 ) พร้อมด้วยนายสันติ ศิริตันหยง รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง พ.ต.อ.ปพนพัชร์ ใบยา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง ผู้แทนจากบริษัท ซีเอชอีซี (ไทย) จำกัด ผู้เข้าค้าร่วมบริษัท เอเซี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง -คอนซัลแต้นส์ จำกัด และบริษัท โชติจินดา คอนซัลแตนท์ จำกัด และคณะผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบัง เข้าร่วมงาน
เรือโทยุทธนา เผยว่า ก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ส่วนที่ 2 ) งานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค ในวันนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ของประเทศไทย ให้มีความทันสมัยและ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ส่วนที่ 2 )เป็นโครงการที่มี ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขยายขีดความสามารถของท่าเรือแหลมฉบัง ให้สามารถรองรับการขนส่งสินค้าทางทะเลที่เพิ่มขึ้น และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางทะเลในระดับ ภูมิภาคอีกด้วยสำหรับรายละเอียดของก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่3 (ส่วนที่2) จะเป็นงานก่อสร้างในส่วนของอาคาร ท่าเทียบเรือ ระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค ซึ่งการท่าเรือฯได้ทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง ไปเมื่อวันที่31กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา กับ บริษัท ซีเอชอีซี (ไทย) จำกัด ในวงเงิน 7,298,000,000 บาท กำหนดระยะเวลาส่งมอบงานภายใน 1,260 วัน ซึ่งท่าเรือแหลมฉบังได้ส่งมอบพื้นที่ให้แก่บริษัท ซีเอชอีซี (ไทย) จำกัด ไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567
เรือโทยุทธนา เผยอีกว่า สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ส่วนที่ 1 ) ได้ทำไปแล้ว มีความคืบหน้าประมาณ 50 % จะเป็นในเรื่องของการขุดลอก และ ถมทะเล ส่วนงานส่วนที่ 2 นี้ จะไปช่วยทำให้งานในส่วนที่ 1 มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ก็คือในเรื่องของระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ทั้งถนนเส้นทางที่จะเข้าถึงโครงการ น้ำประปา ไฟฟ้า ที่จะเข้าถึงโครงการ รวมทั้งการก่อสร้างถ้าเทียบเรือชายฝั่งของเฟส 3 โดยงานแรกที่ผู้รับเหมาเริ่มดำเนินการก่อน คือส่วนของสะพานข้ามทางรถไฟ ซึ่งในงานของเฟส 3 จะพยามลดจุดตัดของทางรถไฟให้น้อยที่สุด เพื่อให้ปริมาณการขนส่งทางรถไฟเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้คือประมาณ 30% ของภาพรวมการขนส่งของท่าเรือแหลมฉบังทั้งหมด
ทั้งนี้โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ส่วนที่ 2 ถือว่าเป็นความคืบหน้าที่มีความสำคัญ หลังจากนี้ ท่าเรือแหลมฉบังต้องกำกับดูแลเพื่อให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ ซึ่งการท่าเรือฯ ได้ตั้งเป้าไว้ว่าโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะ ที่ 3 ให้แล้วเสร็จ ในปี 2570

27/02/2025

คณะครู นักเรียน ร.ร. บ้านศรีฯ ร่วมแสดงความรักความผูกพัน อำลาผู้อำนวยการย้ายรับตำแหน่งผู้อํานวยการโรงเรียนเทศบาลดอนหัวฬ่อ ๑
อาคารอเนกประสงค์ (โดมเขียว) โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา ได้จัดพิธี “ด้วยรักและผูกพันมิเสื่อมคลาย จากใจพี่น้องบ้านศรี” เนื่องในโอกาส นายสกันณ์วุฒิ เศรษฐีกมล ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา ย้ายไปดํารงตําแหน่งผู้อํานวยการโรงเรียนเทศบาลดอนหัวฬ่อ ๑ (บ้านมาบสามเกลียว) โดยมีคณะผู้บริหาร คณะครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ตัวแทนนักเรียนเข้าแถวต้อนรับพร้อมมอบของที่ระลึกให้กับผู้อำนวนการ จากนั้น นายสุชาติ คำพะไมย รองผู้อำนวยโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา ได้กล่าวความรู้สึก และ ตัวแทนนักเรียนทุกระดับชั้น คฯะครู แม่บ้าน และ ผู้ปกครอง ได้ร่วมแสดงความยินดีกับผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา ที่ย้ายไปดํารงตําแหน่งผู้อํานวยการโรงเรียนเทศบาลดอนหัวฬ่อ ๑
โดย นายสกันณ์วุฒิ เศรษฐีกมล เข้ารับตําแหน่งผู้อํานวยการสถานศึกษาโรงเรียน
เทศบาลบ้านศรีมหาราชา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 เมื่อเข้ารับตําแหน่ง มีนโยบายในการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศในศตวรรษที่ 21 กําหนดทิศทาง นโยบาย และนําพาสถานศึกษาไปสู่ ความสําเร็จ มีความพร้อมในด้านคุณลักษณะที่โดดเด่น ทักษะทางปัญญาสูง เป็นักบริหารมืออาชีพ มีจิตเชิงสร้างสรรค์ มีเจตคติที่ดี และมีวิสัยทัศน์ตลอดจนพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ และสร้างสถานศึกษาให้เป็นองค์กรนวัตกรรมยุคใหม่ให้มีคุณลักษณะโดดเด่นเหมาะสม
โครงการที่เป็นที่ได้รับการตอบรับอย่างดีต่อผู้ปกครองและชุมชนและเป็นที่โดดเด่น คือ โครงการ Mini English Program หรือ ห้อง MEP โครงการส่งเสริมความเป็นเลิศทางกีฬาและนันทนาการ ได้รับรางวัลมากมายจากกีฬาทุกประเภทในระดับภาค
ตะวันออกและระดับประเทศ โครงการส่งเสริมสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ ส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนที่มีความถนัดทางด้านวิชาการได้แสดงความสามารถ ยังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในสถานศึกษาให้นักเรียนสามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข
นอกจากนี้ ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากําหนด มีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ ที่กําหนดไว้ชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ตามความต้องการของชุมชน ส่งเสริมให้มีจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้สะอาด สะดวก ปลอดภัยและเอื้อต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ และ มีการกําหนดยุทธศาสตร์และการนํายุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ ส่งผลให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ เก่ง ดี มีความสุข อีกด้วย

27/02/2025

โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชาเปิดหน่วยสมเด็จฯ ปันสุขเครื่องมือแพทย์ ราชินูปถัมภีก์ เพื่อการบริการให้ผู้ป่วยยืม เครื่องมืองมืออุปกรณ์ทางการมหารแพทย์ที่

ที่ แผนกฉุกเฉินเก่า อาคารเฉลิม
พระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ชั้น 1 นายแพทย์สมยศ โล่จินดาพงศ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เป็นประธานเปิดหน่วยสมเด็จฯ ปันสุขเครื่องมือแพทย์ ซึ่งได้เริ่มก่อตั้ง เมื่อ เดือนสิงหาคม 2567 โดย
ความร่วมมือระหว่างฝ่ายการพยาบาลโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ศูนย์ปันน้ำใจสาธุ มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์โดยมีวัตุประสงค์เพื่อการบริการให้ผู้ป่วยยืม เครื่องมืองมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่
จำเป็นต้องไต้ต่อเนื่องที่บ้าน ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือผู้ป่วย
ประคับประคอง ที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ ได้แก่ เตียง ที่นอนลม เครื่องดูดเสมหะ เครื่องผลิตออกซิเจน รถเข็นนั่ง เป็นต้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ลดวัน
นอนโรงพยาบาล และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดหาอุปกรณ์ของผู้ป่วยและญาติเป็นการ
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งรับบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีผู้มีจิตศรัทธา
บริจาคให้กับทางหน่วย เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ให้กับผู้ป่วยที่จำเป็นต่อไป ซึ่ง
หน่วย สมเด็จฯ ปันสุขเครื่องมือแพทย์ จะเปิดดำเนินการ ณ แผนกฉุกเฉินเก่า อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ชั้น 1 โดยมีเจ้าหน้าที่อาสากาชาดมาเปิดบริการให้ผู้ป่วย
หรือญาติ ยืมอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปใช้ที่บ้าน ทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี เวลา 13.00-15.00 นาฬิกา ส่วนการรับบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ เปิดรับบริจาคทุกวัน และเวลาราชการโดยมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ให้ยืม และรับบริจาค ได้แก่ เตียงไฟฟ้า ที่นอนลม
เครื่องดูดเสมหะ
เครื่องผลิตออกซิเจน/ ถังออกซิเจน รถเข็นนั่ง อุปกรณ์ช่วยเดิน
และแพมเพิส

สัมภาษณ์ พลเรือตรีหญิงอำไพวัลย์ สวยสม ประธานศูนย์ปันน้ำใจสาธุ มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์

26/02/2025

ท่าเรือยูนิไทย เปิดตัว อุปกรณ์ปั้นจั่นพลังงานไฟฟ้ายกตู้สินค้าชุดใหม่
(New Ship-To-Shore Crane) ยกระดับอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์

บริษัท ยูไนเต็ด ไทย ชิปปิ้ง จำกัด หรือ ท่าเรือยูนิไทย ได้รับมอบอุปกรณ์ปั้นจั่นพลังงานไฟฟ้ายกตู้สินค้าชุดใหม่หน้าท่า (New Ship-To-Shore Crane) จาก Wuxi HuaDong Heavy Machinery Co.,Ltd (HDHM) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมเครื่องจักรสำหรับท่าเรือ เชี่ยวชาญในการผลิตปั้นจั่นหลายประเภท พร้อมยกระดับมาตรฐานการให้บริการที่มีความรวดเร็วและแม่นยำในการยกและเคลื่อนย้ายตู้สินค้า เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของท่าเรือ บริการขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ และการจัดการคลังสินค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เดินหน้าผู้นำอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์

สำหรับพิธีเปิดอุปกรณ์ปั้นจั่นพลังงานไฟฟ้ายกตู้สินค้าชุดใหม่หน้าท่า (New Ship-To-Shore Crane) ได้รับเกียรติจาก คุณชิรพงค์ ก่อกิจสัมมากุล Head of Thailand Shipping and Logistics บริษัท ยูไนเต็ด ไทย
ชิปปิ้ง จำกัด, คุณวศะ จันทร์แสงสุก ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ท่าเรือยูนิไทย (Unithai Container Terminal),
คุณจรรย์จิรา พนิตพล Head, Corporate office Thailand , คุณสุภารัตน์ เอกจิตราอมร Country Finance Head of Unithai Group , และ Ms. Faye Liu Senior Vice President (Port Equipment Business) เข้าร่วมพิธีตัดริบบิ้นเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และได้มีการสาธิตการใช้งานอุปกรณ์ปั้นจั่นพลังงานไฟฟ้าให้แขกผู้เกียรติได้รับชมประสิทธิภาพการทำงาน

นายชิรพงค์ ก่อกิจสัมมากุล Head of Thailand Shipping and Logistics บริษัท ยูไนเต็ด ไทย ชิปปิ้ง จำกัด กล่าวว่า “ ท่าเรือยูนิไทย ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาศักยภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง การนำเทคโนโลยีอันทันสมัย และ AI มาช่วยในการทำงาน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และการขนส่ง ด้วยประสิทธิภาพที่ล้ำหน้าของเครนใหม่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของท่าเรือยูนิไทย ให้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ช่วยควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การประหยัดพลังงานด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน มุ่งเน้นพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม สอดรับกับการขยายช่องทางการค้าสู่ตลาดใหม่ และการเติบโตของตลาดออนไลน์ การพัฒนาเส้นทางขนส่งที่เชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งระบบธุรกิจขนส่งทางน้ำมีบทบาทสำคัญต่อภาคการค้าระหว่างประเทศ ทั้งด้านการส่งออก การขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทางการค้าของประเทศ”

นายวศะ จันทร์แสงสุก ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ท่าเรือยูนิไทย (Unithai Container Terminal) กล่าวเสริมว่า “ปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าชุดใหม่นี้ มีขนาดใหญ่กว่าเดิม สามารถรองรับเรือขนส่งสินค้าด้วยระยะจับยกตู้ 14 แถว และเพิ่มประสิทธิภาพในการยกตู้สินค้าได้ถึง 5 ชั้น นอกจากนี้ ยังสามารถยกตู้สินค้าได้สูงสุดถึง 40 ตัน ปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าชุดใหม่นี้ ไม่เพียงแต่เพิ่มความรวดเร็วและความแม่นยำในการยกและเคลื่อนย้ายตู้สินค้า ยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเรือได้เป็นอย่างมาก ท่าเรือยูนิไทยยึดมั่นในการพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การพัฒนาในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการให้บริการของท่าเรือ
ยูนิไทย ที่จะช่วยให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น”

ท่าเรือยูนิไทย ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO 9001:2015 และ ISO 45001:2018 และปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยของเรือและท่าเทียบเรือระหว่างประเทศ (ISPS CODE) เป็นท่าเรือมาตรฐานระดับสากลที่มีเครื่องมือสำหรับขนถ่ายสินค้าครบวงจร และสถานที่ตั้งเข้าถึงง่าย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2540
บนทำเลดีเยี่ยมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในจังหวัดสมุทรปราการ ทางตะวันออกของกรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ ในการเทียบเรือตู้คอนเทนเนอร์เพื่อขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ให้บริการด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับจัดการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ที่ทันสมัย ระบบบริหารจัดการท่าเรือที่มีประสิทธิภาพ ลดระยะเวลาการรอรับตู้คอนเทนเนอร์ภายในท่าเรือ (Truck Turn Around Time) บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง เพื่อนำเสนอบริการที่มีคุณภาพตอบสนองตรงความต้องการของลูกค้า

ท่าเรือยูนิไทยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพและขยายบริการด้านการขนส่งทางน้ำให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าและการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์
อย่างยั่งยืนในอนาคต
# # #

เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทยูนิไทย
กลุ่มบริษัทยูนิไทย ดำเนินธุรกิจด้านอู่ซ่อมเรือชั้นนำ งานบำรุงรักษาโรงกลั่นน้ำมัน ปิโตรเคมี แท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่งครบวงจร งานวิศวกรรมโครงสร้างบนบกและนอกชายฝั่ง พลังงานหมุนเวียน รวมทั้งบริษัทในเครือต่าง ๆ ที่ให้บริการด้านซัพพลายเชนโซลูชั่นแบบครบวงจร ท่าเรือเอกชน คลังสินค้า บริการด้านขนส่งและโลจิสติกส์ ตัวแทนขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ พันธกิจของบริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการพัฒนาความเจริญด้านชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและความร่วมมือทางธุรกิจที่ดีกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคม ชุมชน และประเทศ

26/02/2025

ชวนสัมผัส“ รถไฟคาเฟ่” อีกหนึ่งคาเฟ่สวยเมืองศรีราชา ทางเลือกใหม่คนรักกาแฟด้วยการคัดสรรเมล็ดกาแฟจาก จ.น่าน ที่คว้ารางวัลการประกวดระดับประเทศ เสริมเมนูต่างๆโดยบาริสต้าฝีมือดี ส่วนชื่นชอบเบเกอรี่สไตล์โฮมเมด –ปลอดไขมันทราน ห้ามพลาดเมนูแนะนำ เค้กฟักทอง เค้กแครอท ช่วยฮิลใจย่ามฝุ่นพิษท่วมเมือง รองรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายของโลกภายนอกด้วยบรรยากาศการตกแต่งสวนสไตล์ยุโรป พร้องจัดโซนห้องประชุมสัมมนาทั้งขนาดเล็ก กลางและใหญ่ ไฮไลต์มีขบวนรถไฟให้ได้ชมทุก 15 นาที พิกัดด้านหลังโรงน้ำแข็งวรัญชญ์ ไม่ไกลจากวลัญชญ์ เพลส และวลัญชญ์ โฮเทล อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี #ค่าเฟ่เปิดใหม่ #กาแฟ #ร้านกาแฟ #ศรีราชาชลบุรี

Hỗ trợ Cài Đặt Tool Soi Lá Bài

28/02/2025

28/02/2025

28/02/2025

28/02/2025

27/02/2025

27/02/2025

27/02/2025

27/02/2025

26/02/2025

26/02/2025

Address

Telephone

Website

Alerts

Shortcuts

Share

Category