SiamTownUS

SiamTownUS สื่อไทยในสหรัฐอเมริกา ข่าวฉับไว ให้คำปรึกษาคนไทยที่กำลังมาหรืออาศัยอยู่ในอเมริกา Thai Newspaper in Los Angeles, California, United State
(459)

โบสถ์คาทอลิกแอลเอ ส่งอาหาร-ยาให้โรบินฮูดแอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ผู้นำศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในแอลเอ ประกาศจะช่วยเห...
07/25/2025

โบสถ์คาทอลิกแอลเอ ส่งอาหาร-ยาให้โรบินฮูด

แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ผู้นำศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในแอลเอ ประกาศจะช่วยเหลือผู้อพยพที่ “ไม่กล้าออกจากบ้าน” ในยุค “ไอซ์อาละวาด” โดยการจัดส่งอาหารร้อน ของชำ ยารักษาโรคให้ถึงประตูบ้าน

แอลเอไทมส์ รายงานเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 ว่า อัครสังฆมณฑลโรมันคาทอลิก แห่งลอส แอนเจลิส (the Roman Catholic Archdiocese of Los Angeles) ได้ประกาศว่าจะช่วยเหลือบรรดาสมาชิกที่กำลังอยู่ในสภาพหวาดกลัวเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอิมมิเกรชั่นฯ หรือไอซ์ จนไม่กล้าออกจากบ้าน โดยการจัดส่งอาหารร้อน ของชำ และยาตามใบสั่งแพทย์ให้ที่บ้าน ผ่านโครงการช่วยเหลือครอบครัว (Family Assistance Program) ซึ่งอัครสังฆมณฑลฯ ได้รับทุนสนับสนุจากการบริจาคของประชาชนทั่วไป

โดยโครงการที่เริ่มต้นในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 นี้ ให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในพื้นที่ 288 เขตแพริช (parishes) ทั้งในลอส แอนเจลิส, เวนทูรา และซานตาบาร์บารา เคาน์ตี้ ซึ่งมีเป็นพื้นที่ที่มีผู้อพยพมากกว่า 4 ล้านคน

“ผู้อพยพที่เป็นเป้าหมายการบุกจับของไอซ์ คือ “ชายและหญิงที่ขยันขันแข็งและเป็นคนดี มีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจของเรา” อาร์ชบิชอป โฮเซ่ โกเมซ แห่งลอส แอนเจลิส กล่าว

“ตอนนี้พวกเขากลัวที่จะไปทำงานหรืออยู่ในที่สาธารณะ เพราะกลัวว่าจะถูกจับและถูกเนรเทศ” เขากล่าว และว่าผู้มีจิตศรัทธา สามารถบริจาคเงินสนับสนุนโครงการช่วยเหลือครอบครัว ได้ทางออนไลน์ (https://lacatholics.org/immigrant-support/) หรือที่โบสถ์ในพื้นที่

ไทมส์บอกด้วยว่า มีผู้อพยพที่ยังไม่มีเอกสารประมาณ 2,800 คนถูกจับกุมนับตั้งแต่ไอซ์ เริ่มปฏิบัติการบุกจับอย่างดุดันในลอส แอนเจลิส เมื่อต้นเดือนมิถุนายน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพที่ไม่มีประวัติอาชญากรรม บางส่วนเป็นพลเมืองสหรัฐฯ หรือมีสถานะถูกต้องด้วย

โดยชาวคาทอลิกจำนวนมากในเขตเกรทเตอร์ ลอสแอนเจลิส (คลุมพื้นที่ห้าเคาน์ตี้ คือแอลเอ ออเรนจ์ ริเวอร์ไซด์ ซานเบิร์นนาดิโน่ และเวนทูร่า) เป็นผู้อพยพ หรือมีสมาชิกในครอบครัวที่เกิดนอกสหรัฐฯ ทำให้อัครสังฆมณฑลได้รับผลกระทบจากการบุกจับเป็นพิเศษ

ข้อมูลของศูนย์วิจัยพิว (the Pew Research Center) พบว่าประมาณ 58% ของผู้อพยพในสหรัฐฯ เป็นคริสเตียน ในจำนวนนี้ 30% เป็นคาทอลิก ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับนิกายอื่นๆ โดยในลอสแอนเจลิส นั้น ชาวคริสต์ 28% นับถือนิกายคาทอลิก

การประกาศโครงการช่วยเหลือผู้อพยพที่ยังไม่มีเอกสารแสดงตัวของของ อาร์ชบิชอป โฮเซ่ โกเมซ มีขึ้นหลังจากที่บิชอปอัลแบร์โต โรฮาส แห่งสังฆมณฑลซานเบอร์นาดิโน ออกคำสั่งอนุญาตให้สมาชิกโบสถ์ ที่กลัวไอซ์ ไม่ต้องเข้าร่วมพิธีมิสซาได้

ไทมส์บอกด้วยว่าโครงการช่วยเหลือครอบครัวผู้อพยพที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายเนรเทศขนานใหญ่ของทรัมป์นี้ ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย รวมถึง ริค คารูโซ นักธุรกิจเจ้าของเดอะโกรฟ, อเมริกาน่าแอทแบรนด์ และอดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรี บริจาคเงิน 50,000 ดอลลาร์ และเสนอที่จะบริจาคสมทบอีก 50,000 ดอลลาร์ด้วย

“เราจำเป็นต้องช่วยเหลือครอบครัวเหล่านี้ และการร่วมมือกับอัครสังฆมณฑลฯ ทำให้เราสามารถให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นในช่วงเวลาที่หลายคนกำลังดิ้นรนเอาตัวรอด” คารูโซกล่าว

สมาคมผู้นำชาวลาตินคาทอลิก บริจาคเงิน 10,000 ดอลลาร์ ซูเปอร์มาร์เก็ต Vallarta บริจาคบัตรกำนัล 10,000 ดอลลาร์ และบริษัท Beverly Hills Teddy Bear บริจาคเงินจำนวนหนึ่ง พร้อมกับตุ๊กตาหมีสำหรับเด็กๆ ที่กำลังขวัญเสียกับสถานการณ์ปัจจุบันด้วย.

ปิดตำนานข่าวบันเทิง E! News”แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : E! News” รายการข่าวบันเทิงยามดึก ซึ่งเป็นที่พึ่งคนชอบดูข่าวดารามานา...
07/25/2025

ปิดตำนานข่าวบันเทิง E! News”

แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : E! News” รายการข่าวบันเทิงยามดึก ซึ่งเป็นที่พึ่งคนชอบดูข่าวดารามานานกว่าสามสิบปี กำลังจะ “จอดำ” แล้ว

E! News เป็นรายการข่าวที่เน้นเฉพาะข่าวในแวดวงบันเทิง ความยาวครึ่งชั่วโมง แพร่ภาพในเวลา 23.30 น. ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1991 โดยปัจจุบันดำเนินรายการโดยเคลตี ไนท์ และจัสติน ซิลเวสเตอร์ จะยุติการแพร่ภาพในวันที่ 25 กันยายนนี้ โดยทีมงานได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 24 กันยายน หรือเพียงหนึ่งวันก่อนถึงวัน “จอดำ”

การยกเลิกรายการทีวีระดับเมเจอร์ครั้งนี้ ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญครั้งแรกของบริษัท เวอร์แซนท์ บริษัทใหม่ที่ NBCUniversal เพิ่งตั้งขึ้นซึ่งดูแลเคเบิล E! และเครือข่ายเคเบิลอื่นๆ ในสังกัด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารายการโทรทัศน์จะยุติลง แต่แบรนด์ดิจิทัล “E! News” จะยังคงมีความเคลื่อนไหวต่อไปบนโซเชียลมีเดีย

ข่าวบอกว่านี่เป็นครั้งที่สอง ที่ “E! News” ถูกยกเลิก โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2020 ก่อนที่จะกลับมาออกอากาศอีกครั้งในอีกสองปีต่อมา

แม้ว่า E! News จะถูกยกเลิกไป แต่รายการบันเทิงในลักษณะเดียวกันของ NBCUniversal ยังมีอีกมากมาย ทั้งรายการยอดนิยมอย่าง Access Hollywood และ Access Daily หรือรายการที่มีเรตติ้งรองๆ ลงมา อย่าง Botched Presents: Plastic Surgery Rewind และ Honestly Cavallari: The Headline Tour.

“ไก่ทอด” เจ้าดังแอลเอ ติดอันดับหนึ่งของอเมริกา-แคนาดาแอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ผลการโหวตของผู้ใช้ Yelp หัวข้อ “50 อันดับ ...
07/25/2025

“ไก่ทอด” เจ้าดังแอลเอ ติดอันดับหนึ่งของอเมริกา-แคนาดา

แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ผลการโหวตของผู้ใช้ Yelp หัวข้อ “50 อันดับ “ร้านไก่ทอด” ที่ดีที่สุดของอเมริกาและแคนาดา” ปรากฎว่าร้านไก่ทอดแบบ “เผ็ดจัด” ในเมืองพาซาดีน่า ติดอันดับหนึ่ง

เยลป์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 ถึงผล “50 อันดับร้านไก่ทอดที่ดีที่สุดของอเมริกาเหนือ” โดยบอกว่าร้าน ฮาวลิ่งเรย์ส (Howlin’ Ray’s) ได้รับคะแนนเสียงมากเป็นอันดับหนึ่งจากกลุ่ม the Yelp Elite Squad ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้เยลป์ที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว (ว่ามีคุณภาพ) ซึ่งทำให้ผลการจัดอันดับได้รับความเชื่อถือมากขึ้น

ฮาวลิ่งเรย์ส เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 ในรูปของรถขายอาหาร ก่อนจะเปิดร้านค้าครั้งแรกในไชน่าทาวน์ เมื่อปี 2016 และประสบความสำเร็จแบบล้นหลาม มีการต่อคิวยาวเหยียดตั้งแต่ก่อนร้านเปิดทุกวัน โดยล่าสุดมีสาขาที่สองในเมืองพาซาดีน่า และสาขาสามที่ลาส เวกัส (ใน the Venetian hotel) ด้วย

Yelp Elite Squad ชื่นชมร้านฮาวลิ่งเรย์ส ว่าเป็น "ร้านในตำนาน" ที่ขึ้นชื่อเรื่อง “การเสิร์ฟไก่ทอดรสเผ็ดสไตล์แนชวิลล์ ที่ดึงดูดผู้คนด้วยรสชาติเผ็ดร้อนและความกรอบฉ่ำที่สมบูรณ์แบบ"

โดยความเผ็ดของอาหารในร้าน มีตั้งแต่ Country ซึ่งเป็นไก่ทอดธรรมดา ไปจนถึง Howlin’ ซึ่งลูกค้าต้องเซ็นเอกสารยินยอม (ว่าจะไม่เอาเรื่องหากมีอันเป็นไป) ก่อนรับประทาน

นอกจากไก่ทอดเจ้าดังแห่งนี้แล้ว ยังมีร้านไก่ทอดในแอลเอ ที่ติด “ท็อป 10” ของเยลป์ อีกหนึ่งร้าน คือ Daybird ย่านเวอร์จิล วิลเลจ ของอีสต์ฮอลลีวูด ที่ติดอันดับเพราะแซนด์วิชไก่ทอดสไตล์เสฉวน รสเผ็ดร้อน

สนใจดูผลการจัดอันดับไก่ทอดที่ดีที่สุดในอเมริกาเหนือฉบับสมบูรณ์ได้ที่นี่ https://www.yelp.com/collection/L1-uyXY4CHyaBt4ZV7_wRw/Top-50-fried-chicken-spots-according-to-Yelp-Elites

07/25/2025

วิดีโอ : ซึ้ง!!! เมล์แมนส่งอัฐิสุนัขแถมกอด!

ภาพเหตุการณ์สุดซึ้งนี้ ถูกบันทึกไว้ด้วยกล้องวงจรปิดหน้าบ้านหลังหนึ่งในเมืองวอซอ รัฐวิสคอนซิน เป็นเหตุการณ์ขณะที่บุรุษไปรษณีย์หนุ่ม นำเถ้ากระดูกของ “เยอรมันเชพเพิร์ด” มามอบให้เจ้าของที่กำลังรออย่างโศกเศร้า
จากวิดีโอที่ คริสเต็น คลาพาทอสกัส เจ้าของบ้านได้นำออกเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้โลกได้เห็นความ “เอื้ออาทร” ของบุรุษไปรณีย์หนุ่ม มาลาไค น็อกซ์ ขณะนำส่งเถ้ากระดูกสุนัขจากสถานฌาปนกิจให้เจ้าของ โดยเขาได้เดินมานั่งลงข้างๆ เธอที่ระเบียงบ้าน

ก่อนที่ทั้งสองจะกอดกันด้วยน้ำตา

คริสเต็น คลาพาทอสกัส บอกว่า “สโตลี” สุนัขวัย 10 ปีครึ่งของเธอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

เธอบอกด้วยว่า น็อกซ์กับสโตลี นั้น “ซี้กัน” โดยน็อกซ์จะหยุดลูบหัวเจ้าหมาน้อยเพศเมียตัวนี้ทุกครั้งที่ผ่านหน้าบ้าน

"สโตลีเห่าใส่เขาทุกวัน เว้นเสียแต่ว่าถูกขังอยู่บนระเบียงบ้าน ซึ่งมันจะให้เขาลูบหัว ลูบท้องทุกครั้ง”

ระหว่างรอกล่องเถ้ากระดูกของหมาน้อยแสนรักด้วยจิตใจหนักอึ้งนั้น คลาพาทอสกัส บอกว่าเธอผ่อนคลายได้มาก เมื่อเห็นว่าพนักงานไปรษณีย์ที่นำของสำคัญมาส่ง คือน็อกซ์

โดย น็อกซ์ พนักงานไปรษณีย์หนุ่ม ได้แสดงความเห็นใต้คลิปวิดีโอที่กำลัง “ไวรัล” ว่า "ผมเข้าใจความรู้สึกของคนที่สูญเสียเพื่อนขนฟูดี"

และบอกมายังทุกๆ คนที่เห็นวิดีโอนี้ด้วยว่า “โปรดแสดงออกซึ่งความเห็นอกเห็นใจและความมีน้ำใจต่อกัน มันมีความหมายต่อโลกนี้มาก” …

“ฮอล์ค โฮแกน” นักมวยปล้ำระดับตำนาน เสียชีวิตแล้วแอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ฮอล์ค โฮแกน ตำนานนักมวยปล้ำ เสียชีวิตแล้วด้วยวั...
07/25/2025

“ฮอล์ค โฮแกน” นักมวยปล้ำระดับตำนาน เสียชีวิตแล้ว

แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ฮอล์ค โฮแกน ตำนานนักมวยปล้ำ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 71 ปี

เว็บไซต์ข่าวบันเทิง TMZ รายงานข่าวการเสียชีวิตของโฮแกนเมื่อสายของวันพฤหัสฯ ที่ 24 กรกฎาคม 2025 โดยระบุว่านักมวยปล้ำระดับซูเปอร์สตาร์ ซึ่งมีชื่อจริงว่า เทอร์รี่ โบลเลีย มีอาการหัวใจหยุดเต้นที่บ้านในเมืองเคลียร์วอเตอร์ ฟลอริด้า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ครอบครัวจึงโทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน และรถพยาบาลได้นำตัวส่งโรงพยาบาลมอร์ตัน แพลนท์ ทันที ก่อนที่แพทย์จะประกาศการเสียวิตของโฮแกน ที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา

WWE (World Wrestling Entertainment) ผู้จัดรายการมวยปล้ำยอดนิยม ออกแถลงการณ์ว่า รู้สึกเสียใจกับการจากไปของ “ตำนาน” แห่งวงการมวยปล้ำอเมริกันคนนี้มาก

“โฮแกน หนึ่งในบุคคลที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของวัฒนธรรมป็อปอเมริกัน ช่วยให้ WWE เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในช่วงทศวรรษ 1980” แถลงการณ์ระบุ และว่าทาง WWE ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว เพื่อน และแฟนๆ ของโฮแกน ด้วย

โฮแกน เป็นนักมวยปล้ำระดับแม่เหล็กของ WWE อยู่นานถึง 35 ปี ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักมวยปล้ำอาชีพที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล โดยเขาถอนตัวจากสังเวียนเมื่อปี 2012

โฮแกน เป็นชาวเมืองแทมปา ฟลอริด้า คว้าแชมป์ WWE อย่างน้อย 6 สมัย และได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศ WWE ในปี 2005 ด้วย

นอกจากการขึ้นสังเวียนมวยปล้ำแล้ว โฮแกนยังปรากฏตัวในภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์มากมาย รวมถึงมีรายการเรียลลิตี้โชว์ เกี่ยวกับชีวิตของเขาเองทางช่อง VH1 ชื่อ “Hogan Knows Best” และเมื่อไม่นานมานี้ เขาได้แสดงความสนใจจะเล่นการเมืองด้วย.

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 17 ปีและเงินที่ลูกค้าได้รับคืนมากกว่า 1 ล้านเหรียญ Anand Desai Law Firm มีความรู้ด้านกฎหมายเรื่องอ...
07/25/2025

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 17 ปีและเงินที่ลูกค้าได้รับคืนมากกว่า 1 ล้านเหรียญ Anand Desai Law Firm มีความรู้ด้านกฎหมายเรื่องอุบัติเหตุเป็นอย่างดี

หากคุณได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถยนต์ คดีมึนเมา DUI การลื่นไถล ถูกสุนัขกัด หรือบาดเจ็บในสถานที่ทำงาน สำนักทนาย ANAND DESAI LAW FIRM ยินดีให้คำปรึกษา มีผู้ช่วยทนายพูดไทยได้คอยช่วยเหลือ

โทร 818-660-5331 กินรี หรือ +1-833-270-7800
ดูรายละเอียดบนเว็บไซต์ได้ที่ www.CallDesai.com
Facebook: https://www.facebook.com/CallDesai
ออฟฟิศอยู่ที่ 1628 Victory Blvd., Suite 100 Glendale , CA 91201

อัยการสูงสุดบอกชื่อ “ทรัมป์” อยู่ในแฟ้มเอปสตีน”แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : อัยการสูงสุด “แพม บอนดี” ได้สรุปผลการตรวจเอกสารใ...
07/24/2025

อัยการสูงสุดบอกชื่อ “ทรัมป์” อยู่ในแฟ้มเอปสตีน”

แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : อัยการสูงสุด “แพม บอนดี” ได้สรุปผลการตรวจเอกสารในคดี เจฟฟรีย์ เอปสตีน ให้ทรัมป์ฟังตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยบอกชัดเจนว่าชื่อของเขาก็อยู่ในแฟ้มเหมือนกัน

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2025 ซีเอ็นเอ็น ได้อ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้ว่า แพม บอนดี้ อัยการสูงสุด ได้บรรยายสรุปให้ประธานาธิดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเดือนพฤษภาคม เกี่ยวกับผลการตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีของ เจฟฟรีย์ เอปสตีน โดยบอกว่าชื่อของเขาก็อยู่ในบัญชีรายชื่อของเอปสตีน เช่นกัน

แหล่งข่าวในทำเนียบขาวสองคนบอกกับซีเอ็นเอ็นว่า การบรรยายสรุปของอัยการสูงสุด และรองอัยการ ทอดด์ บลานซ์ ในครั้งนั้น เป็นการบรรยายสรุปตามปกติ ครอบคลุมขอบเขตของข้อค้นพบของกระทรวงยุติธรรม โดยนอกจากชื่อของทรัมป์แล้ว อัยการสูงสุดยังรายงานต่อทรัมป์ว่า ยังมีรายชื่อของ “บุคคลสำคัญ” อีกหลายคน

อย่างไรก็ดี ชื่อของทรัมป์และผู้มีชื่อเสียงอีกหลายคนในเอกสารนั้น ผลการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรม ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็น “บัญชีรายชื่อลูกค้า” ของเอปสตีนหรือไม่ อีกทั้งไม่พบความข้องเกี่ยวใดๆ ระหว่างบุคคลกลุ่มนี้กับการฆ่าตัวตายในคุกของเอปสตีน ด้วย

แหล่งข่าวของซีเอ็นเอ็น บอกด้วยว่าทรัมป์ และทำเนียบขาว ไม่ได้มองว่าเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะทรัมป์ เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลหลายคนของนิวยอร์กในช่วงทศวรรษ 1990 ที่เคยร่วมงานกับเอปตีน เพราะเอปสตีนพยายามเข้าไปใกล้ชิดกับคนที่มีชื่อเสียง เพื่อโปรโมทธุรกิจของตัวเอง

“การเปิดเผยว่ามีชื่อของทรัมป์ปรากฏในเอกสาร ไม่ได้ช่วยยกระดับความรู้เดิมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับผู้กระทำความผิดทางเพศผู้ล่วงลับแต่อย่างใด” แหล่งข่าวขาวระบุ

สตีเว่น เจิง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทำเนียบขาว ตอบคำถามซีเอ็นเอ็น เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าเป็นความพยายามสานต่อ “ข่าวปลอม” ที่พรรคเดโมแครต และสื่อเสรีนิยมกุขึ้นเท่านั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ แพม บอนดี้ และ ทอดด์ บลานซ์ ได้แถลงตอบข้อซักถามของ ซีเอ็นเอ็น เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมว่า “กระทรวงยุติธรรมและเอฟบีไอได้ตรวจสอบแฟ้มเอกสารของเอปสตีน และได้ข้อสรุปตามที่ระบุไว้ในบันทึกข้อความ ลงวันที่ 6 กรกฎาคม ไม่มีสิ่งใดในแฟ้มเอกสารที่สมควรได้รับการสอบสวนหรือดำเนินคดีเพิ่มเติม และเราได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอเปิดเผยบันทึกของคณะลูกขุนแล้ว” แถลงของอัยการสูงสุดระบุ และยืนยันข่าวของ ซีเอ็นเอ็น ด้วยว่าระหว่างการบรรยายสรุปให้ทรัมป์ฟังนั้น “เราได้แจ้งให้ประธานาธิบดีทราบถึงผลการตรวจสอบดังกล่าวด้วย”

ในส่วนของทรัมป์นั้น เขาได้ปฏิเสธข่าวนี้ตลอดมา รวมถึงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอัยการสูงสุดได้บอกว่ามีชื่อของเขาในแฟ้มของเอปสตีนหรือไม่ ซึ่งทรัมป์ปฏิเสธทันที

ทั้งนี้ ความพยายามแบบออกหน้าออกตาของทรัมป์ ที่จะไม่ให้อัยการสูงสุดเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีรายชื่อของเอฟตีน นอกจากจะสร้างความไม่พอใจให้ประชาชนทั่วประเทศแล้ว ยังทำให้กลุ่ม MAGA บางส่วน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว ซึ่งเป็นฐานเสียงที่ “กระตือรือร้น” ที่สุดของทรัมป์ เกิดความไม่พอใจด้วยเช่นกัน

แหล่งข่าวบอกกับซีเอ็นเอ็นด้วยว่า เรื่องนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงในทำเนียบข่าวไม่พอใจอัยการสูงสุด เป็นอย่างมาก ที่เธอไม่เอาชื่อของทรัมป์ออกก่อนเปิดเผยต่อกลุ่ม “ผู้มีอิทธิพล” หลายคนในเดือนกุมภาพันธ์

“ความล้มเหลวของเธอในการปกป้องประธานาธิบดีระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมานานระหว่างกระทรวงยุติธรรมและทำเนียบขาว” แหล่งข่าวระบุ

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวได้เพิกเฉยต่อความสงสัยของประชาชนเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของทรัมป์กับอาชญากรทางเพศ และผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดผู้เยาว์ มาโดยตลอด อ้างแต่เพียงว่าเป็นแผนของพรรคเดโมแครต ที่ต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนไปจากความสำเร็จของรัฐบาล และต้องการสร้างความเสียหายให้ประธานาธิบดี

อย่างไรก็ตาม เสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงเสียงของรีพับลิกันเป็นจำนวนมาก ได้เรียกร้องให้มีการเปิดเผยเอกสารทั้งหมด ส่งผลให้ผู้นำพรรครีพับลิกันในคองเกรส ต้องตัดการประชุมสภานิติบัญญัติให้สั้นลง เพื่อหลีกเลี่ยงการลงมติเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายครั้ง แต่ก่อนปิดประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 23 กรกฎาคม คณะอนุกรรมการกำกับดูแลของสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมติให้ออกหมายเรียก (subpoena) ขอให้กระทรวงยุติธรรมเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเอปสตีน ต่อสาธารณชน

นอกจากนี้ รายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับจดหมายลงชื่อทรัมป์และภาพวาดผู้หญิงเปลือย รวมอยู่ในอัลบั้มที่ทรัมป์มอบให้เอปสตีนเนื่องในโอกาสวันเกิด 50 ปีในปี 2003 ก็เพิ่มแรงกดดันให้กับทรัมป์มากขึ้นเช่นกัน

ทรัมป์ปฏิเสธการเขียนจดหมายฉบับดังกล่าว และต่อมาในวันที่ 18 กรกฎาคม เขาได้ฟ้องร้องวอลล์สตรีทเจอร์นัล และรูเพิร์ต เมอร์ด็อก มหาเศรษฐีผู้เป็นเจ้าของ เกี่ยวกับการตีพิมพ์บทความดังกล่าวที่ศาลฟอลริด้า โดยเรียกร้องค่าเสียหายมากถึง 10 พันล้านดอลลาร์.

ศาล “บล็อค” คำสั่งทรัมป์ ไม่ให้สัญชาติเด็กเกิดในประเทศเมื่อวันพุธที่ 23 กรกฎาคม 2025 ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลาง มีคำตัดสินว...
07/24/2025

ศาล “บล็อค” คำสั่งทรัมป์ ไม่ให้สัญชาติเด็กเกิดในประเทศ

เมื่อวันพุธที่ 23 กรกฎาคม 2025 ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลาง มีคำตัดสินว่าคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ขอให้ยกเลิกสิทธิการได้สัญชาติอเมริกันโดยกำเนิด เป็นเรื่องที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และยืนยันตามคำตัดสินของศาลชั้นต้นที่ระงับการบังคับใช้ทั่วประเทศ

คำตัดสินจากคณะผู้พิพากษา ซึ่งไม่เป็นเอกฉันท์ของศาลอุทรณ์ (the 9th U.S. Circuit Court of Appeals) เกิดขึ้นหลังจากความต้องการของทรัมป์ถูกขัดขวางโดยผู้พิพากษารัฐบาลกลางในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ไปก่อนหน้านี้

เชื่อว่ารัฐบาลกลางจะทำการยื่นเรื่องต่อศาลฎีกา (Supreme Court) ในเร็วๆ นี้

โดยคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ บอกว่าคำตัดสินของศาลชั้นต้นนั้นถูกต้องแล้ว เพราะ “คำสั่งฝ่ายบริหารซึ่งปฏิเสธการเป็นพลเมืองแก่บุคคลจำนวนมากที่เกิดในสหรัฐ เป็นสิ่งที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เราเห็นด้วยอย่างยิ่ง” คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ระบุ.

แนะ “โทลล์เลน” เข้าดาวน์ทาวน์ แก้ปัญหารถติดแอลเอแอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : นักวิชาการแนะให้เมืองแอลเอ รับเอานโยบายแก้ปัญหา...
07/24/2025

แนะ “โทลล์เลน” เข้าดาวน์ทาวน์ แก้ปัญหารถติดแอลเอ

แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : นักวิชาการแนะให้เมืองแอลเอ รับเอานโยบายแก้ปัญหารถติดของนิวยอร์กมาใช้ นั้นคือการเปิด “โทลล์เลน” เก็บเงินรถทุกคันที่วิ่งเข้าดาวน์ทาวน์

ปัญหารถติดในชั่วโมงเร่งด่วน ถือเป็นปัญหาใหญ่ของลอส แอนเจลิส ซึ่งที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่าช่องวิ่งแบบคาร์พูล และการทุมงบประมาณสำหรับพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ฯลฯ ไม่สามารถแก้ไข หรือบรรเทาปัญหาให้ลดลงได้ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มมองหา “นโยบายทางเลือก” ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการนำเอานโยบายใหม่ของมหานครนิวยอร์กมาปรับใช้ รวมถึงการเก็บเงินค่าผ่านทาง สำหรับรถยนต์ที่วิ่งเข้าดาวน์ทาวน์

ข่าวบอกว่าปัญหารถติดในเขตแอลเอ เคาน์ตี้ ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องเสียเวลาเปล่าประโยชน์ปีละ 122 ชั่วโมง โดยเวลาและน้ำมันที่เสียเปล่าเพราะรถติดนี้ คิดเป็นมูลค่าความสูญเสียประมาณ 3,214 ดอลลาร์ต่อปี

เมืองนิวยอร์ก ก็มีปัญหาการจราจรที่คล้ายคลึงกับแอลเอ ทำให้ผู้บริหารท้องถิ่น ตัดสินใจแก้ไขปัญหา ด้วยการนำระบบเก็บค่าผ่านทาง (tolling system) บนเส้นทางสู่ย่านธุรกิจในแมนฮัตตัน มาใช้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยจะเก็บค่าผ่านทางระหว่างเวลา 05.00 น. ถึง 21.00 น. ในวันทำงาน โดยรถโดยสารส่วนบุคคลจะต้องจ่าย 9 ดอลลาร์ในช่วงเวลาเร่งด่วน และ 2.25 ดอลลาร์ในเวลาปกติ, ส่วนรถตู้ รถบรรทุก และรถบัส ต้องจ่ายค่าผ่านทางที่สูงกว่าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน, แท็กซี่จ่ายค่าผ่านทางเที่ยวละ 0.75 ดอลลาร์ ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์สำหรับการเดินทาง 10 เที่ยวแรกในแต่ละเดือน

หลังจากใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางไปแล้ว ผลการศึกษาของสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ (National Bureau of Economic Research) พบว่าการจราจรในเขตมหานครนิวยอร์ก “คล่องตัว” มากขึ้น โดยความเร็วเฉลี่ยในเขตเก็บค่าผ่าน ทางเพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับพื้นที่ใกล้เคียง, เวลาเดินทางไป-กลับในเขตเก็บค่าผ่านทาง ลดลง 8 เปอร์เซ็นต์, ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง 2-3 เปอร์เซ็นต์ แต่ปริมาณการปล่อยฝุ่นละออง (particulate emissions) ไม่เปลี่ยนแปลง

ผลการศึกษาฉบับที่สองโดยสมาคมวางแผนภูมิภาค (Regional Plan Association หรือ RPA) พบว่าปัญหารถติดในเขตเก็บค่าผ่านทางลดลง 25 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2024, การจราจรติดขัดนอกเขตเก็บค่าผ่านทางลดลง 9 เปอร์เซ็นต์, ปัญหาจราจรติดขัดหลังวันหยุด (post-holiday) ลดลง 19 เปอร์เซ็นต์

ผลการศึกษาทั้งสองฉบับแสดงให้เห็นว่า การเก็บค่าผ่านทางทำให้เกิดพฤติกรรมการเดินทางของชาวนิวยอร์ก เปลี่ยนแปลงไป กล่าวคือมีแนวโน้มที่จะใช้รถร่วม (carpool) หรือใช้บริการขนส่งสาธารณะมากขึ้น, เลื่อนเวลาเดินทางที่ไม่จำเป็นออกไปนอกเวลาเร่งด่วนเพื่อให้เสียค่าผ่านทางน้อยลง ฯลฯ ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในสิงคโปร์ ลอนดอน มิลาน และสตอกโฮล์ม หลังมีการนำระบบเก็บค่าผ่านทางประเภทนี้มาใช้

ในอดีต ลอส แอนเจลิส ไม่สามารถสร้างระบบเก็บค่าผ่านทางแบบนี้ได้ เพราะกฎหมายของรัฐบาลกลาง ไม่อนุญาตให้มีการสร้างช่องเก็บเงินบนเส้นทางมีการเชื่อมต่อกับไฮเวย์ระหว่างรัฐ (interstate hightways) โดยอนุญาตให้สร้างช่องทางเก็บค่าผ่านทางสำหรับรถที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก (hight-occupancy) เท่านั้น

แต่กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานและการจ้างงาน ที่มีผลบังคับใช้เมื่อปี 2021 ได้สถาปนา “โครงการบรรเทาปัญหาการจราจร” ซึ่งนอกจากจะอนุญาตให้สร้างด่านเก็บค่าผ่านทางได้โดยไม่มีข้อแม้แล้ว ยังมีการตั้งกองทุนสำหรับสร้างระบบเก็บเงินค่าผ่านทางในเมืองใหญ่ที่มีประชากรมากกว่า 1,000,000 คนด้วย

โรเบิร์ต โครลิ ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรัฐแคลิฟอร์เนีย นอร์ธริดจ์ กล่าวว่าถึงเวลาแล้ว ที่ลอส แอนเจลิส จะต้องนำนโยบายของนิวยอร์กมาใช้ เพื่อลดปัญหารถติดที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ และดูเหมือนไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีอื่นๆ ได้เลย.

💸เงินทุนสำหรับเจ้าของธุรกิจไทยในอเมริกา อนุมัติภายใน 24 ชั่วโมงไม่ตรวจเครดิต ไม่เสียค่าธรรมเนียมล่วงหน้าผ่านการอนุมัติสิ...
07/24/2025

💸เงินทุนสำหรับเจ้าของธุรกิจไทยในอเมริกา

อนุมัติภายใน 24 ชั่วโมง
ไม่ตรวจเครดิต ไม่เสียค่าธรรมเนียมล่วงหน้า
ผ่านการอนุมัติสินเชื่อ รับทันที! Gift Card มูลค่า $300 สามารถใช้ที่ LAX-C และร้านไทยอื่นๆ

ติดต่อ คุณนุก เพื่อขอคำปรึกษาได้เลย!
ที่ 516-990-6698

ติดตามเฟสบุ๊คได้ที่ QM Advance nook

Hot News : OC Parks จัดคอนเสิร์ตและฉายหนังฟรีตลอดซัมเมอร์ฤดูร้อนปีนี้ OC Parks ได้นำประเพณี “อันเป็นสัญลักษณ์” ของออเรนจ...
07/24/2025

Hot News : OC Parks จัดคอนเสิร์ตและฉายหนังฟรีตลอดซัมเมอร์

ฤดูร้อนปีนี้ OC Parks ได้นำประเพณี “อันเป็นสัญลักษณ์” ของออเรนจ์ เคาน์ตี้ กลับมาอีกครั้ง นั่นคือ Summer Concert Series และ Sunset Cinema โดยทั้งฟรีคอนเสิร์ต และหนังกลางแปลง จะมีไปถึง 29 สิงหาคม

ฟรีคอนเสิร์ตฤดูร้อน หรือ Summer Concert Series จะจัดขึ้นทุกวันพฤหัสบดี เวลา 17.00-20.00 น.

24 กรกฎาคม – The Pistol Blonde (female country cover band) at Craig Regional Park
31กรกฎาคม – Dream Like Taylor (Taylor Swift tribute) at Irvine Regional Park
7 สิงหาคม – Elton The Early Years at Irvine Regional Park
14 สิงหาคม – No Duh: The Ultimate Tribute to No Doubt at Bluff Park at Salt Creek Beach
21 สิงหาคม – Boy Band Review at Bluff Park at Salt Creek Beach

ส่วน The OC Parks Sunset Cinema film series หรือการฉายหนังกลางแปลงในสวนนั้น จะมีขึ้นทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

25 กรกฎาคม – Miss Congeniality (2000) at Yorba Regional Park
1 สิงหาคม – Twisters (2024) at Laguna Niguel Regional Park
8 สิงหาคม– The Greatest Showman (2017) at Laguna Niguel Regional Park
15 สิงหาคม– Elemental (2023) at Irvine Regional Park
22 สิงหาคม– Shrek (2001) at Irvine Regional Park
29 สิงหาคม– Moana 2 (2024) at Bluff Park at Salt Creek Beach

ดั๊ก แชฟฟี หัวหน้าซูเปอร์ไวเซอร์ของ ออเรนจ์ แถลงว่ากิจกรรมช่วงฤดูร้อนที่ โอซี ปาร์ค คือการนำชุมชนมารวมแบ่งปันประสบการณ์การชมดนตรีสดและชมภาพยนตร์ในบรรยากาศอันงดงามของสวนสาธารณะประจำเมือง และบอกด้วยว่าผู้เข้าร่วมงานควรมาถึงก่อนเวลา นำผ้าห่มและเก้าอี้พับมาด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมของกิจกรรม Summer Concert Series และ Sunset Cinema film series ตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ https://www.ocparks.com/news/oc-parks-presents-2025-summer-concert-series-and-sunset-cinema-film-series

สุดอลังการ!งานวันเกิด 🎂 เชฟปังปอนด์ หรือที่ทุกคนรู้จัก ในนาม “เจ้าหญิงพอลลีน” เซเลบริตี้ ชื่อดังแอลเอ สุดแซ่บ งานจัดโดย ...
07/24/2025

สุดอลังการ!

งานวันเกิด 🎂 เชฟปังปอนด์ หรือที่ทุกคนรู้จัก ในนาม “เจ้าหญิงพอลลีน” เซเลบริตี้ ชื่อดังแอลเอ สุดแซ่บ งานจัดโดย เชฟปลา & เชฟเฟิร์น เจ้าของร้านดัง Luv2eat Thai Bistro เพื่อฉลองวันเกิดให้น้องสาวสุดที่รักอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมแขก พี่น้องในแอลเอ และต่างรัฐ กว่า 200 คน และแขกคนสำคัญมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง อาทิ ท่านกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ต่อ ศรลัมพ์ ,รักษาการผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลอสแอนเจลิส กฤตดิพงศ์ ศารทูลทัต และ มิ้วกี้ ไปรยา ยูทูบเบอร์สาวสุดแซ่บ เพื่อนสนิทเจ้าหญิงพอลลีน ที่มาร่วมเป่าเค้ก และฉลองวันเกิด โดยเจ้าหญิงพอลลีนเปิดแชมเปญสุดหรู ที่ ปู ไปรยา ส่งมาเพื่อเป็นของขวัญวันเกิด และตัดเค้ก 5 ชั้นสุดอลัง

บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ สนุกสนาน และความประทับใจแบบไม่รู้ลืม!

ดูภาพบรรยากาศในงานได้ในคอมเมนต์ ….

📸: Art Pattara Photographer

Address

Los Angeles, CA

Telephone

+13237990722

Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when SiamTownUS posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to SiamTownUS:

Share

สยามทาวน์ยูเอส (SiamtownUS Newspaper)

หนังสือพิมพ์ในลอส แอนเจลิส สหรัฐอเมริกาที่มีกองบรรณาธิการและทีมงานที่รักษาคุณภาพและมาตรฐานมานานถึง 8 ปี (ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 9) นำเสนอข่าวสารหลักในอเมริกา ไทยและทั่วโลก เพื่อชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกาในรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์

นอกจากข่าวสารแล้วยังพร้อมนำเสนอสาระประโยชน์ ข่าวกิจกรรมสังคมไทย สังคมธุรกิจ ร้านค้าและข่าวสารจากราชการ จนได้รับความนิยมสู่สายตาคนไทยและเป็นที่ต้องการของตลาดสื่อสารสิ่งพิมพ์ นอกเหนือจากคนไทยในสหรัฐอเมริกา หนังสือพิมพ์สยามทาวน์ยูเอสยังมีสื่อออนไลน์ (Social Media) ที่ขับเคลื่อนและเป็นเครื่องมือหลักในการเผยแพร่ข่าวสารนำสู่คนไทยทั่วโลก จนกลายเป็นแหล่งข่าวหลักและสำคัญของสื่อในประเทศไทยทุกสำนัก อาทิเช่น สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 , นสพ.ไทยรัฐ , เดลินิวส์ , ข่าวสด , เว็ปไซค์กระปุก , สนุกดอทคอม , ผู้จัดการออนไลน์ และอีกมากมาย

สยามทาวน์ยูเอสยังได้เพิ่มช่องทางในสื่อโทรทัศน์ด้วยการเพิ่ม “สยามทาวน์ทีวี” เพื่อรองรับความเคลื่อนไหวของข่าวสารผ่านระบบมัลติมีเดีย และเหนือสิ่งอื่นใดสยามทาวน์ยูเอสพร้อมและจะเป็นช่องทางที่ดีที่สุดในการประชาสัมพันธ์โฆษณาธุรกิจร้านค้า หน่วยงานราชการ องค์กร วัด โบสถ์ มัสยิด งานอีเว้นต์ และอีกมากมาย ที่รับรองการเข้าถึงสู่สายตากลุ่มเป้าหมายและทำให้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้ผลอย่างแท้จริง