I Don't Like Mondays

  • Home
  • I Don't Like Mondays

I Don't Like Mondays ReLaXrIEtY.NeWs

January 22, 1949Steve Perry, the former frontman of the rock band Journey, was one of the vocalists on the 1985 fundrais...
23/01/2024

January 22, 1949Steve Perry, the former frontman of the rock band Journey, was one of the vocalists on the 1985 fundraiser song “We Are the World” that benefited the “USA for Africa” charity.It’s birthday number 75 for STEVE PERRY, former lead singer of rock ‘n’ pop band JOURNEY. He was the group’s frontman during their most commercially successful periods from 1977 to 1987 and 1995 to 1998. Perry also enjoyed a successful solo career between the mid-‘80s to mid-'90s, and released his first album "Street Talk," which sold over 2 million copies and featured the singles "Oh Sherrie" and "Foolish Heart."

Born on January 22, 1949, in Hanford, California, to Portuguese parents, Perry grew up interested in making music a career (his father was co-owner of radio station KNGS). On his 12th birthday, Steve’s mother gifted him with an "eighth note" gold necklace, which he still wears today. Around this same time, Perry says he heard Sam Cooke's song "Cupid" on his mother's car radio, which inspired him even more to become a professional singer one day.

"Open Arms" is Steve Perry and Journey’s highest-charting song to date. Included on their No. 1 album Escape, the single peaked at No. 2 on the Billboard Hot 100 and stayed stuck there for six weeks straight. The band also has the biggest-selling track in digital music history, 1981’s “Don't Stop Believin'." The song gained increased popularity in the late 2000s when it was featured on the popular television show "Glee.”

The group's signature song — cowritten by Perry — was the first artist “catalog” song to reach two million downloads. Even after its release decades ago, “Don't Stop Believin’” remains the best-selling digital track ever recorded in the 20th century. According to chartmasters.org, a service that provides raw streaming music data, the track has digital sales of over 13 million downloads as of 2019.

You may find it hard to believe, but Perry is earning a larger paycheck now from his old band, Journey, than he ever did when he was their original lead singer. Although he hasn’t sung with the band for over 25 years ago, he makes millions of dollars from albums released after he left, and even profits from the band’s current tours.

According to court filings, when Perry left the group in 1997 he and his bandmates Neal Schon and Jonathan Cain agreed to these terms: a lump sum payment to Perry of 50% of the net income due Schon or Cain, whichever is higher, from Journey’s first two post-Perry albums; after that, a 25% lump sum payment of the net income of the third post-Perry album; and then a 12.5% payment from every Journey album that follows, in perpetuity.

To put all that in perspective, since Steve left in 1998 Journey has released 15 albums, including five studio, four live, and six compilation releases. On top of those terms, Perry also received lump sum payments for each of Journey's tours without him, with the same percentages: 50% after the first two tours, 25% after the third, and 12.5% for the fourth and every tour afterwards.

Journey has sold over 100 million records worldwide, making them one of the world's best-selling bands of all time. Steve Perry, along with the original members of Journey, were inducted into the Rock and Roll Hall of Fame in 2017. - Chuck Halley, Classic Music/TV/Film blogger

Photos — Journey in 1981 (L-R: Ross Valory, Steve Perry, Neal Schon, Jonathan Cain and Steve Smith (Credit: Chris Walter); (left inset) Perry (ca. 1987) (Credit: Steve Perry’s Facebook fan page); (right inset) Perry in 2014 (Credit: City of Hope / The Hollywood Reporter)

โลโก้อันน่าเกรงขาม ผ่านจิตวิญญาณของ ‘ดอนผีบิน’ วงดนตรีสายเมทัลของไทย‘ดอนผีบิน’ ศิลปินสายเมทัลอันเดอร์กราวด์ของประเทศไทย ...
09/01/2024

โลโก้อันน่าเกรงขาม ผ่านจิตวิญญาณของ ‘ดอนผีบิน’ วงดนตรีสายเมทัลของไทย
‘ดอนผีบิน’ ศิลปินสายเมทัลอันเดอร์กราวด์ของประเทศไทย ที่ก่อตั้งขึ้นโดย ‘คนภูไพร - สมบัติ แก้วทิตย์’ แต่แท้จริงแล้ว ดอนผีบิน มีตั้งแต่ยุคบรรพกาล ราว ๆ ปี พ.ศ. 2440 ซึ่งต้นกำเนิดมาจากดินแดนที่มีชนเผ่าหลากหลายกลุ่มอยู่รวมกัน อย่าง มอญ, ไทลื้อ, ไทยใหญ่, ไทยพวน ที่มีตระกูล ‘แก้วทิตย์’ อยู่ด้วย
จนกระทั่ง สมบัติ แก้วทิตย์ ซึ่งเป็นผู้สืบทอดวงตระกูล ได้ใกล้ชิดและซึมซับภูมิปัญญาของบรรพชน ทำให้เกิดความฝันในด้านศิลปะและดนตรี นั่นจึงเป็นจุดกำเนิดที่ทำให้สมบัติเข้าสู่เส้นทางดนตรีและศิลปะตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
บทเพลงของดอนผีบิน เป็นการกล่าวถึงแนวคิดปรัชญา ภูมิปัญญาของบรรพชนและธรรมชาติ ทำให้เราได้ตีความผ่านเนื้อร้องและท่วงทำนองของเพลง พร้อมให้ความคิดได้ล่องลอยไปกับบทเพลงที่กลั่นออกมาจากความคิดของสมบัติ แก้วทิตย์
รวมถึงโลโก้ที่เป็นภาพจำของดอนผีบิน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 10 ปี กว่าจะออกมาเป็นสัญลักษณ์ที่น่าเกรงขามและน่าจดจำจนถึงทุกวันนี้
หลายคนอาจเคยเห็นโลโก้ของดอนผีบิน แต่อาจไม่รู้ความหมายที่ซ่อนภายใต้สัญลักษณ์ที่ดุดันและน่าค้นหา ว่ามีความหมายที่ลึกซึ้งแฝงอยู่ในนั้น อันมาจากการตีความผ่านมุมมองของผู้แต่งที่มีต่อเพลงเหล่านี้ จนได้กำเนิดโลโก้ที่สมบูรณ์และนิยามแนวทางของเพลงได้เป็นอย่างดี
🟠เสียงเพลง ความหมาย และโลโก้
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2523 สมบัติได้คิดออกแบบโลโก้ของวงขึ้นมาพร้อมกับแต่งเพลง ในความคิดของเขาตอนนั้น เพียงต้องการนิยามและให้มุมมองเกี่ยวกับเพลง ว่าหัวใจสำคัญของการเป็นศิลปินด้านเสียงเพลง ทั้งในด้านเนื้อร้อง โลโก้ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์แทนวงดนตรี และภาพปกที่บ่งบอกถึงบรรยากาศ เนื้อหาของเพลง องค์ประกอบทั้งหมดที่กล่าวมา จะถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งและขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ทุกอย่างล้วนมีความหมายในตัวของมันเอง
สมบัติ ได้เริ่มเขียนเพลงของตัวเองขึ้นมา ซึ่งในตอนนั้น มีเพียงแค่สมบัติคนเดียว ไม่มีศิลปินหรือสมาชิกนักดนตรีคนอื่น และยังไม่มีต้นสังกัดหรือค่ายเพลงใด ๆ ทุกครั้งที่สมบัติแต่งเพลง จะนึกถึงเนื้อร้อง ท่วงทำนอง บรรยากาศของเพลง รวมไปถึงโลโก้ของวงที่จะเป็นตัวแทนของบทเพลงต่าง ๆ รวมถึงตัวตนของเขา
สมบัติเริ่มแต่งเพลงเรื่อยมา พร้อมกับคิดออกแบบโลโก้ไปด้วย ทุกครั้งที่เขียนเนื้อเพลงลงไปในกระดาษ เขาก็จะขีดเขียนออกแบบโลโก้ของวงไปด้วย เพื่อสื่อถึงบรรยากาศของเพลงที่ตัวเองเขียนขึ้นมา หากใครได้เห็นโลโก้หรือสัญลักษณ์ ก็จะสามารถคาดเดาแนวทางของเพลงได้โดยที่ยังไม่ได้ฟัง
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วว่า ทำไมโลโก้ของวงดอนผีบิน และเพลงทั้งหลาย ถึงสลัดจากกันไม่หลุด กลายเป็นภาพจดจำของแฟนที่ติดตาม
🟠จิตวิญญาณแรกผ่านโลโก้
โลโก้แรกของดอนผีบิน ถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2523 พร้อมกับบทเพลงแรกที่สมบัติเขียนขึ้นมา โลโก้ถูกออกแบบโดยเป็นคำว่า ‘ดอนผีบิน’ ตัวอักษรตัวแรกและตัวสุดท้าย มีลักษณะกางออกคล้ายปีกค้างคาว ตรงกลางเป็นรูปคล้ายหัวกะโหลก เพื่อสื่อถึงบรรยากาศของบทเพลงที่ให้ความรู้สึกลึกลับ และมืดหม่น
เมื่อเข้าสู่ปี พ.ศ. 2525 ได้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้และตัวอักษร จากลักษณะที่เป็นคล้ายปีกค้างคาว ได้ปรับเปลี่ยนให้มีลักษณะดัดงอเล็กน้อย เนื่องจากมีเรื่องราวของบทเพลงเข้ามาสอดแทรก เพื่อให้สัญลักษณ์กลมกลืนไปกับบทเพลงที่ถูกเขียนขึ้นมา
หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ได้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ จากปีกที่งอเล็กน้อย ถูกปรับให้เป็นปีกที่มีลักษณะตรงและหักเป็นเหลี่ยม ดูลึกลับและดิบเถื่อนขึ้นมา แต่ยังไม่นับเป็นโลโก้ที่ใช้เป็นทางการ ใช้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ประจำตัวในนามศิลปินเดี่ยวเท่านั้น
ปี พ.ศ. 2527 มีการปรับเปลี่ยนสัญลักษณ์เปลี่ยนแปลงจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง จากสัญลักษณ์ที่มีลักษณะคล้ายค้างคาว โดยมีคำว่าดอนผีบินอยู่ตรงกลาง ถูกปรับเปลี่ยนเป็นโลโก้ที่มีลักษณะคล้ายจานบิน โดยมีคำว่าดอนผีบินเป็นภาษาอังกฤษตรงกลาง เพื่อความแปลกใหม่ ล่องลอย และลึกลับ
ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ จากรูปร่างลักษณะจานบิน กลับไปเป็นโลโก้คำว่าดอนผีบินภาษาไทยแบบเดิม โดยมีลักษณะเป็นคำว่า ‘ดอนผีบินแบบเน้นเป็นอักษรอ่านออก’ เป็นเส้นตรงแหลมคมและเป็นเหลี่ยม โดยไม่มีการปรับแต่งให้มีลักษณะเหมือนค้างคาวแบบโลโก้ก่อนหน้านี้ที่เคยออกแบบมา ซึ่งนำมาใช้เป็นโลโก้สำหรับการโปรโมทผลงานเพลงของตนเอง ในนาม ‘DPB Production’
จนเข้าสู่ปี พ.ศ. 2529 ได้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้จากเดิมที่เป็นเหลี่ยม ให้กลับมาเป็นสัญลักษณ์ที่มีลักษณะคล้ายกับตอนออกแบบในช่วงแรกเริ่ม มีลักษณะโค้งคล้ายเขี้ยวค้างคาว ซึ่งช่วงนี้เอง ถือว่าแนวทางเพลงที่ถูกแต่งออกมาเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้สามารถจินตนาการได้ว่าโลโก้ควรจะออกแบบในลักษณะไหน
ตลอดเวลานั้น สมบัติยังคงปรับเปลี่ยนโลโก้ของตนเองแบบปีต่อปี มีการปรับปรุงแก้ไขตลอดเรื่อยมา ตามบทเพลงที่เขียนขึ้น เพื่อให้โลโก้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด เขาต้องการสื่อสารและบรรยายถึงอารมณ์ของเพลงในแต่ละเพลงให้ได้มากที่สุด
แต่ไม่ว่าเขาจะปรับเปลี่ยนโลโก้อีกกี่ครั้ง ก็ไม่สมบูรณ์เสียที เขาจึงตัดสินใจเลือกที่จะแต่งเพลงให้เสร็จทั้งหมดก่อน แล้วจึงออกแบบโลโก้วงหลังจากนั้น เพื่อมองให้ภาพรวมของเพลงชัดเจนว่าควรไปในทิศทางใด หรือควรมีลักษณะแบบไหน ซึ่งเมื่อสมบัติ ออกแบบโลโก้เสร็จทั้งหมด ได้ตั้งใจว่าจะใช้โลโก้นั้นอย่างเป็นทางการและจะไม่มีการปรับเปลี่ยนอีก
🟠กำเนิดโลโก้ที่เป็นภาพจำ
จนกระทั่งเข้าสู่ปี พ.ศ. 2534 สมบัติได้เขียนเพลงขึ้นมาจนครบทั้งอัลบั้ม และได้มาย้อนดูโลโก้ของตัวเองอีกครั้ง ว่าควรจะปรับแก้อีกหรือไม่
เขานั่งมองและวิเคราะห์มันพร้อมกับฟังเพลงที่ตัวเองเขียนขึ้นมา จากนั้นเริ่มลงมือขัดเกลาตัวอักษร จากปีกที่มีลักษณะเป็นเส้นตรงเหลี่ยม ให้มีลักษณะเป็นเส้นอิสระไม่แข็งทื่อ สละสลวย ปลายงอเล็กน้อย ดูแล้วจดจำได้ง่าย
เขาพยายามที่จะทำให้สอดคล้องกับบทเพลงในอัลบั้มได้อย่างลงตัว เมื่อดูก็สามารถคาดเดาได้ว่าแนวดนตรีของเพลงเป็นแบบใด เนื้อหาพูดถึงอะไร รวมถึงบรรยากาศของเพลงที่เห็นแค่โลโก้ก็สามารถคาดเดาได้ สามารถบ่งบอกถึงแนวทางของเพลงอันเดอร์กราวด์ได้เป็นอย่างดี นั่นจึงได้ถือกำเนิดสัญลักษณ์ดอนผีบินที่เป็นภาพจำและทรงพลัง
แม้ว่าสมบัติ ได้ปรับเปลี่ยนโลโก้ของตัวเองมาแล้วถึง 9 ครั้ง และตัดสินใจว่าจะใช้โลโก้นี้เป็นตัวแทนของวง โดยไม่ปรับแต่งใด ๆ อีก แต่…
หลังจากที่เขาได้ออกอัลบั้มชุดแรก ในชื่อว่า ‘โลกมืด’ ในปี พ.ศ. 2534 ในนาม ‘ดอนผีบิน อันเดอร์กราวน์’ ประกอบไปด้วยสมาชิก 3 คน คือ สมบัติ แก้วทิตย์ (หัวหน้าวง, กีตาร์, แต่งเพลง, ออกแบบโลโก้, วาดภาพปก), สมศักดิ์ แก้วทิตย์ (กลอง) และ สมคิด แก้วทิตย์ (ร้องนำ)
ในช่วงเวลานั้น โลโก้ของดอนผีบินที่มีลักษณะเป็นค้างคาว ดิบเถื่อน มืดหม่น ถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับวงการเพลงในประเทศไทย เนื่องจากยังไม่มีใครเคยทำหรือออกแบบโลโก้เช่นนี้ ทั้งยังออกมาพร้อมกับเนื้อหาของบทเพลง แม้ว่ากลุ่มดนตรีศิลปินต่างประเทศเริ่มมีการใช้โลโก้ลักษณะนี้มานานแล้วพอสมควร
แม้ว่าภาพลักษณ์ของดอนผีบินดูโหดเหี้ยม ลึกลับ มืดทะมึน แต่แท้จริงแล้วเนื้อหาในบทเพลงได้แรงบันดาลใจมาจาก ศูนย์ปลูกจิตสำนึกสิ่งแวดล้อมโลก ที่ชื่อว่า ‘ศูนย์ตะวันลับฟ้า’ ซึ่งมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้กำเนิดบทเพลงดอนผีบิน และทำให้บทเพลงยิ่งทรงพลังขึ้นเป็นเท่าตัว
โลโก้ที่กลายเป็นภาพจำนี้ สมบัติมีมุมมองในการออกแบบและให้คำนิยามว่า เส้นสองเส้นที่มีลักษณะคล้ายปีกค้างคาวซ้าย-ขวา เปรียบเสมือนจักรวาลที่ครอบคลุมทุกสรรพสิ่ง
ตัวหนังสือและอักษร บ่งบอกถึงทุกสิ่งที่อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของธรรมชาติที่คอยควบคุมไว้ และคำว่าดอนผีบินที่อยู่ตรงกลาง สื่อถึงสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงการล่องลอย ซึ่งอยู่ภายใต้โลกหรือจักรวาล
ในส่วนที่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมคมดูฉวัดเฉวียน เปรียบเหมือนชีวิตของคนเราที่ดำเนินอยู่ทุกวัน เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ความเหงา ความเศร้า ความโดดเดี่ยว ไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้ องค์ประกอบทั้งหมดที่ถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งจนกลายเป็นโลโก้ และเมื่อนำมาผนวกเข้ากับท่วงทำนองที่ดุดัน โหดเหี้ยม ทำให้บทเพลงของดอนผีบิน เป็นเพลงที่มีมนต์เส่นห์และทรงพลังอย่างบอกไม่ถูก
แม้ว่าในปัจจุบันดอนผีบินไม่ได้ออกผลงานเพลงมานานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีกลุ่มแฟนคลับที่ยังคงสนับสนุนและนำเสื้อที่มีโลโก้ของดอนผีบินมาสวมใส่อยู่เสมอ รวมถึงบทเพลงแห่งธรรมชาติที่กลั่นออกมาจากจินตนาการของสมบัติอย่างประณีต บทเพลงและความรู้สึกเหล่านั้นยังคงวนเวียนอยู่ภายใต้โลโก้นี้เสมอมา ในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งตำนานวงดนตรีสายเมทัลของไทย
เรื่อง: กรัณย์กร วุฒิชัยวงศ์ (The People Junior)
ภาพ: Donpheebin ดอนผีบิน
Cr. #ดอนผีบิน #สมบัติ_แก้วทิตย์ #ดนตรีเมทัล

❤️🤙
11/12/2023

❤️🤙

❤️🤙𝐃𝐞𝐟 𝐋𝐞𝐩𝐩𝐚𝐫𝐝 𝐋𝐢𝐯𝐞 𝐢𝐧 𝐁𝐚𝐧𝐠𝐤𝐨𝐤𝟕 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 𝟐𝟓𝟐𝟕
02/12/2023

❤️🤙𝐃𝐞𝐟 𝐋𝐞𝐩𝐩𝐚𝐫𝐝 𝐋𝐢𝐯𝐞 𝐢𝐧 𝐁𝐚𝐧𝐠𝐤𝐨𝐤
𝟕 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 𝟐𝟓𝟐𝟕

❤️🤙🖤
01/12/2023

❤️🤙🖤

👊🤙🫵
19/11/2023

👊🤙🫵

Top Metal Music 🤘 Best Metal Songs Ever 🤘 Greatest Metal Hits Mix🔴 Best Of Metal Music 🎸 Most Popular Metal Songs Of All Time 🎸 Metal Hits Mix - Youtube...

05/11/2023

🌨️🌧️🌦️🌩️🌪️

❤️โฆษณาภาพยนตร์อังกฤษเรื่อง "ยังวันส์" (The Young Ones) เมื่อครั้งฉายซ้ำปีพ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962)"ยังวันส์" (The Young One...
03/11/2023

❤️โฆษณาภาพยนตร์อังกฤษเรื่อง "ยังวันส์" (The Young Ones) เมื่อครั้งฉายซ้ำปีพ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962)

"ยังวันส์" (The Young Ones) เป็นภาพยนตร์วัยรุ่น-เพลงของซิดนีย์ เจ ฟิวรีย์ กล่าวถึงกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ชอบรวมตัวกันพักผ่อนที่สโมสรแห่งหนึ่ง แต่ทว่าได้มีนายทุนคนหนึ่งได้ซื้อที่ดินของสโมสรเพื่อสร้างอาคารพาณิชย์ กลุ่มวัยรุ่นจึงต้องหาเงินเพื่อเอาสโมสรคืนด้วยการจัดงานคอนเสิร์ต พวกเขาได้พบกับนิคกี้ (คลิฟฟ์ ริชาร์ด) นักร้องหนุ่มเสียงหวาน จึงชักชวนเขาเป็นนักร้องในงานคอนเสิร์ตนี้

รายละเอียดภาพยนตร์
- ผู้กำกับ : ซิดนีย์ เจ ฟิวรีย์
- ผู้อำนวยการสร้าง : เคนเนธ ฮาร์เปอร์ , แอนดรูว์ มิทช์เชลล์
- นักแสดง : คลิฟฟ์ ริชาร์ด , โรเบิร์ต มอร์เลย์ , แคร์รอล เกรย์ , วงชาโดวส์
- จัดจำหน่าย : วอร์เนอร์-ปาเต๊ะ
- วันที่เริ่มฉาย : ช่วงปีพ.ศ. 2504 (ค.ศ. 1961)
- วันที่ฉายรีรัน : 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962)

โรงภาพยนตร์ที่ฉาย
● เสียงอังกฤษ
- คิงส์

เกร็ดความรู้
● ภาพยนตร์มีเพลงเพราะ เช่น "The Young Ones" , "We Say Yeah" , "All For One" , “The Savage” , “Peace Pipe” และ "When the Girl in Your Arms Is the Girl in Your Heart" ซึ่งทั้งหมดร้องโดยคลิฟฟ์ ริชาร์ด (วงชาโดวส์ เล่นดนตรีประกอบ)

ที่มาข้อมูล : https://en.wikipedia.org/wiki/The_Young_Ones_(1961_film) , หนังสือ Musicals : รวมพลังหนังและเพลง , นสพ.สารเสรี ฉบับวันที่ 28 พฤศจิกายน 2505 (หน้า 15)
ที่มาภาพ : นสพ.สารเสรี ฉบับวันที่ 28 พฤศจิกายน 2505 (หน้า 15)

#ยังวันส์ #เล่าตำนานวงการบันเทิง

31/10/2023

😜🤪😝😛

🎸🎼🎵🎶💙คอร์เดลล์ แจ็กสัน…เกิดเมื่อ 100 ปีที่แล้ว เป็นนักกีตาร์ชาวอเมริกัน ที่คิดว่าจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผลิตเพลง ออกแบบ เร...
29/10/2023

🎸🎼🎵🎶
💙คอร์เดลล์ แจ็กสัน…
เกิดเมื่อ 100 ปีที่แล้ว เป็นนักกีตาร์ชาวอเมริกัน ที่คิดว่าจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผลิตเพลง ออกแบบ เรียบเรียง และโปรโมตเพลงในค่ายเพลงร็อกแอนด์โรลของเธอเอง แจ็กสันก่อตั้งค่ายเพลง Moon Records ในเมืองเมมฟิสในปี พ.ศ. 2499

เธอไม่สามารถเจาะกลุ่มศิลปินชายของค่ายเพลง Sun ได้ เธอจึงได้รับคำแนะนำและความช่วยเหลือจาก Chet Atkins แห่ง RCA Records ในการสร้างค่ายเพลงใหม่เพื่อออกผลงานเพลงของเธอ เธอเริ่มปล่อยและโปรโมตซิงเกิลของค่ายเพลงที่เธอบันทึกเสียงไว้ในสตูดิโอที่บ้านของเธอ โดยทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ และผู้เรียบเรียง ศิลปินที่บันทึกเสียงไว้ได้แก่ศิลปินที่เป็นนักดนตรีร็อกแอนด์โรลยุคแรก ร็อกอะบิลลี และคันทรี่ ที่เธอคัดเลือกจากรัฐทางใต้หลายแห่ง ค่ายเพลง Moon Records ของเธอเป็นค่ายเพลงที่เก่าแก่ที่สุดที่เปิดดำเนินการอย่างต่อเนื่องในเมมฟิส

เพลงร็อคยุค 50 แห่งเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ซึ่งเป็นอัลบั้มรวบรวมซิงเกิลของค่ายเพลงในปี 1950 ได้รับการเผยแพร่ในรูปแบบไวนิลในต้นทศวรรษ 1980 และต่อมาจำหน่ายในรูปแบบคอมแพคดิสก์

เธอเสียชีวิตในเมมฟิสในปี 2547 ขณะอายุ 81 ปี
#นาย​ซุป​ต้า!

Address


Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when I Don't Like Mondays posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share