จำหน่ายดาวเรืองสดใหม่จากไร่

จำหน่ายดาวเรืองสดใหม่จากไร่ ช่องเกี่ยวกับการเกษตร แบบบ้านๆ เกษตรกรรม

08/06/2025

ขอให้ลูกเพจมีความสุขทุกท่านนะครับ

23/05/2025
📌พิกัดถาดเพาะกล้า ยกแพค ตกใบละไม่ถึง13 บาn
08/05/2025

📌พิกัดถาดเพาะกล้า ยกแพค ตกใบละไม่ถึง13 บาn

ฉันเจอโปรเด็ดนี้จาก Lazada! มาดูเร็ว! ชื่อสินค้า: ถาดเพาะกล้า ถาดพาะเมล็ด (แบบหนา 0.9 mm) ขนาด 50, 105, 200หลุม (ยกกล่อง 100 ชิ้น) ....

📌พิกัดถุงปลูกแสนดี
07/05/2025

📌พิกัดถุงปลูกแสนดี

ฉันเจอโปรเด็ดนี้จาก Lazada! มาดูเร็ว! ชื่อสินค้า: ถุงปลูกสีขาวแสนดี 8x15 นิ้ว 5 ใบ/แพ็ค ถุงเพาะปลูก ถุงเพาะชำ ถุงเพาะ ...

จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง📌👉🪴จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง คือ เพื่อนที่ดีของพืชและดิน 👉🏻เรามาดูกันว่า เราจะใช้จุลินทรีย์นี้ให้เก...
30/04/2025

จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง📌👉

🪴จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง คือ เพื่อนที่ดีของพืชและดิน 👉🏻เรามาดูกันว่า เราจะใช้จุลินทรีย์นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในงานเกษตรของเราอย่างไรบ้าง❓

วิธีทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงแบบง่ายๆ
💡ส่วนผสม
1. น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
2. ขวดใสขนาด 1.5 ลิตร
3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
4. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
5. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
6. ผงชูรส 1 ช้อนโต๊ะ

💡วิธีทำ
1. นำส่วนผสมไข่ไก่ น้ำปลา กะปิ และผงชูรสใส่ถ้วย คนให้เข้ากัน
2. ใส่น้ำในขวดขนาด 1.5 ลิตร (ไม่เต็ม)
3. เติมส่วนผสมไข่ไก่ลงในขวด 2 ช้อนโต๊ะ
4.วางขวดตากแดดแนวนอน และเขย่าขวดบ่อยๆ
5.ทิ้งไว้ประมาณ 20 วัน จนขวดเปลี่ยนเป็นสีแดง

💡การนำไปใช้

🌱 การปรับปรุงดิน

อัตราการใช้: 1 ลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร

วิธีใช้: รดลงดินก่อนปลูกพืช หรือจะผสมกับปุ๋ยหมัก/ปุ๋ยคอก แล้วคลุกให้เข้ากันก่อนหว่านลงดิน หรือฉีดพ่นลงแปลงปลูกเดือนละ 1–2 ครั้ง

ประโยชน์ : ปรับสภาพดิน เพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์
ช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุ ทำให้ดินร่วนซุยและอุดมสมบูรณ์ เพิ่มไนโตรเจนในดิน ช่วยให้พืชโตเร็วและแข็งแรง

🌿 การป้องกันโรคพืช

อัตราการใช้ : 5–10 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร

วิธีใช้ : ฉีดพ่นทางใบทุก 7–14 วันควรฉีดในช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อให้จุลินทรีย์ทำงานได้ดี

ประโยชน์ : สร้างภูมิต้านทานให้พืช ลดการเกิดโรคจากเชื้อราและแบคทีเรียลดการใช้สารเคมี ทำให้พืชแข็งแรงและปลอดภัยต่อผู้บริโภค

🐟 การใช้ในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ (กุ้ง ปลา ฯลฯ)

อัตราการใช้ : 10–20 ลิตร ต่อไร่ ต่อเดือน

วิธีใช้ : ผสมกับน้ำแล้วสาดลงในบ่อ หรือจะละลายในน้ำแล้วพ่นให้ทั่ว

ประโยชน์ : ช่วยลดแอมโมเนีย ปรับสมดุลน้ำ เพิ่มออกซิเจนในบ่อ ทำให้น้ำใสสะอาด ช่วยให้สัตว์น้ำมีสุขภาพดีและเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ

💧 การใช้ในการบำบัดน้ำเสีย

อัตราการใช้ : 1–2 ลิตรต่อลูกบาศก์เมตรของน้ำเสีย

วิธีใช้ : เทลงในระบบบำบัด หรือฉีดพ่นบริเวณน้ำเสีย

ประโยชน์ : ช่วยลดกลิ่นเหม็นและสารพิษในน้ำ ปรับสภาพน้ำให้สะอาดและสมดุลมากขึ้น

🌾 การใช้ในพืชและการเกษตร

อัตราการใช้ : ฉีดพ่นทางใบ: 5–10 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร ทุก 7–14 วัน

รดราก : 20–50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 7–14 วัน

ประโยชน์ : ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช กระตุ้นการพัฒนาราก เพิ่มผลผลิต ทำให้พืชแข็งแรง โตเร็ว และพร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยว
🌳☀️🏞️🥦ลองนำไปปรับใช้กันนะครับ
#ลูกชาวไร่ #เกษตรสนุก #ปลูกผักกินเอง #พืชผักสวนครัว #จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง #ฮอร์โมนสังเคราะห์แสง #ฉันจะรวยด้วยเกษตร

25/03/2025

สูตรหมักดิน ปลูกอะไรก็งาม🌱🌿

การหมักดินเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินให้เหมาะกับการปลูกพืช สูตรหมักดินที่ง่ายและได้ผลดีสามารถทำได้โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่าย ลองใช้สูตรนี้ดูนะ

สูตรหมักดินง่ายๆ

วัตถุดิบ
1. ดินเก่า หรือดินปลูกธรรมดา 2 ส่วน
2. ขี้เถ้าแกลบ หรือแกลบดิบ 1 ส่วน (ช่วยให้ดินโปร่ง)
3. ปุ๋ยคอก (ขี้วัว ขี้ไก่ หรือขี้หมู) 1 ส่วน (เพิ่มธาตุอาหาร)
4. ใบไม้แห้งหรือเศษหญ้า 1 ส่วน (ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุ)
5. รำข้าว 1/2 ส่วน (ช่วยเร่งการย่อยสลาย)
6. กากน้ำตาล หรือ น้ำตาลทรายแดง 2-3 ช้อนโต๊ะ (เร่งจุลินทรีย์)
7. น้ำหมักชีวภาพ 3-5 ช้อนโต๊ะ (ช่วยย่อยสลายเร็วขึ้น)
8. น้ำสะอาด (ใช้พอให้ดินชื้น ไม่แฉะ)

วิธีทำ
1. นำดินเก่า ขี้เถ้าแกลบ ปุ๋ยคอก และใบไม้แห้งมาผสมให้เข้ากัน
2. เติมรำข้าว กากน้ำตาล และน้ำหมักชีวภาพลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. ค่อยๆ เติมน้ำทีละน้อย ให้ดินมีความชื้นพอเหมาะ (ไม่ให้แฉะจนเกินไป)
4. กองไว้ในที่ร่ม คลุมด้วยกระสอบหรือพลาสติกพรางแสง รดน้ำพอชื้นทุก 2-3 วัน
5. ทิ้งไว้ 15-30 วัน ดินจะเริ่มร่วนซุย มีสีดำและกลิ่นหอมเหมือนดินป่า พร้อมนำไปใช้ปลูกพืช

เคล็ดลับ:
• หากต้องการให้ดินหมักพร้อมใช้เร็วขึ้น สามารถกลับกองดินทุก 7 วัน เพื่อให้อากาศถ่ายเทและการย่อยสลายเร็วขึ้น
• สามารถเติมจุลินทรีย์หน่อกล้วย หรือน้ำหมักเปลือกผลไม้ เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีให้ดิน

สูตรนี้ช่วยให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำดี และมีแร่ธาตุเพียงพอสำหรับการปลูกพืชทุกชนิด!

#เปิดค่าการมองเห็น​ #ฉันรักการทำเกษตร #ทีวีเกษตร #อยากทำเกษตร #ชัยยันต์เวียงวิเศษ #เกษตรพอเพียง #เกษตรผสมผสาน #เกษตรกร #เกษตรกรไทย #เกษตรกรยุคใหม่ #เกษตรกรมือใหม่ #เกษตรกรรุ่นใหม่ #เกษตรกรรม #เกษตรแนวใหม่ #เกษตรอินทรีย์ #เกษตร

01/03/2025

1. #เปลือกกล้วย:** มีแคลเซียมและโพแทสเซียมสูง
2. #กากกาแฟ:** เหมาะกับพืชที่ชอบดินกรด เช่น ต้นมะนาว
3. #เปลือกไข่:** อุดมด้วยแคลเซียม นำมาบดแล้วโรยช่วยเสริมความแข็งแรงให้พืช
4. #เบกกิ้งโซดา:** โรยในพื้นที่ที่มีหอยทาก จะช่วยกำจัดทากได้
5. #กากน้ำตาล:** ใช้ทำปุ๋ยหมัก ช่วยปรับโครงสร้างดินให้มีความเป็นกรด-ด่างที่เหมาะสมต่อการปลูกพืช
6. #น้ำจากตู้ปลา:** เต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อพืช
7. #ขี้เถ้า:** โรยลงบนพืชผัก ช่วยเติมโพแทสเซียมและแคลเซียมให้ดิน
8. #นม:** มีทั้งแคลเซียมและโปรตีน ช่วยให้พืชแข็งแรงและโตไว
9. #เศษผัก:** นำไปต้มให้ได้น้ำซุปที่มีสารอาหารครบถ้วนสำหรับพืช
10. #ถุงชาเก่า:** มีสารอาหารสำคัญที่พืชต้องการ

🍌🍌 สูตรบำรุงพืชให้แข็งแรงและป้องกันการร่วงของดอก
**สิ่งที่ต้องเตรียม:**
- เปลือกไข่
- เปลือกกล้วย

**วิธีทำ:**
1. ใส่เปลือกไข่และเปลือกกล้วยลงในภาชนะ
2. เติมน้ำให้ท่วมแล้วหมักไว้ 3 วัน
3. นำส่วนผสมที่หมักแล้ว 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 1 ลิตร จากนั้นฉีดพ่นบนพืช

🐜🐜สูตรไล่มดและแมลง
**สิ่งที่ต้องเตรียม:**
- เปลือกไข่
- เบกกิ้งโซดา

**วิธีทำ:**
1. บดเปลือกไข่ให้ละเอียด
2. โรยเบกกิ้งโซดาลงไป 2 ช้อน คนให้เข้ากัน
3. ใช้ผงนี้โรยบริเวณที่มีมดและแมลง หรือผสมน้ำ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 500 มล. แล้วฉีดพ่น

🥬🥬สูตรเร่งการเจริญเติบโตของพืชผัก
**สิ่งที่ต้องเตรียม:**
- น้ำจากตู้ปลา
- เครื่องดื่มชูกำลัง

**วิธีทำ:**
1. เมื่อต้องเปลี่ยนน้ำในตู้ปลา ให้นำไปรดพืชผัก หรือนำมาผสมเครื่องดื่มชูกำลัง 2 ช้อนโต๊ะเพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตของพืช

🍅🍅สูตรสำหรับบำรุงมะเขือเทศ
**สิ่งที่ต้องเตรียม:**
- เบกกิ้งโซดา

**วิธีทำ:**
1. โรยเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะรอบโคนต้นมะเขือเทศ จะช่วยให้มะเขือเทศมีรสหวานและกลมกล่อม
2. ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 1 ลิตร แล้วฉีดพ่นบนต้นและใบเพื่อช่วยไล่แมลงและทาก

#มล #ประโยชน์ของเกลือกกล้วย

28/02/2025

#ลูกใต้ใบ"โดนตับเต็มๆ

บำรุงตับ ปกป้องตับ มะเรงตับ กำจัดพิษในตับ น้ำตาลในเลือดลด แก้ปวดตามข้อ ปวดตามร่างกาย

ไขมันพอกตับ แก้เบาหวาน ยังมีประโยชน์ต่อระบบทางเดินปัสสาวะอย่างมาก เพราะลูกใต้ใบช่วยทั้งการขับนิ่ว ขับปัสสาวะ ลดการอักเสบ ติดเชื้อ

จึงกล่าวได้ว่าลูกใต้ใบเป็นสมุนไพรเพื่อตับและไตอย่างแท้จริง

วิธีใช้
ตามตำราจะใช้ลูกใต้ใบทั้งต้นรวมราก1กำมือ

ใช้ น้ำ3แก้ว นำมาต้มเคี่ยวไปเรื่อยๆให้เหลือ 1 แก้ว

กินละครั้งละ 1/2 แก้ว วันล 3-4 ครั้งเวลาก่อนอาหาร
ลูกใต้ใบมีรสขมจัด สรรพคุณในตำรายาไทย

ช่วยลดไข้ทุกชนิด ช่วยแก้หวัด แก้ไอ ป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายและบำรุงตับ ลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือด ลดความดัน...
ช่วงนี้กำลังขึ้นเยอะ ช่วงหน้าฝนจะขึ้นเต็มบริเวณรอบบ้านเลย

28/02/2025

วิธีฉีดพ่นสารอาหารหรือปุ๋ยน้ำทางใบให้ถูกวิธี

การฉีดพ่นสารอาหาร ปุ๋นน้ำ หรือสารต่างๆ ทางใบ ต้องฉีดพ่นให้ถูกเวลาและถูกวิธี เพื่อให้พืชได้ประโยชน์สูงสุดที่ฉีดพ่นนั้น คือ

1. เลือกเวลาให้ถูก
การใช้ปุ๋ยน้ำ ฮอร์โมน หรือสารเสริมการเจริญเติบโตต่างๆ ทางใบ แนะนำให้ฉีดพ่นตอนเช้าระหว่าง 06.00-09.00 น. จะมีประสิทธิภาพดีที่สุด หรืออย่างช้าอย่าให้เกิน 10.00 น. เพราะช่วงเช้าอากาศยังไม่ร้อนมากพืชจะเปิดปากใบกว้างที่สุด ทำให้การดูดซึมทำได้เร็ว และพืชนำไปใช้ต่อในกิจกรรมสังเคราะห์แสงได้ทันที

หากฉีดพ่นตอนเที่ยงหรือบ่ายช่วงที่อากาศร้อนมาก พืชจะปิดปากใบเพื่อลดการระเหยของน้ำ ส่งผลให้ดูดซึมสารที่ฉีดพ่นได้ช้าหรือน้อยลง และสารที่ฉีดพ่นจะถูกแดดเผาและระเหยไปก่อนที่พืชจะดูดซึมไปใช้ได้หมด

ส่วนการฉีดพ่นตอนเย็นก็ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากพืชไม่ดูดซึมสารที่เราฉีดพ่น นอกจากนี้ยังกลับคายน้ำออกมาดันสารที่เราฉีดพ่นทิ้งไปเสียอีกด้วย และกลางคืนอากาศเย็น ความชื้นสัมพัทธ์สูง สารที่ฉีดพ่นจะเปียกใบอยู่อย่างนั้นตลอดทั้งคืน มีความเสี่ยงสูงทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย

มีข้อยกเว้นสำหรับสารชีวภัณฑ์หรือจุลินทรีย์ ควรฉีดพ่นตอนเย็นถึงค่ำ เพราะจุลินทรีย์จะได้มีเวลาฟื้นตัวหรือขยายตัวตลอดทั้งคืน ขณะที่การฉีดพ่นตอนเช้าหรือเที่ยง จุลินทรีย์ส่วนมากจะถูกแดดเผาตายไปเป็นส่วนใหญ่

2. ดูสภาพอากาศที่เหมาะสม
ควรฉีดพ่นตอนฟ้าเปิด อากาศไม่ครึ้ม ควรดูพยากรณ์อากาศด้วยว่าฝนจะไม่ตก เพราะช่วงที่ฟ้าปิด ครึ้มฟ้าครึ้มฝน เป็นช่วงที่ความชื้นในอากาศสูง พืชไม่ค่อยคายน้ำ ปากใบไม่เปิด ส่งผลให้กิจกรรมการดูดซึมทั้งทางรากและใบลดน้อยลงไปมาก และถ้าตามมาด้วยฝนตกด้วยจะยิ่งเสียหายเพราะสารที่ฉีดพ่นจะถูกน้ำฝนชะล้างไปเสียหมด

ถ้าจำเป็นจริงๆ ให้ผสมสารเร่งการดูดซึมลงไปด้วยก็พอช่วยได้บ้าง

3. ฉีดพ่นให้ถูกวิธี
เน้นฉีดพ่นเข้าใต้ใบ เนื่องจากปากใบพืช 70% อยู่ใต้ใบ อีก 30% อยู่บนใบ การฉีดพ่นปุ๋ย ฮอร์โมน หรือสารบำรุงพืชทางใบจึงควรฉีดเข้าไปที่ใต้ใบ

27/02/2025

#✅ #เทคนิค ”การใส่ปุ๋ยเคมี แต่ละสูตร“

1. ปุ๋ยสูตรเร่งใบ (ไนโตรเจนสูง - N สูง)
• ตัวอย่างสูตร: 25-7-7, 30-10-10, 46-0-0 (ยูเรีย)
• เหมาะกับ: พืชในระยะแตกใบ เจริญเติบโตทางลำต้นและใบ เช่น ผักใบ ข้าว ไม้ผลที่ต้องการแตกกิ่ง
• ช่วงเวลาที่ใส่:
• พืชไร่: ระยะแรกหลังปลูก 15-30 วัน
• ไม้ผล: หลังแตกใบอ่อน หรือหลังตัดแต่งกิ่ง
• ผักกินใบ: ใส่ทุก 7-10 วันหลังงอก

2. ปุ๋ยสูตรเร่งดอกและผล (ฟอสฟอรัสสูง - P สูง)
• ตัวอย่างสูตร: 8-24-24, 12-24-12, 15-30-15
• เหมาะกับ: พืชที่ต้องการสะสมอาหารเพื่อออกดอก ติดผล เช่น ข้าวโพด มะเขือเทศ พริก ไม้ผล
• ช่วงเวลาที่ใส่:
• พืชไร่/ผัก: ก่อนออกดอก 1-2 สัปดาห์
• ไม้ผล: ช่วงสะสมอาหารก่อนออกดอก

3. ปุ๋ยสูตรเร่งผล-ขยายขนาดผล (โพแทสเซียมสูง - K สูง)
• ตัวอย่างสูตร: 13-13-21, 0-0-60, 8-24-24
• เหมาะกับ: พืชที่กำลังติดผล ช่วยเพิ่มคุณภาพและรสชาติ เช่น ทุเรียน มะม่วง ข้าว
• ช่วงเวลาที่ใส่:
• ไม้ผล: หลังติดผลเล็ก จนถึงก่อนเก็บเกี่ยว
• ข้าว: ช่วงตั้งท้อง

4. ปุ๋ยสูตรเสมอ (N-P-K สมดุล)
• ตัวอย่างสูตร: 16-16-16, 15-15-15, 14-14-14
• เหมาะกับ: พืชที่ต้องการธาตุอาหารครบถ้วน เช่น พืชผัก ไม้ดอกไม้ประดับ
• ช่วงเวลาที่ใส่:
• ทุกช่วงการเจริญเติบโต ใช้เป็นปุ๋ยหลักหรือเสริม

ข้อควรระวังในการใส่ปุ๋ยเคมี
• ใส่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไปเพราะอาจทำให้ดินเสื่อม
• ใส่ในช่วงที่ดินมีความชื้น หลีกเลี่ยงการใส่ตอนแดดจัด
• ควรเสริมปุ๋ยอินทรีย์ร่วมด้วยเพื่อปรับปรุงโครงสร้างดิน

22/02/2025

✅ #เทคนิค ”การใส่ปุ๋ยเคมี แต่ละสูตร“

1. ปุ๋ยสูตรเร่งใบ (ไนโตรเจนสูง - N สูง)
• ตัวอย่างสูตร: 25-7-7, 30-10-10, 46-0-0 (ยูเรีย)
• เหมาะกับ: พืชในระยะแตกใบ เจริญเติบโตทางลำต้นและใบ เช่น ผักใบ ข้าว ไม้ผลที่ต้องการแตกกิ่ง
• ช่วงเวลาที่ใส่:
• พืชไร่: ระยะแรกหลังปลูก 15-30 วัน
• ไม้ผล: หลังแตกใบอ่อน หรือหลังตัดแต่งกิ่ง
• ผักกินใบ: ใส่ทุก 7-10 วันหลังงอก

2. ปุ๋ยสูตรเร่งดอกและผล (ฟอสฟอรัสสูง - P สูง)
• ตัวอย่างสูตร: 8-24-24, 12-24-12, 15-30-15
• เหมาะกับ: พืชที่ต้องการสะสมอาหารเพื่อออกดอก ติดผล เช่น ข้าวโพด มะเขือเทศ พริก ไม้ผล
• ช่วงเวลาที่ใส่:
• พืชไร่/ผัก: ก่อนออกดอก 1-2 สัปดาห์
• ไม้ผล: ช่วงสะสมอาหารก่อนออกดอก

3. ปุ๋ยสูตรเร่งผล-ขยายขนาดผล (โพแทสเซียมสูง - K สูง)
• ตัวอย่างสูตร: 13-13-21, 0-0-60, 8-24-24
• เหมาะกับ: พืชที่กำลังติดผล ช่วยเพิ่มคุณภาพและรสชาติ เช่น ทุเรียน มะม่วง ข้าว
• ช่วงเวลาที่ใส่:
• ไม้ผล: หลังติดผลเล็ก จนถึงก่อนเก็บเกี่ยว
• ข้าว: ช่วงตั้งท้อง

4. ปุ๋ยสูตรเสมอ (N-P-K สมดุล)
• ตัวอย่างสูตร: 16-16-16, 15-15-15, 14-14-14
• เหมาะกับ: พืชที่ต้องการธาตุอาหารครบถ้วน เช่น พืชผัก ไม้ดอกไม้ประดับ
• ช่วงเวลาที่ใส่:
• ทุกช่วงการเจริญเติบโต ใช้เป็นปุ๋ยหลักหรือเสริม

ข้อควรระวังในการใส่ปุ๋ยเคมี
• ใส่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไปเพราะอาจทำให้ดินเสื่อม
• ใส่ในช่วงที่ดินมีความชื้น หลีกเลี่ยงการใส่ตอนแดดจัด
• ควรเสริมปุ๋ยอินทรีย์ร่วมด้วยเพื่อปรับปรุงโครงสร้างดิน

ภาพ : Pinterest

16/02/2025

#ดินหมักสูตร
1 แกลบดิบ 2 ส่วน
2 แกลบดำ 1 ส่วน
3 หน้าดิน 2 ส่วน
4 ขุยมะพร้าว 1 ส่วน
5 ปุ๋ยคอก 1 ส่วน
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง+ น้ำหมักหรือ EM+ น้ำส้มควันไม้
วิธีการผสมนำทุกอย่างมาผสมรวมกัน จากนั้นให้นำน้ำ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง น้ำหมักหรือ EM และน้ำส้มควันไม้ ผสมอย่างละ 20 ซีซี ใส่ไว้ในบัวรดน้ำ เอาไว้ผสมเวลา ที่เราคลุกเคล้าทุกอย่างเข้าด้วยกัน จากนั้น นำทุกอย่างที่ผสมแล้ว ใส่กระสอบปุ๋ยมัดปากให้แน่น เก็บไว้ในที่ร่มรำไร 15 วันเป็นอย่างน้อยแล้วค่อยนำมาปลูก พืชได้ทุกชนิด สูตรทั้งหมดที่ให้ไม่ตายตัวสามารถปรับใช้ กับสิ่งที่เรามีอยู่ได้ค่ะ

ที่อยู่

Amphoe Kui Buri
77150

เบอร์โทรศัพท์

+66 92 791 7947

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ จำหน่ายดาวเรืองสดใหม่จากไร่ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง จำหน่ายดาวเรืองสดใหม่จากไร่:

แชร์