stock2morrow

stock2morrow สื่อและสังคมของนักลงทุน
(298)

14/07/2025

EV พัฒนาไปอีกขั้น !

Air Grand Touring ของ Lucid Motors ทำสถิติโลก เป็น EV ที่ 'ชาร์จเพียงครั้งเดียว' สามารถวิ่งได้ไกลที่สุดในโลกด้วยระยะทางกว่า 1,205 กิโลเมตร
(รับรองโดย Guinness World Record)

SPA : หุ้นที่ยังต้องพึ่งการท่องเที่ยวจากจุดแข็งกลายเป็นจุดเสี่ยง ?บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA คือหนึ่ง...
14/07/2025

SPA : หุ้นที่ยังต้องพึ่งการท่องเที่ยวจากจุดแข็งกลายเป็นจุดเสี่ยง ?
บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA คือหนึ่งในผู้นำธุรกิจสปาและนวดเพื่อสุขภาพที่นักลงทุนรู้จักกันดี ทว่าท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ
คำถามสำคัญคือ SPA ยังคงพึ่งพิงการท่องเที่ยวเป็นหลักในการเติบโตหรือไม่ ?
และปัจจัยที่เคยเป็น "จุดแข็ง" อย่างการพึ่งพิงนักท่องเที่ยว กำลังกลายเป็น "จุดเสี่ยง" สำคัญของบริษัทได้อย่างไร?
วันนี้ Stock2morrow จะเล่าให้ฟัง
ผลประกอบการ 1Q68 : กำไรทรุด ต้นทุนพุ่ง ยังพึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติหนัก
ผลประกอบการ 1Q68 ของ SPA แสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่ยังคงอยู่ กำไรปกติทำได้เพียง 51 ล้านบาท ลดลงถึง 44% QoQ และ 31% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดถึง 26-29% สาเหตุหลักมาจาก
1. รายได้ถูกกดดันหนัก: แม้เปิดสาขาเพิ่ม แต่ยอดขายจากบริการสปาอยู่ที่ 356 ล้านบาท ไม่เติบโต YoY และ SSSG (Same-Store Sales Growth) เฉลี่ยลดลงถึง 13% YoY ซึ่งแย่กว่าคาดมาก
2. นักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัว: กลุ่มลูกค้าหลัก โดยเฉพาะชาวจีน (45% ของรายได้) ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ คือปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งรายได้
3. ต้นทุนและค่าใช้จ่ายพุ่ง: อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลดลงเหลือ 28.9% จากการเพิ่มสาขาใหม่และต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A ก็เพิ่มขึ้นสวนทางกับรายได้ ทำให้สัดส่วน SG&A/Sales พุ่งจาก 9.2% เป็น 12.4%
ผลลัพธ์คือ กำไรถูกกดดันอย่างหนัก สะท้อนให้เห็นว่าการพึ่งพิงนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และการขยายสาขาที่มาพร้อมต้นทุนที่สูงขึ้น ยังคงเป็นภาระสำคัญต่อความสามารถในการทำกำไรของ SPA
มองการท่องเที่ยวไทย จากจุดแข็งกลายเป็นจุดเสี่ยงของบริษัท
โครงสร้างรายได้ของ SPA ชี้ชัดว่า 70-75% มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีชาวจีนเป็นกลุ่มใหญ่สุด (40% ของลูกค้าทั้งหมด) นี่คือปัจจัยที่เคยส่งให้ SPA เติบโตอย่างรวดเร็วในอดีต แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นความเปราะบางที่สำคัญ เมื่อ
- นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความผันผวน: ปัญหาเศรษฐกิจโลก หรือวิกฤตการณ์ต่างๆ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเดินทาง ทำให้รายได้ของ SPA ไม่มั่นคง
- การแข่งขันสูงขึ้น: ตลาดนวดและสปามีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมาก ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ SPA ต้องใช้งบประมาณการตลาดและลดราคาเพื่อดึงลูกค้า ซึ่งกระทบต่ออัตรากำไรโดยตรง
โอกาสและความเสี่ยง อยู่ตรงไหน ?
1. ระยะสั้น (ปี 2568): ยังคงท้าทาย
ฝ่ายบริหารยังคงมุมมองระมัดระวัง คาดการณ์การเติบโตค่อนข้างทรงตัว และอาจมีการปรับลดประมาณการกำไรลงอีก การฟื้นตัวยังคงขึ้นอยู่กับการกลับมาของนักท่องเที่ยวและการควบคุมค่าใช้จ่าย
2. ระยะยาว (7-10 ปี): การปรับตัวคือหัวใจ
แม้มี guidance เชิงอนุรักษ์นิยม แต่การเติบโตยังคงอิงกับการท่องเที่ยว หาก SPA ยังคงพึ่งพิงตลาดต่างชาติเป็นหลัก ก็จะเผชิญความผันผวนสูง การขยายฐานลูกค้าในประเทศ หรือพัฒนาบริการใหม่ๆ จึงเป็นกุญแจสำคัญเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและลดความเสี่ยง
อ่านมาถึงตรงนี้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าบทวิเคราะห์หลายแห่งต่างปรับเป้าหุ้น SPA ลงค่อนข้างมาก
แม้แบรนด์แข็งแกร่ง แต่โมเดลธุรกิจที่พึ่งพิงการท่องเที่ยวและเผชิญการแข่งขันสูง ยังคงเป็นความเสี่ยงหลักต่อความสามารถในการทำกำไร
SPA เป็นธุรกิจที่มีสินทรัพย์เบา (Asset-light) ซึ่งเป็นข้อดี แต่การเติบโตในอนาคตต้องหาจุดสมดุลใหม่ที่ไม่ได้พึ่งพิงการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว หากขยายฐานลูกค้าในประเทศและพัฒนาบริการที่หลากหลายได้ ก็จะเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน นักลงทุนยังคงต้องจับตาดูสถานการณ์การท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด เพราะนี่คือปัจจัยสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนผลประกอบการของ SPA
หมายเหตุ บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาเชียร์ซื้อหรือขายหุ้นแต่อย่างใด
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน

#สื่อสถาบันความรู้และสังคมของนักลงทุน #ประเทศไทย #เศรษฐกิจ #การลงทุน #การเงิน

14/07/2025

ดร.นิเวศน์ มอง 'ตลาดหุ้นไทย' เผชิญหน้ากับ Lost Decade แล้ว และยังไม่มีวี่แววฟื้นตัวในระยะสั้นแบบจีนหรือญี่ปุ่น

14/07/2025

CEO ของ intel ยอมรับ !

ตอนนี้บริษัทไม่ได้อยู่ใน Top10 ของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ และ "สายเกินไปแล้ว" ที่จะตาม Nvidia ผู้นำด้านชิป AI ให้ทัน

14/07/2025

สวนดุสิตโพลเผย !
65.41% ของคนไทยอยากให้ ครม. เร่งแก้ปัญหา "ค่าครองชีพ" ชี้ยังไม่มั่นใจฝีมือชุดใหม่และ 50% เชื่อว่าการเจรจาภาษีทรัมป์จะล้มไม่เป็นท่า

14/07/2025

KBank มองกรอบเงินบาท
32.20 - 32.80 บาทต่อดอลลาร์
สัปดาห์นี้เน้นจับตาการเจรจากับทรัมป์และราคาทองคำ รวมถึง Fund Flow

13/07/2025

ในช่วงเวลาแบบนี้ ที่ตลาดการเงินผันผวน นักลงทุนควรต้องกระจายความเสี่ยง และปรับพอร์ตลงทุนให้เหมาะสม เพื่อให้พอร์ตของเรายังเติบโต หรือสามารถสร้าง Passive Income ได้
ดังนั้นวันนี้ stock2morrow จึงอยากชวนทุกท่านมาพูดคุยเกี่ยวกับการลงทุนในอีกหนึ่งสินทรัพย์สำคัญนั่นคือ "อสังหาริมทรัพย์"
โดยเทปนี้เราได้เกียรติจากกูรูอสังหาฯ คุณปิง กรณ์กวินท์ พีระเดชไพศาล มาช่วยแชร์วิธีคิดและวิธีเลือกอสังหาฯที่เหมาะกับการลงทุน ซึ่งคุณปิงได้บอกว่า "นี่คือช่วงเวลาที่ดีมากในการช้อนอสังหาฯดีดี" คุณปิงจะมีเทคนิคการลงทุนอย่างไรบ้าง ไปฟังกันได้เลยในคลิปนี้
ต้องขอขอบคุณทางโครงการ Rhythm Ekkamai Estate ของ AP Thai ที่เปิดโครงการให้เราเข้ามาถ่ายทำ
ทุกท่านสามารถเข้าดูรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่
https://www.apthai.com/th/condominium/rhythm-ekkamai-estate
สำหรับใครที่สนใจเข้าชมโครงการจริง หรือรับสิทธิ์พิเศษจากในคลิปนี้ สามารถลงชื่อได้ที่ลิงก์นี้ จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ เพื่อทำการนัดหมายอีกครั้ง
https://forms.gle/B5qVUDc8Hssguo3k6
#ลงทุนคอนโด #อสังหาฯ

ในช่วงเวลาแบบนี้ที่ตลาดการเงินผันผวน  นักลงทุนควรต้องกระจายความเสี่ยง และปรับพอร์ตลงทุนให้เหมาะสม  เพื่อให้พอร์ตของเรายั...
13/07/2025

ในช่วงเวลาแบบนี้ที่ตลาดการเงินผันผวน นักลงทุนควรต้องกระจายความเสี่ยง และปรับพอร์ตลงทุนให้เหมาะสม เพื่อให้พอร์ตของเรายังเติบโต หรือสามารถสร้าง Passive Income ได้
ดังนั้นวันนี้ stock2morrow จึงอยากชวนทุกท่านมาพูดคุยเกี่ยวกับการลงทุนในอีกหนึ่งสินทรัพย์สำคัญนั่นคือ "อสังหาริมทรัพย์"
โดยเทปนี้เราได้เกียรติจากกูรูอสังหาฯ คุณปิง กรณ์กวินท์ พีระเดชไพศาล มาช่วยแชร์วิธีคิดและวิธีเลือกอสังหาฯที่เหมาะกับการลงทุน ซึ่งคุณปิงได้บอกว่า "นี่คือช่วงเวลาที่ดีมากในการช้อนอสังหาฯดีดี" คุณปิงจะมีเทคนิคการลงทุนอย่างไรบ้าง ไปฟังกันได้เลยในคลิปนี้
ต้องขอขอบคุณทางโครงการ Rhythm Ekkamai Estate ของ AP Thai ที่เปิดโครงการให้เราเข้ามาถ่ายทำ
ทุกท่านสามารถเข้าดูรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่
https://www.apthai.com/th/condominium/rhythm-ekkamai-estate

สำหรับใครที่สนใจเข้าชมโครงการจริง หรือรับสิทธิ์พิเศษจากในคลิปนี้ สามารถลงชื่อได้ที่ลิงก์นี้ จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ เพื่อทำการนัดหมายอีกครั้ง
https://forms.gle/B5qVUDc8Hssguo3k6
#ลงทุนคอนโด #อสังหาฯ
https://youtu.be/kC7RQSFfoAk?si=FVpOjLgnrfzF81Bi

ในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินผันผวน นักลงทุนควรต้องกระจายความเสี่ยง และปรับพอร์ตลงทุนให้เหมาะสม เพื่อให้พอร...

B*H: หุ้นโรงพยาบาลร่วง 23% ใน 1 ปี... มองหาโอกาสในวิกฤต?บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ B*H ดำเนินธุรกิจโร...
11/07/2025

B*H: หุ้นโรงพยาบาลร่วง 23% ใน 1 ปี... มองหาโอกาสในวิกฤต?
บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ B*H ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลทั้งหมด 15 แห่งทั่วประเทศไทย ด้วยจำนวนเตียงรวม 2,323 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยทุกระดับชั้น ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ โรงพยาบาลเวิลด์เมดคอล, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และโรงพยาบาลการุญเวช
B*H ยังคงเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดแก่ผู้ประกันตนในโครงการประกันสังคมของประเทศไทย แม้ว่าจำนวนผู้ประกันตนที่ใช้บริการจะลดลงกว่า 1 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วน 7% ของผู้ประกันตนทั้งหมดในระบบ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลโดยรวมให้ผลตอบแทนไม่ดีนัก แม้ในอดีตจะถูกมองว่าเป็นหุ้นเติบโตและเป็นกลุ่มที่ตอบโจทย์การลงทุนระยะยาวในธีมสังคมผู้สูงอายุ และเทรนด์การดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้น แต่ด้วยสภาวะตลาดหุ้นไทยที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลต่างปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
B*H เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัด โดยราคาหุ้นปรับตัวลงมาแล้วถึง -14% ภายใน 6 เดือน หรือถ้ามองในระยะยาวกว่านั้น ราคาลดลงถึง -23% ในรอบ 12 เดือน ส่งผลให้ค่า P/E ลดลงต่ำสุดในรอบหลายปีมาอยู่ที่ 22 เท่า และให้อัตราเงินปันผลที่น่าสนใจประมาณ 3.1%
นอกจากสภาวะตลาดหุ้นไทยที่ไม่เอื้ออำนวยแล้ว สาเหตุสำคัญอีกประการคือ ผลประกอบการที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยกำไรปรับตัวลดลงติดต่อกันถึง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2565-2566 ซึ่งเป็นผลจากการที่ธุรกิจกลับสู่ภาวะปกติหลังโควิด-19 และในปี 2567 เป็นผลจากรายได้ผู้ป่วยชาวคูเวตที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการล่าสุดในไตรมาส 1/2568 รายงานกำไรสุทธิ 321 ล้านบาท ซึ่งนับว่าดูดีขึ้นและเติบโตได้ดีเกือบทุกกลุ่ม
คำถามคือ แนวโน้มของ B*H ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร และมีโอกาสให้นักลงทุนได้เห็นแสงสว่างบ้างหรือไม่?
หากเราพิจารณาจากบทวิเคราะห์ต่างๆ จะพบว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 คาดว่าจะดีกว่าที่ผ่านมา และโมเมนตัมที่ดีจะส่งผ่านต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3/2568 ด้วย 3 ปัจจัยหลักดังนี้:
1. โรงพยาบาลเดิมแข็งแกร่งขึ้น + บริการใหม่เพิ่มโอกาส:
B*H กำลังจะยกระดับโรงพยาบาลการุญเวช ปทุมธานี ให้เป็นโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปทุมธานี ในช่วงต้นปี 2568 เพื่อขยายการรองรับทั้งผู้ป่วยประกันสังคมและผู้ป่วยทั่วไปที่จ่ายเงินเอง นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มบริการใหม่ๆ ที่สำคัญ เช่น การฉายรังสี และบริการรักษามะเร็งด้วยกัมมันตรังสีเคลื่อนที่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ และ B*H ยังมุ่งขยายตลาดสู่ต่างประเทศอย่างเมียนมาและมัลดีฟส์ โดยมีข้อตกลงส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลพันธมิตรมายังเครือ B*H
2. โรงพยาบาลใหม่พ้นจุดขาดทุน เตรียมสร้างกำไร:
โรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศ, เวียงจันทน์, และปราจีนบุรี ที่เคยเป็นภาระการขาดทุนจำนวนมาก คาดว่าจะขาดทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 2568 (จากขาดทุน 290 ล้านบาทในปี 2566 เหลือเพียง 100 ล้านบาทในปี 2568) โดยเฉพาะโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศ คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้ภายในปี 2568
3.ไตรมาส 3 พีคสุด + บริการเสริมใหม่หนุนรายได้:
ไตรมาส 3 เป็นช่วงที่ธุรกิจโรงพยาบาลมักจะทำรายได้สูงสุด (High Season) และ B*H กำลังขยายบริการใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่น คลินิกศัลยกรรมตกแต่ง, คลินิกควบคุมน้ำหนัก, และคลินิกดูแลผิวพรรณ ซึ่งจะเข้ามาช่วยเพิ่มแหล่งรายได้ให้กับโรงพยาบาลในเครือ นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนปรับปรุงศูนย์ผู้ป่วยนอก (OPD) ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่สร้างรายได้เป็นอันดับ 3 หรือประมาณ 13% ของรายได้ทั้งหมด เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้ป่วย
โดยภาพรวมแล้ว ตลาดมองไปในทิศทางบวกสำหรับหุ้น B*H แต่ราคาหุ้นกลับสวนทางอย่างที่ไม่ควรจะเป็น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความกังวลจากหลายสาเหตุทั้งปัจจัยภายในและภายนอก อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ลืมว่าราคาหุ้นที่ลดลงจนทำให้ Valuation หลายอย่างต่ำสุดในรอบหลายปี ในขณะที่ปัจจัยบวกข้างหน้ายังมีอยู่ อาจเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองการลงทุนในระยะยาว
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาเชียร์ซื้อหรือขายหุ้น การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน

#สื่อสถาบันความรู้และสังคมของนักลงทุน #ประเทศไทย #เศรษฐกิจ #การลงทุน #การเงิน

11/07/2025

ตัวอย่างหุ้นไทยที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากนโยบายขึ้นภาษีทรัมป์ 36% มีอะไรบ้าง มาดูกัน !
(อ่านต่อในคอมเมนต์)

11/07/2025

ไทยอาจได้โอกาสเจรจาครั้งใหม่ ?
หลังพบข้อมูลว่า "ไทย-แม็กซิโก" ส่งออก Rare Earth ไปยังสหรัฐฯ มากถึง 3,834 ตันใน 4 เดือน มากกว่าปริมาณที่ส่งออก 3 ปีรวมกันเสียอีก หลังรัฐบาลจีนประกาศแบนห้ามส่ง RE ไปยังสหรัฐฯ โดยเด็ดขาด

11/07/2025

รู้หรือไม่ ?
Nvidia กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่า 4 ล้านล้านดอลลาร์เป็นบริษัทแรกของโลกแล้ว
(25% ของ Nvidia = GDP ไทย)

Address

Alawwa

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when stock2morrow posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to stock2morrow:

Share

Our Story

15 ปี ที่ stock2morrow เราคลุกคลีอยู่ในแวดวงการลงทุน . ด้วยความตั้้งใจแต่แรกเริ่มที่ก่อตั้ง ว่าอยากจะสร้าง "สังคมคุณภาพของคนลงทุนหุ้น" เราเริ่มจาก “กลุ่มคนเล่นหุ้น” ที่รวมตัวกันเล็กๆผ่านเว็บบอร์ด แบ่งปันความรู้ แชร์ประสบการณ์ให้กัน จนมีเพื่อนๆนักลงทุุนรายย่อย เข้ามาร่วม ในกลุ่มมากขึ้น และใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ . มาจนถึงวันนี้ stock2morrow เรายังมี mission เหมือนเดิม คือการสร้าง"สังคมนักลงทุนหุ้น" ที่มีคุณภาพ เราอยากให้ผู้ติดตามเรา เป็นนักลงทุนที่มีความรู้ มี mind set ที่ถูกต้องในการลงทุน มีกลุ่มเพื่อนลงทุนไปด้วยกัน แบ่งปัน แลกเปลี่ยนความรู้กัน ที่สำคัญ คือสามารถอยู่รอดได้ในตลาด และมั่งคั่งได้ในระยะยาว . ในตลาดหุ้น มีเงินอยู่มหาศาล ขอแค่เราดูแลเงินตัวเองให้ดี เตรียมความรู้ตัวเองให้พร้อมอยู่เสมอ ไม่โลภ แล้วเราจะเป็นรายย่อยที่แข็งแกร่ง และที่สำคัญ จะลงทุนได้อย่างมีความสุข