Pthai พี่ไทเล่าให้ฟัง

Pthai พี่ไทเล่าให้ฟัง อัพเดทความเคลื่อนไหวในออสเตรเลีย และที่อื่นๆ ให้คุณได้รู้เท่าทันเหตุการณ์

เนื่องจากเป็นวันหยุดธนาคารของรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW Bank Holiday) ประจำปี พ.ศ. 2568 ซึ่งตรงกับวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคมนี้ ธ...
01/08/2025

เนื่องจากเป็นวันหยุดธนาคารของรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW Bank Holiday) ประจำปี พ.ศ. 2568 ซึ่งตรงกับวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคมนี้ ธนาคารพาณิชย์หลักๆ ในออสเตรเลียจึงได้ประกาศข้อมูลเกี่ยวกับการปิดสาขาและข้อจำกัดในการทำธุรกรรมที่อาจเกิดขึ้น

ข้อมูลสำคัญสำหรับลูกค้าธนาคารในรัฐ NSW
วันหยุดนี้มีผลบังคับใช้กับพนักงานในภาคธนาคารเท่านั้น ไม่ใช่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ของทั้งรัฐ ดังนั้นธุรกิจอื่น ๆ อาจยังคงเปิดให้บริการตามปกติ

ธนาคารหลักๆ จะดำเนินการดังนี้:

ANZ: สาขาธนาคารทั้งหมดจะปิดทำการ แต่ธุรกรรมของลูกค้าจะยังคงถูกประมวลผลตามปกติ ยกเว้น จะไม่มีรอบการชำระบัญชี RITS Evening Settlement Session

Commonwealth Bank (CBA): สาขาธนาคารทุกแห่งจะปิดทำการ รวมถึงสาขาที่อยู่ใกล้ชายแดนรัฐควีนส์แลนด์ด้วย แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความล่าช้าของธุรกรรม

NAB: สาขาธนาคารทั้งหมดจะปิดทำการ และจะมี ข้อจำกัดในการทำธุรกรรมบางอย่าง ลูกค้าจะไม่สามารถทำธุรกรรมเบิกเงินหรือชำระคืนสำหรับสินเชื่อ Business Market Loans และ Corporate Market Loans ได้ รวมถึงธุรกรรมการชำระเงินระหว่างประเทศบางประเภท และบริการด้านการค้าระหว่างประเทศ

Westpac: สาขาธนาคารทั้งหมดจะปิดทำการ แต่ไม่ได้ระบุความล่าช้าหรือข้อจำกัดใดๆ ในการทำธุรกรรมของลูกค้า

ธนาคารและธุรกิจอื่น ๆ
ธนาคารอื่น ๆ เช่น AMP Limited ได้เตือนลูกค้าว่าการชำระเงินผ่าน BPAY และการโอนเงินภายนอกที่ทำในวันจันทร์อาจล่าช้าและถูกประมวลผลในวันอังคารแทน

พนักงานในตำแหน่งทางการเงินและเชิงพาณิชย์บางส่วนอาจได้หยุดในวันนี้หากระบุไว้ในสัญญาจ้าง นอกจากนี้ ธุรกิจขนาดเล็กบางแห่ง เช่น ร้านอาหารหรือร้านกาแฟในย่านธุรกิจใจกลางเมือง (CBD) ก็อาจเลือกที่จะปิดให้บริการเช่นกัน เนื่องจากคาดว่าจำนวนคนจะลดลง

หากคุณมีธุรกรรมสำคัญที่ต้องดำเนินการในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ควรวางแผนล่วงหน้าและดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันศุกร์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้น

ที่มา/เครดิตภาพ: skynews.com.au

ศาลสูงได้มีคำสั่ง ห้าม การชุมนุมเดินขบวนสนับสนุนปาเลสไตน์บนสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ที่กำหนดไว้ในวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคมนี้แ...
01/08/2025

ศาลสูงได้มีคำสั่ง ห้าม การชุมนุมเดินขบวนสนับสนุนปาเลสไตน์บนสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ที่กำหนดไว้ในวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคมนี้แล้ว

โดยคำตัดสินนี้มีขึ้นหลังจากตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW Police) ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อคัดค้าน ทางศาลได้พิจารณาแล้วว่ามีความกังวลด้านความปลอดภัยสาธารณะและมีความเป็นไปได้ที่จะเกิด "ความแออัดยัดเยียด" รวมถึงการจราจรติดขัดอย่างหนัก

สรุปเหตุการณ์ที่ผ่านมา
แผนการประท้วง: กลุ่ม Palestine Action Group ได้วางแผนจัดการเดินขบวนของผู้ประท้วงกว่า 10,000 คนบนสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ในวันอาทิตย์ เพื่อเน้นย้ำถึงวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา

การคัดค้านของเจ้าหน้าที่: พรีเมียร์ Chris Minns และตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้คัดค้านการประท้วงอย่างแข็งขัน โดยให้เหตุผลว่าได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าไม่เพียงพอสำหรับการเตรียมการรับมือจากหลายหน่วยงาน และมองว่าการประท้วงนี้จะทำให้เกิด "ความวุ่นวาย" สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์กว่า 40,000 คัน ซึ่งอาจกินเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง ไม่ใช่แค่ 1 ชั่วโมงตามที่ผู้จัดงานกล่าวอ้าง

คำสั่งศาล: คำสั่งห้ามการประท้วงของศาลสูงหมายความว่าหากมีผู้เข้าร่วมเดินขบวนบนสะพาน พวกเขาอาจถูกจับกุมในข้อหาขัดขวางการจราจร เนื่องจากไม่มีการคุ้มครองทางกฎหมายอีกต่อไป

จุดยืนของผู้จัดงาน: แม้ศาลจะมีคำสั่งห้าม แต่กลุ่ม Palestine Action Group ยืนยันว่าจะยังคงจัดการชุมนุมต่อไป โดยยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะพยายามข้ามสะพานหรือไม่ แต่พวกเขาเชื่อว่าการเดินขบวนครั้งนี้เป็นสิ่งที่ "ไม่อาจหยุดยั้งได้" และมีเป้าหมายเพื่อส่งสารที่ทรงพลังออกไป

บริบทที่กว้างขึ้น
สะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์เคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมใหญ่ๆ มาแล้วหลายครั้ง เช่น การเดินขบวนเพื่อปรองดอง (reconciliation march) การวิ่งมาราธอน งาน World Pride หรือแม้กระทั่งใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวูด แต่เจ้าหน้าที่เน้นย้ำว่ากิจกรรมเหล่านั้นต้องมีการวางแผนล่วงหน้าเป็นเดือนๆ ซึ่งแตกต่างจากกรณีนี้ที่ได้รับแจ้งอย่างกระชั้นชิด

สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดระหว่างสิทธิในการประท้วง กับความจำเป็นในการรักษาความปลอดภัยสาธารณะและการทำงานที่ราบรื่นของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเมือง

ที่มา/เครดิตภาพ: 9news.com.au

วิกฤตที่อยู่อาศัยในซิดนีย์ ทำเศรษฐกิจเสียหาย $1 หมื่นล้านต่อปีผลการวิจัยล่าสุดเผยว่า ปัญหาการเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่ยากลำ...
01/08/2025

วิกฤตที่อยู่อาศัยในซิดนีย์ ทำเศรษฐกิจเสียหาย $1 หมื่นล้านต่อปี

ผลการวิจัยล่าสุดเผยว่า ปัญหาการเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่ยากลำบากและการเดินทางไปทำงานที่ยาวนานในซิดนีย์ กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของเมือง โดยมีมูลค่าความเสียหายในแง่ของผลิตภาพที่สูญเสียไปถึง $1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี

ผลกระทบหลักทางเศรษฐกิจ
ปัญหาการจ้างงานและการรักษาพนักงาน: นายจ้างกำลังประสบปัญหาอย่างหนักในการจ้างและรักษาพนักงาน เนื่องจากลูกจ้างจำนวนมากไม่สามารถหาที่พักอาศัยราคาที่เหมาะสมใกล้ที่ทำงานได้

การใช้จ่ายลดลง: ศาสตราจารย์ Philip Oldfield จาก UNSW ชี้ว่าเมื่อค่าเช่าที่พักสูงขึ้น ผู้คนก็ต้องลดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น กาแฟ อาหารกลางวัน หรือกิจกรรมสันทนาการ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจทุกขนาด

คุณภาพชีวิตและผลิตภาพต่ำลง: การเดินทางที่ยาวนานทำให้มีเวลาอยู่กับครอบครัวและชุมชนน้อยลง ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความเป็นอยู่ที่ดีและผลิตภาพในการทำงาน รวมถึงอัตราการขาดงานที่สูงขึ้น

แนวทางแก้ไขจากรัฐบาล
รัฐบาลกลางได้จัดสรรเงินทุน $1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมและที่อยู่อาศัยราคาประหยัดใหม่จำนวน 30,000 หลัง อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญมองว่ายังต้องมีมาตรการเพิ่มเติมอีกมาก เช่น:

การสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบ้านเพื่อสังคม

การเปลี่ยนอาคารสำนักงานที่ไม่ได้ใช้งานให้เป็นที่อยู่อาศัย

การปรับปรุงระบบภาษีและโครงสร้างต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาจากต้นตอ

ปัญหาวิกฤตที่อยู่อาศัยไม่ได้เป็นเพียงเรื่องส่วนตัว แต่เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของซิดนีย์อย่างชัดเจน คุณคิดว่าการแก้ปัญหานี้ควรเริ่มต้นจากจุดไหนเป็นอันดับแรกคะ?

ที่มา/เครดิตภาพ: 9news.com.au

ปิดเส้นทางรถรางในเมือง Adelaide นาน 6 เดือน ส่งผลกระทบผู้โดยสารและแฟนกีฬาผู้ใช้บริการรถสาธารณะและแฟนกีฬาในเมือง Adelaide...
01/08/2025

ปิดเส้นทางรถรางในเมือง Adelaide นาน 6 เดือน ส่งผลกระทบผู้โดยสารและแฟนกีฬา

ผู้ใช้บริการรถสาธารณะและแฟนกีฬาในเมือง Adelaide กำลังจะเผชิญกับการหยุดชะงักครั้งใหญ่ เนื่องจากเส้นทางรถรางสายหลักระหว่าง South Terrace และ Glenelg จะถูกปิดให้บริการนานถึง 6 เดือน เริ่มตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้

สาเหตุของการปิดเส้นทาง
การปิดเส้นทางในครั้งนี้มีความจำเป็นเพื่อทำการปรับปรุงครั้งใหญ่บริเวณจุดตัดทางรถไฟ (level crossings) ทั้งสามแห่งบนถนน Marion Road, Cross Road และ Plympton รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม Tom Koutsantonis กล่าวว่างานนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปรับปรุงการไหลเวียนของการจราจรและลดความแออัดบริเวณจุดตัดเหล่านี้ ทั้งในช่วงเวลาเร่งด่วนและช่วงเวลาปกติ

สิ่งที่ผู้โดยสารต้องเตรียมรับมือ
บริการหยุดชะงัก: การปิดเส้นทางครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อบริการรถรางทั้งหมดที่มุ่งหน้าไปยังชายฝั่ง รวมถึงการเข้าถึงสถานที่จัดงานต่างๆ นอกจากนี้ เส้นทางรถรางจาก South Terrace เข้าสู่ตัวเมืองก็จะถูกปิดให้บริการในช่วงสุดสัปดาห์นี้เช่นกัน

การปิดถนน: นอกจากการหยุดให้บริการรถรางแล้ว ยังมีการปิดถนนตามกำหนดการด้วย โดยถนน South Road จะถูกปิดทั้งหมดระหว่าง Aroha Terrace และ Wellington Street ในช่วงสุดสัปดาห์หน้า และตลอดเดือนสิงหาคมนี้ จะมีการปิดถนน Marion Road, Cross Road และ Morphett Road เป็นช่วงๆ ด้วย

รถบัสสำรอง: เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น จะมีการจัดเตรียม รถบัสสำรอง ไว้ให้บริการ โดยจะวิ่งให้บริการทุก 10-20 นาทีตลอด 24 ชั่วโมง และวิ่งถี่ขึ้นทุก 5 นาทีในช่วงเวลาเร่งด่วน

Charles Mountain จาก RAA แนะนำให้ผู้โดยสาร "ตรวจสอบข้อมูลล่วงหน้า" เพื่อวางแผนการเดินทางและเลือกใช้บริการรถบัสสำรองที่เหมาะสมที่สุด การปิดเส้นทางครั้งนี้นับเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความท้าทายของการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนในเมือง

ที่มา/เครดิตภาพ: 9news.com.au

ช่างรับสร้างรั้วถูกกล่าวหาว่าโกงเงินลูกค้าไปเกือบ $100,000ลูกค้าหลายรายได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของช่างรับสร้างรั้วรายหนึ...
01/08/2025

ช่างรับสร้างรั้วถูกกล่าวหาว่าโกงเงินลูกค้าไปเกือบ $100,000

ลูกค้าหลายรายได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของช่างรับสร้างรั้วรายหนึ่งในรัฐควีนส์แลนด์ ที่ถูกกล่าวหาว่า รับเงินค่ามัดจำล่วงหน้าจากลูกค้าแล้วหนีหายไป โดยมีรายงานว่ายอดหนี้ที่เขาก่อขึ้นอาจสูงถึง $100,000

รายงานจากรายการ A Current Affair ระบุว่า Dave Surawski เจ้าของบริษัท Erect a Fence ถูกคณะกรรมการการก่อสร้างและอาคารแห่งรัฐควีนส์แลนด์ (QBCC) ระงับใบอนุญาตช่างตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจาก "ไม่ชำระหนี้" และเมื่อ 5 เดือนก่อนหน้านั้น เขาก็เคยถูกศาลสั่งปรับ $10,000 ในข้อหาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต

เรื่องราวของลูกค้าผู้เสียหาย
Raj ลูกค้าคนหนึ่งเล่าว่า เขาต้องการสร้างรั้วสูง 1.8 เมตร เพื่อความปลอดภัยของลูกชายวัย 8 ขวบที่เป็นออทิสติกและชอบวิ่งออกไปนอกบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลให้ครอบครัวอย่างมาก

เขาจ่ายเงินค่ามัดจำไป $5,000 ให้กับ Surawski โดยคาดหวังว่ารั้วจะสร้างเสร็จทันทีที่พวกเขากลับจากการเดินทางต่างประเทศ แต่เมื่อเดือนมกราคมผ่านไป รั้วก็ยังไม่มีวี่แวว ทำให้ Raj พยายามติดต่อ Surawski อยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ จนสุดท้ายเขาก็รู้ว่าถูกหลอกเอาเงินไป

นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าอีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อ โดยมีลูกค้ารายหนึ่งอ้างว่าจ่ายเงินค่ามัดจำไปถึง $30,000 แต่ก็ยังไม่ได้รั้วตามที่ตกลงกัน

ความรับผิดชอบและการดำเนินคดี
ในที่สุด ทีมข่าว A Current Affair ก็ตามหา Surawski ได้ที่ศาล Toowoomba Magistrates Court ซึ่งเขากำลังเผชิญกับข้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับอดีตภรรยาของเขา

Surawski กล่าวว่า "ผมต้องขอโทษลูกค้าทุกคน แต่ทุกเรื่องราวมีสองด้าน และผมไม่ใช่คนเดียวที่ต้องถูกตำหนิสำหรับทุกอย่าง" โดยเขาอ้างว่าอดีตภรรยาของเขาเป็นคนนำเงินไป แต่ทางภรรยาเก่าก็อ้างว่าเขาเป็นคนใช้เงินในทางที่ผิด

ลูกค้าผู้เสียหายหลายรายได้ยื่นเรื่องร้องเรียนในข้อหาฉ้อโกงกับตำรวจแล้ว ขณะที่ QBCC ได้เตือนว่า ช่างไม่ควรเรียกเก็บเงินค่ามัดจำเกิน 20% ของมูลค่างานทั้งหมด

ที่มา/เครดิตภาพ: 9news.com.au

ไอคอนนักมวยปล้ำอาชีพ Hulk Hogan เสียชีวิตด้วยอาการ หัวใจวาย ในวัย 71 ปี ตามรายงานสรุปการอนุมัติการเผาศพจากสำนักงานผู้ตรว...
01/08/2025

ไอคอนนักมวยปล้ำอาชีพ Hulk Hogan เสียชีวิตด้วยอาการ หัวใจวาย ในวัย 71 ปี ตามรายงานสรุปการอนุมัติการเผาศพจากสำนักงานผู้ตรวจสอบทางการแพทย์ประจำเทศมณฑล Pinellas รัฐฟลอริดา

สาเหตุการเสียชีวิตที่ได้รับการยืนยัน
สาเหตุการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการคือ "acute myocardial infarction" หรือที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า หัวใจวาย นอกจากนี้ รายงานยังระบุด้วยว่า Hogan หรือชื่อจริงคือ Terry Gene Bollea มีประวัติของอาการหัวใจเต้นผิดปกติและมะเร็งในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีส่วนทำให้เสียชีวิตด้วย

การเสียชีวิตของเขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นการตายตามธรรมชาติ โดยไม่มีการชันสูตรพลิกศพ และการเสียชีวิตได้รับการยืนยันโดยแพทย์ประจำตัวของเขาเอง ก่อนหน้านี้ตำรวจได้กล่าวว่าไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ ในการเสียชีวิต

ตำนานนักมวยปล้ำที่โลกจดจำ
Hulk Hogan คือหนึ่งในนักมวยปล้ำที่ยิ่งใหญ่และโด่งดังที่สุดตลอดกาล เขาเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ World Wrestling Entertainment (WWE) เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในยุค 1980 ด้วยบุคลิกที่โดดเด่นเกินตัวและการสร้างความบาดหมางกับนักมวยปล้ำคนอื่นๆ ในยุคนั้น เช่น "Rowdy" Roddy Piper และ "Macho Man" Randy Savage ทำให้วงการมวยปล้ำอาชีพกลายเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

Hogan กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและเป็นบุคคลสำคัญในวัฒนธรรมป๊อป เขามีผลงานการแสดงภาพยนตร์และเป็นที่จดจำไปทั่วโลก อาชีพนักมวยปล้ำของเขาครอบคลุมหลายองค์กรสำคัญ เช่น World Wrestling Federation (WWF), World Championship Wrestling (WCW) และ Total Nonstop Action (TNA)

มีเรื่องราวหรือช่วงเวลาใดของ Hulk Hogan ที่คุณประทับใจเป็นพิเศษหรือไม่?

ที่มา/เครดิตภาพ: 9news.com.au

บริษัท The Star Entertainment Group ผู้ดำเนินธุรกิจคาสิโนชื่อดังของออสเตรเลีย จะต้องคืนเงิน 41 ล้านดอลลาร์ หลังจากข้อตกล...
01/08/2025

บริษัท The Star Entertainment Group ผู้ดำเนินธุรกิจคาสิโนชื่อดังของออสเตรเลีย จะต้องคืนเงิน 41 ล้านดอลลาร์ หลังจากข้อตกลงสำคัญที่เคยช่วยพยุงสถานะทางการเงินของบริษัทล้มเหลวลง

รายละเอียดข้อตกลงที่ล้มเหลว
ข้อตกลง: The Star มีแผนจะขายหุ้น 50% ในโครงการพัฒนา Queen's Wharf Brisbane ให้กับ Chow Tai F**k Enterprises และ Far East Consortium ซึ่งเป็นพันธมิตรร่วมทุนจากฮ่องกง

เหตุผลที่ล้มเหลว: วันนี้ The Star ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ASX ว่าทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในประเด็นเชิงพาณิชย์ที่ยังค้างอยู่ได้ ทำให้การเจรจาขยายเวลาออกไปถึงวันที่ 6 สิงหาคมถูกปฏิเสธ และข้อตกลงเบื้องต้น (Heads of Agreement) จึงถูกยกเลิกไป

ผลกระทบ:

การจ่ายเงินคืน: The Star จะต้องคืนเงิน 10 ล้านดอลลาร์ให้กับพันธมิตรร่วมทุนภายในวันที่ 6 สิงหาคม และอีก 31 ล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นเงินทุนที่พันธมิตรได้จ่ายไปตั้งแต่เดือนมีนาคม จะต้องชำระคืนภายในวันที่ 5 กันยายน

การถือครองทรัพย์สิน: The Star ยังคงถือครองหุ้น 50% ใน Destination Brisbane Consortium, Destination Gold Coast Consortium และ Treasury Hotel ในบริสเบนตามเดิม

สถานะทางการเงินของ The Star
ข้อตกลงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ The Star ซึ่งกำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ข้อตกลงนี้ประกอบด้วยเงินสด 50 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินลงทุน 250 ล้านดอลลาร์จาก Bally's Corporation ยักษ์ใหญ่คาสิโนจากสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน ได้ช่วยให้บริษัทรอดพ้นจากการล้มละลายมาได้

มูลค่าหุ้นตก: หลังจากการประกาศดังกล่าว หุ้นของ The Star ตกลงเหลือเพียง 10 เซ็นต์ในวันนี้

ภาระหนี้: The Star ยังคงต้องรับผิดชอบในส่วนของหนี้สินโครงการ Queen's Wharf Brisbane ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 1.4 พันล้านดอลลาร์ และยังต้องลงทุนเพิ่มเติมอีก 200 ล้านดอลลาร์เพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้

ปัญหาทางกฎหมาย: นอกจากนี้ บริษัทยังรอการตัดสินของศาลในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน ซึ่งอาจทำให้ต้องจ่ายค่าปรับหลายร้อยล้านดอลลาร์

The Star กล่าวว่าจะยังคงติดต่อกับพันธมิตรร่วมทุนและจะพิจารณา "ทางเลือกอื่น ๆ" ที่เป็นไปได้ต่อไป

ที่มา/เครดิตภาพ: 9news.com.au

ชายอายุ 70 ปี ซึ่งเป็นนักวิชาการในเมลเบิร์น ถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก หลังจากมีภาพดังกล่าวปรากฏ...
01/08/2025

ชายอายุ 70 ปี ซึ่งเป็นนักวิชาการในเมลเบิร์น ถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก หลังจากมีภาพดังกล่าวปรากฏขึ้นบนหน้าจอระหว่างการบรรยายในมหาวิทยาลัยเมื่อต้นปีนี้

รายละเอียดเหตุการณ์
ผู้ถูกกล่าวหา: ชายอายุ 70 ปีจากย่าน Middle Park, Melbourne

ข้อหา: เขาถูกตั้งข้อหา 1 กระทงในข้อหาครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กในฐานะความผิดของรัฐบาลกลาง (Commonwealth Offence) และอีก 2 กระทงในข้อหาเดียวกันภายใต้พระราชบัญญัติอาชญากรรม (Crimes Act)

เหตุการณ์: เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ โดยตำรวจอ้างว่าภาพลามกอนาจารเด็กได้แสดงขึ้นบนหน้าจอโดยไม่ได้ตั้งใจระหว่างการบรรยายที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในย่านธุรกิจใจกลางเมือง (CBD) ของเมลเบิร์น

การสอบสวน:

หลังจากได้รับแจ้งเหตุ ตำรวจได้ดำเนินการออกหมายค้นที่บ้านพักของชายคนดังกล่าวในเดือนกุมภาพันธ์ และยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายรายการ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนยังได้เดินทางไปซิดนีย์ และทำการบุกค้นบ้านพักแห่งที่สองในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ โดยได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW Police) และพบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติม ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

การดำเนินการทางกฎหมาย: ชายคนดังกล่าวได้รับการสัมภาษณ์และถูกตั้งข้อหาในเวลาต่อมา โดยมีกำหนดจะไปขึ้นศาล Melbourne Magistrates' Court ในวันที่ 7 สิงหาคม

สถานะการสอบสวน: ตำรวจยืนยันว่าไม่มีการตามหาผู้ต้องสงสัยรายอื่นเพิ่มเติมในคดีนี้

คดีนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจและแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ในการสืบสวนและจัดการกับอาชญากรรมทางเพศต่อเด็กอย่างจริงจัง

ที่มา/เครดิตภาพ: 9news.com.au

ชาววิกตอเรียประมาณ 900,000 ครัวเรือนที่มีบัตรสวัสดิการ (concession card) กำลังจะได้ลดค่าไฟ 100 ดอลลาร์ โดยสามารถเริ่มยื่...
01/08/2025

ชาววิกตอเรียประมาณ 900,000 ครัวเรือนที่มีบัตรสวัสดิการ (concession card) กำลังจะได้ลดค่าไฟ 100 ดอลลาร์ โดยสามารถเริ่มยื่นขอรับเงินช่วยเหลือ Power Saving Bonus รอบใหม่นี้ได้ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2568

รายละเอียดโครงการ
ใครมีสิทธิ์บ้าง: ครัวเรือนในรัฐวิกตอเรียที่มีบัตรสวัสดิการ (concession card) ซึ่งรวมถึงบัตร Health Care Card, Pensioner Concession Card, Veterans' Affairs Pensioner Concession Card หรือ Veterans' Affairs Gold Card

มูลค่า: เป็นเงินช่วยเหลือแบบจ่ายครั้งเดียว 100 ดอลลาร์ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน

วิธีสมัคร: สามารถยื่นขอรับเงินช่วยเหลือได้ผ่านเว็บไซต์ Victorian Energy Compare (VEC) หรือที่สำนักงานชุมชนในพื้นที่ (Neighbourhood House)

เอกสารที่ต้องใช้: ในการสมัคร ผู้ยื่นจะต้องมี บิลค่าไฟล่าสุด เพื่อใช้ประกอบการยื่นคำร้อง

ลิลี่ ดัมโบรซิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าวว่า "เรารู้ดีว่าเราต้องทำอะไรอีกมากเพื่อช่วยชาววิกตอเรียจัดการกับค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน" และเน้นย้ำว่าเงินจำนวนนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายลง 100 ดอลลาร์ และทำให้เงินจำนวนนั้นยังคงอยู่ในกระเป๋าของประชาชน

โครงการ Power Saving Bonus เป็นมาตรการที่รัฐบาลวิกตอเรียจัดทำขึ้นเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ซึ่งในรอบก่อนๆ ที่ผ่านมา ได้เคยให้เงินช่วยเหลือถึง 250 ดอลลาร์ และโครงการนี้มักจะเชื่อมโยงกับการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าไปเปรียบเทียบข้อเสนอจากผู้ให้บริการพลังงานต่าง ๆ เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุดด้วย

หากคุณมีบัตรสวัสดิการและมีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุ อย่าลืมใช้สิทธิ์เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนนะคะ

ที่มา/เครดิตภาพ: 9news.com.au

วิกฤตที่อยู่อาศัยในซิดนีย์ ส่งผลให้ผลิตภาพลดลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปีผลการศึกษาใหม่ชี้ว่าปัญหาการเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่...
31/07/2025

วิกฤตที่อยู่อาศัยในซิดนีย์ ส่งผลให้ผลิตภาพลดลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี

ผลการศึกษาใหม่ชี้ว่าปัญหาการเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่ยากลำบากและการเดินทางไปทำงานที่ยาวนานกำลังสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของซิดนีย์ถึงประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ในรูปแบบของผลิตภาพที่สูญเสียไป

ผลกระทบต่อธุรกิจและพนักงาน
นายจ้างประสบปัญหา: ธุรกิจต่างๆ กำลังเผชิญกับความยากลำบากในการจ้างและรักษาพนักงานในพื้นที่ที่ไม่มีที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง

พฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนไป: การเดินทางที่ยาวนานและค่าเช่าที่สูงยังส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้คน

ศาสตราจารย์ Philip Oldfield หัวหน้า School of Built Environment จาก UNSW กล่าวว่าปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจโดยรวม: "หากค่าเช่าของคุณเพิ่มขึ้น คุณอาจใช้จ่ายกับกาแฟ อาหารกลางวัน หรือการพักผ่อนน้อยลง และนั่นจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่เช่นกัน"

แนวทางแก้ไขและข้อเสนอแนะ
รัฐบาลกลางได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดสรรเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมและที่อยู่อาศัยราคาประหยัดใหม่ 30,000 แห่ง

ศาสตราจารย์ Oldfield กล่าวว่า "เราจะต้องทำหลายสิ่งหลายอย่าง สร้างบ้านเพิ่มขึ้น สร้างบ้านเพื่อสังคมอีกมากมาย เปลี่ยนอาคารสำนักงานที่ไม่ได้ใช้ให้เป็นที่อยู่อาศัย และเปลี่ยนแปลงระบบภาษีและโครงสร้างด้วย"

การเดินทางและคุณภาพชีวิต
จากการศึกษาล่าสุดในเมลเบิร์น พบว่าพนักงานที่ทำงานในย่านธุรกิจใจกลางเมือง (CBD) กว่าครึ่งอาศัยอยู่ห่างจากที่ทำงานมากกว่า 20 กิโลเมตร

"หากธุรกิจของคุณตั้งอยู่ใน CBD หรือพื้นที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสูง พนักงานของคุณอาจไม่สามารถหาที่อยู่อาศัยใกล้ๆ ได้" Oldfield กล่าว "พวกเขาอาจต้องเดินทาง 20 หรือ 30 กิโลเมตร และนั่นส่งผลกระทบอย่างแท้จริงต่อการรักษาพนักงานและการขาดงาน"

"ยิ่งผู้คนอาศัยอยู่ห่างจากที่ทำงานมากเท่าไหร่ การเดินทางของพวกเขาก็จะยิ่งนานขึ้น และมีเวลากับครอบครัวหรือในชุมชนน้อยลงเท่านั้น" เขากล่าวสรุป "นั่นส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อความเป็นอยู่ที่ดีและผลิตภาพ"

ปัญหาวิกฤตที่อยู่อาศัยไม่เพียงส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าครองชีพของผู้คน แต่ยังกระทบต่อประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของเมืองอย่างซิดนีย์ด้วย คุณคิดว่ามาตรการใดที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญมากที่สุดเพื่อแก้ไขปัญหานี้?

ที่มา/เครดิตภาพ: 7news.com.au

วิกฤตความเหงาในหมู่คนหนุ่มสาวออสเตรเลีย: งานวิจัยเผย 1 ใน 7 เผชิญ "ความเหงาเรื้อรัง"งานวิจัยล่าสุดที่เปิดเผยในวันนี้พบว่...
31/07/2025

วิกฤตความเหงาในหมู่คนหนุ่มสาวออสเตรเลีย: งานวิจัยเผย 1 ใน 7 เผชิญ "ความเหงาเรื้อรัง"

งานวิจัยล่าสุดที่เปิดเผยในวันนี้พบว่า คนหนุ่มสาวในออสเตรเลียกำลังเผชิญกับ วิกฤตความเหงา โดยไม่มีใครรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มอายุ 15 ถึง 35 ปี ซึ่งกำลังเผชิญกับภาวะโดดเดี่ยวในระดับที่น่าตกใจ

ข้อมูลจากรายงาน "A Call for Connection"
จากรายงาน "A Call for Connection: Understanding and Addressing Youth Loneliness in Australia" ขององค์กร Ending Loneliness Together ระบุว่า:

1 ใน 7 ของคนหนุ่มสาวในออสเตรเลียกำลังเผชิญกับ "ความเหงาเรื้อรัง" ซึ่งหมายถึงความรู้สึกเหงาที่คงอยู่นานกว่าสองปี

ความเหงาไม่ใช่การอยู่คนเดียว: รองศาสตราจารย์ Michelle Lim ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ Ending Loneliness Together กล่าวว่า "ความเหงาไม่เหมือนกับการอยู่คนเดียว คุณสามารถอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายและยังคงรู้สึกเหงาได้" เธอย้ำว่าความเหงาเกี่ยวข้องกับ คุณภาพของความสัมพันธ์ มากกว่าปริมาณ

ปัจจัยที่ช่วยลดความเหงา:

งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนหนุ่มสาวที่ใช้เวลากับครอบครัวหรือเพื่อนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง มีแนวโน้มที่จะรู้สึกเหงาน้อยกว่าถึงสามเท่า

ผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกีฬา งานอดิเรก หรือชมรมในชุมชน มีแนวโน้มที่จะรู้สึกเหงาเรื้อรังมากกว่า 1.5 เท่า

ความเครียดทางการเงิน พบว่าเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของความเหงาถึงสองเท่า

สัปดาห์รณรงค์และข้อเรียกร้อง
สัปดาห์รณรงค์สร้างความตระหนักรู้เรื่องความเหงาแห่งชาติ จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า ตั้งแต่วันที่ 4-10 สิงหาคม โดยจะเน้นย้ำว่าการเชื่อมสัมพันธ์เล็กๆ น้อยๆ สามารถช่วยแก้ไขวิกฤตนี้ได้อย่างไร

พลังของการเชื่อมสัมพันธ์เล็กๆ: Lim กล่าวว่า "การสร้างมิตรภาพหรือการสร้างความสัมพันธ์ต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่มักจะเริ่มต้นจากช่วงเวลาเล็กๆ" เช่น การทักทาย การพบกันโดยบังเอิญ การกระทำที่ใจดี คำชม ประสบการณ์หรือความสนใจร่วมกัน งานอดิเรกใหม่ๆ หรือแม้แต่เรื่องตลก "ปฏิสัมพันธ์เล็กๆ น้อยๆ แต่มีความหมายเหล่านี้มีความสำคัญ" เธอกล่าว "มันจุดประกายการสนทนาและช่วยให้เรารู้สึกมีคุณค่า"

Ending Loneliness Together ได้นำเสนอผลการวิจัยนี้ต่อรัฐสภาในวันนี้ และเรียกร้องให้มีการตอบสนองระดับชาติที่ประสานงานกันเพื่อแก้ไขวิกฤตความเหงานี้

ข้อมูลนี้เผยให้เห็นปัญหาที่ซ่อนอยู่ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนหนุ่มสาวในออสเตรเลีย คุณคิดว่าสังคมและหน่วยงานภาครัฐควรมีบทบาทอย่างไรในการส่งเสริมการเชื่อมสัมพันธ์และลดความเหงาในกลุ่มคนหนุ่มสาวคะ?

ที่มา/เครดิตภาพ: 7news.com.au

ข่าวดีสำหรับผู้กู้: อัตราเงินเฟ้อออสเตรเลียลดลงเหลือ 2.1% สัญญาณดีปรับลดดอกเบี้ย!ผู้ถือสินเชื่อจำนองในออสเตรเลียมีแนวโน้...
31/07/2025

ข่าวดีสำหรับผู้กู้: อัตราเงินเฟ้อออสเตรเลียลดลงเหลือ 2.1% สัญญาณดีปรับลดดอกเบี้ย!

ผู้ถือสินเชื่อจำนองในออสเตรเลียมีแนวโน้มที่จะได้รับข่าวดีในเร็ว ๆ นี้! ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย (ABS) เมื่อวันพุธที่ 30 กรกฎาคม 2568 เผยว่า อัตราเงินเฟ้อของประเทศยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนสิงหาคมนี้มีสูงขึ้นมาก

เงินเฟ้อลดลงสู่กรอบเป้าหมาย
รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำไตรมาสเดือนมิถุนายน 2568 ของ ABS แสดงตัวเลขที่น่าพอใจ:

อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline inflation) ลดลงมาอยู่ที่ 2.1% เมื่อเทียบรายปี จาก 2.4% ในไตรมาสเดือนมีนาคม นับเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564

อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Trimmed mean inflation) ซึ่งเป็นมาตรวัดที่ RBA ใช้เพื่อประเมินแรงกดดันด้านราคา ได้ลดลงมาอยู่ที่ 2.7% ซึ่งอยู่ในกรอบเป้าหมายของ RBA ที่ 2-3% พอดี

Shane Oliver หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ AMP กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อได้ "ลดลงมา" สู่ช่วงเป้าหมายที่ RBA ต้องการแล้ว

โอกาสการลดดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคมสูงขึ้น
ข้อมูลเงินเฟ้อที่ออกมานี้ได้เพิ่มความคาดหวังของตลาดอย่างมากว่า RBA จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคม:

ก่อนที่ข้อมูลจะถูกเผยแพร่ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ประมาณ 2.7% และตลาดเงินประเมินว่ามีโอกาส 82% ที่จะมีการลดดอกเบี้ย

แต่หลังจากรายงานของ ABS ออกมา โอกาสดังกล่าวก็พุ่งขึ้นเป็น 85% โดยมีการคาดการณ์จากบางแหล่ง เช่น ASX Interbank Cash Rate Futures ว่าอาจมีการปรับลดถึง 0.50% เลยทีเดียว แม้ว่าธนาคารใหญ่ๆ ส่วนใหญ่จะคาดการณ์ว่าจะเป็นการลด 0.25%

ข่าวนี้ถือเป็นสัญญาณสำคัญ หลังจากที่ RBA เคยตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่าย โดย Michele Bullock ผู้ว่าการ RBA เคยกล่าวไว้ว่าธนาคารกลางกำลังรอข้อมูลเพิ่มเติม โดยเฉพาะข้อมูล CPI ของไตรมาสเดือนมิถุนายน เพื่อยืนยันว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย และข้อมูลล่าสุดนี้ดูเหมือนจะเป็นการยืนยันที่สำคัญดังกล่าว

สิ่งนี้หมายถึงอะไรสำหรับผู้กู้จำนอง
สำหรับ ผู้ถือสินเชื่อจำนอง นี่เป็นข่าวดีที่อาจช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในรูปของอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ก่อนหน้านี้ RBA ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 2 ครั้งในปี 2568 (ในเดือนกุมภาพันธ์และพฤษภาคม) ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินสดลดลงมาอยู่ที่ 3.85% การลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนสิงหาคมจะช่วยให้งบประมาณครัวเรือนมีสภาพคล่องมากขึ้น

นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์บางคนยังคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในช่วงปลายปี 2568 และต่อเนื่องไปจนถึงปี 2569 ยิ่งไปกว่านั้น การที่ ABS จะเริ่มเผยแพร่ ดัชนีราคาผู้บริโภคฉบับเต็มรายเดือน (คาดว่าจะเริ่มเผยแพร่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2568 สำหรับข้อมูลเดือนตุลาคม) จะทำให้ RBA มีข้อมูลเงินเฟ้อที่ละเอียดและบ่อยขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเงินสดที่ทันท่วงทีในอนาคต

คุณคิดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจออสเตรเลียโดยรวมอย่างไรบ้างคะ?

ที่มา/เครดิตภาพ: skynews.com.au

ที่อยู่

Phra Nakhon

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Pthai พี่ไทเล่าให้ฟังผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท