26/09/2025
ไอเดียการสอนเรื่อง historical narrative, historical myth, ปูพื้นสำหรับสอนประวัติศาสตร์นิพนธ์
วิชาเลือก ประวัติศาสตร์ ม.5
หลังจากที่ผมเคยลงเรื่องระบบไพร่ 3 แบบ ว่าเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ไม่มีหลักฐานรองรับชัดเจน แต่นักประวัติศาสตร์จำนวนมากกลับเชื่อเรื่องนี้โดยไม่ตรวจสอบหลักฐานให้รัดกุม เลยคิดถึงไอเดียที่ตัวเองเคยสอนเกี่ยวกับ historical narrative ในวิชาเลือกขึ้นมา (ข้อดีของวิชาเลือกคือ ทำไมมีเวลาเน้นไปที่ทักษะและวิธีคิดแบบนักประวัติศาสตร์ได้มากกว่า)
1. เริ่มจากให้โจทย์นักเรียนว่าให้สืบค้น “ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เรื่องใดก็ได้ ที่คนเคยเชื่อว่าจริง แต่ถูกพิสูจน์ที่หลังว่าไม่จริง” โดยให้ทำใส่ในใบงานก็ได้ ของผมให้ทำเป็น Google สไลด์ ที่ดูพร้อมกันได้ (คลาสคนน้อยจะสะดวกแบบนี้ ถ้าคนเยอะใช้วิธีอื่นครับ)
2. จากนั้นให้แต่ละคนเล่าเรื่องที่ตนเองค้นมาได้ โดยผมมีคำถามสำคัญให้ทุกคนตอบว่า ”ทำไมคนถึงคิดว่าเรื่องนี้จริง“
แต่ละคนได้มาหลากหลายเรื่องมาก ตั้งแต่เรื่อง classic อย่างมารีอองตัวเน็ตพูดเรื่องไม่มีขนมปังก็กินเค้ก บางคนเอาเรื่องไวกิ้งไม่ได้สวมหมวกมีเขาเสมอไป บางคนเอาเรื่องพระเจ้าตากหนีไปบวช บางคนเอาเรื่องฮิตเลอร์ไม่ได้ตายจริง แต่หนีไปได้
3. ขั้นต่อมา เราช่วยกันวิเคราะห์ว่าทำไมคนถึงเคยเชื่อ หรือบางคนก็ยังเชื่อ historical myth พวกนี้ ได้คำตอบหลากหลายจากแต่ละเรื่อง เช่น
-เพราะมันสอดรับกับเป้าหมายทางการเมืองในตอนนั้น (เช่นเรื่องมารีอองตัวเน็ต)
-เพราะมันไม่มีหลักฐานชัดเจน และที่มีก็คลุมเครือ คนเลยจินตนาการไปเองให้สอดคล้องกับมุมมองที่เขามองภาพใหญ่ของเหตุการณ์นั้น ๆ (เช่น ระบบไพร่)
-ไม่เคยมีการตรวจสอบหลักฐานจริงจัง
-สื่อกระแสหลักยังคงผลิตซ้ำเรื่องเล่านั้น (ตรงนี้ผมเน้นย้ำนักเรียนว่านี่คือความต่างของ popular history กับ academic history ที่เราต้องแยกให้ออก)
4. สุดท้ายพวกเรานำมาสู่ข้อสรุปว่า เรื่องราวที่เป็น historical myth โดยส่วนมากแล้วไม่ได้อยู่โดด ๆ แต่อยู่ได้เพราะมันลงล็อคใน narrative แบบใดแบบหนึ่ง ตัว myth ช่วยเป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์ให้แก่ narrative ส่วน narrative ก็ทำให้ myth มันดำรงอยู่ได้อย่างแนบเนียน
5. ดังนั้นหาก narrative เปลี่ยน fact หรือ myth บางเรื่องก็จะไม่ถูกพูดถึง เช่น เคสมารีอองตัวเน็ต ถ้าคุณไปฟังเพลง viva la vida ของ Coldplay ที่เขียนจากมุมมองของ the fallen king อย่าง Louis 16TH ก็จะไม่ปรากฏเรื่องกินเค้กแทนขนมปังเลย เพราะมันพูดถึงความเศร้าของการหล่นจากอำนาจของกษัตริย์
การที่นักเรียนเห็นว่า ประวัติศาสตร์ไม่ใช่แค่การนำเสนอ fact แบบตรงไปตรงมา แต่คือการนำ fact ไปวางในโครงเรื่อง (narrative) จะเป็นพื้นฐานที่ต่อยอดต่อไปในการสอนเรื่องประวัติศาสตร์นิพนธ์หัวข้อต่าง ๆ ได้ในบทต่อ ๆ ไป