ประชาไทนิวส์ออนไลน์

ประชาไทนิวส์ออนไลน์ Pracharthai ประชาไทนิวส์ออนไลน์ หนังสือพิมพ์เพื่อประชาชนคนไทย เพื่อสังคมไทย ตรงไปตรงมา

หนังสือพิมพ์ ประชาไทนิวส์ออนไลน์ หนังสือพิมพ์ประชาไทนิวส์ออนไลน์ จริง ครบ ทุกเหตุการณ์ ทันสมัย ทุกวัน ทุกจังหวัด ทั่วประเทศไทย

บ้านชาติภูไทหลังสุดท้ายในโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด(ภาคตะวันออก) อันเนื่องมาจา...
28/10/2025

บ้านชาติภูไทหลังสุดท้ายในโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด(ภาคตะวันออก) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และตลาดชุมชนกายเป็นที่ตั้งสำนักงาน
คลิป 1. https://youtu.be/48CtyTj1T9U
คลิป 2. https://youtu.be/pkbDAzy3ff4

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568 กำนันสาโรจน์ ลายสุวรรณ กำนันตำบลคลองตะเกรา พาลงพื้นที่ไปที่ศูนย์ปฎิบัติการป่าไม้และสัตว์ป่า สำนักสนองพระราชดำริ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา พบนายเอกชัย แสนดี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เพื่อให้เล่าถึงโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด(ภาคตะวันออก) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อปี พ.ศ.2536 หลังจากกรมป่าไม้ได้เข้ายึดพื้นที่จากการบุกรุกป่าของชาวบ้าน ในสมัยนั้นเรียกกันว่าหมู่บ้านชาติภูไท

โดยนายเอกชัย แสนดี เผยว่าอาคารไม้ที่เห็นนี้ ก่อนหน้านี้เคยเป็นตลาดชุมชนที่ชาวบ้านจะมาหาซื้อของ ด้วยสมัยนั้นชาวบ้านจะกระจายกันอยู่ในเขตต้นน้ำภูไท ที่เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ในปัจจุบัน พร้อมนำขึ้นไปชมด้านบนที่พบว่ายังคงแข็งแรง ภาพพระฉายาลักษณ์ อัดใส่กรอบแขวนสูงกว่า 3 เมตร เป็นการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ทรงเสด็จมาปลูกป่าเมื่อปี 2537 หลังจากที่มีการอพยพชาวบ้านออกไปตามโครงการฯ แล้วนั้น เป็น 2 โครงการ คือโครงการฯ 1 ชื่อบ้านร่มโพธิ์ทอง หมู่ที่ 7 โครงการฯ 2 ชื่อบ้านเทพประทาน หมู่ที่ 8 ในตำบลคลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา

นายเอิกชัย แสนดี ได้พาไปชมบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ ที่เป็นไม้อนุรักษ์เสาที่เป็นไม้พยุง พื้นกระดานเป็นไม้มะค่า ไม้แดง ที่ยังคงเก็บรักษามาหลายสิบปี และจะยังคงไว้เพื่อไว้เป็นในโครงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ด้วยบ้านไม้หลังนี้ถือเป็นบ้านของผู้นำที่ชื่อชาติ และนำคำว่าภูไท ที่ถือเป็นท้องถิ่นของชุมชนมาเติมท้าย เป็นบ้านชาติภูไท ที่คล้ายกับกำนัน หรือผู้ใหญ่บ้านนั่นเอง

ด้านกำนันสาโรจน์ ลายสุวรรณ บอกว่าตอนป่าแตก ป่าไม้พร้อมทหารเข้ายึดที่ ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพออกมาในเวลานั้น หากไม่ได้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นำโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าลอยต่อ 5 จังหวัด(ภาคตะวันออก) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ชาวบ้านหลายพันคนก็คงไม่มีที่ดินอยู่อาศัยและทำกินแน่ เมื่อทราบว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ตนเองและชาวบ้านเราต่างสำนึก คิดถึงพระองค์อย่างหาที่สุดไม่ได้จากโครงการพระราชดำริ ไม่ใช่แค่จัดสรรที่ดินให้ชาวบ้าน แต่พระองค์ยังจัดระบบสาธารณูปโภค น้ำ ไฟฟ้า ถนน การส่งเสริมอาชีพ อีกด้วย

ด้านนายไสว ตอศรี อายุ 50 ปี เป็นคนหมู่ที่ 8 บ้านเทพประทาน ทำงานป่าไม้ เล่าว่าตอนที่มีการอพยพออกจากชุมชนบ้านชาติภูไท ตนอายุ 15 ปี ถนนเป็นฝุ่นแดงพ่อแม่ และชาวบ้านต่างดีใจที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในรัชกาลที่ 9 ท่านทรงห่วงใย รักราษฏร จึงจัดสรรที่ดินเพื่ออยู่อาศัยทำกินครอบครัวละ 14 ไร่ วันนี้ที่ทราบข่าวพระองค์สิ้นพระชนม์จึงรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น หากไม่มีพระองค์ท่านก็อาจไม่มีป่าเหลือให้เราเห็น

…..สราวุฒิ บุญสร้าง ผู้สื่อข่าวภูมิภาคฉะเชิงเทรา 0831110106

จังหวัดน่าน ประชุมเตรียมจัดงาน “เทศกาลเคานต์ดาวน์นันทบุรี 2569”ร่วมพิจารณาปรับรูปแบบการจัดงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุ...
28/10/2025

จังหวัดน่าน ประชุมเตรียมจัดงาน “เทศกาลเคานต์ดาวน์นันทบุรี 2569”ร่วมพิจารณาปรับรูปแบบการจัดงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
วันที่ 28 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดน่าน
นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดงาน เทศกาลเคานต์ดาวน์นันทบุรี 2569 โดยมีนายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมพิจารณาแนวทางการปรับรูปแบบการจัดงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งในด้านรูปแบบกิจกรรม การแสดง และบรรยากาศโดยรวม เพื่อให้การจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมเกียรติ และเหมาะสมกับช่วงเวลาการไว้อาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ที่ประชุมได้หารือแนวทางการจัดกิจกรรมภายในงาน อาทิ
การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง
การประดับตกแต่งสถานที่
การดูแลรักษาความปลอดภัย
การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
และการประชาสัมพันธ์งาน
พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบในแต่ละด้าน และเร่งดำเนินการตามแผนที่กำหนด เพื่อให้การจัดงาน เทศกาลเคานต์ดาวน์นันทบุรี 2569 เป็นไปอย่างเรียบร้อย สมบูรณ์ และสะท้อนอัตลักษณ์ของจังหวัดน่านอย่างงดงาม

@@@@@@@@@@

กัลยา สองเมืองแก่น จ.น่าน

อุทยานฯ ลำน้ำน่าน – ศรีน่าน สนธิกำลังจับกุมลักลอบตัดไม้แปรรูปเถื่อนกลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ มูลค่ากว่า 2 แสนบาทวัน...
28/10/2025

อุทยานฯ ลำน้ำน่าน – ศรีน่าน สนธิกำลังจับกุมลักลอบตัดไม้แปรรูปเถื่อนกลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ มูลค่ากว่า 2 แสนบาท

วันที่ 28 ตุลาคม 2568 — เจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน ร่วมกับ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน สนธิกำลังเข้าจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้แปรรูปผิดกฎหมาย บริเวณพื้นที่รอยต่อระหว่างสองอุทยาน ภายหลังออกลาดตระเวนสืบค้นและติดตามเบาะแสต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน (25–27 ตุลาคม 2568)
นาย คมสันต์ ใจยะสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน เปิดเผยว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้เข้มงวดการตรวจสอบและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าและการลักลอบตัดไม้หวงห้าม โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด
จากการลาดตระเวนเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่พบร่องรอยการลักลอบตัดและแปรรูปไม้เต็งภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ พื้นที่ ตำบลท่าแฝก อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานฯ ลำน้ำน่าน แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด
จนกระทั่งวันที่ 27 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนสามารถแกะรอยไม้ที่ลอยน้ำไปถึงบริเวณ บ้านปากนาย หมู่ที่ 17 ตำบลนาทะนง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานฯ ศรีน่าน จึงได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบแพต้องสงสัยของชาวบ้านในพื้นที่
ผลการตรวจสอบพบไม้แปรรูปหวงห้ามจำนวนมาก ประกอบด้วยไม้ ประดู่ สัก กระยาแดง (ไม้แดง) และเต็ง รวมปริมาตร 2.042 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของรัฐกว่า 222,545 บาท
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นางสำเริง (สงวนนามสกุล) เจ้าของแพดังกล่าว ซึ่งให้การรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของไม้ทั้งหมด โดยไม้ของกลางมีลักษณะใหม่ สด และไม่มีตราประทับของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงนำของกลางและผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขอขอบคุณประชาชนที่ร่วมเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสการกระทำผิด พร้อมเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมเป็น เครือข่ายพิทักษ์ผืนป่า เพราะการลักลอบตัดไม้หวงห้ามไม่เพียงทำลายทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ แหล่งต้นน้ำ และความสมดุลของธรรมชาติอันเป็นมรดกของลูกหลานไทย
หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายป่าไม้ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ โทรศัพท์สายด่วนกรมอุทยานฯ 1362 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

#กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
# กรมป่าไม้ # สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ # สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

@@@@@@@@@@

ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น จ.น่าน

กรมประชาสัมพันธ์ ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2568 ยังชุมนุมสงฆ์ วัดพระสิงห์ พระอารามหลวง จังหวัดเชียงราย ยอดสมทบกฐิน...
28/10/2025

กรมประชาสัมพันธ์ ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2568 ยังชุมนุมสงฆ์ วัดพระสิงห์ พระอารามหลวง จังหวัดเชียงราย ยอดสมทบกฐินกว่า 1 ล้านบาท
วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 น. นางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกรมประชาสัมพันธ์ ประจำปี 2568 ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐิน ตามที่กรมประชาสัมพันธ์ขอพระราชทาน ไปทอดถวายยังชุมนุมสงฆ์ ณ วัดพระสิงห์ พระอารามหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมีคณะที่ปรึกษาอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้บริหาร บุคลากร เจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์ พุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง และมีพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ พระอารามหลวง จังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
สำหรับพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน กรมประชาสัมพันธ์ ในครั้งนี้ มียอดจตุปัจจัยรวมทั้งสิ้น 1,119,999 บาท โอกาสนี้ ได้มอบเงินถวายบำรุงและบูรณะอารามอีก 1,119,999 บาท ถวายปัจจัยพระองค์ครอง 3,500 บาท ถวายพระคู่สวด 2 รูป รวม 5,000 บาท ถวายพระอันดับ 16 รูป รวม 16,000 บาท ถวายสามเณร 3 รูป รวม 1,500 บาท บำรุงโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดพระสิงห์ 5,000 บาท มอบทุนการศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย 5,000 บาท มอบชมรมสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน 5,000 บาท ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 263,450 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,429,449 บาท

กริช มากกุญชร นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์ เชียงราย /รายงาน
cr: ทีมข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

“ปลัดท่องเที่ยว” เป็นประธานถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ณ วัดธรรมิการามฯ ยอดรวมกว่า 2 ล้านบาทเมื่อวันที่ 26 ต.ค.68 ที่วัดธรรม...
28/10/2025

“ปลัดท่องเที่ยว” เป็นประธานถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ณ วัดธรรมิการามฯ ยอดรวมกว่า 2 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 26 ต.ค.68 ที่วัดธรรมมิการามวรวิหาร หรือวัดเขาช่องกระจก อ.เมือง จ.ประจวบฯ นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2568 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีพระเทพวชิรสุธี เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาววรรณภา เกียรติพงษา ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายอิษฎา เสาวรส ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานประจวบฯ ร้อยโทสิทธิชัย ตัณฑสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และพุทธศาสนิกจำนวนมากร่วมในพิธี ได้ยอดเงินทำบุญรวมทั้งสิ้น 2,498,014.75 บาท เพื่อร่วมสมทบทุนบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัดและกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาต่อไป นับเป็นอีกกิจกรรมที่สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในการสืบสานพระพุทธศาสนา และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของไทยให้คงอยู่สืบไป
วัดธรรมมิการามวรวิหาร เดิมเป็นวัดราษฎร์ ตั้งเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2465 โดยพระยาดำรงธรรมสาร และคุณหญิงดำรงธรรมสาร (ใหญ่ วิเศษสิริ) ซึ่งวัดเดิมตั้งอยู่หลังเขาช่องกระจกมีเนื้อที่ประมาณ 32 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา และได้รับหนังสืออนุญาตให้ตั้งเป็นสำนักสงฆ์ที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2465 ซึ่งอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 6 พระองค์โปรดให้พระเจ้าพี่นางเธอพระองค์เจ้าอรพินท์เพ็ญภาค วางศิลาฤกษ์พระอุโบสถแทน และโปรดเกล้าฯ พระราชทานปูชนียวัตถุแก่วัดนั้นหลายสิ่ง พร้อมทั้งพระราชทานทุนทรัพย์สำหรับสร้างโรงเรียนปริยัติธรรมอีกด้วย ต่อมาในปี พ.ศ.2475 ทางวัดได้สร้างสะพานรัตนาวดีและถนนเลาะไหล่เขาช่องกระจกเข้าสู่ตัวจังหวัด โดยมี พระอุดมโยธาธิยุทธ เป็นผู้ออกแบบ ในเดือนเมษายน พ.ศ.2481 เริ่มสร้างพระอุโบสถซึ่งได้รับ พระราชทานวิสุงคามสีมา ตามพระราชโองการ ลงวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2466 สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2482 ในปี พ.ศ.2485 เกิดน้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดประจวบฯ ทำให้วัดได้รับความเสียหายอย่างมากจวนจะเป็นวัดร้าง จนถึงปี พ.ศ.2493 จึงได้เริ่มบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาและในปี พ.ศ.2496–2498 ก็ได้รับมอบที่ดินเพิ่มขึ้นจากราษฎร จากนั้นมาก็ได้มีการสร้างและปฏิสังขรณ์เรื่อยมาจนได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดธรรมิการามขึ้นเป็นพระอารามหลวง เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2503 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2544.

ถิรายุทธิ์​ เอมโอษฐ์​ ผู้สื่อข่าว​ นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์​ จ.ประจวบฯ.รายงาน
Cr.ประชาสัมพันธ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ผู้ว่าฯ จังหวัดประจวบฯ นำคณะผู้แทนจากจังหวัดประจวบฯ ร่วมพิธีมอบรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ...
28/10/2025

ผู้ว่าฯ จังหวัดประจวบฯ นำคณะผู้แทนจากจังหวัดประจวบฯ ร่วมพิธีมอบรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ ครั้งที่ 18 ที่ จังหวัดปัตตานี

วันที่ 26 ตุลาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ มอบรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ ครั้งที่ 18 ประจำปี 2568 มี นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2567 เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัล ในการนี้ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำอิหม่าม ผู้นำทางศาสนา ภาคีเครือข่ายชาวมุสลิม และตัวแทนผู้ทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าร่วมในพิธี

สำหรับปีนี้ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2567 เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัล รวมทั้งสิ้น 26 ราย แบ่งเป็น คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด จำนวน 6 ราย อิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น จำนวน 20 ราย

กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำโครงการคัดเลือกคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและอิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น เพื่อเข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัล มาอย่างยาวนาน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ส่งผลให้เกิดความภาคภูมิใจ และมีส่วนร่วมในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับทางราชการและประเทศชาติ รวมทั้งเป็นการกระตุ้น และส่งเสริมให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามในจังหวัดอื่นๆ ต่อไป

ถิรายุทธิ์​ เอมโอษฐ์​ ผู้สื่อข่าว​ นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์​ จ.ประจวบฯ.รายงาน
Cr.ประชาสัมพันธ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมประชุมเตรียมการจัดกิจกรรมจิตอาสา เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ...
28/10/2025

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมประชุมเตรียมการจัดกิจกรรมจิตอาสา เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2568

วันนี้ (26 ตุลาคม 2568) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมศูนย์ดำรงธรรม ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมเตรียมการจัดกิจกรรม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2568 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม โดยประชุมผ่านทางออนไลน์ (Zoom) จากห้องประชุม 1 ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน เขตดุสิต จังหวัดกรุงเทพมหานคร มี พล.ร.อ.คณีผล สงเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมทางออนไลน์

การประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมได้ร่วมกันพิจารณารูปแบบการจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน กำหนดวันจัดงานเป็นวันที่ 3 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 - 16.00 น. โดยแบ่งพื้นที่รับผิดชอบในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 7 พื้นที่ และส่วนภูมิภาค 5 พื้นที่ ให้จัดกิจกรรมในพื้นที่ใหม่ที่ยังไม่เคยจัดงานมาก่อน โดยกำหนดรูปแบบกิจกรรมที่เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย อาทิเช่น
- บริการสาธารณสุข ตรวจสุขภาพทั่วไป ทันตกรรม ตรวจวัดสายตา
- การซ่อมบำรุง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องยนต์เล็กการเกษตร
- ฝึกอาชีพเสริมขั้นพื้นฐาน
- แจกพันธุ์ไม้
- กิจกรรมสันทนาการ การแสดงดนตรี สันทนาการสำหรับเด็ก
- มอบถุงพระราชทานให้ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง
- โรงครัวพระราชทาน
- นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ
- นิทรรศการอื่นๆที่ให้ความรู้แก่ประชาชน เป็นต้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายนโยบาย แบบแผนการจัดกิจกรรม พูดคุยถึงปัญหาข้อขัดข้องในการจัดกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา รวมถึงข้อมูลที่ขอรับการสนับสนุนและกำหนดการประชุมติดตามเพื่อการเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมในครั้งต่อไป

ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้หารือถึงการเตรียมการและปฏิบัติ และภารกิจของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ในครั้งนี้ได้กำหนดพื้นที่ในการจัดงานที่บริเวณโรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ฝั่งประถม) โดยขอความร่วมมือการแต่งกายให้สวมเครื่องแบบสีดำหรือสีขาวในการเข้าร่วมกิจกรรม

ถิรายุทธิ์​ เอมโอษฐ์​ ผู้สื่อข่าว​ นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์​ จ.ประจวบฯ.รายงาน
Cr.ประชาสัมพันธ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

น่าน-ร่วมอนุรักษ์เอกสารโบราณ “กู้ชีพใบลานวัดบุญยืน” ฟื้นคืนมรดกทางศาสนาและวัฒนธรรมกว่า 400 ปีวันที่ 27 ตุลาคม 2568 เป็นอ...
28/10/2025

น่าน-ร่วมอนุรักษ์เอกสารโบราณ “กู้ชีพใบลานวัดบุญยืน” ฟื้นคืนมรดกทางศาสนาและวัฒนธรรมกว่า 400 ปี
วันที่ 27 ตุลาคม 2568 เป็นอีกวันหนึ่งที่เปี่ยมด้วยความปิติและความปลื้มใจ เมื่อโครงการ “กู้ชีพใบลาน” ณ วัดบุญยืน พระอารามหลวง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน สำเร็จลุล่วงอย่างงดงาม หลังจากเอกสารโบราณของวัดได้รับความเสียหายจากมหาอุทกภัยพายุ “นิภา” ที่ผ่านมา
ทีม “ม้าแก่” ร่วมกับคณะศรัทธาของวัดและจิตอาสา ใช้เวลากว่า 20 วัน ดำเนินการอนุรักษ์ตามหลักวิชาการทุกขั้นตอน จนสามารถฟื้นคืนสภาพเอกสารโบราณได้สำเร็จ และได้ส่งมอบคืนให้กับทางวัดเพื่อเก็บรักษาอย่างเป็นระบบ
ในโอกาสนี้ ทีมงานจะประกอบพิธี “สุมมาคารวะธรรม” เพื่อความเป็นสิริมงคล และอุทิศบุญกุศลที่เกิดจากการอนุรักษ์ครั้งนี้แด่บูรพาจารย์ผู้จารพระคัมภีร์ทุกรูป ตลอดจนถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จเจ้าฟ้าอัทธวรปัญโญ เจ้าเมืองน่านผู้ทรงสร้างวัดหลวงบุญยืน และทรงฟื้นฟูเมืองน่านหลังเสร็จศึกเชียงแสนกับพม่า
พิธีดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 เวลา 10.09 น. ณ วัดบุญยืน พระอารามหลวง ขอเชิญคณะศรัทธาและจิตอาสาทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิริยาบุญครั้งสำคัญนี้
เอกสารโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์รวมทั้งสิ้น 689 รายการ แบ่งเป็น ใบลาน 687 ผูก รวม 110 มัด และเอกสารกระดาษสาอีก 2 รายการ โดยในระหว่างการอนุรักษ์ ทีมงานได้ค้นพบเอกสารทรงคุณค่าทางศาสนาและประวัติศาสตร์ 5 รายการสำคัญ ได้แก่
คัมภีร์จุลวรรค จารเมื่อ จ.ศ. 960 (พ.ศ. 2141) มีอายุ 427 ปี
ฎีกามหาเวสันตระ จารเมื่อ จ.ศ. 960 เช่นเดียวกัน ระบุว่า “วัดปากชั เมืองเชียงแสน”
คัมภีร์ภาษาบาลี อักษรธรรมล้านนา เรื่อง “วชิรสารตฺถปกรณปฺป” (ไม่ระบุปีที่จาร)
พับสาเรื่อง “พุทธาภิเษก” จารเมื่อ จ.ศ. 1171 (อายุ 217 ปี) คัดลอกสืบมาจากเมืองเชียงแสน
พับหัวกระดาษสา อักษรไทเขิน เรื่อง “พระเจ้า 28 พระองค์” เขียนด้วยหมึกดำ ตัวอักษรยังคมชัดแม้ผ่านมหาอุทกภัย
เอกสารทั้ง 5 ฉบับนี้ ทางวัดบุญยืนจะนำไปจัดแสดงในนิทรรศการ พร้อมบันทึกภาพดิจิทัลเก็บรักษา เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยและเผยแพร่คุณค่าทางวัฒนธรรมสืบไป

@@@@@@@@@@

กัลยา สองเมืองแก่น จ.น่าน

อุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ เสียชีวิต 1 ราย บนถนนน่าน–ทุ่งช้างวันที่ 27 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 22.13 น. พ.ต.ท....
28/10/2025

อุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ เสียชีวิต 1 ราย บนถนนน่าน–ทุ่งช้าง
วันที่ 27 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 22.13 น. พ.ต.ท. สมศักดิ์ นันทะวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ บนถนน สาย น่าน–ทุ่งช้าง บริเวณบ้านทุ่งช้าง หมู่ที่ 2 ตำบลทุ่งช้าง อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.สมศักดิ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยกู้ภัยทุ่งช้าง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สีฟ้า ทะเบียน กธข 672 น่าน ล้มคว่ำอยู่หน้าร้านขายของชำริมถนน ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ทะเบียน กต 512 น่าน เสียหลักตกอยู่ข้างทางด้านหน้าพังยับได้รับความเสียหาย ที่บริเวณกลางถนนพบร่างผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือ นายชัย (สมมติสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี หมู่ที่ 6 ตำบลทุ่งช้าง อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพและรถ EMS โรงพยาบาลทุ่งช้างได้เร่งให้การช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาล
ต่อมาได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลทุ่งช้างว่า นายชัยฯ ได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมาเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และจัดทำแผนที่ประกอบสำนวน พร้อมร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลทุ่งช้างทำการชันสูตรพลิกศพ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริง โดยเบื้องต้นตั้งข้อหา “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นเสียหายและมีผู้เสียชีวิต” เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

@@@@@@@@@@

ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น จ.น่าน

น่านจัดโครงการและค่ายเยาวชนกล้าดี ปีที่ 10 ภายใต้แนวคิด “พลังสร้างสรรค์เมืองน่านยั่งยืน”https://youtu.be/pCe5LD0QMmoวันท...
28/10/2025

น่านจัดโครงการและค่ายเยาวชนกล้าดี ปีที่ 10 ภายใต้แนวคิด “พลังสร้างสรรค์เมืองน่านยั่งยืน”

https://youtu.be/pCe5LD0QMmo

วันที่ 27 ตุลาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารวิชาคาม 1 ศูนย์การเรียนรู้และบริการวิชาการ เครือข่ายจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิด โครงการและค่ายเยาวชนกล้าดี ปีที่ 10 ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “พลังสร้างสรรค์เมืองน่านยั่งยืน”
ในพิธีเปิดมี นายศิริพงษ์ สุขเสริมศาล หัวหน้าแผนกเสริมสร้างทัศนคติภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าววัตถุประสงค์การจัดโครงการ และ นายสำรวย ผัดผล ประธานมูลนิธิฮักเมืองน่าน กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และเยาวชนกล้าดีจากพื้นที่ต่าง ๆ
ก่อนเริ่มกิจกรรม ผู้เข้าร่วมได้ร่วมยืนไว้อาลัย เพื่อแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการอนุรักษ์ป่า ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ
นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า โครงการ “กล้าดี” เป็นกิจกรรมที่มุ่งปลูกฝังแนวคิดให้เยาวชนกล้าแสดงออกในทางสร้างสรรค์ กล้าทำความดี และมีจิตอาสาเพื่อส่วนรวม โดยเฉพาะด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแนวทางตามพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงเน้นการรักษาป่าไม้ อันเป็นรากฐานสำคัญของความยั่งยืน ทั้งยังเชื่อมโยงกับนวัตกรรม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาเมืองน่านอย่างยั่งยืน
ในช่วงท้าย รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่านได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมสนับสนุนโครงการ “กล้าดี” อย่างต่อเนื่องตลอด 9 ปีที่ผ่านมา พร้อมเชิญชวนเยาวชนทุกคนร่วมสานต่อเจตนารมณ์ “กล้าคิด กล้าทำ กล้าเปลี่ยนแปลง” เพื่อร่วมสร้างเมืองน่านให้น่าอยู่และยั่งยืนต่อไป
นอกจากนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยังได้จัดกิจกรรม “Nan Youth Design Camp” หรือ ค่ายพัฒนาเยาวชนกล้าดี เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์และพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมของเยาวชน ผ่านกิจกรรม Design Thinking และการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง โดยความร่วมมือระหว่างจังหวัดน่าน, กฟผ., มูลนิธิฮักเมืองน่าน และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

@@@@@@@@@@

กัลยา สองเมืองแก่น จ.น่าน

บทสัมภาษณ์คุณพิมพร รุ่งรชตะวาณิช หรือ “คุณก้อย” “พระเมตตาที่หาที่สุดมิได้”บทสัมภาษณ์คุณพิมพร รุ่งรชตะวาณิช รองกรรมการผู้...
28/10/2025

บทสัมภาษณ์คุณพิมพร รุ่งรชตะวาณิช หรือ “คุณก้อย” “พระเมตตาที่หาที่สุดมิได้”
บทสัมภาษณ์คุณพิมพร รุ่งรชตะวาณิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดอยซิลเวอร์ แฟคตอรี่ จำกัด ลูกหลานชาติพันธุ์อิ้วเมี่ยน จังหวัดน่าน
“พระสุรเสียงของพระองค์ท่าน และสายพระเนตรที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ยังคงตาตรึงอยู่ในใจของข้าพเจ้ามาตลอดกว่า 30 ปี...”
พระเมตตาที่ไม่รู้ลืม พ.ศ. 2537 — วันที่ฟ้าสว่างสดใส ณ อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน คุณพิมพร รุ่งรชตะวาณิช หรือ “คุณก้อย” ในวัยสาววันนั้น ได้เตรียม “กระเป๋าเงิน” ชิ้นงามที่สุดจากร้าน เพื่อถวายแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง “ตอนนั้นไม่รู้จะใส่ชุดอะไรดี เลยเลือกชุดแต่งงานของตัวเอง ซึ่งเป็นชุดอิ้วเมี่ยน เพราะอยากให้สมพระเกียรติที่สุดเท่าที่ลูกคนหนึ่งจะทำได้”
เมื่อพระองค์เสด็จมาถึงบริเวณที่คุณก้อยยืนอยู่ ท้องฟ้าที่เคยร้อนจ้า กลับร่มเย็นอย่างน่าอัศจรรย์ พระองค์ทอดพระเนตรมาที่เธอ พร้อมตรัสด้วยพระสุรเสียงอ่อนโยนว่า “กางเกงสวยมาก ปักเองไหม ปักนานไหม กระเป๋าเงินนี้ขายเท่าไหร่” คุณก้อยเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ตอนนั้นตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก จำได้แค่สายพระเนตรของพระองค์เต็มไปด้วยพระเมตตาอย่างที่สุด”
ของขวัญแห่งพระเมตตา หลังจากถวายของแล้ว พระองค์เสด็จต่อ แต่ไม่นานนัก มีคุณหญิงท่านหนึ่งเดินย้อนกลับมาบอกให้เธอเข้าไปในศาลาทรงงาน เมื่อเข้าเฝ้าใกล้ชิดอีกครั้ง พระองค์ตรัสว่า “ตุ้มหูสวยมาก ขอพระราชินีดูหน่อยได้ไหม” คุณก้อยถอดตุ้มหูส่งถวาย พระองค์ทรงชมว่า “สวยมาก” แล้วรับสั่งว่า “ใส่ไว้อย่างเดิมเถิดเจ้า” ก่อนเสด็จกลับ พระองค์พระราชทาน ซองหนึ่งซอง พร้อม ถุงยังชีพขนาดใหญ่ เมื่อกลับถึงบ้าน เธอพบว่าในซองนั้นมี เงินจำนวน 10,000 บาท
“ดิฉันเก็บซองและเงินนั้นไว้ในลิ้นชักสูงสุด ถือเป็นเงินสิริมงคลของครอบครัว
และนับแต่นั้นมาก็ยึดอาชีพช่างเครื่องเงินมาจนถึงทุกวันนี้” ถ่ายทอดความทรงจำ สู่งานสร้างสรรค์แห่งความภาคภูมิใจ เมื่อก่อตั้ง พิพิธภัณฑ์เครื่องเงินชาติพันธุ์อิ้วเมี่ยน คุณก้อยได้นำซองและเงินจำนวน 10,000 บาทนั้นใส่พาน ตั้งไว้ให้ผู้มาเยี่ยมชมได้เห็น พร้อมเล่าเรื่องนี้แก่ทุกคน
“เพื่อให้รู้ว่า พระองค์ท่านไม่เคยรับของจากประชาชนโดยไม่ทรงตอบแทน พระองค์ทรงมีพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้” สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ วันนี้ บริษัท ดอยซิลเวอร์ แฟคตอรี่ จำกัด พร้อมลูกหลาน พนักงาน ช่างเงินจังหวัดน่าน และพี่น้องชาติพันธุ์อิ้วเมี่ยนทั่วประเทศ ขอน้อมถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยจัดทำ เข็มกลัดริบบิ้นเงินแท้ เพื่อถวายอาลัยและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
เข็มกลัดมีทั้งไซซ์เล็กและไซซ์กลาง จำนวน 1,000 อัน สามารถผลิตภายในระยะเวลา 10 วัน “ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
ขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย”
#พระแม่ของแผ่นดิน
#บริษัทดอยซิลเวอร์แฟคตอรี่จำกัด
#ชาติพันธุ์อิ้วเมี่ยน
#น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
#สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์


@@@@@@@@@@

กัลยา สองเมืองแก่น จ.น่าน

ผู้ว่าฯสุโขทัยนำหัวหน้าส่วนราชการ นักท่องเที่ยวและประชาชนชาวจังหวัดสุโขทัยจุดตะคันถวายอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระ...
28/10/2025

ผู้ว่าฯสุโขทัยนำหัวหน้าส่วนราชการ นักท่องเที่ยวและประชาชนชาวจังหวัดสุโขทัยจุดตะคันถวายอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2568
วันนี้ (27 ตุลาคม 2568) เวลา 21.21 น. ณ พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานในพิธีจุดตะคันถวายอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2568 โดยมีนางสาวสรินรัตน์ เกิดสกุลรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายธีรยุทธ สำราญทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย หัวหน้าส่วนราชการ นักท่องเที่ยวและประชาชนร่วมในพิธี ในการนี้ประธานในพิธีกล่าวคำถวายอาลัย หน้าพระฉายาลักษ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นำผู้ร่วมพิธียืนสงบนิ่งเป็นเวลา 93 วินาที จากนั้นนำตะคันวาง ณ จุดที่จัดเตรียมไว้
จังหวัดสุโขทัยจัดกิจกรรมดังกล่าวบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ในงานประประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2568 ในเวลา 21.21 น.ของทุกคืน ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2568 เพื่อถวายอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยใช้แสงตะคัน เป็นสื่อแสดงความกตัญญูกตเวที และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านต่อปวงชนชาวไทย .
กิตติ พรดวงจันทร์ จังหวัดสุโขทัย

ที่อยู่

Amphoe Nong Sua

เบอร์โทรศัพท์

+66619391959

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ประชาไทนิวส์ออนไลน์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ประชาไทนิวส์ออนไลน์:

แชร์

หนังสือพิมพ์ ประชาไทนิวส์ออนไลน์

หนังสือพิมพ์เพื่อประชาชน