Hotnews-365 ข่าวสารประชาสัมพันธ์

 #ฮอตนิวส์365ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ยาบ้ากว่า 6.9 ล้านเม็ดนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล....
08/09/2025

#ฮอตนิวส์365

ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ยาบ้ากว่า 6.9 ล้านเม็ด

นโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. ให้ตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ตอนในรอบกรุงเทพฯ เข้มงวดกวดขันสกัดกั้น ตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านตามแนวตะเข็บชายแดน เข้ามายังพื้นที่ตอนใน เพื่อนำมาซุกซ่อนแล้วจะกระจายส่งต่อให้กับเครือข่ายในพื้นที่ต่างๆ

ในวันนี้ (8 ก.ย.68) ขอแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ซี่งเป็นผู้ลำเลียงโดยใช้รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ดัดแปลงซุกซ่อนยาเสพติด จากภาคเหนือลักลอบนำเข้ามายังพื้นที่ตอนใน โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 4 ก.ย.68

ตำรวจภูธรภาค 1 นำโดย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช. ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา, พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.วิศิษฏ์ มะอักษร รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.จักรพันธ์ โอสถากันต์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.1 และ พ.ต.อ.พีรพัสส์ ชูช่วย ผกก.สืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม

สำนักงาน ป.ป.ส. นำโดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส., นายทิพเมษฐ์ สังขวรรณะ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 1 และ ว่าที่ร้อยตรี อากาศ ปานแย้ม นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ สำนักงาน ปปส.ภาค 1

พฤติการณ์กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนทราบว่า จะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อนำมาซุกซ่อนพักคอยในพื้นที่ภาคกลางก่อนจะกระจายไปยังเครือข่าย โดยผู้ลำเลียงจะใช้รถบรรทุก 6 ล้อ เสริมคอก สีขาวเขียว หมายเลขทะเบียน 70-###X กำแพงเพชร โดยอำพรางทำทีเป็นรถบรรทุก ต้นกล้าไม้ เดินทางไปส่งยังพื้นที่ภาคเหนือ และจะตีรถเปล่ากลับมายังพื้นที่ภาคกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบรามยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 1 (ศอ.ปส.ภ.1) และ ศอ.ปส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา จึงได้วางแผนเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของรถบรรทุกคันดังกล่าว ต่อมาในวันที่ 3 ก.ย.68 พบว่ารถคันดังกล่าว แล่นผ่านพื้นที่ จว.พระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้าไปทางพื้นที่ภาคเหนือ เชื่อว่าจะเดินทางขึ้นไปรับยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เฝ้าสังเกต และในวันที่ 4 ก.ย.68 พบว่ารถคันดังกล่าวแล่นออกจากพื้นที่ภาคเหนือมุ่งหน้าลงมาทาง ภาคกลาง จึงได้สะกดรอยติดตามมาตลอดเส้นทาง จนมาถึงถนนสายเอเชียเขตพื้นที่ อ.มโนรมย์ จว.ชัยนาท รถคันดังกล่าวได้จอดบริเวณริมทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบผู้ขับขี่ชื่อนายชาฯ (นามสมมติ) ท่าทีมีพิรุธและพยายามจะหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวไว้ได้ และเพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เชิญตัวผู้ขับขี่พร้อมนำรถคันดังกล่าวไปขอทำการตรวจค้นอย่างละเอียดภายในปั๊มน้ำมัน ริมถนนสายเอเชีย ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จว.ชัยนาท ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ซุกซ่อนอยู่ใต้ท้องบรรทุกที่

ถูกดัดแปลง รวมทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 6,918,000 เม็ด แบ่งเป็น 3 ชุด ได้แก่ ยาบ้าห่อด้วยกระดาษที่มีตัวอักษร “L/AAA” ประมาณ 4,318,000 เม็ด ยาบ้าห่อด้วยกระดาษที่มีตัวอักษร “Y1” ประมาณ 1,400,000 เม็ด และยาบ้าห่อด้วยกระดาษที่มีตัวอักษร “999” ประมาณ 1,200,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายชาฯ ผู้ขับขี่รถยนต์ว่าได้กระทำผิดฐาน “จำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในสังคม ซึ่งกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชน” พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดในเครือข่ายนี้โดยเร่งด่วนต่อไป

ตำรวจภูธรภาค ๑ มีความมุ่งมั่นที่จะปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและเด็ดขาด จึงใคร่ขอประชาสัมพันธ์ หากพบบุคคล รถต้องสงสัย หรือมีข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด โปรดโทรแจ้งที่หมายเลข 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้อมูลไปสืบสวนขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป

“ตำรวจภูธรภาค 1 เป็นหนึ่ง พึ่งได้ ทันสมัย ดูแลความปลอดภัย เพื่อประชาชน”

 #ฮอตนิวส์365ศุลกากรจับผู้โดยสารเวียดนาม ลักลอบขนนอแรดจากแองโกลา เตรียมผ่านไทยไปลาว มูลค่า 6.9 ล้านบาทวันนี้ (วันที่ 7 ก...
07/09/2025

#ฮอตนิวส์365

ศุลกากรจับผู้โดยสารเวียดนาม ลักลอบขนนอแรดจากแองโกลา เตรียมผ่านไทยไปลาว มูลค่า 6.9 ล้านบาท

วันนี้ (วันที่ 7 กันยายน 2568) นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า ตามที่นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ได้มีนโยบายให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อปกป้องสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ของประเทศไทยและของโลก หน่วยงานในสังกัดกรมศุลกากรจึงเฝ้าระวังการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับ
การลักลอบค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืชอย่างใกล้ชิด โดยนายวิศณุ วัชราวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ในสังกัดฯดำเนินการตามนโยบายอย่างเคร่งครัด เพื่อสกัดกั้นขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่า
และพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ หรืออนุสัญญาไซเตส (CITES) ผ่านทางท่าอากาศยาน โดยใช้ข้อมูลการข่าว และการวิเคราะห์ข้อมูลผู้โดยสารจากระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า จนสามารถระบุตัวผู้โดยสาร
ที่มีความเสี่ยงในการลักลอบขนส่งนอแรดผ่านประเทศไทย และนำไปสู่การขยายผลตรวจค้น - จับกุมได้ในครั้งนี้

โดยเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 19.45 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากร ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการจับกุมผู้โดยสารชายสัญชาติเวียดนาม เดินทางจากกรุงลูอันดา สาธารณรัฐแองโกลา มีกำหนดเปลี่ยนเที่ยวบิน ที่กรุงแอดดิสอาบาบา สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย
เพื่อเดินทางต่อไปยังปลายทางนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยชายคนดังกล่าว
มีลักษณะตรงตามข้อมูลที่ทำการวิเคราะห์ไว้ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น พบนอแรด จำนวน 5 ชิ้น น้ำหนักรวม 6.86 กิโลกรัม มูลค่าเบื้องต้นประมาณ 6.9 ล้านบาท ซึ่งกรณี เป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และ พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558

โฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า กรมศุลกากรจะทำการร่วมมือและวิเคราะห์ข้อมูลกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อสกัดกั้นขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืชตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ หรืออนุสัญญาไซเตส (CITES) ให้เกิดวามมั่นคง ทางสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป

 #ฮอตนิวส์365สามล้อไฟฟ้าเบรกไม่อยู่ พุ่งชนรถเสียหาย 3 คัน บาดเจ็บ 3 ราย ย่านถนนสุขสวัสดิ์เมื่อเวลา 07.48 น. วันที่ 6 กัน...
06/09/2025

#ฮอตนิวส์365

สามล้อไฟฟ้าเบรกไม่อยู่ พุ่งชนรถเสียหาย 3 คัน บาดเจ็บ 3 ราย ย่านถนนสุขสวัสดิ์

เมื่อเวลา 07.48 น. วันที่ 6 กันยายน 2568

เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคันบริเวณใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 15/1 แขวงบางประกอก เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร มีผู้บาดเจ็บหลายราย จึงประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนสามเลน แต่เนื่องจากมีการก่อสร้างทำให้เหลือเพียงสองเลนเท่านั้น พบรถสามล้อไฟฟ้าสีส้ม ทะเบียน สก 1829 กรุงเทพมหานคร พลิกตะแคงอยู่บนเลนซ้าย ผู้ขับขี่รถสามล้อเป็นชาย อายุ 29 ปี ยืนรออยู่ในที่เกิดเหตุ ถัดไปพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า PCX สีขาว ทะเบียน 7กต 9480 กทม. ล้มคว่ำ โดยมีผู้บาดเจ็บเป็นหญิงสองราย ซึ่งหญิงอายุ 54 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส หายใจรวยริน และ หญิง อายุ 31 ปี คนขับรถจักรยานยนต์ ได้รับบาดเจ็บเช่นกันเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลและนำทั้งคู่ส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 1 อย่างเร่งด่วน

ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125i สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 กม 2762 นครปฐม ผู้ขับขี่หญิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล จึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ

นอกจากนี้ยังมีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลนิสสัน สีเขียว ทะเบียน ญต 9344 กทม. ได้รับความเสียหายเล็กน้อย เจ้าของรถกำลังประสานบริษัทประกันภัย

ทางด้าน ผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า รถสามล้อไฟฟ้าได้ชนรถจักรยานยนต์คันหนึ่งก่อน จากนั้นเสียหลักไปพุ่งชนรถจักรยานยนต์ PCX สีขาวอีกครั้ง ทำให้ผู้ขับขี่บาดเจ็บรุนแรง ส่วนรถยนต์คันสีเขียวน่าจะมีการปาดหน้า จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่อง

ส่วนทางด้าน ผู้ขับขี่สามล้อไฟฟ้าให้การว่า ตนขับมาจากแยกบางประแก้ว เมื่อถึงจุดเกิดเหตุรถติด จึงเบรกกะทันหัน แต่เบรกไม่อยู่ ทำให้พุ่งชนรถจักรยานยนต์ด้านหน้า

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 #ฮอตนิวส์365ป.ป.ส. ขับเคลื่อน Best Practice พลิกสถานการณ์ยาเสพติด ต่อยอดต้นแบบสู่ก้าวใหม่ที่ยั่งยืนวันที่ 3 กันยายน 256...
03/09/2025

#ฮอตนิวส์365

ป.ป.ส. ขับเคลื่อน Best Practice พลิกสถานการณ์ยาเสพติด ต่อยอดต้นแบบสู่ก้าวใหม่ที่ยั่งยืน

วันที่ 3 กันยายน 2568 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย Ms. Delphine Schantz (เดลฟีน ช้านท์ซ) ผู้แทนสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime: UNODC) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก คณะเจ้าหน้าที่ประสานงานยาเสพติดต่างประเทศประจำประเทศไทย (Foreign Anti-Narcotics Community-FANC) และประชาชน ร่วมกิจกรรม “Best Practices: The Next Chapter ต่อยอดต้นแบบ สู่ก้าวใหม่ที่ยั่งยืน” ณ ห้องประชุมชิดชัย วรรณสถิตย์ สำนักงาน ป.ป.ส. โดยงานในวันนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ผลการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดในรอบปีงบประมาณ 2568 ชูต้นแบบโมเดลแห่งความสำเร็จของชุมชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมแนวทางการต่อยอดไปสู่ความยั่งยืน

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า Best Practice ที่ยกเป็นต้นแบบในวันนี้เป็นการนำรูปแบบการทำงานที่พิสูจน์แล้วว่าทำได้จริง มาต่อยอดสู่ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน โดยมีผลงานเด่นที่ควรขยายต่อ อาทิ การสร้างพื้นที่ปลอดภัยในชุมชนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังประชาชน การพัฒนางานวิจัยยาทดแทนยาบ้า การสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน “Seal Stop Safe” ปฏิบัติการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ทำลายเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ และปฏิบัติการ “เด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย” ลดระดับความรุนแรงของปัญหายาเสพติดในพื้นที่ เพื่อคืนความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทั้งหมดได้กลายเป็นต้นแบบที่สามารถต่อยอดต่อไปได้อย่างยั่งยืน แต่พลังของชุมชน ถือเป็นจุดสำคัญ
ในการพลิกสถานการณ์แก้ไขปัญหายาเสพติด

Ms. Delphine Schantz กล่าวชื่นชมสำนักงาน ป.ป.ส. ที่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยยึดหลัก “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” ซึ่งเป็นหลักสากล และครอบคลุมทุกมิติ จนส่งผลให้ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น และชื่นชมความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบที่สามารถพิสูจน์แล้วว่าเป็นแนวทางที่ใช้ได้จริง เช่น ธวัชบุรีโมเดล โรงเรียนแสงแห่งความหวังโมเดล ท่าอิฐโมเดล เป็นต้น พร้อมย้ำว่า ความสำเร็จเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนในประเทศ แต่ยังสามารถต่อยอดและแบ่งปันประสบการณ์กับภูมิภาคและนานาชาติได้

นอกจากนี้ ยังมีเสวนาพิเศษในหัวข้อ “Best Practices Showcase” แลกเปลี่ยนมุมมองจากพื้นที่ต้นแบบโรงเรียนแสงแห่งความหวังโมเดล จังหวัดชัยภูมิ และท่าอิฐโมเดล จังหวัดนนทบุรี โดยนางสาวอัจฉรา อาษาสู้ นายอำเภอภักดีชุมพล นายสมศักดิ์ สวามีชัย ผู้ใหญ่บ้านพัฒนาสามัคคี จ.ชัยภูมิ นายกษมา ท่าอิฐ ผู้ใหญ่บ้านชุมชนมัสยิดท่าอิฐ จ.นนทบุรี และผู้ผ่านการบำบัด ร่วมเสวนา และช่วงท้ายของกิจกรรมเป็นการส่งต่อกำลังใจจากต้นแบบผู้ที่สามารถเลิกยาเสพติดได้ด้วยพลังใจของตนเอง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและการกล้าเปลี่ยนชีวิต ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ได้สนับสนุนทุนประกอบอาชีพให้ได้สร้างชีวิตใหม่ แสดงให้เห็นว่า “เมื่อพลังใจของผู้เลิกยา เชื่อมต่อกับการสนับสนุนจากภาครัฐ การกลับคืนสู่สังคมอย่างมีคุณค่า จึงเป็นจริงได้และยั่งยืน”

เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวช่วงท้ายว่า “ปัจจัยที่จะทำให้การขับเคลื่อนเหล่านี้ยั่งยืน คือ การที่ชุมชนเป็นเจ้าของปัญหาและร่วมกันแก้ไข การบูรณาการของทุกภาคส่วน และการผูกโยงกิจกรรมเข้ากับวิถีชีวิตประจำวัน จนเกิดเป็นความภูมิใจร่วมกันของคนในชุมชน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของความยั่งยืนอย่างแท้จริง” กิจกรรมในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอความสำเร็จ หากแต่ยังเป็นเวทีในการสะท้อนพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคีเครือข่ายในระดับนานาชาติ อันจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่สังคมว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง รอบด้าน และบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อมุ่งสู่อนาคต
ที่ปลอดภัยและยั่งยืน

 #ฮอตนิวส์365มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งกระจายกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ระดมทีมกู้ชีพ กู้ภัย จัดตั้งโรงครัวฯ จัดกำลัง...
02/09/2025

#ฮอตนิวส์365

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งกระจายกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ระดมทีมกู้ชีพ กู้ภัย จัดตั้งโรงครัวฯ จัดกำลังช่วยเหลือชาวเพชรบูรณ์ และส่งทีมสังคมสงเคราะห์ แผนกสาธารณภัยฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ชาวเชียงราย พะเยา น่าน สุโขทัย
ตามที่ประเทศไทยได้เกิดอุทกภัยในหลากหลายพื้นที่ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ มอบหมายให้นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ เร่งกระจายทีมบูรณาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยวานนี้ (วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2568 ) ได้เร่งจัดทีมบรรเทาสาธารณภัย นำโดย นายวรพจน์ จรัสเศรษฐสิริ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ นำทีมกู้ภัย กู้ชีพ อาสาสมัคร พร้อมเรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า รถกู้ภัยและรถพยาบาลขับเคลื่อน 4 ล้อ เสื้อชูชีพ น้ำดื่ม ชุดยาสามัญประจำบ้าน อาหารสุนัขและแมว เร่งลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในทันที โดยกองอำนวยการฯ และโรงครัวเคลื่อนที่ จัดตั้ง ณ บริเวณสมาคมกกไทร พ่งไล้ยี่จับเซียวเกาะ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งในขณะนี้ ทีมบรรเทาฯ กำลังปฏิบัติภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ โดยท่านสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก https://xn--www-5kl6e4af9xg.facebook.com/atpohtecktung หรือดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung
พร้อมกันนี้ ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม -1 กันยายน พ.ศ. 2568 แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย นายชุมพล บุญภักดี ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสาธารณภัย จัดทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 4 จังหวัดเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน และสุโขทัย แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันพืช และน้ำปลา รวมทั้งสิ้น 8,000 ชุด รวมมูลค่าทั้งสิ้น 3,600,000 บาท (สามล้านหกแสนบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งมูลนิธิสงเคราะห์ 14 จังหวัดภาคใต้ และ สมาคม/มูลนิธิแต่ละจังหวัด เป็นผู้ประสานงานและร่วมให้ความช่วยเหลือ
เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น พร้อม ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ โดยแผนกสาธารณภัย จะประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท และกรณีมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นอกจากนี้ ในปี พ.ศ.2568 ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ โดยแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ริเริ่มโครงการมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยยากไร้ โดยร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย โดยได้ทำพิธีมอบไปแล้ว 2 จังหวัดภาคเหนือ รวมงบประมาณการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด และมอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยยากไร้ในปี 2568 กว่า 20.6 ล้านบาท
ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

 #ฮอตนิวส์365ดร.แก้ว แถลงข่าว “จัดคอนเสิร์ตการกุศล เพื่อกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ของ กต.ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ “ วันที่ 27 สิงห...
27/08/2025

#ฮอตนิวส์365

ดร.แก้ว แถลงข่าว “จัดคอนเสิร์ตการกุศล เพื่อกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ของ กต.ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ “

วันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลา 13.30 นาฬิกา ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ ประธาน กต.ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมคณะกต.ตร. และคณะที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์
จัดแถลงกิจกรรมคอนเสิร์ตเพื่อการกุศล โดยศิลปิน ใหม่ เจริญปุระ ซึ่งจัดขึ้นในวันพุธที่ 29 ตุลาคม 2568 เวลา 19.00 น. - 21.00 น. ณ เวสต์เกตฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต
โดย กต.ตร.ได้แต่งตั้งคณะทำงานที่ปรึกษาทั้งหมด 17 ท่าน เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์และจำหน่ายบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตการกุศล ซึ่งในการออกประชาสัมพันธ์ คณะที่ปรึกษาทุกท่านจะต้องมีบัตรประจำตัวที่ลงนามโดยประธาน กต.ตร.ติดแสดงชัดเจนตลอดเวลา เพื่อป้องกันความสับสนและป้องกันการแอบอ้างที่ไม่ถูกต้อง ให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน

หากมีข้อสงสัยประการใดๆโทรสอบถามที่ กต.ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ เบอร์โทร 02-5883782- 085-7675252
หัวหน้าคณะทำงานประชาสัมพันธ์

 #ฮอตนิวส์365ไฟไหม้แท็กซี่กลางลานจอด เจ้าของช็อกพูดไม่ออกเมื่อเวลา 22.24 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2568 อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่...
27/08/2025

#ฮอตนิวส์365

ไฟไหม้แท็กซี่กลางลานจอด เจ้าของช็อกพูดไม่ออก

เมื่อเวลา 22.24 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2568

อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ) รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์จากสายด่วน 199 ภายในลานจอดรถหาญตระกูลมูลนิธิแห่งประเทศไทย ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยราษฎร์บูรณะ รวมถึงอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบทันที

ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้รถแท็กซี่สาธารณะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเหลือง ทะเบียน ทฬ 1442 กรุงเทพมหานคร โดยเพลิงเริ่มจากห้องเครื่องและลุกลามเข้าไปในห้องโดยสาร เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัด ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ตัวรถเสียหายกว่า 50%

จากการตรวจสอบทราบชื่อเจ้าของรถคือ นาย สรรชัย อายุ 53 ปี เล่าว่า ได้นำรถมาจอดตั้งแต่เวลา 17.00 น. ก่อนกลับบ้านพัก กระทั่งมีผู้โทรมาแจ้งว่ารถเกิดไฟไหม้ เมื่อมาถึงก็พบว่ารถถูกไฟลุกไหม้จนไม่สามารถทำอะไรได้

ด้านนายรังสิมันตุ์ เอี่ยมวงษา อาสาสมัคร อปพร.ราษฎร์บูรณะ เปิดเผยว่า ขณะเข้าถึงที่เกิดเหตุ เพลิงได้ลุกลามไปแล้วกว่าครึ่งคัน แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ จากการสอบถามเบื้องต้นพบว่ารถคันดังกล่าวติดตั้งระบบเชื้อเพลิงแก๊ส NGV

สาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบระบบเครื่องยนต์อย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะนี้เจ้าของรถยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 #ฮอตนิวส์365พบศพชายลอยกลางแม่น้ำเจ้าพระยา คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วันเมื่อเวลา 12.04 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2568 ร.ต.อ.พงศ์ภ...
26/08/2025

#ฮอตนิวส์365

พบศพชายลอยกลางแม่น้ำเจ้าพระยา คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน

เมื่อเวลา 12.04 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2568 ร.ต.อ.พงศ์ภรณ์ ศรีเผือก รองสารวัตรสอบสวน สน.ปากคลองสาน รับแจ้งเหตุพบศพลอยน้ำบริเวณท่าน้ำราชวงศ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจึงรุดตรวจสอบทันที

ที่เกิดเหตุใต้สะพานพุทธ ถนนพญาไม้ เขตคลองสาน กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำได้ใช้เรือช่วยนำศพลอยน้ำมาผูกไว้เพื่อรอการตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุประมาณ 35–40 ปี ผมสั้นเกรียน รูปร่างสันทัด ผิวดำแดง สูงราว 160–165 ซม. สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีขาว ไม่สวมรองเท้า ภายในไม่พบเอกสารหรือทรัพย์สินใด ๆ

จากการตรวจสอบร่างกาย พบเพียงรอยสักรูปดอกกุหลาบบริเวณหน้าท้อง ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วราว 3 วัน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปตรวจชันสูตรเพิ่มเติมที่นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช พร้อมเร่งติดตามหาญาติมารับศพเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

 #ฮอตนิวส์365มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมค่าพาหนะ ในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 รวม 5,000 ชุด ...
26/08/2025

#ฮอตนิวส์365

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมค่าพาหนะ ในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 รวม 5,000 ชุด และจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนบริการตรวจรักษาฟรี ณ สุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร

วันนี้ (วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ
นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ และนางชุติมา ตันติศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการ จัดพิธีแจกข้าวสารพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค เนื่องในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 ให้กับประชาชนผู้ยากไร้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงรอบสุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตำบลโรงเข้ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 5,000 ชุด พร้อมมอบค่าพาหนะคนละ 200 บาท ซึ่งในปีนี้จัดเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาทั้งชุดเครื่องอุปโภคบริโภคและค่าพาหนะ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ยากไร้ สอดรับกับปริมาณผู้ที่มารอรับและค่าครองชีพในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้น โดยสิ่งของที่แจกประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำปลา น้ำมันพืช ขนม และ เสื้อผ้า บรรจุถุงผ้ามูลนิธิฯ โดยมี นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ร่วมในพิธี ณ สุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตำบลโรงเข้ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร

ภายในงาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดเจ้าหน้าที่ – อาสาสมัครมูลนิธิฯ ดูแลอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มารอรับ พร้อมบริการอาหารและน้ำดื่ม รวมถึงจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน (หน่วยแพทย์เคลื่อนที่) ออกบริการประชาชน โดยมีคณะอาสาสมัครเฉพาะกิจ และอาสาสมัครศิลปิน อาทิ นายฐานัตถ์ จิรรัชชกิจ (บูม) นายรัชต์พงษ์ ทองทับ (น้าทูล) นายรชต โชติมิตรจตุรผล (ตั๊ก) นายปิยะวัฒน์ รัตนหรูวิจิตร (หรูหรา) ร่วมสร้างสีสันภายในงาน โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจทั้งผู้ให้และผู้รับ

นอกจากนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยังมีกำหนดการแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ยากไร้อีก 2 แห่ง ประกอบด้วย วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568 ณ คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว สาขาศรีราชา จังหวัดชลบุรี และ วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568 ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ รวมทั้งมอบให้แก่องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคเนื่องในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 แก่ประชาชนทั้งสิ้น 3 จังหวัด คิดเป็นมูลค่า 15.5 ล้านบาท

ประเพณีทิ้งกระจาด เป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่ปฏิบัติสืบทอดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยมูลนิธิฯ ได้ปฏิบัติสืบเนื่องมาทุกปีเป็นเวลาช้านานไม่ต่ำกว่า 80 ปี เพราะถือว่าเป็นประเพณีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เพื่อนมนุษย์ที่ล่วงลับไปแล้วทั้งที่เป็นญาติและไม่เป็นญาติพร้อมกับทำทานให้แก่ผู้ยากไร้ ในช่วงประเพณีแต่ละปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จะมีผู้มีจิตศรัทธานำเครื่องเซ่นไหว้ อาทิ ข้าวสารอาหารแห้ง และอื่น ๆ มากราบสักการะหลวงปู่ และองค์ไต่สือเอี้ย เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศล และสะเดาะเคราะห์ ซึ่งมูลนิธิฯ จะรวบรวมไว้ไปสมทบกับสิ่งของที่มูลนิธิฯ จัดซื้อเพิ่มเติม เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ยากไร้ โดยมูลนิธิฯ ได้มีการพัฒนาแจกจ่ายสิ่งของเครื่องใช้ ให้เข้ากับการใช้งานในแต่ละยุคแต่ละสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีพ.ศ. 2568 นี้ มูลนิธิฯ ได้มีการเพิ่มชุดเครื่องอุปโภคบริโภคเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเพิ่มค่าพาหนะให้แก่ผู้มารับสิ่งของ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ยากไร้ สอดรับกับปริมาณผู้ที่มารอรับและค่าครองชีพในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้น

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอบุญบารมีองค์หลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ดลบันดาลให้ผู้มีจิตศรัทธา เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และครอบครัวของทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในงานมหาบุญมหากุศลนี้ มีความสุข ความเจริญ สุขภาพร่างกายแข็งแรงตลอดปี ตลอดไป

ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung หรือที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418
“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

 #ฮอตนิวส์365สน.บางรัก สนธิกำลัง กก.ดส.และ191 บุก ตรวจสถานบันเทิง ไร้ฉี่ม่วง เมื่อวันที่(25 ก.ค.68) เวลา 23.30 น. ภายใต้...
26/08/2025

#ฮอตนิวส์365

สน.บางรัก สนธิกำลัง กก.ดส.และ191 บุก ตรวจสถานบันเทิง ไร้ฉี่ม่วง

เมื่อวันที่(25 ก.ค.68) เวลา 23.30 น.
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.บางรัก มอบหมายให้ พ.ต.ท.ธเรศ วงศ์วรานุรักษ์ รอง ผกก.ป.สน.บางรัก พ.ต.ต.เกริกเกียรติ คงดี สวป.สน.บางรัก พ.ต.ต.อังกูร ตู้วัฒนะวาณิช สว.(สอบสวน)สน.บางรักหน.ชุดปฏิบัติการเดินเท้า สน.บางรัก พ.ต.ต.หญิง ชาดา เสสะเวช
สว.กก.ดส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และชุดปฏิบัติการเดินเท้า สน.บางรัก,
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.,เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สพป.(191) และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.น.6

พ.ต.ท.ธเรศ วงศ์วรานุรักษ์ รองผกก.ป.สน.บางรัก กล่าว กำชับกับเจ้าหน้าที่ว่าก่อนปล่อยแถวว่า ห้ามมิให้ผู้มาใช้บริการที่มีอายุต่ำกว่า20 ปีบริบูรณ์ เข้าใช้บริการโดยเด็ดขาด และให้มีเจ้าหน้าที่ค้นตัวและกระเป๋าผู้เข้ามาให้บริการอย่างละเอียด ห้ามมิให้มียาเสพติด,อาวุธ,หรือสิ่งผิดกฎหมายอื่นใด เข้าไปภายในสถานที่ของตนโดยเด็ดขาด โดยให้สังเกตุพฤติกรรมผู้เข้าใช้บริการ คอยสอดส่องตรวจตรา ภายในห้องน้ำ อย่างสม่ำเสมอ ระมัดระวังเรื่องการใช้เสียง เพื่อมิให้เกิดการร้องเรียนจากผู้พักอาศัยข้างเคียง ตรวจสอบกล้องวงจรปิด หากเกิดเหตุต่างๆภายในร้าน ต้องสามารถขอข้อมูลกล้องวงจรปิดได้ในทันที กรณีจะมีเหตุทะเลาะวิวาทให้รีบเข้าไประงับในทันที และแยกคู่กรณีออกจากกันโดยเร็วจากนั้นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
มี และต้องมีมาตรการป้องกันเพลิงไหม้ พร้อม ทางหนีไฟและถังดับเพลิงที่เพียงพอ

โดยการเข้าตรวจปิดล้อมตรวจค้นสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการแห่งภายในซอยสีลม 2/1 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ได้อตรวจสอบใบอนุญาตจำหน่ายสุรา และใบอนุญาตเปิดสถานบันเทิง และตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของนักเที่ยว และพนักงานโดยแบ่ง เป็นชายและหญิงก่อนจะทำการตรวจ ปัสสาวะหาสาร เสพติดในร่างกาย ซึ่งไม่พบผู้ที่มีปัสสาวะสีม่วง และสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด

ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายในการปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers”ผนึกกำลัง สร้างหมู่บ้านชุมชนปลอดยาเสพติด กำชับและเน้นย้ำ 4 มาตรการสำคัญ แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังในพื้นที่ รวมไปถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

 #ฮอตนิวส์365มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งให้การต้อนรับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าสักการะหลวงปู่ไต้ฮง และทำบุญชุดข้าวสาร เนื่องใน...
25/08/2025

#ฮอตนิวส์365

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งให้การต้อนรับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าสักการะหลวงปู่ไต้ฮง และทำบุญชุดข้าวสาร เนื่องในงานประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
วันนี้ (วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายณัฐวัตร ก้อนทอง หัวหน้าแผนกกฎหมายและคดี พร้อมด้วย นายอร่ามฤทธิ์ โกไศยกานนท์ เจ้าหน้าที่แผนกสื่อสารองค์กร (ไทย) / ผู้ประสานงานสื่อมวลชน มูลนิธิฯ ให้การต้อนรับ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พิทักษ์1) พร้อมด้วย พลตำรวจตรี วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (น.2) พลตำรวจตรี วิชัย แดงประดับ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. และ ช่วยราชการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ที่ปรึกษามูลนิธิฯ) และ พันตำรวจเอก อภิเชษฐ์ ทรัพย์ส่งเสริม (ผู้กำกับการ สน.พลับพลาไชย 1) เข้าสักการะหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) และทำบุญชุดข้าวสาร เนื่องในงานประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 โดยมี พนักงาน และอาสาสมัครมูลนิธิฯ ร่วมให้การต้อนรับ ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung
# # มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต # #
#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

 #ฮอตนิวส์365ดส.รวบหนุ่มระยองประดิษฐ์ปืนขายผ่านออนไลน์คาร้านกาแฟเมืองจันทบุรีเมื่อวันที่ 24 ส.ค. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น...
24/08/2025

#ฮอตนิวส์365

ดส.รวบหนุ่มระยองประดิษฐ์ปืนขายผ่านออนไลน์คาร้านกาแฟเมืองจันทบุรี

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล, พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์, พ.ต.ท.มโรดม์ ขวัญเมือง รอง ผกก.ดส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ท.รชต พุ่มพันธุ์ม่วง สว.กก.ดส.บช.น. ร.ต.อ.กิตติกานต์ สินประกอบ
รอง สว.กก.ดส.บช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ชป.4 กก.ดส.บช.น. ร่วมกันจับกุมตัวนายสิทธิพงศ์ ปิณฑะศิริ อายุ 35 ปี ของกลาง อาวุธปืนแบงกันดัดแปลง ขนาด 9 มม ยี่ห้อ BAREDDA Z88 1 กระบอก พร้อม แม็กกาซีน 1 ซอง บรรจุรวมในกล่อง สีดำ อาวุธปืนแบงกันดัดแปลง ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ BAREDDA C85 1 กระบอก พร้อม แม็กกาซีน 1 ซอง บรรจุรวมในกล่องสีดำ เครื่องกระสุนปืน ขนาด .380 ยี่ห้อ บูลเลสมาสเตอร์ 6 นัด เครื่องกระสุนปืน ขนาด.380 7 นัด ลำกล้องปืน โครงปืน แบบแท่นเจาะสว่านสีส้ม 1 เครื่องมอเตอร์เพลาสำหรับเจียรและขัด สีเขียว 1 เครื่อง สว่านยี่ห้อ Bosch สีเขียวเข้ม 1 เครื่อง กระเป๋า สีฟ้า พร้อมผ้าห่มสีชมพู สำหรับ ทดสอบการยิงปืน ป้องกันการกระเด็นของปลอกกระสุน ท่อเหล็กมีรูไว้ดัดแปลงทำลำกล้องปืน เลื่อยสำหรับตัดเหล็กลำกล้องปืนปากกาจับชิ้นงาน ตะไบ ลำกล้องปืน ขนาด .380 4 อัน จับกุมบริเวณ
หน้าร้านกาแฟ เทวิกา คาเฟ่ 66 ม.5 ถ.สุขุมวิท ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 23 ส.ค.เวลาประมาณ 17.50 น. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก กก.ดส. ระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม จับกุมกลุ่มผู้ลักลอบค้าขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ผ่านออนไลน์ ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.ดส. สืบทราบว่า นายสิทธิพงศ์ ได้ทำการประดิษฐ์อาวุธเพื่อซื้อขายจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายสิทธิพงศ์ ชาว อ.แกลง จ.ระยอง จึงได้ทำการล่อซื้อจนกระทั่งจับกุมได้ที่หน้าร้านกาแฟดังกล่าวจ.จันทบุรี ก่อนขยายผลตรวจค้นที่พักพบอาวุธปืนแบงกันดัดแปลงเป็นอาวุธปืนใช้ได้จริงหลายกระบอก และเครื่องมือ วัสดุใช้ในการผลิตอาวุธปืน จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนประกอบอาชีพเป็นช่างซ่อมรถผันตัวมาประดิษฐ์ปืน เพราะชื่นชอบอาวุธปืน จึงเริ่มทำมาได้ 8-9 เดือน ขายกระบอกละ 8,000 บาท รายได้ดี

เบื้องต้นแจ้งข้อหา ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวผู้ถูกจับส่ง พงส. สภ.ท่าใหม่ ภ.จว.จันทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Hotnews-365ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์