Motoring X

Motoring X เพจรถยนต์- รถจักรยานยนต์ -อุปกรณ์ยานยนต์

29/11/2025

เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำ“The new CLA” รถยนต์ไฟฟ้า 100% มาให้ชมก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2569 คันนี้ มาพร้อมแบตเตอรี่ 800V ขนาด 85 kWh วิ่งไกลต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

29/11/2025

ฟอร์ดเขย่าวงการแต่งรถ สั่งแรปจากโรงงานได้เลย "โคตรว้าว"

29/11/2025

GEELY EX2 ถูกเปิดตัวพร้อมประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว มี 2 รุ่นย่อย ราคา 399,990 - 429,990 บาท (ราคาพิเศษเฉพาะ 2,000 คันแรก จากนั้นปรับขึ้นรุ่นละ 30,000 บาท)

29/11/2025

ฮุนไดเทหมดหน้าตัก IONIQ 5 ลดแบบ ไม่เกรงใจใคร สูงสุด 600,000 กว่าบาท เฉพาะในงาน Motor Expo 2025 — มาก่อนได้ก่อน ของมีจำนวนจำกัด ดีลเดือดชนค่ายจีนแบบตัวต่อตัว

ราคาน่าโดน "GWM POER SAHAR Diesel" กระบะขุมพลังดีเซล 2.4 ลิตร มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เคาะราคาพิเศษเริ่มต้น 799,000 บาท เฉ...
29/11/2025

ราคาน่าโดน "GWM POER SAHAR Diesel" กระบะขุมพลังดีเซล 2.4 ลิตร มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เคาะราคาพิเศษเริ่มต้น 799,000 บาท เฉพาะ 300 คันแรก จากราคาปกติเริ่มต้น 849,000 บาท
GWM (Thailand) ประกาศราคาจำหน่ายทางการ GWM POER SAHAR Diesel ขุมพลังดีเซล 2.4 ลิตร โดยมีราคาพิเศษช่วงเปิดตัว กับส่วนลด 50,000 บาท สำหรับ 300 คันแรก ดังนี้ รุ่น 2WD PRO ราคา 799,000 บาท (ปกติ 849,000 บาท) รุ่น 2WD ULTRA ราคา 899,000 บาท (ปกติ 949,000 บาท) และรุ่น 4WD ULTRA ราคา 999,000 บาท (ปกติ 1,049,000 บาท)
GWM POER SAHAR Diesel ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลเทอร์โบ VGT ขนาดความจุ 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 - 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ สามารถเลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้า (เฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ)
อัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 14 กิโลเมตรต่อลิตร (ในรุ่น 2WD) และ 13.5 กิโลเมตรต่อลิตร (ในรุ่น 4WD) ตามมาตรฐาน NEDC
https://mgronline.com/motoring/detail/9680000114599

โตโยต้าชี้ 3 ข้อคาดหวังถึงรัฐบาล เร่งพยุงตลาดรถ–คุ้มครองฐานการผลิต–ปลดล็อกส่งออก พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์เข้าใจลูกค้า รักษาบ...
29/11/2025

โตโยต้าชี้ 3 ข้อคาดหวังถึงรัฐบาล เร่งพยุงตลาดรถ–คุ้มครองฐานการผลิต–ปลดล็อกส่งออก พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์เข้าใจลูกค้า รักษาบัลลังก์เบอร์หนึ่ง
โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับคณะผู้บริหารระดับสูง ให้สัมภาษณ์ในงาน ถึงภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจโลกและการแข่งขันที่รุนแรง
ปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ไทยอยู่ที่ 573,000 คัน ลดลงถึง 26% ซึ่งถือเป็นปีที่ยากลำบากอย่างยิ่ง ขณะที่ปีปัจจุบัน (มกราคม–ตุลาคม) ยอดขายกลับมาฟื้นเล็กน้อย เติบโต 4% และคาดว่าปีนี้จะปิดตัวด้วยยอดประมาณ 600,000 คัน
เมื่อถามถึงแนวโน้มปีหน้า ผู้บริหารโตโยต้าประเมินว่า “ตลาดน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้” พร้อมตั้งเป้าตลาดรวมไว้ที่ไม่น้อยกว่า 630,000 คัน แม้ยังมีความท้าทายหลายด้านทั้งภายในและภายนอกประเทศ
สำหรับตลาดรถกระบะที่ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของอุตสาหกรรม นายยามาชิตะระบุว่า ปิกอัพยังเป็นเซกเมนต์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงสุดในปีหน้า แม้ปีนี้ตลาดรวมจะหดตัว 14% แต่ผลงานโตโยต้ากลับสวนทางด้วยยอดขาย 163,000 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 60% จากช่วงเดียวกันก่อนหน้า
ทั้งนี้ โตโยต้า ไฮลักซ์ ถูกยกให้เป็น “ผลิตภัณฑ์แชมป์เปี้ยน” เพราะผลิตในไทยด้วยชิ้นส่วนภายในประเทศเป็นสัดส่วนสูง กระจายรายได้ในประเทศจำนวนมาก และมีบทบาทสำคัญต่อห่วงโซ่ซัพพลายเออร์ไทย ขณะที่ Hilux Champ รุ่นใหม่ จะเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ช่วยกระตุ้นยอดของโตโยต้าในปีหน้า
ในประเด็นการผลิต ยามาชิตะย้ำว่า โตโยต้ายังคงยึดนโยบายหลักคือ การผลิตในประเทศ ใช้วัตถุดิบและชิ้นส่วนในประเทศให้มากที่สุดเพื่อคงความแข็งแรงของซัพพลายเชนไทย แต่ยอมรับว่ากำลังเผชิญความท้าทายจากกฎเกณฑ์ภาษีที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะมาตรการใหม่ด้านพลังงานและเทคโนโลยี
“ไม่ว่าเงื่อนไขจะยากแค่ไหน เราจะยังคงพยายามรักษาฐานการผลิตในประเทศไทยให้ได้” ผู้บริหารโตโยต้ากล่าว พร้อมย้ำว่าการผลิตรถยนต์ในไทยเป็นแกนหลักที่ทำให้ซัพพลายเออร์กว่าแสนรายยังคงเดินหน้าต่อได้ แม้ยอดขายในประเทศจะลดลงจากยุคก่อนโควิดมากถึง 400,000 คัน
ช่วงสำคัญของการให้สัมภาษณ์ ยามาชิตะได้กล่าวถึง “ข้อคาดหวังต่อรัฐบาลไทย” เพื่อพยุงและสร้างเสถียรภาพให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 10% ของ GDP และการจ้างงานมากกว่า 900,000 คน

1. ขอให้รัฐสนับสนุนตลาดรถยนต์ทุกเซกเมนต์
โตโยต้ามองว่ารัฐบาลควรมีมาตรการกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม เพราะกำลังซื้อผู้บริโภคยังไม่กลับมาเต็มที่ หากมีมาตรการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม จะเป็นแรงหนุนสำคัญต่ออุตสาหกรรมโดยรวม

2. คุ้มครองฐานการผลิตในประเทศและซัพพลายเชนไทย
โตโยต้าเรียกร้องให้รัฐพิจารณามาตรการภาษีที่เป็นธรรมต่อผู้ผลิตในประเทศ และให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ใช้ชิ้นส่วน–วัตถุดิบในประเทศมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงของซัพพลายเออร์ที่เริ่มได้รับผลกระทบจากยอดขายภายในประเทศที่หดตัว

3. ส่งเสริมการส่งออก และเร่งแก้ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา
ผู้บริหารโตโยต้าระบุว่า ความขัดแย้งบริเวณชายแดนส่งผลโดยตรงต่อซัพพลายเออร์ ที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางขนส่งจากทางบกไปทางเรือ ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นและการผลิตล่าช้า บริษัทจึงหวังว่ารัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาให้การขนส่งกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว
โตโยต้าเปิดเผยว่าการรักษาความเป็นผู้นำตลาดท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ต้องอาศัยสองแกนหลักคือ
หนึ่ง – ความเข้าใจลูกค้าจริง ผ่านการลงพื้นที่สำรวจการใช้งาน เพื่อพัฒนารถยนต์ที่ตอบโจทย์ที่สุด
สอง – ความเชื่อมั่นในเครือข่ายบริการ ด้วยศูนย์บริการกว่า 450 แห่ง และดีลเลอร์ 150 แห่ง ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญที่คู่แข่งยังเข้ามาแทนได้ยาก
https://mgronline.com/motoring/detail/9680000114525
#โตโยต้า #ตลาดรถ

All-new Nissan X-Trail e-POWER ใหม่ เปิดราคาทางการ 1,699,000 บาทNissan X-Trail e-POWER ใหม่ ถูกยกระดับความพรีเมียม ด้วยร...
29/11/2025

All-new Nissan X-Trail e-POWER ใหม่ เปิดราคาทางการ 1,699,000 บาท
Nissan X-Trail e-POWER ใหม่ ถูกยกระดับความพรีเมียม ด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างาม สไตล์สปอร์ต สะท้อนความทรงพลัง โดดเด่นด้วยกระจังหน้า Double V-Motion สื่อถึงพลังและความมั่นใจในการขับขี่ ลวดลายกระจังหน้าแบบ 3D การตกแต่งใต้ตัวถังด้วยโครเมียเพิ่มความหรูมีระดับ ไฟหน้า LED ทรงเพรียวบาง และไฟท้ายทรงบูมเมอแรงเอกลักษณ์ของนิสสัน
ภายในห้องโดยสารออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มีจุดเด่นที่คอนโซลกลางแบบลอยตัวพร้อมช่องวางของด้านล่าง เกียร์ระบบไฟฟ้าดีไซน์ล้ำสมัย ปุ่ม E-Pedal ปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ ทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ติดตั้งหน้าจอ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อม Advanced Drive-Assist® Display และจอ Head-Up Display ขนาด 10.8 นิ้ว แสดงผลบนกระจกด้านหน้าในระดับสายตา
เบาะนั่งบุดัวยวัสดุหนังคุณภาพสูง เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง เบาะแถวที่สองพับแยก 40:20:40 และเบาะแถวสามรองรับได้ 2 ที่นั่ง ประตูหลังเปิดกว้างสูงสุด 85 องศา เพิ่มความสะดวกในการเข้าออกรถ เพิ่มเติมด้วยม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารแถวสองเพื่อความสบายและเป็นส่วนตัว และระบบปรับอากาศแยก 3 โซน
Nissan X-Trail e-POWER ใหม่ ถูกติดตั้งระบบ NissanConnect พร้อมระบบนำทางในตัว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Wireless Android Auto พร้อมระบบเครื่องเสียง Premium Bose® ลำโพง 9 จุด
อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ประตูท้ายเปิด-ปิดแบบแฮนด์ฟรี กระจกมองหลังตัดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ไฟตกแต่งห้องโดยสาร Ambient Light เป็นต้น
X-Trail e-POWER ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบเทอร์โบชาร์จ ความจุ 1.5 ลิตร รหัส KR15DDT พร้อมเทคโนโลยี Variable Compression Ratio (VC) กำลังสูงสุด 144 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ด้านหน้า (BM 46) แรงบิดสูงสุด 330 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์หลัง (MM 48) แรงบิดสูงสุด 195 นิวตัน-เมตร
นอกจากนี้ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ถึง 5 โหมด ได้แก่ Eco, Standard, Sport, Snow และ Off-Road รวมทั้งมีระบบ Downhill Assist Control ช่วยให้การลงทางลาดชันทำได้ง่าย มั่นคงและปลอดภัย
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ e-4ORCE ทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าและหลังแยกอิสระ สามารถปรับแรงขับเคลื่อนตั้งแต่ 100:0 ถึง 0:100 และเมื่อผสานกับระบบควบคุมเบรกล้อซ้ายและขวาสามารถปรับแรงได้ด้วยความเร็วและความแม่นยำสูงช่วยลดการโคลงตัวของรถในขณะเบรกหรือลงทางลาดชัน มอบความสะดวกแก่ผู้ขับ และความสบายแก่ผู้โดยสาร
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระ (Independent Front Suspension) และระบบกันสะเทือนหลังอิสระแบบมัลติลิงก์ (Independent Multi-Link Rear Suspension) ติดตั้งดิสก์เบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ระบบพวงมาลัยแบบ Rack and Pinion พร้อมพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) และคอพวงมาลัยปรับได้
All-new Nissan X-Trail e-POWER มาพร้อมการรับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กม. รับประกันระบบอี-พาวเวอร์ 5 ปี หรือ 150,000 กม. และรับประกันแบตเตอรี่ระบบอี-พาวเวอร์ 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
https://mgronline.com/motoring/detail/9680000114148
-Traile-POWER -Trail #นิสสัน

29/11/2025

ผู้เชี่ยวชาญเตือน “สตาร์ทรถทันที = เครื่องพังซ่อมไม่คุ้ม” แนะเจ้าของรถทำตามขั้นตอนความปลอดภัย ตั้งแต่ถอดขั้วแบต–ถ่ายรูปหลักฐาน–เรียกรถยก–ส่งศูนย์ พร้อมชี้จุดสำคัญที่ต้องตรวจทั้งรถน้ำมัน–ไฮบริด–EV หลังน้ำท่วมใหญ่ .....คลิกชม

https://www.facebook.com/reel/1207016557944883

อีซูซุ ปรับแผนสู้ตลาดปิกอัพซบ ชู กลยุทธ์ ‘Trusted Buddy’ ชี้ปิกอัพ EV รอความพร้อม ภายในบูธอีซูซุในงาน Thailand Internati...
29/11/2025

อีซูซุ ปรับแผนสู้ตลาดปิกอัพซบ ชู กลยุทธ์ ‘Trusted Buddy’ ชี้ปิกอัพ EV รอความพร้อม
ภายในบูธอีซูซุในงาน Thailand International Motor Expo 2025 ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด นำโดย ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย มิชิมาสะ โคโนะ รองกรรมการผู้จัดการ, ปนัดดา เจณณวาสิน ประธานที่ปรึกษา และ วิชัย สินอนันต์พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ร่วมให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางตลาดและแผนธุรกิจของอีซูซุในปีหน้า ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดรถยนต์ที่ยังซบเซาต่อเนื่อง
Q. ประเมินตัวเลขทั้งปี คาดการณ์ไว้ที่เท่าไร โดยที่ไม่รวมเรื่องผลกระทบจากน้ำท่วม
A. สำหรับตัวเลขคาดการณ์ตลาดรถยนต์รวมปีนี้ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 595,000 คัน โดยเป็นรถปิกอัพประมาณ 145,000 คัน และรถ PPV 36,000 คัน
Q. ตัวเลข 10 เดือนที่ผ่านมาของอีซูซุ เป็นอย่างไร
A.ยอดขายอีซูซุ ใน 10 เดือนแรก รวม 58,781 คัน แบ่งเป็น รถปิกอัพดีแมคซ์ 41,301 คัน รถอเนกประสงค์ MU-X 9,205 คัน และรถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ 8,275 คัน
Q.การที่ตลาดรถซบเซาต่อเนื่องมานาน อีซูซุมีการปรับแผนการผลิตอย่างไร รวมถึงผลกระทบกับ Supplier หรือไม่
A.สำหรับเรา ตลาดในประเทศเล็กลงจริงอยู่ ทำให้เราต้องมีการคุยกับโรงงานเพื่อปรับแผนการผลิตให้ลดลง แต่ในขณะเดียวกันรถปิกอัพไม่ได้ขายเฉพาะในประเทศไทย ยังผลิตส่งออกตลาดโลกด้วย และความต้องการปิกอัพในตลาดโลกไม่ได้ลดลง ดังนั้นโดยรวม Supplier จึงไม่ได้รับผลกระทบ เพราะการส่งออกโดยรวมยังดีอยู่
Q.แนวโน้มเศรษฐกิจปีหน้าที่อาจจะแย่ลง อีซูซุมีมาตรการหรือแผนรับมือและปรับกลยุทธ์อย่างไรบ้าง
A.เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม เราได้เปิดตัวและจำหน่ายรถอีซูซุรุ่นใหม่ทั้ง D-Max และ MU-X โดยเราหวังว่าจะสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นได้จากรถรุ่นใหม่นี้ อีกทั้งยังคงเน้นกลยุทธ์ Isuzu Trusted Buddy… อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย เป็นกลยุทธ์หลักที่เรายึดมั่นในการดำเนินการเสมอ เราอยากให้ลูกค้ารู้ว่า เราพร้อมจะอยู่เคียงข้างลูกค้าเสมอทั้งยามสุขและยามทุกข์ ถ้าลูกค้าตระหนักรู้ในสิ่้งนี้ เราก็เชื่อว่าลูกค้าจะเลือกเรา เราจะยังคงใช้ Trusted Buddy เป็นหลักในการดำเนินงานของเราในปีหน้า
Q.เดิมมีแผนเปิดตัวทั้ง EV และไฮบริดในไทย ตอนนี้ถึงเวลาเปิดตัวหรือยัง และประเมินตลาด EV อย่างไร
A.เรายังไม่ได้กำหนด Time Frame แน่นอน เพราะเรายังคงยึดหลัก “โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Multi-pathways to Carbon Neutrality) มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราต้องประเมินและหาทางออกที่ดีที่สุด
Q.การส่งออกรถปิกอัพไฟฟ้าของอีซูซุไปยุโรป มีผลอย่างไรบ้าง และแผนการจำหน่ายรถปิกอัพไฟฟ้าในไทยเป็นอย่างไร?
A.การส่งออกรถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ไปยุโรปดำเนินไปตามแผนการทุกอย่าง ส่วนตลาดเมืองไทย เราต้องดูความพร้อมของสภาพแวดล้อมและความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ตอนนี้ยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่นอน ต้องประเมินสถานการณ์ต่อไปถึงจะตัดสินใจได้
Q.เรื่องพลังงานทางเลือกของรถอีซูซุ มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง?
A.อีซูซุยังยึดหลัก “โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Multi-pathways to Carbon Neutrality) ทั้ง
รถปิกอัพไฟฟ้า (BEV): มีการผลิตและส่งออกไปยุโรปแล้ว สำหรับเมืองไทยต้องดูสถานการณ์ตลาดและความต้องการของลูกค้าต่อไป

น้ำมันเชื้อเพลิง CN Fuel : เรากำลังทดสอบ CN Fuel ที่ช่วยลดคาร์บอน หรือพวก HVO กับ B20 ร่วมกับลูกค้ารายใหญ่อยู่ ซึ่งผ่านไปเกือบหมื่นกิโลเมตรแล้วก็ยังไปได้ดี

น้ำมัน New Gen ไบโอดีเซล: ในอนาตตน่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าบางประเภทที่ไม่พร้อมไป EV หรือ ไฮโดรเจน
พลังงานอื่นๆ หรือ Hybrid (HEV): เราก็ไม่ได้ตัดทิ้ง ยังคงศึกษาอยู่ว่าเหมาะสมกับความต้องการประเทศใด หรือตลาดไหนบ้าง
Q.ประเมินตลาดปีหน้าจะอยู่ที่เท่าไหร่
A.ตอนนี้เรายังมองเห็นความยากลำบากที่ปรากฏอยู่ข้างหน้า คาดว่าจะเท่ากับปีนี้
Q.โอกาสที่ตลาดรถยนต์ รวมถึงปิกอัพจะเติบโตในปีหน้าเป็นอย่างไร
A.เรามองว่ามาตรการ “Quick Big Win” ของรัฐบาล ถ้าสามารถทำได้ตามที่ประกาศไว้ จะมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย อีกทั้งขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพพอ จะทำให้ประชาชนมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ปัจจัยบวกอีกอย่างคือเรื่องเศรษฐกิจโลกถ้าผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้ส่งสินค้าออกได้มากขึ้น และราคาพืชผลการเกษตรดีขึ้น เรามองเห็นความยากลำบากที่ปรากฏอยู่ข้างหน้า เราคาดว่าจะเท่ากับปีนี้
Q.ขอถามความคืบหน้ามาตรการที่กระทรวงการคลังจะให้ บสย. ช่วยค้ำประกันสินเชื่อรถปิกอัพ มีความคืบหน้าอย่างไร และอยากให้ปรับเงื่อนไขอะไรหรือไม่?
A.โครงการนี้ถือเป็นโครงการที่ดีมากในการช่วยลูกค้า รัฐบาลต้องการส่งเสริมให้ผู้คนสามารถใช้รถได้ง่ายขึ้น เท่าที่ทราบอาจมีปัญหาปลีกย่อยหลายอย่างเกิดขึ้น ถ้าแก้ปัญหาเหล่านั้นได้จะเป็นโครงการที่ดีมาก รัฐบาลเองก็มีข้อจำกัดหลายด้าน อยากให้ปรึกษาหารือและหาทางออกที่ดีร่วมกัน อีกทั้งอยากให้รัฐบาลพิจารณาเงื่อนไขเพื่อให้เข้าร่วมโครงการได้ง่ายขึ้น และขยายระยะเวลาโครงการนี้ออกไปอีก เพราะกำลังจะหมดเขตสิ้นปีนี้
Q.มาตรการที่รัฐบาลต่ออายุ EV3.0 และ 3.5 เรามองว่าเราช้าหรือเสียโอกาสไปหรือไม่ที่ไม่ได้เข้าร่วม
A.เรายังมั่นใจในรถปิกอัพของเราว่า เครื่องยนต์ดีเซล ยังสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ สิ่งที่เรานำเสนอลูกค้าก็คือ รถปิกอัพเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ซึ่งให้ทั้งพลังแรงจัดและประหยัดน้ำมัน ให้ลูกค้าเลือกซึ่งเหมาะกับลูกค้าคนไทยในขณะนี้ ตลาดรถยนต์เมืองไทยยังไม่เหมาะกับรถปิกอัพ EV แต่รถ EV อาจจะเหมาะกับรถประเภทอื่น เรายังเชื่อมั่นว่าลูกค้าจะให้ความสนใจรถปิกอัพของเราอยู่
https://mgronline.com/motoring/detail/9680000114426
#อีซูซุ #กระบะ #ปิกอัพ

GWM เปิดตัวเอ็มพีวี WEY G9 รุ่น Hi4 Ultra พร้อมขุมพลัง Plug-in Hybrid กำลังสูงสุด 442 แรงม้า ขับขี่ไฟฟ้าล้วนไกลสุด 170 ก...
28/11/2025

GWM เปิดตัวเอ็มพีวี WEY G9 รุ่น Hi4 Ultra พร้อมขุมพลัง Plug-in Hybrid กำลังสูงสุด 442 แรงม้า ขับขี่ไฟฟ้าล้วนไกลสุด 170 กม. (NEDC) จับกลุ่มลูกค้าผู้บริหารระดับสูง นักธุรกิจ และครอบครัวระดับไฮเอนด์ เคาะราคาทางการ 2,349,000 บาท
WEY G9 รถเอ็มพีวีระดับหรูรุ่นแรกจากแบรนด์ GWM WEY ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด The Crafted Masterpiece เสมือนประติมากรรมชิ้นเอก เน้นจับกลุ่มลูกค้าผู้บริหารระดับสูง นักธุรกิจ ข้าราชการระดับสูง และครอบครัวระดับไฮเอนด์ โดยการเปิดตัวมีขึ้นที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2568
WEY G9 ติดตั้งขุมพลัง Plug-in Hybrid ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวมสูงสุด 442 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 642 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบส่งกำลังอัจฉริยะ DHT รองรับการขับขี่ไฟฟ้าล้วนไกลสูงสุด 170 กม. (NEDC) เมื่อรวมกับถังน้ำมัน 58 ลิตร จะมอบระยะทางขับขี่รวมกว่า 1,000 กม.
https://mgronline.com/motoring/detail/9680000114251

ราคาทางการ All-new Lexus LX 500d เอสยูวีระดับ Ultra Luxury เริ่มต้น 15,000,000 บาท - รุ่น LX 500d Premium ราคาจำหน่าย 15...
28/11/2025

ราคาทางการ All-new Lexus LX 500d เอสยูวีระดับ Ultra Luxury เริ่มต้น 15,000,000 บาท
- รุ่น LX 500d Premium ราคาจำหน่าย 15,000,000 บาท
- รุ่น LX 500d F SPORT ราคาจำหน่าย 15,500,000 บาท
Lexus LX เป็นรถเอสยูวีแบบ Body-on-Frame พัฒนาบนแพล็ตฟอร์ม GA-F เน้นออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง โครงสร้างตัวถังแข็งแรงยิ่งขึ้น แต่น้ำหนักเบาลงถึง 200 กก. พร้อมระบบช่วงล่างอัจฉริยะ Active Height Control และ Adaptive Variable Suspension (AVS) ที่ช่วยยกระดับความนุ่มนวลแต่ยังคงสมรรถนะเฉพาะตัวของรถออฟโรดระดับตำนาน
LX 500d ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 6 สูบ รหัส F33A-FTV ความจุ 3.3 ลิตร กำลังสูงสุด 304 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 2,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ All-wheel Drive (AWD)
https://mgronline.com/motoring/detail/9680000114113
500d #เลกซัส

Address

102/1 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
กรุงเทพฯ
10200

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Motoring X posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Share