ข่าวเด่นภูมิภาคทั่วไทย กาญจนบุรี

ข่าวเด่นภูมิภาคทั่วไทย กาญจนบุรี เจาะลึก-เรื่องจริงนำเสนอสู่สายตาประชาชน

มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี จัดกิจกรรมการนำเสนอผลสัมฤทธิ์และพิธีปิดโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น 2568 วันที่ 17 กันยายน ...
19/09/2025

มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี จัดกิจกรรมการนำเสนอผลสัมฤทธิ์และพิธีปิดโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น 2568

วันที่ 17 กันยายน 2568 ณ ห้องประชุมราชาวดี ชั้น 4 อาคารคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พจนีย์ สุขขาวนา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี เป็นประธานในการนำเสนอผลสัมฤทธิ์และพิธีปิดโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ประจำปี 2568

และมีผู้แทนจากธนาคารออมสินกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการ พร้อมตัวแทนกลุ่มชุมชนกล่าวแสดงความรู้สึกในการเข้าร่วมโครงการ จากนั้นเป็นการนำเสนอรายงานผลการดำเนินงานและผลสัมฤทธิ์ของโครงการย่อยของทีมนักศึกษา และรับฟังข้อเสนอแนะจากตัวแทนธนาคารออมสิน ดังนี้
1)โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกลุ่มไม้ทำมือคนพิการตำบลจรเข้เผือก
2)โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนชมรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนและโฮมสเตย์บ้านป่าหนองขาว
3)โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขนุนแปรรูปสวนอินทรชา
4)โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกลุ่มสตรีเทศบาลตำบลหนองปรือ
5)โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวกาญจน์ 2567

โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้การทำงานร่วมกันระหว่างกลุ่มองค์กรชุมชน สถาบันการศึกษา ธนาคารออมสิน และหน่วยงาน
ภาคีที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ในการเรียนรู้การทำงานเป็นกลุ่ม การทำงานต่อยอดความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ก่อให้เกิดประสบการณ์ด้านการพัฒนาศักยภาพตนเองเมื่อออกสู่ตลาดแรงงาน และสร้างความมั่นคงของรากฐานสังคมจากพื้นฐานความเข้าใจของคนรุ่นใหม่นำความรู้ไปพัฒนาชุมชน และทำให้กลุ่มองค์กรชุมชนเกิดการสร้างรายได้ มีการจัดทำบัญชีต้นทุนและบัญชีรับจ่ายครัวเรือน
--------------------------------
ภาพ/ข่าว: งานประชาสัมพันธ์ มรภ.กาญจนบุรี
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.kru.ac.th
รับสมัครนักศึกษาออนไลน์ http://register.kru.ac.th/reg/
IG: kru.university โทร 034-534059-60

มรภ.กาญจนบุรี ร่วมกิจกรรม "ปลูกป่า ปล่อยปลา รักษ์สิ่งแวดล้อม"  ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่...
18/09/2025

มรภ.กาญจนบุรี ร่วมกิจกรรม "ปลูกป่า ปล่อยปลา รักษ์สิ่งแวดล้อม" ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชน ขับเคลื่อนงานด้าน CSR/USR

วันที่ 18 กันยายน 2568 ณ บริเวณริมเขื่อนหน้าวัดท่ากระทุ่ม ต.แสนตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ผศ.ดร.พจนีย์ สุขชาวนา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี มอบหมายให้ ผศ.จรายุทธ ประทีปวรกาญจน์ รองอธิการบดี ร่วมกิจกรรม "ปลูกป่า ปล่อยปลา รักษ์สิ่งแวดล้อม" ประจำปี 2568 โดยมีนายสิทธิวีร์ วรรณพฤกษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานฯ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ชุมชนท้องถิ่น ร่วมกิจกรรม

มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ร่วมกิจกรรม "ปลูกป่า ปล่อยปลา รักษ์สิ่งแวดล้อม" โดยมีบริษัท น้ำตาลท่ามะกา จำกัด เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินกิจกรรม ในการร่วมขับเคลื่อนพันธกิจด้าน CSR/USR พร้อมด้วยสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 34 กาญจนบุรี SCGP ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ภาคการศึกษา และชุมชนท้องถิ่น เพื่อสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการฟื้นฟูระบบนิเวศทั้งบนบกและในน้ำ กิจกรรมนี้ประกอบด้วยการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดภาวะโลกร้อน และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า รวมถึงการปล่อยปลาเพื่อเพิ่มจำนวนสัตว์น้ำและสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่แหล่งน้ำ กิจกรรมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยและหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชน

พระเทพฯ พระราชทานสายห้ามเลือดเพิ่มเติมให้กองกำลังสุรนารีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราช...
18/09/2025

พระเทพฯ พระราชทานสายห้ามเลือดเพิ่มเติมให้กองกำลังสุรนารี

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทาน “สายรัดห้ามเลือด” แก่กำลังพลกองกำลังสุรนารีผู้ปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศในพื้นที่ชายแดน

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทาน “สายรัดห้ามเลือด” แก่กำลังพลกองกำลังสุรนารีผู้ปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศในพื้นที่ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เพื่อใช้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และช่วยดำรงความอยู่รอดในสนามรบ

ด้วยพระราชหฤทัยเปี่ยมด้วยความห่วงใยในความปลอดภัยและสวัสดิภาพของกำลังพลในทุกด้าน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี นายกกิตติมศักดิ์ และประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “สายรัดห้ามเลือด” (Tourniquet) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการช่วยชีวิต แก่กองกำลังสุรนารี รวมทั้งสิ้น 3,300 ชุด โดยพระราชทานเป็นลำดับ ในวันที่ 13-14,31 สิงหาคม 2568 และ วันที่ 17 กันยายน 2568 พระราชทานเพิ่มอีกจำนวน 700 ชุด

กองกำลังสุรนารีได้นำสายรัดห้ามเลือดพระราชทานไปมอบแก่กำลังพลประจำหน่วยเฉพาะกิจ 1, 2 และ 3 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาด้านจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

โดยได้จัดให้มีการฝึกการใช้งานสายรัดห้ามเลือด เพื่อสร้างความพร้อมกรณีใช้งานจริง

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น. ณ หมู่ที่ 5 บ้านหนองบาง ตำบลลิ่นถิ่น  อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี      ...
18/09/2025

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น.
ณ หมู่ที่ 5 บ้านหนองบาง ตำบลลิ่นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ/นายกกิ่งกาชาดอำเภอทองผาภูมิ พร้อมด้วย ปลัดอำเภอทองผาภูมิ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนกองร้อยอำเภอทองผาภูมิที่ 9 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลลื่นถิ่น ร่วมกันลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบความเสียหาย และการขอรับการช่วยเหลือ จากกรณี น้ำป่าและดินโคลนไหลหลากเข้าพื้นที่หมู่บ้านส่งผลให้บ้านเรือนพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหาย จำนวน 15 หลังคาเรือน ผู้ได้รับความเสียหายจำนวน 43 ราย จากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนหลากเข้าหมู่บ้านหนองบางหมู่ที่ 5 ตำบลลิ่นถิ่น เมื่อวันพุธที่ 17 กันยายน 2568 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. น้ำจากลำน้ำหนองบางซึ่งไหลมาจากภูเขาได้เอ่อล้นและไหลเข้าท่วมหมู่บ้านส่งผลให้เกิดความเสียหายดังกล่าว
อำเภอทองผาภูมิ ได้ประสานเทศบาลตำบลลิ่นถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เร่งช่วยเหลือดูแลและอพยพ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กและคนพิการ ขึ้นมายังวัดหนองบางซึ่งเป็นพื้นที่สูงและปลอดภัย ต่อมาเช้าวันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน 2568 น้ำได้ลดลงจนถึงจุดปกติ จึงได้ประสานเทศบาลตำบลลิ่นถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เข้าช่วยเหลือและสำรวจความเสียหาย พร้อมทั้ง ทำความสะอาดบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจำนวน 15 หลัง และนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ/นายกกิ่งกาชาดอำเภอทองผาภูมิ ได้มอบถุงยังชีพ ข้าวสารอาหารแห้ง/และผ้าห่ม ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าและดินโคลนหลายหลากครั้งนี้ เป็นจำนวน 30 ราย

ทั้งนี้เน้นย้ำ ให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลลิ่นถิ่น เฝ้าระวังเหตุการณ์ และเร่งรายงานให้อำเภอทราบเมื่อเกิดสถานการณ์เปลี่ยนแปลงในทันที พร้อมทั้งให้กำลังใจพี่น้องประชาชนให้มีความเข้มแข็งและดูแลรักษาสุขภาพให้มีกำลังใจต่อไป
ข้อมูล-ที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ

📍ผู้ว่ากาญฯ เน้นย้ำ ด้านยาเสพติด – งานสถานะสัญชาติ และผลักดันเศรษฐกิจชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ในการประชุมมอบนโยบายการปฏิบ...
18/09/2025

📍ผู้ว่ากาญฯ เน้นย้ำ ด้านยาเสพติด – งานสถานะสัญชาติ และผลักดันเศรษฐกิจชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ในการประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติราชการ อำเภอสังขละบุรี

วันนี้ (18 กันยายน 2568) เวลา 14.30 น. นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานการประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติราชการ ของผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายวุฒิพงษ์ สุภัควานิช นางพรรณวิภา ปิยัมปุตระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และ นายฑรัท เหลืองสอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรีโดยมี นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี หัวหน้าส่วนราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องที่ เข้าร่วม ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลปรังเพล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

ผู้ว่าราชการฯ กล่าวว่า “ขอชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ในงานป้องกันยาเสพติด โดยเน้นย้ำให้ดำเนินการงานด้วยการป้องกันยาเสพติด สร้างเครือข่ายตาสับปะรด และการแก้ไขปัญหาสัญชาติ และสถานะบุคคลตามมติ ครม. วันที่ 29 ตุลาคม 2567 ของพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ที่เป็นต้นแบบของการดำเนินงานด้านสถานะบุคคล และได้รับการชื่นชม จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ในการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลทางกฎหมาย ตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล ในส่วนของการขับเคลื่อน การค้าด่านชายแดนพระเจดีย์สามองค์ ขยายการผ่อนปรนมาตรการการค้าชายแดน เนื่องจากสังขละบุรี ยังมีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยว”

นายวุฒิพงษ์ สุภัควานิช รองผู้ว่าราชการ กล่าวว่า “สังขละบุรีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ขอความร่วมมือในการการใช้ถนนเส้น 323 สังขละบุรี-ทองผาภูมิ เน้นย้ำมาตรการการเดินรถบรรทุกสินค้าตามที่กำหนด ในส่วนของการปรับปรุงขยายถนนไหล่ทางอยู่ระหว่างการดำเนินงาน เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและผู้ใช้รถใช้ถนนในพื้นที่ด้วย สำหรับผู้ลี้ภัยในศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านต้นยาง ปี2568 นี้ผู้สนับสนุนจากต่างประเทศได้ยุติความช่วยเหลือ เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระให้ประเทศไทย รัฐบาลจึงออกประกาศให้คนกลุ่มนี้สามารถขออนุญาตทำงานได้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเริ่ม 1 ตุลาคม 2568 เรื่องที่ดินในพื้นที่ 6,000 ไร่ บริเวณชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ หลังจากที่จัดการที่ดินในส่วนของป่าไม้แล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินงาน ในการจัดสรรให้ประชาชนตามระเบียบกฎหมายต่อไป สุดท้านเรื่องของยาเสพติด พืชกระท่อม ที่มีการกำหนดให้ประกาศห้ามขายใบกระท่อม และ น้ำต้มใบกระท่อม ในรัศมีไม่เกิน 1,000 เมตร จากแนวรั้วหรือเขตของสถานศึกษา มีผลบังคับใช้ 30 วันหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ประกาศ 12 ก.ย.68)”

นางพรรณวิภา ปิยัมปุตระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า “ในพื้นที่สังขละบุรี มีองค์กรที่เกี่ยวกับสิทธิเด็กจำนวน 13 องค์กร ขอให้หน่วยงานในพื้นที่ช่วยสอดส่องดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปตามกฎหมาย”

ทีมข่าวสวท.สังขละบุรี /รายงาน

ผู้ว่ากาญฯ บูรณาการออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ดูแลประชาชน” พื้นที่อำเภอสังขละบุรี        วันนี้ (18 ก...
18/09/2025

ผู้ว่ากาญฯ บูรณาการออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ดูแลประชาชน” พื้นที่อำเภอสังขละบุรี

วันนี้ (18 กันยายน 2568) เวลา 13.30 น. นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานเปิดโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ครั้งที่ 13 ประจำปีงบประมาณ 2568 พื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนายวุฒิพงษ์ สุภัควานิช นางพรรณวิภา ปิยัมปุตระ ร่วมลงพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ในครั้งนี้

โดยมี นายฑรัท เหลืองสอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี ให้การต้อนรับ รายงานสรุปข้อมูล และนำเสนอปัญหาความต้องการในพื้นที่ พร้อมด้วย นางสาวกิตติยา จึงรุ่งเจริญกิจ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ คณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมโครงการ ฯ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า “โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ ฯ จัดขึ้น ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล โดยการนำหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรสาธารณกุศล บูรณาการร่วมกัน นำงานบริการในหน้าที่มาให้บริการประชาชน ตลอดจนรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของประชาชน เป็นการลดช่องว่างระหว่างจังหวัดกับประชาชน ซึ่งผมมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ จะได้รับประโยชน์จากการออกหน่วยให้บริการประชาชนของหน่วยงานต่าง ๆ ทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข และมีรอยยิ้ม สำหรับปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการของพี่น้องประชาชนทั้งหมดนี้ผมจะได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางนโยบาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ให้อำเภอสังขละบุรีได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและผมคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันทำงานผลักดันให้ปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีสามารถแก้ไขได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป”

จากนั้นนายอธิสรรค์ ได้ร่วมพบปะพูดคุยกับหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน มอบทุนสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทุนละ 2,000 บาท จำนวน 14 ทุน มอบน้ำตาลทราย จำนวน 100 กิโลกรัม ให้แก่โรงเรียนบ้านท่าดินแดง และโรงเรียนบ้านยางขาว เพื่อสมทบโครงการอาหารกลางวันของนักเรียน นอกจากนี้ยังมีการมอบพันธุ์ปลาจำนวน 20 ถุง ให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้นำไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติของชุมชมเพิ่มการขยายพันธุ์ปลา และมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภค(ถุงยังชีพ) ให้แก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาส จำนวน 200 ชุด จากนั้นเยี่ยมชมหน่วยให้บริการประชาชนของส่วนราชการและองค์กรต่าง ๆ ที่ได้นำหน่วยบริการเคลื่อนที่มาให้บริการประชาชน

ทีมข่าว สวท.สังขละบุรี ภาพ/ข่าว

News : กรมอุทยานฯ ผนึกกำลัง DSI และจังหวัดหนองคาย แถลงผลการทลายเครือข่ายค้าไม้เถื่อนข้ามชาติรายใหญ่ ยึดไม้ประดู่มูลค่ากว...
18/09/2025

News : กรมอุทยานฯ ผนึกกำลัง DSI และจังหวัดหนองคาย แถลงผลการทลายเครือข่ายค้าไม้เถื่อนข้ามชาติรายใหญ่ ยึดไม้ประดู่มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท เตรียมขยายผลจับกุมผู้บงการและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 18 กันยายน 2568 - นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI). นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า, นายพุทธพจน์ คูประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) นายสราวุฒิ บุญเกื้อ ผู้อํานวยการสํานักจัดการทรัพยากร ป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร เจ้าหน้าที่กรมปกครอง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการเข้าตรวจสอบโกดังของบริษัท เฉินไท้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในพื้นที่ ต.วัดธาตุ อ.เมืองหนองคาย ซึ่งมีกลุ่มทุนต่างประเทศเป็นเจ้าของ
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ได้แก่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย, เจ้าหน้าที่ ตชด., กรมศุลกากร, และฝ่ายปกครอง ซึ่งเป็นการขยายผลการสืบสวนเครือข่ายลักลอบค้าไม้เถื่อนข้ามชาติที่เริ่มต้นจากคดีในพื้นที่ภาคเหนือเมื่อหลายเดือนก่อน
จากการเข้าตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบไม้ประดู่ที่ถูกลักลอบตัดจากป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 378 ท่อน/แผ่น/ปุ่ม รวมปริมาตร 32.547 ลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นน้ำหนักประมาณ 28,000 กิโลกรัม หากประเมินตามราคาตลาด ไม้ของกลางที่ยึดได้มีมูลค่าสูงถึง 14 ล้านบาท
การทลายเครือข่ายครั้งนี้เป็นผลจากการทำงานอย่างหนักของเจ้าหน้าที่ที่ใช้เวลาหลายเดือนในการสืบสวนลับและติดตามพฤติกรรมของขบวนการ โดยพบว่ามีวิธีการทำงานที่ซับซ้อน เริ่มจากการใช้รถกระบะขนาดเล็กเข้าไปลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าลึกในภาคเหนือ ก่อนจะลำเลียงมาเก็บที่โกดังในภาคอีสาน ซึ่งเป็นจุดรวบรวมและซื้อขาย โดยมีนายทุนจากต่างประเทศเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและสนับสนุนเงินทุน จากนั้นไม้จะถูกส่งต่อไปยังต่างประเทศผ่านรถบรรทุกสิบล้อไปยัง สปป.ลาว หรือส่งออกทางท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยใช้ตู้คอนเทนเนอร์
จากการตรวจสอบเอกสารการค้าในโกดัง เจ้าหน้าที่ประเมินว่าขบวนการนี้มีการส่งออกไม้ไปยังประเทศจีนและเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดหลักสำหรับเฟอร์นิเจอร์หรูหรา คิดเป็นปริมาตรรวมทั้งหมด 2,052.83 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าความเสียหายรวมสูงถึง 1,233 ล้านบาท การสืบสวนยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่ภาครัฐจากหลายหน่วยงานเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกให้กับการกระทำผิดกฎหมาย
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ ยืนยันว่า กรมอุทยานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งขยายผลการสืบสวนและจับกุมผู้เกี่ยวข้องทุกระดับอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นผู้บงการ ผู้ดำเนินการ หรือผู้ให้ความช่วยเหลือ โดยจะไม่มีการละเว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้อง การปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการจับกุม แต่เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงความจริงจังในการปราบปรามการลักลอบตัดไม้ ซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อทรัพยากรป่าไม้และระบบนิเวศของประเทศ
คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติและความจำเป็นในการมีมาตรการป้องกันและปราบปรามที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงการตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐเองที่อาจเข้าไปเกี่ยวข้องในกิจกรรมผิดกฎหมายเหล่านี้ การสูญเสียป่าไม้จากการลักลอบตัดไม้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในระยะยาว คดีนี้จึงเป็นการต่อสู้เพื่ออนาคตของผืนป่าไทยและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ซึ่งจะเป็นมรดกสำคัญที่เราจะส่งต่อให้กับคนรุ่นหลังต่อไป

#ขบวนการค้าไม้ #แถลงผลจับไม้ #ไม้ประดู่ #กรมอุทยานแห่งชาติ #จังหวัดหนองคาย #ขยายผล

รวบ "เจ๊นุช ดอนเจดีย์" พร้อมยาบ้า เกือบ 5 แสนเม็ด ตรวจยึดทรัพย์เกือบ 30 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย ตำรวจกองปราบปราม และ...
18/09/2025

รวบ "เจ๊นุช ดอนเจดีย์" พร้อมยาบ้า เกือบ 5 แสนเม็ด ตรวจยึดทรัพย์เกือบ 30 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย ตำรวจกองปราบปราม และตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับนางอรนุช อายุ 68 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.72/51 ลงวันที่ 23 พ.ค.2551 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ” และจับนายวิเชียร อายุ 75 ปี , นายอัฐพงศ์ อายุ 31 ปี , น.ส.จงกลณี อายุ 58 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ” โดยจับบริเวณหน้าร้านข้าวแกงแห่งหนึ่ง ต.ประด่าง อ.วังเจ้า จ.ตาก

การจับครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจ กก.1 บก.ป. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นางอรนุช เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติด ของ บช.ปส. เมื่อปี 2551 หลบหนีมาพักอาศัยอยู่กับ นายวิเชียร ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จึงเฝ้าสังเกตพฤติกรรมพบว่านางอรนุช น่าจะยังมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยพบข้อมูลว่าร่วมกับนายวิเชียร ไปรับยาเสพติดมาจากภาคเหนือ

จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมพบ รถยนต์โตโยต้า รุ่นอินโนว่า สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีเส้นทางการเดินทาง สอดคล้องกับข้อมูลในทางสืบสวน คือ เข้าไปในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ กระทั่งตำรวจติดตามรถยนต์คันดังกล่าว มาถึงร้านข้าวแกงแห่งหนึ่ง ต.ประด่าง อ.วังเจ้า จ.ตาก จึงแสดงตัวเป็นตำรวจ และแสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เพื่อตรวจค้นรถยนต์ ปรากฏว่าพบยาเสพติดจำนวน 225 มัด หรือประมาณ 450,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในข้างประตูรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมกับผู้ต้องหา 4 คน ภายในรถยนต์

จากนั้นขยายผลเข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่ง ม.3 ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นที่พักของนายวิเชียร และนางอรนุช ตรวจยึดพยานหลักฐานพร้อมทรัพย์สินที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดกว่า 50 รายการ โดยรายการสำคัญ คือเงินสดรวม จำนวน 3,353,980 บาท (รวมหลังจากขยายผลเพิ่มเติมแล้ว) , รถยนต์ จำนวน 6 คัน (รวมหลังจากขยายผลเพิ่มเติมแล้ว) , พระเครื่องและทองคำ จำนวน 104 ชิ้น , แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ จำนวน 11 แผ่น , สมุดบัญชีธนาคารจำนวน 6 เล่ม และสำเนาโฉนดที่ดินจำนวน 3 ชุด

เบื้องต้นนางอรนุช และนายวิเชียร รับว่ายาบ้าของกลางลำดับที่ 1 เป็นของตนเองซื้อมาจากนายเหว่ย (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จำนวน 225 มัด มัดละ 8,000 บาท เป็นเงิน 1,800,000 บาท เพื่อมาจำหน่ายให้ผู้ซื้อไม่ทราบชื่อ ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ในราคามัดละ 9,000 บาท และบางครั้งก็ส่งไปจำหน่ายที่ จ.สุราษฎร์ธานี ในราคามัดละ 11,000 บาท ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนรับหน้าที่ร่วมนั่งมาในรถที่ขนยาเสพติดเพื่ออำพรางตบตาเจ้าหน้าที่เวลาที่พบด่านตรวจ ซึ่งตำรวจได้นำผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมาย.

ที่มาภาพ/ข่าว :: #ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ป.

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติห่วงใย ส่งกำลังใจให้กำลังพลควบคุมสถานการณ์พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ย้ำการดำเนินการของตำ...
18/09/2025

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติห่วงใย ส่งกำลังใจให้กำลังพลควบคุมสถานการณ์พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ย้ำการดำเนินการของตำรวจเป็นไปตามหลักสากล

(18 ก.ย. 2568) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วานนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงานจากกองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดน 4 ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 (ร้อย ฉก.ตชด.4 ชค.ตชด.12) กรณีเหตุการณ์บริเวณจุดปฏิบัติการที่ 34 กองร้อยทหารพรานที่ 1301 (ร้อย ทพ.1301) บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว

โดยเวลา 14.30 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 12 พร้อมด้วยชุดควบคุมฝูงชนจังหวัดสระแก้ว , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอโคกสูง , เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.1301 และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ร้อย ฉก.ตชด.1 - 4 ได้ดำเนินการลงพื้นที่ไปติดตั้งลวดหนามหีบเพลงบริเวณดังกล่าว จากนั้นเวลา 15.00 น. ได้มีผู้ชุมนุมฝ่ายกัมพูชาประมาณ 200 คน เข้ามาขัดขวางและพยายามรื้อลวดหนามหีบเพลงของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้เตือนให้หยุดการกระทำ จึงทำให้ประชาชนฝั่งกัมพูชาไม่พอใจ

จากนั้นเวลา 16.00 น.ประชาชนฝั่งกัมพูชา ได้ต่อว่าเจ้าหน้าที่และได้ปาก้อนหิน ท่อนไม้ ใส่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ชุดควบคุมฝูงชนจังหวัดสระแก้ว และฝ่ายปกครองอำเภอโคกสูง จึงได้ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง เพื่อผลักดันให้ประชาชนฝั่งกัมพูชาได้ร่นถอยออกจากพื้นที่ดังกล่าว

ต่อมาเวลา 17.00 น.เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ดำเนินการเสริมความมั่นคง โดยการวางลวดหนามหีบเพลงเพิ่มเติม และใช้ยางรถยนต์ประกอบ รวมถึงควบคุมการประท้วงด้วยแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และเครื่อง LRAD เพื่อให้ผู้ชุมนุมถอยออกจากพื้นที่

จากการเข้าควบคุมเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 นาย ได้แก่ พ.ต.ท.สมัชญ์ นาคพน รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.คลองลึก , ด.ต.แสงอรุณ ศรีวงศ์จันทร์ ผู้บังคับหมู่ฝ่ายปราบปราม สภ.คลองลึก , ด.ต.ศักดิ์สิทธิ์ นพเกล้า ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และ จ.ส.ต.ชยันต์ เบ้าทอง ผู้บังคับหมู่ฝ่ายปราบปราม สภ.อรัญประเทศ

นอกจากนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ และกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกนาย ได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาดูแลสิทธิและสวัสดิการอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุ และใช้เครื่องมือที่เน้นการผลักดันเพื่อระงับเหตุจลาจลนั้น เป็นไปตามหลักสากล และเหมาะสมต่อสถานการณ์ โดยสถานการณ์ดังกล่าวถือว่ามวลชนกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย ขัดขวางการปฏิบัติงานและทำลายสิ่งของของเจ้าหน้าที่ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายของประเทศไทย.

ที่มาภาพ/ข่าว :: สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

🏫ด้วยที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ ร่วมกับโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา 🎓จัดกิจกรรมคอนเสิร์ตการกุศลเพื่อระดมทุนสร้างหอพักนักเรียนในพื...
17/09/2025

🏫ด้วยที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ ร่วมกับโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา 🎓จัดกิจกรรมคอนเสิร์ตการกุศลเพื่อระดมทุนสร้างหอพักนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล 😿

🗓️ ในวันพุธที่ 1 ตุลาคม 2568 ณ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ เขื่อนวชิราลงกรณ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

พบกับศิลปิน
🌾น้องต้นข้าว สุปรียา🌾,
เพชรจ้า มาร์ติน, เจ เปรม, วงคารามาย และวง SEEP BRAN

อำเภอทองผาภูมิมีจำหน่าย
🎫 บัตรคอนเสิร์ต VIP ใบละ 1000 บาท
บัตรคอนเสิร์ต ใบละ 300 บาท
ยกเล่ม 10 ใบ 3,000 บาท
บัตรคอนเสิร์ต ใบละ 200 บาท
ยกเล่ม 10 ใบ 2,000 บาท
มีจำนวนจำกัด

📣📣ติดต่อซื้อบัตรได้ที่สำนักงานอำเภอ ชั้น 2
หากสแกนไม่เป็น ถือเงินสดมาจ่ายได้จ้า

📌📌📌ดังนั้น จึงขอความร่วมมือจากท่านร่วมสนับสนุนบัตรคอนเสิร์ตดังกล่าว เพื่อเป็นพลัง “หนึ่งเสียงล้านใจ” ในการสร้างโอกาสทางการศึกษาและคุณภาพชีวิตที่ดีแก่นักเรียน ❤️❤️❤️❤️

"แม่พระ"ของชาวบ้าน..นายกเหล่ากาชาดกาญจนบุรีเดือดร้อนช่วยทันที..ของแทร์..เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 เวลา 13.00 น. ณ อำเภ...
17/09/2025

"แม่พระ"ของชาวบ้าน..นายกเหล่ากาชาดกาญจนบุรีเดือดร้อนช่วยทันที..ของแทร์
..เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 เวลา 13.00 น. ณ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
นางสาวกิตติยา จึงรุ่งเจริญกิจ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย กรรมการ/สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง เข้าท่วมบ้านเรือน จำนวน 17 ครัวเรือน ในเขตพื้นที่ หมู่ 4,5 ตำบลหนองนกแก้ว อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากสถานการณ์ฝนตกหนัก ในช่วงวันที่ 15 กันยายน 2568 เวลา 23.00 น. ส่งผลให้มีปริมาณน้ำสูงขึ้น และเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เส้นทางสัญจร และพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย
จังหวัดกาญจนบุรี โดย นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมาย นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายชำนาญ แตงจุด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ปลัดอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสา และเจ้าหน้าที่ ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมฯ
ในการนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น จำนวน 17 รายๆละ 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 51,000 บาท และ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร่วมสนับสนุนมอบเครื่องอุปโภค - บริโภค (ถุงยังชีพ) จำนวน 17 ถุง

🌊ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี ส่งกระบี่มือหนึ่งลงพื้นที่ทันที สั่งการให้ทุกภาคส่วน เร่งช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ประชาชนในเขตพื้นที่ตำบล...
16/09/2025

🌊ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี ส่งกระบี่มือหนึ่งลงพื้นที่ทันที สั่งการให้ทุกภาคส่วน เร่งช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลหนองนกแก้ว ทั้ง 10 หมู่บ้าน
วันที่ 16 ก.ย.68 ณ ตำบลหนองนกแก้ว นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มอบหมายให้นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนายชำนาญ แตงจุด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่ตำบลหนองนกแก้ว โดยมีนายพงศ์ฐกรณ์ โพธิ์พรหม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองนกแก้ว ผู้นำท้องที่ และเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน แก่ประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลหนองนกแก้ว ทั้ง 10 หมู่บ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ทำการเกษร /บ้านเรือน/ถนนที่ใช้สัญจรชำรุดเสียหาย
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี : ข้อมูล/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี : ข่าว

ที่อยู่

เทศบาล 3
Amphoe Sangkhla Buri
71240

เบอร์โทรศัพท์

+66960141513

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ข่าวเด่นภูมิภาคทั่วไทย กาญจนบุรีผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์