04/09/2023
🚩ไขมันในช่องท้อง ใช่ว่าจะดูดออกได้ !
วิธีลดพุงป่อง ๆ อย่าคิดว่าแค่ไปดูดไขมันหน้าท้องแล้วทุกอย่างที่กินมาจะหายไป เพราะรู้ไหมว่าไขมันในช่องท้องนั้นดื้อกว่าที่คิด !
ความอ้วนที่ได้มาจากการกินล้วน ๆ จนกลายเป็นไขมันสะสมอยู่ตามร่างกายส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะหน้าท้องของเราเอง ใครที่เข้าใจว่าไขมันที่พอกพูนผิวหนังเหล่านี้จัดการได้ง่าย ๆ แค่อาศัยเทคโนโลยีดูดไขมันก็กลับมาหุ่นดีได้แบบเดิมแล้ว ขอเคลียร์ให้เข้าใจตรงนี้เลยค่ะว่าคุณคิดผิดมหันต์ แต่จะเป็นเพราะอะไร มาดูเฉลยจากแพทย์หญิงธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือหมอผิง จากเพจ Pleasehealth Books กันค่ะ
“จริง ๆ แล้วไขมันที่เราเห็นกองกันอยู่เป็นพุงพลุ้ย ๆ ก้อนเดียวนั้น มีอยู่สองส่วน ส่วนหนึ่งคือไขมันที่ชั้นใต้ผิวหนังซึ่งเรียกว่า Subcutaneous fat เป็นไขมันที่เราใช้มือบีบผิวแล้วยกขึ้นมาเป็นก้อนได้ เห็นกันเป็นรูปธรรม
กับไขมันอีกส่วนที่อยู่ในช่องท้อง ติดอยู่กับลำไส้ จับไม่ได้ มองไม่เห็น เว้นแต่จะผ่าท้องแล้วเอาลำไส้ออกมากอง เราก็จะเห็นก้อนไขมันเหลือง ๆ เกาะกันอยู่อย่างสามัคคี ! ไขมันส่วนนี้เรียกว่า Visceral fat
การดูดไขมัน คือ การใช้เครื่องมือไปทำลายเซลล์ไขมัน ไม่ว่าจะด้วยความร้อนหรือความเย็น ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบันนั้น จะกำจัดได้เฉพาะไขมันชั้นใต้ผิวหนัง สามารถทำให้หน้าท้องคุณแบนลง ใส่เสื้อผ้าสวยขึ้นได้ แต่ไม่สามารถทะลุทะลวงเข้าไปกำจัดไขมันในช่องท้อง หรือเจ้า Visceral fat ได้เลย
แต่ปัญหาคือไขมันส่วนที่อันตรายต่อสุขภาพ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ไขมันพอกตับ หรือความดันโลหิตสูง คือไขมันที่อยู่ในช่องท้องนี่แหละค่ะ ส่วนไขมันที่อยู่ชั้นใต้ผิวหนังจะหนักไปทางอันตรายต่อความสวยความงามทางสายตาเสียมากกว่า
การจะลดไขมันในช่องท้องนั้น ไม่มีทางลัด ต้องอาศัยวินัยและความอดทนในการปรับอาหาร ลดน้ำตาล น้ำเชื่อมฟรุกโตส ของทอด ไขมันทรานส์ สุรา และการออกกำลังกายสม่ำเสมอเท่านั้น
ดังนั้นหากจุดประสงค์ในการลดพุงของคุณ คืออยากมีสุขภาพที่ดีขึ้นเป็นหลัก ก็ต้องเริ่มที่ปรับอาหาร ออกกำลังกาย และทำความเข้าใจเสียใหม่ว่า ไขมันในช่องท้องนั้น เป็นไขมันที่ดูดไม่ออกค่า”
พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (หมอผิง)
Twitter, Instagram:
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (หมอผิง) จากเฟซบุ๊ก Pleasehealth Books