Quantia

Quantia Hearken unto thee, all ye gathered. I am Quantia, the celestial being, and humble keeper of the Nakorn - Physiology page.

NK cell กำลังพิฆาตเซลล์มะเร็งเต้านม (BC: Breast cancer cell) ด้วยการหลั่งพิษชื่อ granzyme ออกไป เพื่อเปิดสวิตซ์ทำลายตัวเ...
30/09/2025

NK cell กำลังพิฆาตเซลล์มะเร็งเต้านม (BC: Breast cancer cell) ด้วยการหลั่งพิษชื่อ granzyme ออกไป เพื่อเปิดสวิตซ์ทำลายตัวเอง

แต่มะเร็งสู้ชีวิต รีดพลังทั้งร่าง ปรับกระดูกของเซลล์ (Actin filament) แผ่ส่วนหนึ่งของตัวเอง ขยายเป็นกำแพงขนาดใหญ่ แล้วเกณฑ์เอาโปรตีนที่ยับยั้งการทำงานเม็ดเลือดขาว (Inhibitory signaling) ไปกองตรงกำแพงให้มากที่สุด

เรียกสกิลนี้ว่า Actin response (AR)

เหมือนสร้างเกราะรอรับการโจมตีของ NK cell
ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่รอดนะคะ

จะเห็นว่าสารพิษ NK cell (สีแดงๆ) เข้าร่างเซลล์ไปเรียบร้อยแล้ว ก็คงจะตๅยอีกในไม่ช้า

แต่กว่ามะเร็งจะได้สกิลนี้มา มันต้องหากลไกมหาศาลค่ะ
ดังนั้นนี่เป็นข้อยืนยันว่า เซลล์เม็ดเลือดขาวจริง ๆ มันเก่งมากเลยค่ะ มะเร็งต้องพัฒนาแล้วพัฒนาอีก ยังไงก็ยังแพ้ แพ้แบบสิ้นหวัง ถ้าไม่รวมกลุ่มกัน ไม่มีวันเอาชนะ เม็ดเลือดขาวที่อาวุธรุนแรงมาก ๆ เลยค่ะ

ชุบเลี้ยงเม็ดเลือดขาวเราดี ๆ นะคะ

✅ นอนหลับระยะเวลาเพียงพอ (มากกว่า 6 ชั่วโมง) และคุณภาพดี ตื่นมานิดๆ หน่อย ๆ ได้ แต่ถ้าหลับๆ ตื่นๆ ตลอด ต้องรีบหาสาเหตุแก้ไข เพราะการนอนจะทำให้เม็ดเลือดขาวสองตัวนี้ กลับมาทำงานสูงสุด

✅ กำจัดปัญหาสุขภาพจิตให้ไวที่สุด ไม่ว่าจะเครียดเรื้อรัง หรือโรคจิตเวชใด ๆ เพราะ cortisol ที่สูงสามารถกดการทำงานภูมิคุ้มกันได้หลายจุด โดยเฉพาะ NK cell จะโดนหนักมาก จึงไม่แปลกที่ในระยะสั้น เราจะเห็นว่าเราเป็นไข้หวัดบ่อยขึ้น เพราะเซลล์นี้ก็กำจัดไวรัสด้วย

✅ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ในระดับความแรงปานกลางขึ้นไป ง่ายสุดคือออกให้รู้สึกเหนื่อยค่ะ และสม่ำเสมอ คนไม่เคยออกมาก่อน อยากให้ออกไม่ต้องเต็มแรงก็ได้ แต่ทำให้ต่อเนื่อง 7-14 วัน ปรับนิสัยได้แล้ว ค่อยเพิ่มความแรงขึ้น

✅ ดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะภาวะดื้ออินซูลิน/เบาหวาน เพราะภูมิคุ้มกันโดนกดการทำงานมากค่ะ

เซลล์มะเร็งที่หิวโหย สามารถจับเซลล์ข้างๆ กินทั้งเป็นได้ ซึ่งอาจเป็นเม็ดเลือดขาวที่อ่อนแรงอยู่ หรือแม้กระทั่งมะเร็งพวกเดี...
29/09/2025

เซลล์มะเร็งที่หิวโหย สามารถจับเซลล์ข้างๆ กินทั้งเป็นได้ ซึ่งอาจเป็นเม็ดเลือดขาวที่อ่อนแรงอยู่ หรือแม้กระทั่งมะเร็งพวกเดียวกันเอง


เซลล์กินกันเอง มีอยู่จริงค่ะ และพบได้บ่อยมากในเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งชนิดที่ดุร้ายมากๆ อย่างมะเร็งไฝระยะลุกลาม (Metastatic melanoma), มะเร็งตับอ่อน (Pancreatic adenocarcinoma)

ซึ่งการกินเซลล์นี้พบครั้งแรกก็มะเร็งไฝระยะลุกลามนี่แหละค่ะ จับเม็ดเลือดขาวนายชื่อ T cell กินทั้งเป็น เพื่อเอาพลังงานทั้งหมดของ T cell มาใช้และยังกำจัดศัตรูได้ด้วย


การกินกันเองนั้นจะมีสองแบบค่ะ จับเซลล์ข้างๆ งาบกิน (Cannibalism) กับ วิ่งเข้าไปในอีกเซลล์เพื่อเป็นอาหารให้เค้า (Entosis)


1️⃣ จับเซลล์ข้างๆ งาบกิน (Cannibalism)


มักเกิดในแวดล้อมที่ขาดอาหารมากๆ เซลล์มะเร็งจะใช้พลังงานที่เหลืออยู่ ปรับโครงสร้างกระดูกเซลล์ (Actin, Ezrin และ caveolin) ให้ไปรวมที่ใต้ผิวเซลล์

หากมีอะไรมาสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นเส้นใย collagen/ เส้นใย hyalorunic acid ที่เป็นท่อนเล็กๆ มันจะจับกินหมด เรียกกลไกนี้ว่า การเก็บกวาดสารอาหาร (Nutrient scavenging)


เซลล์ที่มาสัมผัสมัน ไม่ว่าจะเป็นเซลล์ไหน แม้กระทั่งเซลล์เม็ดเลือดขาว จะโดนมันโอบเข้ามา แล้วฆ่ๅด้วยกลไก Emperiosis คือสั่งให้เซลล์ทำลายตัวเอง แล้วมันก็จะกินศw และนี่แหละค่ะ Cannibalism

ไม่ใช่เซลล์มะเร็งทุกชนิดจะทำได้ มันต้องเป็นมะเร็งที่ดุร้ายแบ่งเร็วมากๆ จนสูบทรัพยากรรวดเร็วมาก จนแวดล้อมเลวร้ายพอจะกินทุกสิ่งใกล้ๆ

ถ้าคู่ต่อสู้เป็นเซลล์ที่จับกินเก่งเหมือนกัน เช่น เม็ดเลือดขาว macrophage (M1) ฝั่งเรา ต้องแข่งกันแล้วค่ะ ใครไวกว่า


2️⃣ พลีชีพพุ่งตรงไปเป็นอาหารของเซลล์ที่แข็งแกร่งกว่า (Entosis)


‘ผู้แพ้ย่อมเป็นอาหารของผู้ชนะ’ นี่คือคำหนึ่งที่ใช้ในสังคมเซลล์มะเร็ง เป็นการถ่ายทอดพลังงานสู่เซลล์ที่ดีกว่า เก่งกว่า

เซลล์มะเร็งที่มีพลังงานต่ำกว่าเซลล์ข้างๆ แบบรุนแรง เซนเซอร์ชื่อ AMPK จะเริ่มตรวจจับได้แล้วสะกิดเซลล์ข้างๆ ให้กินตัวเอง โดยใช้เราโปรตีนยึดเกาะ (Cadherin) เริ่มจับเซลล์ข้าง แล้วเว้าตัวเองเข้าไปในเซลล์ผู้ชนะ


เซลล์ผู้ชนะก็จะทำลายเซลล์ผู้แพ้ ทั้งยอมให้ผู้แพ้ปลิดชีพตัวเองอย่างสมศักดิ์ศรี (Apoptosis) หรือ ย่อยทำลายไป (Autophagy)

เป็นกลวิธีที่ทำให้เซลล์ที่ไม่รอด ไม่สูญเปล่า แต่เป็นอาหารของผู้ชนะ ให้ผู้ชนะรอด และเก่งขึ้นมาก เชื่อว่าเป็นหนึ่งในกลไกที่ทำให้มะเร็งพัฒนาขึ้นไว้กว่าเซลล์ปกติ


จุดที่น่าสนใจที่เพิ่งค้นพบในเวลาไม่กี่ปีมานี้คือ เซลล์ที่ยอมโดนงาบไปแบบ Entosis ไม่จำเป็นต้องตาๅก็ได้ อาจจะไปอาศัยอยู่ในเซลล์ผู้ชนะคล้ายปรสิต (Parasitic entosis) แล้วออกมาเมื่อพร้อม หรือแม้กระทั่งเกิดกลไกแบ่งเซลล์ในร่างผู้ชนะ (Entomammoptos)


สรุป: เมื่ออยู่ภาวะที่ก้อนมะเร็งขาดสารอาหาร เซลล์มะเร็งจะอ่อนแอลง แล้วจะกระตุ้นกลไกรอดชีวิตที่ทั้งจับเซลล์อื่นกิน และยอมเป็นอาหารแก่เซลล์ที่ชนะค่ะ

ภาพแสดง เซลล์มะเร็งที่เผลอหลุดลอยออกจากโคโลนีตัวเอง แล้วเจอคำสาป anoikis ทำลายตัวเองอย่างสิ้นหวัง 🧬 มีคำถามน่าสนใจถามมาว...
28/09/2025

ภาพแสดง เซลล์มะเร็งที่เผลอหลุดลอยออกจากโคโลนีตัวเอง แล้วเจอคำสาป anoikis ทำลายตัวเองอย่างสิ้นหวัง


🧬 มีคำถามน่าสนใจถามมาว่า ทำไมเซลล์ที่เป็นมะเร็งแล้ว ถึงไม่แบ่งรัวๆ แล้วย้ายไปอยู่ที่อื่นเลยล่ะ ไปเบียดกันเองทำไม?


คำตอบคือ ไม่มีเซลล์ไหนกล้าทำค่ะ

เซลล์มะเร็งรู้ตัวดีว่า ถึงแม้ว่ากลุ่มชุมชนมะเร็ง จะโหดร้าย ได้เลือดก็น้อย อาหารก็แย่งกัน ใครที่ปรับตัวไม่ได้ ก็ฝ่อตายโดยไม่มีใครสนใจ เพราะเซลล์ที่แข็งแกร่งกว่าก็พร้อมแบ่งตัวเพิ่มจำนวนมาแทนที่

แต่ก็ไม่มีเซลล์ไหน ‘ลอง’ หลุดออกมาจากโคโลนีของมัน
ไม่ใช่ว่ามันทำไม่ได้นะคะ มันสร้างสารเอนไซม์ย่อย (MMP) ย่อยเซลล์ที่ยึดได้ค่ะ และต่อให้มันยังเคลื่อนที่ไม่ได้ มันก็อาศัยของเหลวในร่าง ค่อยๆ พัดไปก็ได้


เหตุที่มันไม่กล้าเพราะ ธรรมชาติสิ่งมีชีวิตของเรานั้นฉลาดกว่าที่เราคิดมาก มันได้วางระบบป้องกันการกระจายตัวของเซลล์เนื้อเยื่อหนึ่งไปเนื้อเยื่ออื่นเรียบร้อยแล้ว

นั่นคือระบบการทำลายตัวเองแบบ Anoikis
ที่เปรียบเสมือนคำสาปประจำอาณาจักร


หลักการของ Anoikis คือ

คุณเป็นเซลล์จากอวัยวะใด ต้องอยู่ที่อวัยวะนั้น ยึดติดกันด้วย ‘กาว’ (Adhesion molecules) เป็นสัญญาณช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ดันให้เซลล์นั้นมีชีวิตรอดต่อไป

แต่ถ้าคุณอุตริแยกตัวเองออกมาเป็นอิสระ ระบบการช่วยเหลือจากเซลล์ข้างเคียง จะหายไปทันที แล้ว ‘ระบบทำลายตัวเอง’ ที่หลับใหลอยู่ในเซลล์ทุกเซลล์ จะทำงานทันที โดยน้ำย่อยในร่าง จะย่อยตัวเองอย่างอนาถ กลายร่างเป็นเศษเซลล์ที่ไร้ชีวิต (Apoptosis)

เราจะเรียกการตายแบบนี้ว่า Anoikis ค่ะ
ดังในภาพที่เซลล์มะเร็งที่เผลอหลุดออกไป ทำลายตัวเอง


✨ นี่จึงเป็นที่มาว่า การลุกลาม ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ มะเร็งต้องวิวัฒน์ตัวเองมหาศาล ต้องใช้เวลามากมาย ในการค้นหารหัสการ ‘แปลงร่าง’ ตัวเองเป็นเซลล์ที่เคลื่อนที่ได้ (Mesenchymal cell) และดื้อต่อระบบทำลายตัวเอง (Anoikis resistant) ถึงจะมีอิสรภาพค่ะ

เรามาจำกัดอิสรภาพของอสูรร้ายพวกนี้ด้วยการดูแลตัวเองกันค่ะ

✅ ควบคุมน้ำหนัก เพราะความอ้วน เชื่อมโยงกับมะเร็งหลายชนิด ที่มีกลไกผ่านฮอร์โมนจากเซลล์ไขมัน เช่น เต้านม, ลำไส้ใหญ่
✅ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เอาให้ได้ในระดับปานกลาง (รู้สึกเหนื่อย) ป้องกันการเกิดมะเร็ง และป้องกันตอนเป็นมะเร็งได้ทุกระยะ
✅ หลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็ง: งดบุหรี่, งดสุรา, ลดอาหารทอดจนไหม้เกรียม, ลดเนื้อแปรรูป
✅ เพิ่มการกินเส้นใยมากขึ้น จากผัก ผลไม้ (เน้นผลไม้ที่หวานน้อย)
✅ ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
✅ ตรวจคัดกรองมะเร็งพื้นฐาน เช่น เต้านม (Mammogram/อัลตราซาวด์), ปากมดลูก (Pap smear/HPV DNA), ลำไส้ใหญ่ (ส่องกล้อง)

อย่าปล่อยมะเร็งให้มีโอกาสตั้งตัวเลยค่ะ ตอนมันยังเด็ก มันอ่อนแอมากแทบไม่มีแรง ไม่มีเพื่อน ไม่มีอาณาจักรที่เข้มแข็งหลบซ่อน...
25/09/2025

อย่าปล่อยมะเร็งให้มีโอกาสตั้งตัวเลยค่ะ
ตอนมันยังเด็ก มันอ่อนแอมาก

แทบไม่มีแรง ไม่มีเพื่อน ไม่มีอาณาจักรที่เข้มแข็ง
หลบซ่อนหน่วยลาดตระเวนของภูมิคุ้มกันอย่างหวาดกลัว

แล้วก็ไม่รอด โดนกำจัดอย่างอนาถ


เพราะมะเร็งระยะแรกนั้น
▪️ ยังไม่มีระบบสร้างเส้นเลือดมาเลี้ยงตัวเอง
▪️ ยังไม่มีสังคมมะเร็ง (TME) มาคอยเป็นที่กำบัง
▪️ ยังไม่มีสกิลกดภูมิคุ้มกันที่ดีพอ

มันยังเป็นแค่กลุ่มเซลล์เสียการควบคุมเฉยๆ
รอคอยการถูกกำจัดอย่างโหดเหี้ยมโดยภูมิคุ้มกัน
เช่น NK cell, CD8+ T cell

ที่พุ่งเข้ามาหลั่งพิษ สั่งให้ฆ่ๅตัวตๅยเรียงตัว
(Granzyme/FasL induced apoptosis)


ดังนั้นภูมิคุ้มกันของเราที่แข็งแรง
สามารถจัดการเซลล์ผิดปกติพวกนี้ได้แบบง่ายดาย
แค่เราดูแลร่างกายให้ดีอย่างสม่ำเสมอ


แต่เมื่อปล่อยมันไว้นาน มันจะค่อยๆ แข็งแรงขึ้น ระดมพลสถาปนาอาณาจักรมะเร็งสร้างสภาพสังคมมะเร็งที่เอื้อให้มันโตไว สูบทรัพยากรสารพัด เพื่อขยายอาณาเขตหลอกภูมิคุ้มกันให้สับสน

พอถึงตอนนั้น จะกำจัดก็ยากขึ้นแล้ว (ก็ใช่ว่าจะยับยั้งมันไม่ได้)


เพราะอย่างนั้น มาป้องกันมะเร็งตั้งแต่แรกๆ กันเถอะค่ะ
อย่าปล่อยมันให้มีโอกาส “เติบโต”

✅ ควบคุมน้ำหนัก เพราะความอ้วน เชื่อมโยงกับมะเร็งหลายชนิด ที่มีกลไกผ่านฮอร์โมนจากเซลล์ไขมัน เช่น เต้านม, ลำไส้ใหญ่
✅ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เอาให้ได้ในระดับปานกลาง (รู้สึกเหนื่อย) ป้องกันการเกิดมะเร็ง และป้องกันตอนเป็นมะเร็งได้ทุกระยะ
✅ หลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็ง: งดบุหรี่, งดสุรา, ลดอาหารทอดจนไหม้เกรียม, ลดเนื้อแปรรูป
✅ เพิ่มการกินเส้นใยมากขึ้น จากผัก ผลไม้ (เน้นผลไม้ที่หวานน้อย)
✅ ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
✅ ตรวจคัดกรองมะเร็งพื้นฐาน เช่น เต้านม (Mammogram/อัลตราซาวด์), ปากมดลูก (Pap smear/HPV DNA), ลำไส้ใหญ่ (ส่องกล้อง)


มะเร็งไม่ใช่ปีศาจที่มาจู่โจมทันที
มันเริ่มจากแค่เซลล์เล็กๆ ที่ผิดจังหวะ แล้วค่อยๆ แทรกซึม

ถึงแม้ว่าธรรมชาติของเรายังผูกกับ
ความโชคร้ายค่อนข้างเยอะ
เช่น บางคนมีพันธุกรรมเสี่ยง
บางคนสุ่มเจอมะเร็งชนิดดุร้าย

แต่การดูแลรักษาตัวพื้นฐานมันลดความเสี่ยงได้จริงๆ ค่ะ
แม้กระทั่งผู้ที่เริ่มเป็นมะเร็งแล้ว ก็ช่วยลดการดำเนินของโรค
และช่วยตอบสนองต่อการรักษาค่ะ

มาดูแลสุขภาพกันเถอะค่ะ

ภาพแสดงเซลล์มะเร็ง ที่ร่างกำลังหลุดลอกออกมาเป็นกระเปาะกลม ๆ อย่างอนาถ เนื่องจากเจอเม็ดเลือดขาวรุมกำจัดมีคนถามว่าเซลล์มะเ...
23/09/2025

ภาพแสดงเซลล์มะเร็ง ที่ร่างกำลังหลุดลอกออกมาเป็นกระเปาะกลม ๆ อย่างอนาถ เนื่องจากเจอเม็ดเลือดขาวรุมกำจัด


มีคนถามว่าเซลล์มะเร็ง กับเซลล์เม็ดเลือดขาว ใครเก่งกว่ากัน
จริง ๆ มันเอามาเปรียบกันยากมากนะคะว่าจะดูในมุมไหน

เซลล์มะเร็งที่ยังไม่สามารถสร้างอาณาจักรตัวเองขึ้นมาได้ คือเหยื่อชั้นดีของเม็ดเลือดขาวค่ะ เพราะเรื่องความโหดเราต้องยกให้เม็ดเลือดขาวจริง ๆ ค่ะ


ที่เป็นแบบนั้นเพราะ

ไม่ใช่แค่ว่ามีเม็ดเลือดขาวเก่ง ๆ อย่าง NK cell
และ CD8+ T cell ที่คอยกำจัดมะเร็งได้ง่าย

ที่มันเก่งและน่ากลัวจริง ๆ คือระบบการทำงานมันค่ะ มันมีระบบการเรียกเพื่อน ๆ เก่งมาก ทั้งปรับให้พื้นที่นั้นเป็นสมรภูมิให้ตัวเองใช้งานง่าย (การอักเสบไงคะ) และการระบุตำแหน่งเป้าหมาย (Chemotaxis) และระบบล็อกเป้า (แอนติบอดี) ที่แม่นยำมาก


เซลล์มะเร็งที่เพิ่งจะเปลี่ยนสภาพมา ผ่าเหล่าออกมา ไม่รอดค่ะ โดนรุมทำลายเกลี้ยงเลย แบบในภาพเลยค่ะ เซลล์มะเร็งบางตัวโดนเม็ดเลือดขาวรุมเป็นฝูงเลยค่ะ เพราะ CD8+ T cell มันมีเซนเซอร์ที่จำเพาะ และเรียกต่อ ๆ กันมาได้


นั่นจึงเป็นที่มาว่า ทางเพจจะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพภูมิคุ้มกัน นอนหลับและออกกำลังกายเสมอ เป็นอันดับต้นๆ พร้อมกับหลีกเลี่ยงปัจจัยก่อมะเร็งทั้งหลาย


แต่หลายครั้ง ปัจจัยบางอย่างมันก็ควบคุมไม่ได้ อย่างพันธุกรรม และสารก่อมะเร็งบางอย่างที่เลี่ยงยาก เช่น PM2.5

มันทำให้บางครั้ง มะเร็งมีโอกาสที่จะก่อร่างสร้างตัวได้
และถ้ามันสถาปนาอาณาจักรมาเมื่อไหร่ ภูมิคุ้มกันจะเริ่มเข้าถึงยากแล้วค่ะ แต่ก็แน่นอนว่าจะเข้าไปจัดการอะไรไม่ได้


ดูแลสุขภาพเสมอนะคะ
✅ ควบคุมน้ำหนัก เพราะความอ้วน เชื่อมโยงกับมะเร็งหลายชนิด ที่มีกลไกผ่านฮอร์โมนจากเซลล์ไขมัน เช่น เต้านม, ลำไส้ใหญ่
✅ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เอาให้ได้ในระดับปานกลาง (รู้สึกเหนื่อย) ป้องกันการเกิดมะเร็ง และป้องกันตอนเป็นมะเร็งได้ทุกระยะ
✅ หลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็ง: งดบุหรี่, งดสุรา, ลดอาหารทอดจนไหม้เกรียม, ลดเนื้อแปรรูป
✅ เพิ่มการกินเส้นใยมากขึ้น จากผัก ผลไม้ (เน้นผลไม้ที่หวานน้อย)
✅ ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
✅ ตรวจคัดกรองมะเร็งพื้นฐาน เช่น เต้านม (Mammogram/อัลตราซาวด์), ปากมดลูก (Pap smear/HPV DNA), ลำไส้ใหญ่ (ส่องกล้อง)

เพจ tensia เพจหัวหอกของทีมได้ผู้ติดตาม 200,000 คนแล้วค่ะ ทางดิฉันยังคงเขียนกลไกเรื่องมะเร็งต่อไปค่ะ
21/09/2025

เพจ tensia เพจหัวหอกของทีมได้ผู้ติดตาม 200,000 คนแล้วค่ะ ทางดิฉันยังคงเขียนกลไกเรื่องมะเร็งต่อไปค่ะ

ตอนนี้เพจ Tensia มีผู้ติดตาม 200,000 แล้ว
ย้อนไปปีที่แล้ว ไม่เคยคิดจะทำมายาวขนาดนี้

กระท่อนกระแท่นมาก เพราะว่าแต่ละคนงานหลักก็หนักเต็มแก่แล้วค่ะ เกินครึ่งอยู่ในช่วงเรียนเฉพาะทาง บางเดือนวนแผนกหนักก็แทบหายไปเลย ดีว่ามีน้องลิคอยวางยุทธวิธีและจัดคิว ทำงาน art ให้ทุกอย่าง และอาจารย์ยังคงอยู่เป็นที่ปรึกษาด้าน content จนถึงทุกวันนี้

ขอบคุณทุกท่านที่ยังคงติดตามเสมอมานะคะ
ทางเพจยังคงถ่ายทอดวิทยาศาสตร์การแพทย์ต่อไป ซึ่งลายเซ็นของทีมเราคือวิชา Physiology และ Pathophysiology ที่ถ่ายทอดการทำงานของอวัยวะ/เซลล์ต่างๆ ออกมา เพื่ออธิบายกลไกโรคต่างๆ การรักษา และการป้องกันโรค แบบที่เราโพสต์อยู่ทุกวันนี้นี่แหละค่ะ

ซึ่งก็จะมีบทบาทด้านบันเทิงด้วย ดำเนินเพจคล้ายๆ vtuber น่ะค่ะ (คือมันไม่เหมือนหรอก แต่ไม่รู้จะเรียกรูปแบบนี้ว่าอะไร 55) ท่านที่ตามการ์ตูน ตามด้านบันเทิงก็ไม่ต้องห่วงนะคะ ยังผสมผสานแบบเดิมต่อไปค่ะ

เรา แอดมินเซีย ก็ถือโอกาสขอบคุณทีมงานทุกคนด้วยเลยค่ะ

ขอบคุณ
พี่มินนี่ Manifia
พี่เอวา Eva - อิศวาพร
พี่ขวัญ Quantia
ที่คอยช่วยเรื่องเนื้อหามาโดยตลอด ทั้งรีวิว paper รวมทั้งซัพพอร์ตด้านจิตใจ เวลาเจอปัญหาหนักๆ ที่มาทุกๆ สัปดาห์

ขอบคุณน้องลิ Little & her organs ที่แม้จะไม่สบาย ยังดูแลเบื้องหลังเสมอมา พวกพี่ที่ทำเป็นแค่งานวิชาการ อย่างอื่นทำไม่เป็นเลย ได้น้องนี่แหละ ดูแลมาจนถึงทุกวันนี้

ขอบคุณอาจารย์ Nakorn - Core Physiology ที่ก่อตั้งจักรวาลนี้ขึ้นมา และคอยให้คำปรึกษาด้านวิชาการมาโดยตลอด รวมทั้งตามแก้ปัญหาต่างๆ ให้พวกหนูมาโดยตลอดค่ะ

นี่คือ Mesenchymal cell หนึ่งในสุดยอดเซลล์หายาก ที่ซ่อนอยู่ตามไขกระดูก, เนื้อเยื่อเกี่ยวกัน, เนื้อเยื่อไขมัน มันคือต้นกำ...
21/09/2025

นี่คือ Mesenchymal cell หนึ่งในสุดยอดเซลล์หายาก ที่ซ่อนอยู่ตามไขกระดูก, เนื้อเยื่อเกี่ยวกัน, เนื้อเยื่อไขมัน มันคือต้นกำเนิดเซลล์ที่เคลื่อนที่ได้ ซึ่งมะเร็งอยากที่จะเป็นเจ้านี่มากๆ


ถ้าคุณเคยดูภาพยนตร์ที่มีช่วงที่พวกตัวร้ายพยายามตามหาพลังมืดในอารยธรรมโบราณที่หลับใหลอยู่ในดินแดนนั้น

บรรยากาศของมะเร็งจะใกล้เคียงมากเลยค่ะ


เซลล์มะเร็งที่แออัดอยู่ในก้อน ขาดทรัพยากรในการใช้ชีวิตมาก บีบให้ตัวเองต้องรอด ต้องแกร่ง หนึ่งในสิ่งที่มันพยายามค้นหาคือ

หาวิธีปลดผนึกตัวเอง ให้กลายสภาพเป็น Mesenchymal cell ให้ แม้ชั่วคราวก็ยังดี ซึ่งการจะทำได้นั้น ต้องเปิดใช้งานรหัสบน DNA หลายจุดเลยค่ะ ซึ่งไม่ได้ทำกันง่ายๆ

จึงเป็นที่มาว่า กว่าจะเข้าสู่ระยะลุกลาม ใช้เวลาพอควร เพราะมะเร็งมันพยายามหาวิธีปลดล็อกสกิลนี้ค่ะ


ดังนั้นอย่าให้มันเจอวิธีนี้ค่ะ ชิงป้องกันก่อน
✅ ควบคุมน้ำหนัก เพราะความอ้วน เชื่อมโยงกับมะเร็งหลายชนิด ที่มีกลไกผ่านฮอร์โมนจากเซลล์ไขมัน เช่น เต้านม, ลำไส้ใหญ่
✅ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เอาให้ได้ในระดับปานกลาง (รู้สึกเหนื่อย) ป้องกันการเกิดมะเร็ง และป้องกันตอนเป็นมะเร็งได้ทุกระยะ
✅ หลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็ง: งดบุหรี่, งดสุรา, ลดอาหารทอดจนไหม้เกรียม, ลดเนื้อแปรรูป
✅ เพิ่มการกินเส้นใยมากขึ้น จากผัก ผลไม้ (เน้นผลไม้ที่หวานน้อย)
✅ ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
✅ ตรวจคัดกรองมะเร็งพื้นฐาน เช่น เต้านม (Mammogram/อัลตราซาวด์), ปากมดลูก (Pap smear/HPV DNA), ลำไส้ใหญ่ (ส่องกล้อง) ในเชิงรายละเอียดจะมากล่าวภายหลังค่ะ

มีคำถามที่น่าสนใจถามมาค่ะว่า มะเร็งอวัยวะใดก็ตาม มีต้นกำเนิดเป็นเซลล์ของอวัยวะนั้นๆ มักจะเป็นเซลล์ที่เคลื่อนที่ไม่ได้ ยึ...
20/09/2025

มีคำถามที่น่าสนใจถามมาค่ะว่า มะเร็งอวัยวะใดก็ตาม มีต้นกำเนิดเป็นเซลล์ของอวัยวะนั้นๆ มักจะเป็นเซลล์ที่เคลื่อนที่ไม่ได้ ยึดอยู่กับที่ แล้วทำไมพอกลายเป็นมะเร็งแล้ว มันกลับเคลื่อนที่ลุกลามได้ อย่างกับเม็ดเลือดขาวเลย?​


จะตอบคำถามนี้ได้ อาจจะต้องย้อนไปที่
ต้นกำเนิดของเซลล์ทั้งหมดก่อนค่ะ

เซลล์ทั้งร่างกายเรา มีต้นกำเนิดมาจากเนื้อเยื่อ
สมัยที่ยังเป็นทารกในครรภ์ 3 ตระกูลค่ะ (แบ่งแบบคร่าวๆ นะคะ)


1️⃣ ชั้นเปลือก (Ectoderm)
2️⃣ ชั้นกลาง (Mesoderm)
3️⃣ ชั้นใน (Endoderm)

โดยมะเร็งส่วนใหญ่มักจะมีต้นกำเนิดมาจาก กลุ่มเซลล์เยื่อบุ (Carcinoma) ซึ่งมักจะอยู่ในตระกูล Ectoderm กับ Endoderm

ส่วนชั้นกลาง (Mesoderm) มีเซลล์ต้นกำเนิดที่สำคัญมาก
ชื่อว่ามีเซนไคม์ (Mesenchymal cell) ดังภาพขวาค่ะ


เซลล์นี้คือตัวต้นขั้วของเหล่าเนื้อเยื่อเกี่ยวกันทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นเซลล์สร้างคอลลาเจน (Fibroblast), เซลล์สร้างกระดูก (Osteoblast) และตระกูลเม็ดเลือดทั้งหมด

ด้วยเหตุนี้ เซลล์ตระกูลนี้ มักมีความสามารถในการเคลื่อนที่ได้ค่ะ ตัวอย่างเช่นเม็ดเลือดขาวไงคะ


เซลล์กลุ่มนี้แหละค่ะ
คือเซลล์ที่เหล่ามะเร็งใฝ่ฝัน


มะเร็งที่เจริญอยู่ภายใต้สังคมแออัดและขาดแคลนทุกสิ่ง ต่างแข่งกันเอาชีวิตรอด นอกจากจะต้องถึกทนขึ้นแล้ว ต้องพยายามหาวิธีขุดความสามารถที่ซ่อนใน DNA เอามาใช้ “หนี” จากสภาพแออัดให้ได้

ทำให้เมื่อปล่อยให้มะเร็งมันโตได้จนถึงจุดหนึ่ง ความแออัดโหดร้ายจะบีบให้เกิดการแข่งขันจนมันค้นพบ “การแปลงร่างเป็นเซลล์เมเซนไคม์ชั่วคราว”
(Epithelial to mesenchymal transition: EMT)


ด้วยวิธีนี้แหละค่ะ มันจะปรับร่างตัวเองให้เต็มไปด้วย ‘โครงกระดูกเซลล์’ คล้ายเม็ดเลือดขาว ย่อยเหล่าโปรตีนกาวที่ยึดติดมันกับเนื้อเยื่อเดิมที่แออัด เปิดใช้งานน้ำย่อย MMP ไล่ย่อยเส้นใยที่ขวางหนา

แล้วในที่สุดกลายเป็นมะเร็งที่มีสถานะเป็น “เซลล์เมเซนไคม์ชั่วคราว” ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ หลุดออกจากก้อนได้ และเข้าสู่กระแสเลือดไปหลบที่ใหม่ได้ค่ะ


ก่อนที่จะให้มันฟูมฟักไปถึงขั้นนั้น ดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ
✅ ควบคุมน้ำหนัก เพราะความอ้วน เชื่อมโยงกับมะเร็งหลายชนิด ที่มีกลไกผ่านฮอร์โมนจากเซลล์ไขมัน เช่น เต้านม, ลำไส้ใหญ่
✅ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เอาให้ได้ในระดับปานกลาง (รู้สึกเหนื่อย) ป้องกันการเกิดมะเร็ง และป้องกันตอนเป็นมะเร็งได้ทุกระยะ
✅ หลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็ง: งดบุหรี่, งดสุรา, ลดอาหารทอดจนไหม้เกรียม, ลดเนื้อแปรรูป
✅ เพิ่มการกินเส้นใยมากขึ้น จากผัก ผลไม้ (เน้นผลไม้ที่หวานน้อย)
✅ ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
✅ ตรวจคัดกรองมะเร็งพื้นฐาน เช่น เต้านม (Mammogram/อัลตราซาวด์), ปากมดลูก (Pap smear/HPV DNA), ลำไส้ใหญ่ (ส่องกล้อง) ในเชิงรายละเอียดจะมากล่าวภายหลังค่ะ

NK cell กำลังปักแขนเทียม ไปที่เซลล์มะเร็งแล้วหลั่งพิษชื่อ Perforin เจาะรู เพื่อนำพิษ Granzyme เข้าไปเปิดระบบทำลายตัวเองข...
19/09/2025

NK cell กำลังปักแขนเทียม ไปที่เซลล์มะเร็ง
แล้วหลั่งพิษชื่อ Perforin เจาะรู เพื่อนำพิษ Granzyme
เข้าไปเปิดระบบทำลายตัวเองของเซลล์มะเร็งให้ทำงานเอง

แล้วจากไปแบบไม่สนใจ
เพราะมะเร็งนั้นก็จะเข้าสู่โหมดย่อยตัวเอง
หายไปตลอดกาล

“เจ้าน่ะได้ตๅยไปแล้ว”


อยากให้ NK cell ทำแบบนี้เก่งๆ
✅ นอนหลับให้เพียงพอ: ช่วย boost ความสามารถของ NK cell ให้ทำงานเต็มที่
✅ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควรออกถึงในระดับที่เหนื่อย
✅ รักษาสุขภาพจิต เพราะภาวะเครียดเรื้อรัง จะมี cortisol สูงลอย กดการทำงาน NK cell
✅ คุมโรคเรื้อรังให้ดี โดยเฉพาะอ้วนและเบาหวาน เพราะน้ำตาลที่สูงลอย เปลี่ยนเป็นสารพิษชื่อ AGEs ขวางการทำงาน NK cell

สรุปแบบกระชับว่ามะเร็งมันหนีภูมิคุ้มกันได้ยังไงบ้าง1️⃣ ดึงเม็ดเลือดขาว (ฝั่งเรา) สายยับยั้งภูมิคุ้มกันไปอยู่กับมัน🥀 Treg...
18/09/2025

สรุปแบบกระชับว่า
มะเร็งมันหนีภูมิคุ้มกันได้ยังไงบ้าง


1️⃣ ดึงเม็ดเลือดขาว (ฝั่งเรา) สายยับยั้งภูมิคุ้มกันไปอยู่กับมัน
🥀 Treg: หลั่งสาร IL-10 กดภูมิได้รุนแรงสุด
🥀 MDSC: หลั่งสารยับยั้ง และช่วยเซลล์มะเร็งหลายอย่าง
🥀 M2d: หลั่งสารยับยั้ง และช่วยสร้างหลอดเลือดให้

2️⃣ ยื่นก้านชู ‘ปิดสวิตซ์’ (Immune checkpoint) ใส่เม็ดเลือดขาว CD8+ T cell และ NK cell ที่มุ่งหน้าเข้ามาจัดการมัน

3️⃣ เร่งเผาผลาญกลูโคสแบบหมักกรดแลคติก (Warburg effect) เพื่อสร้างทะเลกรด ลดการทำงานของเม็ดเลือดที่เข้ามา และตัดเสบียง

4️⃣ พรางตัวโดยการลดการสร้างก้านชูโปรตีนตัวเอง (MHC I) ทำให้เม็ดเลือดขาวเข้ามาเจอแล้วดูไม่ออก

5️⃣ ถ้าจวนตัวแล้ว จะมีโปรตีน CD47 “Don’t eat me” ส่งสัญญาณไปให้เม็ดเลือดขาวไม่อยากทำร้าย

6️⃣ ส่งสาร semaphorins ใส่เม็ดเลือดขาว monocyte ที่จะมุ่งมาทำร้าย ให้แปลงร่างเป็น M2d มาอยู่ช่วย มะเร็งจะเลี้ยงดูเอง


แต่กว่ามะเร็งจะแสดงศักยภาพเต็มที่ มักจะเป็นช่วงที่มันเติบโตจนเสถียรสร้างแวดล้อมมะเร็งได้แล้ว ในระยะแรก ๆ กลไกเหล่านี้ยังอ่อนมากค่ะ

ดังนั้นอย่าลืมดูแลตัวเองสม่ำเสมอนะคะ พักผ่อนเพียงพอ เพิ่มพลังเม็ดเลือดขาว, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เท่านี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้เยอะแล้ว และแม้จะเป็นแล้วก็เพิ่มพลังต่อสู้ได้เยอะเลยค่ะ

🌸 เซลล์ทุกเซลล์มีระบบ ‘การทำลายตัวเอง’ (Programmed cell death) ฝังตัวเป็นเครือข่ายวงจรเคมีซับซ้อน ที่จะกระตุ้นก็ต่อเมื่อ...
17/09/2025

🌸 เซลล์ทุกเซลล์มีระบบ ‘การทำลายตัวเอง’ (Programmed cell death) ฝังตัวเป็นเครือข่ายวงจรเคมีซับซ้อน ที่จะกระตุ้นก็ต่อเมื่อมีเงื่อนไขจำเพาะ

เงื่อนไขที่ว่าอาจจะเป็น เมื่อเซลล์รับรู้ถึง stress รุนแรงกว่าจะทนไหว หรือ รับรู้ว่าตอนนี้ DNA เสียหายมากเกินไปแล้ว


🌷 หรืออาจจะโดนสั่งจากภายนอกโดยเม็ดเลือดขาวนักฆ่ๅอย่าง NK cell หรือ CD8+ T cell ที่พิพากษาแล้วว่า ‘คุณมีเชื้อโรคซ่อนอยู่’ ‘คุณเป็นมะเร็ง’ มันก็จะส่ง ‘Granzyme’ เข้ามากดสวิตซ์ด้วยตัวเอง


🌼 และเมื่อกระบวนการเริ่มต้น เซลล์จะปลุกน้ำย่อย ย่อย DNA, ย่อยโปรตีน จนโครงกระดูกเซลล์ไม่สามารถคงรูปร่างเซลล์ได้อีกต่อไป ปูดออกมาเป็นกระเปาะมากมาย อย่างกับพวงองุ่น

ก่อนที่กระเปาะเหล่านั้น จะหลุดเป็นชิ้นส่วนออกไป ลอยไปของเหลวในจักรวาลร่างกายของเรา อย่างสงบ รอเทศกิจเก็บซากเซลล์ (Macrophage) มาเก็บกินไป


🌺 หนึ่งในผู้ที่แหกกฎธรรมชาตินี้ คือเซลล์มะเร็งค่ะ

Address

Jamestown

Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Quantia posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Share