09/10/2024
เมื่อเขาและเธอเคยมีอดีต อันแสนหอมหวานแต่ไม่น่าจดจำร่วมกัน และชะตากรรม ได้นำพาให้เธอได้มาพบกับเขาอีกครั้ง การพบกับในครั้งนี้สถานการณ์นำพาให้พวกเขาทั้งคู่เลือกที่จะทำเป็นไม่รู้จักกัน
แต่ความรู้สึกที่ยังโหยหากัน เมื่อครั้งอดีต จะนำพาให้ พวกเขาจะยอมรับเสียงของหัวใจตัวเองหรือไม่
# # # #
มิคาเอลนั่งเงียบอยู่เนิ่นนานท่ามกลางบรรยากาศของแสงไฟยามค่ำคืนในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครมองลงไปเบื้องล่างคือภาพวิวจากแสงไฟที่ดูเหมือนดาวนับร้อยนับพันดวงบรรยากาศมันช่างเหมือนเพิ่งผ่านมาเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ความประทับใจความรู้สึกดีดีที่เกิดขึ้นที่เขามอบให้กับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเขาคิดว่าแตกต่างออกไปจากผู้คนที่เขาเคยพบเจอ ถึงแม้ในตอนนี้ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จะเป็นคนเดียวกับวันนั้นแต่ในความรู้สึกของเขาในวันนี้กลับต่างออกไป
สุดท้ายแล้วเธอผู้นั้นก็ไม่ต่างจากคนอื่นที่เขาเคยพบเลย
" ไม่เคยมีใครที่แตกต่าง” มิคาเอลได้แต่นึกในใจสายตายังคงเหม่อมองออกไปสู่เบื้องหน้าที่ท้องฟ้ามืดดำนั้น
ชายหนุ่มหวนนึกถึงภาพความทรงจำเก่า ๆ ที่เขาคิดว่าจะไม่มีวันลืมมันภาพความสุขของเขาและเธอที่ได้ใช้เวลาร่วมกันผู้หญิงเรียบง่ายหญิงสาวที่ร่าเริง แจ่มใส ดูจริงใจไร้ซึ่งเหตุผลใดใดแอบแฝงหรือแต่งแต้มบนใบหน้างดงามและไร้เดียงสา
"เขาคงต้องลบภาพนั้นออกไปจากใจ” มิคาเอลย้ำเตือนในความคิดของตัวเขาเอง
อีกฟากหนึ่งของโต๊ะบนเก้าอี้ริมสระน้ำที่นิรินชวนรัชทายาทหนุ่มปลีกตัวออกมาจากงานเลี้ยง
หญิงสาวได้แต่นั่งเงียบสายตาจับจ้องไปที่ชายหนุ่มตรงหน้า
ปฏิกิริยาของมิคาเอลในตอนนี้ช่างแตกต่างออกไปหลังจากที่เธอตัดสินใจพูดเรื่องนั้นกับเขาในที่สุด
ชายหนุ่มที่เธอเคยสัมผัสได้ถึงความสุภาพและอบอุ่นของเขาตลอดสองวันที่ผ่านมาตอนนี้เธอสัมผัสได้เพียงสายตาเย็นชาและสีหน้าที่ว่างเปล่าไร้ความรู้สึก
การรอคอยคำตอบจากเขาเหมือนเนิ่นนานในความรู้สึกของเธอ ความเงียบเข้าครอบงำทั้งสองหนุ่มสาวหลังจากที่ทั้งคู่พูดคุยด้วยเรื่องสัพเพเหระผลัดกันเล่าเรื่อง ที่ตัวเองต่างได้ไปพบเจอมาหลังจากแยกย้ายกันไปเมื่อวานและคิดว่าคงจะไม่มีโอกาสได้พบกันอีกหลังจากทักทายและพูดคุยเสมือนเพื่อนเก่า นิรินก็ตัดสินใจพูดเรื่องที่อยู่ในใจของเธอและจุดประสงค์ของเธอที่มาพบเขาในวันนี้ให้เขาฟังและเหมือนจะเอ่ยขอความช่วยเหลืออยู่ในทีเพื่อให้ชายหนุ่มตรงหน้าเปลี่ยนใจมาร่วมลงทุนกับบริษัทของเธอ
นิรินตัดสินใจพูดเรื่องนั้นออกไปในที่สุดหลังจากปล่อยให้เวลาผ่านไปจนดึกดื่นแต่ปฏิกิริยาของชายหนุ่มตรงหน้าที่เธอเห็นตอนนี้ช่างดูไม่ต่างอะไรจากที่คาดการณ์ไว้แต่แรกเลย
" สายตาของมิคาเอลที่มองเธอมันเปลี่ยนไปแล้ว” นิรินได้แต่ตอกย้ำความคิดนั้นอยู่ในใจและนึกเสียดายมิตรภาพของเขาและเธอไม่น้อยเลย แต่ถึงตอนนี้ถึงแม้ชายหนุ่มจะปฏิเสธความช่วยเหลือนั้น เธอกับเขาก็คงไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมนิรินรู้ดีจากสายตาที่มองมาที่เธอมันแฝงไปด้วยความเย็นชาอย่างแจ่มชัด
" ฉันมาคุยกับคุณอีกครั้งเผื่อคุณจะเปลี่ยนใจค่ะ”
" ที่ผ่านมาเธอจริงใจกับเขา ไม่มีเรื่องอื่นใดแอบแฝง” นิรินได้แต่กลืนคำคำนี้กลับลงไปในลำคอที่แห้งผากเพราะเธอรู้ดีว่าถึงแม้เธอจะอธิบายอย่างไรเขาคงไม่เข้าใจในเรื่องที่เธอต้องการสื่อเป็นแน่รังแต่จะเป็นการแก้ตัวเสียมากกว่า
เธอจึงได้แต่ปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบคลุมพวกเขาทั้งสองอย่างเนิ่นนานและหญิงสาวได้แต่รอฟังคำตอบของรัชทายาทหนุ่มอย่างใจจดจ่อ
" เป็นอันว่าผมตกลง” มิคาเอลเอ่ยออกมาในที่สุดหลังจากนิ่งคิดอยู่นาน
หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อหูในสิ่งที่ได้ยินนิรินหันมาสบตาชายหนุ่มแล้วยิ้มให้เขาอย่างจริงใจและรู้สึกขอบคุณเขาจากใจจริง
แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้กล่าวขอบคุณออกไป ชายหนุ่มก็พูดต่อ
" แต่มีเงื่อนไข” หลังจากจบคำพูดนั้นของชายหนุ่ม
หญิงสาวที่นั่งยิ้มกว้างอยู่ตรงหน้ากลับเปลี่ยนรอยยิ้มเป็นสีหน้าสงสัยแทน
" เงื่อนไขเหรอคะ” นิรินถามย้ำกับเขาหญิงสาวเริ่มไม่แน่ใจในความคิดรัชทายาทหนุ่มตรงหน้าว่าแท้ที่จริงแล้วเขาช่วยเธอเพื่อต้องการสิ่งใดเป็นการตอบแทน
"ใช่ครับ เงื่อนไข” มิคาเอลกล่าวย้ำด้วยสายตาเย็นชากลับมา
" ถ้าผมเปลี่ยนใจมาลงทุนกับบริษัทของคุณ คุณก็ต้องมีสิ่งตอบแทนให้ผม”
" ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ๆ ไม่ใช่เหรอครับ ทุกอย่างมันมีราคาของมัน”
" ถ้าคุณอยากได้รับความช่วยเหลือก็ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยน” มิคาเอลอธิบายยืดยาวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นและห่างเหิน
" ถ้าคุณต้องการสิ่งแลกเปลี่ยนมันก็อยู่ในเงื่อนไขของบริษัทที่เสนอให้คุณอยู่แล้วนี่คะ” นิรินยังคงถามต่อ
" เงื่อนไขของบริษัทที่กำลังจะล้มละลาย ถ้าเป็นคนปกติคงไม่มีใครยอมลงทุนโดยที่ไม่มีทางที่จะได้ผลตอบแทนคืนมาหรอกครับ และคงไม่มีใครที่ยอมลงทุนในบริษัทที่กำลังจะล้มละลายในเวลาอันใกล้นี้แน่นอน ไม่มีนักธุรกิจที่ไหนยอมเสี่ยงแบบนั้นหรอกครับ” ผมตอบแทนคนอื่นได้เลย
นิรินนิ่งอึ้งไป กับความจริงที่ชายหนุ่มตรงหน้าพูดออกมา
“ค่ะ” เธอพูดได้เพียงเท่านั้นในสถานการณ์ที่เธอเสียเปรียบในบทสนทนานี้
“ฉันรู้ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเงื่อนไขของคุณคืออะไรคะ สิ่งที่คุณต้องการเป็นการตอบแทน” หญิงสาวพูดพลางเงยหน้าขึ้นสบตาเขาด้วยสายตาที่ตอนนี้รื้นไปด้วยน้ำตาแห่งความจริงที่ถาโถมเข้ามา และไม่ว่าเงื่อนไขนั้นคืออะไรเธอก็คงไม่มีทางเลือกให้ปฏิเสธมากนัก
“อย่างที่เขาบอก ในสถานการณ์ของบริษัทที่ร่อแร่เต็มทีนี้คงไม่มีนักลงทุนที่ไหนยอมร่วมลงทุนง่าย ๆ แน่” หญิงสาวได้แต่คิดในใจอย่างเจ็บช้ำ
“แค่สามวัน”
หญิงสาวเลิกคิ้วด้วยความสงสัยในสิ่งที่ได้ยิน
ถ้าเขาให้เธอพาเที่ยวแค่สามวันก็เป็นเรื่องที่สบายมากอยู่แล้ว ช่างเป็นเงื่อนไขที่ง่ายดายอะไรแบบนี้หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาทันทีที่ได้ยินเงื่อนไขที่ง่ายดายนั้น
“คุณอยู่กับผมทั้งวันทั้งคืนสามวัน จนกว่าผมจะกลับอิตาลี” มิคาเอลกล่าวต่อให้จบหลังจากเห็นรอยยิ้มที่เปื้อนบนหน้าหญิงสาวนั้นแทนสีหน้ากังวลก่อนหน้านี้ ก่อนที่เธอจะนึกหลงดีใจว่าทุกสิ่งอย่างมันจะได้มาอย่างง่ายดาย
“ต้องให้ผมอธิบายมั๊ยว่าอยู่ด้วยทั้งวันทั้งคืนหมายถึงอะไร” มิคาเอลถามย้ำกลับผู้หญิงตรงหน้าที่ตอนนี้สีหน้าของเธอเปลี่ยนจากรอยยิ้มเป็นสีหน้าตกใจแทน
“คุณนี่มัน” หญิงสาวมองกลับมาด้วยดวงตาโกรธแค้นและเก็บคำที่จะพูดต่อไปไว้ในใจแทน
“ถ้าคุณตกลงผมก็ยินดีให้ในสิ่งที่คุณต้องการ แต่ถ้าคุณปฏิเสธผมก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับ”
“ในสถานการณ์แบบนี้ผมว่าสิ่งตอบแทนมันก็สมน้ำสมเนื้อดีนะ และผมคงเสียดายมากถ้าคุณปฏิเสธ” ชายหนุ่มมองมาที่หญิงสาวด้วยสายตากรุ้มกริ่มและส่งรอยยิ้มเยือกเย็นนั้นมาที่นิริน
“เขากำลังตีค่าของเธอเป็นเงินสินะ” หญิงสาวได้แต่กลืนก้อนในคอลงไป ไม่มีคำตอบใดที่สามารถเอื้อนเอ่ยออกมาได้ในตอนนี้หญิงสาวปาดน้ำตาแห่งความเก็บกดที่ไหลอาบแก้มออกแล้วลุกขึ้นยืนหันหลังกำลังจะเดินจากไป
“ถ้าคุณตกลงก็ติดต่อมาผมให้เวลาคุณคิดคืนนี้อีกคืน” มิคาเอลกล่าวต่ออย่างใจดี ไม่มีเสียงตอบรับหรือปฏิเสธจากหญิงสาวตรงหน้า
นิรินปาดน้ำตาที่ร่วงหล่นลงมาสองข้างแก้มครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ดูเหมือนน้ำตาจะไม่มีวันเหือดแห้งไปได้ง่าย ๆ ในตอนนี้เธอได้แต่เดินจ้ำอ้าวออกมาจากตรงนั้นโดยไว เธอคิดเพียงแต่ว่าอยากหนีไปให้พ้นสายตาของเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผู้ชายคนนั้นที่เธอเคยหลงคิดว่าเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งสายตาอบอุ่นและความอ่อนโยนที่เธอได้เคยสัมผัสจากเขามันเป็นเพียงเรื่องหลอกลวงที่เขาสร้างภาพให้ตัวเองดูดีในสายตาเธอแค่ไม่กี่วันที่ผ่านมา นิรินได้แต่นึกในใจอย่างเจ็บช้ำ
“เป็นยังไงบ้างยัยนิล เขาตกลงไหม” ทันทีที่เดินเข้ามาถึงโถงภายในตัวโรงแรมเมลิสาที่นั่งคอยเพื่อนสาวอย่างห่วงใยอยู่ก็เดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
ในตอนนี้นิรินไม่อยากเล่าเรื่องที่น่าอับอายนี้ให้ใครฟังสักคนแม้แต่เพื่อนสนิทอย่างเมลิสาก็ตาม
ความรู้สึกเธอตอนนี้ที่ไม่เหลือแม้ศักดิ์ศรีเพียงน้อยนิดที่เธอคิดว่าจะรักษาไว้หลังจากที่เรื่องต่าง ๆ ถาโถมเข้ามาทำให้เธอรับรู้ถึงความอับจนหนทางทั้งเรื่องพ่อที่ป่วยและเรื่องบริษัทที่กำลังจะสูญเสียมันไป ซึ่งมันหนักหนาสาหัสกับเธอมากมายในตอนนี้
แต่ความอับจนหนทางของเธอ กลับเป็นโอกาสให้คนอื่นมาเหยียบย่ำศักดิ์เพียงแม้สิ่งที่หญิงสาวหวงแหนมันสุดชีวิต
นิรินรีบหันไปปาดน้ำตาที่ไหลลงสองข้างแก้มไม่ให้เพื่อนสาวเห็นแล้วหันหน้ากลับมาตอบคำถามเพื่อนสาว
“เขาบอกขอคิดดูก่อน พรุ่งนี้จะให้คำตอบ” นิรินเล่าให้เพื่อนฟังแค่นั้นหลังจากที่ทั้งคู่เดินออกมาจากโรงแรม
“เค้าบอกแค่นั้นเองเหรอ ทำไมชั้นรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นกันนะ” เมลิสาพูดต่อในขณะที่สองมือจับพวงมาลัยและขับรถกลับบ้านอย่างใจลอย
เมลิสานึกเป็นห่วงเพื่อนรักอยู่ในใจตลอดทางกลับบ้านที่ทั้งคู่ต่างเงียบกริบ นิรินที่ไม่ยอมเล่าอะไรให้เธอฟังมากไปกว่านั้นยิ่งทำให้เพื่อนสาวสงสัยในพฤติกรรมและท่าทางที่แปลกออกไปของเธอ แต่ก็ได้แต่เก็บความสงสัยนั้นไว้ในใจ
📌
จำใจรักจ้าวทะเลทราย:: e-book นิยาย โดย School Nurse