Mind Money

28/01/2025

“DeepSeek” สตาร์ทอัพด้าน ปัญญาประดิษฐ์จีน AIจีน ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับ
หุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกในเมื่อวานที่ผ่านมาจนหลายคนตั้งคำถามถึงความเป็นที่หนึ่งทางเทคโนโลยีสหรัฐ

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ความสนใจเกี่ยวกับโมเดล AI ของ DeepSeek พุ่งทะยานขึ้น
เพราะเป็นโมเดลที่คุ้มค่าด้านต้นทุน อีกทั้งทำงานได้บนชิปรุ่นสเปครองลงมา จนยอดดาวน์โหลดแอปฯ DeepSeek ใน App Store พุ่งแซงหน้า ChatGPT ของสตาร์ทอัพ OpenAI
แล้ว หลายคนเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับ “ความถูกต้องของมูลค่าหุ้น” ที่สูงลิ่วของบริษัทชิป AI Nvidia เมื่อเทียบกับต้นทุนที่ต่ำกว่าของ DeepSeek

“DeepSeek แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาโมเดล AI ที่ทรงพลัง โดยมีต้นทุนที่ต่ำกว่า เป็นเรื่องเป็นไปได้” เวย์เซิร์น หลิง กรรมการผู้จัดการของ Union Bancaire Privee กล่าว “นี่อาจจะทำให้การลงทุนห่วงโซ่อุปทาน AI ทั้งหมด ซึ่งขับเคลื่อนด้วยค่าใช้จ่ายสูงของบริษัทใหญ่เพียงไม่กี่ราย เสียหายได้”

"แอปฯ DeepSeek ก่อตั้งโดยเหลียง เหวินฟาง และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่า มีความสามารถในการแข่งขันกับ AI จาก OpenAI และ Meta

ฟิวเจอร์สของ Nasdaq 100 ร่วงลงมากถึง 1.9% ในขณะที่สัญญาฟิวเจอร์สของ ดัชนีหุ้น S&P 500 ลดลงมากถึง 1% การเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนถึงการขาดทุนต่อเนื่องจากตลาดในวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงหลังจากที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ในทางตรงกันข้าม หุ้นฮ่องกง ปรับตัวสูงขึ้น โดย ดัชนี Hang Seng Tech Index เพิ่มขึ้นมากถึง 2% ก่อนวันหยุดตรุษจีนในสัปดาห์นี้ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ของจีน รวมถึง Merit Interactive พุ่งขึ้นแรงภายในวันเดียว ซึ่ง Merit เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีความเชื่อมโยงชัดเจนที่สุดกับ DeepSeek

ในขณะเดียวกัน หุ้นในห่วงโซ่อุปทาน AI ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนทบทวนสมมติฐานของตนว่า AI ที่ทันสมัยที่สุดจะต้องใช้พลังการประมวลผลและพลังงานในปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งAdvantest ซัพพลายเออร์รายใหญ่ของ Nvidia ร่วงลงมากถึง 8.6% ในโตเกียว หุ้นเกี่ยวกับดาต้าเซ็นเตอร์ก็ร่วงลงเช่นกัน Mapletree Industrial Trust ซึ่งจดทะเบียนในสิงคโปร์ ลดลง 3.6%

นี้อาจจะยังไม่เป็นภัยคุกคามที่สำคัญ แต่คู่แข่งในอนาคตจะพัฒนาเร็วขึ้นและท้าทายบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเดิมได้เร็วขึ้น ผลประกอบการในสัปดาห์นี้จะเป็นการทดสอบครั้งสำคัญ”

:ขอบคุณข้อมูลข่าวสารจาก กรุงเทพธุรกิจ
#ข่าวสาร #เศรษฐกิจ #หุ้น

19/11/2024

เด็ก 12 ขวบ
ที่กล้าโทรหา CEO
จนสร้างบริษัท ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
ที่ Silicon Valley ในช่วงปี 1970 เด็กชายวัย 12 ปีคนหนึ่งกำลังมองหาชิ้นส่วนสำหรับสร้างเครื่องนับความถี่เพื่อใช้ในโปรเจ็คโรงเรียน เขาตัดสินใจทำสิ่งที่กล้าหาญ คือการหยิบสมุดโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหา Bill Hewlett ซีอีโอของ HP ในตอนนั้นโดยตรง
"สวัสดีครับ คุณ Hewlett ผมอยากขอชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เหลือใช้จากบริษัทของคุณสำหรับโปรเจ็คที่โรงเรียนได้ไหมครับ?"
ความกล้าและความกระตือรือร้นของเด็กชายทำให้ Hewlett ประทับใจมาก จนถึงขั้นไม่เพียงมอบชิ้นส่วนให้ แต่ยังชวนให้มาทำงาน Part-time ที่ HP ในช่วงซัมเมอร์อีกด้วย
เด็กชายคนนั้นคือ Steve Jobs ผู้ที่ต่อมาได้สร้าง Apple ให้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก เขาเคยกล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า
"ผมได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญ - อย่ากลัวที่จะขอในสิ่งที่คุณต้องการ ในสถานการณ์ที่แย่ที่สุด พวกเขาก็แค่พูดว่า 'ไม่' แต่ถ้าคุณไม่กล้าที่จะถาม คุณจะไม่มีวันรู้เลยว่าคำตอบ 'ใช่' นั้นอยู่ห่างออกไปเพียงแค่การยกหูโทรศัพท์"
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
———
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน


#ไปให้ถึง100ล้าน

17/11/2024

คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะมีสถานที่ชื่อว่า
“มุมโปรด” เพื่อทบทวนตัวเองอยู่เสมอและทำให้เราชัดเจน
ในเป้าหมายของเรามากขึ้น อย่าลืมอยู่กับตัวเองบ้างนะครับ

ข้อคิดของคุณวนนท์ วรรณป้าน Full-Time Trader⁣⁣
⁣⁣
จากหนังสือ The Traders ชีวิต ความเจ็บปวด สู่ความสำเร็จ “เส้นทางที่ต่าง แต่ปลายทางเดียวกัน”⁣⁣
⁣⁣
รายได้ลิขสิทธิหลังหักค่าใช้จ่าย ช่องถามอีก กับอิก จะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิฯ⁣⁣
⁣⁣
#หนังสือTheTraders #ถามอีกกับอิก #ทุกเรื่องที่นักลงทุนต้องรู้ ืออาชีพทั้ง10คน

14/11/2024

Dogecoin ปรับตัวเพิ่มขึ้นและอยู่ใกล้กับระดับสูงสุด
ในรอบสามปีที่เคยไปถึงเมื่อต้นสัปดาห์นี้ 📈

กระแสในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับ Doge ได้เพิ่มขึ้นหลังจากทรัมป์ประกาศจัดตั้งหน่วยงาน
Department of Government Efficiency (DOGE)
ซึ่งมี อีลอน มัสก์ และ วิเวก รามสวามี เป็นผู้นำ

Trump trade หนุน Bitcoin
ความหวังต่อชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 โดยเขาได้ให้คำมั่นว่าจะออกกฎระเบียบที่เป็นมิตรกับ
คริปโตมากขึ้นทรัมป์ได้สัญญาว่าจะทำให้อเมริกาเป็นศูนย์กลางของคริปโตทั่วโลก และยังเสนอแนวคิดในการสร้างทุนสำรอง Bitcoin แห่งชาติ

Dogecoin ขยายกำไรหลังทรัมป์จัดตั้ง DOGE

โทเค็นมีม Dogecoin เพิ่มขึ้น 9.1% เป็น 0.394493 ดอลลาร์ในวันนี้ ขยายการเพิ่มขึ้นล่าสุดและยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021

เทรดเดอร์คาดการณ์ว่า DOGE ที่ทรัมป์จัดตั้งขึ้นอาจเป็นการอ้างอิงถึงโทเค็นมีมนี้ และอาจมีการรับรองอย่างเป็นทางการต่อเหรียญ Dogecoin

แต่นักวิเคราะห์ได้ให้ความเห็นว่า DOGE ซึ่งทรัมป์กล่าวว่าเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นเพื่อปรับปรุงการทำงานของรัฐบาลและลดการใช้จ่ายนั้น
จะมีอำนาจเพียงเล็กน้อยในการทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

GLJ Research ระบุว่า หน่วยงานนี้เป็น “คณะกรรมการไร้อำนาจที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้มหาเศรษฐีไม่กี่รายรู้สึกสำคัญ”

ราคาคริปโตวันนี้: Altcoin ดีดตัวขึ้น และไม่ได้รับผลกระทบจากข้อมูล CPI

Altcoin หลักส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นตาม Bitcoin แม้ว่าจะยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ไปถึงเมื่อต้นสัปดาห์

ข้อมูลข่าวจาก Investing.com
#ข่าว #เศรษฐกิ #ทองคำ
#เศรษฐกิจโลก

14/11/2024

แนวคิดของ สุกี้ตี๋น้อย ที่สร้างรายได้ปีละหลายร้อยล้าน

ไม่จมอยู่กับอะไร ที่ไม่ได้ผล
(เรียนรู้กับ ตี๋น้อย ในรายการ The INSIDER)
ผมเคยถามเพื่อนรอบตัวครั้งหนึ่งว่า “ถ้าหากพวกเขาจะทำธุรกิจอะไรสัก 1 อย่าง พวกเขาจะทำอะไร” เพื่อนผมส่วนใหญ่ตอบมาว่า “ธุรกิจร้านอาหาร” เพราะไม่ว่าจะเจอวิกฤติอะไร ยังไงคนก็ต้องกิน ต้องอิ่มท้อง ต่างจากธุรกิจอื่นที่บางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ ผมเลยถามเพื่อนต่อว่า ถ้าคนส่วนใหญ่คิดแบบนี้เหมือนกันหมด หมายความว่าคู่แข่งทางธุรกิจก็ต้องตามมาเยอะแน่นอน และหากว่าจำนวนร้านมีมากกว่าลูกค้า เราจะทำยังไงให้ธุรกิจอยู่รอดและประสบความสำเร็จไปได้?
ลองมาดูธุรกิจตัวอย่างของ “สุกี้ตี๋น้อย” กันดีกว่า เพราะถ้าพูดถึงร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์ชาบูในไทยตอนนี้ก็แทบจะมีทุกพื้นที่ ทุกเขตกันเลยทีเดียว แต่ถึงจะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมาเป็นเท่าตัว แต่สุกี้ตี๋น้อยก็ยังสามารถเติบโตต่อไปได้เรื่อย ๆ ซึ่งคิดว่าในปีนี้อาจจะมีเพิ่มถึง 70 สาขาเลยก็ได้
คุณเฟิร์น นัทธมน พิศาลกิจวนิช เจ้าของสุกี้ตี๋น้อยเคยให้สัมภาษณ์ไว้ในช่อง THE INSIDER ไว้ว่า สิ่งแรกของการทำธุรกิจคือต้องยอมรับก่อนว่าโดยธรรมชาติ คู่แข่งย่อมมีเกิดขึ้นเสมอ ซึ่งในวันแรกที่มีคู่แข่งตบเท้าเดินเข้ามาหา ความคิดของคุณเฟิร์นคือ “มาเจอกันสักตั้ง” เพราะเมื่อไม่ยอมแพ้ ก็ย่อมมีหนทางให้ชนะ
ผมได้นั่งฟังการสัมภาษณ์ของคุณเฟิร์นและเจอว่า มีกลยุทธ์ที่น่าสนใจมากมายที่หลายธุรกิจสามารถลองเอาไปใช้ได้ ไม่ใช่แค่ร้านอาหารเท่านั้น แต่ธุรกิจออนไลน์ หรือขายของหน้าร้านเองก็หยิบไปปรับได้เหมือนกัน ซึ่งผมได้สรุปเอาไว้ในบทความนี้ไว้แล้ว
Key Takeaways:
🔹 ทุกอย่างคือโอกาสที่ทำให้ลูกค้าเดินจากเราไปได้
🔹 หาลูกค้าใหม่มันยาก ต้องทำให้ลูกค้าเก่าอยู่กับเราให้นานที่สุด
🔹 เป็นผู้นำอย่าโทษแค่ลูกน้อง แต่ให้มองตัวเองด้วย
🔹 หัวหน้าที่ดีต้องประเมินลูกน้องเป็นว่าคนไหนเก่งอะไร
🔹 ไม่จมอยู่กับอะไรที่ไม่ได้ผล แต่หนทางใหม่ที่ทำให้ดีขึ้น
🔹 ทำให้พนักงานรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำงานที่นี่
1. ไม่มีทางที่ลูกค้าจะอยู่กับเราตลอด ถ้าเราไม่รักษาคุณภาพและพัฒนาได้
ฐานลูกค้าของสุกี้ตี๋น้อยมีอยู่แล้ว แต่จะทำยังไงให้พวกเขาอยู่กับเราได้นานที่สุด สิ่งที่คุณเฟิร์นลงมือทำคือ รักษาคุณภาพของร้านให้ดี เพราะถ้าหากว่าตัวเราเองเดินเข้าไปในร้าน และรู้สึกว่าร้านไม่สะอาด บริการได้ไม่ดี ลูกค้าก็จะคิดแบบนั้นเหมือนกัน ทำให้ตัวเราในฐานะเจ้าของ มองในมุมมองลูกค้า ไม่ใช่ในมุมของเจ้าของกิจการ และถ้าอยากดึงดูดคนใหม่ ๆ เข้ามา ก็จำเป็นต้องมีสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองคนกลุ่มใหม่เหล่านั้นด้วย
ทำธุรกิจในความคิดที่ว่า “ทุกอย่างสามารถเป็นโอกาสที่ลูกค้าเดินไปจากเราได้” เพราะแม้แต่เรื่องเล็กน้อยที่คุณมองข้าม มันอาจเป็นเรื่องใหญ่ที่ลูกค้ามองเห็นก็ได้ ดังนั้นอย่าหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง และรักษาคุณภาพเอาไว้ให้ได้
2. ลูกค้ามีความคาดหวังทั้งหมดเมื่อเข้าใช้บริการ
ลูกค้าไม่ใช่แค่ต้องการรสชาติอาหารที่อร่อย แต่พวกเขาต้องการการบริการที่ดีด้วย ซึ่งความท้าทายของสุกี้ตี๋น้อยคือ ด้วยความที่สาขามีเยอะมาก การที่คุณเฟิร์นจะเข้าไปควบคุมดูแลทุกสาขามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย สิ่งที่ทำได้คือสร้างภาพหรือวิสัยทัศน์ของตัวเองให้ทุกคนในองค์กรมองเห็นเป็นภาพเดียวกันให้ได้ก่อน และเมื่อธุรกิจมันกำลังเติบโตขึ้น คุณเฟิร์นจึงจำเป็นต้องมีทีม QA (Quality Assurance) คอยตรวจสอบให้ทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานที่คุณเฟิร์นวางเอาไว้
นอกจากนี้คุณเฟิร์นยังสร้างทีม Mystery Shopper หรือกลุ่มพนักงานที่แฝงตัวเข้าไปเป็นลูกค้าแบบเนียน ๆ เพื่อสอดส่องกระบวนการทำงานของแต่ละสาขาในช่วงเวลาเสาร์อาทิตย์ที่ลูกค้าเยอะ ๆ เท่านั้น เพราะพนักงานจะวุ่นวายและไม่รู้เลยว่ากำลังโดนตรวจสอบอยู่
3. ก่อนจะโทษลูกน้อง ลองมองที่ตัวเองก่อน
เมื่อการทำงานมีข้อผิดพลาด คนส่วนใหญ่มักจะโทษลูกน้องที่ทำงานไม่ดี แต่จริง ๆ แล้วคุณเฟิร์นใช้วิธีมองมาที่ตัวเองก่อน และดูว่าตัวเองได้บอกทุกอย่างที่ต้องบอกลูกน้องไปครบไหม เครื่องมือในการทำงานต่าง ๆ ที่ต้องสนับสนุนลูกน้องมีพร้อมใช้งานไหม หรือทรัพยากรต่าง ๆ มีอะไรที่ขาดเหลือไหม เพราะถ้าเรายังมอบสิ่งเหล่านี้ให้พวกเขาไม่ได้ เราก็ไม่สามารถโทษพวกเขาได้ 100%
คุณเฟิร์นยกตัวอย่างว่า หัวหน้าที่ดี ต้องดูให้ออกว่าพนักงานคนไหน เหมาะที่จะทำงานแบบไหน เพราะแต่ละคนก็มีทักษะและความถนัดที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งถ้าหากว่าเราไม่สามารถประเมินลูกน้องตัวเองได้ เราก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นหัวหน้าคนเช่นกัน
4. อยากได้ผลลัพธ์ใหม่ ให้เลิกทำอะไรแบบเดิม ๆ
สิ่งสำคัญของการทำธุรกิจคือ ไม่ใช่กลยุทธ์เดิมที่เคยได้ผล จะได้ผลตลอดไป และไม่ใช่กลยุทธ์เดิมที่ไม่ได้ผล จะได้ผลขึ้นมา หากเราต้องการอะไรใหม่ ๆ เราต้องมุ่งหาวิธีการใหม่ อย่ายึดติดกับอะไรที่ไม่ได้ผลจนต้องเสียเทั้งเวลาและเงินทุน
ไอเดียที่ออกมา ถ้าทดลองทำแล้วมันไม่ได้ผล เราสามารถถอยหลังได้เสมอ ซึ่งการถอยหลังไม่ใช่การยอมแพ้ แต่ถอยมาเพื่อตั้งหลัก และมองหาสิ่งที่เอาไปใช้ต่อไป อย่าฝืนที่จะทำต่อไป ทุกสิ่งทดลองทำได้ ถ้าพลาดก็ได้บทเรียน และลองทำใหม่ จนกระทั่งปลายทางจะเจอความสำเร็จหรือเป้าหมายที่ตั้งไว้
5. ให้พนักงานมอบเห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองทำ
การที่จะทำให้บริษัทโตได้ ต้องทำให้พนักงานเห็นคุณค่าและมูลค่าในสิ่งที่ตัวเองทำก่อน เพราะยังไงคนทำงานทุกคนก็อยากอยู่กับองค์กรที่ดูแลพวกเขาดี และมีโอกาสในการเติบโตมากขึ้น ไม่มีใครอยากจะอยู่กับองค์กรที่ทำแบบเฉย ๆ ไปเรื่อย ๆ หรอก
คุณเฟิร์นทำธุรกิจไม่ได้มองแค่เพื่อความสบายของตัวเอง แต่มองไปถึงพนักงานที่ทำงานด้วย ทั้งเรื่องสวัสดิการหรือโบนัสที่พยายามบอกให้ทุกคนรู้ว่า องค์กรเติบโตไม่ใช่แค่โตคนเดียว แต่ทุกคนในองค์กรต้องเติบโตไปด้วยกัน
ทุกคนรู้ดีว่าการทำธุรกิจ ส่ิงที่เลี่ยงไม่ได้คือ “คู่แข่ง” แต่อย่ามองว่าพวกเขาเป็นอุปสรรค ให้มองว่าเป็นความท้าทายและโอกาสที่จะทำให้เราเติบโตขึ้นไปอีกขั้น เพราะถ้าหากว่าคุณไม่หยุดพัฒนาและรักษาคุณภาพเอาไว้ได้อย่างเดิม ทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ก็จะไม่หายไปจากคุณแน่นอน
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
(Reference in comment)
--
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน


#ไปให้ถึง100ล้าน

14/11/2024

Bitcoin ปรับตัวขึ้นในวันนี้และยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากความเชื่อมั่นในตลาดคริปโต
ได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่านโยบายภายใต้โดนัลด์ ทรัมป์จะเป็นมิตรกับตลาดคริปโตมากขึ้น

ในบรรดาโทเค็นมีม Dogecoin ยังคงเพิ่มขึ้นและอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดในรอบสามปีที่เคยไปถึงเมื่อต้นสัปดาห์นี้
กระแสในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับ Doge ได้เพิ่มขึ้นหลังจากทรัมป์ประกาศจัดตั้งหน่วยงาน
Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งมี อีลอน มัสก์ และ วิเวก รามสวามี เป็นผู้นำ
Bitcoin เพิ่มขึ้น4% มาเป็น 91,575ดอลลาร์ ณ เวลา 14:00 น. (GMT+7) โดยโทเค็นดังกล่าวได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ที่ 93,226.6 ดอลลาร์ในวันพุธแต่ก็ลดลงจากระดับดังกล่าวอย่างรวดเร็ว

ราคาคริปโตโดยรวมปรับตัวขึ้น และไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์สู่ระดับสูงสุดในรอบปี
หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหรัฐแสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อในเดือนตุลาคมยังคงยึดติดในระดับสูง

Trump trade หนุน Bitcoin

คริปโตเคอเรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลกยังคงได้รับแรงหนุนจากความหวังต่อชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024
โดยเขาได้ให้คำมั่นว่าจะออกกฎระเบียบที่เป็นมิตรกับคริปโตมากขึ้นทรัมป์ได้สัญญาว่าจะทำให้อเมริกาเป็นศูนย์กลางของคริปโตทั่วโลก
และยังเสนอแนวคิดในการสร้างทุนสำรอง Bitcoin แห่งชาติ

แนวคิดดังกล่าวได้ทำให้เทรดเดอร์หันเข้าหา Bitcoin เนื่องจากเชื่อว่าโทเค็นจะได้รับการยอมรับในฐานะสินทรัพย์การลงทุนที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

แต่ขณะนี้นักลงทุนกำลังจับตาดูว่านโยบายของทรัมป์จะมีเนื้อหาอย่างไรสำหรับคริปโต โดยเขากำลังอยู่ในกระบวนการคัดเลือกสมาชิกคณะรัฐมนตรี
โดยทรัมป์มีกำหนดการณ์จะเข้ารับตำแหน่งตอนต้นปี 2025

กระแสของสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดการเงินโดยรวมดูเหมือนจะเริ่มเย็นลงท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
ทรัมป์คาดว่าจะออกนโยบายที่ขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะหนุนเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว

Dogecoin ขยายกำไรหลังทรัมป์จัดตั้ง DOGE

โทเค็นมีม Dogecoin เพิ่มขึ้น 9.1% เป็น 0.394493 ดอลลาร์ในวันนี้ ขยายการเพิ่มขึ้นล่าสุดและยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021

เทรดเดอร์คาดการณ์ว่า DOGE ที่ทรัมป์จัดตั้งขึ้นอาจเป็นการอ้างอิงถึงโทเค็นมีมนี้ และอาจมีการรับรองอย่างเป็นทางการต่อเหรียญ Dogecoin

แต่นักวิเคราะห์ได้ให้ความเห็นว่า DOGE ซึ่งทรัมป์กล่าวว่าเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นเพื่อปรับปรุงการทำงานของรัฐบาลและลดการใช้จ่ายนั้น
จะมีอำนาจเพียงเล็กน้อยในการทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

GLJ Research ระบุว่า หน่วยงานนี้เป็น “คณะกรรมการไร้อำนาจที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้มหาเศรษฐีไม่กี่รายรู้สึกสำคัญ”

ราคาคริปโตวันนี้: Altcoin ดีดตัวขึ้น และไม่ได้รับผลกระทบจากข้อมูล CPI

Altcoin หลักส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นตาม Bitcoin แม้ว่าจะยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ไปถึงเมื่อต้นสัปดาห์

ข้อมูลข่าวจาก Investing.com
#ข่าว #เศรษฐกิ #ทองคำ
#เศรษฐกิจโลก

04/11/2024

การเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา กำลังจะรู้ผลแล้ว!!
และจะส่งกระทบกับประเทศเราอย่างไรบ้าง
โดยมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะส่งผลต่อไทยในด้านการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการค้าระหว่างกัน ร้อยละ 73.70
หลังการเลือกตั้งเศรษฐกิจไทยก็น่าจะยังเหมือนเดิม ร้อยละ 57.02 โดยคิดว่าคามาลา แฮร์ริส (พรรคเดโมแครต) จะชนะการเลือกตั้ง ร้อยละ 43.06

ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยคาดหวังให้สื่อไทยรายงานอย่างเป็นกลาง ครบถ้วน และวิเคราะห์ผลกระทบต่อประเทศเทศไทย
ในด้านเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่เชื่อว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักหลังการเลือกตั้ง เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ คาดว่าคามาลา แฮร์ริสจะชนะ โดยมีคะแนนนำไม่เกิน 596 ซึ่งสอดคล้องกับผลโพลหลายสำนักในสหรัฐ จึงต้องจับตาดูว่าผลจริงจะเป็นอย่างไร

รองศาสตราจารย์ ดร.รุ่งภพ คงฤทธิ์ระจัน รองคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิตอธิบายว่า
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะเกิดขึ้นได้รับความสนใจจากหลายประเทศรวมถึงไทย เนื่องจากผลกระทบของผู้นำสหรัฐคนใหม่ต่อเศรษฐกิจ
การเมือง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ผลสำรวจของสวนดุสิตโพลเผยว่า 77.4796% ของคนไทยติดตามการเลือกตั้ง โดยสนใจทิศทางนโยบายเศรษฐกิจที่อาจมีต่ออาเชียน (73.70%)

Advertisment
หากคามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตชนะ นโยบายการค้าเสรีระหว่างประเทศอาจขยายตัว โดยเฉพาะกับจีนและอาเขียน
ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้การผลิตไทยเติบโต แม้ GDP ไทยจะคาดการณ์ไว้ที่ 2.5% ในปี 2567 แต่อุตสาหกรรมการผลิตไทย
อาจได้ประโยชน์หากท่าทีของแฮร์ริสสนับสนุนการค้าเสรี

ในทางกลับกัน หากโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันชนะ นโยบาย “America First” อาจกีดกันการค้ากับไทยด้วยภาษีนำเข้า
ที่สูงขึ้นและเงื่อนไขทางการค้า ซึ่งจะส่งผลลบต่อภาคการผลิตและส่งออก รัฐบาลไทยจึงต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เช่น
การส่งเสริมการผลิตให้ทันสมัยและพัฒนาโครงสร้างการเงิน เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมให้แข่งขันได้ในตลาดโลก...

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ www.prachachat.net

#เลือกตั้ง #สหรัฐอเมริกา #เศรษฐกิจ #ข่าวบันเทิง

11/09/2024

ใครอยู่ Gen ไหนกันบ้างครับ จริงอย่างที่เขาว่ากันรึป่าว??

ผู้บริโภคไทย อยู่ Gen ไหนมากที่สุด ? พร้อมทริกการตลาด ให้เหมาะกับคนแต่ละรุ่น
*อ้างอิงข้อมูลผลสำรวจจาก Digital Insight Thailand Report 2024 จาก YouGov
#การตลาด

29/08/2024

เราเห็นว่า อเมริกา ขายตราสารหนี้ เพราะต้องระดมเงินจากทั้งโลก
⁣
ดูคลิปสัมภาษณ์เต็ม ๆ ได้ที่ ⁣: https://youtu.be/yN3DeWzjGXA

#อาจารย์ทวีสุข

29/08/2024

เป็นที่น่าตกใจของนักลงทุน NVIDIA หุ้นร่วง -7% หลังประกาศงบ
หุ้นตัวแบกความหวังสุดท้ายของสหรัฐอเมริกา
อะไรก็ตามที่มีความคาดหวังสูง ถ้าผิดหวังขึ้นมา จะเจ็บหนัก
ประโยคนี้เป็นสัจธรรมของโลก รวมถึงตลาดหุ้นด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะหุ้นมหามวลชนอย่าง NVIDIA ที่คนทั่วโลกจับตามอง และเนรมิตความคาดหวังไว้กับหุ้นตัวนี้สูงลิ่ว..
อย่างล่าสุด NVIDIA ราคาหุ้นร่วงหนัก หลังประกาศผลประกอบการ Q2/2025 (พ.ค. - ก.ค. 2024) ออกมา

แม้ว่างบ จะออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งรายได้และกำไร ก็ตาม..
โดยไตรมาสนี้
Nvidia มีรายได้ 1.02 ล้านล้านบาท (+122%)
กำไรสุทธิ 0.56 ล้านล้านบาท (+168%)
คิดเป็นอัตรากำไรที่สูงถึง 55%
เห็นว่า NVIDIA ยังคงโตระดับ “Triple-digit” หรือเลขสามหลัก ได้ต่อเนื่องสามไตรมาสติดกัน
แต่ไตรมาสนี้ โตในอัตราที่ชะลอตัวลง
ต้องบอกว่า ไตรมาสนี้ เป็นไตรมาสที่ NVIDIA สร้างรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดยได้อานิสงส์จากการที่องค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ เช่น Microsoft, Alphabet, Amazon, Meta, Tesla รวมถึง OpenAI
ที่ต่างซื้อชิปของ NVIDIA ไปใช้สำหรับอัปเกรด Data Center และใช้พัฒนา AI
ซึ่งจะช่วยธุรกิจต่าง ๆ เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ เพิ่ม Productivity และประหยัดต้นทุนในระยะยาว มากขึ้น
สำหรับธุรกิจของ Nvidia นั้น ผลิตชิปประมวลผลเป็นหลัก และมีรายได้มาจากกลุ่มธุรกิจ
- ธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) 8.96 แสนล้านบาท (+154%)
- ธุรกิจการ์ดจอเกม (Gaming) 9.88 หมื่นล้านบาท (+16%)
- ธุรกิจ Professional Visualization 1.55 หมื่นล้านบาท (+20%)
- ธุรกิจยานยนต์และหุ่นยนต์ (Automotive & Robotics) 1.18 หมื่นล้านบาท (+37%)
ในส่วนของชิป AI รุ่นใหม่ ที่ชื่อว่า “Blackwell” ซึ่งจะเปิดตัวปลายปีนี้ แต่มีข่าวว่าดีเลย์
ทาง NVIDIA ยืนยันว่า จะสามารถเร่งการผลิตชิปและจัดส่งให้ลูกค้าได้ ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 นี้ และจะผลิตต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026
โดยตอนนี้ บริษัทได้ส่งตัวอย่างชิป ไปให้ลูกค้าดูแล้ว
ซึ่งบริษัทคาดว่า ชิป Blackwell จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะลูกค้าจำนวนมาก กำลังรอเจ้าชิปตัวนี้อยู่..
และคาดว่าในไตรมาสที่ 4 บริษัทจะขายชิป Blackwell ได้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่ต่ำกว่า แสนล้านบาท)
นอกจากนี้ Nvidia ยังได้ประกาศเงินปันผลรายไตรมาส ที่ 0.01 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น คิดเป็นเม็ดเงินรวม 1.70 ล้านล้านบาท
สำหรับ Outlook ของผลประกอบการในไตรมาสหน้า Nvidia ได้บอกว่า
บริษัทจะทำรายได้อยู่ที่ราว ๆ 1.11 ล้านล้านบาท และมีช่วงบวกลบที่ 2%
และคาดว่า ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของทั้งปีนี้ อาจจะเพิ่มขึ้นถึง 40%
ทั้งนี้ NVIDIA เป็นหุ้นที่โตแรง เป็นจ่าฝูงของเทรนด์ AI เทรนด์ชิป ที่กำลังฮอต
ผลประกอบการบริษัทมีการเติบโตระดับ “Triple-digit” ต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
และราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาเยอะ จนเป็นเดอะแบกของตลาดหุ้นสหรัฐฯ
1 เดือนย้อนหลัง ราคาหุ้น +11.1%
6 เดือนย้อนหลัง ราคาหุ้น +61.7%
1 ปีย้อนหลัง ราคาหุ้น +168.2%
แต่จากผลประกอบการของ Nvidia ที่แม้ออกดีกว่าที่นักวิเคราะห์มองไว้ ซึ่งตลาดให้ความคาดหวังกับหุ้นตัวนี้สูงมากแล้ว สะท้อนจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปรอก่อน
บวกกับการเติบโตในไตรมาสนี้ และคาดการณ์การเติบโตไตรมาสหน้า ที่เริ่มชะลอตัวลงชัดเจน
เมื่อสิ่งต่าง ๆ วิ่งตามไม่ทัน ความคาดหวังที่สูงเฉียดฟ้า
ก็ฉุดให้ราคาหุ้นของ NVIDIA มีการปรับฐานลงมาให้สมเหตุสมผลมากขึ้น
โดยวันนี้ -7.6% ในช่วงหลังตลาดปิดทำการ

ที่มา : https://nvidianews.nvidia.com/.../nvidia-announces..

25/08/2024

⭐ สรุปมุมมองความสำเร็จ จากงาน Bitkub Meetup 2024 ครั้งที่ 5 💚
💎 คุณท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา Founder and Group Chief Executive Officer, Bitkub Capital Group Holdings
การทำสิ่งใหม่ที่มันใหญ่ ไม่มีอะไรง่าย มันมีอุปสรรค มีเรื่องเข้ามาตลอดเวลา
เราต้องเตรียมพร้อมรับความเจ็บปวด
มนุษย์เราเก่งอย่างนึง คือความสามารถในการปรับตัว ถ้าทำมันบ่อย ๆ
อย่างการวิ่ง 1 กิโลแรกจะเหนื่อยมาก แต่เมื่อเราวิ่งทุกวัน 10 กิโลก็ไม่เหนื่อยเลย เพราะเรามีการ Normalized
ทุกความสำเร็จมากับราคาที่ต้องจ่าย แต่คนส่วนใหญ่มองแค่ด้านความสำเร็จ
ไม่มองว่าราคาที่ต้องจ่ายเพื่อได้ความสำเร็จ คืออะไรบ้าง
ซึ่งหนึ่งในนั้นยังไงก็ต้องฝึกความเจ็บปวดแน่นอน ถ้าฝึกรับความเจ็บปวดไม่ได้ คุณจะสำเร็จได้ยากมาก
ผู้ประกอบการต้องรับความเจ็บปวดได้สูงกว่าคนทั่วไป
ไม่มีใคร ‘ประสบความสำเร็จ’ โดยไม่เจ็บปวด ไม่เสียสละ
-------------------------------------------------------
#ท๊อปจิรายุส #ความสำเร็จ

22/08/2024

บทเรียนเหนือกาลเวลาเรื่องความมั่งคั่งที่คุณไม่ควรพลาด
จิตวิทยาทางการเงิน Ep.01 ไม่มีใครเป็นคนบ้า

ผมไม่รู้ว่าจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร ส่วนหนึ่งของผมต้องการโต้แย้ง กลับไปอย่างรุนแรง อีกส่วนของผมต้องการทำความเข้าใจ
แต่ส่วนใหญ่แล้วมันเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า “ประสบการณ์ที่แตกต่างกันนั้นสามารถนำไปสู่ มุมมองที่แตกต่างกันอย่างมาก”
ในความคิดที่ฝ่ายหนึ่งคิดตามสัญชาตญาณ ว่ามันผิดถูกเห็นได้จากทุกการตัดสินใจ

เรื่องเงินของผู้คนนั้นถูกกำหนดโดยการรับข้อมูลที่ พวกเขามีในช่วงเวลานั้น ๆ ผนวกเข้ากับแบบแผนความคิด (Mental Model)
อันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาแต่ละคนเกี่ยวกับวิถีที่โลกดำเนินไป คนเหล่านั้นอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ พวกเขาอาจมีข้อมูลไม่ครบถ้วน
พวกเขาอาจ เป็นคนไม่เก่งคณิตศาสตร์ พวกเขาอาจถูกชักจูงโดยการตลาดที่เน่าเฟะ พวกเขาอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
พวกเขาอาจจะประเมินผลจากการกระทำ ของตัวเองไปผิดทางเป็นไปได้ทั้งนั้น

แต่ทุกการตัดสินใจทางการเงินที่คนคนหนึ่งทำจะดูสมเหตุสมผลสำหรับเขา ในช่วงเวลานั้นและเลือกในสิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องทำ
พวกเขาบอกตัวเองว่าพวกเขา กำลังทำอะไร และทำไมพวกเขาถึงทำมัน และเรื่องราวเหล่านั้นก็ถูกหล่อหลอมขึ้นมา จากประสบการณ์เฉพาะของพวกเขาเอง

นั่นเป็นสิ่งที่ฟังดูบ้าบอสำหรับผม และมันอาจฟังดูบ้าสำหรับคุณเช่นกัน แต่ตัวผมก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำที่สุด คุณเองก็มีแนวโน้มที่จะไม่ใช่
เช่นเดียวกัน ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ยากสำหรับพวกเราหลายคนที่จะเข้าใจเหตุผล เบื้องหลังจิตใต้สำนึกของคนซื้อตั๋วลอตเตอรี่ผู้มีรายได้ต่ำ

แต่ถ้าคิดต่ออีกนิด คุณจะสามารถจินตนาการได้ว่าเรื่องราวมันเป็นแบบนี้:

“ พวกเราใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยเงินเดือนชนเดือนและการเก็บออมนั้นก็ ดูเหมือนจะไกลเกินเอื้อม โอกาสที่จะได้รับค่าจ้างสูงขึ้นของพวกเราก็ดูไกลเกิน
จะไขว่คว้า พวกเราไม่มีปัญญาที่จะมีวันหยุดพักผ่อนที่ดี ไม่สามารถซื้อ รถใหม่ ประกันสุขภาพ หรือบ้านที่ตั้งอยู่ในย่านปลอดภัย เราไม่สามารถ
ส่งลูกไปเรียนมหาวิทยาลัยได้โดยที่ไม่ก่อหนี้ก้อนโต สิ่งของส่วนใหญ่ที่ พวกคุณผู้อ่านหนังสือการเงินมีในตอนนี้หรือมีโอกาสที่จะคว้ามันมาได้
พวกเราไปมี การซื้อตั๋วลอตเตอรี่นั้นเป็นช่วงเวลาเดียวในชีวิตที่พวกเรา จะสามารถมีความฝันในการได้สิ่งของดี ๆ ที่จับต้องได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณอาจ
มีอยู่แล้วและมองไม่เห็นคุณค่าของมัน พวกเราจ่ายเงินเพื่อชื่อความฝันและคุณก็อาจไม่เข้าใจมันเพราะคุณกำลังใช้ชีวิตอยู่ในความฝัน
นั่นเป็นสาเหตุ ที่ทำให้เราชื่อด์วลอตเตอรี่มากกว่าคุณ ”

คุณไม่จำเป็นจะต้องเห็นด้วยกับการให้เหตุผลนี้ การซื้อตั๋วลอตโต้ในยามที่คุณถังแตกนั้นยังคงเป็นความคิดที่แย่ แต่ผมก็ค่อนข้างที่จะเข้าใจได้ว่าทำไม การขายลอตโต้นั้นยังคงมีอยู่
และไอเดียที่ว่า “สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่บ้า แต่ผม พอเข้าใจได้ว่าทำไมคุณถึงทำเช่นนั้น” เปิดเผยให้เห็นสาเหตุของการตัดสินใจ ทางการเงินหลาย ๆ อย่างของเรา
มีคนแค่เพียงไม่กี่คนที่ทำการตัดสินใจทางการเงินด้วยข้อมูลล้วน ๆ พวกเขามักจะทำการตัดสินใจที่โต๊ะอาหารค่ำ หรือในการประชุมบริษัท ที่ซึ่งประสบการณ์ส่วนบุคคล มุมมองอันเป็นเอกลักษณ์ที่คุณมีต่อโลก อัตตา ความหยิ่งผยอง การตลาด และสิ่งจูงใจประหลาดต่าง ๆ ได้ถูกหลอมรวมกันจน กลายเป็นเรื่องราวที่เหมาะกับคุณ

บทความจากหนังสือ The Psychology of Money
บทเรียนเหนือกาลเวลาเรื่องความมั่งคั่งที่คุณไม่ควรพลาด
#ข้อคิด #การเงิน #หนังสือ #พัฒนาตัวเอง