24/01/2025
“พิพัฒน์” ห่วงใย มอบ เลขาฯ “อารี” จ่ายเงินสงเคราะห์ - สิทธิประโยชน์ว่างงาน เยียวยาลูกจ้างยานภัณฑ์ถูกเลิกจ้าง รวมมูลค่ากว่า 38.9 ล้านบาท
วันที่ 24 มกราคม 2568 เวลา 09.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานมอบเงินสงเคราะห์จากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง และเงินสิทธิประโยชน์ กรณีว่างงาน และกรณีอื่น ๆ ให้แก่ลูกจ้างของ บริษัท ยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) โดยมี เรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ผู้บริหารกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม ผู้บริหารกรมการจัดหางาน ผู้แทนลูกจ้างบริษัท ยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) และที่ปรึกษาและกรรมการสภาองค์การลูกจ้างศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทย ร่วมด้วย ณ ห้องประชุมคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ชั้น 1 กระทรวงแรงงาน
นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จากกรณีที่บริษัท ยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ ได้ประกาศเลิกจ้างลูกจ้าง จำนวน 859 คน เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา โดยไม่จ่ายสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายให้กับลูกจ้าง ทำให้ลูกจ้างรวมถึงครอบครัวของลูกจ้างได้รับความเดือดร้อน โดยกลุ่มลูกจ้างได้รวมตัวกันยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือต่อนายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา นั้น กระทรวงแรงงานไม่ได้นิ่งนอนใจ ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้ผม ผู้บริหารกระทรวง อธิบดีทุกกรม รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการดำเนินการ ซึ่งเราได้ระดมสรรพกำลังจากทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานได้รับความช่วยเหลือให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้หลังจากถูกเลิกจ้าง
ในวันนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้จ่ายเงินสงเคราะห์จากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ให้แก่ลูกจ้าง เป็นเงินจำนวน 6,940,560 บาท และสำนักงานประกันสังคมได้จ่ายเงินสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน และกรณีอื่น ๆ ให้แก่ลูกจ้าง จำนวนเงิน 32,056,017.74 บาท รวมทั้งสองกรณีเป็นเงินทั้งสิ้น 38,996,577.74 บาท โดยลูกจ้างจะได้รับเงินประมาณคนละ 70,000 บาท ซึ่งสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของลูกจ้างได้ในระหว่างหางานทำ นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานได้จัดหาตำแหน่งงานว่างให้แก่ลูกจ้าง ซึ่งปัจจุบันลูกจ้างมีงานทำแล้ว จำนวน 81 คน รวมถึงกรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้ดำเนินการฝึกอาชีพให้ลูกจ้าง ในส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดีอาญากับนายจ้างนั้น หลังจากที่ผมได้สั่งการให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการนำลูกจ้างไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 และให้ติดตามเร่งรัดการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน วันนี้ทราบว่า พนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ได้ออกหมายเรียกนายจ้างให้มาพบแล้วเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ซึ่งนอกจากความช่วยเหลือของกระทรวงแรงงานแล้ว ผมยังได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบสิทธิประโยชน์อื่นใดที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับ ตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน เช่น สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานสรรพากรจังหวัด เป็นต้น ด้วย
นายอารี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ผมยังได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานดำเนินการเฝ้าระวังการเลิกจ้าง โดยสำนักงานประกันสังคมตรวจสอบสถานประกอบกิจการที่มีการค้างจ่ายเงินสมทบ และส่งรายชื่อให้กับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ให้ทั้งสองหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกัน หากเกิดเหตุการณ์เลิกจ้างจะได้ให้ความช่วยเหลือลูกจ้างได้ทันท่วงที อย่างไรก็ตามขอฝากไปยังผู้ประกอบการ นายจ้าง และลูกจ้าง ในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ให้มีการปรับตัว วางแผนเตรียมการ และเตรียมความพร้อมในทุกด้าน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ต้องปิดกิจการและเลิกจ้างลูกจ้างจำนวนมากเช่นกรณีนี้
“ขอให้เชื่อมั่นการทำงานของกระทรวงแรงงานภายใต้การนำของ ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคงต่อไป” นายอารี กล่าว
