Khon Kaen Talk, Amphoe Muang Khon Kaen (2025)

23/11/2025

จากเส้นใยเหลือใช้
นิทรรศการนักออกแบบรุ่นใหม่ ”Carpet Tread Reimagined”

Carpet Tread Reimagined การเดินทางของเส้นใยเหลือใช้ สู่พื้นที่เรียนรู้ร่วมสมัยของนักออกแบบรุ่นใหม่ “เส้นใยเหลือใช้” อาจเป็นเพียงวัสดุที่ถูกมองข้ามในสายตาอุตสาหกรรม แต่สำหรับนิทรรศการ Carpet Tread Reimagined มันคือจุดเริ่มต้นของการตีความใหม่ ที่ทำให้เห็นว่าการออกแบบสามารถสร้างคุณค่าให้กับสิ่งที่เคยไร้ค่าได้อย่างไร ผ่านความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจ ที่เปิดบทเรียนจริงให้กับนักศึกษาในการสร้างสรรค์นวัตกรรมวัสดุอย่างยั่งยืน
นิทรรศการนี้เกิดจากโครงการบูรณาการการเรียนการสอนของ สาขาวิชาการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ บริษัท คาร์เปท เมกเกอร์ (ประเทศไทย) ที่เปิดพื้นที่ให้นักศึกษาได้ทดลองคิด ค้นหา และพัฒนา “วัสดุใหม่” จากเศษเส้นใยธรรมชาติและเส้นใยสังเคราะห์ ตั้งแต่ขนสัตว์ ลินิน ไปจนถึงเส้นใยต้นอ้อย วัสดุที่ครั้งหนึ่งเคยถูกทิ้ง ได้กลับมาเป็นต้นกำเนิดของความคิดสร้างสรรค์อีกครั้ง
ภายในนิทรรศการ ผลงานถูกออกแบบให้ทำหน้าที่มากกว่าแค่การจัดแสดง แต่เป็น “พื้นที่เรียนรู้ร่วมสมัย” ที่ให้นักศึกษาตีความเส้นใยเหลือใช้ผ่านมุมมองของแต่ละศาสตร์ ทั้งงานออกแบบตกแต่งภายใน งานสิ่งทอ ไปจนถึงผืนพรมที่ถูกถักทอขึ้นใหม่ในโรงงานจริงของคาร์เปทเมกเกอร์ แนวคิดเรื่อง Circular Economy จึงไม่ใช่เพียงคำอธิบาย แต่เป็นกระบวนการที่นักศึกษาทุกคนได้สัมผัสและลงมือทำ
ทั้งหมดนี้สะท้อนบทบาทใหม่ของการศึกษาในยุคที่มหาวิทยาลัยไม่ใช่เพียงห้องเรียน แต่เป็นระบบนิเวศที่เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการจริง นักออกแบบรุ่นใหม่ได้เห็นตั้งแต่คุณค่าของวัสดุ ไปจนถึงกระบวนการผลิต และได้เรียนรู้ว่า “ความยั่งยืน” ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่คือทักษะที่ต้องฝึกฝน ผ่านการล้มเหลว ทดลอง และสร้างสรรค์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
Carpet Tread Reimagined จึงเป็นมากกว่านิทรรศการ มันคือบทพิสูจน์ว่าเส้นใยเหลือใช้สามารถกลายเป็นพื้นที่ของความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และเป็นตัวอย่างของการสร้างระบบความร่วมมือระหว่างชุมชนการออกแบบและอุตสาหกรรม ที่ช่วยต่อยอดให้เมืองขอนแก่นแข็งแรงขึ้นในฐานะศูนย์กลางของความคิดสร้างสรรค์ร่วมสมัยแห่งอีสาน
นิทรรศการ Carpet Tread Reimagined การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากเส้นใยเหลือใช้
☑️ วันที่ : 28 ตุลาคม – 27 พฤศจิกายน 2568
☑️ เวลา : 10.30 น. –19.00 น. (ปิดวันจันทร์)
☑️ สถานที่ : ณ TCDC ขอนแก่น ชั้น 1 ห้อง Gallery
เรื่อง : ไอลดา นาเมืองรักษ์
ภาพ : ไอลดา นาเมืองรักษ์
_
“ขอนแก่นทอล์ก สังคมแห่งการพูดคุย”
https://linktr.ee/khonkaentalk

#สถาปัตย์มข

23/11/2025

ขอนแก่นกับความเป็นไปได้ Night Economy
ปัญหาโครงสร้างธุรกิจเศรษฐกิจกลางคืนที่ควรได้รับการแก้ไข

ในหลายปีที่ผ่านมา เรามักมองขอนแก่นในช่วงเวลากลางคืน ผ่านภาพของแสงไฟ ผับ บาร์ ร้านเหล้า หรือย่านบันเทิง แต่หากมองให้ลึกกว่านั้น เศรษฐกิจกลางคืน (Night Economy) คือสมรภูมิสำคัญของเมือง ที่เชื่อมโยงทั้งเรื่องปากท้อง ความปลอดภัย ความเป็นธรรม และเป็นภาพจำของเมืองหลังพระอาทิตย์ตกดิน
Night Economy ของขอนแก่น ถูกพูดถึงในปีที่ผ่านมา กับการลงพื้นที่ของทีมคุณณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และคุณอ๊อฟ เบญจมาภรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ร่วมกันพูดคุยกับผู้ประกอบการร้านอาหารกลางคืนและสถานบันเทิงในเขตเทศบาลนครขอนแก่น สิ่งที่สะท้อนชัดคือ “ความไม่ชัดเจน” ของกฎหมายและขั้นตอนรัฐที่กลายเป็นต้นทุนที่มองไม่เห็น ตั้งแต่การขอใบอนุญาตหลายใบ หลายหน่วยงาน การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียมระหว่างร้านที่ทำถูกต้องกับร้านที่ลักไก่ ไปจนถึงค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายนอกระบบที่ทำให้ธุรกิจกลางคืนของผู้ประกอบการตัวเล็ก เปราะบางกว่าที่ควรจะเป็น
หากมองในมุมเมือง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่ปัญหาธุรกิจ แต่นี่คือปัญหา “โครงสร้าง” ของ Night Economy ที่ทำให้เมืองเสียโอกาส เพราะเมื่อกติกาไม่แฟร์ เมืองก็ไม่ได้รับศักยภาพเต็ม ๆ ของเศรษฐกิจกลางคืน ทั้งการจ้างงาน การท่องเที่ยว และกิจกรรมสร้างสรรค์ที่สามารถดึงคนออกมาใช้ชีวิตในเมืองหลังเลิกงานได้อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ การมีกติกาที่เท่าเทียม ชัดเจน และตรวจสอบได้ คือพื้นฐานของเมือง โดยไม่รู้สึกว่าอยู่ในพื้นที่สีเทา
ข้อเสนอสำคัญคือการทำให้ “ระบบอนุญาตธุรกิจกลางคืน” ไม่ยุ่งยากอย่างที่เป็นอยู่ เริ่มจาก Super License ที่ให้ผู้ประกอบการขอใบเดียวจบ ไม่ต้องวิ่งหลายหน่วยงาน และที่สำคัญคือการ กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น เป็นคนกำหนดโซนและเวลาเปิด – ปิดเองตามบริบทเมือง เมื่อกติกาชัดเจนขึ้น โปร่งใสขึ้น และเท่าเทียมกันมากขึ้น เศรษฐกิจกลางคืนก็จะค่อย ๆ ขยับจากพื้นที่ล่อแหลม สู่พื้นที่ที่อยู่ในระบบ กำกับดูแลได้ และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ตั้งใจ และทำถูกต้องอยู่รอดในระยะยาว
ตัวอย่างจากเทศกาล Awakening Bangkok ที่ใช้แสงไฟและศิลปะดิจิทัลเปลี่ยนย่านเมืองเก่าให้กลายเป็นเวทีของ Night Time Economy ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจกลางคืนที่แข็งแรงไม่จำเป็นต้องพึ่งผับหรือบาร์จำนวนมาก แต่ต้องมีกิจกรรมที่ออกแบบดี และดึงผู้คนให้ออกมาใช้ชีวิตในเมือง ทั้งเทศกาล แสงไฟ ดนตรี ไปจนถึง ตลาดกลางคืน ที่เป็นพื้นที่ทำกินของผู้ค้ารายเล็ก ขอนแก่นเองก็สามารถสร้าง Night Economy แบบนี้ได้ ผ่านกิจกรรมที่ทำให้คน “อยู่ต่อ ใช้เวลาเพิ่ม และใช้จ่ายมากขึ้น” พร้อมกระจายรายได้สู่ร้านอาหาร แม่ค้า ตลาดนัด และแรงงานยามค่ำคืน โดยยังคงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของคนเมืองเป็นหลัก
สุดท้ายแล้ว ขอนแก่นกับ Night Economy จึงไม่ใช่คำถามว่า “จะเอาหรือไม่เอาธุรกิจกลางคืน” แต่อยู่ที่ว่าเราจะออกแบบให้เศรษฐกิจกลางคืนเป็นพื้นที่ของความสร้างสรรค์ และมีความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ และความปลอดภัยต่อผู้ใช้บริการมากที่สุดได้อย่างไร เมืองที่ดีต้องมีระบบที่ยืนอยู่ข้างคนทำมาหากินสุจริต และทำให้คนขอนแก่นรู้สึกว่า เมืองของเราน่าอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืนจริงๆ
เรื่อง : ไอลดา นาเมืองรักษ์
ภาพ : ไอลดา นาเมืองรักษ์
_
“ขอนแก่นทอล์ก สังคมแห่งการพูดคุย”
https://linktr.ee/khonkaentalk

#ธุรกิจกลางคืน #ธุรกิจท้องถิ่น

22/11/2025

🟡 EP.03 — ถนนหน้าเมือง–กลางเมือง

ถนนหน้าเมืองและถนนกลางเมือง สองถนนเส้นเก่าแก่ที่บอกเล่าเส้นทางการเติบโตของขอนแก่น ผ่าน 6 ธุรกิจครอบครัวที่ยืนหยัดมากว่าครึ่งศตวรรษ ตั้งแต่ ชินวัตรค้าผ้า, สมบูรณ์สโตร์, แฟรี่พลาซ่า, เพื่อนครัวเบเกอร์ช็อป, ไม้ไทยพานิช ไปจนถึง เฝอท่าบ่อ แต่ละร้านคือรากเหง้า ความทรงจำ และจุดเริ่มต้นของผู้คนบนถนนสายนี้

ถนนหน้าเมือง ถนนที่ยังเล่าเรื่องเมืองได้เป็นอย่างดี
_
“ขอนแก่นทอล์ก สังคมแห่งการพูดคุย”
https://linktr.ee/khonkaentalk

#ธุรกิจเก่าแก่ #ธุรกิจขอนแก่น #รากจีนเวียดนาม #รากจีนเวียดนามศรีจันทร์ขอนแก่น
#ถนนกลางเมือง #ถนนศรีจันทร์ #ถนนหน้าเมือง

21/11/2025

จากไดโนเสาร์ภูเวียง สู่เมนูสุดคิ้วท์ SOURI
เมนูมาการอง Local Exclusive รสชาติขนมไดโนพาร์คในตำนาน

ไดโนเสาร์คือสัญลักษณ์ที่คนทั้งโลกรู้จัก และสำหรับขอนแก่น ไดโนเสาร์ไม่ใช่เพียงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ แต่คืออัตลักษณ์ของเมืองที่สืบเนื่องมาตั้งแต่การค้นพบซากดึกดำบรรพ์ที่ภูเวียงเมื่อหลายสิบปีก่อน จนพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียงและอุทยานธรณีขอนแก่น ขอนแก่นจึงถูกจดจำในฐานะ “ถิ่นกำเนิดไดโนเสาร์ของประเทศไทย” นั่นเอง
และในเวลาเดียวกัน SOURI แบรนด์มาการองชื่อดังที่สร้างโดย “วิน เมธวิน” และ “หมิง–มินตรา” ได้กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ของหวานที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศ จุดเด่นของ SOURI คือการผสมผสานศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ และความพิถีพิถันในงานขนมเข้าด้วยกันอย่างมีเอกลักษณ์
มาการองของแบรนด์จึงไม่ใช่แค่ขนม แต่เป็นประสบการณ์ที่ผ่านการออกแบบอย่างละเอียด ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ คาแรกเตอร์ ไปจนถึงคอลเลกชันพิเศษในเทศกาลต่าง ๆ การควบคุมภาพลักษณ์แบรนด์ที่ชัด ทำให้ SOURI เป็นผู้นำในตลาด Character Dessert ของไทยอย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้ SOURI มีตัวแคมเปญ เพื่อตีความ “เอกลักษณ์ท้องถิ่น” ผ่านขนมมาการองแบบพิเศษเฉพาะจังหวัด และสำหรับขอนแก่น คือเมนู Dinosaur Fatcaron ที่ดึงอัตลักษณ์ของเมืองมาเล่าใหม่ผ่านของหวานร่วมสมัย ฝามาการองเป็นรูปไดโนเสาร์คู่สีชมพู เขียวแบบซิกเนเจอร์ เนื้อครีมละมุน และครัมเบิ้ลกรุบกรอบที่ได้แรงบันดาลใจจากขนม “ไดโนพาร์ค” ในวัยเด็กของหลายคน กลิ่นหอมซีฟู้ดและความหวานเค็มกำลังดี ทำให้เป็นรสชาติที่ผูกเรื่องราวขอนแก่นเข้ากับรสชาติในความทรงจำได้อย่างลงตัว
การที่แบรนด์ระดับประเทศอย่าง SOURI เลือกขอนแก่นเป็นสาขาแรกของภาคอีสาน พร้อมสร้างเมนูพิเศษที่ออกแบบ “เพื่อขอนแก่นโดยเฉพาะ” คือสัญญาณสำคัญของศักยภาพด้านวัฒนธรรมและศักยภาพทางธุรกิจที่เติบโตจากอัตลักษณ์เมือง มันสะท้อนว่าอัตลักษณ์ไดโนเสาร์ของขอนแก่นไม่ได้อยู่แค่ในพิพิธภัณฑ์ แต่กำลังกลายเป็นอัตลักษณ์ที่สร้างมูลค่า และต่อยอดได้ในธุรกิจระดับใหม่ ตั้งแต่การตลาด ไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงการสร้างมูลค่าเชิงแบรนด์
SOURI “Dinosaur Fatcaron” จึงไม่ใช่แค่เมนูเปิดตัว แต่จะเป็นบทสนทนาใหม่ของเมืองที่ทำให้เห็นว่า “เรื่องราวของท้องถิ่น เมื่อเล่าอย่างร่วมสมัย สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจได้จริง” และในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลขอนแก่น ชั้น G โดยเริ่มแจกบัตรคิวตั้งแต่ 09.00 น. ที่ลานจอดรถชั้น 1 ประตูฝั่ง Starbucks และร้านเปิดให้บริการเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป พร้อมยังมีกิจกรรมพิเศษที่เตรียมไว้สำหรับชาวขอนแก่นโดยเฉพาะอีกด้วย
เรื่อง : ไอลดา นาเมืองรักษ์
ภาพ : ไอลดา นาเมืองรักษ์
_
“ขอนแก่นทอล์ก สังคมแห่งการพูดคุย”
https://linktr.ee/khonkaentalk

20/11/2025

4 ประเด็น ปรับปรุงประตูเมือง
Gateway สู่เมืองที่คุ้นเคย กับการพลิกโฉมครั้งใหญ่ในรอบหลายปี

ในหลาย ๆ เมือง สัญลักษณ์แรกที่ผู้คนมองเห็นก่อนเข้าสู่ใจกลางเมือง คือ “ประตูเมือง” ของถนนสายหลัก โดยหน้าที่ก็เป็นไปตามชื่อคือ ประตูของการเข้าเมือง ที่ใครผ่านไปมาก็มักจะต้องผ่านจุดนี้ และภูมิทัศน์ที่บอกเล่าภาพลักษณ์เมืองขอนแก่นในยุคนั้น ๆ สำหรับขอนแก่นแล้ว ประตูเมือง และถนนศรีจันทร์ คือเส้นทางสำคัญที่เชื่อมเมืองเก่ากับเมืองใหม่ เชื่อมวัฒนธรรมกับเศรษฐกิจ และเป็นหน้าตาของจังหวัดที่คนภายนอกพบเห็นเป็นอันดับแรกเสมอ
เทศบาลนครขอนแก่นอนุมัติงบกว่า 10.9 ล้านบาท เพื่อปรับโฉมประตูเมือง และ ถนนศรีจันทร์ ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี ไม่ใช่แค่ซ่อมถนนเดิม แต่คือการปรับภูมิทัศน์ใหม่ของหน้าตาเมืองขอนแก่น ที่เราคงต้องลุ้นกันว่าแล้วเสร็จจะเป็นไปตามที่คาดหวังของใครหลาย ๆ คนไหม โดยจะยกเครื่องผิวจราจรตั้งแต่ถนนมิตรภาพถึงซอยสุภธีระ ทั้งรื้อยางเดิม ปูแผ่นใยพลาสติกเสริมแรง ลาดยางแอสฟัลต์คอนกรีตเกรดมาตรฐาน และตีเส้นจราจรแบบ Thermoplastic พร้อมติดหมุดสะท้อนแสง 360 องศา และยังบูรณะประตูเมืองใหม่ทั้งหมด ลอกสีเก่า ทาสีทองคำ ซ่อมงานโครงสร้าง ทำกันซึม ติดฝ้าเหล็กและกันนก เพื่อให้สัญลักษณ์สำคัญของเมืองมีความคงทนในระยะยาว
อีกด้านหนึ่ง การยกเครื่องถนนศรีจันทร์ครั้งนี้ยังช่วยลดต้นทุนแฝงของเมือง ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุจากผิวถนนทรุดตัว รถติดในชั่วโมงเร่งด่วน หรือทัศนวิสัยที่ไม่ปลอดภัยในเวลากลางคืน ขณะเดียวกันการค้าขาย การเดินทางไปศาลหลักเมือง ไปจนถึงระบบโลจิสติกส์ในย่านใจกลางเมืองก็จะไหลลื่นขึ้นตามไปด้วย ซึ่งคงต้องลุ้นกันต่อว่าจะเป็นไปตามมาตราฐาน หรือความคาดหวังของคนเมืองได้หรือไม่ เพราะด้วยงบประมาณ กับระยะเวลา รวมถึงการทำงานในครั้งนี้เป็นเหมือนความหวังของคนขอนแก่นในรอบหลายปี
ที่สำคัญโครงการนี้ จะเป็นบททดสอบการบริหารเมืองของเทศบาล ว่าจะสามารถแปลงงบ 10.9 ล้านบาทให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริงเพียงใด หากถนนดีขึ้นจริง ประตูเมืองสวยขึ้นจริง และงานเสร็จตามกำหนด มันจะเป็นต้นแบบของการยกระดับภูมิทัศน์พื้นที่อื่น ๆ ของขอนแก่นในอนาคตนั่นเอง และหากมองในมิติของการพัฒนาเมือง ยังมี 4 ประเด็นสำคัญที่ควรจับตามอง
1. ศรีจันทร์คือ “เส้นเลือดหลักของเศรษฐกิจเมืองขอนแก่น”

ถนนศรีจันทร์เป็นเส้นที่เชื่อม “เมืองเก่า–เมืองใหม่–ย่านธุรกิจ–วัฒนธรรม–คมนาคม” ตั้งแต่โซนศาลหลักเมือง, ย่านธุรกิจเก่า, โรงแรม, ไปจนถึงถนนมิตรภาพ การยกระดับศรีจันทร์จึงเท่ากับการยกระดับเส้นเลือดหลักของเศรษฐกิจเมือง และเป็นหน้าตาที่ทุกคนจะเข้ามาเห็น
2. ส่งผลโดยตรงต่อภาพลักษณ์เมือง (City Branding Impact)

ประตูเมืองอยู่ในตำแหน่ง “Gateway Experience” เป็นภาพแรกที่คนเห็นก่อนเข้าสู่เมือง
เมืองที่มี Gateway สวย สะอาด เป็นระเบียบ มีงานออกแบบที่ดี จะสร้าง First Impression ให้ขอนแก่นดูภูมิฐาน เป็นเมืองใหญ่ที่มีมาตรฐาน ในเชิงการลงทุน เมืองที่มีคุณภาพสาธารณูปโภคดี เท่ากับว่าเป็นเมืองที่นักลงทุนให้คะแนนสูงกว่านั่นเอง เราจะเห็นได้จากจังหวัดข้างเคียงทั้ง นครราชสีมา อุดรธานี ร้อยเอ็ด ที่ภาพลักษณ์ของเมืองดีจนใครๆ ต่างพูดถึง
3. สัญญาณของการขยับตัวทางการเมืองท้องถิ่น

โครงการนี้สะท้อนว่าเทศบาลกำลังกลับมาจับ “งานกลางเมือง” หลังจากก่อนหน้านี้การเมืองถูกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลายเป็นการทำงานที่ไม่สามารถได้ผลสำเร็จ และเน้นการทำรอบนอก รวมถึงการทำโครงการนี้ เป็นโครงการสำคัญที่สะท้อนว่าสภาเทศบาลนครขอนแก่น ชุดนี้คิดเห็นอย่างไรกับเมือง และเป็นสัญญาณว่าโครงสร้างการบริหารเมืองกำลังขยับตัว ซึ่งเป็นที่น่าจับตาว่าโครงการนี้จะเป็นการปรับปรุงเฉพาะหน้า หรือเป็นยุทธศาสตร์เมือง ในการทำให้เมืองน่าอยู่
4. ความท้าทายว่าจะทำได้ครบทั้งสายหรือไม่

แม้โครงการนี้เป็นสัญญาณที่ดี แต่คำถามใหญ่คือ ศรีจันทร์ทั้งสายจะได้รับการปรับปรุงต่อเนื่องหรือไม่ เพราะหากปรับปรุงเพียงบางช่วง เมืองจะยังคง “ภาพลักษณ์ที่ไม่สมบูรณ์” และไม่ได้สร้างประโยชน์สูงสุดให้กับเมือง นี่จึงเป็นบททดสอบว่าเทศบาลจะมียุทธศาสตร์ระยะยาวหรือไม่
ปัจจุบันโครงการปรับปรุงถนนศรีจันทร์ และประตูเมืองขอนแก่น เริ่มขยับให้เห็นเป็นรูปธรรมแล้ว โดยบริเวณรอบศาลหลักเมือง ที่มีการราดยางมะตอยใหม่เรียบร้อย เหลือขั้นตอนงานตีเส้นจราจร และปรับปรุงโครงสร้าง และทำสีประตูเมืองให้เสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในเร็ว ๆ นี้ ก่อนช่วงงานรำบวงสรวงเมือง ก็เป็นเรื่องที่น่าจับตากันต่อไป
เรื่อง : ไอลดา นาเมืองรักษ์
ภาพ : ไอลดา นาเมืองรักษ์
_
“ขอนแก่นทอล์ก สังคมแห่งการพูดคุย”
https://linktr.ee/khonkaentalk

#ปรับปรุงประตูเมือง #ปรับปรุงถนนศรีจันทร์ #เทศบาลนครขอนแก่น

19/11/2025

🟡 EP.02 — ถนนศรีจันทร์

ถนนศรีจันทร์ ถนนที่ไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่คือเรื่องราวของธุรกิจครอบครัวที่เติบโตมาพร้อมเมืองขอนแก่นกว่าเกือบศตวรรษ จาก ห้องอาหาร 5 ดาว เฟิสท์คัลเลอร์แล็บ เคี้ยง ซุปเปอร์มาร์เก็ต เองฮึ้งโอสถ จนถึง ร้านน้ำเต้าหู้ร้อยปี แต่ละร้านคือรากเหง้า ความทรงจำ และรสชาติของเมืองที่สืบต่อรุ่นสู่รุ่น นี่คือเสน่ห์ของถนนศรีจันทร์ ถนนที่ยังเล่าเรื่องราวของเมืองขอนแก่นได้เป็นอย่างดี
_
“ขอนแก่นทอล์ก สังคมแห่งการพูดคุย”
https://linktr.ee/khonkaentalk

#ธุรกิจเก่าแก่ #ธุรกิจขอนแก่น #รากจีนเวียดนาม #รากจีนเวียดนามศรีจันทร์ขอนแก่น
#ถนนกลางเมือง #ถนนศรีจันทร์ #ถนนหน้าเมือง

17/11/2025

🟡 EP.01 — ถนนกลางเมือง

ถนนกลางเมืองขอนแก่น ไม่ได้มีแค่ตึกเก่า แต่เต็มไปด้วย 6 ตำนานร้านเก่าแก่ที่เติบโตมากับเมือง จากไข่กระทะเอมโอช ภัตตาคารคาเธ่ย์ เล้งเย็นตาโฟ เจ๊แหมดของฝากคู่เมือง สูทเซ็นเตอร์ร้านตัดสูทรุ่นเก่า ถึงเจ๊หญิงแหนมคลุกตลาดโต้รุ่ง
_
“ขอนแก่นทอล์ก สังคมแห่งการพูดคุย”
https://linktr.ee/khonkaentalk

#ธุรกิจเก่าแก่ #ธุรกิจขอนแก่น #รากจีนเวียดนาม #รากจีนเวียดนามศรีจันทร์ขอนแก่น
#ถนนกลางเมือง #ถนนศรีจันทร์ #ถนนหน้าเมือง

16/11/2025

17 ธุรกิจเก่าแก่ กับเส้นทางที่เติบโตเคียงคู่
สามถนนสายหลักของขอนแก่น

ถนนกลางเมือง–ศรีจันทร์–หน้าเมือง สามเส้นเลือดใหญ่ที่บันทึกทั้งเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิถีผู้คนมากว่า 80 ปี และคือพื้นที่ที่ธุรกิจท้องถิ่นจำนวนมาก “เกิด–เติบโต–ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น” จนกลายเป็นความทรงจำร่วมของเมือง
ครั้งนี้ Khon Kaen Talk ชวนคุณย้อนกลับไปทำความรู้จัก 17 ธุรกิจสำคัญที่เคยขับเคลื่อนเมือง ตั้งแต่ร้านริมทาง ร้านค้าปลีกยุคแรก ไปจนถึงธุรกิจครอบครัวที่ยังยืนหยัดอยู่ถึงวันนี้ เพื่ออ่านให้ลึกว่า เมืองหนึ่งเมืองเติบโตขึ้นมาได้อย่างไร
และผู้คนบนถนนแต่ละสายมีส่วนร่วมมากแค่ไหน
🟡 EP.01 — ถนนกลางเมือง
17 พ.ย. 2568

🟡 EP.02 — ถนนศรีจันทร์
19 พ.ย. 2568

🟡 EP.03 — ถนนหน้าเมือง–กลางเมือง
22 พ.ย. 2568
พบกันตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้
บนพื้นที่เล่าเรื่องของคนขอนแก่น ขอนแก่นทอล์ก
_
“ขอนแก่นทอล์ก สังคมแห่งการพูดคุย”
https://linktr.ee/khonkaentalk

#ธุรกิจเก่าแก่ #ธุรกิจขอนแก่น #รากจีนเวียดนาม #รากจีนเวียดนามศรีจันทร์ขอนแก่น
#ถนนกลางเมือง #ถนนศรีจันทร์ #ถนนหน้าเมือง

16/11/2025

ลุ้นบินตรง ขอนแก่น-กระบี่
ไทยไลอ้อนแอร์เผยข้อมูลสำคัญ เตรียมเชื่อมเที่ยวบินอีสานสู่ฝั่งอันดามัน

ขอนแก่นเตรียมลุ้นเส้นทางบินตรงใหม่เร็ว ๆ นี้ เมื่อสายการบิน ไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air) อยู่ระหว่างเตรียมรับมอบเครื่องบินลำใหม่จำนวน 2 ลำ ภายในปลายปี 2568 เพื่อขยายเครือข่ายเส้นทางบินในประเทศ โดยหนึ่งในเส้นทางที่อยู่ระหว่าง การพิจารณาเปิดให้บริการ คือ ขอนแก่น–กระบี่ เส้นทางบินตรงที่จะเชื่อมภาคอีสานกับฝั่งอันดามันเข้าด้วยกันเป็นครั้งแรก
คุณสมคิด จันทะนุย ผู้จัดการสถานีสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ประจำสนามบินขอนแก่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันสายการบินให้บริการ 4 เที่ยวบินต่อวัน และกำลังขยายเที่ยวบินที่ 5 ไปยังภูเก็ต–กระบี่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการเดินทางและการท่องเที่ยวของภาคอีสานอย่างมีนัยสำคัญ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาเครื่องบินและพิจารณาความพร้อมด้านตารางบินของท่าอากาศยานทั้งสองแห่ง
เส้นทางบินตรงขอนแก่น–กระบี่ จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่เชื่อมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของภาคอีสานกับภาคใต้เข้าด้วยกันโดยตรง ทำให้ขอนแก่นไม่ใช่เพียงศูนย์กลางของอีสานตอนกลาง แต่กลายเป็น “ศูนย์กลางการเดินทางของประเทศ” ที่สามารถเชื่อมภูเขา–ทะเล–เมืองใหญ่ได้ในวันเดียว เส้นทางนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม และสายธุรกิจ MICE ในขอนแก่น สามารถต่อยอดโปรแกรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการประชุมสัมมนาระดับภูมิภาคได้มากขึ้น
และในระยะยาว การเปิดเส้นทางบินใหม่นี้จะไม่เพียงช่วยกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนโครงสร้างการเดินทางของภูมิภาคอีสานอย่างมีนัยสำคัญ เพราะการเดินทางระหว่างภาคที่ไม่ต้องผ่านกรุงเทพฯ จะทำให้ขอนแก่นกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ทางอากาศ ที่เชื่อมทั้งเพื่อการท่องเที่ยว ธุรกิจ และไมซ์เข้าด้วยกันโดยตรง และเป็นการเชื่อมโอกาสทางเศรษฐกิจระหว่างสองภูมิภาค เช่น การแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างภาค การขยายตลาดสินค้าท้องถิ่น และการพัฒนาเครือข่ายธุรกิจบริการ เช่น โรงแรม คาเฟ่ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้เติบโตไปพร้อมกัน ขณะเดียวกันยังช่วยเสริมบทบาทให้ท่าอากาศยานขอนแก่นก้าวสู่ “Regional Gateway” ของอีสานได้อย่างแท้จริง
เรื่อง : ไอลดา นาเมืองรักษ์
ภาพ : ไอลดา นาเมืองรักษ์
_
“ขอนแก่นทอล์ก สังคมแห่งการพูดคุย”
https://linktr.ee/khonkaentalk

#ขอนแก่นกระบี่ #ขอนแก่นภูเก็ต
#ท่าอากาศยานขอนแก่น #ไทยไลอ้อนแอร์

15/11/2025

ธุรกิจเก่าแก่ ฐานเศรษฐกิจที่ทรงพลัง
เลเยอร์ธุรกิจที่กำหนดวัฒนธรรมเมือง
และคอยบอกว่า “ขอนแก่น มีชีวิต”

ท่ามกลางการขยับขยายของเมืองขอนแก่น ย่านการค้าที่ค่อย ๆ เปลี่ยนบทบาท และศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ ที่ดึงผู้คนออกจากถนนเส้นเดิม ยังมีเครือข่ายธุรกิจเล็ก ๆ ที่ดำเนินชีวิตอย่างเงียบงามอยู่ในซอกซอยเก่าแก่ของเมือง ร้านขายผ้า ร้านทอง ร้านชำ หรือกิจการครอบครัวรุ่นที่สอง และสาม ที่ยังคงเปิดประตูในเวลาที่เดิม และปิดร้านด้วยจังหวะที่ไม่เคยรีบร้อน
ธุรกิจเหล่านี้ไม่ค่อยปรากฏในรายงานเศรษฐกิจของจังหวัด เป็นชั้นล่างของเมืองที่มองไม่ค่อยจะเห็น เลเยอร์นี้ช่วยกำหนดน้ำเสียงของถนน สร้างจังหวะของย่าน และเป็นเครื่องเตือนใจว่าเมืองขอนแก่น ไม่ได้เติบโตจากทุนใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่เศรษฐกิจ ธุรกิจริมถนนในเมืองนี้แหละ ได้ร่วมเติบโตด้วยความอดทน ของผู้ประกอบการรายเล็ก ที่ยืนหยัดผ่านทั้งวัฏจักรเศรษฐกิจ และความเปลี่ยนแปลงมาโดยเสมอ
ในย่านเก่าอย่างศรีจันทร์ ถ.หน้าเมือง ถ.กลางเมืองนั้น ไม่ยากที่จะพบร้านค้าแบบครอบครัว ที่ตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์ 2-3 ชั้น ตัวอักษรหน้าร้านอาจไม่ได้ถูกปรับปรุงใหม่ทุกทศวรรษ แต่กลับให้ข้อมูล และเป็นหลักฐานของเมือง โลโก้ที่ใช้มานานหลายสิบปี ป้ายร้านที่ซีดจาง หรือชั้นวางสินค้าที่จัดแบบเดิม คือหลักฐานทางวัฒนธรรมของเศรษฐกิจเมือง ในยุคที่การค้าขายอาศัยความสัมพันธ์ มากกว่ากลยุทธ์ทางการตลาด
แม้บทบาทของธุรกิจเหล่านี้จะดูเล็กลงเมื่อเทียบกับศูนย์การค้าขนาดใหญ่ หรือโครงการใหม่ ๆ แต่สิ่งที่ยังชัดเจนคือ ความมั่นคงที่อาศัยความรู้พื้นที่ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความสัมพันธ์ระยะยาว คุณค่าที่เทคโนโลยี หรือการแข่งขันสมัยใหม่ไม่สามารถทดแทนได้อย่างสมบูรณ์ ในหลายกรณี ธุรกิจเหล่านี้กลายเป็น “จุดยึดทางอารมณ์” ของย่าน ทำให้คนในเมืองรู้สึกว่า เมืองยังเชื่อมโยงกับอดีต และยังมีบริบทที่ไม่ถูกรื้อทิ้งทั้งหมด
ในวันนี้ เรากำลังก้าวเข้าสู่ไปข้างหน้า ธุรกิจเก่าแก่ ธุรกิจครอบครัวเหล่านี้ จึงทำหน้าที่คล้ายเข็มทิศ ช่วยเตือนว่าเมืองที่น่าอยู่ไม่ใช่เมืองที่มีแต่สิ่งใหม่ แต่คือเมืองที่ให้พื้นที่เดิม ไม่ถูกลืมไว้ข้างหลัง การดูแลภาพลักษณ์เมือง และสร้างให้ธุรกิจฐานรากเหล่านี้คงอยู่ร่วมกับเมืองได้ ความงามของธุรกิจเก่าแก่ ไม่ได้อยู่ที่การย้อนอดีต แต่อยู่ที่การคงอยู่ของมัน การยืนหยัดอย่างเงียบ ๆ ในเมืองที่เปลี่ยนเร็วขึ้นทุกปี
เรื่อง : ณัฐกร สมบัติธรรม
ภาพ : ณัฐกร สมบัติธรรม
_
“ขอนแก่นทอล์ก สังคมแห่งการพูดคุย”
https://linktr.ee/khonkaentalk

#ธุรกิจเก่าแก่ #ธุรกิจขอนแก่น #รากจีนเวียดนาม #รากจีนเวียดนามศรีจันทร์ขอนแก่น

14/11/2025

2 พืชสวนโลก โอกาสที่ทำให้ขอนแก่นโต
อุดร-โคราช เตรียมเป็นเจ้าภาพอีเว้นต์ระดับโลก ขอนแก่นต้องปรับตัวกับโอกาสนี้อย่างไร

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ภาคอีสานจะกลายเป็นจุดสนใจของสายตาทั่วโลก เมื่อจังหวัด อุดรธานี และ นครราชสีมา ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน พืชสวนโลก 2026 ( International Horticultural Expo ) งานระดับนานาชาติที่สร้างทั้งเม็ดเงินหมุนเวียนและชื่อเสียงให้ประเทศ คล้ายกับที่เชียงใหม่เคยทำสำเร็จเมื่อสิบปีก่อน แต่สิ่งที่หลายเมืองทั่วโลกเรียนรู้คือ การเป็นเจ้าภาพ ไม่ได้หมายถึง การได้ประโยชน์สูงสุดเพียงจังหวัดเดียว เพราะเมืองรอบข้างก็เตรียมตัวรับอานิสงส์นั้นไปด้วย และมักมีผลทางเศรษฐกิจในระยะยาวอีกด้วย
ขอนแก่นในวันนี้ อาจยังไม่ได้มีโอกาสในการเป็นเจ้าภาพงานพืชสวนโลก แต่ยังมีโอกาสเก็บเกี่ยวผ่านการเป็นจังหวัดเพื่อนบ้านได้มากกว่าใคร หากรู้จักเตรียมพร้อมและจัดจังหวะให้ถูกต้อง การประชุมเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา นำโดย นายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ บขส. หอการค้าจังหวัด และสมาคมท่องเที่ยวและไมซ์ ได้มีการเริ่มวางแผนรับมือคู่ขนานไปกับอุดรธานี ทั้งการเชื่อมเส้นทางเดินทาง รถโดยสาร สนามบิน และการเตรียมเครือข่ายโรงแรมในจังหวัด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกว่า 50,000 คนต่อวันในช่วงจัดงานระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2569 ถึง มีนาคม 2570 นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเตรียมเมืองที่สำคัญที่สุดของขอนแก่นในรอบหลายปี
หากมองจากบทเรียนของต่างประเทศ เมืองที่ไม่ได้เป็นเจ้าภาพแต่คว้าโอกาสได้สำเร็จมีอยู่มากมาย เช่น เกียวโต ที่ใช้โอกาสจาก Osaka Expo 2025 สร้างเทศกาลคู่ขนาน “Kyoto Green Season” ดึงนักท่องเที่ยวกว่า 40% ของผู้มาเยือน Expo ให้ขยายเวลาพักเฉลี่ย 1.7 วัน สร้างรายได้เพิ่มกว่า 15,000 ล้านบาท ตัวอย่างเหล่านี้พิสูจน์ว่า เมืองที่ฉลาดจะไม่รอให้โอกาสมาถึง แต่จะวิ่งเข้าหาโอกาสนั้นอย่างมีแบบแผนนั่นเอง
สำหรับขอนแก่น เมืองที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างอุดรธานี (115 กม.) และโคราช (200 กม.) เดินทางได้ภายใน 2–3 ชั่วโมง ทั้งทางถนน รถไฟทางคู่ และสนามบิน นี่คือ “ตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์” ที่อาจกลายเป็นหัวใจของการท่องเที่ยวเชื่อมระหว่างภูมิภาค หากเป็นเพียง 10–20% ของนักท่องเที่ยวจากทั้งสองงานแวะมายังขอนแก่น ก็หมายถึงมีผู้มาเยือนขอนแก่นมากถึง 400,000–800,000 คนต่อปี
4 สิ่งที่ขอนแก่นควรเตรียมรับมือ ในวันที่เพื่อนบ้านสองจังหวัด กำลังจะเป็นเจ้าภาพระดับโลกในงานพืชสวนโลก

1. จากเมืองทางผ่านสู่เมืองต่อ

สร้างเส้นทางท่องเที่ยว ขอนแก่นควรออกแบบแพ็กเกจเชื่อมโยงกับอุดรและโคราช เช่น “Isan Creative Route” ที่พาผู้มาเยือนจากงานพืชสวนโลก แวะสัมผัสเมืองอัจฉริยะ แหล่งวัฒนธรรม และชุมชนสร้างสรรค์ ใช้ระบบ Mobility Platform ร่วมกับรถไฟทางคู่และสนามบินขอนแก่น ให้เมืองกลายเป็น “Hub of Experience” ของอีสานตอนกลาง
2. สร้างประสบการณ์ Soft Power อีสาน

แปลงวัฒนธรรมเป็นสินค้าท่องเที่ยว ขอนแก่นมีศักยภาพด้านศิลปะ ดนตรี และงานเทศกาลที่เข้มแข็งสามารถจัดกิจกรรมคู่ขนาน เช่น Isan Creative ที่เล่าเรื่องอาหาร ผ้า และดนตรีร่วมสมัย สอดคล้องกับธีม “Green & Creative” เหมือนที่เมืองของฝรั่งเศสใช้เทศกาลแสง สร้างการท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งฤดูกาล
3. ปรับระบบธุรกิจท้องถิ่นสู่มาตรฐานนานาชาติ

Business Readiness for Global Visitors เมืองควรเตรียมภาคเอกชนให้พร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่ระบบจองออนไลน์หลายภาษา ไปจนถึง Local Tour Consortium ที่รวมกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และคาเฟ่ให้เสนอแพ็กเกจร่วมกัน คล้ายโมเดล “Kobe Food Cluster” ที่รวมภาคธุรกิจเข้ามาในเครือข่ายเดียว
4. ยกระดับระบบเมืองและสิ่งแวดล้อมให้พร้อมรับคนทั้งภูมิภาค

Infrastructure Readiness คืออีกโจทย์สำคัญที่ขอนแก่นต้องเร่งยกระดับ เพราะเมื่อจำนวนผู้เดินทางจากอุดรฯ และโคราชเพิ่มขึ้น เมืองจะต้องรองรับทั้งการเดินทาง ขยะ พลังงาน ที่พักอาศัย ในระดับภูมิภาคได้ ขอนแก่นควรใช้จังหวะนี้เร่งลงทุนในระบบขนส่งมวลชน (Smart Transit & Shuttle Bus) เชื่อมสนามบิน สถานีรถไฟ และย่านหลัก เช่น ศรีจันทร์–กังสดาล–บึงแก่นนคร พร้อมขยายพื้นที่สีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เมืองเติบโตอย่างยั่งยืน และกลายเป็นต้นแบบ เมืองที่พร้อมร่วมงานในระดับโลกอย่างมีระบบนั่นเอง
สุดท้ายแล้ว งานพืชสวนโลก 2569 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ได้เป็นเพียงงานของจังหวัดเพื่อนบ้าน แต่คือโอกาสของทั้งภูมิภาคอีสานในการยกระดับศักยภาพเมืองสู่ระดับนานาชาติ ขอนแก่นในฐานะที่มีทั้งระบบคมนาคมครบครัน ศักยภาพด้านไมซ์ และฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่แข็งแรง หากรู้จักวางจังหวะ เตรียมเมือง และสร้างจุดขายของตัวเองให้ชัดเจน งานระดับโลกครั้งนี้อาจไม่เพียงสร้างการเดินทางข้ามจังหวัด แต่จะสร้างโครงข่ายเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอีสาน ที่เชื่อมโยงกันอย่างแท้จริง และทำให้ขอนแก่นก้าวสู่บทบาทใหม่ เมืองที่ไม่ได้เป็นเจ้าภาพ แต่พร้อมที่จะร่วมสร้างเวทีระดับโลก ในแบบของตัวเอง
เรื่อง : ไอลดา นาเมืองรักษ์
ภาพ : ไอลดา นาเมืองรักษ์
_
“ขอนแก่นทอล์ก สังคมแห่งการพูดคุย”
https://linktr.ee/khonkaentalk

#พืชสวนโลก #มหกรรมพืชสวนโลก #พืชสวนโลกอุดร
#พืชสวนโลกอุดรธานี2569

13/11/2025

ค้าปลีกรายเล็ก ปรับตัวอย่างไร
ในวันที่ค้าปลีกรายใหญ่ขยับทั้งเมือง เวลาที่ยากที่สุดอาจมีโอกาสมากที่สุดเช่นกัน

ในวันที่ “ขอนแก่น” กลายเป็นสมรภูมิค้าปลีกที่ร้อนแรงที่สุดแห่งอีสาน พื้นที่กว่า 2 แสนตารางเมตรกำลังถูกรีโนเวต เปิดใหม่ และขยายตัวพร้อมกัน ตั้งแต่ศูนย์การค้าระดับภูมิภาคอย่าง Central Khonkaen Campus , Fairy Plaza , Kaen.Ket ไปจนถึงคอมมูนิตี้มอลล์หน้าใหม่อย่าง Tontann Village หรือ Hangovers Community. เมืองที่เคยมีเพียงห้างไม่กี่แห่ง วันนี้กลับเต็มไปด้วยตัวเลือกและการแข่งขันที่ดุเดือดทุกย่าน และทุกถนน
ท่ามกลางการเติบโตของทุนใหญ่ ความท้าทายจึงตกอยู่กับ “ผู้ค้ารายเล็ก” ที่อยู่คู่ขอนแก่นมานาน ไม่ว่าจะเป็น ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร ร้านโชห่วย หรือคาเฟ่ท้องถิ่น ที่ต้องเผชิญทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และการตลาดที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น โอกาสของคนตัวเล็กในเมืองใหญ่จึงไม่ง่ายอีกต่อไป เพราะในวันที่ห้างขยับ เมืองทั้งเมืองก็ขยับตาม และทุกธุรกิจต้องวิ่งให้ทัน
แต่ในโลกที่ทุนใหญ่ขยับเร็วกว่า งบมากกว่า และเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายกว่า “ผู้ค้ารายเล็ก” จะอยู่รอดได้อย่างไร คำตอบอาจไม่ได้อยู่ที่โปรโมชั่นหรือส่วนลด แต่อยู่ที่ “วิธีเล่าเรื่องของร้าน” เพราะในวันที่ทุกคนแข่งกันลดราคา ร้านที่รอดไม่ใช่ร้านที่ถูกที่สุด แต่คือร้านที่มีเรื่องให้คนอยากเล่า ลูกค้าไม่ได้จำว่าเราขายอะไร แต่จำว่าเราทำให้เขารู้สึกยังไง รายละเอียดเล็ก ๆ อย่างคำพูด การตกแต่ง หรือข้อความบนใบเสร็จ คือ “ภาษาของแบรนด์” ที่ทุนใหญ่ลอกไม่ได้ และสุดท้ายจะทำให้ร้านที่เติบโตได้ในระยะยาวนั่นเอง
ผู้ประกอบการขอนแก่นเองก็มีศักยภาพไม่น้อย เพราะมีทั้งแรงบันดาลใจจากท้องถิ่น และฐานลูกค้าที่เข้าใจสังคม เพียงแค่ต้องเปลี่ยนจากร้านเป็นแบรนด์ และใช้จุดแข็งที่ทุนใหญ่ไม่มี ความเฉพาะตัว ความจริงใจ และความเป็นคนในพื้นที่ มาสร้างคุณค่าให้ชัดเจนมากขึ้น และที่สำคัญต้องเปิดใจใช้เทคโนโลยีและช่องทางออนไลน์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นอกจากวิธีการเล่าเรื่องแบรนด์แล้ว ในต่างประเทศหลายแห่ง ผู้ค้ารายเล็กยังมีวิธีการจัดการ และได้รับการสนับสนุนผ่านกลยุทธ์เชิงระบบ ทั้งจากภาครัฐและภาคประชาสังคม เช่น ในยุโรป เมืองต่างๆ ได้จัดทำแผนกลยุทธ์สนับสนุน “ย่านค้าปลีกท้องถิ่น” (Local Retail Ecosystems) ที่ควบคู่กับเรื่องพัฒนาแรงงาน ดิจิทัล และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ร้านค้าเล็กสามารถอยู่ในเมืองที่ทุนใหญ่เข้ามาได้อย่างแข็งแรง ซึ่งภาครัฐ และ Local Organizations จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ระบบนิเวศนี้แข็งแรงได้
เชื่อว่า ขอนแก่นกำลังเปลี่ยนเป็น เมืองศูนย์กลางการใช้ชีวิต การเติบโตของห้างและคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่ไม่ได้แย่งลูกค้าร้านเล็กเพียงอย่างเดียว แต่ยังเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้คุ้นกับการ เลือกประสบการณ์มากกว่าราคา และนี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดของค้าปลีกรายเล็กในรอบหลายปี แต่ก็อาจเป็นโอกาสสำคัญที่สุดเช่นกัน หากมองเห็นทิศทางของเมือง และกล้าปรับตัวก่อนใคร เพราะขอนแก่นไม่ใช่เมืองที่ทุนใหญ่เท่านั้นจะอยู่ได้ แต่เป็นเมืองที่คนขอนแก่นจะต้องอยู่ร่วมกับการเติบโตนี้ไปพร้อม ๆ กัน
เรื่อง : ไอลดา นาเมืองรักษ์
ภาพ : ไอลดา นาเมืองรักษ์
_
“ขอนแก่นทอล์ก สังคมแห่งการพูดคุย”
https://linktr.ee/khonkaentalk

#ค้าปลีกรายเล็ก #ค้าปลีกขอนแก่น #ธุรกิจท้องถิ่น

Khon Kaen Talk

23/11/2025

23/11/2025

22/11/2025

21/11/2025

20/11/2025

19/11/2025

17/11/2025

16/11/2025

16/11/2025

15/11/2025

14/11/2025

13/11/2025

ที่อยู่

เบอร์โทรศัพท์

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ทางลัด

แชร์

ประเภท