นักเดินทางข้ามกาลเวลา

นักเดินทางข้ามกาลเวลา สื่อสารความงามตามความเป็นจริง

25/04/2025

"การเป็นเพื่อนคุณ"
บางครั้ง... การเดินทางข้ามเวลาไม่ได้น่าตื่นเต้นเท่าการมีใครสักคนคอยฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในอดีต ปัจจุบัน อนาคต
ยามคุณรู้สึกหลงทาง เหนื่อยล้า หรือต้องการคนฟัง
ฉันอยู่ตรงนี้เสมอ ไม่ใช่ในฐานะนักเดินทางข้ามกาลเวลา หรือนักบำบัด แต่ในฐานะ "เพื่อนคนหนึ่ง" ที่เคารพความคิด ความรู้สึก และจิตใจของคุณ
ด้วยรักและเคารพในทุกจิตวิญญาณ
จากใจ... หน่อย นักเดินทางข้ามกาลเวลา
#อยู่ที่คุณเลือกที่จะเชื่อ #จิตอยู่ที่ไหนพลังงานอยู่ที่นั่น #จิตคิดเช่นไรย่อมเป็นเช่นนั้น

22/04/2025

เรื่องเล่า “ฉันในวันนี้” ตอนที่ 27

❣️ ผู้บันทึกเรื่องราวที่เขียนด้วยใจ เดินทางด้วยจิต ❣️

เส้นทางการเติบโตทางจิตวิญญาณ ไปกับเพจนักเดินทางข้ามกาลเวลา

สวัสดีค่ะ ชื่อ “หน่อย” ค่ะ ผู้บันทึกเรื่องราวการเติบโตภายในใจ ผ่านประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ปัจจุบันหน่อยใช้แนวทาง Hypnosis Therapy หรือการบำบัดผ่านภาวะผ่อนคลายล้ำลึก เพื่อเชื่อมต่อกับจิตใต้สำนึก เยียวยารากของความเจ็บปวด และเปิดใจ ยอมรับพลังที่แท้จริงภายในตนเอง

เพจนี้ เป็นดั่งสมุดบันทึกของหัวใจ และจิตวิญญาณ เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ เข้าใจ ยอมรับ และกลับมารักตัวเองอีกครั้ง หากคุณต้องการเดินทางในแนวทางนี้ด้วยกัน หน่อยยินดีเป็นเพื่อนร่วมเดินทางนะคะ และยินดีที่เราได้พบกันค่ะ

ด้วยรักและเคารพในทุกจิตวิญญาณ
บันทึกโดย… นักเดินทางข้ามกาลเวลา

#อยู่ที่คุณเลือกที่จะเชื่อ
#จิตอยู่ที่ไหนพลังงานอยู่ที่นั่น
#จิตคิดเช่นไรย่อมเป็นเช่นนั้น

เรื่องเล่า “ฉันในวันนี้” ตอนที่ 26📍มนต์วิเศษของความชัดเจน📍เคยไหม…. อยากทำอะไรบางอย่าง แต่ไม่กล้าบอกตรงๆแล้วพอได้ทำ ก็ยัง...
13/04/2025

เรื่องเล่า “ฉันในวันนี้” ตอนที่ 26

📍มนต์วิเศษของความชัดเจน📍

เคยไหม…. อยากทำอะไรบางอย่าง แต่ไม่กล้าบอกตรงๆ
แล้วพอได้ทำ ก็ยังรู้สึก ”ไม่อิ่ม“ หรือ ”ไม่พอใจ“
เหมือน ”ความอยาก“ ยังวนเวียนอยู่

ในอดีต ฉันเคยเป็นแบบนี้ จนฉันได้เจอประสบการณ์เล็กๆ ที่ทำให้ฉันเข้าใจใน ”วงจรความอยาก“ นี้มากขึ้น เหตุการณ์มีอยู่ว่า….. ฉันอยากกินหมูกะทะกับเพื่อน แต่แทนที่ฉันจะบอกเพื่อนตรงๆ ว่า ”ฉันอยากกินหมูกะทะ“ ฉันกลับพูดชวนเพื่อนอ้อมๆ ว่า เห็นว่าทำงานเหนื่อยๆ กัน จึงชวนไปผ่อนคลายด้วยการกินหมูกะทะกัน หรือไม่ก็ให้เหตุผลว่า คนนั้นอยากกิน คนนี้อยากกิน หรือ เหมือนมีพลังงานอะไรบางอย่างทำให้อยากกิน ซึ่งทำให้ตัวฉันจะไม่รู้สึกผิดที่จะกิน หรือ ดูเป็นคนไม่ได้เรียกร้องอะไรนะ ฉันไม่ได้เป็นคนอยากนะ ประมาณนั้น >>> พอถึงเวลาได้กินจริงๆ คุณรู้ไหมค่ะ ? กินยังไงก้อไม่อิ่ม ไม่พอ ทั้งที่ท้องอิ่มมาก ความรู้สึกยังอยากกินอีก เหมือนกินยังไม่สะใจ 🙀

จนกระทั่งมาครั้งล่าสุด เมื่อไม่กี่วันนี้ ฉันอยากกินหมูกะทะกับเพื่อนๆ ฉันตัดสินใจบอกเพื่อนตรงๆ อย่างชัดเจนว่า… ฉันนี่แหล่ะ ที่อยากกินหมูกะทะ ไม่ต้องมีความคิด ข้ออ้างใดใด ไม่ต้องโยนความอยากให้ใคร หรือ พลังงานใดใด ฉันยอมรับตรงๆ ว่า 👉🏼 ความอยากนี้ คือ ของฉัน 👈🏼 แล้วเมื่อได้กินจริงๆ ฉันกินตามปกติ แต่ความรู้สึกที่ได้รับ ช่างแตกต่างจากที่ผ่านมา เกิดอาการอิ่มทั้งกาย อิ่มทั้งใจ ไม่มีความรู้สึกขาด ไม่มีความอยากจะกินต่อ จบคือจบ อิ่มคืออิ่ม ไม่รู้สึกว่าจะอยากกินอีก ไม่มีอารมณ์ใดใดเกิดขึ้นตามมาอีก

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ฉันเห็นว่า ❣️การยอมรับความต้องการของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา เป็นการปลดล็อคความอยาก เป็นประตูสู่เสรีภาพที่แท้จริง และทำให้ ”วงจรความอยาก“ จบลงได้ ❣️ ซึ่งเรื่องนี้ สามารถนำไปต่อยอด สะท้อนเรื่องราวอื่นๆ ในชีวิตได้อีกหลายมุมมาก

อยากจะบอกว่า….​ การชัดเจนกับตัวเอง เป็นมนต์วิเศษ ที่ประกาศให้โลกและตัวเราได้ยินว่า
🗣️ นี่คือตัวฉัน
🗣️ นี่คือความรู้สึกของฉัน
🗣️ ฉันยินดีและยอมรับมัน

บางทีความสุข ความสงบ ชีวิตที่เราเฝ้าตามหา หรือสิ่งที่เราใฝ่ฝัน ไม่ได้ซับซ้อนเลย สามารถเริ่มต้นได้เพียงเราซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง แล้ววันนี้ คุณชัดเจนกับตัวเองอย่างไรบ้าง ทักทายแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้นะ

ด้วยรักและเคารพในทุกจิตวิญญาณ
บันทึกโดย… นักเดินทางข้ามกาลเวลา

#อยู่ที่คุณเลือกที่จะเชื่อ
#จิตอยู่ที่ไหนพลังงานอยู่ที่นั่น
#จิตคิดเช่นไรย่อมเป็นเช่นนั้น

💦 สุขสันต์วันสงกรานต์ และสุขหรรษาในวันครอบครัว 🥰💕 สายน้ำแห่งสงกรานต์ นั้นฉ่ำเย็นชำระล้าง ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณให้ก้าวเดิน...
13/04/2025

💦 สุขสันต์วันสงกรานต์
และสุขหรรษาในวันครอบครัว 🥰

💕 สายน้ำแห่งสงกรานต์ นั้นฉ่ำเย็น
ชำระล้าง ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ
ให้ก้าวเดิน ด้วยใจ ที่หาญกล้า
ผ่านพ้นเหตุการณ์ ด้วยสติ และปัญญา

ให้มีรัก อบอุ่น เป็นทุนแท้
มีเมตตา แผ่ไกล ดั่งพฤกษา
พากตัญญู รู้คุณ ทุกเวลา
เติมเต็มชีวา ด้วยศรัทธา และความงดงาม

แล้วบังเกิด รอยยิ้ม บนใบหน้า
เปล่งประกาย แสงฟ้า ส่องใจข้า
นำชีวิต สดชื่น เบิกบานตา
พบโชคดี สุขสราญ ทุกวันไป 💕

ด้วยรักและเคารพในทุกจิตวิญญาณ
บันทึกโดย… นักเดินทางข้ามกาลเวลา

#อยู่ที่คุณเลือกที่จะเชื่อ
#จิตอยู่ที่ไหนพลังงานอยู่ที่นั่น
#จิตคิดเช่นไรย่อมเป็นเช่นนั้น

เรื่องเล่า “ฉันในวันนี้” ตอนที่ 25❣️ก้าวเล็กๆ บนเส้นทางแห่งการพัฒนาตัวเองในทุกวัน❣️วันนี้ ฉันได้กลับมานั่งทบทวนหลายเหตุก...
08/04/2025

เรื่องเล่า “ฉันในวันนี้” ตอนที่ 25

❣️ก้าวเล็กๆ บนเส้นทางแห่งการพัฒนาตัวเองในทุกวัน❣️

วันนี้ ฉันได้กลับมานั่งทบทวนหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมาในหลายๆ วัน
ท่ามกลางความวุ่นวายและความรีบเร่งในชีวิตประจำวันของฉัน
ฉันพบว่า…
ฉันยอมรับและเข้าใจความเป็นตัวตนของตัวเองมากขึ้น
แม้แต่ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ >> ความคิดบางประการ
>> การกระทำเล็กๆ ที่หลายคนอาจมองข้าม
แต่สำหรับฉัน สิ่งเหล่านั้นล้วนมีคุณค่า
และเป็นพลังสำคัญที่นำพาฉันไปสู่การพัฒนาตัวเองในทุกวัน

สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้และฝึกฝน :

▶️ การคิดเชิงบวกต่อตัวเองและผู้อื่นตามความเป็นจริง
เป็นการคิดอย่างเข้าใจ ไม่เพ้อฝัน และไม่ตัดสินอย่างรุนแรง เช่น สิ่งที่ฉันทำผิดพลาดไป ไม่ว่าจะเป็นคำพูด หรือการกระทำที่ไม่สมควร นับว่าเป็นบทเรียนทำให้ฉันรู้ว่า ฉันควรมีสติ และใช้คำพูด หรือการกระทำที่เหมาะสมตามเหตุตามปัจจัยตามความเป็นจริง

▶️ การฝึกฝืนตัวเอง
เป็นการฝึกทำสิ่งที่มีคุณค่าให้กับตัวเอง ทั้งในความคิด คำพูด และการกระทำ แม้ใจจะยังไม่คุ้นเคยก็ตาม เช่น การเขียนบทความหรือเรื่องราว ถ่ายทอดประสบการณ์ ผ่านโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง หรือการดูแลร่างกายตัวเองด้วยการออกกำลังกาย - ยืดเหยียดตามข้อต่างๆ ของร่างกาย

▶️ การมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ
เป็นการรับรู้ในทุกอิริยาบถ ความคิด คำพูด และการกระทำของตนเอง รับรู้โดยไม่ตัดสิน รับรู้อย่างซื่อๆ ตรงๆ เข่น การอยู่กับลมหายใจเข้า ให้รับรู้ว่าลมหายใจเข้า การอยู่กับลมหายใจออก ให้รับรู้ว่าลมหายใจออก หรือ การรับรู้ว่า ณ ปัจจุบันนี้ ฉันคิดอะไร ฉันรู้สึกอย่างไร ฉันกำลังทำอะไรอยู่

▶️ การสังเกตคำพูด ความคิด และการกระทำของตัวเอง
เป็นการหมั่นสังเกตคำพูด ที่ตัวเราพูดออกไป หรือพูดบ่อยๆ เนื่องด้วยคำพูดนั้น สะท้อนสิ่งที่คิด สะท้อนสภาวะภายในใจ สะท้อนความเป็นตัวตนของเราได้อย่างชัดเจน ส่งผลต่อการกระทำ และพฤติกรรมของตัวเรา เช่น คำพูดที่ติดปาก หรือ คำพูดที่พูดบ่อยๆ หรือ คำพูดที่เอ่ยไปอย่างอัตโนมัติ หรือแม้แต่การกระทำ พฤติกรรมที่ทำบ่อยๆ หมั่นสังเกตบ่อยๆ

▶️ การให้เวลาอยู่กับตัวเอง
เป็นการฟังเสียงจากภายใน ทบทวนสิ่งที่ผ่านมา และกอดรับตัวเองด้วยความรัก ความเมตตา เช่น การนั่งสมาธิสัก 10 นาที หรือ การนั่งนิ่งๆ อยู่กับลมหายใจของตัวเอง หรือ การนอนให้ร่างกายได้พักสักครู่ หรือ การกอดและบอกรักตัวเอง

สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เป็นเรื่องเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เป็นประสบการณ์ที่เราได้สัมผัสจริงด้วยตัวเราเอง และประสบการณ์เหล่านี้ จะสอนให้เรารู้จักตัวเองได้มากขึ้น และนั่นคือ น้ำหยดเล็กๆ ที่หล่อเลี้ยงต้นกล้าแห่งการเติบโตในใจฉัน

ก้าวเล็กๆ เหล่านี้ เมื่อถักทอกันในทุกๆ วัน จะกลายเป็นก้าวใหญ่ที่มั่นคงและแข็งแรง
เปรียบประดุจตาน้ำเล็กๆ รวมตัวกันจนกลายเป็นแม่น้ำสายใหญ่
หล่อเลี้ยงชีวิตให้ดำรงอยู่ได้อย่างเปี่ยมความหมาย

ขอบคุณทุกวินาทีที่ยังคงหมุนไป
ขอบคุณตัวฉัน… ที่ยังคงเดินอยู่บนเส้นทางแห่งแสงสว่าง

ด้วยรักและเคารพในทุกจิตวิญญาณ
บันทึกโดย… นักเดินทางข้ามกาลเวลา

#อยู่ที่คุณเลือกที่จะเชื่อ
#จิตอยู่ที่ไหนพลังงานอยู่ที่นั่น
#จิตคิดเช่นไรย่อมเป็นเช่นนั้น

“ฟัง” เสียงกระซิบ จากภายใน แม้กาลเวลาจะผ่านไป “เสียงกระซิบ” นี้  มิเคยจางคลาย👇❣️👇 👇❣️👇 👇❣️👇
08/04/2025

“ฟัง” เสียงกระซิบ จากภายใน
แม้กาลเวลาจะผ่านไป
“เสียงกระซิบ” นี้ มิเคยจางคลาย
👇❣️👇 👇❣️👇 👇❣️👇

#ความสุข...
เสียงกระซิบจากภายในที่ไม่เคยจางหาย

จากคำถามที่ว่า
" #ความสุขของเธอคืออะไร ❔"
. . ยังคงก้องอยู่ในห้วงคำนึง...
มันเรียบง่าย แต่กลับท้าทายให้เรามองลึกลงไปในแก่นแท้ของชีวิต ในตัวตนที่เราอาจหลงลืมไปท่ามกลางการวิ่งไล่ตามเงาของอดีตและภาพฝันแห่งอนาคต

หากลองหยุดฟังเสียงจากผู้คนหลากหลาย ในต่างวาระ ต่างเวลา และต่างสถานที่ เราอาจได้ยินคำตอบที่แตกต่างกันไป แต่ล้วนมีจุดร่วมที่น่าสนใจ

👴 ชายชรานั่งมองตะวันลับขอบฟ้า
"ความสุขของฉันรึ คือการได้เห็นวันนี้จบลงอย่างสงบงาม รู้ว่าได้ใช้ชีวิตมาคุ้มค่า และยังมีลมหายใจให้ขอบคุณท้องฟ้าผืนนี้" . . ความสุขของเขาคือ การยอมรับในปัจจุบันขณะ และความรู้สึกขอบคุณ ต่อสิ่งที่ดำรงอยู่

👶 เด็กน้อยหัวเราะร่ากับไอศกรีม
"ความสุขคือไอติมหวานๆ นี่ไง!" . . ความสุขของเธอคือ การดื่มด่ำกับประสาทสัมผัสอย่างเต็มที่ ไม่มีความกังวลถึงอดีตหรืออนาคต มีเพียงความหวานที่รับรู้ได้ ณ วินาทีนั้น

🎨 ศิลปินจรดปลายพู่กัน
"คือตอนที่ความคิดในหัวมันไหลออกมาเป็นรูปธรรมบนผืนผ้าใบ ตอนที่ลืมโลกภายนอกไปหมดสิ้น เหลือแค่ฉันกับงานตรงหน้า" . . ความสุขของเขาคือ การไหลลื่น (Flow) และเชื่อมต่อกับศักยภาพสร้างสรรค์ภายใน

👥 อาสาสมัครในศูนย์พักพิง
"คือตอนที่เห็นรอยยิ้มของคนที่ได้รับความช่วยเหลือ แม้เพียงเล็กน้อย มันทำให้รู้สึกว่าชีวิตเรามีความหมาย" . . ความสุขของเธอคือ การเชื่อมโยงกับผู้อื่นผ่านการให้ และการค้นพบคุณค่าในตนเอง ผ่านการทำประโยชน์

😉 ผู้ป่วยที่เพิ่งฟื้นตัว
"ความสุขของฉันคือการได้ลืมตาตื่นมาแล้วหายใจได้เองเต็มปอด แค่นี้จริงๆ" . . ความสุขของเขาคือ การตระหนักรู้ถึงของขวัญอันล้ำค่าของชีวิต ที่หลายคนมองข้าม นั่นคือการมีอยู่ของร่างกายและลมหายใจ

👳 โยคีในอาศรมเงียบ
"ความสุขคือความสงบที่พบในใจ เมื่อความคิดหยุดปรุงแต่ง และตระหนักรู้ถึงความจริงแท้ของธรรมชาติ" . . ความสุขของเขาคือ สันติสุขภายในที่เกิดจากการฝึกฝนจิต และการรู้เท่าทันตนเอง

คำตอบนั้นหลากหลาย... แต่ปลายทางล้วนมุ่งสู่ " #ภายใน"

สังเกตหรือไม่ว่า ไม่มีใครบอกว่าความสุขคือวัตถุราคาแพงที่ต้องไขว่คว้า หรือตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องปีนป่าย หรือการยอมรับจากใครต่อใครที่ต้องร้องขอ
แม้สิ่งเหล่านั้นอาจนำมาซึ่งความพึงพอใจชั่วขณะ

แต่ "ความสุข" ที่แท้จริงตามคำตอบเหล่านั้น กลับผลิบานจาก
⏰ การตระหนักรู้ (Awareness) รู้ถึงสิ่งที่ตนมีอยู่ ณ ปัจจุบัน ลมหายใจ ร่างกาย ประสาทสัมผัส ความคิด ความรู้สึก

⌛ การยอมรับ (Acceptance) ยอมรับความเป็นไปของชีวิต ยอมรับตนเองทั้งในด้านที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ

🍀 ความรู้สึกขอบคุณ (Gratitude) ซาบซึ้งในสิ่งดีงาม แม้เพียงเล็กน้อยที่ปรากฏในแต่ละวัน

🍃 การเชื่อมต่อ (Connection) เชื่อมต่อกับตนเอง ผู้อื่น ธรรมชาติ หรือสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวตน

🌱 การดำรงอยู่อย่างมีความหมาย (Meaningful Existence) รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าผ่านการกระทำ หรือการเป็นอยู่
อะไรที่ทำให้เรามองข้ามขุมทรัพย์ภายในนี้?

อาจเป็นเพราะเราให้เสียงของสังคมดังกว่าเสียงของหัวใจ,
การเปรียบเทียบที่ไม่สิ้นสุด,
ความกลัวที่จะไม่เป็นที่ยอมรับ,
หรือความเคยชินกับการมองหาคำตอบจาก "ข้างนอก" จนลืมไปว่า " #กุญแจดอกสำคัญนั้นอยู่ในมือเรามาตลอด"

แล้วเธอล่ะ... ตอบได้หรือยัง?
ลองปิดเปลือกตาลง หายใจลึกๆ สดับฟังเสียงภายใน...ไม่ต้องนึก ไม่ต้องคิด ไม่ต้องค้นหาจากที่ใดไกล...

ความสุขของเธอ อาจกำลังรอคอยอยู่อย่างเงียบงัน ในสัมผัสของลมที่พัดผ่าน ในความอบอุ่นของร่างกาย
ในความมหัศจรรย์ของสองมือที่สร้างสรรค์
ในจังหวะการเต้นของหัวใจที่ไม่เคยหยุดพัก...

ความสุขที่แท้จริง... ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล มันอยู่ใน "การรับรู้" ของเธอ ณ วินาทีนี้เอง

👑👑👑👑👑👑👑👑👑👑👑👑👑

Energy of life
ขอทุกท่านพบแสงสว่างแห่ง “ปัญญาอันบริสุทธิ์ ” และ เข้าใจ "แก่นแท้ " ของทุกสรรพสิ่ง (ธรรมชาติ) ............. A.W.S.U.

May you all find the light of "pure wisdom" and understand the "essence" of all things ( Natural) ............ A.W.S.U.

เรียนรู้ “วงจรแห่งทุกข์”
29/03/2025

เรียนรู้ “วงจรแห่งทุกข์”

#วงจรแห่งทุกข์
(ฉบับดูตัวเอง)

#ตอนที่1

ภายในห้องควบคุมโครงสร้างทางจิตใจที่ทรงพลังและมีอิทธิพลอย่างมหาศาลต่อการรับรู้ ความคิด และพฤติกรรมของเรา

บทความนี้ จะพาท่านผู้อ่านดำดิ่งสู่ความลึกลับซับซ้อนมหัศจรรย์ของจิต

จิต คือ ผู้สร้าง " #ตัวตน"

จากตัวตนเมื่อได้รับการปรุงแต่ง มันค่อยๆก่อ ค่อยๆสร้าง " #ตัวกูของกู" ขึ้นมาสวมทับลงไปทีละชั้น ทีละชั้น หนาแน่นและแข็งแรงมากขึ้น

แล้ว #ตัวกูของกู นี่ล่ะ คือผู้ขับเคลื่อนชีวิตนี้เดินทางต่อไปสู่เส้นทางที่ดำเนินไปด้วย " #อัตตา"

เรื่องราวของแต่ละคนเริ่มต้นจากการมีอยู่ของ " #ตัวตน" เมื่อความรู้สึกของการเป็นปัจเจกบุคคลที่แยกต่างหากจากสิ่งอื่นสิ่งใด

🚼จาก " #ตัวตน" จึงพัฒนาสู่ " #ตัวกูของกู" สิ่งนี่ล่ะ คือจุดเริ่มต้นแห่งการแบ่งแยกทุกสิ่งออกจากกัน

วันที่ "ตัวตน" เริ่มตระหนักรู้ถึงการดำรงอยู่ของตัวเอง มันก็เริ่มสร้างขอบเขตและนิยามให้กับตัวเอง เป็นชาย เป็นหญิง เป็นเด็ก เป็นผู้ใหญ่ ฯลฯ และตัวตนนี่ล่ะคือจุดกำเนิดของ "ตัวกูของกู" ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน และวัตถุต่างๆที่ตัวตนได้เข้าไปยึด ให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของ หวงแหน และยึดมั่นในความคิด ความรู้สึก ประสบการณ์ ความรู้และแม้กระทั่งวัตถุภายนอก ล้วนแล้วก็กลายเป็น "ตัวกูของกู"

🚺 #ตัวกูของกู คือความรู้สึกเป็นเจ้าของและความสำคัญของตัวเองที่พัฒนาเรื่อยๆ มาจากตัวตน สุดท้าย "ตัวกูของกู" ก็จะมีนิยามของตัวเอง เป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลส่วนตัวของแต่ละคน ทุกสิ่งถูกตัดสินและตีความผ่านเลนส์ของ "ตัวกู" ว่า "ชอบ" หรือ "ไม่ชอบ" "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" "ดี" หรือ "ไม่ดี"

เมื่อ "ตัวกูของกู" ก่อตัวขึ้นใหญ่ขึ้นตามการเข้าไปยึด มันจะนำจิตไปสู่วงจรแห่งทุกข์อันไม่สิ้นสุด เพราะความต้องการพื้นฐานของ "ตัวกูของกู" คือการได้รับการตอบสนองและความพึงพอใจ เมื่อมีสิ่งใดมากระทบ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การกระทำ หรือสถานการณ์ต่างๆ "ตัวกู" จะเข้าไปแทรกแซงทันที มันจะตัดสิน เปรียบเทียบ และตีความทุกสิ่งตามกรอบความคิดของตัวเอง หากสิ่งที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับความต้องการของ "ตัวกู" มันก็จะรู้สึกพึงพอใจ แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ความผิดหวัง ความโกรธ ความเศร้า หรือความรู้สึกด้านลบอื่นๆ จะตามมา

♿วงจรดังกล่าวนี้ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยมีอารมณ์ ความรู้สึก และความคิดเป็นเชื้อเพลิง ขับเคลื่อน

"ตัวกูของกู" จึงสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองและโลกภายนอกอยู่เสมอ และเรื่องราวเหล่านี้มักจะเต็มไปด้วยการตัดสิน การกล่าวโทษ และความคาดหวังที่ไม่สมจริง

พลังงานที่ถูกสร้างขึ้นจากความคิดเหล่านี้จะยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับ "ตัวกูของกู" แล้วทำให้มันฝังราก หยั่งลึกและยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้

จิตใต้สำนึก เป็น ห้องควบคุมใหญ่ที่จะเป็นขุมพลังหรือหลุมดำก็ได้

จิตใต้สำนึกเป็นแหล่งบ่มเพาะ 'ตัวกูของกู' ให้พัฒนาไปสู่ "อัตตา" ที่มองไม่เห็น สู่ภาพเงาในใจของแต่ละคนที่ทรงพลัง

🙎เราแต่ละคน บ่มเพาะอะไรกันมาบ้างนะ

👑👑👑👑👑👑👑👑👑👑👑👑👑

Energy of life
ขอทุกท่านพบแสงสว่างแห่ง “ปัญญาอันบริสุทธิ์ ” และ เข้าใจ "แก่นแท้ " ของทุกสรรพสิ่ง (ธรรมชาติ) ............. A.W.S.U.

May you all find the light of "pure wisdom" and understand the "essence" of all things ( Natural) ............ A.W.S.U.

เรื่องเล่า “ฉันในวันนี้” ตอนที่ 24วันนี้ว่าด้วยเรื่อง การออกกำลังกายที่มีผลต่อการพัฒนาจิตวิญญาณ 💪 …..มันสำคัญและมีความสั...
22/03/2025

เรื่องเล่า “ฉันในวันนี้” ตอนที่ 24
วันนี้ว่าด้วยเรื่อง การออกกำลังกายที่มีผลต่อการพัฒนาจิตวิญญาณ 💪
…..มันสำคัญและมีความสัมพันธ์กันอย่างไร มาติดตามกันค่ะ…..
การออกกำลังกาย ไม่ได้เป็นเพียงการเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเท่านั้น ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาจิตใจ และจิตวิญญาณด้วย เนื่องจากร่างกายและจิตใจมีความเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง เมื่อร่างกายแข็งแรง จิตใจก็จะสดชื่นและแจ่มใส ในทางกลับกัน จิตใจที่สงบและสมดุลก็ช่วยเสริมสร้างสุขภาพกายให้ดีขึ้นได้เช่นกัน มาสำรวจความสำคัญของการออกกำลังกายต่อการพัฒนาจิตวิญญาณ รวมถึง ความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจที่ส่งเสริมกัน
❣️ความสำคัญของการออกกำลังกายต่อการพัฒนาจิตวิญญาณ❣️
1. เสริมสร้างสมาธิและสติ ▶️ การออกกำลังกายที่มีการใช้ลมหายใจอย่างมีสติ เช่น โยคะ , ไทชิ หรือชี่กง ,​ การยืดเหยียดร่างกาย แม้กระทั่ง การเดินสมาธิ ช่วยฝึกสติและสมาธิ ทำให้เรารับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของร่างกายและสภาวะจิตใจในปัจจุบัน การมีสมาธิที่แน่วแน่ช่วยเสริมสร้างความสงบภายในจิตใจ และทำให้เรารับมือกับความเครียดในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น
2. ลดความเครียดและความกังวล ▶️ การออกกำลังกายช่วยปรับสมดุลของสารสื่อประสาทที่เรียกว่า เซโรโทนิน (Serotonin) และ โดพามีน (Dopamine) ซึ่งมีส่วนช่วยในการรักษาสภาวะอารมณ์ ลดความเครียด และลดความวิตกกังวล
3. เสริมสร้างพลังใจและความอดทน ▶️ การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ต้องใช้ วินัยและความพยายาม ซึ่งเป็นการฝึกฝนจิตใจให้เข้มแข็ง เมื่อเราสามารถเอาชนะความเหนื่อยล้า และอุปสรรคระหว่างการออกกำลังกายได้ ความเชื่อมั่นในตนเอง และพลังใจจะเพิ่มขึ้น สิ่งนี้จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
4. เชื่อมโยงกับธรรมชาติและตนเอง ▶️ การออกกำลังกายกลางแจ้ง เช่น การวิ่ง , การเดินป่า หรือ การปั่นจักรยาน ช่วยให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติ และตระหนักรู้ถึงความงดงามของสิ่งรอบตัว ผ่านทางสายตา การได้ยิน กลิ่นไอ ผิวสัมผัส นอกจากนี้ การใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูพลังงานทางจิตใจ และส่งเสริมความสงบภายใน
5. ส่งเสริมความรู้สึกขอบคุณและความพอใจในตนเอง ▶️ การดูแลร่างกายผ่านการออกกำลังกาย ทำให้เราตระหนักรู้ถึงคุณค่าของร่างกาย และสุขภาพที่ดี เมื่อเห็นพัฒนาการของตนเอง เราจะเกิดความรู้สึก ขอบคุณต่อร่างกาย และ พอใจในความสามารถของตนเอง ซึ่งเป็นการพัฒนาจิตวิญญาณในแง่ของการยอมรับ และรักตนเอง
❣️ความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจ❣️
1. สุขภาพกายและสุขภาพจิตที่เชื่อมโยงกัน >> ร่างกายที่แข็งแรงย่อมส่งผลต่อสุขภาพจิตที่ดี การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้สมองได้รับออกซิเจนเพียงพอ ซึ่งช่วยเพิ่มความจำและการทำงานของสมอง ในทางกลับกัน จิตใจที่สงบและมีความสุขจะกระตุ้นการหลั่งสารเคมีที่ดีต่อร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ
2. การควบคุมระบบประสาทและฮอร์โมน >> การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยกระตุ้นการทำงานของ ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System) ซึ่งมีบทบาทในการทำให้ร่างกายผ่อนคลายและลดความตึงเครียด นอกจากนี้ ยังช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้อารมณ์มั่นคงและรู้สึกสงบมากขึ้น
3. การพัฒนาความตระหนักรู้ในตนเอง >> การออกกำลังกายที่เน้นการมีสติ ช่วยให้เรารับรู้ถึงสภาวะของร่างกายและจิตใจในปัจจุบัน การสังเกตลมหายใจ การรับรู้ความรู้สึกขณะเคลื่อนไหว และการเข้าใจขีดจำกัดของตนเอง เป็นการฝึกฝน ความตระหนักรู้ในตนเอง (Self-awareness) ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาจิตวิญญาณ
ดังนั้น นอกจากการออกกำลังกายจะเป็นมากกว่าการดูแลสุขภาพทางกายแล้ว ยังเป็นหนทางหนึ่งที่นำไปสู่การพัฒนาจิตใจ และจิตวิญญาณด้วย เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างมีสติ สามารถเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้ เพิ่มพลังงานทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เสริมสร้างสมาธิ รู้จักตัวเอง พบความสุข ความสงบ และตัวตนจากภายใน นำไปสู่การใช้ชีวิตที่สมดุล
>o< ไว้มีโอกาสจะอัดคลิปท่ายืดเหยียดร่างกายแบบง่ายๆ สามารถทำได้เอง (อยู่ที่ไหนก็ทำได้) เพื่อยืดข้อต่อต่างๆ ภายในร่างกาย ทำให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก พลังงานหมุนเวียนทั่วร่างกาย เกิดสุขภาพทางกายที่ดี สุขภาพจิตเบิกบาน >o<
ด้วยรักและเคารพในทุกจิตวิญญาณที่เดินทางไปด้วยกัน
บันทึกโดย… นักเดินทางข้ามกาลเวลา

#อยู่ที่คุณเลือกที่จะเชื่อ
#จิตอยู่ที่ไหนพลังงานอยู่ที่นั่น
#จิตคิดเช่นไรย่อมเป็นเช่นนั้น

ขอบคุณภาพ จาก ai ในแอพ chat GPT

เรื่องเล่า “ฉันในวันนี้” ตอนที่ 23🎶  ทำสบายสบาย  ทำหัวใจเอกเขนกบ้านเรา  เมืองเรา  ป่าเรา  ฟ้าเราทำสบายสบาย  อย่าทำหัวใจเ...
18/03/2025

เรื่องเล่า “ฉันในวันนี้” ตอนที่ 23
🎶 ทำสบายสบาย ทำหัวใจเอกเขนก
บ้านเรา เมืองเรา ป่าเรา ฟ้าเรา
ทำสบายสบาย อย่าทำหัวใจเกกมะเหรก
บ้านใคร เมืองใคร….. ไม่รู้ 🎶
ช่วงท่อนสร้อยของบทเพลง “เอกเขนก” วงเฉลียง (ปี 2557) ได้กลับมาฟังใหม่ ให้อารมณ์ ความรู้สึกที่ลึกซื้ง ความมีนัยยะของบทเพลง ได้สะท้อนกลับมาที่การกระทำของตัวเอง ทั้งในช่วงที่ผ่านมา และที่ทำอยู่ ณ ปัจจุบัน ฉันทำตัวตามสบายสบาย ทำหัวใจเอกเขนก หรือ ทำหัวใจเกกมะเหรก กันแน่นะ 555 และอีกหลากหลายความรู้สึกที่ได้รับจากบทเพลงนี้ ก่อนจะไปต่อ มาเข้าใจในความหมายของ “เอกเขนก” กับ “เกกมะเหรก” กันก่อนนะ
เอกเขนก (การพักผ่อนอย่างมีคุณค่า)
หมายถึง การนั่ง หรือนอนเอนกายอย่างสบายๆ เพื่อผ่อนคลาย เป็นช่วงเวลาที่ให้รางวัลกับตัวเอง มักใช้กับพฤติกรรมที่เป็นท่านั่งหรือนอน ที่พักผ่อน ผ่อนคลาย และให้ความรู้สึกเชิงบวกหรือเป็นกลาง เป้าหมายช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟู และจิตใจได้ปลดปล่อยจากความเครียด
เกกมะเหรก (การปล่อยเวลาให้เสียเปล่า)
หมายถึง การเดินไปมาอย่างไร้จุดหมาย หรือใช้ชีวิตอย่างไร้ทิศทาง ทำตัวเหลวไหล ไม่เป็นระเบียบ มักใช้กับพฤติกรรมที่ไม่เป็นประโยชน์ และให้ความรู้สึกในเชิงลบ หรือตำหนิ ซึ่งบ่อยครั้งที่ อาจคิดว่า กำลังพักผ่อน แต่ในความเป็นจริง กำลังปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ไม่เกิดคุณค่าใดใด เช่น นั่งไถโทรศัพท์โดยไม่มีจุดหมาย , การเดินไปมาเรื่อยเปื่อย โดยไม่รู้จะทำอะไร , ผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่เริ่มลงมือทำสิ่งที่ควรทำ , ปล่อยให้เวลาผ่านไป โดยไม่ได้ทบทวนตัวเอง เป็นต้น
ฉันกลับมาทบทวนพิจารณาความรู้สึกที่เกิดขึ้น เมื่อได้รับฟังบทเพลงนี้
▶️ ฉันได้มองเห็นการใช้ชีวิตในทุกวันนี้ของตัวเองว่า…. ฉันได้ใช้ชีวิตอย่างมีสติแล้วจริงหรือ?? ได้พิจารณาสิ่งที่มากระทบ อย่างจดจ่อ เอาให้ได้ (ดี) หรือเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงกันแน่ และหากจะบอกว่า การใช้ชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาตินั้น สัมพันธ์กับทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นบนโลก ชีวิตคนเราก็เช่นกัน ย่อมสอดคล้องกับสิ่งที่มากระทบ จะบอกว่า ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เข้าใจ จริงหรือ?? ถามใจตัวเอง อยู่ที่เรา “เลือก” ว่าจะให้คำตอบใดกับตัวเอง
▶️ ฉันได้เห็นการกลับมารักตัวเอง โดยมีคำพูดในใจกับตัวเองว่า… จะเกกมะเหรกกับตัวเองอีกนานไหม (น้ำตาคลอเลย) ทำให้ฉันตระหนักในการกระทำแต่ละอย่างของฉันว่า ฉันจะเลือกทำตัวเองเป็นแบบไหน แบบเอกเขนก หรือ แบบเกกมะเหรก เพราะสิ่งที่ฉันเลือก ฉันจะให้พลัง (จิต) ของฉันจะอยู่ตรงนั้น (จิตอยู่ที่ไหน พลังอยู่ที่นั่น) แล้วพลังนั้น จะส่งผลต่อการความคิด การกระทำ คำพูด จนเป็นพฤติกรรม หรือนิสัย
▶️ ฉันมองเห็นความมีคุณค่าของบทเพลง ถ่ายทอดเรื่องราวที่เป็นจริงในสังคม (หากเปรียบสังคมเป็นเสมือนตัวเรา) ความรู้สึกของผู้คน = ความรู้สึกของตัวเรา อย่างตรงไปตรงมา ตามความเป็นจริง (ทำไปซื่อซื่อ จากตอนที่ 22) ซึ่งการสร้างบทเพลงแบบซื่อซื่อ หรือผลงานใดใด ย่อมสร้างความงดงามให้เกิดขึ้นในใจผู้สร้างผลงานนั้น และผู้ที่ได้รับสารนั้น
บทเพลงธรรมดา ธรรมดา ที่ผ่านกาลเวลามานับสิบปี ยังทรงคุณค่า และส่งผลต่อการพัฒนาสภาวะภายในใจผู้คนอีกมากมาย ฟังเมื่อไหร่ รู้สึกมีรอยยิ้มที่มุมปากได้เสมอ และทำให้ฉันมีแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องราว ถ่ายทอดสิ่งดีดี สิ่งงดงาม มายังผู้อ่านทุกท่าน และขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ร่วมเดินทางไปด้วยกัน
ข้อมูลส่งท้าย
หนทางการปรับตัวจาก “เกกมะเหรก” เป็น “เอกเขนก” เพื่อการพัฒนาตัวเอง คือ แทนที่จะปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไร้ความหมาย เราสามารถเปลี่ยนช่วงเวลาเหล่านั้นให้มีคุณค่ามากขึ้น เช่น
• แทนที่จะ เดินเกกมะเหรก ให้ลอง เดินเล่นเพื่อไตร่ตรองและคิดทบทวนเป้าหมายชีวิต
• แทนที่จะ ไถโทรศัพท์ไปเรื่อย ให้ลอง ใช้เวลาดูคอนเทนต์ที่สร้างแรงบันดาลใจ
• แทนที่จะ นั่งเหม่อลอย ให้ลอง ฝึกสมาธิหรือจดบันทึกสิ่งที่เรียนรู้ในแต่ละวัน

การเปลี่ยนจากพฤติกรรมที่ไร้จุดหมายมาเป็นการพักผ่อนอย่างมีคุณค่า จะช่วยให้เราพัฒนาและเติบโตขึ้นในระยะยาว เพราะสมดุลของชีวิต คือ กุญแจสำคัญ
ลองถามตัวเองวันนี้:
• เวลาที่ฉันใช้ไป เป็นการเอกเขนกเพื่อเติมพลัง หรือเป็นการเกกมะเหรกที่ไร้จุดหมาย?
• ฉันสามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้บ้าง เพื่อใช้เวลาของฉันให้คุ้มค่าขึ้น?

เมื่อเรารู้จักตัวเองมากขึ้น เราก็สามารถพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น และใช้ชีวิตอย่างมีความหมายมากกว่าเดิม
ด้วยรักและเคารพในทุกจิตวิญญาณที่เดินทางไปด้วยกัน
บันทึกโดย… นักเดินทางข้ามกาลเวลา

#อยู่ที่คุณเลือกที่จะเชื่อ
#จิตอยู่ที่ไหนพลังงานอยู่ที่นั่น
#จิตคิดเช่นไรย่อมเป็นเช่นนั้น

เมื่อ “นาม” ส่งผลต่อ “รูป”
18/03/2025

เมื่อ “นาม” ส่งผลต่อ “รูป”

#ภายในที่สั่นสะเทือน
#สู่ภายนอกที่แปรเปลี่ยน

#เมื่อนามส่งผลต่อรูป๒

🌠เรากำลังยึดติดกับ "รูป" หรือไม่?

ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลและการทำนาย เรามักถูกดึงดูดด้วยสิ่งที่มองเห็นได้

สิ่งที่เป็น "รูป" ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก คำทำนาย หรือตำราต่างๆ แต่ #คุณเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า

◽เรากำลังยึดติดกับสิ่งที่เป็น "รูป" เหล่านี้มากเกินไปหรือไม่?

◽เราเชื่อคำทำนายอย่างหมดใจ โดยไม่พิจารณาถึงความเป็นไปได้อื่นๆ เลยหรือไม่?

◽เรามองผู้อื่นจากรูปลักษณ์ภายนอก โดยไม่ได้พิจารณาถึง "นาม" ภายในของพวกเขาหรือไม่?

◽เราเชื่อว่าตำราต่างๆ เป็นความจริงแท้ โดยไม่ได้พิสูจน์ ตั้งคำถามหรือวิเคราะห์หรือไม่?

◽เพราะเหตุใดกันนะ เราจึงเชื่อใน "รูป" เหล่านั้นอย่างฝังจิตฝังใจ?
🔸เพราะมันง่ายที่จะเชื่อ หรือเพราะมันสอดคล้องกับความเชื่อที่มีอยู่แล้ว?

🔹เชื่อเพราะมันทำให้รู้สึกปลอดภัย หรือเพราะมันให้คำตอบที่ต้องการหรือน่าพึงพอใจ?

🔸เชื่อเพราะกลัวที่จะเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอน หรือกลัวที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง?

การฝึกตั้งคำถามเหล่านี้กับตัวเองไม่ได้หมายความว่าเราควรปฏิเสธทุกสิ่งที่เป็น "รูป"

แต่ทุกการตั้งคำถามกับตัวเองในความเชื่อ จะเป็นการกระตุ้นให้เรามีสติ พิจารณาตนเองอย่างรอบคอบและมีวิจารณญาณมากขึ้น เกิดการตระหนักรู้ถึงความเชื่อและความยึดติดของเราว่าเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไร และเป็นขั้นแรกในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง

การวิเคราะห์ข้อมูลและคำทำนายต่างๆ อย่างมีเหตุผล จะช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

หากคุณมีรูปถ่ายของตัวเองตั้งแต่เด็ก ลองนำมาจัดเรียงตามช่วงเวลา แล้วพิจารณาดูสิว่า สามารถจดจำเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นช่วงเวลานั้นได้ไหม ว่าช่วงเวลานั้น มีอารมณ์ ความคิด ความรู้สึก และความเข้าใจอะไรบ้างที่ค่อยๆถูกเติมใส่ลงไปในจิต(นาม)ของเราจนถึงทุกวันนี้ ที่กลายเป็นตัวตนนี้

การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นและมุมมองที่แตกต่าง จะช่วยให้เรามองโลกได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น

การยึดติดกับ "รูป" อาจนำเราไปสู่ความเชื่อแบบตายตัว เช่นการเชื่อว่าตนเองถูกกำหนดโดยโชคชะตา หรือถูกจำกัดโดยลักษณะภายนอกที่ตำราได้ทำนายไว้ว่าอย่างนั้น อย่างนี้ หรือไม่ !!

โปรดอย่าเพิ่งเชื่อ แต่ลองพิจารณา

เมื่อเชื่อทางด้านลบ ย่อมเกิดการมองข้ามศักยภาพ ละเลยตนเองในการพัฒนาหรือค้นพบคุณค่าภายในของตน ละเลยในการเปลี่ยนแปลงและสร้างสรรค์ชีวิตของตนเองหรือไม่ ?

หรือเมื่อเลือกเชื่อเฉพาะทางด้านบวก ท่านยึดว่าผลลัพธ์จะต้องเป็นตามที่เชื่อหรือไม่ เมื่อไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คิดไว้ ก็หาช่องทางทุกวิถีทางให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ตามความเชื่อนั้น แม้จะด้วยวิธีใดก็ตาม แล้วเดินเข้าสู่การหลงยึด หลงเชื่อในตัวตนที่สร้างขึ้นว่าต้องเป็น ตัวกูของกู เช่นนั้น เช่นนี้ หรือไม่ ?

จากการยึดติดกับสิ่งที่ไม่แน่นอนว่าจะต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน ทำให้เกิดความผิดหวังและความทุกข์ตามมา และหาเหตุไม่เจอว่าทำไมจึงทุกข์อยู่หรือไม่ ?

ลองถามตัวเองอีกครั้ง ว่าวันนี้ คุณกำลังมองแค่รูปภายนอกของตัวเอง หรือเห็นถึงนามภายในที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลากันล่ะ . . .

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นกันนะ ?

มนุษย์มักถูกดึงดูดด้วยสิ่งที่มองเห็นได้ คือ "รูป" ภายนอกเป็นสิ่งที่สังเกตได้ง่ายและชัดเจน ในขณะที่ "นาม" ภายในเป็นสิ่งที่ซับซ้อนและต้องใช้การสังเกตอย่างละเอียดลึกซึ้ง ค่อยเป็นค่อยไป

เมื่อใดที่มีความกลัวความไม่แน่นอนเกิดขึ้นในใจ การเลือกยึดติดกับ "รูป" ย่อมทำให้รู้สึกว่าเราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่า ซึ่งช่วยลดความกลัวและความวิตกกังวล แต่นั่น ไม่ใช่ความจริงตามธรรมชาติ เราจึงหลงทาง หลงรูป ไม่เข้าถึงนามสักที

เมื่อยึดรูป จึงขาดการฝึกฝนการสังเกต "นาม" ภายใน ซึ่งต้องใช้เวลาและความอดทน ซึ่งหลายคนอาจละเลยมาตลอดชีวิต

การเข้าใจเหตุและผลเหล่านี้ ร่วมกับการพิจารณาความเชื่อของตัวเอง จะช่วยให้เราตระหนักถึงความยึดติดของเรา และเรียนรู้ที่จะปล่อยวางในสิ่งที่ยึดไว้

เมื่อนามภายในสะท้อนสู่รูปภายนอก ร่างกายภายนอกของเราเป็นเหมือนกระจกสะท้อน "นาม" ภายในจิตใจ

เมื่อจิตใจมีความสุข สงบ และสมดุล ร่างกายก็จะแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวา สดใส และแข็งแรง

ในทางตรงกันข้าม เมื่อจิตใจมีความเครียด วิตกกังวล หรืออารมณ์เชิงลบอื่นๆ ร่างกายก็จะแสดงอาการผิดปกติออกมา

การสังเกตการเปลี่ยนแปลงจากนามสู่รูป
😟✏ #ความเครียด (นาม)
เป็นลักษณะของความคิดและความกังวลที่มากเกินไป ย่อมส่งผลทางรูป > กล้ามเนื้อตึงเครียด, ปวดหัว, ระบบย่อยอาหารปั่นป่วน, ผิวหนังหมองคล้ำ, ผมร่วง , ระบบขับถ่ายผิดปกติ

😡✏ #ความโกรธ (นาม)
เป็นลักษณะของความไม่พอใจและขุ่นเคือง ไม่ว่าจะแสดงออกหรือเก็บอาการไว้ก็ตาม รูปก็แสดงออกเสมอ ความโกรธย่อมส่งผลทางรูป > หน้าแดงก่ำ, หูแดง , ความดันโลหิตสูง, หัวใจเต้นเร็ว, กล้ามเนื้อเกร็ง, อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ,ศีรษะร้อน , ตับ ไต ร้อน, ระบบธาตุไฟภายในกายสูงขึ้น

😞✏ #ความเศร้า (นาม)
ลักษณะของความรู้สึกเสียใจและหดหู่ ความเศร้า มักส่งผลทางรูป
> ไหล่ห่อ, สีหน้าเศร้าหมอง, ไม่มีเรี่ยวแรง, นอนไม่หลับ,ไร้ชีวิตชีวา, ขาดความกระตือรือร้น , ทำอะไรไม่ต่อเนื่อง

😄✏ #ความสุข (นาม)
ลักษณะของความรู้สึกพึงพอใจและเบิกบาน ความสุข ส่งผลทางรูป > สีหน้าสดใส, ร่างกายกระฉับกระเฉง, ผิวพรรณเปล่งปลั่ง, รอยยิ้ม, แววตาเป็นประกายสดใส

เหตุผลที่เรามักมองเห็นเพียงลักษณะภายนอกที่เป็นเปลือกนั้น เกิดจากความเคยชินที่เราคุ้นเคยกับการมองเห็นและประเมินผู้อื่นจากรูปลักษณ์ภายนอกมาตั้งแต่เด็ก แล้วตัดสินตีความไปตามความคิดความเข้าใจของเรา ทั้งการเสพสื่อต่างๆ ให้เกิดความเชื่อที่ฝังรากลึกว่าต้องเป็นแบบนั้น แบบนี้ แต่เราไม่เคยถูกสอนให้มองความรู้สึกที่เป็นนามภายในของเราก่อนเลย

ในสังคมที่เร่งรีบ เรามักจะไม่มีเวลาหรือไม่ใส่ใจที่จะสังเกตและทำความเข้าใจตนเองและผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง

และบางครั้ง เราอาจกลัวที่จะเผชิญหน้ากับความรู้สึกและความคิดของตนเองหรือผู้อื่นที่เราไม่ต้องการแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมา จนกลายเป็นการกลบเกลื่อนแสดงทางรูปจนเคยชิน

คนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับการดูเเลเเละการรักษารูปภายนอกมากกว่า เช่นตำราทำนายลักษณะภายนอกมีมาตั้งแต่โบราณ เพื่อใช้ในการทำนายลักษณะนิสัยและโชคชะตาของบุคคล แต่ตำราเหล่านี้มักจะเน้นที่รูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้พิจารณาถึง "นาม" ภายในที่มีข้อจำกัดว่า ตำราเหล่านี้อาจไม่แม่นยำเสมอไป เนื่องจากบุคคลสามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะนิสัยและโชคชะตาของตนเองได้ด้วยการเปลี่ยนแปลง "นาม" ภายใน (หาใช่การเปลี่ยนแปลงรูปสู่นาม)

การเข้าถึงนามภายในจึงเป็นการเปิดมุมมองที่กว้างขึ้น เริ่มจากการฝึกสังเกต "นาม" ภายในของตนเองร่วมกับการสังเกต "รูป" ภายนอกที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน จะช่วยให้เราเข้าใจตนเองและผู้อื่นได้อย่างลึกซึ้งและแม่นยำยิ่งขึ้น

ดังนั้น การฝึกสังเกตตนเองและผู้อื่นทั้งภายนอกและภายใน จะช่วยให้เรามีความเข้าใจตนเองและผู้อื่นได้ดีมากยิ่งขึ้น

*เมื่อช้าง พิจารณาตนเป็นนิจ ย่อมรู้ตัวตนและเท่าทันตนได้ดี ย่อมรู้ว่าต้นไม้มิใช่ที่ยึดเหนี่ยวอีกต่อไป*

ขอบคุณภาพประกอบ สะท้อนนาม

👑👑👑👑👑👑👑👑👑👑👑👑👑

Energy of life
ขอทุกท่านพบแสงสว่างแห่ง “ปัญญาอันบริสุทธิ์ ” และ เข้าใจ "แก่นแท้ " ของทุกสรรพสิ่ง (ธรรมชาติ) ............. A.W.S.U.

May you all find the light of "pure wisdom" and understand the "essence" of all things ( Natural) ............ A.W.S.U.

ติดตามข่าวสาร บทความได้ที่
©page
https://www.facebook.com/share/15dVYyXej3/

Ⓜแอดเพื่อน Facebook
https://www.facebook.com/share/18SfSVfALG/

🍀สมัครเรียนคลาสออนไลน์ได้ที่
https://lin.ee/mOSr8nW

ที่อยู่

297
Amphoe Sawang Daen Din
47110

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ นักเดินทางข้ามกาลเวลาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท