เบลเยียมวันนี้มีอะไร

เบลเยียมวันนี้มีอะไร เพจสำหรับคนไทยในเบลเยี่ยมมาแลกเปล?

อยากให้เพจนี้เป็นที่พุดคุย แลกเปลี่ยนสาระ(ไม่มีสาระก็ได้)ของคนไทยในเบลเยี่ยม แชร์ข้อมูลข่าวสารในเบลเยียมที่เป็นประโยชน์

ขอ"งด"การโพสต์รูปส่วนตัว, งานบวช ,งานแต่ง, งานแซยิด, วันเกิดลูก, วันเกิดหมา ฯลฯ หรือโพสต์ขายสินค้าจำพวกอกฟูรูฟิต, ครีมหน้าขาว ฯลฯ ขายของอนุญาตให้ลงประกาศได้ขอให้เป็นของที่ทำเอง อาหาร, ขนม, หรือของมือสอง ได้หมดทุกอย่าง งดสินค้าพวกอาหารเสริม, ยา, ครีมทุกชนิด

14/12/2025

ปารีสยกเลิกคอนเสิร์ตส่งท้ายปีเก่าที่ถนนช็องเซลีเซ หวั่นเหตุรุนแรงจากผู้อพยพ แนะชาวฝรั่งเศสฉลองปีใหม่ด้วยการดูวิดีโอจากที่บ้าน 😵

14/12/2025

🇩🇪 ตำรวจเยอรมัน สกัดจับ 5 ผู้ต้องสงสัยวางแผนโจมตีตลาดคริสต์มาสในเยอรมนีได้ก่อนจะเกิดเหตุ (รายละเอียดในคอมเม้นต์)
14 Dec 2025

มีประโยชน์ค่ะ 👍🏻
29/09/2025

มีประโยชน์ค่ะ 👍🏻

วีซ่า Cohabitation กับ วีซ่าแต่งงานในประเทศเบลเยี่ยมต่างกันอย่างไร?

ถ้าคุณกำลังวางแผนย้ายมาอยู่กับคนรักในประเทศเบลเยี่ยมและกำลังหาข้อมูลระหว่างการใช้ชีวิตคู่ด้วย ''วีซ่าการอยู่ร่วมกันฉันท์สามีภรรยา ( Visa Cohabitation ) '' หรือ ''วีซ่าแต่งงาน (Marriage Visa)''

โพสต์นี้ได้รวบรวมข้อมูล สิทธิประโยชน์และข้อแตกต่างของวีซ่าทั้งสองมาให้พิจารณาเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจถึงความแตกต่างในสทิธิประโยชน์ในด้านต่างๆที่จะได้รับและเลือกสิ่งที่เหมาะกับชีวิตและความสัมพันธ์มากที่สุด 😊

#โอเอซิสเบลเยี่ยม #ช่วยเหลือคนไทยในเบลเยี่ยม #คนไทยในเบลเยี่ยม

รัฐบาลเบลเยียมกำลังปรับปรุงกฎเกณฑ์เรื่องสวัสดิการคนว่างงานใหม่ และได้เริ่มส่งจดหมายแจ้งเตือนไปยังกลุ่มคนที่อาจหมดสิทธิ์ไ...
10/09/2025

รัฐบาลเบลเยียมกำลังปรับปรุงกฎเกณฑ์เรื่องสวัสดิการคนว่างงานใหม่ และได้เริ่มส่งจดหมายแจ้งเตือนไปยังกลุ่มคนที่อาจหมดสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือแล้ว

สำนักงานจัดหางานแห่งชาติ (RVA/ONEM) เริ่มส่งจดหมายแจ้งเตือนตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยกลุ่มแรกที่ได้รับจดหมายคือ คนที่ว่างงานมานานกว่า 20 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดสิทธิ์ในการรับเงินช่วยเหลือตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้าเป็นต้นไป มีผู้ว่างงานในกลุ่มนี้กว่า 10,700 คนที่ได้รับจดหมายนี้แล้ว

กฎหมายใหม่: คนว่างงานเป็นเวลานาน(บางคนนานมากกกกก)ไม่สามารถรับเงินช่วยเหลือได้ตลอดไป การปฏิรูปครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อจำกัดระยะเวลาการรับเงินช่วยเหลือคนว่างงาน โดยจะพิจารณาจาก 2 ปัจจัยหลัก:

1. ระยะเวลาที่ว่างงาน: ยิ่งว่างงานนานเท่าไหร่ สิทธิ์ในการรับเงินก็จะยิ่งลดลง

2. ประวัติการทำงาน: พิจารณาจากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา

ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับจดหมายแจ้งเตือนจาก RVA/ONEM โดยจดหมายจะถูกทยอยส่งเป็นหลายชุด ทั้งทางไปรษณีย์และผ่านกล่องจดหมายดิจิทัล eBox ที่จะได้รับเตือนทางอีเมล์

กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมีใครบ้าง?
นอกจากกลุ่มที่ว่างงานมานานกว่า 20 ปีแล้ว ยังมีผู้ว่างงานอีกกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบด้วยคือ:

ผู้ที่ได้รับเงินช่วยเหลือสำหรับคนรุ่นใหม่ (inschakelingsuitkering): มีประมาณ 18,100 คนที่ได้รับจดหมายแจ้งเตือนเช่นกัน โดยกลุ่มนี้จะหมดสิทธิ์หากได้รับเงินช่วยเหลือมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งปี ณ วันที่ 1 มกราคมปีหน้า ซึ่งเงินช่วยเหลือประเภทนี้มีไว้สำหรับคนหนุ่มสาว, ว่าที่ first jobbers ที่ยังไม่เคยมีประวัติการทำงานมาก่อน

หน่วยงานจัดหางานของฟลานเดอร์ส (VDAB) ได้เริ่มดำเนินการช่วยเหลือผู้ว่างงานแล้ว โดยแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ใหม่ให้ผู้ว่างงานกว่า 25,000 คนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

โดย VDAB ตั้งเป้าที่จะจับคู่ผู้สมัครงานกับตำแหน่งงานว่างให้ได้มากที่สุด โดยจะจัดงานหางานและติดต่อบริษัทต่างๆ เพื่อจัดอบรมให้กับผู้สมัครงาน นอกจากนี้ยังประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ว่างงานที่มีข้อจำกัดทางร่างกาย จิตใจ หรือสังคม

จุดมุ่งหมายหลักของ VDAB คือ "เปลี่ยนเงินช่วยเหลือให้เป็นเงินเดือน โดยการช่วยให้ทุกคนได้งานที่เหมาะกับตัวเอง"

พูดง่ายๆ คือ ไม่มีทางเลือกที่จะไม่ทำงาน ถ้ารับเงินช่วยเหลือมาตลอด ตอนนี้ต้องออกไปทำงานแล้ว โดย VDAB จะทำหน้าที่ช่วยหางานที่เหมาะสมให้จนกว่าจะได้ซักงาน

ก็ไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จแค่ไหนนะ แต่ว่างงาน 20 ปียังได้เงินก็เกินไปจริงๆ ที่สำคัญคือยังได้รับสิทธิ์เงินบำนาญปรกติด้วยนะ คนที่แอดรู้จัก ไม่ได้งานมาเป็นสิบกว่าปี พอเกษียณ เงินบำนาญได้น้อยกว่าคนที่ทำงานไม่หยุดเลยตลอดชีวิตการทำงานแค่ประมาณ 200€ เองมั้ง แต่อันนี้แอดไม่รู้รายละเอียดนะว่าเค้าไปขึ้นทะเบียนอะไรยังไงถึงไม่ต้องทำงานนานขนาดนั้น

เว็บไซต์
(NL) https://www.rva.be/
(FR) https://www.onem.be/

สนามบินบรัสเซลส์กำลังสร้างพื้นที่ส่งผู้โดยสารใหม่สนามบินบรัสเซลส์เริ่มเตรียมการก่อสร้างพื้นที่ส่งผู้โดยสาร (Drop-off Zon...
08/09/2025

สนามบินบรัสเซลส์กำลังสร้างพื้นที่ส่งผู้โดยสารใหม่

สนามบินบรัสเซลส์เริ่มเตรียมการก่อสร้างพื้นที่ส่งผู้โดยสาร (Drop-off Zone) แห่งใหม่แล้ว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2026

พื้นที่ใหม่นี้จะตั้งอยู่ด้านหลังโรงแรม Sheraton และอยู่ระดับเดียวกับชั้นผู้โดยสารขาออก เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางเข้าสู่อาคารได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังออกแบบให้กว้างกว่าเดิมเพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น และมีจุดอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือ รวมถึงพื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ

เพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้น สนามบินจะสร้างทางแยกใหม่บนถนน A201 ซึ่งเชื่อมกับถนนวงแหวนบรัสเซลส์โดยตรง ทางแยกนี้จะนำไปสู่พื้นที่ส่งผู้โดยสารแห่งใหม่ผ่านถนนและสะพานเฉพาะ ทำให้รถส่งผู้โดยสารแยกจากรถประเภทอื่นได้อย่างชัดเจน

ระหว่างการก่อสร้าง พื้นที่ส่งผู้โดยสารปัจจุบันข้างลานจอดรถ P1 จะยังคงใช้งานได้ตามปกติ รวมถึงลานจอดรถ P1, P2 และ P3 ก็ยังเข้าถึงได้ตามเดิม ทั้งนี้ พื้นที่ใหม่จะใช้สำหรับส่งผู้โดยสารเท่านั้น และบริหารโดยบริษัท Interparking เช่นเดิม ส่วนผู้ที่ต้องการรับผู้โดยสารขาเข้าจะยังคงต้องไปที่ลานจอดรถของสนามบิน

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาครั้งใหญ่ "Hub 3.0" ซึ่งสนามบินบรัสเซลส์ได้ประกาศไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และถือเป็นก้าวแรกของโครงการทั้งหมด เมื่อพื้นที่ใหม่สร้างเสร็จ พื้นที่ส่งผู้โดยสารเดิมที่สร้างในปี 2016 จะถูกรื้อถอนเพื่อสร้างศูนย์การคมนาคมที่เชื่อมต่อรถไฟ รถราง และรถบัสเข้าด้วยกัน

นอกจากนี้ Hub 3.0 ยังรวมถึงการขยายอาคารผู้โดยสารขาออกและขาเข้า การสร้างโรงแรมแห่งใหม่ และถนนสายสีเขียวพร้อมสวนสาธารณะ

การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี นับตั้งแต่การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารและท่าเทียบเครื่องบิน Pier B ในช่วงทศวรรษ 1990

โดยเฟสแรกของโครงการนี้จะเริ่มเร็วที่สุดในช่วงปลายปี 2026 และจะดำเนินต่อไปอย่างน้อยจนถึงปี 2032 (นานเนอะ 😅)

ดูคอนเซปต์ 3D ของ Hub 3.0 ได้บน YouTube ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=KEXzWEPC9qw&t=2s

นักท่องเที่ยวนายแบบชาวอเมริกันโดนทำร้ายจนจมูกฉีกเกือบขาดเพราะเข้าไปช่วยผู้หญิงที่กำลังโดนคุกคามบนรถโดยสาร เหตุเกิดในเมือ...
26/08/2025

นักท่องเที่ยวนายแบบชาวอเมริกันโดนทำร้ายจนจมูกฉีกเกือบขาดเพราะเข้าไปช่วยผู้หญิงที่กำลังโดนคุกคามบนรถโดยสาร เหตุเกิดในเมือง Dresden เยอรมนี

John Rudat เป็น Paramedic และทำงานพาร์ทไทม์เป็นนายแบบชาวอเมริกันจากนิวยอร์ก วัย 20 ปี มาท่องเที่ยวในยุโรป ในขณะที่อยู่บนรถรางเขาเห็นชายคนหนึ่งกำลังคุกคามผู้หญิงสองคน ผู้หญิงไม่ตอบโต้ เขาบอกว่าสังเกตุว่ามีผู้ชาย 1 ใน 2 คนมีท่าทางเมายา เขาจึงเข้าไปช่วยผู้หญิงและมีการผลักกันขึัน รู้ตัวอีกทีเขาก็โดนมีดปาดเข้าตรงจมูกจนเลือดไหลนองเต็มพื้น บาดแผลค่อนข้างฉกรรจ์ ต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร็วที่สุด

ส่วนคนร้ายตำรวจจับได้พบว่าเป็นผู้ลี้ภัยขาวซีเรียวัยเพียง 21 ปี ชื่อ Majd มีประวัติ
ทำร้ายร่างกาย, ชิงทรัพย์ และ ย่องเบาเพื่อขโมยทรัพย์สิน อยู่อาศัยแบบไม่มีสถานะ (คืออยู่อย่างผิดกฏหมาย)

Rudat บอกว่าพวกมันไม่ได้"สู้" ผมนะ มันจะฆ่าผมเลย พอเอามีดมีฟันหน้าจนจมูกเกือบขาดแล้ว คนร้ายก็หนีไปด้วยสกูตเตอร์แต่ตำรวจไปจับตัวมาได้

Rudat ได้รับการรักษาพยาบาลเย็บบาดแผล เขาอัดคลิปเล่าเหตุการณ์ว่ามีคนอยู่ในเหตุการณ์หลายคน แต่ทุกคนไม่กล้าทำอะไร เขาเข้าใจว่าทุกคนกลัว ทุกคนมีหน้าที่การงาน และดูเหมือนจะรู้ดีกว่าเขาว่าการเข้าไปยุ่งกับสถานการณ์แบบนี้อาจจะมีอันตรายถึงชีวิตก็ได้ แต่เขาก็เลือกที่จะทำเพราะเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

"ผมคิดว่า คงจบอาชีพนายแบบที่แค่นี้แล้วแหละครับ (หัวเราะ)" "แต่ถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็จะช่วยเธอเหมือนเดิม"

ตอนนี้ยังอยู่ใยระหว่างการดำเนินการว่าจะเอายังไงกับ"ผู้ลี้ภัย" คนนี้

ช่วงนี้รู้สึกว่ายุโรปจะเข้มงวดเรื่องพรมแดนมากขึ้นนะคะ หลายๆ คนที่แอดรู้จัก บอกตรงกันหมดว่าเริ่มมีการสุ่มตรวจบัตรประชาชน,...
17/08/2025

ช่วงนี้รู้สึกว่ายุโรปจะเข้มงวดเรื่องพรมแดนมากขึ้นนะคะ หลายๆ คนที่แอดรู้จัก บอกตรงกันหมดว่าเริ่มมีการสุ่มตรวจบัตรประชาชน,พาสปอร์ตที่ชายแดนหลายๆ ประเทศ เช่น เยอรมนี - โปแลนด์, เบลเยียม - เยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์ - ออสเตรีย, เยอรมนี - สวิตเซอร์แลนด์ ฯลฯ ดูเหมือนเยอรมนีและประเทศที่ติดกับเยอรมนีจะเข้มสุด แอดข้ามไปฝั่งเยอรมนี (ซึ่งก็ข้ามไปบ่อย บางทีแค่ไปกินข้าว) ก็เจอด่านตรวจ เช็ครถทีละคัน สุ่มตรวจบัตรประชาชน

ถ้าใครได้สัญชาติเบลเยียมแล้ว ไม่มีปัญหา พกบัตรประชาชนอย่างเดียวก็พอสำหรับการเดินทางในประเทศสมาชิก EU 🇪🇺

แต่ใครยังไม่ได้สัญชาติ แต่ถือบัตรพำนักถาวร (Permanent Residence - PR) แนะนำให้พาสปอร์ตเสมอถ้ารู้ว่าจะข้ามเขตแดนประเทศ แม้ว่าจะเป็นประเทศในอียูก็ตาม

ส่วน🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์, ลิกเทนสไตน์, 🇮🇸ไอซ์แลนด์, 🇬🇧สหราชอาณาจักร และ 🇳🇴นอร์เวย์ที่ไม่ได้เป็นประเทศสมาชิก EU ต่อให้ถือสัญชาติเบลเยียมแล้วก็ควรพกพาสปอร์ตไปด้วยเสมอค่ะ

การจดทะเบียนรถจักรยานยนต์มือสองง่ายขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ผู้ที่ต้องการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์มือสอง, รถมอเ...
01/08/2025

การจดทะเบียนรถจักรยานยนต์มือสองง่ายขึ้น
ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ผู้ที่ต้องการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์มือสอง, รถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก, รถสามล้อ หรือรถสี่ล้อขนาดเล็กที่เคยจดทะเบียนในเบลเยียมแล้ว จะไม่จำเป็นต้องไปที่ที่ทำการไปรษณีย์อีกต่อไป

ก่อนหน้านี้ (ตั้งแต่ปี 2023) ผู้ซื้อจะต้องไปที่ bpost เพื่อยกเลิกใบจดทะเบียนของเจ้าของเดิม และรับเอกสาร “คำขอจดทะเบียน” ก่อนจะสามารถลงทะเบียนในชื่อตนเองได้

แต่ตั้งแต่ 1 สิงหาคมนี้ ผู้ให้บริการประกันภัยจะสามารถดำเนินการลงทะเบียนแทนได้โดยตรง ขั้นตอนใหม่นี้จะช่วย “ลดภาระด้านเอกสารและประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 12 ยูโร” ตามรายงานของหน่วยงานรัฐ

---

🛵 ขั้นตอนใหม่ในการยกเลิกป้ายทะเบียน

ผู้ที่ต้องการยกเลิกป้ายทะเบียน จะไม่สามารถนำไปส่งที่ bpost โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกต่อไป

ตั้งแต่ 1 สิงหาคม การส่งทางไปรษณีย์จะมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นหากต้องการยกเลิกฟรี จะต้องนำป้ายทะเบียนไปยื่นที่กรุงบรัสเซลส์ด้วยตนเอง

ก่อนหน้านี้ bpost จะรับป้ายและยกเลิกให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ต่อไป การยกเลิกจะดำเนินการโดยหน่วยงานจดทะเบียนยานพาหนะ ( DIV - Dienst voor Inschrijving van Voertuigen / Service public fédéral Mobilité et Transports – Direction de l’Immatriculation des Véhicules) โดยตรง

🛵 ผู้ที่ต้องการยกเลิกป้ายทะเบียนมีทางเลือก 3 วิธี:

1. ฟรี – นำป้ายไปหย่อนที่กล่องรับของ DIV หรือสำนักงานบริการสาธารณะกลางด้านการเคลื่อนย้าย (Federal Public Service Mobility and Transport) ซึ่งตั้งอยู่ที่ Rue du Progrès กรุงบรัสเซลส์ ใกล้สถานี Brussels-North

2. **แบบเสียเงิน** – ใส่ป้ายทะเบียน (เช่น พับใส่ซอง A4) ส่งทางไปรษณีย์ถึง “DIV – 1212 Brussels” ค่าส่งเริ่มต้นที่ €5.15

3. บริการใหม่จาก bpost – สามารถนำป้ายไปส่งที่ bpost โดยไม่ต้องบรรจุซอง ทางไปรษณีย์จะจัดส่งให้ถึง DIV ในวันทำการถัดไป ค่าบริการ €17.99

หมายเหตุ: ป้ายที่ต้องส่งคืนต้องเป็นป้ายทะเบียนจริงของทางราชการ (มีโลโก้ DIV และโดยปกติอยู่ด้านหลังของรถ)

🛵 ย้ำว่าโดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องยกเลิกป้าย หากเปลี่ยนรถใหม่ในหมวดหมู่เดียวกัน สามารถใช้ป้ายเดิมได้ โดยต้องลงทะเบียนภายใน 4 เดือน

---

🇧🇪 การขอสัญชาติเบลเยียมแพงขึ้น 7 เท่า: ค่าธรรมเนียมเพิ่มเป็น 1,000 ยูโรแล้ว

รัฐบาลเบลเยียมได้เพิ่มค่าธรรมเนียมในการยื่นคำร้องขอสัญชาติเบลเยียมจาก 150 ยูโร เป็น 1,000 ยูโร โดยมีผลบังคับใช้แล้วตามกฎหมาย “Programme Law” ซึ่งผ่านรัฐสภาเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม

ดูรายละเอียดได้บนเพจ
(NL) https://justice.belgium.be/fr/themes_et_dossiers/personnes_et_familles/nationalite/devenir_belge/declaration_dacquisition/declaration_de_nationalite

(FR)
https://justice.belgium.be/fr/themes_et_dossiers/personnes_et_familles/nationalite/devenir_belge/declaration_dacquisition/declaration_de_nationalite

🇧🇪 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลี้ภัยและการย้ายถิ่นฐานของรัฐบาลกลาง Anneleen Van Bossuyt (พรรค N-VA) กล่าวว่าการได้รับสัญชาติเบลเยียมเป็น “ก้าวสำคัญของกระบวนการบูรณาการ” และควรมีความรับผิดชอบประกอบควบคู่ไปกับสิทธิประโยชน์ ไม่เว้นแม้แต่ในด้านการเงิน

(ฝั่ง Wollonie แอดไม่ทราบว่ามีคอร์สการเรียนบูรณาการไหม แต่ฝั่ง Flanders บังคับต้องเรียนให้จบหลักสูตร)

🇧🇪 การขึ้นราคานี้ทำให้เบลเยียมกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าธรรมเนียมการขอสัญชาติแพงที่สุดในอียู รองจากออสเตรีย ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ โดยหากคำร้องถูกปฏิเสธ 'จะไม่มีการคืนเงิน'

การชำระค่าธรรมเนียมต้องทำผ่านระบบ MyMinfin (www.belgium.be) ก่อนยื่นคำร้องเว็บไซต์ของกระทรวงการคลังกลาง

💰 อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการย้ายถิ่นฐานและเศรษฐศาสตร์หลายคนวิพากษ์วิจารณ์มาตรการนี้ว่าอาจขัดต่อเป้าหมายของรัฐบาลในการส่งเสริมการจ้างงานและการบูรณาการ เพราะอาจทำให้ผู้อพยพและแรงงานฝีมือรู้สึกว่า “สัญชาติเบลเยียมไม่ใช่สิ่งที่เข้าถึงได้”

นักวิชาการ Thomas Huddleston จากมหาวิทยาลัย Liège กล่าวว่า

💰 “ค่าธรรมเนียมที่สูงเกินจริงนี้ส่งสัญญาณผิดๆ ไปยังผู้ย้ายถิ่น รวมถึงผู้มีรายได้สูงว่า สัญชาติไม่ใช่สิ่งที่เป็นของพวกเขา” และเตือนว่าการกลายเป็นพลเมืองสามารถเพิ่มโอกาสด้านอาชีพ รายได้ และการจ้างงานภาครัฐได้อย่างมีนัยสำคัญ

ในปี 2023 มีผู้ได้รับสัญชาติเบลเยียมเกือบ 55,000 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด โดยรวมถึงผู้ลี้ภัยและผู้พำนักถาวรต่างชาติทั่วไป

ขอบคุณค่ะ 👍🏻🙏🏻
31/07/2025

ขอบคุณค่ะ 👍🏻🙏🏻

แอดจะลงเรื่อยๆ นะคะ ตราบใดที่สถานการณ์ยังไม่สงบจริงๆ สื่อแม้กระทั่งสำนักใหญ่ๆ บางทียังลงภาพมั่ว เช่น ใช้ภาพประเทศไทยที่โ...
29/07/2025

แอดจะลงเรื่อยๆ นะคะ ตราบใดที่สถานการณ์ยังไม่สงบจริงๆ สื่อแม้กระทั่งสำนักใหญ่ๆ บางทียังลงภาพมั่ว เช่น ใช้ภาพประเทศไทยที่โดนระเบิด แต่ลงพาดหัวว่ากัมพูชาโดนไทยทิ้งระเบิด ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งๆ ที่เป็นสถานที่ของเราที่เสียหาย คนของเราที่เสียชีวิต บาดเจ็บ ตั้งแต่วันแรก --- เซฟรูปไปใช้ได้เลยนะคะ Facts checked หมดทุกอย่าง No fake news, only facts.

❌ ข่าวปลอมอย่าหลงเชื่อ ว่า “ทหารไทยทำร้าย และตัดหัวทหารกัมพูชา”✅เรื่องจริงคือ - เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ไทยส่งมอบศพทหารกัม...
29/07/2025

❌ ข่าวปลอมอย่าหลงเชื่อ ว่า “ทหารไทยทำร้าย และตัดหัวทหารกัมพูชา”

✅เรื่องจริงคือ
- เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ไทยส่งมอบศพทหารกัมพูชาจำนวน 12 นาย กลับแผ่นดิน เกิดตามหลักมนุษยธรรม✅ ที่ช่องสะงำ

29 กค. 68
จากเหตุปะทะในพื้นที่ ซำแต
ทหารกัมพูชายอมจำนน ไทยดูแลอย่างดีจัด เสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม รักษาพยาบาล
ตามแบบปฏิบัติในทางทหารของสากล ยึดหลักมนุษยธรรมสากล
พบ เสียชีวิต 2 ราย
เตรียมส่งคืนกัมพูชา

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา

จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่ง ยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วย จึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย ,จ่าสิบโท 2 นาย ,สิบเอก 12 นาย ,สิบโท 2 นาย , สิบตรี 1 นาย และในจำนวนนั้นมีผู้บาดเจ็บ 1 นาย คือ สิบเอก มอม ริดที บาดเจ็บ ถูกกระสุนบริเวณสะโพกข้างขวา และ แขนซ้าย ซึ่งภายหลังฝ่ายไทยได้ส่งเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล

นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่จำนวน 2 นาย

ขณะนี้ ทหารกัมพูชาทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุม ณ พื้นที่ปลอดภัยของกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งได้จัดเตรียมการดูแลขั้นพื้นฐานไว้ให้ ทั้ง เสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม และการรักษาพยาบาล ตามความจำเป็น ดูแลให้เป็นไปตามแบบปฏิบัติในทางทหารของสากล และยึดหลักมนุษยธรรมสากล จากนั้นจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป

ในส่วนของผู้เสียชีวิต ฝ่ายไทยจะดำเนินการส่งคืนร่างของผู้เสียชีวิต ตามหลักปฏิบัติสากลในการปฏิบัติต่อศพในภาวะสงคราม อย่างสมเกียรติต่อไป

กองทัพบกยังคงยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน หลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และพันธกรณีที่ไทยถือปฏิบัติภายใต้อนุสัญญาเจนีวาที่พึงกระทำต่อทหาร และ ศพของฝ่ายตรงข้ามอย่างเคร่งครัด

------
🇬🇧 29 July 2025
18 Cambodian Prisoners of War Detained -;Following clashes in the Sam Tae area, 18 Cambodian soldiers who surrendered are now under the control of the Thai Army.

They are being well cared for with clothing, food, drinking water, and medical treatment, in accordance with international military practices and humanitarian principles.
It was also reported that two Cambodian soldiers were found deceased in the area.

They are being prepared for repatriation to Cambodia.
Major General Winthai Suvaree, spokesman for the Royal Thai Army, revealed that the 2nd Army Area had reported the detention of 18 Cambodian soldiers following clashes in the Sam Tae area of Kantharalak District, Sisaket Province.

This incident occurred after Cambodian forces used heavy and indirect fire weapons to shell Thai territory. The Thai side then deployed a special cavalry unit to retaliate and clear the Cambodian stronghold.
During this operation, a number of Cambodian soldiers surrendered without any threatening gestures or actions towards the Thai forces. The unit proceeded to disarm and detain them according to standard procedures, strictly adhering to international humanitarian principles. The 18 detainees include
1 Second Lieutenant, 2 Sergeant Majors, 12 Sergeants, 2 Corporals, and 1 Private.

Among them, one injured soldier, Sergeant Mom Rithy, sustained bullet wounds to his right hip and left arm, and was subsequently sent for surgery at a hospital by the Thai side.
Additionally, two deceased individuals were found in the area.

Currently, all Cambodian soldiers are under control in a safe zone within the 2nd Army Area, where basic care including clothing, food, drinking water, and necessary medical treatment is being provided.

This care adheres to international military practices and humanitarian principles. Further related procedures will be undertaken.

Regarding the deceased, the Thai side will proceed with the repatriation of their bodies in accordance with international practices for handling casualties in wartime, with full respect.

The Royal Thai Army remains firmly committed to the principles of human rights, international humanitarian law, and the obligations Thailand upholds under the Geneva Conventions concerning the treatment of soldiers and the deceased from opposing forces.

❌ FAKE NEWS: Do not believe claims that "Thai soldiers harmed and beheaded Cambodian soldiers."

✅ THE TRUTH:
On July 27, 2025, Thailand repatriated the bodies of 12 Cambodian soldiers back to their homeland at Chong Sa Ngam, in accordance with humanitarian principles.

-------

🇳🇱 18 Cambodjaanse krijgsgevangenen vastgehouden
Na confrontaties in het Sam Tae-gebied zijn 18 Cambodjaanse soldaten die zich overgaven nu onder controle van het Thaise leger.
Ze worden goed verzorgd met kleding, voedsel, drinkwater en medische behandeling, in overeenstemming met internationale militaire praktijken en humanitaire principes.

Er werd ook gemeld dat twee Cambodjaanse soldaten dood zijn aangetroffen in het gebied.
Ze worden voorbereiding voor repatriëring naar Cambodja.
Generaal-majoor Winthai Suvaree, woordvoerder van het Koninklijke Thaise Leger, heeft bekendgemaakt dat het 2e Legergebied de aanhouding heeft gemeld van 18 Cambodjaanse soldaten naar aanleiding van confrontaties in het Sam Tae-gebied van het district Kantharalak, provincie Sisaket.
Dit incident vond plaats nadat Cambodjaanse troepen zware en indirecte wapens hadden gebruikt om Thais grondgebied te beschieten. De Thaise zijde heeft daarop een speciale cavalerie-eenheid ingezet om te reageren en het Cambodjaanse bolwerk op te ruimen.

Tijdens deze operatie gaf een aantal Cambodjaanse soldaten zich over zonder enige dreigende gebaren of acties richting de Thaise troepen. De eenheid ging over tot ontwapening en aanhouding volgens de standaardprocedures, waarbij de internationale humanitaire principes strikt werden nageleefd.

De 18 gedetineerden omvatten 1 Tweede Luitenant, 2 Sergeant-majoors, 12 Sergeanten, 2 Korporaals en 1 Soldaat. Onder hen was één gewonde soldaat, Sergeant Mom Rithy, die schotwonden opliep aan zijn rechterheup en linkerarm, en vervolgens door de Thaise zijde naar een ziekenhuis is gestuurd voor een operatie.

Bovendien werden twee overleden personen aangetroffen in het gebied.
Momenteel bevinden alle Cambodjaanse soldaten zich onder controle in een veilige zone binnen het 2e Legergebied, waar basiszorg, inclusief kleding, voedsel, drinkwater en noodzakelijke medische behandeling, wordt geboden.

Deze zorg voldoet aan internationale militaire praktijken en humanitaire principes. Verdere gerelateerde procedures zullen worden uitgevoerd.
Wat de overledenen betreft, zal de Thaise zijde overgaan tot repatriëring van hun lichamen in overeenstemming met internationale praktijken voor de behandeling van slachtoffers in oorlogstijd, met volledige eerbied.

Het Koninklijke Thaise Leger blijft zich vastberaden inzetten voor de principes van mensenrechten, internationaal humanitair recht en de verplichtingen die Thailand nakomt onder de Conventies van Genève met betrekking tot de strikte behandeling van soldaten en overledenen van de tegenpartij.

❌ VALS!!!: Geloof niet de beweringen dat "Thaise soldaten Cambodjaanse soldaten hebben mishandeld en onthoofd."
✅ DE WAARHEID IS:
* Op 27 juli 2025 heeft Thailand de lichamen van 12 Cambodjaanse soldaten teruggebracht naar hun thuisland bij Chong Sa Ngam, in overeenstemming met humanitaire principes.

-------

🇫🇷 18 prisonniers de guerre cambodgiens détenus
Suite à des affrontements dans la zone de Sam Tae, 18 soldats cambodgiens qui se sont rendus sont désormais sous le contrôle de l'armée thaïlandaise.

Ils sont bien pris en charge avec des vêtements, de la nourriture, de l'eau potable et des soins médicaux, conformément aux pratiques militaires internationales et aux principes humanitaires.
Il a également été signalé que deux soldats cambodgiens ont été retrouvés décédés dans la zone.
Ils sont en cours de préparation pour leur rapatriement au Cambodge.
Le général de division Winthai Suvaree, porte-parole de l'Armée Royale Thaïlandaise, a révélé que la 2ème Région Militaire avait signalé la détention de 18 soldats cambodgiens suite à des affrontements dans la zone de Sam Tae, district de Kantharalak, province de Sisaket.
Cet incident est survenu après que les forces cambodgiennes eurent utilisé des armes lourdes et des tirs indirects pour bombarder le territoire thaïlandais. La partie thaïlandaise a alors déployé une unité de cavalerie spéciale pour riposter et nettoyer le bastion cambodgien.

Au cours de cette opération, un certain nombre de soldats cambodgiens se sont rendus sans gestes ni actions menaçantes envers les forces thaïlandaises. L'unité a procédé au désarmement et à la détention conformément aux procédures standard, en adhérant strictement aux principes humanitaires internationaux. Les 18 détenus comprennent 1 sous-lieutenant, 2 sergents-majors, 12 sergents, 2 caporaux et 1 soldat de première classe.

Parmi eux, un soldat blessé, le sergent Mom Rithy, a subi des blessures par b***e à la hanche droite et au bras gauche, et a été par la suite envoyé pour une intervention chirurgicale à l'hôpital par la partie thaïlandaise.

De plus, deux individus décédés ont été retrouvés dans la zone.
Actuellement, tous les soldats cambodgiens sont sous contrôle dans une zone sécurisée au sein de la 2ème Région Militaire, où des soins de base, incluant des vêtements, de la nourriture, de l'eau potable et des traitements médicaux nécessaires, leur sont fournis. Ces soins sont conformes aux pratiques militaires internationales et aux principes humanitaires. Des procédures connexes seront entreprises par la suite.

En ce qui concerne les personnes décédées, la partie thaïlandaise procédera au rapatriement de leurs corps conformément aux pratiques internationales pour le traitement des victimes en temps de guerre, avec tout le respect dû.
L'Armée Royale Thaïlandaise reste fermement engagée envers les principes des droits de l'homme, du droit international humanitaire et des obligations que la Thaïlande respecte en vertu des Conventions de Genève concernant le traitement strict des soldats et des défunts des forces opposées.

❌FAKE!!! : Ne croyez pas les allégations selon lesquelles "des soldats thaïlandais auraient agressé et décapité des soldats cambodgiens."
✅ LA VÉRITÉ EST :
* Le 27 juillet 2025, la Thaïlande a rapatrié les corps de 12 soldats cambodgiens vers leur patrie à Chong Sa Ngam, conformément aux principes humanitaires.


#หยุดยิงชายแดน

🇹🇭 กัมพูชาละเมิดหยุดยิง!กองทัพไทยยืนยันพร้อมตอบโต้ หากถูกล้ำอธิปไตยอีกครั้ง!🇬🇧 Cambodia Breaks Ceasefire!Thai Army stand...
29/07/2025

🇹🇭 กัมพูชาละเมิดหยุดยิง!
กองทัพไทยยืนยันพร้อมตอบโต้ หากถูกล้ำอธิปไตยอีกครั้ง!

🇬🇧 Cambodia Breaks Ceasefire!
Thai Army stands ready to respond to any further violation of sovereignty.

🇳🇱 Cambodia verbreekt het staakt-het-vuren! Het Thaise leger staat paraat om te reageren op verdere schending van de soevereiniteit.

🇫🇷 Le Cambodge viole le cessez-le-feu !
L'armée thaïlandaise confirme qu'elle est prête à riposter si sa souveraineté est à nouveau violée !



Adres

Etterbeek

Website

Meldingen

Wees de eerste die het weet en laat ons u een e-mail sturen wanneer เบลเยียมวันนี้มีอะไร nieuws en promoties plaatst. Uw e-mailadres wordt niet voor andere doeleinden gebruikt en u kunt zich op elk gewenst moment afmelden.

Delen