03/10/2025
รวบชัชพันท้าย เครือข่ายนักค้ายาบ้ารายใหญ่
เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 03 ตุลาคม 2568 ที่ลานลานเอนกประสงค์ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รรท.ผวจ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร,พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาค,นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร,ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นอภ.เมืองสมุทรสาคร,พ.ต.ท.ไชยภูมิ ฉลองภูมิ รอง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร และชุดปราบปรามยาเสพติด กองกับการสืบสวน ภ.จว.สมุทรสาคร ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายชัชวาล หรือชัช ศรีหามล อายุ 39 ปี เป็นคนในพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 4,000 เม็ด,เคตามีนน้ำหนักประมาณ 13.7 กรัม,อาวุธปืนปากกา จำนวน 1 กระบอก,อาวุธปืนยาวอัดลมจำนวน 1 กระบอก,โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า 2 สีเทาหมายเลขทะเบียน 8 กท 1034 กรุงเทพมหานคร โดยถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่1(ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต,จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับนายชัชวาล หรือชัช ศรีหามล อายุ 39 ปี เคยต้องโทษจำคุกมาแล้วเมื่อปี 2562 ในคดีค้ายาเสพติด และเพิ่งจะพ้นโทษมาได้ไม่นานนี้ จากนั้นก็มาประกอบอาชีพรับจ้างเป็นไรเดอร์ ก่อนที่จะหันเหกลับมาค้ายาเสพติดจนกระทั่งมาถูกตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ตามรวบจับกุมตัวไว้ได้ โดยพฤติการณ์ก่อนการจับกุมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่ามีผู้ค้ายาเสพติดจะมาส่งมอบของกันที่บริเวณริมถนนหน้าร้านสะดวกซื้อ ตรงข้ามโรงเรียนวัดช่องลม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร จึงได้วางแผนจับกุม กระทั่งเมื่อรถยนต์เก๋งผู้ต้องสงสัยตามที่ได้รับรายงานมาถึงจุดดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตนทำการตรวจค้นพบมียาเสพติดและอาวุธปืนอยู่ในรถ จากนั้นก็ควบคุมตัวมาสอบสวนพบว่ามีประวัติเคยถูกจับกุมเมื่อราวๆ ปีพ.ศ.2562 ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ในพื้นที่สภ.โคกขาม และพ้นโทษมาเมื่อปี พ.ศ. 2567
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยด้วยว่า การจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญรายนี้ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร กับ ฝ่ายปกครองของจังหวัดสมุทรสาคร และปกครองอำเภอเมืองสมุทรสาคร โดยเมื่อทางฝ่ายปกครองได้รับแจ้งเบาแสจากพลเมืองดี ก็ประสานข้อมูลให้ตำรวจทำการตรวจสอบและวางแผนรวบตัวผู้กระทำผิด ซึ่งยาเสพติดที่พบทั้งหมดนี้ ทางผู้ต้องหาไปรับมาจากเครือข่ายตัวการใหญ่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการขยายผลจับกุม โดยนำมาขายต่ออีกทอดหนึ่ง ส่วนลักษณะของยาบ้าและสีที่เห็น เบื้องต้นคาดว่า น่าจะเป็นยาบ้าที่ทะลักมาจากชายแดนเพื่อนบ้านทางทิศตะวันตก ซึ่งทั้งหมดนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งขยายผลให้ครอบคลุมเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ เพื่อนำตัวมาดำเนินการทางกฎหมายทั้งหมด ส่วนผู้ต้องหารายนี้ถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองสมุทรสาครดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ยาบ้าและยาเคตามีนเป็นของตนจริง มีไว้จำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไป โดยยาบ้ารับมามัดละ (2,000เม็ด) ราคา 15,000 บาท แล้วนำไปจำหน่ายราคา 16,000 บาท ส่วนยาเคตามีนรับมาขีดละ16,000 บาท แล้วนำไปจำหน่ายในราคา 17,000บาท เพื่อเอากำไรอีกทอดหนึ่ง