MarketPlus Online

  • Home
  • MarketPlus Online

MarketPlus Online Market Plus : Plus ทุกเรื่องการตลาด ให้ใกล้ตัวคุณ เว็บไซต์ข่าวธุรกิจในกลุ่มนิตยสาร MarketPlus

🔵: ย้อนเวลาความสนุก! 90’s x 2 SUPER CONCERT รวมศิลปินคู่ขวัญยุค 90’s จัดเต็มความมันคูณสอง.เตรียมตัวให้พร้อม! กับคอนเสิร์...
14/07/2025

🔵: ย้อนเวลาความสนุก!
90’s x 2 SUPER CONCERT รวมศิลปินคู่ขวัญยุค 90’s จัดเต็มความมันคูณสอง.
เตรียมตัวให้พร้อม! กับคอนเสิร์ตที่ไม่ได้มีแค่ความสนุก แต่จะพาคุณกลับไปสัมผัสบรรยากาศความสุข ความทรงจำ และเสียงเพลงยุค 90’s ที่ทุกคนคิดถึง กับ “ไทยประกันชีวิต presents 90’s x 2 SUPER CONCERT ปรากฏการณ์คู่กัน มันคูณสอง”.
งานนี้ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะเป็นการรวมตัวกันครั้งใหญ่ของ 5 คู่ซูเปอร์สตาร์ระดับตำนาน ที่จะขึ้นเวทีแบบ “แพ็กคู่” มันส์คูณสอง ซึ้งคูณสอง.
ใครมาเล่นกันบ้าง?
• แดนซ์ x 2 : “เจ เจตริน” และ “คริสติน่า อากีล่าร์”
• เต้นไม่พัก x 2 : “มอส ปฏิภาณ” และ “ทาทา ยัง”
• ซึ้ง x 2 : “โบ สุนิตา” และ “พลพล”
• ร็อกอบอุ่น x 2 : “แอม เสาวลักษณ์” และ “ดา อินคา”
• ร็อกสุด ๆ x 2 : “นูโว” และ “มาช่า วัฒนพานิช”.
นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญสุดพิเศษที่ทุกคนคิดถึง ทั้ง ตุ้ย ธีรภัทร์, อ้อม สุนิสา, MR.TEAM, ไท ธนาวุฒิ และ ญารินดา ที่จะมาร่วมสร้างโมเมนต์ประทับใจ.
วัน-เวลา-สถานที่
เสาร์ที่ 13 กันยายน 2568
ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี.
เปิดขายบัตร
เสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น.
ที่ www.thaiticketmajor.com และ ThaiTicketMajor ทุกสาขา.
ราคาบัตร
5,500 / 5,000 / 4,500 / 4,000 / 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,500 บาท.
เตรียมแก๊งเพื่อนยุค 90’s ของคุณให้พร้อม แล้วมาร้อง มันส์ ซึ้ง ไปด้วยกันในคอนเสิร์ตแห่งปี!.
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Facebook และ IG : 90s2000sconcerts.


#ปรากฏการณ์คู่กันมันคูณสอง
#คอนเสิร์ตยุค90
#ไทยประกันชีวิต #กลับไปเต้นอีกครั้ง

เคทีซี สร้างวัฒนธรรมโค้ชชิ่ง หนุนศักยภาพทีมงาน สู่การเติบโตระยะยาว.ในยุคที่โลกธุรกิจต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การพั...
14/07/2025

เคทีซี สร้างวัฒนธรรมโค้ชชิ่ง หนุนศักยภาพทีมงาน สู่การเติบโตระยะยาว.
ในยุคที่โลกธุรกิจต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การพัฒนา “คน” ให้พร้อมเติบโตไปพร้อมกับองค์กร กลายเป็นโจทย์สำคัญของผู้นำทุกอุตสาหกรรม
KTC (บัตรกรุงไทย) จึงเดินหน้าขับเคลื่อน “วัฒนธรรมโค้ชชิ่ง” (Coaching Culture) เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักเพื่อเสริมแกร่งศักยภาพบุคลากรทุกระดับ หวังสร้างทั้ง “คนเก่ง-คนดี-คนกล้าคิด” เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน.
เปลี่ยนจาก “สอนงาน” สู่ “การโค้ช”
โดยทั่วไป องค์กรส่วนใหญ่ใช้วิธี On-the-Job Training หรือการสอนงานตรงไปตรงมา แต่ KTC มองว่าโมเดลการเรียนรู้ในยุคนี้ต้องเปลี่ยนแปลง เพราะความซับซ้อนของโลกธุรกิจ ไม่ได้ต้องการแค่คนที่ทำตามคำสั่งเป็น แต่ต้องการคนที่ “คิดเป็น แก้ปัญหาได้ และเติบโตได้เอง”.
KTC จึงเลือกใช้ การโค้ชชิ่ง (Coaching) เป็นเครื่องมือสำคัญ ผ่านแนวคิดที่ว่า หัวหน้างานไม่ใช่ผู้บอกคำตอบ แต่เป็นผู้กระตุ้นให้พนักงานได้คิด วิเคราะห์ และหาทางออกด้วยตนเอง ผ่านเครื่องมือสำคัญ เช่น

▪ การตั้งคำถามที่ทรงพลัง (Powerful Questions)
▪ การฟังเชิงลึก (Active Listening)
▪ การให้ Feedback อย่างสร้างสรรค์ (Constructive Feedback).
วางรากฐาน “Coaching Culture” ทั่วทั้งองค์กร
KTC ไม่ได้หยุดแค่ฝึกอบรมการโค้ชชิ่งเฉพาะบุคคล แต่ตั้งเป้าปลูกฝังให้เป็น วัฒนธรรมองค์กร (Coaching Culture) ตั้งแต่กระบวนการประชุม การสะท้อนผลการทำงาน (Reflection) ไปจนถึงการโค้ชในชีวิตการทำงานประจำวัน เพื่อให้ทุกคนในองค์กรเกิดความตระหนักรู้ (Self-Discovery) รู้จักเป็นเจ้าของเป้าหมาย (Accountability) และมีแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเอง.
คุณพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC กล่าวว่า

“หัวใจของการโค้ชชิ่งใน KTC คือ การสร้างความไว้วางใจ (Trust) เคารพศักยภาพของพนักงาน (Respect Individual Potential) และกระตุ้นให้ทุกคนสามารถหาคำตอบเองได้ (Empowerment) เรามีโค้ชที่ได้รับการรับรองจาก International Coach Federation (ICF) อยู่ในองค์กร และย้ำชัดว่า การโค้ชไม่ใช่หน้าที่ของ HR เท่านั้น แต่เป็นพันธะร่วมของทุกคน”.
เป้าหมายระยะยาว: พัฒนาคน-สร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์
KTC เชื่อว่า หากคนในองค์กรเติบโตทั้งด้านความคิดและการทำงาน จะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์สมาชิกเคทีซีได้ในทุกมิติอย่างยั่งยืน

แนวทางการโค้ชชิ่งนี้จึงไม่ใช่แค่การพัฒนาคน แต่เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อสร้างองค์กรที่พร้อมขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และความร่วมมือระหว่างกันอย่างแท้จริง
⏩ อ่านฉบับเต็ม >>>
https://www.marketplus.in.th/content/detail.php?id=34216

#พัฒนาคนเติบโตองค์กร #โค้ชชิ่ง

ตลาดกาแฟไทย 2025 โตสวนเศรษฐกิจ — สูตรสำเร็จของ ‘Affordable Specialty’.แม้เศรษฐกิจไทยจะยังชะลอตัว แต่ธุรกิจกาแฟกลับ “โตสว...
13/07/2025

ตลาดกาแฟไทย 2025 โตสวนเศรษฐกิจ — สูตรสำเร็จของ ‘Affordable Specialty’.
แม้เศรษฐกิจไทยจะยังชะลอตัว แต่ธุรกิจกาแฟกลับ “โตสวนกระแส” โดยเฉพาะเซกเมนต์ Affordable Specialty Coffee หรือกาแฟพิเศษในราคาจับต้องได้ ซึ่ง LINE MAN Wongnai ชี้ว่า เป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดในปีนี้.
จับสัญญาณ: Specialty Coffee ราคาต่ำกว่าร้อย ขายดีในยุคเงินเฟ้อ

ข้อมูลจาก LINE MAN Wongnai ในงาน Thailand Coffee Fest 2025 สะท้อนว่าธุรกิจร้านอาหารโดยรวมยอดขายหดตัวลงถึง 14% จากภาวะเศรษฐกิจและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง แต่ ร้านกาแฟ Specialty ที่ตั้งราคาบิลต่ำกว่า 100 บาท กลับเติบโตแบบก้าวกระโดด
▪ ในกรุงเทพฯ เติบโต 46%
▪ ในต่างจังหวัดเติบโต 19%.
แม้จำนวนร้านกาแฟเปิดใหม่ลดลงจาก 7,000 ร้าน เหลือ 5,000 ร้านในครึ่งปีแรก 2025 แต่ร้านกาแฟยังมี อัตราอยู่รอดในปีแรกสูงกว่าร้านอาหาร โดยร้านกาแฟปิดตัว 43% เทียบกับร้านอาหารที่ปิดถึง 50%.
ทำไมกาแฟ ‘Affordable Specialty’ ถึงขายดี?

1️⃣ เปลี่ยนจากพรีเมียมเกินเอื้อม เป็นของประจำวัน
คนไทยยุคนี้ไม่จำเป็นต้องจ่ายหลักร้อยปลายๆ เพื่อดื่มกาแฟคุณภาพดีอีกต่อไป การตั้งราคา ‘ต่ำกว่าร้อย’ ทำให้ Specialty Coffee ไม่ใช่แค่ของฟุ่มเฟือย แต่กลายเป็นเครื่องดื่มประจำวันได้

2️⃣ ตอบโจทย์คนเมืองที่เร่งรีบและรักสะดวก
ลูกค้าเลือกซื้อผ่าน Digital Ordering เช่น สั่งผ่าน QR Code และชำระเงินด้วย Digital Payment ช่วยเพิ่มออเดอร์และยอดขายต่อบิล (Order Size) ได้ถึง 32%-37%

3️⃣ ขยายช่องทางขายครบวงจร (Omni-channel)
กาแฟเดลิเวอรีโตต่อเนื่อง โดยยอดขายจาก LINE MAN เพิ่มขึ้น 23% และเฉลี่ยแล้ว 22% ของยอดขายร้านกาแฟ มาจากเดลิเวอรี

4️⃣ ตลาด Matcha ยังโต
มัทฉะ (ชาเขียวบด) ยังคงเป็นเมนูดาวรุ่งในกลุ่มร้านเครื่องดื่ม ยอดขายเติบโต 28% จากร้านมัทฉะเดิม.
Insight: พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน “กาแฟคุณภาพราคาดี” เท่านั้นที่อยู่รอด ข้อมูลของ LINE MAN Wongnai ยังเผยว่า

🔹Specialty Coffee มี ส่วนแบ่งตลาดใหญ่กว่ากาแฟทั่วไป
▪ ทั่วประเทศ: 56%
▪ กรุงเทพฯ และปริมณฑล: 66%

🔹ลูกค้าต้องการ ความสะดวก รวดเร็ว และ ช่องทางสั่งซื้อที่หลากหลาย.
กลยุทธ์สำคัญ: ใครอยากอยู่รอดในธุรกิจกาแฟ ต้องทำ 3 ข้อนี้
🔹Affordable Quality
ขายของดี แต่ราคาเอื้อมถึง
🔹Omni-channel
ขายได้ทุกช่องทาง ทั้งหน้าร้าน-ออนไลน์
🔹ใช้เทคโนโลยีช่วยบริหาร
เช่น POS, Digital Payment, QR Ordering ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ.
ร้านกาแฟไม่ใช่แค่ขายกาแฟ

ปี 2025 ธุรกิจกาแฟกำลังเปลี่ยนจากการแข่งขันที่เน้น “ความหรูหรา” ไปสู่สนามของ ความคุ้มค่า + ความสะดวก ใครจับจังหวะนี้ได้ก่อน มีโอกาสโตสวนกระแสแม้เศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่.

#ตลาดกาแฟ2025 #กาแฟโตสวนเศรษฐกิจ

“แมคโดนัลด์ โตไม่หยุด! ทุบสถิติยอดขายสูงสุด 7,957 ล้านบาท ดันกลยุทธ์ ‘อร่อยคุ้มค่า-ไก่ทอด’ ขยายฐานลูกค้า ครบรอบ 40 ปี พร...
13/07/2025

“แมคโดนัลด์ โตไม่หยุด! ทุบสถิติยอดขายสูงสุด 7,957 ล้านบาท ดันกลยุทธ์ ‘อร่อยคุ้มค่า-ไก่ทอด’ ขยายฐานลูกค้า ครบรอบ 40 ปี พร้อมเดินหน้าเติบโตยั่งยืน”.

แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จปี 2567 ทุบสถิติยอดขายสูงสุดในประวัติการณ์ 7,957 ล้านบาท โต 10% ต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจไม่เอื้อ ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 11%.
กิตติวรรณ อนุเวชสกุล ซีอีโอแมคไทย เผยเบื้องหลังความสำเร็จมาจาก Key Strategy ที่ผลักดันการเติบโต ดังนี้

▪ Value Platform เน้นคุ้มค่าเข้าถึงง่าย
เช่น ชุด EVM 99 บาท และ McSavers 1+1 เพียง 55 บาท เจาะกลุ่มที่ต้องการความคุ้มค่า
▪ ขยายฐานด้วย “ไก่ทอดแมค”
ยอดขายเติบโต 33% ใช้พรีเซ็นเตอร์ ‘ต้าห์อู๋ x ออฟโรด’ ดึงกลุ่ม Gen Z ชูคอนเซปต์ "กรอบ ชุ่มฉ่ำ ใหญ่ทุกชิ้น"
▪ เพิ่มเทคโนโลยีบริการแบบไร้รอยต่อ
ติดตั้งเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติครบทุกสาขา เน้นบริการเสิร์ฟถึงโต๊ะ พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า
▪ ขยายสาขาใหม่และรีโนเวทร้าน
เปิดใหม่กว่า 20 แห่ง รีโนเวท 25 แห่งภายใต้ 3 คอนเซปต์ Geometry, Essential Ingredients 2.0 และ CUBE
▪ ขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน
ตั้งเป้าบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก 100% ในปี 2568 พร้อมสานต่อโครงการ CSR ผ่านมูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์.
แมคโดนัลด์ ไม่ได้เป็นแค่ร้านอาหาร แต่คือแบรนด์ที่เติบโตคู่สังคมไทย 40 ปี ด้วยกลยุทธ์คุ้มค่า เข้าถึงง่าย และการส่งมอบความสุขที่ยั่งยืน.
พร้อมขยายสาขาใหม่กว่า 20 แห่ง รีโนเวท 25 สาขา และต่อยอดเทคโนโลยีบริการไร้รอยต่อ ตั้งเป้าครบรอบ 40 ปี โตต่อเนื่องอีก 10% ในปี 2568.
อ่านต่อบทความเต็ม คลิกที่นี่ >>
[ https://www.marketplus.in.th/content/detail.php?id=33303 ].

#เบอร์เกอร์อันดับ1
#ไก่ทอดแมค #กลยุทธ์ธุรกิจ #ธุรกิจอาหาร
#แมคโดนัลด์40ปี

ปี 2567 สามารถทุบสถิติการเติบโตทางด้านรายได้ครั้งใหม่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยยอดขายสูงถึง 7,957 ล้านบาท ....

: “รวยไม่หยุด กรุ๊ป” เร่งเครื่องแตกไลน์ธุรกิจ ปั้นแบรนด์ใหม่เจาะตลาดแมส ตั้งเป้ารายได้แตะพันล้านในปี 2568.“รวยไม่หยุด กร...
11/07/2025

: “รวยไม่หยุด กรุ๊ป” เร่งเครื่องแตกไลน์ธุรกิจ
ปั้นแบรนด์ใหม่เจาะตลาดแมส ตั้งเป้ารายได้แตะพันล้านในปี 2568.

“รวยไม่หยุด กรุ๊ป” ผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ดังในย่านสยามสแควร์ อาทิ nice two Meat u, Fire Tiger, Mil Toast House และ Dosan Dalmatian เร่งขยายอาณาจักรธุรกิจอาหารเต็มสูบ ล่าสุดเปิดเกมรุกเจาะตลาดแมส พร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ 8 แบรนด์ในไตรมาส 3 ปีนี้ หวังปั้นรายได้แตะพันล้านบาทในปี 2568.
เกศ - ชุติมา เปรื่องเมธางกูร และ แนท - นันทนัช เอื้อศิริทรัพย์ 2 ผู้ร่วมก่อตั้ง เผยแนวคิดการสร้าง “ร้านอาหารที่ตอบโจทย์คนไทย” จุดเริ่มจากร้านปิ้งย่างเกาหลี nice two Meat u สู่การสร้างแบรนด์ของตัวเองอย่าง Fire Tiger ซึ่งล้วนปักหมุดสาขาแรกที่สยามสแควร์ ปัจจุบันมีแบรนด์ในเครือกว่า 10 แบรนด์ ดำเนินงานภายใต้ 3 บริษัทหลัก.

กลยุทธ์ปี 2568
เครือฯ ปรับพอร์ตสู้เศรษฐกิจชะลอ หันเจาะกลุ่มแมสมากขึ้น เริ่มจากการเปิดตัว “เกศเตี๋ยว” ก๋วยเตี๋ยวเรือรสจัดจ้านที่คืนทุนใน 3 เดือน สร้างยอดขายทะลุ 30 ล้านบาทภายใน 5 เดือน และได้รับการตอบรับดีจากทั้งคนไทย-ต่างชาติ พร้อมเดินหน้าเปิดสาขา 2 ที่ไอคอนสยาม และเตรียมต่อยอดสู่ เกศเตี๋ยวแบบซอง ส่งออกจีน-ยุโรป-อเมริกา.

เปิดตัว 8 แบรนด์ใหม่
ในไตรมาส 3 นี้จะเปิดตัวแบรนด์ใหม่อีก 8 แบรนด์ แบ่งเป็นระดับแมส 6 แบรนด์ ได้แก่

Standard Bun, เกศเตี๋ยวป๊อกป๊อก & ต้มยำ, ข้าวแกง & ปลาทู, Chago, Daelim Korean Noodle และ Sushi & Izakaya
และระดับพรีเมียม 2 แบรนด์ปิ้งย่างเกาหลี ได้แก่

Cheong Dum ที่สยามพารากอน และ Hannum ที่ Central Dusit.

รีแบรนด์-ขยายโมเดลใหม่
พร้อมเดินหน้ารีแบรนด์ Fire Tiger สู่แนวมินิมอล และสร้าง Food Hub รวมหลายแบรนด์ในเครือไว้ในที่เดียวกัน เพื่อเพิ่มความหลากหลาย ดึงทราฟฟิก และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยปีนี้ใช้งบลงทุนราว 200 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโต 20% จากรายได้ปีที่แล้วราว 770 ล้านบาท

“การทำธุรกิจยุคนี้ ต้องเป็นปลาไว อ่านเกมให้ขาด และกล้าปรับตัวอยู่เสมอ”

รวยไม่หยุด กรุ๊ป เดินหน้าปั้นแบรนด์ใหม่ต่อเนื่อง พร้อมเติมเต็มทุกเซ็กเมนต์ในตลาดอาหารไทย-เอเชียน.
⏩ อ่านฉบับเต็ม :
https://www.marketplus.in.th/content/detail.php?id=33532.

#รวยไม่หยุดกรุ๊ป #เกศเตี๋ยว #ร้านอาหารแมส #แบรนด์ไทยโตต่างประเทศ #ธุรกิจอาหาร #กลยุทธ์ธุรกิจ

‘รวยไม่หยุด กรุ๊ป’ ถือเป็นผู้บุกเบิกร้านอาหารสไตล์เกาหลีในย่านสยามสแควร์ ไม่ว่าจะเป็นร้านปิ้งย่างเกาหล...

🔵 : Hyundai เปิดเกมรุกตลาด SUV เมืองไทย เปิดตัว “The All-New SANTA FE” ยกระดับด้วยดีไซน์ – เทคโนโลยี – ไฮบริด.ตลาด SUV เ...
11/07/2025

🔵 : Hyundai เปิดเกมรุกตลาด SUV เมืองไทย เปิดตัว “The All-New SANTA FE” ยกระดับด้วยดีไซน์ – เทคโนโลยี – ไฮบริด.
ตลาด SUV เมืองไทยกำลังจะถูกเขย่าอีกครั้ง เมื่อ Hyundai Mobility (Thailand) เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด “The All-New SANTA FE” อย่างเป็นทางการในวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ผ่านงานเปิดตัวออนไลน์ “Meet the new Horizon” ที่ประกาศชัดว่าแบรนด์พร้อมเดินหน้าแข่งขันในเซกเมนต์ SUV ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ และเทคโนโลยีที่พร้อมตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ยุคใหม่ที่มองหาความพรีเมียมควบคู่ความยั่งยืน.
เกมใหม่ของ Hyundai: SUV ต้องไม่ใช่แค่ “ใหญ่” แต่ต้อง “ฉลาด” และ “หรู”

จากข้อมูลในข่าว The All-New SANTA FE ถูกวางตำแหน่งให้เป็นมากกว่า ยานยนต์อเนกประสงค์ทั่วไป ด้วยแนวคิดการออกแบบ “นิยามใหม่แห่ง SUV” ที่มุ่งเน้นความพรีเมียม ทั้งในด้านดีไซน์ที่โดดเด่น โครงสร้างตัวถังทรงพลัง ห้องโดยสารที่กว้างขวางที่สุดในคลาส พร้อมด้วยฟังก์ชันไฮเทคมากมาย ตั้งแต่ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) ไปจนถึงเครื่องยนต์ไฮบริดที่เน้นสมรรถนะและการประหยัดพลังงาน

นี่คือการขยับฐานแบรนด์ให้กลายเป็น “ผู้เล่นในกลุ่ม SUV ระดับบน” ไม่ใช่แค่รถยนต์เพื่อครอบครัว แต่คือรถสำหรับผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน.
กลยุทธ์กระตุ้นตลาด :
เปิดตัวออนไลน์ - แจกบัตรน้ำมัน - ปิดการขายเร็ว

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ Hyundai ใช้ครั้งนี้คือ “Online-First Launch” โดยจัดไลฟ์งานเปิดตัวผ่าน Facebook และเว็บไซต์อย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ก.ค. 2568 เวลา 14.00 น. พร้อมโปรโมชันจูงใจให้ลูกค้าจองรถทันทีผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยสิทธิพิเศษ “บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท” สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนและรับรถภายในสิ้นเดือนสิงหาคม.
กลยุทธ์นี้สะท้อนให้เห็นความพยายามของ Hyundai ในการ “ปิดดีลเร็ว” เจาะกลุ่มผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่คุ้นเคยกับการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ พร้อมกระตุ้นการตัดสินใจซื้อทันทีผ่านสิทธิประโยชน์ระยะสั้น.
การกลับมาที่พร้อม "ท้าชน"

แม้จะไม่ใช่แบรนด์ที่มีฐานใหญ่ในไทยเท่าค่ายญี่ปุ่น หรือยุโรป แต่ Hyundai เคยสร้างความประทับใจด้วยโมเดล SUV อย่าง Tucson และ H-1 มาก่อน และในครั้งนี้ The All-New SANTA FE ถูกใช้เป็น “เรือธง” ในการประกาศการกลับมาบุกตลาดเต็มตัว ภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัย หรูหรา และฉลาดกว่าเดิม

ตลาด SUV ไทยในช่วงหลังถูกขับเคลื่อนด้วยกระแสความต้องการ “รถยนต์ที่ตอบไลฟ์สไตล์หลากหลาย” ทั้งด้านครอบครัว เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม การเปิดตัวของ The All-New SANTA FE จึงไม่ใช่แค่การเพิ่มตัวเลือกในตลาด แต่เป็นการตั้งเป้ายกระดับภาพลักษณ์ของ Hyundai ในประเทศไทย.
Hyundai ใช้ “The All-New SANTA FE” เป็นหมากสำคัญในเกมตลาด SUV ไทย ด้วยจุดขายแบบครบเครื่องตั้งแต่ดีไซน์ เทคโนโลยี ไปจนถึงโปรโมชันกระตุ้นการจอง พร้อมขยับบทบาทแบรนด์จาก “รถครอบครัว” สู่ “SUV พรีเมียม” ที่ขับเคลื่อนด้วยแนวคิดความยั่งยืนและนวัตกรรม หากกระแสตอบรับดี มีโอกาสที่ Hyundai จะเดินเกมบุกหนักขึ้นในไทยอีกในไม่ช้า.
ีเมียม
#เปิดตัวออนไลน์ ุคใหม่

BLACKPINK WATER: กลยุทธ์แบรนด์รักษ์โลกบนเวที K-pop ที่มากกว่าน้ำดื่ม.การเปิดตัว “BLACKPINK WATER” น้ำดื่มบรรจุกล่องในคอน...
11/07/2025

BLACKPINK WATER: กลยุทธ์แบรนด์รักษ์โลกบนเวที K-pop ที่มากกว่าน้ำดื่ม.
การเปิดตัว “BLACKPINK WATER” น้ำดื่มบรรจุกล่องในคอนเสิร์ต “BLACKPINK WORLD TOUR IN GOYANG” ที่ประเทศเกาหลีใต้ นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่น่าจับตาของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และวงการบันเทิง โดยเฉพาะในยุคที่ “ความยั่งยืน” กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของผู้บริโภค.
เมื่อไอดอลกลายเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อสิ่งแวดล้อม.
BLACKPINK ไม่ใช่แค่ศิลปินระดับโลก แต่ยังเป็น “ไอคอนของการเปลี่ยนแปลง” ครั้งนี้ YG Entertainment จับมือกับ เต็ดตรา แพ้ค ประเทศเกาหลี เปิดตัวน้ำดื่มในกล่อง Tetra Prisma® Aseptic ขนาด 330 มล. ที่ออกแบบพิเศษด้วยสีชมพู-ดำตามเอกลักษณ์ของวง ใช้เฉพาะในคอนเสิร์ต 2 วันเท่านั้น ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ K-pop ที่น้ำดื่มในงานคอนเสิร์ตถูกเปลี่ยนจากขวดพลาสติกเป็นกล่องกระดาษที่รีไซเคิลได้ .
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ แต่คือ “จุดเริ่มต้น” ของการสร้างวัฒนธรรมคอนเสิร์ตแบบใหม่ ที่ผู้ชมมีส่วนร่วมกับแนวคิดรักษ์โลก ผ่านกิจกรรม “Be a BLINK, Make the Right Move” และจุดรีไซเคิลกว่า 21 จุดในงาน.
กลยุทธ์ที่มากกว่า CSR คือ Emotional Branding.
การเลือกเปิดตัว BLACKPINK WATER ในคอนเสิร์ตไม่ใช่แค่การทำ CSR แต่เป็นการใช้กลยุทธ์ “Emotional Branding” ที่ผสมผสานแบรนด์กับไลฟ์สไตล์ของแฟนคลับ โดยวางตำแหน่งให้ “น้ำดื่มกล่อง” ไม่ใช่แค่น้ำ แต่เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์และความทรงจำในคอนเสิร์ต ซึ่งยากจะลืมเลือน

ด้วยฐานแฟนทั่วโลกของ BLACKPINK กลยุทธ์นี้เท่ากับการส่งสารด้านความยั่งยืนออกไปอย่างทรงพลัง และขยายการรับรู้ของกลุ่มวัยรุ่นและเจน Z ที่ให้ความสำคัญกับ Climate Action มากขึ้นเรื่อย ๆ.
เต็ดตรา แพ้ค จากผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ สู่ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง.
สำหรับ เต็ดตรา แพ้ค นี่คือโอกาสในการ Reposition แบรนด์ให้กลายเป็นผู้นำด้าน “Sustainable Experience” ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ แต่เป็น “พันธมิตรของแบรนด์” ที่อยากสร้างความเปลี่ยนแปลงผ่านทุกจุดสัมผัสของผู้บริโภค

ความร่วมมือกับ YG จึงไม่ใช่แค่แคมเปญเดียวจบ แต่สามารถต่อยอดได้อีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขยายโมเดลนี้สู่ศิลปินคนอื่นในค่าย หรือสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ลิมิเต็ดในงานอีเวนต์ระดับโลกอื่นๆ.

BLACKPINK WATER คือบทพิสูจน์ว่า “สินค้ารักษ์โลก” จะไม่ใช่เรื่องเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป หากได้รับการสื่อสารผ่านแบรนด์ที่มีอิทธิพล และถ่ายทอดผ่านประสบการณ์ที่จับต้องได้ ยิ่งไปกว่านั้น กลยุทธ์นี้ยังสะท้อนแนวโน้มของการตลาดยุคใหม่ ที่ “อารมณ์” และ “คุณค่า” สำคัญพอๆ กับ “ผลิตภัณฑ์”.

ื่อโลก #คอนเสิร์ตรักษ์โลก

'มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง' ถือเป็นแพลตฟอร์มการตลาดที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายมานานในบ้านเรา กลยุทธ์นี้เป็นอีก 1 คำตอบที่ถูกเลือกใช...
11/07/2025

'มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง' ถือเป็นแพลตฟอร์มการตลาดที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายมานานในบ้านเรา กลยุทธ์นี้เป็นอีก 1 คำตอบที่ถูกเลือกใช้เพื่อให้สามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายได้ค่อนข้างดี
โดยการใช้มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง ในปัจจุบันอาจจะไม่ได้มองแค่เรื่องของ Brand Visibility หรือการรับรู้แบรนด์ หรือเป็น การสร้างรับรู้ต่อแบรนด์ผ่านการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก รวมถึงผ่านกระบวนการการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี การเน้นย้ำถึงจุดเด่นของแบรนด์ ความน่าเชื่อถือ เพื่อให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเท่านั้น
แต่การดำเนินกลยุทธ์ ด้านสปอร์ต มาร์เก็ตติ้งยังมีการมองถึงเรื่องของการสร้าง Engagement ที่จะปูทางไปสู่การสร้างกลุ่มก้อนของคนรักแบรนด์ หรือแบรนด์เลิฟในระยะยาว
เช่นเดียวกับการทำมิวสิก มาร์เก็ตติ้ง ที่ปัจจุบันสามารถทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ของตัวเองในหลากหลายมิติและ ไม่ได้เน้นการขายสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่การทำมิวสิก มาร์เก็ตติ้งยังต้องปรับตัวไปตามพฤติกรรมของคนฟังและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป
ซึ่งแน่นอนว่า นอกจากเป้าหมายในการช่วยสร้างการจดจำแบรนด์แล้ว มิวสิก มาร์เก็ตติ้งยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสร้าง Inspiration ผ่านกลยุทธ์นี้ที่แน่นอนว่าย่อมส่งผลด้านบวกกับแบรนด์ในระยะยาวตามมา
การทำมิวสิก มาร์เก็ตติ้งในปัจจุบันจึงไม่ได้อยู่ที่การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักหรือการช่วยเพิ่มยอดขายเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวช่วยในการสร้าง Engagement ที่จะปูทางไปสู่การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รักของลูกค้าในระยะยาว ดังเช่นการใช้เครื่องมือที่เป็นสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง
อย่างไรก็ตาม 'เพลง' ได้ก้าวจากแค่เป็นสื่อบันเทิงไปสู่การเป็นคอนเทนต์ที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้บริโภค ซึ่งในมิติ การตลาด เพลงเป็นอาวุธที่มีพลัง ช่วยปั้นยอดขายจากฐานแฟน-Fan base Marketing ซึ่งการดำเนินกลยุทธ์มิวสิก มาร์เก็ตติ้งให้ปัง!!! นั้น ไม่ได้อยู่ที่การเลือกพรีเซ็นเตอร์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ หรือเพลงที่จะนำมาใช้ประกอบแล้วจบ
การทำมิวสิก มาร์เก็ตติ้งในปัจจุบันยังต้องใช้ตัว “คอนเทนต์” เข้ามาขับเคลื่อน พร้อมกำหนดแนวทางให้สอดคล้อง รวมถึงการเลือกใช้สื่อแต่ละสื่อให้ผสมผสานกันอย่างลงตัว เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับแคมเปญที่ทำ
โดยปกติ การเลือกใช้ 'มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง' เข้ามาเป็นแพลตฟอร์มในการทำตลาดนั้น จะมีทั้งการทำผ่านรูปแบบของ การใช้เพลงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในเนื้อหาของโฆษณา ที่เป้าหมายก็คือการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์
การทำมิวสิก มาร์เก็ตติ้ง ในรูปแบบของการเข้าไปเป็นสปอนเซอร์ชิพกับมิวสิก อีเวนต์ต่างๆ ที่จัดขึ้น ซึ่งการใช้กลยุทธ์ในรูปแบบนี้ จะมีเป้าหมายอยู่ที่เรื่องของการสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ด้านดนตรีที่แบรนด์นำมาให้กับลูกค้า ซึ่งแน่นอนว่าจะสามารถต่อยอดไปสู่การช่วยเพิ่ม Engagement ให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
ขณะที่อีกรูปแบบของการใช้ที่น่าสนใจก็คือการนำมิวสิก มาร์เก็ตติ้ง มาใช้ในรูปแบบของการทำโปรโมชั่น ที่นอกจากการมองในเรื่องของการช่วยเพิ่มยอดขายที่อาจจะเป็นการวัดผลของการทำแคมเปญมิวสิก มาร์เก็ตติ้งที่ลงทุนด้านการตลาดไป
แน่นอนว่า แม้จะเป็นการทำโปรโมชั่นหรือการส่งเสริมการขาย แต่ในปัจจุบันก็เริ่มมีการนำแบรนด์เข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนหรือตัวนำมากกว่าการใช้โปรโมชั่นเป็นตัวนำเหมือนในอดีต
อย่างการทำแคมเปญ 'โค้ก' ลุ้นซ่ากับ 'K-Pop' ในช่วงปีที่ผ่านมาที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ซ่าสดชื่นกับผลิตภัณฑ์ 'โค้ก' 'แฟนต้า' และ 'สไปรท์' พร้อม เอาใจแฟนเพลงสายเคป๊อป ร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ บินลัดฟ้าสู่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกิจกรรมสุดซ่ากว่าใครกับ 'K-Pop Tour' เป็นอีกการส่งมอบประสบการณ์ด้านดนตรีให้กับคนไทยที่คลั่งไคล้แนวเคป๊อป ที่สามารถเชื่อมโยงกับการส่งความสุข ตามแนวทางของแบรนด์
แน่นอนว่า แคมเปญในรูปแบบดังกล่าวนี้ ยังสามารถเจาะเข้าไปที่ไลฟ์สไตล์ความชอบของกลุ่มเป้าหมายที่มีแตกต่างกันออกไปได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยสร้างแรงส่งในแง่ของการช่วยเพิ่มการสร้าง Engagement ให้กับแบรนด์ ผ่านประสบการณ์ด้านดนตรีให้กับกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย
ไม่เพียงแค่เรื่องของการสร้าง Engagement เท่านั้น แต่การทำมิวสิก มาร์เก็ตติ้ง บางแคมเปญยังช่วยในแง่ของการเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์อีกด้วย
อย่างกรณีของ เป๊ปซี่ ที่มีการเข้าไปเป็นสปอนเซอร์ชิฟ การจัดคอนเสิร์ตมันใหญ่มากมาตลอดในช่วงหลายปีมานี้ ที่นอกจากนำประสบการณ์ด้านดนตรีมาให้ลูกค้าแล้ว ยังมีการกระตุ้นเตือนให้การเข้าร่วมคอนเสิร์ตอย่างรับผิดชอบ ด้วยการร่วมกันเก็บขยะที่เกิดจากการดูคอนเสิร์ต ถือเป็นอีกโมเม้นต์ของการทำที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง แม้จะเป็นกลยุทธ์ที่ถูกนำมาใช้ให้เห็นกันบ่อยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่การเลือกวางหลักคิดในการดำเนินกลยุทธ์นี้ก็สำคัญไม่น้อย ตั้งแต่การเลือกตัวศิลปิน เพลง ไปจนถึงการเลือกวางแนวทางในการทำ ซึ่งแน่นอนว่า การวางกลยุทธ์ที่เหมาะสม และมีเป้าหมายที่ชัดเจน จะเป็นหัวใจสำคัญในการทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการทำ
แน่นอนว่า หมดยุคของแค่การนำเพลงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำตลาด แต่ต้องมองที่เป้าหมาย และการกำหนดกลยุทธ์ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งทั้งหมดนั้น จะมีตัวที่ช่วยสร้างกระแสให้กับการทำนั่นคือ คอนเทนต์ที่สามารถสร้างไวรัลให้กับแคมเปญผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีส่วนในการช่วยในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดนั้นจะช่วยสะท้อนให้เห็นว่า แคมเปญมิวสิก มาร์เก็ตติ้งที่ทำ จะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน...

10/07/2025

ศาลสั่งกลุ่มมหากิจศิริ
ส่งบัญชีรับจ่ายและทรัพย์สินรายเดือนให้ศาลและเนสท์เล่เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของเนสท์เล่

“น้องเกล-พี่จองคัลแลน-น้องเนย” แท็กทีมโชว์ความคิ้วท์ เปิดตัว Galaxy Z Fold7 และ Z Flip7 รุ่นใหม่จาก Samsung.ซัมซุงเปิดตั...
10/07/2025

“น้องเกล-พี่จองคัลแลน-น้องเนย” แท็กทีมโชว์ความคิ้วท์ เปิดตัว Galaxy Z Fold7 และ Z Flip7 รุ่นใหม่จาก Samsung.
ซัมซุงเปิดตัว Galaxy Z Fold7 และ Galaxy Z Flip7 รุ่นใหม่ ด้วยแคมเปญสุดคิ้วท์ ดึง 3 พรีเซนเตอร์ตัวท็อปที่กำลังฮิตสุดในโลกโซเชียล ได้แก่ “น้องเกล” ดาราตัวน้อยขวัญใจคนไทย, “พี่จอง-คัลแลน” ยูทูบเบอร์เกาหลีอารมณ์ดี และ “น้องเนย ButterBear” ไอดอลมาสคอตสุดน่ารัก ร่วมถ่ายทอดความโดดเด่นของสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นล่าสุดให้เข้าถึงใจคนดูทุกวัย.
น้องเกล ตัวแทนของความสดใสใช้ง่ายแบบเป็นธรรมชาติ แค่พูดคำว่า “Capture!” ก็สั่งถ่ายภาพได้ทันทีผ่านหน้าจอด้านนอกของ Galaxy Z Flip7 เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะสายครอบครัวและคนที่อยากถ่ายภาพง่ายๆ ด้วยมือเดียว บอกเลยว่าน่ารักจนใจละลาย.
พี่จอง-คัลแลน ดูโอ้ยูทูบเบอร์สายเกาหลีขวัญใจแฟนไทยก็ไม่น้อยหน้า พกพา Galaxy Z Fold7 ตะลุยถ่ายคลิปแสนสนุก โชว์ฟีเจอร์จอพับบางเบาและกล้องคมชัดระดับโปร ตอบโจทย์สายครีเอเตอร์และคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนทำงานได้เหมือนแท็บเล็ต.
ส่วน น้องเนย ButterBear ไอดอลสาวในชุดหมีสุดคิวท์ เจ้าของฉายา “มัมหมีแห่งชาติ” ก็ไม่พลาดที่จะร่วมฮีลใจแฟนๆ กับ Galaxy Z Flip7 สื่อถึงความสนุกสนานของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ที่เหมาะกับวัยรุ่นยุคใหม่ ชอบความน่ารักและความสร้างสรรค์
................................

การรวมพลังของทั้ง 3 พรีเซนเตอร์ สะท้อนกลยุทธ์การตลาดของซัมซุงที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความง่ายและน่ารัก (ผ่านน้องเกล), คนรุ่น Millennials/Gen Z ที่เสพคอนเทนต์ออนไลน์และรักในความไวรัล (ผ่านพี่จอง-คัลแลน), หรือกลุ่มวัยรุ่นสายคิวท์ที่ชอบความแปลกใหม่ของไอดอลมาสคอต (ผ่านน้องเนย ButterBear) .
ทั้งหมดนี้ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของ Samsung Galaxy Z Fold7 และ Galaxy Z Flip7 ให้ดูเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ล้ำสมัย แต่ก็เป็นกันเอง เข้าถึงง่าย และตรงใจไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ในยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง
⏤ แคมเปญนี้เรียกได้ว่าปังตั้งแต่พรีเซนเตอร์ยันสินค้าเลยทีเดียว!................................

ใครอยากสัมผัส “ประสบการณ์พับที่เหนือกว่า” ซัมซุงเปิดจองล่วงหน้าแล้ววันนี้ – 31 ก.ค. 68 พร้อมสิทธิพิเศษ 3 ต่อสุดคุ้มที่ร้านค้าและช่องทางออนไลน์ของ Samsung.
📌 รายละเอียดเพิ่มเติม: https://bit.ly/pr-preorder_z-fold7-flip7.
#เหนือกว่าที่เคยพับ

Synnex ผนึกแบรนด์ไอทีชั้นนำ ลุยงาน Commart 2025 จัดเต็มโปรแรง-นวัตกรรมใหม่.บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ...
10/07/2025

Synnex ผนึกแบรนด์ไอทีชั้นนำ ลุยงาน Commart 2025 จัดเต็มโปรแรง-นวัตกรรมใหม่.
บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าไอทีครบวงจร ผนึกกำลังพันธมิตรแบรนด์ไอทีระดับโลก อาทิ Razer, Western Digital (WD), SanDisk และ Seagate ร่วมงาน Commart 2025 ภายใต้ธีม “Commart Unlimit โปรน็อนสต๊อป ช้อปไม่จำกัด” ระหว่างวันที่ 3-6 กรกฎาคม 2568 ณ ไบเทค บางนา เมื่อเร็วๆ นี้

สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SYNEX เผยว่า การเข้าร่วมงานครั้งนี้มุ่งตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านสินค้าไอทีที่ลูกค้าไว้วางใจ โดยแบรนด์พันธมิตรล้วนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมรับประกันคุณภาพด้วยตราสัญลักษณ์ “Trusted by Synnex” ซึ่งรับรองสินค้าของแท้ พร้อมบริการหลังการขายมาตรฐานสูงทั่วประเทศ
ในงานนี้ Synnex และพันธมิตรได้นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล พร้อมโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในงาน ทั้งยังตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการยกระดับตลาดไอทีไทยด้วยโซลูชันครบวงจร และบริการหลังการขายที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
#สินค้าไอทีคุณภาพ

AIS เปิดจอง Galaxy Z Flip7 & Z Fold7 เสิร์ฟประสบการณ์ 5G สุดล้ำ พร้อมโปรสุดคุ้ม ลดสูงสุด 26,000 บาทAIS จับมือซัมซุง เปิด...
09/07/2025

AIS เปิดจอง Galaxy Z Flip7 & Z Fold7 เสิร์ฟประสบการณ์ 5G สุดล้ำ พร้อมโปรสุดคุ้ม ลดสูงสุด 26,000 บาท
AIS จับมือซัมซุง เปิดจองสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นใหม่ Galaxy Z Flip7 และ Galaxy Z Fold7 พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ทั้งเครื่องเปล่าและเครื่องพร้อมแพ็กเกจ ลดสูงสุดถึง 26,000 บาท เฉพาะที่ AIS เท่านั้น
ลูกค้า AIS จะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีล้ำสมัย Galaxy AI และนวัตกรรม 3CC ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รวมคลื่น 5G ถึง 3 ย่านความถี่ (2600 MHz, 2100 MHz และ 700 MHz) เพื่อความเร็วแรงเต็มสปีดบนเครือข่าย AIS 5G ที่ครอบคลุมมากที่สุดในไทย.
🟦 สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า AIS ที่จองล่วงหน้า
▪️รับส่วนลดสูงสุด 26,000 บาท
▪️นำเครื่องเก่ามาแลกรับส่วนลดเพิ่ม สูงสุด 15,000 บาท (เครื่องพร้อมแพ็ก) และ 8,000 บาท (เครื่องเปล่า)
▪️ใช้ AIS Points ลดเพิ่ม สูงสุด 5,000 คะแนน พร้อมรับคะแนนเพิ่มทุก 200 บาท
▪️ชมฟรี! PLAY PREMIER 12 เดือน ดูพรีเมียร์ลีกครบทุกแมตช์ และหนัง ซีรีส์ไทยบน MONOMAX มูลค่า 2,999 บาท
▪️ของขวัญสุด Exclusive จาก Samsung x POP MART สำหรับผู้จอง 850 คนแรก
▪️ฟรี Power Adapter 25W มูลค่า 690 บาท
▪️ฟรีแพ็กเกจ AIS Care+ ดูแลเครื่องครบทุกกรณี 1 เดือน
▪️คุ้มครองจอฟรี 2 ปี (ไม่รวมอุบัติเหตุ)
▪️อัปเกรดความจุฟรี 2 เท่า มูลค่าสูงสุด 13,000 บาท (เฉพาะเครื่องเปล่า)
▪️ลดสูงสุด 35% สำหรับ Galaxy Watch, Buds, Ring เมื่อซื้อพร้อมเครื่อง.
ยังสามารถเลือกผ่อน 0% นานสูงสุด 36 เดือน หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 55% แม้ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้ด้วยบัตรประชาชนผ่าน Samsung Finance+.
🟦 เปิดให้จองแล้วตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2568 ผ่าน AIS Online Store >> www.ais.th.
#สมาร์ทโฟนจอพับ #พับใหม่บางมาก #เปิดจองแล้ววันนี้

Address


Opening Hours

Monday 09:00 - 19:00
Tuesday 09:00 - 19:00
Wednesday 09:00 - 19:00
Thursday 09:00 - 19:00
Friday 09:00 - 19:00
Saturday 10:30 - 17:00

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when MarketPlus Online posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to MarketPlus Online:

Shortcuts

  • Address
  • Opening Hours
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share

Our Story

พื้นที่อัพเดทโลก ข่าวธุรกิจ การตลาด ที่เข้าใจได้ง่ายๆ ใครๆ ก็อ่านได้ แถมพกด้วยเรื่องชิลล์ๆ แหล่งแฮงค์เอ๊าท์ เติมเต็มชีวิตเครียดแบบ Work-Life Balance @ นิตยสาร MarketPlus https://www.marketplus.in.th