27/08/2025
🛶วันที่ 6-8 กันยายน 2568 ขอเชิญชวนมา
” #ลอยเรือสะเดาะเคราะห์”🛶
ที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี🪷
🌞ประวัติความเป็นมาของประเพณี”ลอยเรือสะเดาะเคราะห์”ของคนมอญ บ้านวังกะ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ว่ากันว่า เกิดขึ้นเมื่อครั้งพระเจ้าธรรมเจดีย์ขึ้นครองราชย์ปกครองอาณาจักรมอญ เมืองหงสาวดี พระองค์ทรงเห็นพระภิกษุสามเณรในเมืองมอญหงสาวดี มีความประพฤติย่อหย่อนต่อพระธรรมวินัย พระพุทธศาสนาในเมืองมอญเกิดมลทินด่างพร้อยมากมาย จึงมีพระราชประสงค์จะสังคายนาพระพุทธศาสนาในเมืองมอญเสียใหม่ เพื่อชำระหมู่พระภิกษุสงฆ์ให้มีความบริสุทธิ์
พระเจ้าธรรมเจดีย์มีพระราชโองการรับสั่งให้พระภิกษุสามเณรในเมืองมอญลาสิกขาเสียทั้งหมด แล้วทรงส่งปะขาวถือศีล 8 คณะหนึ่งซึ่งก็คือ อดีตพระเถระผู้ทรงพระไตรปิฎก ทรงความรู้ตั้งมั่นในศีล ที่พระองค์
มีคำสั่งให้ลาสิกขามาถือศีล 8 เป็นปะขาวนั่นเอง
ให้ออกเดินทางไปยังประเทศศรีลังกา เพื่อให้ไปถือการอุปสมบทเป็นพระภิกษุมาใหม่ จากคณะสงฆ์ในประเทศศรีลังกา เสร็จแล้วให้เดินทางกลับมาเป็นอุปัชฌาย์อาจารย์ บวชให้แก่คนมอญในเมืองมอญเสียใหม่
คณะของปะขาวนี้ เมื่อเดินทางถึงประเทศศรีลังกา
ได้รับการอุปสมบทแล้ว ก็เดินทางกลับ ในระหว่างทางที่เดินทางนั้น เรือสำเภาลำหนึ่งในจำนวนสองลำโดนพายุพัดให้หลงทิศไป ส่วนอีกลำหนึ่งเดินทางมาถึงเมืองหงสาวดีโดยปลอดภัย เมื่อทราบถึงพระกรรณของพระเจ้าธรรมเจดีย์ พระองค์จึงรับสั่งให้ทำเรือจำลองขึ้นมา ข้างในบรรจุด้วยของเซ่นไหว้บูชาเหล่าเทวดาทุกหมู่เหล่า ด้วยเครื่องเซ่นไหว้นั้น
ให้เหล่าเทวดาทั้งหลาย ที่ดูแลพื้นดินก็ดี
ที่ดูแลพื้นน้ำก็ดี ที่ดูแลพื้นอากาศก็ดี ได้มาช่วยปัดเป่าให้เรือสำเภาที่หลงทิศไปนั้น ได้เดินทางกลับมาโดยปลอดภัย หลังจากที่พระองค์ทรงทำพิธีสะเดาะเคราะห์แล้วไม่กี่วัน เรือที่หลงทิศนั้นก็เดินทางกลับมาถึงเมืองหงสาวดีโดยปลอดภัย ชาวมอญจึงถือเอาเหตุการณ์นี้ทำพิธีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ในช่วงกลางเดือน 10 ของทุก ๆ ปี สืบต่อกันมาตราบจนปัจจุบันนี้
สำหรับประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ชาวไทยรามัญอำเภอสังขละบุรี จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ในช่วงวันขึ้น 14-15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบูชาเทวดาที่อยู่ในน้ำ ในป่า และบนบก อีกทั้งเพื่อสืบสานประเพณีดั้งเดิมของกลุ่มชุมชน ตลอดทั้งเป็นการเผยแพร่ประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้
กิจกรรมในงานได้แก่ การเจริญพระพุทธมนต์โดยพระสงฆ์ทั้ง 3 วัน โดยจะมีการเตรียมงานดังนี้
ก่อนถึงวันพิธี ชาวบ้านจะร่วมกันเตรียมทำธง,ร่ม
และ จัดเครื่องบูชาเรือต่างๆ เพื่อถวายวัด โดยมีการแบ่งงานให้หัวหน้าคุ้มต่างๆ ในหมู่บ้าน รับไปให้ลูกบ้าน ช่วยกันทำแล้วนำมาส่งที่วัด ผู้ชายส่วนหนึ่งก็จะมารวมกันที่วัด เพื่อร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเรือ จากลำไม้ไผ่ใหญ่ที่สวยงาม พร้อมประดับตกแต่งด้วยกระดาษหลากสี ในยามหัวค่ำจนถึงเช้ามืดของวันขึ้น 15 ค่ำ ชาวบ้านจะทยอยพากันนำธงหลากสี ตุง ร่มกระดาษ มาประดับตกแต่งเรือ ในบริเวณปะรำพิธีอย่างเนืองแน่น พร้อมนำเครื่องเซ่นต่างๆ ประกอบด้วยกล้วย,อ้อย ขนม ข้าว ดอกไม้ ไปวางไว้ในลำเรือ จุดเทียนอธิษฐานให้สิ่งไม่ดี และเคราะห์ร้ายต่างๆ ไปให้พ้นจากชีวิตตน พร้อมรับฟังบทสวดอิติปิโส 108 จบ และ บทสวดสะเดาะเคราะห์จากภิกษุสงฆ์
เมื่อถึงเช้าวันแรม 1 ค่ำ ปีนี้ตรงกับวันที่ 8 กันยายน
ช่วงเช้า ชาวบ้านก็จะมารวมตัวกันตั้งเป็นขบวนแห่
มีการเล่นโคม ปล่อยโคมลอยขนาดใหญ่ ประกอบการร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนาน จากนั้นทั้งหมดจะช่วยกันลากเรือไปปล่อยลงกลางน้ำบริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำสามสาย ได้แก่ ซองกาเลีย รันตี และบิคลี่ ที่เรียกกันว่า “สามสบ” หรือ “สามประสบ” นั่นเอง
สำหรับในปีนี้จะตรงกับ วันที่ 6-8 กันยายน 2568
#พาราไดซ์รีสอทต์ สังขละบุรี ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมงานประเพณีที่มีเสน่ห์น่าประทับใจ ณ บริเวณลานหน้า เจดีย์พุทธคยา 🛕
วัดวังก์วิเวการาม ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี
#ไทยเที่ยวไทย #ไทยเที่ยวไทยไม่ไปไม่รู้
#สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
#รามัญ #กะเหรี่ยง #ชายแดนไทยพม่า
#งานบุญ