Pita Limjaroenrat fc

  • Home
  • Pita Limjaroenrat fc

Pita Limjaroenrat  fc เพจนี้ ถูกจัดขึ้น เพื่อสนับสนุน คุณ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เท่านั้น

02/01/2024

สวัสดีปีใหม่ 2567🎉🤗

“พิธา”  ร่วมประชุม 3 สมาคม อปท. นำเสนอแลกเปลี่ยนโรดแมพกระจายอำนาจสามขั้น : 100 วันแรกยกเลิก-แก้ระเบียบมหาดไทยปลดล็อกอิสร...
04/06/2023

“พิธา” ร่วมประชุม 3 สมาคม อปท. นำเสนอแลกเปลี่ยนโรดแมพกระจายอำนาจสามขั้น : 100 วันแรกยกเลิก-แก้ระเบียบมหาดไทยปลดล็อกอิสระ อปท.// 1 ปีทำประชามติยุบส่วนภูมิภาคเปิดทางเลือกตั้งผู้ว่าฯ// 4 ปีถ่ายโอนงานเงินคนให้ท้องถิ่น 2 แสนล้าน ด้านนายกท้องถิ่นแห่ตอบรับ-พร้อมสนับสนุน เตรียมจัดเวิร์กช็อปร่วมกัน ประมวลแผนผลักดันกระจายอำนาจ
———
Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล, วรภพ วิริยะโรจน์ ทีมเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล รวมทั้งว่าที่ ส.ส.และตัวแทนจากพรรคก้าวไกล ร่วมการประชุมเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะนโยบายด้านการกระจายอำนาจของพรรคก้าวไกล ร่วมกับสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้ง 3 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมสันนิบาตเทศบาล, สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัด และ สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบล
โดยเนื้อหาของการพูดคุยหลักในวันนี้ เป็นการประมวลข้อเสนอจากทั้งสามสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ากับข้อเสนอต่างๆ ในนโยบายการกระจายอำนาจของพรรคก้าวไกล พร้อมทั้งร่วมแลกเปลี่ยนกันในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของพิธา ระบุว่าวันนี้ตนตั้งใจมารับฟังจากตัวแทน อปท. ทุกคนถึงอุปสรรคในการทำงาน และเป้าหมายที่เราจะทำร่วมกันในอนาคตเพื่อประชาชนได้ เมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ
พิธาระบุว่า นายก อปท. ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว ว่าอำนาจบริหารท้องถิ่นทุกวันนี้ถูกมัดมือมัดเท้าไว้ อำนาจบริหารทำไม่ได้ด้วยกฎหมาย การเงิน การขาดอำนาจต่อรอง และการตรวจสอบที่ไม่ได้มาจากประชาชน ทั้งหมดนี้นำไปสู่สภาพที่อำนาจการตัดสินใจงบประมาณ 84% อยู่กับส่วนกลาง เหลืออยู่ที่ท้องถิ่นแค่ 16% ซึ่งตนไม่เคยเห็นประเทศไหนที่เป็นแบบนี้ จะสามารถก้าวข้ามกับดักประเทศรายได้ปานกลางได้เลย
ดังนั้น ตนเชื่อว่าเป้าหมายที่พวกเราต่างอยากเห็นร่วมกัน ก็คือการกระจายความเจริญ กระจายอำนาจ กระจายงบประมาณ กระจายบุคลากร และการกระจายภารกิจ ซึ่งพรรคก้าวไกลมีแผนการทั้งในระยะ 100 วันแรก 1 ปีแรก และ 4 ปีแรกของรัฐบาล ที่พรรคก้าวไกลขอนำเสนอเพื่อขอรับฟังความคิดเห็นจากทุกคนในวันนี้ กล่าวคือ:
ภายใน 100 วันแรก ยกเลิกระเบียบกระทรวงมหาดไทยที่เป็นอุปสรรคต่อการกระจายอำนาจและการทำงานของท้องถิ่น รวมถึงคำสั่ง คสช. 8/2560 เพื่อคืนอำนาจการคัดเลือกบุคลากรให้ท้องถิ่น ให้ท้องถิ่นสามารถทำบริการสาธารณะได้ทั้งหมดยกเว้นที่ห้ามทำ รวมทั้งการแก้ไข พ.ร.บ.แผนขั้นตอนการกระจายอำนาจ และแก้ไข พ.ร.บ.จัดตั้ง 5 ท้องถิ่น ให้ออกระเบียบการเบิกจ่ายเองได้
ภายใน 1 ปีแรก จัดทำประชามติให้มีการเลือกตั้งผู้บริหารจังหวัด และยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค พร้อมกับการแก้ไข พ.ร.บ.ข้าราชการท้องถิ่นให้สอดคล้องกัน
และภายใน 4 ปีแรก บรรลุเป้าหมายการถ่ายโอนภารกิจ งบประมาณ และบุคลากร โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 2 แสนล้านบาทต่อปีภายใน 4 ปี
พิธายังระบุต่อไป ว่าการกระจายอำนาจคือการระเบิดพลังทางเศรษฐกิจ 7 พันกว่าลูกพร้อมๆ กัน ผลการศึกษาเกี่ยวกับการกระจายอำนาจล้วนแต่บ่งชี้ไปในทางเดียวกันว่ายิ่งมีการกระจายอำนาจมาก ก็ยิ่งทำให้จีดีพีโตมากขึ้น ยิ่งกระจายอำนาจมากความเหลื่อมล้ำแต่ละภูมิภาคก็ยิ่งลดลง และยิ่งกระจายอำนาจมากการทุจริตก็จะยิ่งลดลง
ดังนั้น ความเจริญทางเศรษฐกิจ การลดความเหลื่อมล้ำ และการลดการทุจริต คือความสำคัญของการกระจายอำนาจ ซึ่งไม่ใช่แค่สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วเท่านั้น แต่รวมถึงประเทศที่กำลังพัฒนาด้วย ทั้งหมเเป็นสถิติที่มากพอ ที่บ่งชี้ไปในทางเดียวกันว่าการทำให้ท้องถิ่นมีอำนาจ งบประมาณ และบุคลากรเพียงพอ จะนำไปสู่การระเบิดพลังทั้งทางเศรษฐกิจ การลดความเหลื่อมล้ำ และการลดการทุจริตไปได้พร้อมกัน
“ไม่มีอะไรท้าทายเกินความคาดหวังของประชาชน การกระจายอำนาจมีทั้งสิ่งที่ทำได้โดยรวดเร็ว มีทั้งสิ่งที่ทำได้อย่างรวดเร็วและต้องรอบคอบ และมีสิ่งที่ต้องอาศัยส่วนร่วมจากประชาชน มีเรื่องที่รัฐบาลทำได้เลย มีเรื่องที่ต้องทำประชามติ และบางเรื่องต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งหมดนี้ผมมั่นใจว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจและสบายใจร่วมกัน ว่าการกระบายอำนาจไม่ใช่เรื่องสุดโต่ง แต่เป็นสิ่งที่จะนำความเจริญมาสู่พี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศไทย” พิธากล่าว
ทั้งนี้ หลังการประชุม ตัวแทนจากทั้งพรรคก้าวไกลและ 3 สมาคม อปท. ได้หารือกำหนดวันและแผนการจัดทำเวิร์กช็อปร่วมกัน ระหว่างตัวแทน อปท. และพรรคก้าวไกล เพื่อประมวลข้อเสนอจากทั้งสองฝ่ายเข้ามาร่วมกัน โดยเฉพาะในการเพิ่มเติมข้อเสนอเกี่ยวกับการแก้ไขและยกเลิกระเบียบต่างๆ ของส่วนกลาง ให้ครอบคลุมทุกมิติของการเปลี่ยนผ่านสู่การกระจายอำนาจ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 15-16 มิ.ย. นี้
#รัฐบาลก้าวไกล #ปลดล็อกท้องถิ่น

02/06/2023

เปิดวิสัยทัศน์ มุมมอง ทัศนคติ ของ พิธา เกี่ยวกับ มหาวิทยาลัย คลิปสัมภาษณ์นี้ เมื่อ 8 ปีที่แล้ว
#พิธา #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #นายกขวัญใจประชาชน #กาก้าวไกล #การเรียน

02/06/2023

#การเมือง #ก้าวไกล #กาก้าวไกล #กาก้าวไกลทั้ง2ใบ

02/06/2023
 #การเมือง  #บุรีรัมย์✅👏
02/06/2023

#การเมือง #บุรีรัมย์✅👏

กรรมกรข่าว คุยนอกจอ (ยามเช้า) กับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ บอกอย่าง “ลิซ่า BLACKPINK” เป็นพรีเซนเตอร์ให้เหล้าสักยี่ห้อ ชี้ ความฝันอีก 4 ปี อยากเห็นสินค้าไทยดังไปทั่วโลก

#เรื่องเล่าเช้านี้ #ข่าวช่อง3 #ข่าวการเมือง #พิธาลิ้มเจริญรัตน์

โดยใน MOU จัดตั้งรัฐบาลก็มีเนื้อหายืนยันการผลักดันประเด็นวาระความเท่าเทียมทางเพศ และใน 45 ร่างกฎหมายที่พรรคก้าวไกลเตรียม...
02/06/2023

โดยใน MOU จัดตั้งรัฐบาลก็มีเนื้อหายืนยันการผลักดันประเด็นวาระความเท่าเทียมทางเพศ และใน 45 ร่างกฎหมายที่พรรคก้าวไกลเตรียมเสนอเข้าสภาทันที มีอย่างน้อย 2 ร่างกฎหมายเกี่ยวข้องกับประเด็นความเสมอภาคทางเพศ ได้แก่
-กฎหมายสมรสเท่าเทียม
-กฎหมายรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่พวกเราจะต้องผลักดันให้ได้ก่อนจะมีการจัดงาน WorldPride หรืองานใดๆ ก็แล้วแต่ เพื่อแสดงให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าการยอมรับในความหลากหลายคือจุดแข็งของประเทศนี้
มันคือทั้ง Soft Power และ Hard Value ด้วย
มันคือความเชื่ออันหนักแน่นของสังคมไทยว่า “คนเท่ากัน” #ก้าวไกล

ไม่ใช่แค่ Pride Month แต่คือ Pride Alwaysผม, ว่าที่นายก, พวกเรา, พรรคก้าวไกล, ภาคประชาสังคม, ภาคเอกชน, รวมทั้งทางกรุงเทพ...
02/06/2023

ไม่ใช่แค่ Pride Month แต่คือ Pride Always
ผม, ว่าที่นายก, พวกเรา, พรรคก้าวไกล, ภาคประชาสังคม, ภาคเอกชน, รวมทั้งทางกรุงเทพมหานครและรัฐบาลชุดใหม่ มีความพร้อมในการนำกิจกรรมระดับโลกอย่าง WorldPride มาจัดที่ไทยในปี 2028 ต่อจากซิดนีย์, วอชิงตัน ดีซี และอัมสเตอร์ดัม ให้จงได้
ความสำคัญของงาน WorldPride นี้ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว แต่คือการสร้างความตระหนักรู้ในสังคม ความเป็นคนเท่ากัน ศักดิ์ศรีและสิทธิเสรีภาพของพลเมืองทุกคนต้องเท่ากัน
โดยใน MOU จัดตั้งรัฐบาลก็มีเนื้อหายืนยันการผลักดันประเด็นวาระความเท่าเทียมทางเพศ และใน 45 ร่างกฎหมายที่พรรคก้าวไกลเตรียมเสนอเข้าสภาทันที มีอย่างน้อย 2 ร่างกฎหมายเกี่ยวข้องกับประเด็นความเสมอภาคทางเพศ ได้แก่
-กฎหมายสมรสเท่าเทียม
-กฎหมายรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่พวกเราจะต้องผลักดันให้ได้ก่อนจะมีการจัดงาน WorldPride หรืองานใดๆ ก็แล้วแต่ เพื่อแสดงให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าการยอมรับในความหลากหลายคือจุดแข็งของประเทศนี้
มันคือทั้ง Soft Power และ Hard Value ด้วย
มันคือความเชื่ออันหนักแน่นของสังคมไทยว่า “คนเท่ากัน”. #ก้าวไกล #กาก้าวไกล

[ ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรภายใต้รัฐบาลก้าวไกล? MOU คืออะไร? ]พรรคก้าวไกลยืนยันมาโดยตลอดตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ว่ากา...
31/05/2023

[ ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรภายใต้รัฐบาลก้าวไกล? MOU คืออะไร? ]
พรรคก้าวไกลยืนยันมาโดยตลอดตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ว่าการจัดตั้งและร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคการเมืองควรต้องเอาวาระหรือนโยบายเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่กระทรวงหรือตำแหน่งเป็นตัวตั้ง
ในฐานะพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจเป็นอันดับหนึ่ง เราได้เดินหน้าเพื่อเป้าหมายในการจัดตั้งรัฐบาลกับ 8 พรรคการเมือง (รวมทั้งหมด 313 คน) ที่เราเชื่อว่ามีอุดมการณ์และมุมมองต่ออนาคตประเทศไทยที่อยากเห็น ที่สอดคล้องกันในภาพรวม
ในเมื่อรัฐบาลก้าวไกลเป็นรัฐบาลผสมที่ประกอบไปด้วยหลายพรรคการเมือง เราจำเป็นต้องเคารพความเห็นที่แตกต่างเชิงนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลอื่น โดยคำนึงถึงความไว้วางใจที่พรรคการเมืองเหล่านี้ได้รับจากประชาชนมาผ่านคูหาเลือกตั้งเช่นกัน
ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนได้รับความชัดเจนว่ารัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคก้าวไกลจะผลักดันวาระอะไรบ้าง เราแบ่งวาระออกเป็น 2 ส่วน
1. วาระ “ร่วม” ของทุกพรรคร่วมรัฐบาล (ระบุใน MOU)
วาระและนโยบายที่ทุกพรรคเห็นตรงกัน พร้อมผลักดันร่วมกันผ่านกลไกบริหารและนิติบัญญัติ และพร้อมรับผิดชอบร่วมกัน
2. วาระ “เฉพาะ” ของแต่ละพรรคการเมือง (ไม่ถูกระบุใน MOU)
วาระและนโยบายที่แต่ละพรรคขับเคลื่อนเอง เพิ่มเติมจาก (แต่ต้องไม่ขัดแย้งกับ) นโยบายใน MOU ผ่าน 2 กลไกหลัก
2.1. ผลักดันผ่านกลไกบริหารของกระทรวงที่พรรคมีตัวแทนเป็นรัฐมนตรี
- เช่น (หากพรรคก้าวไกลบริหารกระทรวงศึกษาธิการ) นโยบายการศึกษานอกเหนือจากใน MOU ที่อยู่ในขอบเขตอำนาจของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
2.2. ผลักดันผ่านกลไกนิติบัญญัติของระบบรัฐสภาโดยผู้แทนราษฎรของพรรค
- เช่น กฎหมาย 45 ฉบับที่พรรคพร้อมเสนอสู่สภาทันทีที่สภาเปิด ไม่ว่าจะปรากฎอยู่ใน MOU หรือไม่
พรรคก้าวไกลเรายืนยันว่าจะพยายามเต็มที่ในการผลักดัน 300 นโยบายก้าวไกลที่เราสื่อสารกับประชาชนก่อนเลือกตั้งให้สำเร็จ โดยการพยายามบรรจุนโยบายเข้าไปใน วาระ “ร่วม” หรือ MOU ให้ได้เยอะที่สุด ในขณะที่นโยบายอะไรที่ไม่ถูกบรรจุใน MOU เราจะผลักดันต่อผ่านกระทรวงที่พรรคก้าวไกลบริหารและผ่านจำนวนผู้แทนราษฎร 152 คน ที่เรามีในสภาผู้แทนราษฎร
แม้กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลลักษณะนี้อาจเป็นสิ่งใหม่สำหรับสังคมไทย แต่พรรคก้าวไกลเชื่อว่ากระบวนการดังกล่าวที่อ้างอิงจากหลายประเทศที่เป็นประชาธิปไตยทั่วโลก จะเป็นกระบวนการที่สร้างบรรทัดฐานใหม่ในประเทศ ที่ยกระดับความมั่นใจของประชาชนต่อระบบการเมืองไทย และเพิ่มความชัดเจนกับประชาชนว่าในบริบทของรัฐบาลผสมที่ประกอบไปด้วยหลายพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาด้วยนโยบายที่ทั้งมีจุดร่วมและจุดต่างกัน รัฐบาลผสมนี้จะร่วมผลักดันและรับผิดชอบวาระอะไรเพื่อประชาชน
ฝากทุกท่านติดตามการแถลงข่าวตั้งรัฐบาลและการเปิดรายละเอียด MOU ที่ทุกพรรคร่วมลงนามกันได้ในวันพรุ่งนี้ (22 พฤษภาคม) เวลา 16.30 น.
#รัฐบาลก้าวไกล

30/05/2023

แถลงจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน ของ พรรคร่วม 8 พรรค ✅

[ เวลาของพวกเรามาถึงแล้ว ]พี่น้องประชาชนที่รัก วันนี้ผม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ‘ชัด’ และ ‘พร้อม ‘ แล้วที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี...
30/05/2023

[ เวลาของพวกเรามาถึงแล้ว ]
พี่น้องประชาชนที่รัก วันนี้ผม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ‘ชัด’ และ ‘พร้อม ‘ แล้วที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
เรามีความฝัน ความหวัง แบบเดียวกัน และเราเชื่อเหมือนกันว่า ประเทศไทยที่เรารักจะดีกว่านี้ได้ ความเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้ ถ้าเราเริ่มต้นลงมือทำตั้งแต่วันนี้... ความฝัน ความหวัง ของพวกเรานั้นค่อนข้าง “เรียบง่าย ตรงไปตรงมา”
ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ผมเดินทางไปรวบรวมความหวัง ความฝัน ของผู้คนทั่วประเทศ และก็เห็นข้อจำกัดของการเมืองไทยที่ผ่านมาแจ่มชัดมากขึ้น วันนี้ ผม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พร้อมแล้วที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของทุกคน...
ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับผม
ผมก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีของท่าน
ไม่ว่าท่านจะโหวตหรือไม่โหวตให้ผม
ผมก็จะรับใช้ท่าน...

*** จบปัญหาเก่า ***
ปฏิเสธกันไม่ได้ว่า สิ่งที่ฉุดรั้งสังคมไทยเอาไว้ สำคัญมากๆ คือเราติดหล่มความขัดแย้งทางการเมืองมาไม่ต่ำกว่า 17 ปีแล้ว วันนี้พวกเราก็ยังบอกไม่ได้ว่า ระบบการเมืองแบบไหนที่เรายอมรับที่จะอยู่ร่วมกันได้ แม้ว่าจะไม่เห็นเหมือนกันทั้งหมด
จะจบปัญหานี้ได้ แน่นอนครับว่าเราต้องยุติวงจรรัฐประหาร เริ่มต้นกันที่การปฏิรูปกองทัพอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้บรรลุ 3 เป้าหมาย คือ
(1) ทำให้กองทัพอยู่ภายใต้พลเรือน (2) ทำให้กองทัพจิ๋วแต่แจ๋ว กองทัพมีขนาดเล็กลง แต่โปร่งใสขึ้น ทันสมัยขึ้น มีสวัสดิการให้ทหารชั้นผู้น้อยมากขึ้น และ (3) ภารกิจของกองทัพมีเพียงป้องกันภัยความมั่นคงจากภายนอกประเทศ ส่วนปัญหาความมั่นคงภายใน ปล่อยให้เป็นเรื่องของพลเรือน เช่นนี้แล้ว กองทัพก็จะมีศักดิ์ศรี ไม่มาเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน
แล้วสำหรับคนที่เคยเห็นด้วยกับการรัฐประหารนั้น ผมเข้าใจว่าหลายท่านไม่ไว้วางใจนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง มองเห็นการเมืองในสภาเป็นเรื่องสกปรก เกลียดการคอรัปชั่น ผลประโยชน์ทับซ้อน ระบบอุปถัมภ์ หรือการใช้อำนาจโดยมิชอบ
ผมอยากจะบอกทุกคนว่า 17 ปีที่ผ่านมา มันได้ให้บทเรียนแก่พวกเราอย่างสาสมแล้วว่า การเมืองดีๆ ที่เราอยากเห็นนั้นไม่มีทางลัด มีแต่ต้องทำให้ระบอบประชาธิปไตยแข็งแรงมากขึ้นๆ เท่านั้น ถึงจะแก้ปัญหาที่เราไม่พึงปรารถนาได้ การปฏิรูปก่อนเลือกตั้งนั้นไม่มีอยู่จริง และนักการเมืองที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งต่างหาก ที่ฉ้อฉลและตรวจสอบไม่ได้ยิ่งกว่านักการเมืองจากการเลือกตั้ง
ดังนั้น เพื่อจบปัญหาเก่าให้ได้ สิ่งที่รัฐบาลก้าวไกลจะทำไปพร้อมกับการปฏิรูปกองทัพ ยุติวงจรรัฐประหาร คือผมจะทำให้สังคมกลับมาศรัทธาในระบบรัฐสภาอีกครั้ง ผมและพรรคก้าวไกลจะยกระดับคุณภาพของนักการเมืองไทย เราจะสร้างระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ระบบป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ ที่มีประสิทธิภาพ สิ่งที่พวกเราต้องการ คือ ‘ระบบการเมืองที่ดี’ ไม่ใช่การเมืองที่ฝากความหวังไว้กับ ‘คนดีย์’
*** เผชิญปัญหาใหม่อย่างมีวุฒิภาวะ ***
เมื่อจบปัญหาเก่า ผมจะเป็นผู้นำทางการเมืองที่กล้าเผชิญกับปัญหาใหม่ๆ เพื่อสร้างความปกติใหม่ของสังคมไทยอย่างมีวุฒิภาวะ
ผมไม่เคยเชื่อว่าสังคมที่หยุดนิ่งอยู่กับอดีตจะมีอนาคตได้ และผมไม่เคยเชื่อว่าสังคมที่หยุดนิ่งราวถูกแช่แข็งเอาไว้จะมีอยู่จริง
ทุกสังคมย่อมมีความเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยของมัน สังคมไทยก็เช่นเดียวกันครับ เกิดความรู้สึกนึกคิดแบบใหม่ เกิดความปรารถนาแบบใหม่ เกิดพลังทางสังคมใหม่ๆ
และเป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อสิ่งใหม่เกิดขึ้น ย่อมถูกต่อต้านจากสิ่งเก่า แต่สุดท้าย ผมเชื่อว่าสังคมไทยจะหาจุดลงตัวได้ เป็นจุดลงตัวที่ไม่มีใครได้ทั้งหมด ไม่มีใครเสียทั้งหมด เป็นจุดลงตัวที่เรายอมรับร่วมกันได้ แม้จะไม่เห็นตรงกันทุกเรื่อง และจะไปถึงจุดนั้นได้ เราต้องสร้างสังคมไทยให้พร้อมรับความแตกต่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ รวมทั้งความคิดทางการเมือง
เราต้องบริหารจัดการความเห็นต่างไม่ให้กลายมาเป็นความขัดแย้ง ด้วยการปกป้องเสรีภาพในการแสดงออก และทำให้เรามีระบบนิติรัฐ มีระบบกฎหมายที่ดี มีกระบวนการยุติธรรมที่ทุกคนเสมอภาคเท่าเทียมกัน ทำให้การคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนเจ้าของประเทศ เป็นเป้าหมายหลักของรัฐ ความมั่นคงของชาติคือความมั่นคงของประชาชน ไม่ใช่มองประชาชนเป็นศัตรูของชาติ
วันนี้คุณหยก เยาวชนอายุ 14 ปี กำลังถูกคุมขังอยู่ เธอเป็นผู้ต้องหาตาม ม.112 ที่อายุน้อยที่สุด ผมขออนุญาตไม่ถกเถียงในที่นี้ว่า การกระทำของหยกถูกหรือผิด เหมาะสมไม่เหมาะสม เราควรจะแก้ไข ม.112 หรือไม่ อย่างไร แต่ผมอยากจะบอกว่า พวกเราจะหาทางออกจากปรากฏการณ์ใหม่ที่น่ากระอักกระอ่วนใจแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเราไม่ตั้งสติกันดีๆ แล้วมัวแต่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วยการใช้กำลังและกฎหมายกดทับปราบปราม ยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่ง
ยิ่งสำหรับคนที่เคารพรักสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมเข้าใจว่าท่านอึดอัดกังวลใจ หลายท่านคงเกลียดหรือโกรธเมื่อเห็นการแสดงออกของคนรุ่นใหม่ แต่ผมอยากชวนทุกคนลองตั้งสติดีๆ แล้วจะมองเห็นอย่างเข้าใจว่า นี่เป็นปลายเหตุของปัญหาแล้ว
ความรู้สึกนึกคิดของคนรุ่นใหม่เป็นผลมาจากปัญหาที่คนรุ่นก่อนหน้าเขาสร้างทิ้งเอาไว้ นั่นคือการนำประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ผมเชื่อว่า ถ้าไม่มีใครชูคำขวัญ “เราจะสู้เพื่อในหลวง” เพื่อโค่นล้มรัฐบาล ถ้าไม่มีใครอิงแอบสถาบันเพื่อก่อรัฐประหาร ถ้าไม่มีใครเอาเรื่องล้มล้างสถาบันมาปลุกปั่นทางการเมืองให้คนเกลียดชังกันเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ถ้าเราไม่ใช้ ม.112 มาเป็นเครื่องมือมาทำลายล้างกัน วันนี้หยกและเพื่อนร่วมรุ่นของเธอ คงจะใช้ชีวิตวัยเยาว์อย่างที่มันควรจะเป็นอยู่กับเพื่อนๆ อยู่กับครอบครัว ไม่ใช่ในคุก
ถึงเวลาแล้ว ที่พวกเราต้องเผชิญหน้ากับปัญหาใหม่ๆ อย่างมีวุฒิภาวะ แก้ปัญหาที่ต้นตอ ด้วยการยุติการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นประเด็นการเมือง แล้วหากุศโลบายที่ดีเพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชนท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จัดวางพระราชอำนาจและพระราชสถานะให้เหมาะสมสอดคล้องกับสังคมประชาธิปไตยสมัยใหม่ ทำแบบนี้สถาบันจึงจะดำรงอยู่ได้อย่างสง่างามในสังคมไทย
*** พาสังคมไทยไปสู่อนาคต ***
เมื่อจบปัญหาเก่า จัดการปัญหาใหม่ได้ เราจะสร้างฉันทามติของสังคมไทยใหม่ แล้วพวกเราจะมีสมาธิ มีสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อนำพาประเทศไปสู่อนาคต
พิธาและทีมพิธาในรัฐบาลก้าวไกล พร้อมจะวางรากฐานใหม่ที่มั่นคงของสังคมไทยด้วยระบบรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า ปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ สร้างระบบเศรษฐกิจที่เติบโตด้วย เปิดโอกาสและแบ่งปันความมั่งคั่งอย่างเป็นธรรมด้วย การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยกเครื่องระบบราชการและระบบงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ กระจายอำนาจให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าทุกจังหวัด ปฏิวัติระบบการศึกษาให้เท่าทันโลก
พิธาและทีมพิธา พร้อมจะเปลี่ยน "สุราก้าวหน้า" เป็นเศรษฐกิจใหม่ ปลดล็อกกระทรวงการคลัง สร้างศูนย์ทดสอบคุณภาพ ชุมชนมีโรงงานท้องถิ่น มีการจ้างงานคุณภาพสูง ใช้ความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาระบบการขายออนไลน์
พิธาและทีมพิธา พร้อมจะสร้างมูลค่าจากภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของสังคมไทยด้วย “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” เปลี่ยนกระทรวงวัฒนธรรม เป็นกระทรวงวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพิ่มงบประมาณและคุ้มครองคนทำงานในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
พิธาและทีมพิธา พร้อมจะสร้าง “เศรษฐกิจดิจิทัล” ทำข้อมูลให้เป็นขุมทรัพย์
พิธาและทีมพิธา พร้อมจะ “สร้างงาน ซ่อมประเทศ” เอาปัญหาชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำประปาไม่สะอาด ขาดแคลนระบบขนส่งสาธารณะในแต่ละจังหวัด ปัญหาขยะ ไปจนถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ลงทุนในการแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตพื้นฐานเหล่านี้ เพื่อสร้างความต้องการในตลาด สร้างอุตสาหกรรมและงานที่มีคุณภาพทุกหัวเมือง
พิธาและทีมพิธา พร้อมจะปรับยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจใหม่ ด้วยการสร้างเทคโนโลยีของตัวเอง เพื่อพาไทยกลับเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่การผลิตของโลกที่มีมูลค่าสูงให้ได้ ถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนยุทธศาสตร์แบบ area base เป็น supply chain base มองให้เห็นโอกาสใหม่ๆ ท่ามกลางภูมิรัฐศาสตร์โลกแบบใหม่ ไทยต้องเป็นผู้เล่นบนเวทีโลก ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ลูกไล่ของขั้วมหาอำนาจโลก ไม่ว่าจะเป็นมหาอำนาจฝั่งไหน

"เวลาของพวกเรามาถึงแล้ว"

ถึงเวลาประชาชนกล้าฝันใหญ่
คำตอบสุดท้าย #ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน

กล้าเปลี่ยนเพื่อประชาชน ต้องกาก้าวไกล  ✅ พิธา กล่าวว่า ตนมีโอกาสทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมฯ ครั้งแรกตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว ...
30/05/2023

กล้าเปลี่ยนเพื่อประชาชน ต้องกาก้าวไกล ✅
พิธา กล่าวว่า ตนมีโอกาสทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมฯ ครั้งแรกตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว ในวันนั้นประเทศไทยคุยกันเรื่องการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ผ่านยุทธศาสตร์การรวมกลุ่มทางอุตสาหกรรมคลัสเตอร์พลัส แต่เวลาผ่านไปเห็นได้ว่าหลายเรื่องที่คุยกันค้างไว้ไม่ได้มีการทำต่อ พรรคก้าวไกลจึงต้องการเข้ามาผลักดันอุตสาหกรรมให้ตอบโจทย์ใหม่ๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น blockchain มาใช้ การสร้างยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมใหม่โดยเฉพาะการเปลี่ยนจาก Made in Thailand เป็น Made with Thailand ที่ประเทศไทยไม่ใช่แค่รับจ้างผลิต แต่ต้องทำให้อุตสาหกรรมไทยเข้าไปอยู่ใน Value Chain ของอุตสาหกรรมโลก

“ประเทศไทยในอนาคตต้องเติบโตด้วยการเพิ่มผลิตภาพแรงงานและเพิ่มการใช้เทคโนโลยี ให้ผลิตสิ่งที่มีมูลค่าสูง ไม่ใช่เติบโตด้วยการกดค่าแรงให้ต่ำและกดความสามารถในการแข่งขันให้ต่ำ” พิธากล่าว
ส่วนหนึ่งที่จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันได้ คือการเร่งเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป ให้สำเร็จ ซึ่งพิธากล่าวว่าการทำ MOU จัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นคือความสำเร็จของประเทศไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างสันติ ภายหลังจากที่ประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยแล้ว เชื่อว่าการเจรจา FTA ไทย-อียู จะเสร็จสิ้นได้โดยเร็ว แต่ในขณะเดียวกันเมื่อดูอัตราการใช้ประโยชน์จากเขตการค้าเสรี (FTA Utilization) ก็จะเห็นว่าการใช้ประโยชน์จาก FTA ที่มีอยู่ยังใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ ภายใต้รัฐบาลใหม่การใช้ประโยชน์จาก FTA นี้จะต้องเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการทำงานต่อไป
#รัฐบาลก้าวไกล

[ พิธานำทีมเศรษฐกิจพบสภาอุตสาหกรรม ภาคเอกชนเชื่อมั่นนโยบายพรรคก้าวไกลสามารถนำพาประเทศไปสู่อนาคตได้ ]วันนี้ Pita Limjaroe...
30/05/2023

[ พิธานำทีมเศรษฐกิจพบสภาอุตสาหกรรม ภาคเอกชนเชื่อมั่นนโยบายพรรคก้าวไกลสามารถนำพาประเทศไปสู่อนาคตได้ ]
วันนี้ Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล Sirikanya Tansakun - ศิริกัญญา ตันสกุล, วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร และ สุพันธุ์ มงคลสุธี ตัวแทนจากพรรคไทยสร้างไทย พบสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นำโดย เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. เพื่อรับฟังข้อเสนอนโยบายจากภาคอุตสาหกรรมพร้อมทั้งรับฟังปัญหา อุปสรรค และข้อกังวลของตัวแทนภาคอุตสาหกรรม
บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี ข้อเสนอแนะส่วนใหญ่ตรงกับนโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะไปบรรจุในนโยบายรัฐบาล เช่น เรื่องราคาพลังงาน การเพิ่มผลิตภาพแรงงาน เป็นต้น ภาคเอกชนเชื่อมั่นว่าภายใต้การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนโดยยึดประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง ดำเนินการด้วยความโปร่งใสรอบคอบ จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและนำพาเศรษฐกิจประเทศไปสู่อนาคตได้
พิธา กล่าวว่า ตนมีโอกาสทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมฯ ครั้งแรกตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว ในวันนั้นประเทศไทยคุยกันเรื่องการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ผ่านยุทธศาสตร์การรวมกลุ่มทางอุตสาหกรรมคลัสเตอร์พลัส แต่เวลาผ่านไปเห็นได้ว่าหลายเรื่องที่คุยกันค้างไว้ไม่ได้มีการทำต่อ พรรคก้าวไกลจึงต้องการเข้ามาผลักดันอุตสาหกรรมให้ตอบโจทย์ใหม่ๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น blockchain มาใช้ การสร้างยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมใหม่โดยเฉพาะการเปลี่ยนจาก Made in Thailand เป็น Made with Thailand ที่ประเทศไทยไม่ใช่แค่รับจ้างผลิต แต่ต้องทำให้อุตสาหกรรมไทยเข้าไปอยู่ใน Value Chain ของอุตสาหกรรมโลก
อุตสาหกรรมไทยในอนาคตจำเป็นต้องมี 3F
📌 หนึ่งคือ Firm Foundation หรือพื้นฐานที่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็น แรงงานที่มีทักษะสูง เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานที่ดี
📌 สองคือ Fair หรือความเป็นธรรม เพราะ 40 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมไทยเติบโตจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ สิ่งที่ตามมาคือความเหลื่อมล้ำ ในการพาประเทศไทยไปสู่ประเทศรายได้สูงจำเป็นที่จะต้องคิดเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำด้วย
📌 สามคือ Fast Growing Industry ที่ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการผลักดันการวิจัยและพัฒนา (R&D) และส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ประเทศไทยถึงแม้ไม่มีทรัพยากรเช่นโคบอลต์ นิกเกิล ที่จำเป็นในการผลิตแบตเตอรี่แบบต่างประเทศ แต่ประเทศไทยจำเป็นต้องหาช่องว่างในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่ยังมีคู่แข่งน้อย เช่น การผลิตชิป ซิลิคอนคาร์ไบด์ นี่เป็นสิ่งที่ต้องร่วมมือกันทำงานทั้งภาครัฐและเอกชน
“ประเทศไทยในอนาคตต้องเติบโตด้วยการเพิ่มผลิตภาพแรงงานและเพิ่มการใช้เทคโนโลยี ให้ผลิตสิ่งที่มีมูลค่าสูง ไม่ใช่เติบโตด้วยการกดค่าแรงให้ต่ำและกดความสามารถในการแข่งขันให้ต่ำ” พิธากล่าว
ส่วนหนึ่งที่จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันได้ คือการเร่งเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป ให้สำเร็จ ซึ่งพิธากล่าวว่าการทำ MOU จัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นคือความสำเร็จของประเทศไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างสันติ ภายหลังจากที่ประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยแล้ว เชื่อว่าการเจรจา FTA ไทย-อียู จะเสร็จสิ้นได้โดยเร็ว แต่ในขณะเดียวกันเมื่อดูอัตราการใช้ประโยชน์จากเขตการค้าเสรี (FTA Utilization) ก็จะเห็นว่าการใช้ประโยชน์จาก FTA ที่มีอยู่ยังใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ ภายใต้รัฐบาลใหม่การใช้ประโยชน์จาก FTA นี้จะต้องเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการทำงานต่อไป
ทั้งนี้ ในการพูดคุย สภาอุตสาหกรรมฯ ได้เสนอนโยบายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต Next-GEN Industries, นโยบายด้านพลังงาน, นโยบายด้านแรงงาน, นโยบายด้าน SME ส่วนใหญ่เห็นตรงกันกับนโยบายของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะนโยบายด้านราคาพลังงานที่มีความเป็นธรรม ซึ่งศิริกัญญากล่าวว่ามีสัญญาณที่ดีจากคณะกรรมการกำกับดูแลพลังงานที่พร้อมเปลี่ยนสูตรการจัดสรรก๊าซธรรมชาติ สามารถทำได้ทันทีที่มีรัฐบาลใหม่ จะเห็นผลในบิลค่าไฟที่ลดลงภายในเดือนมกราคม 2567
ส่วนความกังวลในการปรับขึ้นค่าแรงนั้น พิธาให้คำมั่นว่าการเพิ่มผลิตภาพแรงงานต้องทำไปพร้อมกับการดูแลปากท้องของพี่น้องแรงงาน ถ้าท้องไม่อิ่มก็ไม่สามารถคิดเรื่องการเพิ่มทักษะได้ แต่นโยบายพรรคก้าวไกลเป็นการขึ้นค่าแรงพร้อมกับมาตรการช่วยเหลือภาคเอกชน การเสริมทักษะแรงงาน และมีระบบในการปรับขึ้นค่าแรงทุกปีตามสภาพเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ เพื่อให้ผลิตภาพและรายได้ของประชาชนเป็นสิ่งที่เติบโตไปด้วยกัน
สุดท้าย พิธากล่าวกับสมาชิกสภาอุตสาหกรรมฯ ว่าความท้าทายของโลกยุคปัจจุบันคือภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำของโลก (global minimum tax) ที่จะทำให้การดึงดูดการลงทุนด้วยการใช้มาตรการทางภาษีแบบเดิม เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป การดึงดูดการลงทุนในอนาคต ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องการจูงใจทางภาษี แต่เป็นเรื่องความง่ายในการทำธุรกิจ การกิโยตินกฎระเบียบที่ไม่จำเป็น การปราบคอร์รัปชัน การที่ไทยมีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เป็นอันดับ 5-6 ของอาเซียน แย่กว่าฟิลิปปินส์ แย่กว่าอินโดนีเซีย เป็นเรื่องที่มีความท้าทายพอสมควร ตอนนี้เรื่องของเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และความท้าทายทางสังคมอื่นๆ เป็นเรื่องเดียวกัน
ส่วนในขั้นต่อไปที่ตนและพรรคก้าวไกล อยากทำงานต่อกับสภาอุตสาหกรรมฯ คือการตั้งคณะทำงานรายคลัสเตอร์ โดยเอาโจทย์ของแต่ละอุตสาหกรรมที่มีความแตกต่างกันมาแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นด้านกฎหมาย เทคโนโลยี เงินทุน แรงงาน เพื่อทำงานร่วมกันต่อไปในอนาคต
#รัฐบาลก้าวไกล

ตลอดการเป็น ส.ส. ที่เดินทางไปพบปะพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ และตอนหาเสียง ผมได้เห็นที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยเยอะมาก และมีสถ...
30/05/2023

ตลอดการเป็น ส.ส. ที่เดินทางไปพบปะพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ และตอนหาเสียง ผมได้เห็นที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยเยอะมาก และมีสถานที่ที่น่าสนใจมากกว่าที่นักท่องเที่ยวไปกันเยอะๆ เสียอีก ผมจึงอยากเห็นการท่องเที่ยวไทยที่กำลังฟื้นตัวจากโควิดครั้งนี้ คนมาเยอะขึ้นกว่าเดิม อยู่นานกว่าเดิม กระจายไม่กระจุกแค่หัวเมือง และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ส่วนตัวแล้วที่โปรดของผม ที่อยากพานักท่องเที่ยวไป ถ้าเขามา คือ T H A I
T - Tranquil tourism สโลไลฟ์ที่แม่น้ำตาปี นครศรีธรรมราช คือที่ผมชอบมาก แต่นักท่องเที่ยวต่างประเทศไม่ค่อยไป เมื่อเทียบกับในประเทศ
H - Homestay tourism ไม่ว่าจะเป็น farmstay แบบญี่ปุ่น หรือ agritourismo แบบอิตาลี อย่างที่สุโขทัย แต่ต้องรีบผลักดัน และส่งเสริมกฎหมาย พ.ร.บ. homestay
A - Adventure tourism ที่ปีนเขาดีๆ มีมากกว่ากระบี่ เชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ลำปาง กาญจนบุรี ลพบุรี

I - Indigeneous tourism อันนี้ชอบที่สุด การท่องเที่ยวของพี่น้องชาติพันธุ์ มี 3 C = culture, cuisine, craft ที่น่าหลงใหล และที่พิพิมชอบมากที่สุด คือ lisu lodge เชียงราย ❤️ เมื่อสุราก้าวหน้าผ่าน จะได้กิน เหล้าจากข้าว หรือข้าวโพดแบบพี่น้องปกาเกอะญอ แบบพี่น้องม้ง 🥂
ทั้งนี้ทั้งนั้น มีแนวทางใหม่ๆ segment ใหม่ๆ เยอะ แต่เดินทางลำบาก แรงงานไม่พอ อุปสรรคทัวร์ไกด์ ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ก็ต้องแก้ไขไปด้วย แก้ทั้ง demand & supply
-----
ให้ทายกันเล่นครับ รูปเหล่านี้ถ่ายที่ไหนบ้างครับ😎

จริงๆ ก้าวไกลได้พบปะหารือร่วมกับสมาคมขนส่งทางบกอยู่หลายครั้ง ทางสมาคมได้ร้องเรียนและแนบหลักฐาน  #ส่วยทางหลวง ไว้อยู่หลาย...
30/05/2023

จริงๆ ก้าวไกลได้พบปะหารือร่วมกับสมาคมขนส่งทางบกอยู่หลายครั้ง ทางสมาคมได้ร้องเรียนและแนบหลักฐาน #ส่วยทางหลวง ไว้อยู่หลายกรณี ใครไม่จ่ายก็โดนเรียกตรวจตลอด ส่วนใครจ่ายก็ไม่เคยโดนเรียกตรวจเลย
ปัญหาส่วย ทุจริตคอรัปชั่น ทำให้ผู้ประกอบการที่ทำทุกอย่างถูกต้องสุจริตรู้สึก 'ไม่แฟร์' เพราะเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
ประเทศไทยเราเสียโอกาสพัฒนากันมาเท่าไหร่แล้วกับปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น?
หลังจากนี้ เตรียมพบกับ ส.ส. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นดาวรุ่ง ดาวฤกษ์ ดาวอะไรก็แล้วแต่ แต่ผมเห็นว่าเป็น 'อุกกาบาต' มาทลายระบบส่วยให้หมดไปจากประเทศไทย
กาก้าวไกลมาแล้ว ประเทศไทยต้องไม่เหมือนเดิม!

[ พิธา นำทีมเศรษฐกิจก้าวไกลพบนักธุรกิจรุ่นใหม่ เชื่อมั่นพรรคก้าวไกลเป็นความหวังที่จะพาเศรษฐกิจไทยเดินหน้าสู่อนาคต ]วันที...
30/05/2023

[ พิธา นำทีมเศรษฐกิจก้าวไกลพบนักธุรกิจรุ่นใหม่ เชื่อมั่นพรรคก้าวไกลเป็นความหวังที่จะพาเศรษฐกิจไทยเดินหน้าสู่อนาคต ]
วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย Sirikanya Tansakun - ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคและทีมเศรษฐกิจ เข้าพบตัวแทนสภาอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ (Young FTI) ที่โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะทางนโยบายจากนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่จะเป็นอนาคตของภาคอุตสาหกรรมไทย
กิจกรรมภายในงาน เริ่มต้นด้วยตัวแทนนักธุรกิจจากสภาอุตสาหกรรมรุ่นใหม่นำเสนอปัญหาและข้อเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหาที่นักธุรกิจเจอในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นโยบายการพัฒนาสินค้าเกษตร การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมภาคการผลิต ลิขสิทธิ์ ประสิทธิภาพการทำงานของรัฐ การคอร์รัปชัน นวัตกรรม และโอกาสในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอากาศยานของประเทศไทย
เมื่อตัวแทนนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่นำเสนอจบแล้ว พิธากล่าวกับที่ประชุมว่า สิ่งแรกที่เราต้องแสดงให้เห็นก่อนคือไม่ทำงานเป็นแท่งๆ เป็นไซโล แต่ต้องมองภาพใหญ่ว่าการบริหารเศรษฐกิจที่เราต้องการคืออะไร สิ่งที่พรรคก้าวไกลมองเห็นบทเรียนจากเศรษฐกิจไทยที่เติบโตมา 40 ปี คือในอนาคตต้องเป็นการเติบโตแบบ inclusive growth เศรษฐกิจโตด้วย และลดความเหลื่อมล้ำ เปิดโอกาสให้ทุกคนเติบโตด้วย
นอกจากนี้ พิธายังย้ำถึงนโยบายในการปฏิรูปภาคอุตสาหกรรมไทยผ่าน 3F
🍊 หนึ่งคือ Fair Game ความเท่าเทียมที่จะแข่งกันระหว่างทุนใหญ่กับทุนเล็ก ทุนไทยกับทุนต่างชาติ ยกตัวอย่างเช่นผลิตภาพการผลิตภาคเกษตร ต้นเหตุของปัญหาอยู่ที่ที่ดิน เมื่อเกษตรกรส่วนใหญ่ในประเทศไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดินของตัวเองก็ไม่สามารถพัฒนาผลิตภาพการผลิตของตัวเองได้ ดังนั้น ต้องแก้ที่กระดุมเม็ดแรก มองให้เห็นโครงสร้างทั้งระบบ เช่นเดียวกับการขอใบอนุญาตต่างๆ ที่ปัญหาความล่าช้าเกิดขึ้นจากกระบวนการที่ไม่มีประสิทธิภาพ การรวมศูนย์อำนาจ ถ้าประเทศไทยมีการกระจายอำนาจ จะทำให้ท้องถิ่นกว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศระเบิดศักยภาพในการเติบโต สามารถสร้างเศรษฐกิจของประเทศได้อีกมหาศาล
🍊 สองคือ Firm ground หมายถึงต้องสู้กันด้วยผลิตภาพ (productivity) ไม่ใช่สู้กันด้วยการกดค่าแรง อยากทำความเข้าใจว่าค่าแรง 450 บาท ไม่ใช่เป็นนโยบายที่เราคิดเอาเอง แต่เราเอาตัวเลข ไม่ว่าจะเป็นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ผลิตภาพแรงงาน ถ้าคิดตั้งแต่ปี 2556 มาจนถึงปัจจุบัน ค่าแรงที่ควรจะเป็นคือเท่าไร ตัวเลขอยู่ที่ใกล้เคียงกับ 450 บาท ซึ่งพรรคก้าวไกลไม่ได้มีแค่นโยบายเพิ่มค่าแรงแต่มาพร้อมกับแพ็กเกจนโยบายเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจด้วย ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษีเอสเอ็มอี และมาตรการเพิ่มสภาพคล่องอื่น ให้ไม่น้อยกว่าในสมัยที่มีการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท
🍊 สุดท้าย Fast growth industries ประเทศไทยต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ และหาช่องว่างโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมของไทยไปพร้อมกับโลก เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมยาเพื่อต่อสู้กับโรคอุบัติใหม่ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องบิน อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งอุตสาหกรรมชิปและซิลิคอนคาไบด์ที่ประเทศไทยยังมีโอกาส
“ผมคิดว่าเรื่องการบริหารนวัตกรรม สรุปได้เป็นหนึ่งประโยคคือ ‘สร้างงานซ่อมประเทศ’ ที่เราจะเปลี่ยนจุดอ่อนของประเทศและปัญหาของประชาชน มาเป็นโอกาสของอุตสาหกรรมเพื่อแก้ปัญหาของอนาคต เช่น กฎหมายรถเมล์อนาคต การทำน้ำประปาดื่มได้ ถ้าทำสิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นได้ทั้งประเทศ คุณคิดว่าจะเป็นโอกาสสำหรับนวัตกรรมมากแค่ไหนของประเทศไทย” พิธากล่าว
สุดท้าย พิธากล่าวถึงอุตสาหกรรมโดรนและการป้องกันประเทศว่าถ้าประเทศไทยสามารถส่งเสริมนโยบาย offset policy ได้ แทนที่จะซื้ออาวุธจากต่างชาติ เปลี่ยนเป็นการซื้อพร้อมทำให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ใช้แรงงานและชิ้นส่วนในประเทศแทนที่จะนำเข้า 100 เปอร์เซ็นต์
หลังจากที่พิธาได้แสดงวิสัยทัศน์ สภาอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ได้มอบเสื้อที่มีสัญลักษณ์ Young FTI และโลโก้พรรคก้าวไกล แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต บรรยากาศการพบปะพูดคุยเป็นไปอย่างชื่นมื่น นักธุรกิจรุ่นใหม่ฝากความหวังในการสร้างความเปลี่ยนแปลง การทำงานร่วมกับภาครัฐไว้กับทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล ว่าจะทำให้กระบวนการทำงานรวดเร็ว เปิดกว้างการส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ และทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน
#รัฐบาลก้าวไกล #สภาอุตสาหกรรมรุ่นใหม่

Address


Opening Hours

Monday 09:00 - 17:00
Tuesday 09:00 - 17:00
Wednesday 09:00 - 17:00
Thursday 09:00 - 17:00
Friday 09:00 - 17:00

Telephone

+66638695457

Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Pita Limjaroenrat fc posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to Pita Limjaroenrat fc:

Shortcuts

  • Address
  • Telephone
  • Opening Hours
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share