เว็บไซต์คืออะไร?

https://www.facebook.com/208242559250230/

บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊

หน้าหลัก
ประเทศไทย
ระยอง
บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊

บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊

จำหน่าย/รับตัวแทนจำหน่าย ครีมน้ำผึ้งป่า&มาส์กลูกผึ้ง
------------------------------------
สอบถาม Inbox หรือ Add line มาที่ ==> ID : allau09 ได้เลยค่า แม่ค้าใจดีมว๊าก ไม่วีน ไม่เหวี่ยงจ้า^^

ช่วยกันกด LIKE แฟนเพจให้เก๊าด้วยน้าาาาาาา

17/08/2025

💤 ฝึกลูกนอนยาว...เริ่มเมื่อไหร่ดี?

ช่วงวัยที่เหมาะสมในการฝึก:
👶 อายุ 4-6 เดือน

✅️ช่วงนี้ระบบการนอนเริ่มพัฒนา เด็กสามารถนอนต่อเนื่องได้นานขึ้น
✅️เริ่มสร้าง “กิจวัตรก่อนนอน” เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่าถึงเวลานอนแล้ว

🌙 เทคนิค “ฝึกลูกนอนยาว” อย่างอ่อนโยน
1. กำหนดเวลาเข้านอนให้สม่ำเสมอ
👉 เข้านอนและตื่นเวลาเดิมทุกวัน จะช่วยให้ร่างกายจดจำเวลา

2. สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
🕯️ ปิดไฟ เปิดเสียงกล่อมเบา ๆ หรือเปิดพัดลมเสียงคงที่ (white noise)

3. งดสิ่งกระตุ้นก่อนนอน
📱 ไม่เล่นจอ งดของหวานหรือกิจกรรมที่ตื่นเต้นใกล้เวลาเข้านอน

4. ไม่ให้นอนกลางวันนานเกินไป
🕑 ถ้านอนกลางวันมาก ลูกจะไม่ง่วงตอนกลางคืน

5. อยู่ข้าง ๆ อย่างอุ่นใจ
🤱 เมื่อลูกงอแงกลางคืน ให้ปลอบอย่างอ่อนโยน แต่ไม่เปิดไฟแรงหรืออุ้มเล่น

❤️ จำไว้ว่า...
ไม่ต้องเร่งรีบหรือเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น
“การฝึกนอน” ต้องใช้เวลา ความสม่ำเสมอ และความเข้าใจในตัวลูก

Cr. บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊

#ฝึกลูกนอนยาว #เลี้ยงลูกเชิงบวก #พัฒนาการเด็ก

08/08/2025

8.8 ไปตุนนมลูก
แถมของเล่นกัน

30/07/2025

🍼 “ฝึกเลิกขวดนม” ทำยังไงไม่ให้ลูกงอแง?

การเลิกขวดนมเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในพัฒนาการของเด็กวัยเตาะแตะ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงฟันผุ พูดไม่ชัด และติดขวดนมจนกินข้าวได้น้อย
แม่อออุ๊มีเทคนิคที่ใช้ได้จริงมาฝากค่ะ 💡

📌 .......เลิกขวดนมเมื่อไรดี?
✅️แนะนำเริ่ม ฝึกเลิกขวดนมช่วงอายุ 12-18 เดือน
✅️ไม่ควรเกิน 2 ขวบ เพื่อพัฒนาการการพูด และลดการดูดติดจังหวะ

💡 ........เทคนิคเลิกขวดนมแบบค่อยเป็นค่อยไป:
1. เริ่มจาก "มื้อกลางวัน" ก่อน
ให้ดื่มนมจากแก้วหัดดื่ม (sippy cup) หรือหลอด แทนขวด มื้ออื่นยังใช้ขวดได้ → ลดความเครียดลูก

2. เปลี่ยนขวดเป็น "แก้วลายน่ารัก"
เลือกแก้วที่ลูกเลือกเอง / มีตัวการ์ตูนที่ชอบ กระตุ้นให้รู้สึกว่า “การดื่มจากแก้ว = สนุก”

3. ค่อย ๆ ลดปริมาณนม
ลดนมช่วงก่อนนอนก่อน จาก 8 ออนซ์ → 6 → 4 → ไม่ต้องดื่ม ใช้วิธี “กอด + เล่านิทาน” แทนการดูดนมก่อนหลับ

4. เบี่ยงเบนความสนใจ
หลังตื่นนอนหรือก่อนนอนแทนที่จะให้ขวด → พาแปรงฟัน ร้องเพลง เล่นเบา ๆ ทำให้ “ลืมขวด” โดยไม่ฝืนใจเกินไป

5. หมั่นชื่นชมเมื่อลูกไม่ร้องหาขวด
เช่น “วันนี้หนูดื่มแก้วเก่งมากเลยลูก!” ใช้สติกเกอร์รางวัล หรือคำชมบ่อย ๆ เพื่อเสริมแรงใจ

🚫 ........สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
❌️อย่าหักดิบแบบฉับพลัน → ลูกอาจรู้สึกไม่ปลอดภัย
❌️อย่าลงโทษเมื่อลูกร้องหาขวด → ควรใช้ความเข้าใจแทน

🎀 สรุป “เลิกขวดไม่ต้องรีบ ไม่ต้องเปรียบเทียบกับบ้านอื่น แค่ใจเย็น อดทน และให้ลูกรู้ว่าแม่อยู่ตรงนี้เสมอ”

Cr. บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊

#เลิกขวดนม #แม่อออุ๊แนะนำ #บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊ #เทคนิคเลี้ยงลูก #เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูกตามหมอ #ฝึกเลิกขวดนม

23/07/2025

🎈 วัยทองในเด็กเล็ก (Terrible Two) คืออะไร?

ช่วงอายุ 1.5 – 3 ขวบ ลูกเริ่มมีความคิดของตัวเอง อยากทำอะไรเอง แต่ยังสื่อสารไม่ได้ดีพอ จึงมีการแสดงออกด้วยอารมณ์ เช่น งอแง กรี๊ด โวยวาย ขัดใจง่าย

🧠 เพราะเด็กกำลัง:

📍เรียนรู้การเป็นอิสระ
📍สื่อสารไม่คล่อง ยังจัดการอารมณ์ไม่เป็น
📍ทดสอบขอบเขตของพ่อแม่

🧡 วิธีรับมือกับ "วัยทองวัยเตาะแตะ"

1. ตั้งสติไว้ก่อน!
อย่าเพิ่งดุลูกทันที พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองก่อน

2. เข้าใจ ไม่ใช่ต่อต้าน
บอกลูกว่า “แม่เข้าใจว่าหนูโกรธ / เสียใจ / ไม่พอใจนะลูก”

3. เบี่ยงเบนความสนใจ
พาลูกเปลี่ยนบรรยากาศ เช่น เล่นของเล่น อ่านนิทาน หรือเปลี่ยนห้อง

4. เลือกให้ลูกตัดสินใจเอง
เช่น “วันนี้จะใส่เสื้อสีแดงหรือสีเหลืองดีคะ?” เด็กจะรู้สึกว่าได้ควบคุมตัวเอง

5. ย้ำขอบเขตอย่างอ่อนโยน
“แม่รู้ว่าหนูอยากเล่น แต่ตอนนี้ถึงเวลาเก็บของแล้วนะลูก”

"วัยทองไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้าเรากอดลูกด้วยความเข้าใจ 💛
#เลี้ยงลูกอย่างเข้าใจ #แม่อออุ๊แชร์ประสบการณ์ #บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊ #วัยทองในเด็ก #วัยทองสองขวบ

Cr. บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊

19/07/2025

👶🍲 ปรุงอาหารอย่างไรให้ปลอดภัย? สำหรับเจ้าตัวเล็กวัย 0-6 ขวบ

✅️การปรุงอาหารให้เด็กเล็ก ไม่ใช่แค่ทำให้อร่อย แต่ต้อง “ปลอดภัย” และ “เหมาะกับวัย” ด้วยนะคะแม่ ๆ แนะนำเครื่องปรุงสำหรับลูกน้อยกันค่ะ 👇

‼️ทำเองดีที่สุด เพราะเราควบคุมทุกอย่างได้‼️

📌 ปรุงน้อย แต่ได้สุขภาพมาก
#แม่อออุ๊แนะนำ #ข้าวกล่องเด็ก #เมนูเด็ก0ถึง6ขวบ #อาหารเด็กปลอดภัย #เลี้ยงลูกแบบเข้าใจ
#บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊

Cr. บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊

18/07/2025

🌟 ฝึกเลิกแพมเพิส ทำได้ง่าย ถ้าเริ่มอย่างเข้าใจ 🌈

ช่วงวัย 1.5 – 3 ขวบ เป็นช่วงเหมาะในการฝึกเลิกแพมเพิส เพราะเด็กเริ่มควบคุมการขับถ่ายได้มากขึ้น ลองเริ่มจาก...

✨️✨️ 5 เทคนิคฝึกเลิกแพมเพิสอย่างอ่อนโยน✨️✨️

1. สังเกตสัญญาณลูกพร้อม
✔️ พูดบอกว่า “ปวดฉี่”
✔️ ฉี่-อึเป็นเวลา
✔️ ไม่ชอบใส่แพมเพิสแล้ว

2. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
✔️ กระโถน / ที่รองชักโครก
✔️ กางเกงชั้นในผ้านุ่มใส่สบาย
✔️ หนังสือ/ของเล่นเกี่ยวกับเข้าห้องน้ำ

3. กำหนดเวลาเข้าห้องน้ำ
✔️ พาเข้าทุก 1-2 ชม.
✔️ ก่อนนอน / หลังตื่นนอน

4. ชมเชยทุกครั้งที่ทำได้
✔️ ไม่ต้องรางวัลใหญ่ แค่คำว่า “เก่งมากลูก!” ก็เพียงพอ ❤️

5. อย่าดุถ้ามีอุบัติเหตุ
✔️ ปล่อยให้เป็นประสบการณ์เรียนรู้
✔️ ปลอบใจและอธิบายให้เข้าใจ

💡 คำแนะนำเพิ่มเติม 💡

❌ ️ไม่ควรเริ่มตอนมีการเปลี่ยนแปลง เช่น เพิ่งเข้าเนิร์สเซอรี่ หรือมีน้องใหม่
✅ ️ความสม่ำเสมอสำคัญมาก

✨️ใช้เวลา 2–4 สัปดาห์ (หรือมากกว่านั้น แล้วแต่เด็ก)✨️

17/07/2025

🧸 ของเล่นเสริมพัฒนาการที่แม่อยากแนะนำ (0-6 ขวบ)

ของเล่นไม่ใช่แค่ความสนุก แต่ยังช่วยเสริมพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ และสมองของลูกน้อยได้มากกว่าที่คิด!
แม่อออุ๊ขอแนะนำของเล่นเด็ด ๆ แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้ค่ะ:

👶 วัย 0-1 ปี: “สัมผัสและสำรวจโลก”
> ช่วงวัยที่ลูกใช้ประสาทสัมผัสอย่างเต็มที่

✅ ของเล่นที่แนะนำ:
🔸️โมบายแขวนเตียง – กระตุ้นการมองตาม
🔸️ของเล่นเขย่า – ฝึกการฟัง
🔸️ยางกัดรูปสัตว์ – บรรเทาการคันเหงือก + ฝึกจับ
🔸️ผ้าห่มมีเสียงกรอบแกรบ – กระตุ้นสัมผัส

🧒 วัย 1-2 ปี: “เริ่มจับ เริ่มเดิน เริ่มพูด”
> ลูกเริ่มอยากเล่นเอง ถือเอง ลากเอง

✅ ของเล่นที่แนะนำ:
🔸️บล็อกไม้ขนาดใหญ่ – ฝึกกล้ามเนื้อมือ
🔸️ของเล่นลากจูง – เสริมการเดินทรงตัว
🔸️หนังสือภาพคำศัพท์ – กระตุ้นภาษาพื้นฐาน
🔸️ถ้วยซ้อน/ของเล่นหยอด – ฝึกสมาธิและมือสัมพันธ์

👧 วัย 2-4 ปี: “วัยเลียนแบบ + เล่นบทบาทสมมุติ”
> เป็นวัยแห่งจินตนาการและเริ่มสร้างเรื่องราว

✅ ของเล่นที่แนะนำ:
🔸️ชุดของเล่นครัว/ร้านขายของ – ฝึกการพูด สื่อสาร
🔸️จิ๊กซอว์ภาพง่าย ๆ – ฝึกตรรกะ
🔸️ดินน้ำมัน/แป้งโดว์ – เสริมกล้ามเนื้อมือและความคิดสร้างสรรค์
🔸️ชุดเครื่องมือช่าง/คุณหมอ – ส่งเสริมบทบาทสมมุติ

👧🧒 วัย 4-6 ปี: “คิดเอง เล่นเอง วางแผนได้”
> ลูกเริ่มเข้าสังคม คิดเป็นขั้นตอน และใช้ภาษาเก่งขึ้น

✅ ของเล่นที่แนะนำ:
🔸️เกมกระดานเบื้องต้น – ฝึกกติกา รอคิว
🔸️ตัวต่อเลโก้/บล็อกเล็ก – เสริมการวางแผน
🔸️สมุดระบายสี/สติกเกอร์ – ฝึกสมาธิและกล้ามเนื้อมือ
🔸️หนังสือนิทานมีบทพูด – ฝึกการเล่านิทาน/เล่นคนเดียว

💡 เคล็ดลับจากแม่อออุ๊:

✅ “ของเล่นแพงไม่เท่าของเล่นที่เล่นด้วยกัน”

✅ “เล่นกับลูกวันละ 15 นาที ดีกว่าซื้อของเล่นใหม่ทุกวัน”

CR. บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊

16/07/2025

📵 “งดจอก่อน 2 ขวบ” – ไม่ใช่แค่คำเตือน แต่คือของขวัญพัฒนาการที่ดีที่สุด

❌️📱🖥 ทำไมเด็กเล็กไม่ควรใช้จอ (มือถือ, แท็บเล็ต, ทีวี) ก่อน 2 ขวบ❓️

🧠สมองของเด็กเล็กในช่วง 0-2 ขวบ พัฒนาอย่างรวดเร็ว ผ่านการเล่น สัมผัส และปฏิสัมพันธ์กับคนจริง ๆ
การให้เด็กอยู่กับจอมากเกินไป ส่งผลเสียมากกว่าที่หลายคนคิด ❌

🚫 ผลเสียจากการเลี้ยงลูกด้วยจอ
1. พัฒนาการล่าช้า (พูดช้า พูดไม่เป็นประโยค)..เด็กที่ดูจอมาก มักพูดช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน เพราะไม่มีการโต้ตอบกับจอ → สมองไม่ฝึกใช้งานภาษาแบบโต้กลับ

2. สมาธิสั้น หุนหันง่าย..จอมีภาพและเสียงตัดฉับไว ทำให้สมองเด็กคุ้นชินกับ “ความกระตุ้นเร็ว” ส่งผลให้เด็กขาดสมาธิในกิจกรรมธรรมดา เช่น การฟังนิทานหรือเล่นของเล่นเงียบ ๆ

3. ติดจอ ขาดการเข้าสังคม..เด็กที่อยู่กับจอบ่อย มักไม่รู้จักสังเกตสีหน้า น้ำเสียง หรือการเข้าสังคมจริง เมื่อโตขึ้นอาจมีปัญหาการสื่อสารกับคนอื่น

4. อารมณ์รุนแรง ไม่สามารถควบคุมตนเอง..เมื่อโดนแย่งจอ → งอแง กรี๊ดง่าย เพราะไม่ได้ฝึกจัดการอารมณ์แบบค่อยเป็นค่อยไป เด็กบางคนร้องไห้ตลอดวันเพราะ “ถอนจากจอ”

5. ร่างกายอ่อนแอ เคลื่อนไหวน้อย..เด็กวัยนี้ควรได้คลาน เดิน วิ่ง เล่น แต่การดูจอทำให้ร่างกายไม่พัฒนาเต็มที่ อาจตามมาด้วยโรคอ้วน เดินช้า หรือกล้ามเนื้อไม่แข็งแรง

💡 ควรทำอย่างไร❓️

✅ “เล่นแทนดู”

ใช้เวลา 15-30 นาที เล่นของเล่นที่เหมาะสมกับวัย (ไม่ต้องแพง)

✅ “พูดคุยและอ่านนิทาน”

แม้ลูกยังพูดไม่ได้ แต่การพูดกับลูกบ่อย ๆ คือการวางรากฐานภาษาที่ดีที่สุด

✅ “ออกนอกบ้าน สูดอากาศบ้าง”

พาลูกเดินเล่น ดูต้นไม้ สัมผัสดิน หิน ใบไม้ สร้างโลกของจริงที่ดีกว่าจอ

📌 สรุปง่าย ๆ:

> ✨ เด็ก 0-2 ขวบควร งดจอทุกประเภท
✨ เด็ก 2-5 ขวบควรจำกัดไม่เกิน วันละ 1 ชั่วโมง พร้อมมีผู้ใหญ่ร่วมดูและอธิบาย
✨ การเล่นกับลูกวันละนิด ดีกว่าปล่อยให้จอเลี้ยงลูกทั้งวัน

Cr.บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊

15/07/2025

‼️เลี้ยงลูกโดยไม่ตะคอกเลย ทำได้จริงเหรอ❓️

คำตอบคือ: “ทำได้จริง แต่ต้องฝึกและทำความเข้าใจทั้งตัวเราและลูก”
มาดูกันว่าทำไมแม่หลายคนจึงยังตะคอก และถ้าอยากหยุด ควรเริ่มอย่างไร 💬

🧠 ทำไมแม่ถึงตะคอก?

🔸️1. เหนื่อยล้า สะสมความเครียด
→ เวลาลูกไม่ฟังหรือดื้อ ก็จะระเบิดง่าย

🔸️2. ขาดเครื่องมือในการสื่อสาร
→ บางครั้งแม่ไม่ได้อยากตะคอก แต่ไม่รู้จะพูดอย่างไรให้ลูกฟัง

🔸️3. เข้าใจผิดว่าเสียงดัง = ลูกจะเชื่อฟัง
→ แต่ความจริงคือ ลูกอาจ “กลัว” แต่ไม่ได้ “เข้าใจ”

🌱 แล้วถ้าไม่ตะคอก เราจะเลี้ยงลูกยังไง❓️

✅ 1. ใช้ “เสียงหนักแน่น” แทน “เสียงดัง”
> แม่ไม่จำเป็นต้องตะคอก แต่สามารถใช้ “น้ำเสียงจริงจัง”
เช่น “แม่ไม่ยอมให้ลูกตีใครนะคะ” หรือ “ตอนนี้แม่กำลังไม่พอใจ ขอแม่พักก่อนนะ”

✅ 2. สื่อสารด้วยคำสั้น ชัดเจน
> เด็กวัยเล็กเข้าใจคำสั่งง่าย ๆ เช่น “หยุดก่อนค่ะ” “รอก่อนนะ” “ยังไม่ให้ค่ะ” มากกว่าการบ่นยาว ๆ

✅ 3. ให้ทางเลือก
> แทนที่จะบอกว่า “จะกินไม่กินก็เรื่องของเธอ!” → เปลี่ยนเป็น
“ลูกจะเลือกกินข้าวหรือน้ำแกงก่อนดี?”
เด็กจะรู้สึกว่าเขาควบคุมได้ และลดความดื้อ

✅ 4. พักตัวเองเมื่อรู้ว่ากำลังจะระเบิด
> ถ้าแม่กำลังจะตะคอก ให้เดินออกมาก่อน หรือหายใจลึก ๆ 3 ครั้ง
ลูกจะได้เห็นว่า “แม้แต่แม่ก็จัดการอารมณ์ตัวเองได้”

✅ 5. กอด สบตา พูดด้วยความเข้าใจ
> บางครั้งลูกดื้อเพราะเขาต้องการความสนใจ ถ้าเราหยุดแล้ว “มองตา”
แล้วพูดว่า “หนูเหนื่อยใช่ไหม แม่อยู่ตรงนี้นะ”
ลูกจะเรียนรู้ว่า ไม่ต้องใช้พฤติกรรมลบเพื่อเรียกรัก

💬 สรุป:
> การเลี้ยงลูกโดยไม่ใช้การตะคอก ไม่ใช่การตามใจ
แต่คือการ “ฝึกตัวเรา” ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยทางอารมณ์ให้ลูก
เมื่อเรานิ่ง...ลูกจะค่อย ๆ ซึมซับความเข้าใจ และเชื่อฟังจากใจจริง ไม่ใช่เพราะกลัวเสียงดัง💖

Cr.บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊

14/07/2025

🏡5 เทคนิคจัดบ้านให้ลูกเล่นปลอดภัย โดยเฉพาะสำหรับเด็กวัยอนุบาลหรือเล็กกว่า ที่เริ่มเดิน คลาน หรืออยากสำรวจทุกมุมของบ้าน 👶🏠✨

✅ 1. กันมุมเฟอร์นิเจอร์ – ป้องกันหัวโน
> เด็กวัยซนมักวิ่งชนโดยไม่รู้ตัว มุมโต๊ะ เก้าอี้ หรือขอบเตียงอาจเป็นอันตราย

📍ใช้ ยางกันมุม หรือ โฟมติดมุมโต๊ะ
📍เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีมุมโค้งมนไว้ตั้งแต่ต้น

✅ 2. เก็บสายไฟ ปลั๊ก และเครื่องใช้ไฟฟ้าให้มิดชิด
> สายไฟห้อยหรือปลั๊กที่เปิดไว้ อาจทำให้ลูกถูกไฟดูดหรือสะดุดล้ม

📍ติด ปลั๊กนิรภัยสำหรับเด็ก
📍มัดสายไฟให้แน่นหรือใช้กล่องซ่อนสายไฟ
📍ไม่วางเครื่องใช้ไฟฟ้าตรงจุดที่ลูกเอื้อมถึง

✅ 3. แยกโซนเล่นของลูกให้ชัดเจน
> สร้างพื้นที่เฉพาะสำหรับเล่น เพื่อความปลอดภัยและฝึกวินัย

📍ใช้ พรมกันลื่น หรือแผ่นโฟมรองพื้นนิ่ม ๆ
📍วางของเล่นในระดับที่ลูกหยิบถึงได้เอง
📍หลีกเลี่ยงของเล่นชิ้นเล็กเกินไป (ป้องกันการกลืน)

✅ 4. ล็อกตู้ ลิ้นชัก และห้องที่ไม่ควรเข้า
📍เด็กเล็กชอบเปิดสำรวจ โดยเฉพาะตู้ที่มีของอันตราย เช่น น้ำยาล้าง
📍ใช้ ตัวล็อกนิรภัย สำหรับตู้/ลิ้นชัก
📍ห้องครัว ห้องน้ำ หรือระเบียง ควรติดตั้ง ประตูล็อกพิเศษ

✅ 5. เก็บของตกแตก/ของแหลมคมให้พ้นมือเด็ก
เช่น แก้ว แจกัน มีด กรรไกร เข็ม หรืออุปกรณ์เครื่องเขียน
📍วางไว้ในตู้สูงหรือในกล่องที่ล็อกได้
📍ถ้าใช้ร่วมกันในบ้าน ให้จัด “มุมผู้ใหญ่” แยกจาก “มุมเด็ก”

🌟 ✨️เคล็ดลับเสริมจากแม่อออุ๊:
✨️อย่าลืม “ลองนั่งระดับลูก” แล้วมองรอบบ้านดูค่ะ จะเห็นสิ่งอันตรายที่ผู้ใหญ่มักมองข้าม

Cr. บ้านเลี้ยงรักของแม่อออุ๊