14/10/2025
ตร.ท่องเที่ยว เร่งเอาผิด บริษัททัวร์ทิ้งแสวงบุญกว่า 100 ชีวิตที่สนามบินหาดใหญ่ ด้านผู้เสียหายแห่เข้าแจ้งความดำเนินคดี
จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2568 เกิดเหตุการณ์อื้อฉาวในวงการธุรกิจนำเที่ยว เมื่อกลุ่มผู้แสวงบุญอุมเราะห์ชาวไทยมุสลิมกว่า 102 คน ถูกบริษัททัวร์ ปล่อยลอยแพที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบียได้ สร้างความเสียหายรวมกว่า 8 ล้านบาท
พฤติการณ์ทอดทิ้งลูกทัวร์
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 13 ต.ค.68 โดยผู้แสวงบุญทั้งหมดได้เดินทางมาถึงสนามบินหาดใหญ่ตามที่บริษัททัวร์นัดหมายไว้ เพื่อขึ้นเครื่องบิน แต่กลับพบว่า บริษัททัวร์ไม่ได้มีการจองเที่ยวบินไว้แต่อย่างใด ทำให้ผู้แสวงบุญทั้งหมดไม่สามารถเดินทางได้ หลังจากนั้น ผู้เสียหายทั้งหมดจึงได้รวมตัวเดินทางไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ
ผู้เสียหายต้องการดำเนินคดีฉ้อโกง
น.ส.กุลยา (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ผู้เสียหายแต่ละคนได้โอนเงินคนละ 80,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 8 ล้านบาท ให้กับบริษัททัวร์ดังกล่าว โดยมี นายรุสลี (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท เป็นผู้รับเงิน ผู้เสียหายทั้งหมดจึงมีความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีในฐานความผิด "ฉ้อโกง" ที่ สภ.เมืองปัตตานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท
ตำรวจท่องเที่ยวรุดหน้าช่วยเหลือและดำเนินคดี
หลังจากได้รับทราบเรื่อง ตำรวจท่องเที่ยวโดย ส.ทท.1 กก.3 บก.ทท.3 (หาดใหญ่), ส.ทท.3 กก.3 บก.ทท.3 (นราธิวาส) และ กก.สส.3 ได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้เสียหายทันที
โดยในวันที่ 14 ต.ค.68 เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยนิติกรจากสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวฯ สาขาภาคใต้เขต 3 ได้เข้าตรวจสอบที่ตั้งบริษัท รุส ฮัจญ์ แอนด์ ทราเวล จำกัด ที่ ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี แต่ปรากฏว่า บริษัทปิดทำการและไม่พบผู้ใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้เข้าร่วมพูดคุยกับผู้เสียหาย และอำนวยความสะดวกนำผู้เสียหายจำนวน 43 ราย เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี โดยมีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี และผู้กำกับการ สภ.เมืองปัตตานี คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้เข้าแจ้งความกล่าวโทษ นายรุสลี (สงสนนามสกุล) กรรมการผู้จัดการบริษัท ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ในฐานความผิด "ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวฯ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยทาง เจ้าหน้าที่ได้ตั้งกลุ่มไลน์เพื่อสื่อสารและติดตามความคืบหน้าทางคดีฐาน "ฉ้อโกง" ให้กับกลุ่มผู้เสียหายอย่างใกล้ชิด
ตำรวจท่องเที่ยวขอประชาสัมพันธ์และเตือนภัยไปยังประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปแสวงบุญ หรือซื้อแพ็กเกจทัวร์ ให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบริษัททัวร์ ว่ามีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ก่อนตัดสินใจโอนเงิน และควรตรวจสอบเที่ยวบินกับสายการบิน หรือบริษัททัวร์ที่ซื้อ ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทอดทิ้งลูกทัวร์เช่นนี้ซ้ำอีก.
#ผู้แสวงบุญ #อุมเราะห์ #โดนเท