
07/10/2025
พาร์ทต่อไปมาแล้วนะคะ ถึงงานจะยุ่งแค่ไหน แต่จะพยายามมาลงเรื่อยๆน๊าา เรื่องภาพนี่จัดเต็มมาก!
(ยังสรรหานักวาดประจำเพิ่มเรื่อยๆนะคะ ติดต่อมาได้เลย!X
[✨ 𝕰𝖎𝖟𝖊𝖓𝖙𝖎𝖆 𝕮𝖍𝖗𝖔𝖓𝖎𝖈𝖑𝖊𝖘 ✨]
𝐄𝐩𝐢𝐬𝐨𝐝𝐞 𝟒.𝟗 : 𝐄𝐫𝐢𝐧𝐟𝐲𝐫 𝐚𝐧𝐝 𝐔𝐧𝐢𝐨'𝐀𝐞𝐭𝐞𝐫𝐥𝐢𝐚
✨────•༺ ⚜️ ༻•────✨
ณ ท้องพระโรงพระราชวังลอยฟ้าคาเวลเมียร์
ขณะที่เด็กๆ กำลังสนุกสนานกับการละเล่นในสวน ภายในพระราชวังลอยฟ้าคาเวลเมียร์กลับเต็มไปด้วยบรรยากาศเคร่งขรึมของการเตรียมงานพิธีสำคัญ ห้องโถงใหญ่ของพระราชวังตกแต่งด้วยแพรพรรณสีเงินและทอง ธงตราประจำราชวงศ์โรเซนเบิร์คซึ่งเป็นราชสีห์คาบกุหลาบ และ ธงมังกรคู่ของจักรวรรดิแซกเซนไรน์ประดับทั่วผนัง เทียนหอมในคบเพลิงทองคำส่องสว่างเรืองรอง แม้จะเป็นยามกลางวัน
ในห้องรับรองหลักของท้องพระโรง จักรพรรดิอูลฟริคและจักรพรรดินีไอซาเรียประทับนั่งบนบัลลังก์เคียงคู่กัน รายล้อมด้วยเหล่าอัศวินราชองครักษ์แห่งไรน์ในชุดเกราะสีแดงเลือดหมู ถือโล่สง่างามที่ประดับตราต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งป่าไรน์ พวกเขาสวมหมวกปิดบังใบหน้า ถือหอกยาวสวยยืนเรียงแถวเป็นระเบียบ ณ เบื้องขวาของจักรพรรดิอูลฟริคประกบด้วย ‘คอนราดแห่งชเนกราท’ (Konrad der Schneegrat) แกรนด์มาสเตอร์แห่งภาคีอัศวินไรน์การ์ท รุ่นปัจจุบัน เขาสวมผ้าคลุมไหล่หนา โซ่สีทอง ตราผลึกตัวยูสีทอง เกราะสีเงินขลิบทองสลักลวดลายราชสีห์แห่งราชวงศ์โรเซนเบิร์ค ฝ่ามือสวมถุงมือหนังสีดำขลับกอบกุมด้ามฝักดาบประจำตัวของเขาไว้ ผ้าคลุมสีแดงสง่าของเขาตัดกับผ้าคลุมสีดำขลิบทองของราชองครักษ์แห่งไรน์คนอื่นที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเขาอย่างสิ้นเชิง
โดยที่เบื้องซ้ายของจักรพรรดิอูลฟริคและจักรพรรดินีไอซาเรียคือ นางผู้ถือครองฉายา ราชินีแห่งรันเซนรูน ผู้ถือคทาฝังอัญมณีสีชาด สวมหมวกแม่มดปลายหมวกไขว้ด้วยจันทร์เสี้ยวคู่ อยู่ในชุดคลุมโกธิคสีดำสลับสีแสดอย่าง งามงดฉบับหญิงแซกเซนไรน์โดยแท้ ใบหน้าของนางฉาบด้วบหน้ากากปิดครึ่งซีกซ้ายปิดบังเบื้องหลังของมันไว้จากโลกภายนอก นั่นก็คือ ‘เฮ็กซา รูเน็นมาร์ค (Hexa Runenmark) ผู้อำนวยการของสมาคมเวทจักรดรัคเคนฮอร์สต์ นั่นเอง
รายรอบเต็มไปด้วยเหล่าขุนนาง ทั้งในแซกเซนไรน์ เหล่าคนในตระกูลเฟรย์สตัดท์ ยืืนอยู่แถวหน้าเบื้องขวา ดวงตาของไรซ์กราฟินอเดลไฮน์สบกับแกรนมาสเตอร์คอนราดเล็กน้อยก่อนจะหลบตาเหมือนไม่สบอารมณ์ ขณะที่ทางตระกูลรูเน็นมาร์คที่ยืนแถวหน้าเบื้องขวา มองไปทางผู้อำนายการเฮ็กซา รูเน็นมาร์ค อย่างภาคภูมิใจ และ เหล่าขุนนาง นอกแซกเซนไรน์ ทั้งจาก ราชอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์อเวอร์ลอร์เนียร์ อย่างตระกูลแพนเนียเธอเซียและเอโลเว็น พวกเขากระซิบกระซาบสงสัยกันว่าอลิสนั้นไปไหน ก่อนที่จะมีคนหนึ่งแหวกแถวเดินออกไปจากท้องพระโรง ขณะที่ขุนนางของทาง ราชอาณาจักรแฟรงเวียร์นั้นยืนนิ่งสงบ ไม่ต่างจากขุนนางและชนชั้นสูงอื่นๆทั้งจาก ราชอาณาจักรคาสโตรวอร์น ราชอาณาจักรนอร์ดัลเวน สหพงพันธุ์แห่งรุสโคเวีย ราชรัฐโปลสกาเนีย พวกเขาเตรียมความพร้อมต้อนรับผู้มาเยือนสำคัญที่สุดแห่งงานพิธียูนิโอเอเธอเรีย อัลติเมทพรีสแห่งศาสนจักรยูนิสทราและคณะอาร์คซาเธียร์ทั้งเจ็ด…จากจักรวรรดิวาซิเรีย…
"พระสวามี" จักรพรรดินีไอซาเรียเอื้อนเอ่ยกระซิบกระซาบต่อบุรุษผู้เป็นคู่ครอง ใบหน้าอันงดงามมีร่องรอยความกังวลปรากฏมา "หม่อมฉันได้ยินมาว่าท่านอัลติเมทพรีส เอรินเฟียร์ ยูนิสซาตัส เปลี่ยนไปมาก นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่พวกเราพบกันนะ…"
จักรพรรดิอูลฟริคทอดสายตามองพระชายากลับไปอย่างอ่อนโยนแล้วเอ่ยอย่างหนักแน่นออกมา "ทุกคนล้วนเปลี่ยนไปตามกาลเวลา จักรพรรดินีของข้า แต่ไม่ว่าอย่างไร นางยังคงเป็นผู้นำศาสนจักรที่พวกเราต้องให้ความเคารพอยู่เสมอ…"
"หม่อมฉันเพียงแต่กังวล..." นางละสายตาออกมา "มีข่าวลือที่น่ากังวลเกี่ยวกับการปราบปรามในวาซิเรีย..."
"เรื่องเช่นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เราจะพูดถึงในที่นี่" ชายหนุ่มผมทองอูลฟริคนั้นพูดตัดบทขึ้นมา "แซกเซนไรน์ยังคงเป็นมิตรกับวาซิเรีย และจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไป…ไคซารินของข้าเอ๋ย…"
จักรพรรดินีไอซาเรียพยักหน้ารับอย่างสงบ แต่ดวงนัยเนตรสีแดงฉานยังคงฉายแววกังวลอย่างมากล้นเหลือคณา ก่อนที่จะมีโอกาสสนทนาต่อ เสียงแตรประกาศก็ดังขึ้น ประตูบานใหญ่ที่สลักสถาปัตยกรรมนูนสูงเป็นหัวราชสีห์ของห้องโถงถูกเปิดออกกว้าง
“อาลีรา ! (สวัสดี) ท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอประกาศ เริ่มงานเลี้ยงฉลอง ก่อนพิธีบวงสรวงยูนิโอเอเธอเรียจะเริ่มขึ้น! ขอเชิญท่านอัลติเมทพรีสแห่งยูนิสทรา และ เหล่าอาร์คซาเธียร์ทั้งเจ็ด รวมถึงเหล่าราชวงศ์และขุนนางจากทั้ง 8 อาณาจักรเทอญ !!”
สิ้นเสียงของโฆษกแห่งราชสำนักโรเซนเบิร์ค ไม่นานนัก ร่างของอัลติเมทพรีสแห่งยูนิสทราปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเหล่าขุนนางและผู้มีศักดิ์ ตามด้วยเหล่าอาร์คซาเธียร์ทั้งเจ็ด และ เซเรม(นักบุญ) ไปจนถึงเหล่ายูนิสมานทา(หัตถ์นิรันดร์แห่งยูนิส)
อิสตรีผู้ครอบครองเรือนผมสีครีมทองละมุนละไม ในฉลององค์สีขาวปลายดำเทาสลักลวดลายต้นไม้จินตเวทย์และจอกศักดิ์สิทธิ์ บทมนตราเบื้องหลังนางยังคงเรืองรองด้วยกลิ่นอายแห่งเวทย์วอยเดีย(ธาตุว่างเปล่า/สุญญา) อันคละคลุ้งอยู่ทั่วกาย
เอรินเฟียร์ ยูนิสซาตัส อาร์คซาเธียร์แห่งวอยเดีย ผู้พิทักษ์สมดุลของเอลดอเซีย ผู้ดำรงตำแหน่งอัลติเมทพรีส (สันตะปาปา) แห่ง ศาสนจักรยูนิสทรา ก้าวเท้าลงอย่างอ่อนช้อยดั่งละอองอรุณแรกแห่งสรวงสวรรค์
สายตานางทอดมองไปยังเหล่าผู้เฝ้ารอด้วยความแน่วแน่ แฝงเร้นด้วยความกร้าวแกร่ง
"ข้ารับคำเชิญของพวกท่านไว้แล้ว และข้าก็มิอาจปล่อยให้พิธียูนิโอเอเธอเรียอันศักดิ์สิทธิ์นี้ล่วงเลยโดยปราศจากประจักษ์แห่งศรัทธา"
อาโทรพอส คทามีชีวิตประจำกายของนางเรืองแสงสีขาวหม่นรอบเบื้องบนคทาที่ปรากฏรูปสลักนูนสูงเทพียูนิสเซียร่าบนคทาสวยนั้น และตัวมันได้กล่าวเสริมเสียงเยียบเย็นออกมา
"เหล่าผู้ครองอำนาจมักชื่นชมความว่างเปล่าในจิตใจตนเอง ด้วยการพรางมันไว้ใต้คำว่าเกียรติยศและภารกิจ…"
หญิงสาวทอดรอยยิ้มเย็นพลางขยับปลายนิ้วแตะคทาอย่างเบามือ
"หากแต่พวกท่านนั้นอย่าหวั่นไหวกับคำพูดของอาโทรพอสไปเลย...วันนี้หาใช่วันพิพากษาไม่ หากแต่เป็นวันแห่งสายลมใหม่ที่โบกสะบัดพัดพา หากเรายังมีสายใยแห่งศรัทธา หัวใจแห่งพันธะก็จักยังคงชี้นำพวกเราอีกครา…"
นางก้าวขึ้นแท่นศักดิ์สิทธิ์เบื้องหน้าอัครมหาอำมาตย์เหล่าไรซ์กราฟของแซกเซนไรน์อย่างช้า ๆ
"พวกเจ้าช่างตระเตรียมพิธีได้วิจิตรบรรจงสมฐานะ บุตรธิดาแห่งมังกรคู่เอ๋ย...อืมมม...แต่อย่าให้แสงเงาหลากสีแห่งพิธีบังตาพวกเจ้าจากความจริงแท้เสียล่ะ โลกนี้มิได้อยู่ยงเพียงด้วยพลัง หากแต่อยู่ยงด้วยการไถ่บาปของอดีต และการเลือกที่ถูกต้องในปัจจุบัน…."
นางหันขวับไปยังเหล่าอาร์คซาเธียร์ทั้งหลายที่ติดตามนางมา แล้วยิ้มน้อย ๆ
"จงอย่าเงียบงันเกินไปนัก...ศรัทธาของเราต้องเปล่งประกายให้เห็น แม้ท่ามกลางหมู่ชนผู้ไม่ศรัทธา"
ม่านแสงบางจากหัวคทาอาโทรพอสลอยแผ่วรอบห้อง ละอองเรืองรองจับต้องในอากาศ ราวกับมติแห่งสรวงแทรกซึมสู่จิตใจผู้คนในท้องพระโรง
เอรินเฟียร์ยืนนิ่งงัน เอ่ยวาจาทิ้งท้ายด้วยเสียงที่กังวานสะท้อนทั่วโถง
"ยูนิสเซียร่าประทานโลกให้เราด้วยแสงแห่งอรุณ หากเจ้าปล่อยให้มันจางไปด้วยบาปแห่งโลภะ โทสะ หรืออวิชชา...จงระวังเถิดว่าเจ้าจะได้ยินเสียงกรีดร้องจากพ้นห้วงกรุสธาร์เสียก่อนแสงอรุณพัลซาร์จะกลับมา"
สายตานางสบกับพระจักรพรรดิ และ พระจักรพรรดินีของจักรวรรดิแซกเซนไรน์
"ขอให้จงยึดมั่นในเส้นทางอันเที่ยงธรรม อย่าหลงไปในเส้นทางของไฟแค้นและน้ำตา ขอเทพียูนิสเซียร่าอภิบาลแลอำนวยพรพวกเจ้าเทอญ เซเรม…"
สิ้นคำกล่าว ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอันศักดิ์สิทธิ์ เสียงแห่งการรำลึกถึงคำสัตย์ของแต่ละใจจึงก่อก้องขึ้นเงียบงัน
และอาร์คซาเธียร์แห่งวอยเดีย...ผู้มีศรัทธามิอาจสั่นคลอน ก็ยังคงยืนนิ่ง...ดุจเทพธิดาในรูปเงาแห่งความว่างเปล่า อัลติเมทพรีสแห่งยูนิสทรา ผู้เป็นอาร์คซาเธียร์แห่งสุญญา…เอรินเฟียร์ ยูนิสซาตัส…
จักรพรรดิอูลฟริคผู้ทรงประทับบนบัลลังก์สูงสุด แสงสีชาดจากบัลลังก์ศิลาไฟเฟลเซนโทรนเรืองรองสะท้อนประกายในนัยน์ตาสีฟ้าครามอันหนักแน่น พระองค์จึงทรงโน้มพระวรกายเล็กน้อยไปข้างหน้า แล้วเปล่งวาจาด้วยสุรเสียงดังกังวานก้องท้องพระโรงโดยพลัน!
“จักรวรรดิแซกเซนไรน์ ขอถวายการต้อนรับอย่างสูงแด่ท่านอัลติเมทพรีสแห่งยูนิสทรา เอรินเฟียร์ ยูนิสซาตัส ผู้สืบทอดศรัทธาแห่งเทพียูนิสเซียร่า รวมถึงเหล่าอาร์คซาเธียร์ทั้งเจ็ด ท่านนักบุญ และ เหล่าผู้มาเยือนจากทุกแว่นแคว้น
พวกเราขอประกาศต่อหน้าสรวงสวรรค์และดวงดาว เอ่ยคำสัตย์ต่อต้นไม้จินตมนตรา ว่าวันนี้คือวันแห่งเกียรติและศรัทธาร่วมกัน แซกเซนไรน์จักเป็นดั่งเสาหลักที่ยืนหยัดเพื่อธำรงพันธะระหว่างราชบัลลังก์และศาสนจักร ตลอดจนพันธไมตรีกับสหายทุกอาณาจักรที่มาเยือน ณ ที่นี้!!!
ขอเทพียูนิสเซียร่า ผู้เป็นมหาเทวี โปรดทรงเมตตา ประทานพรแก่พิธียูนิโอเอเธอเรียที่จะมาถึง ให้เป็นดั่งแสงอรุณที่นำทางสรรพชีวิต ให้มิตรภาพยั่งยืน และศรัทธาไม่สั่นคลอนตราบนิรันดร์ เซเรม!”
สิ้นสุรเสียงพระจักรพรรดิ ทุกผู้คนในท้องพระโรงต่างนำมือทาบอกโค้งคำนับ ยกเว้นเพียงอัลติเมทพรีส และ เหล่าอาร์คซาเธียร์ ที่หลับดวงตาพยักหน้ารับแต่เพียงเท่านั้น บรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ก่อเกิดขึ้นประดุจเสียงสวรรค์ขับขานอยู่เหนือศีรษะก็มิปาน….
✨────•༺ ⚜️ ༻•────✨