สวท.สุพรรณบุรี

สวท.สุพรรณบุรี สวท.สุพรรณบุรี
http://radio.prd.go.th/suphanburi

ให้บริการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยมีขั้นตอนการให้บริการ ดังนี้
1. หน่วยงานภาครัฐ/ภาคเอกชน/ประชาชน ส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารมายัง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสุพรรณบุรี ทางอีเมล์ [email protected] หรือ โทรประสานที่หมายเลข 0-3596-9714
2. ฝ่ายธุรการรับเรื่องและเสนอหนังสือต่อผู้บริหารสถานีฯ
3. ผู้บริหารสถานีฯ พิจารณามอบหมายงาน
4

. ดำเนินการประชาสัมพันธ์ทางช่องทางต่าง ๆ ของสถานี เช่น ทางรายการวิทยุ , เฟสบุ๊คเพจ วิทยุ8สุพรรณบุรี , กลุ่มไลน์เครือข่าย และ อื่น ๆ ตามความเหมาะสม

ให้บริการห้องบันทึกเสียงเพื่อการผลิตรายการวิทยุ หรือผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ โดยมีขั้นตอนการให้บริการ ดังนี้
1. หน่วยงานภาครัฐ/ภาคเอกชน/ประชาชน ส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์ใช้ห้องบันทึกเสียง มายังสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสุพรรณบุรี ทางอีเมล์ [email protected] หรือ โทรประสานที่หมายเลข 0-3596-9714
2. ฝ่ายธุรการ/ฝ่ายสื่อสารมวลชน รับเรื่องและตรวจสอบช่วงเวลาว่างของห้องบันทึกเสียง เพื่อลงนัด วัน-เวลา ที่จะเข้าใช้บริการ
3. แจ้งฝ่ายเทคนิคทราบ เพื่อเตรียมห้องและอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการให้บริการ

10/07/2025

“อาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา” งดขายเหล้า ยกเว้น 5 สถานที่

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2568 มีผลบังคับใช้ 10 พ.ค.2568 กำหนดว่า ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ยกเว้นการขายในกรณีดังต่อไปนี้

1.การขายในอาคารที่ให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ
2.การขายในสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ
3.การขายในสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ หรือบริเวณที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด โดยคำแนะนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
4.การขายในโรงแรม ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
5.การขายในสถานที่ซึ่งใช้จัดกิจกรรมพิเศษระดับชาติหรือนานาชาติ และมีคนจำนวนมาก ไปทำกิจกรรมร่วมกัน ตามรายชื่อสถานที่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด โดยคำแนะนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามที่ได้รับยกเว้น จะต้องจัดให้มีการคัดกรอง และมาตรการที่จำเป็น เพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ความปลอดภัยของประชาชน และการจำกัดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเด็ก และเยาวชน

#วันพระใหญ่ #วันอาสาฬหบูชา #วันเข้าพรรษา #ห้ามขายเหล้า #แอลกอฮอล์

10/07/2025
10/07/2025
10/07/2025
“เกษตร-พาณิชย์-แรงงาน” ผนึกกำลังรับมือผลผลิต กระจายผลไม้ ช่วยเหลือเกษตรกรไทยบทสรุปกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดการณ์ว่า ปี 2...
10/07/2025

“เกษตร-พาณิชย์-แรงงาน” ผนึกกำลังรับมือผลผลิต กระจายผลไม้ ช่วยเหลือเกษตรกรไทย
บทสรุป
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดการณ์ว่า ปี 2568 ผลผลิตลำไยจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 12% หรือประมาณ 1.06 ล้านตัน โดยจะกระจุกตัวช่วงเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2568 ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะล้นตลาด
ราคาตกต่ำ และปัญหาขาดแคลนแรงงานเก็บเกี่ยว จึงมีการประชุมวางแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเร่งกระจายผลผลิต ใช้กลไกสหกรณ์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาช่วยเพิ่มคุณภาพและรายได้ให้เกษตรกร พร้อมทั้งเสนอให้ผ่อนปรนการเคลื่อนย้ายแรงงานภาคตะวันออกสู่ภาคเหนือเพื่อช่วยเก็บผลผลิต ขณะที่ กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินมาตรการกระจายผลไม้ เตรียมผลักดันการส่งออกลำไยไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ร่วมมือกับห้างเอกชนช่วยรับซื้อผลไม้ไปจำหน่าย และจัดโครงการ “GO Food ส่งสุขให้ทุกรอยยิ้ม” ส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทยควบคู่กิจกรรมเพื่อสังคม โดยบริจาคทุนอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนตามจำนวนผลไม้
ที่ขายได้ ซึ่งโครงการจะดำเนินการถึง 31 ตุลาคม 2568 ขอเชิญชวนประชาชนร่วมอุดหนุนผลไม้จากเกษตรกรไทย บริโภคผลไม้ไทย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตล้นตลาด และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

รายละเอียด
(8 ก.ค. 68) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการผลผลิตลำไยคุณภาพ ครั้งที่ 1/2568 กล่าวว่า ในปี 2568 คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดสูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยผลผลิตจะออกกระจุกตัวในเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2568 อาจทำให้ผลผลิตลำไยล้นตลาดและราคาตกต่ำ หนึ่งในปัญหาที่สำคัญคือปัญหาขาดแคลนแรงงานในการเก็บเกี่ยวลำไยผลสดที่จะส่งผลกระทบต่อการเก็บเกี่ยว รวบรวม และกระจายผลผลิตออกจากแหล่งผลิต ซึ่งหากมีแนวทางการผ่อนปรน หรือมีมาตรการเป็นการเฉพาะให้เคลื่อนย้ายแรงงานจากภาคตะวันออกไปสู่ภาคเหนือให้มีความสะดวกโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย จะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเก็บเกี่ยว รวบรวม และกระจายผลผลิต จึงจำเป็นต้องประสานการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และ กระทรวงแรงงาน
จากปัญหาดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกันตลอดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ภาคการผลิตจนถึงการตลาด เพื่อเร่งกระจายผลผลิตออกจากแหล่งผลิตทั้งภายในและภายนอกประเทศ และใช้กลไกระบบสหกรณ์สนับสนุนการกระจายผลไม้ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการผลิตลำไยคุณภาพ จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดความมั่นคงในอาชีพเกษตรชาวสวนลำไยอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าโครงการนำร่องส่งเสริมการผลิตลำไยคุณภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ปี 2568 และรับฟังปัญหาจากสภาอาชีพเกษตรกร เพื่อนำข้อเสนอต่าง ๆ มาวางแผนบริหารจัดการลำไยในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างภาครัฐ และเกษตรกร
สำหรับการคาดการณ์ผลผลิตลำไย ปี 2568 ในภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน พะเยา แพร่ ลำปาง และลำพูน มีเนื้อที่ยืนต้น (พื้นที่ทั้งหมดของที่ดินที่ใช้ปลูกพืชยืนต้น เช่น ไม้ผล ไม้ยืนต้น) 1,243,784 ไร่ คาดการณ์ว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว โดยในปีนี้มีปริมาณผลผลิตลำไย 1,064,242 ตัน มากกว่าปี 2567 ที่มีปริมาณ 947,140 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 117,102 ตัน คิดเป็นร้อยละ 12.36 เป็นลำไยในฤดู 740,639 ตัน มากกว่าปี 2567 ที่มีปริมาณ 598,528 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 142,111 ตัน คิดเป็นร้อยละ 23.74 เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการติดดอกออกผล และจะเริ่มออกกระจุกตัวในเดือนกรกฎาคม ปริมาณ 225,006.13 ตัน คิดเป็นร้อยละ 30.38 และจะออกกระจุกตัวสูงสุดในเดือนสิงหาคม 2568 ปริมาณ 442,386.42 ตัน คิดเป็นร้อยละ 57.03 ผลผลิตเฉลี่ย ปี 2568 คือ 860 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าปี 2567 ที่มีผลผลิตเฉลี่ย 766 กิโลกรัมต่อไร่ เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นติดต่อกันเป็นเวลานานเอื้ออำนวยต่อการติดดอกออกผล

เร่งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ก.กลาโหม ส่งทหารช่วยเก็บลำไย
(9 ก.ค. 68 ) นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรกระจายผลไม้ภาคตะวันออกในช่วงปลายฤดู ที่ไม่สามารถส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านจากสถานการณ์การปิดด่านชายแดน โดยดำเนินการไปแล้วประมาณ 10,000 ตัน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การร่วมมือกับตลาดสด 13 แห่ง ระบายผลผลิตทุเรียน จับมือบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ซื้อมังคุด ลำไย สับปะรดภูแล นำไปผลิตอาหารและเครื่องดื่มจำหน่ายบนเครื่องบิน
จับมือบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ซื้อผลไม้ไปจำหน่ายในห้างแม็คโคร และโลตัส จับมือห้างโก
โฮเซลล์ ซื้อผลไม้ไปจำหน่าย ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดึง 40 บริษัทจดทะเบียนกลุ่ม SET50 รับซื้อผลไม้ไทย (กลุ่มธุรกิจแถวหน้าที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงที่สุด) ประสานห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น ช่วยรับซื้อไปจำหน่าย และดึงหน่วยงานราชการเข้ามาช่วยรับซื้อ ซึ่งทุกภาคส่วนพร้อมที่จะช่วย
รับซื้อผลไม้ต่อเนื่องจากทั้งภาคเหนือและภาคใต้ที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด
หลังจากนี้อีกไม่กี่สัปดาห์ ผลไม้ภาคตะวันออกจะสิ้นสุดฤดูกาล ในส่วนของภาคเหนือ ผลผลิตลำไย มะม่วง ลิ้นจี่ สับปะรด กำลังจะออกสู่ตลาด รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ทำการประสานไปยังกองทัพ
เพื่อขอกำลังพลทหารให้เข้ามาช่วยเก็บผลไม้แล้ว โดยเฉพาะลำไยที่ปีนี้คาดการ์ว่าผลผลิตจะมีมากขึ้น เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกร และช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งได้ประสานไปยังกรมราชทัณฑ์
เพื่อนำผู้ต้องหาชั้นดีออกมาช่วยเก็บลำไยด้วยแล้ว
ในส่วนของลำไย ได้เตรียมแผนระบายผลผลิตโดยจะผลักดันการส่งออกไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ อินเดีย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดที่เริ่มนิยมบริโภคลำไยไทย และตะวันออกกลาง ที่เป็นตลาดที่มีโอกาสสูง
โดยจะใช้จุดขายการเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวาน เหมาะสำหรับบริโภคของชาวมุสลิมที่ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน รวมถึงตลาดจีน ที่จะมุ่งเจาะเมืองและมณฑลใหม่ ๆ เพราะยังมีโอกาสอีกมาก
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะช่วยเร่งระบายผลผลิต โดยประสานหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้เข้ามาช่วยรับซื้อ ล่าสุดได้ประสานความร่วมมือไปยังบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ให้เข้ามาช่วยรับซื้อมังคุด
ภาคตะวันออก ที่ขณะนี้อยู่ในช่วงปลายฤดูกาล และบางส่วนมีปัญหาจากการที่กัมพูชาปิดด่าน ทำให้ระบายผลผลิตไม่ได้ จึงได้เข้าไปช่วยรับซื้อ โดยเบื้องต้นรับซื้อแล้ว 70 ตัน และจะรับซื้อต่อเนื่องเพื่อนำมาจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น จำนวน 8,200 สาขาทั่วประเทศ ราคากิโลกรัมละ 40 บาท รวมทั้งมีแผนที่จะซื้อมังคุดภาคใต้ ลำไยภาคเหนือ และผลไม้ชนิดอื่น ๆ เข้าไปจำหน่ายด้วย อีกทั้ง ยังมีแผนสำรองไว้รองรับผลไม้ หากมีปัญหาผลผลิตล้นตลาดหรือผลผลิตออกกระจุกตัว โดยจะร่วมมือกับหอการค้าไทย วางแผนระยะสั้น กลาง และยาว
เพื่อรับมือผลผลิต โดยจะเชื่อมโยงโรงงานเข้าไปรับซื้อ นำผลผลิตไปแปรรูป และช่วยกันทำตลาด ขอให้พี่น้องเกษตรกรมั่นใจว่า รัฐบาลได้กำหนดแผนเพื่อจะช่วยดูแลผลผลิตผลไม้ภาคเหนือและภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาด และดูแลเกษตรกรให้ขายผลผลิตได้มากที่สุด

“กรมการค้าภายใน” จับมือเอกชน รับซื้อผลไม้กระจายสู่ผู้บริโภค
(9 ก.ค. 68) นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ประสานห้างค้าส่งค้าปลีกรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรง เพื่อดันราคาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จึงได้ร่วมมือกับ “โก โฮลเซลล์” (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารในเครือเซ็นทรัล รีเทล โดยได้เข้าร่วมกิจกรรมการเชื่อมโยงผ่านตลาดข้อตกลง ใช้สัญญาข้อตกลงมาตรฐานของกรมการค้าภายใน รวมแล้วกว่า 125 ตัน มูลค่า 5 ล้านบาท (ต.ค. 67 - พ.ค. 68) ประกอบด้วยผลไม้หลายชนิด ได้แก่ มังคุด สับปะรด ลองกอง เงาะ สละ ลำไย ลิ้นจี่ และกระท้อน
นอกจากนี้ โก โฮลเซลล์ยังได้จัดทำโครงการ “GO Food ส่งสุขให้ทุกรอยยิ้ม” โดยมีเป้าหมายในการกระจายผลไม้คุณภาพจากสวนเกษตรกรไทยสู่ผู้บริโภค พร้อมร่วมทำบุญมอบทุนอาหารกลางวันให้โรงเรียน
ในพื้นที่ที่มีสาขาของโก โฮลเซลล์ตั้งอยู่ทั่วประเทศ
ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงพาณิชย์ในการบริหารจัดการผลไม้ ภายใต้ “Thai Fruits Festival 2025” เพื่อกระตุ้นการบริโภค โดยมีผลไม้ราคาพิเศษ อาทิ มังคุด ซื้อ 4 กิโลกรัมขึ้นไป ราคากิโลกรัมละ 25 บาท หรือ 4 กิโลกรัม 100 บาท วางจำหน่ายทั้ง 13 สาขา ปริมาณกว่า 100 ตัน เงาะโรงเรียน ซื้อ 3 กิโลกรัมขึ้นไป ราคากิโลกรัมละ 45 บาท หรือ 3 กิโลกรัม 135 บาท แก้วมังกร ซื้อ 4 กิโลกรัมขึ้นไป ราคากิโลกรัมละ 25 บาท หรือ 4 กิโลกรัม 100 บาท และลำไย ราคากิโลกรัมละ 69 บาท พร้อมจัดกิจกรรม “GO Food ส่งสุขให้ทุกรอยยิ้ม” สร้างแรงจูงใจในการบริโภคผลไม้ และปลูกฝังการแบ่งปันให้กับสังคม โดยทุก 1 กิโลกรัม หรือ 1 หน่วยผลไม้ที่จำหน่ายได้ เท่ากับการบริจาค 1 บาท เข้าสู่ทุนอาหารกลางวันสำหรับเด็กนักเรียน
โครงการ “GO Food ส่งสุขให้ทุกรอยยิ้ม” สามารถเลือกซื้อผลไม้ 6 ชนิดที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่ แตงโม (พันธุ์กินรี ตอปิโด ซอนญ่า) เมลอนเนื้อเขียว เมลอนเนื้อส้ม แคนตาลูปซันเลดี้ มะละกอฮอลแลนด์ สับปะรดศรีราชา และกล้วยหลากหลายสายพันธุ์ (กล้วยหอม กล้วยคาเวนดิช กล้วยไข่ และกล้วยน้ำว้า)
โดยเริ่มตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 ตุลาคม 2568 และจะมีการรวบรวมยอดบริจาคส่งมอบให้โรงเรียนในพื้นที่ในช่วงสิ้นสุดโครงการ
กรมการค้าภายใน จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมอุดหนุนผลไม้จากเกษตรกรไทย นอกจากจะได้บริโภคของดีจากสวนไทยแล้ว ยังได้ร่วมสร้างรอยยิ้มให้กับเด็ก ๆ และแบ่งเบาภาระของเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิต
ล้นตลาด เป็นอีกหนึ่งรูปธรรมของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล

วธ. เชิญชวนชาวพุทธ ปักหมุดเที่ยวงานบุญทั่วไทย 10 จังหวัด กับ 10 งานประเพณี เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา บทสรุป เนื...
10/07/2025

วธ. เชิญชวนชาวพุทธ ปักหมุดเที่ยวงานบุญทั่วไทย 10 จังหวัด กับ 10 งานประเพณี เนื่องใน
วันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา
บทสรุป
เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 และวันเข้าพรรษา วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดพิธีปล่อยขบวนรถแห่เทียนพรรษา ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เพื่อนำไปถวาย
พระอารามหลวงในเขตกรุงเทพมหานคร 10 วัด และยังมีอีก 4 จังหวัดที่เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นกรณีพิเศษ คือ ขอนแก่น นครศรีธรรมราช ยโสธร และอ่างทอง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม “ปักหมุดเที่ยวงานบุญทั่วไทย 10 จังหวัด กับ 10 งานประเพณี” ประกอบด้วย นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา พะเยา สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สุรินทร์ และอุบลราชธานี ที่เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ร่วมขบวนแห่เทียนพรรษา ขบวนบุปผชาติ การเวียนเทียน และการแสดงแสงเสียงทางวัฒนธรรม ที่ไม่เพียงได้ทำบุญ แต่ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างรายได้ด้วยการจำหน่ายสินค้าและบริการทางด้านศรัทธา ความเชื่อ และวัฒนธรรมประเพณีได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้ง ขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตร และเวียนเทียน
ณ วัดใกล้บ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
รายละเอียด
(9 ก.ค. 68) นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา โดยในส่วนกลางร่วมกับคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร หน่วยงานภายในกระทรวงวัฒนธรรม องค์กรเครือข่ายทางศาสนา และองค์กรภาคีเครือข่าย จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีปล่อยขบวนรถแห่เทียนพรรษา งานส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา พุทธศักราช 2568 ในวันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2568 ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร โดยมีสมเด็จพระมหา
ธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนหน่วยงาน องค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนา เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา และพุทธศาสนิกชน เข้าร่วม กิจกรรมประกอบด้วย ริ้วขบวนรถแห่เทียนพรรษา พิธีปล่อยขบวนรถแห่เทียนพรรษาของหน่วยงานภายในกระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานเครือข่าย เพื่อนำไปถวายพระอารามหลวงในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 10 วัด ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดไตรมิตรวิทยาราม วัดปทุมวนาราม วัดประยุรวงศาวาส วัดสระเกศ วัดสุทัศนเทพวราราม
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดอรุณราชวราราม วัดเทวราชกุญชร และยังมีจังหวัด
ที่เปิดโอกาสให้มีการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นกรณีพิเศษในช่วงเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา จำนวน
4 จังหวัด คือ จังหวัดขอนแก่น เปิดให้สักการะหลวงพ่อพระลับ ในวาระโอกาสครบรอบ 500 ปี ณ วัดธาตุ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดให้สักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดพระมหาธาตุ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดยโสธร เปิดให้สักการะพระพุทธปฏิมาบุษยรัตน์ ณ วัดมหาธาตุ อำเภอเมืองยโสธร และจังหวัดอ่างทอง เปิดให้สักการะและห่มผ้าองค์พระพุทธไสยาสน์ ขุนอินทประมูล ณ วัดขุนอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง
ในส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด ได้ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ องค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนา และหน่วยงานต่าง ๆ บูรณาการการจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาตามบริบทของแต่ละพื้นที่ โดยสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีอันดีของงามของไทย รวมทั้งเปิดพื้นที่จัดเทศกาลประเพณีเพื่ออนุรักษ์วิถีวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ด้วยการจำหน่ายสินค้าและบริการทางด้านศรัทธา ความเชื่อ
และวัฒนธรรมประเพณี สร้างคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยมีการจัดการแสดงทางวัฒนธรรมทั้ง 4 ภาค และพิธีทำบุญทางศาสนาในแต่ละวัดอีกด้วย
สำหรับการจัดกิจกรรม “ปักหมุดเที่ยวงานบุญทั่วไทย 10 จังหวัด กับ 10 งานประเพณี” ได้แก่
1. จังหวัดนครพนม ชมขบวนแห่เทียนพรรษา ณ วัดพระธาตุพนม ที่มีทั้งขบวนแห่เทียน และการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ 10-11 กรกฎาคม 2568
2. จังหวัดนครราชสีมา มีการจัดงานใหญ่กลางเมือง ชมขบวนแห่เทียนพรรษา ขบวนบุปผชาติ และแสง
สีเสียง ณ ลานอนุสาวรีท้าวสุรนารี ระหว่างวันที่ 10-11 กรกฎาคม 2568
3. จังหวัดบุรีรัมย์ จัดกิจกรรมประโคนชัยแห่เทียนยิ่งใหญ่ พร้อมการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคม 2568
4. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเพณีแห่เทียนทางน้ำ ณ คลองลาดชะโด ชมวิถีชีวิตสองฝั่งคลอง วันที่ 10 กรกฎาคม 2568
5. จังหวัดพะเยา มีกิจกรรมเวียนเทียนกลางน้ำที่กว๊านพะเยา งานบุญล้านนากับบรรยากาศยามเย็น ระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2568
6. จังหวัดสระบุรี ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา ณ วัดพระพุทธบาท ชมขบวนพยุหยาตรา และพิธีล้างเท้าพระ ระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2568
7. จังหวัดสิงห์บุรี ประเพณียายดอกไม้ หรือ ตักบาตรดอกไม้ ณ วัดจินดามณี พร้อมเวียนเทียนพระบรมธาตุเจดีย์บ้านแป้ง ระหว่างวันที่ 10-11 กรกฎาคม 2568
8. จังหวัดสุพรรณบุรี การแห่เทียน 10 อำเภอ ณ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ห่มผ้าหลวงพ่อโต พร้อมกิจกรรมช้อปของดี OTOP ของจังหวัด ระหว่างวันที่ 10-11 กรกฎาคม 2568
9. จังหวัดสุรินทร์ จัดมหกรรมแห่เทียนพรรษา และตักบาตรบนหลังช้าง งานเดียวในโลก ณ อนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ระหว่างวันที่ 9-10 กรกฎาคม 2568
10. จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับยกย่องว่าเป็น “ราชธานีแห่งเทียนพรรษา” ที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ โดยมีขบวนแห่เทียน “ศรีศิลป์ ถิ่นไทยดี” อย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 9-13 กรกฎาคม 2568 โดยในวันที่ 10-11 กรกฎาคม 2568
มีขบวนแห่เทียนพรรษาทั้งประเภทแกะสลักติดพิมพ์และเทียนโบราณ พร้อมชุดการแสดงด้านวัฒนธรรมอันงดงาม และในเวลา 18.00 น. ชมการแสดงแสงเสียงประกอบขบวนแห่เทียนพรรษากลางคืน ชุด “ราชธานี ศรีศิลป์ ถิ่นไทยดี”
โดยนักท่องเที่ยวยังสามารถชมต้นเทียนพรรษาที่จัดแสดงรอบทุ่งศรีเมือง ได้จนถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 และในวันที่ 14-31 กรกฎาคม 2568 ยังมีกิจกรรม “เทียนอุบลยลได้ตลอดเดือน” ณ วัดพระธาตุหนองบัว อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ชมเทียนพรรษาที่ได้รับรางวัลตลอดทั้งเดือน พร้อมกิจกรรมถ่ายภาพเช็คอินกับต้นเทียน
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี จัดงาน “VIJIT GASTRONOLIGHT
@อุบลราชธานีศรีศิลป์” จากแสงแห่งศรัทธา สู่ศิลป์แห่งชีวิต เป็นหนึ่งในกิจกรรมงานประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2568 ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมสีสันและความทันสมัยของ Projection Mapping & Lighting ในยามค่ำคืน และชมการประดับตกแต่งไฟกับแนวคิด “วิจิตรแสงศรัทธา เมืองธรรมรุ่งเรือง” ที่หลอมรวมความเชื่อ วัฒนธรรม วิถีชีวิตไว้ด้วยกันอย่างลงตัว บริเวณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 11 จุด เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันสืบสานพระพุทธศาสนาและรักษาประเพณีไทย ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับจังหวัดระนอง จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาสานสัมพันธ์อาเซียน เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาจังหวัดระนอง ประจำปีพุทธศักราช 2568 ในวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2568 ณ วัดวารีบรรพต และวัดปากน้ำประชารังสฤษดิ์ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เพื่อเป็นการสืบสานรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามและจรรโลงสังคมไทยให้เป็นสังคมที่มีคุณธรรม จริยธรรมอย่างยั่งยืน
โดย “เทียนพรรษา” เป็นเทียนที่พุทธศาสนิกชนจัดทำขึ้นเพื่อน้อมถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ในช่วงเข้าพรรษา เพื่อใช้เป็นแสงสว่างในการศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่พระสงฆ์จะอยู่จำพรรษาในวัดโดยไม่ออกเดินทาง เทียนพรรษาจึงไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธา หากยังเป็นเครื่องมือแห่งปัญญา
และความเพียรของทั้งพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน อีกทั้งยังส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมระลึกถึงคุณของ
พระรัตนตรัยด้วยการร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา บำเพ็ญศาสนกิจ รักษาศีล ลด ละ เลิกอบายมุข สืบทอดพระพุทธศาสนา สืบสานวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย
“วันอาสาฬหบูชา” วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เป็นวันระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ในสมัยพุทธกาล
มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น 4 ประการ คือ
1. เป็นวันที่พระบรมศาสดาทรงแสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 รูป ได้แก่ พระอัญญาโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้เมืองพาราณสี พระพุทธเจ้าทรงแสดงหลักธรรมสำคัญ 2 ประการ คือ มัชฌิมาปฏิปทา หรือ ทางสายกลาง และอริยสัจ 4 คือ ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค
2. เป็นวันที่พระบรมศาสดาทรงได้พระสาวกองค์แรก คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ ซึ่งบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันองค์แรกของพุทธศาสนา

3. เป็นวันที่มีพระสงฆ์เกิดขึ้นเป็นรูปแรก คือ พระอัญญาโกญฑัญญะ
4. เป็นวันเกิดขึ้นของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครบเป็นครั้งแรก
และในวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 เป็น วันเข้าพรรษา ซึ่งเป็นวันสำคัญ
ในพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์จะอธิษฐานว่าจะพำนักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งตลอดระยะเวลาฤดูฝน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น เรียกว่า “จำพรรษา”
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีหล่อเทียนและถวายต้นเทียนพรรษา รวมทั้งท่องเที่ยวเรียนรู้ธรรมะ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ณ วัดใกล้บ้าน พร้อมทั้งร่วมตั้งจิตน้อมใจเป็นกุศล สร้างบุญ ลด ละ เลิกอบายมุข ตลอดพรรษา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เสริมสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว ในช่วงเทศกาลแห่งบุญ รวมทั้งสืบสานพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่สืบไป

10/07/2025

3 นาทีกับอัยการแผ่นดิน Ep.8 ตอน ผู้จัดการมรดก โดย วีระ ช้างคล้าย อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับจังหวัดกาญจนบุรี
⚖️ ออกอากาศช่อง NBT 11 ทั่วประเทศ
มีคำถามสามารถที่ต้องการคำตอบ
📲 โทรสายด่วน 1157
------------------
ติดตามและฝากคำถามได้ทาง
facebook 3 นาทีกับอัยการแผ่นดิน : https://www.facebook.com/share/16NvLqsZWF/
Youtube 3 นาทีกับอัยการแผ่นดิน : https://youtube.com/?si=3tRsFXWDzotiIcJm
#3นาทีกับทนายแผ่นดิน
#สำนักงานอัยการสูงสุด
#กรมประชาสัมพันธ์

10/07/2025

🎶จังหวัดหวัดสุพรรณบุรี โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี🎵

📢📢ขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดสุพรรณบุรี...ร่วมโหวต "๑ จังหวัด ๑ เมนู เชิดชูอาหารถิ่น" ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ 📢📢

🍛🍲เมนูอาหารถิ่น "๑ จังหวัด ๑ เมนู เชิดชูอาหารถิ่น" ของจังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี ๒๕๖๘ ที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้ทรงคุณวุฒิและกรรมการจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จำนวน ๓ เมนู ได้แก่
♥️ หลนแห้ว
😆 กาละแมตำนานดิน
😮 ข้าวเกรียบแห้ว

🥇🏆โดยเมนูอาหารถิ่นที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจะเป็น "๑ จังหวัด ๑ เมนู เชิดชูอาหารถิ่น" จังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี ๒๕๖๘🏆🥇
📅📌สามารถโหวตร่วมโหวตเมนูอาหารถิ่นได้ตั้งแต่วันที่ ๑๗ - ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ผ่านทาง Facebook Fanpage : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ‼️(๑ สิทธิ ๑ โหวต เลือกเมนูที่ชื่นชอบได้เพียง ๑ เมนูเท่านั้น)‼️

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม Facebook Fanpage : web.facebook.com/DCP.culture
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี Facebook Fanpage : web.facebook.com/culturesuphan
Website : suphanburi.m-culture.go.th/th

#๑จังหวัด๑เมนูเชิดชูอาหารถิ่น
#รสชาติที่หายไปTheLostTaste
#จังหวัดสุพรรณบุรี

10/07/2025

เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันพฤหัสบดี ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ความว่า
“ดิถีอาสาฬหบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว ควรที่สาธุชนจักได้น้อมรำลึกถึงเหตุการณ์ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ณ อิสิปตนมฤคทายวัน อันเป็นการเริ่มประกาศพระศาสนา กระทั่งบังเกิดมีพระอริยสงฆ์ ครบถ้วนพร้อมเป็น“พระรัตนตรัย” ซึ่งเป็นสรณะนำทางชีวิตของพุทธบริษัท ให้มุ่งหน้าดำเนินไปสู่หนทางดับเพลิงทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง

▶️ อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/33/iid/404896
-----------------------------
🎯Website : www.prd.go.th
🎯Facebook : กรมประชาสัมพันธ์
🎯X :
🎯IG : prdcenter
🎯YouTube : PRD กรมประชาสัมพันธ์
🎯Web App : https://prdee.prd.go.th

09/07/2025

รายการครบเครื่องเมืองสุพรรณ

ที่อยู่

อ. เมือง จ.สุพรรณบุรี
72000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สวท.สุพรรณบุรีผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง สวท.สุพรรณบุรี:

แชร์