วิทยาลัยครีเอเตอร์

10/10/2025

ทุกการเปลี่ยนแปลงเราต้องใส่ใจในรายละเอียดควรศึกษาและอ่านคำแนะนำที่เมต้าแจ้งมาทุกครั้ง

09/10/2025

💡 เหตุผลที่ Facebook อยากให้มี “บัญชีเดียวต่อคน”
🧍‍♂️1. เพื่อยืนยันว่าเป็น “คนจริง” ไม่ใช่บัญชีปลอม

Facebook ต้องการให้แต่ละบัญชีเป็นของ “คนจริง ๆ คนหนึ่ง”
เพราะถ้าคนหนึ่งมีหลายบัญชี ระบบจะสับสนว่า

คนนี้คือใครกันแน่?
บัญชีไหนตัวจริง บัญชีไหนสำรอง?

ยิ่งมีหลายบัญชี ระบบก็ยิ่งกลัวว่าจะเป็นสแปมหรือหลอกลวงครับ

🛡️2. เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง

เวลามีหลายบัญชี เราอาจลืมรหัส ลืมอีเมล หรือไม่ได้เปิดใช้บ่อย
ถ้ามีใครบังเอิญแฮ็กบัญชีเก่าของเราไปใช้
ระบบจะไม่รู้ว่าคนไหนคือเจ้าของจริง แล้วเราอาจโดนแบนไปทั้งหมดได้เลย

💬3. เพื่อให้การสื่อสารไม่สับสน

ถ้ามีหลายบัญชี เพื่อนหรือผู้ติดตามอาจงงว่า

จะคุยกับบัญชีไหนดี?
อันไหนอัปเดตล่าสุด?

สุดท้ายจะเสียทั้งยอดผู้ติดตาม และความน่าเชื่อถือครับ

💰4. เรื่องรายได้และการสร้างเพจ

Facebook จ่ายเงินให้เฉพาะบัญชีที่ผ่านการตรวจสอบตัวตนจริง
ถ้ามีหลายบัญชี ระบบจะถือว่า “มีความเสี่ยงด้านธุรกรรม”
บางกรณีอาจโดนระงับการจ่ายเงินหรือปิดสิทธิ์การสร้างรายได้เลยครับ

📱5. มีบัญชีเดียวก็ทำได้ทุกอย่าง

ในบัญชีเดียวสามารถ

มีหลายเพจได้

มีหลายบทบาท (เช่น ผู้ดูแล / ผู้จัดการเพจ)

สร้างรายได้จากเพจหรือ Reels ได้เลย
ไม่ต้องสมัครหลายบัญชีให้ยุ่งยาก

🎯 สรุปสั้น ๆ

“เฟซบุ๊กอยากให้เราเป็นคนจริง ทำจริง ปลอดภัยจริง”
บัญชีเดียวก็พอแล้วครับ
จะทำงาน จะขายของ จะสร้างรายได้ — ทำได้หมด

09/10/2025

เนื้อหามีความเป็นต้นฉบับน้อย (Low Originality of Content)” แล้วไม่รู้ว่าจะแก้ยังไงให้กลับมามีรายได้อีก — ผมอธิบายให้เข้าใจง่ายเป็นขั้นตอนเลยครับ 👇

🧩 สาเหตุหลักที่ระบบมองว่า “ต้นฉบับน้อย”

ก่อนแก้ ต้องรู้ก่อนว่าทำไมถึงโดน

ใช้วิดีโอหรือเสียงที่ ไม่ได้สร้างเอง

ไม่มีการพูด / ไม่มีเสียงของเจ้าของเพจ

เนื้อหาเหมือนเพจอื่น ๆ เกินไป

มีแต่ภาพนิ่งหรือสไลด์โชว์พร้อมเพลง

เอาคลิปจาก TikTok / YouTube / Page อื่นมาลงโดยไม่ได้ใส่ “ความคิดเห็นหรือเนื้อหาใหม่”

🔧 วิธีแก้ไขให้ระบบมองว่า “ต้นฉบับสูง” อีกครั้ง
1. สร้างคลิปที่มีเสียงของตัวเอง

🎤 พูดเอง บรรยายเอง พากย์เอง หรือมีเสียงของคุณในคลิป
Facebook ให้ค่าน้ำหนักสูงมากกับเสียงพูดของเจ้าของเพจ เพราะมันยืนยันว่า “คนนี้สร้างเองจริง”

2. เพิ่ม “ความคิดเห็นส่วนตัว” ลงในคลิป

✍️ แม้จะใช้คลิปอ้างอิง เช่น ข่าว / สารคดี / คลิปไวรัล
ให้คุณ “พูดแสดงความคิดเห็น” หรือ “เล่าเรื่องจากมุมมองของคุณ”
ระบบจะถือว่ามีการสร้างเนื้อหาใหม่ขึ้น

3. ใส่หน้าคนในคลิป (Face Presence)

👤 ระบบจะจับภาพใบหน้า (Face Detection) ได้ว่าเป็นของจริง
ถ้าเห็นคนพูด / คนแสดงจริง ๆ จะถือว่ามี “ความเป็นต้นฉบับสูง”

4. ตัดต่อให้เห็นความตั้งใจ

✂️ ใส่เสียงเอฟเฟกต์ / ข้อความ / การเรียบเรียงใหม่
อย่าแค่คัดบางช่วงมาต่อกัน ให้ดูเหมือน “สร้างใหม่”
ระบบจะเห็น Metadata ต่าง ๆ และให้ผ่านง่ายขึ้น

5. ลบคลิปที่มีปัญหาออก หรือซ่อนจากเพจ

🗑 ถ้าระบบแจ้งว่า “มีเนื้อหาต้นฉบับน้อยหลายคลิป”
ให้ ลบออกบางส่วน เพื่อปรับคะแนนคุณภาพของเพจกลับมาดีขึ้น

6. สร้างคลิปใหม่อย่างน้อย 3–5 คลิปที่เป็นของตัวเองล้วน

📈 เพื่อให้ระบบเรียนรู้ใหม่ว่า “เพจนี้เปลี่ยนแนวแล้ว”
หลังจากนั้น 2–4 สัปดาห์ ระบบจะเริ่มประเมินคุณภาพเพจใหม่
(บางเพจรายได้จะกลับมาหลังจากนั้น)

7. หลีกเลี่ยงคลิป AI ที่ไม่มีเสียงหรือหน้าคน

🤖 ถ้าคลิปมาจาก AI แต่ไม่มีการพูด ไม่มีความคิดเห็น
ให้เพิ่มเสียงบรรยายของคุณเอง หรือขึ้นคำบรรยายจากมุมมองของคุณ
เพื่อให้ระบบถือว่า “คุณเป็นเจ้าของคอนเทนต์”

8. ตรวจสอบสถานะใน Creator Studio หรือ Professional Dashboard

⚙️ ไปที่ “การสร้างรายได้จากเนื้อหา (Monetization Eligibility)”
ดูว่าเพจของคุณติดสถานะอะไร
ถ้า “จำกัดบางส่วน” ให้เริ่มปรับเนื้อหาทันทีตามข้อข้างบน

💬 ตัวอย่างสั้น ๆ แบบเข้าใจง่าย

“อย่าโพสต์เหมือนคนอื่น — ให้ใส่เสียง ใส่หน้า และใส่ความคิดของเราเข้าไป”
แค่นี้ระบบก็จะรู้แล้วว่าเพจนี้ ‘สร้างเองจริง’

06/10/2025

สาเหตุที่บางคลิปของคุณมียอดวิวสูงหลักแสนแต่ไม่ได้รายได้จาก Facebook เกิดได้จากหลายปัจจัยครับ ผมสรุปให้เข้าใจง่าย และแนบแนวทางแก้ไขไว้ให้พร้อมเลยครับ 👇

🔍 สาเหตุหลักที่ “มียอดวิวแต่ไม่มีรายได้”

คลิปนั้นไม่ได้ถูกระบบนับเป็น “คลิปสร้างรายได้ (Monetizable View)”
แม้ยอดวิวจะเยอะ แต่ระบบจะนับเฉพาะการดูที่เป็นไปตามเงื่อนไข เช่น

ผู้ชมไม่ได้ใช้ Ad Blocker หรืออยู่ในประเทศที่มีโฆษณา Facebook รองรับ

คลิปไม่ผิดนโยบายหรือไม่มีเนื้อหาที่ถูกจำกัดการแสดงโฆษณา

ระบบตรวจว่า “ไม่มีโฆษณาแสดง” ในเวลานั้น
รายได้มาจากการที่มีโฆษณาถูกแสดง ไม่ใช่แค่วิวเยอะ
ถ้าช่วงเวลานั้นไม่มีแคมเปญโฆษณาที่เหมาะสม คลิปก็จะได้ $0 แม้มีวิวเยอะ

คลิปสั้น (Reels) บางคลิปอยู่ในหมวด “Engagement Reels” ไม่ใช่ “Ads Reels”
หมายความว่าระบบเลือกใช้เพื่อเพิ่มการมองเห็น ไม่ใช่เพื่อโฆษณา → ไม่มีการแชร์รายได้

คลิปอาจไม่ผ่านเกณฑ์นโยบายการสร้างรายได้ของ Meta
เช่น

เนื้อหาซ้ำ (คลิปเคยโพสต์มาก่อน / ดึงมาจาก TikTok หรือ YouTube โดยไม่มีการตัดต่อเพิ่ม)

มีเสียงเพลงที่ติดลิขสิทธิ์

มีเนื้อหาหยาบคาย หรือ เนื้อหาเกี่ยวกับเด็กโดยไม่มีบริบทชัดเจน

ระบบกำลังอยู่ในช่วงคำนวณหรือดีเลย์
บางครั้งยอดรายได้จะขึ้นช้าหลายชั่วโมง หรือ 1–2 วันหลังจากคลิปเผยแพร่

🧭 แนวทางตรวจสอบและแก้ไข

ตรวจดู “สถานะการสร้างรายได้ของคลิป”

เปิดหน้า Professional Dashboard > Reels Play หรือ Content Monetization > ดูแท็บ “Monetization Status”

หากขึ้น “Not Monetized” ให้กดดูสาเหตุ (เช่น ใช้เพลงลิขสิทธิ์ หรือ คลิปซ้ำ)

หลีกเลี่ยงการใช้คลิปหรือเพลงที่ซ้ำกับผู้อื่น

ตัดต่อใหม่ ใส่เสียงพูดของตนเอง หรือ ใส่โลโก้ช่องให้ชัดเจน

หลีกเลี่ยงการใช้ เพลงที่มีชื่อศิลปิน/ค่าย ใน Facebook Music Library

โพสต์ในช่วงเวลาที่มีการแสดงโฆษณามากที่สุด
โดยทั่วไปคือ 18.00–22.00 น. และวันศุกร์–อาทิตย์

เน้นการสร้างเนื้อหา Original และ Engagement สูง

ให้ผู้ชมคอมเมนต์ แชร์ หรือดูซ้ำ

ใช้เรื่องราวที่คนดูดูจบ (Watch Time เกิน 70%)

ตรวจสอบ Payout และ Monetization Status ในบัญชีหลัก

เข้าหน้า Meta Business > Monetization > Payouts

ถ้ามีแจ้งว่า “Restricted from Monetizing” ให้กด Appeal หรือ ยืนยันเอกสารใหม่

💡 คำแนะนำเพิ่มเติม

บางคลิปที่รายได้ $0.00 อาจจะมีการนับย้อนหลังภายใน 24–72 ชั่วโมง

หาก Reels มียอดวิวสูงแต่รายได้ไม่ขึ้นเลยในหลายวัน แนะนำให้ตรวจสอบว่าเพจนั้นยังคงมี “สิทธิ์สร้างรายได้จาก Ads on Reels” อยู่หรือไม่

หากใช้เพลงในระบบของ Facebook ให้เลือกเฉพาะที่มีป้าย “สามารถใช้เพื่อสร้างรายได้” #ทำไมเหรียญไม่วิ่ง #วิทยาลัยครีเอเตอร์ #พญาวานร

05/10/2025

หลายคนสงสัยเกี่ยวกับ “การใช้รูปซ้ำ” บน Facebook โดยเฉพาะกับเพจที่เปิดสร้างรายได้จากเนื้อหา (Monetization)
ผมอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ แบบนี้ครับ 👇

💡 ความจริงคือ:

Facebook ไม่ได้ห้ามใช้รูปที่เคยโพสต์ไปแล้วซ้ำอีกครั้ง
แต่ อัลกอริทึมอาจ “ลดการมองเห็น” ในบางกรณี ถ้าระบบมองว่าโพสต์นั้น ไม่ใช่เนื้อหาใหม่ หรือมีพฤติกรรมซ้ำ ๆ เหมือนบอท

⚠️ กรณีที่ “อาจถูกลดการมองเห็น” ถ้าใช้รูปซ้ำ:

โพสต์ซ้ำทั้งภาพและข้อความเหมือนเดิมเป๊ะ
➤ ระบบจะมองว่าเป็น “Duplicate Content” หรือเนื้อหาซ้ำ
➤ โดยเฉพาะถ้าโพสต์บ่อย ๆ ภายในช่วงเวลาใกล้กัน

โพสต์ซ้ำในหลายเพจ / หลายกลุ่มพร้อมกัน
➤ ระบบอาจมองว่าเป็น “สแปม”
➤ ส่งผลให้ Reach ลดลงในทุกเพจ

โพสต์ซ้ำจากแหล่งอื่นโดยไม่ปรับปรุง
➤ เช่น รูปไวรัลที่มีลายน้ำคนอื่น หรือภาพที่แชร์มาจากเพจอื่น

✅ วิธีใช้ “รูปเดิม” แบบปลอดภัยไม่โดนลด Reach:

✏️ ปรับข้อความแคปชันใหม่ทุกครั้ง (ให้มีมุมมองหรือเนื้อหาเพิ่มขึ้น)

🪄 ครอบภาพ / ปรับขนาด / ตัดบางส่วน / เพิ่มแสงนิดหน่อย
→ ระบบจะมองว่าเป็นภาพใหม่

⏱️ เว้นระยะเวลาโพสต์ซ้ำ อย่างน้อย 2–4 สัปดาห์

📸 ใส่ภาพเพิ่มเติม เช่นรวมรูปใหม่กับรูปเก่าในอัลบั้ม

🎯 สรุปสั้น ๆ:

“ลงรูปเดิมได้ แต่ควรใส่บริบทใหม่ และไม่โพสต์ถี่เกินไป
เพราะระบบเน้นความสดใหม่และความหลากหลายของเนื้อหา” #วิทยาลัยครีเอเตอร์ #พญาวานร #การโพสต์ภาพ

04/10/2025

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณสมาชิก จากมหาสารคาม
ที่เดินทางมาพบ และขอคำปรึกษา ถึงที่บ้านเลย 🥰🥰

04/10/2025

เจอกันค่ะ

04/10/2025

โพสต์แบบไหนใน Facebook ที่ระบบมองว่าเป็นสแปม

🌐 1. โพสต์ซ้ำๆ เหมือนกันเป๊ะหลายครั้ง

ถ้าโพสต์ข้อความเดิมซ้ำๆ บ่อยๆ ไม่ว่าจะในเพจ กลุ่ม หรือคอมเมนต์ ระบบจะมองว่าเป็น “สแปมอัตโนมัติ” เพราะดูเหมือนพยายามโปรโมทหรือปั่นข้อความให้คนเห็นเยอะๆ

✅ เคล็ดลับ: ถ้าต้องโพสต์เรื่องเดิม เปลี่ยนคำพูดหรือรูปภาพให้แตกต่างกันหน่อย

📎 2. ใส่ลิงก์จำนวนมาก หรือส่งลิงก์ไปเว็บนอกซ้ำๆ

Facebook ไม่ชอบโพสต์ที่มีแต่ลิงก์ไปเว็บภายนอก โดยเฉพาะเว็บขายของ เว็บดาวน์โหลด หรือเว็บที่ไม่ปลอดภัย

✅ เคล็ดลับ: ถ้าต้องใส่ลิงก์ ให้เขียนคำอธิบายเพิ่มเติมและเพิ่มรูปภาพประกอบ เพื่อให้ดูเป็นโพสต์ที่มีคุณค่าจริงๆ

💬 3. ใช้ข้อความชวนเชื่อเกินจริง

อย่างเช่น

“กดลิงก์นี้แล้วได้เงินแน่!”
“แชร์โพสต์นี้แล้วจะโชคดี!”
“คลิกด่วน! ก่อนหมดเวลา!”

ข้อความลักษณะนี้เข้าข่าย “สแปมหลอกล่อ” (Clickbait) ระบบอาจจำกัดการมองเห็นหรือเตือนเนื้อหาทันที

✅ เคล็ดลับ: เขียนให้เป็นธรรมชาติ บอกประโยชน์จริงๆ ที่ผู้คนจะได้รับ

🧑‍🤝‍🧑 4. แท็กคนอื่นหรือเชิญคนเข้ากลุ่มเยอะเกินไป

การแท็กคนจำนวนมากในโพสต์เดียว หรือชวนเข้ากลุ่มซ้ำๆ จะถูกมองว่าเป็น “สแปมเพื่อโปรโมท”

✅ เคล็ดลับ: แท็กเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องจริงๆ หรือแท็กแค่ไม่กี่คนที่คุณรู้จัก

🔄 5. ใช้บอทหรือระบบอัตโนมัติในการโพสต์

เช่น ตั้งโปรแกรมโพสต์อัตโนมัติทุกไม่กี่นาที หรือใช้หลายบัญชีโพสต์ข้อความเดียวกัน

✅ เคล็ดลับ: ใช้เครื่องมือช่วยโพสต์ได้ แต่เว้นระยะเวลาให้เหมาะสม และโพสต์เนื้อหาที่แตกต่างกัน

📸 6. โพสต์ที่ไม่มีเนื้อหา มีแต่รูปหรืออีโมจิซ้ำๆ

ถ้ามีแต่ภาพเดิม อีโมจิ หรือคำว่า “...” แบบไม่มีข้อความ ระบบจะคิดว่าเป็น “โพสต์หลอกให้คลิก”

✅ เคล็ดลับ: เขียนคำอธิบายเล็กน้อยให้ระบบรู้ว่าโพสต์นี้มีเนื้อหาจริง

⚠️ สรุปง่ายๆ

💡 อย่าโพสต์ซ้ำ อย่าใส่ลิงก์เยอะ อย่าใช้คำหลอกล่อ และอย่าทำให้ระบบเข้าใจว่าคุณเป็นบอท
ถ้าทำให้โพสต์ของคุณดู “เป็นธรรมชาติ มีคุณค่า และตั้งใจแชร์จริงๆ” ระบบจะให้คะแนนดีขึ้น และไม่มองว่าเป็นสแปมเลยครับ ❤️

03/10/2025

คลิปก็วิ่งดียอดวิวก็เยอะทำไมรายได้ไม่ขึ้น?

✨ ทำความเข้าใจก่อนสร้างรายได้กับ Facebook ✨

💰 ไม่มีการการันตีรายได้แน่นอน
ได้มากได้น้อยขึ้นอยู่กับคอนเทนต์และผู้ชม

⚙️ เครื่องมืออาจมีปัญหาบ้าง
บางครั้งฟีเจอร์อาจขัดข้องหรือใช้งานไม่ได้ชั่วคราว

🛡️ Facebook ไม่รับผิดชอบความผิดพลาด
หากระบบมีข้อบกพร่องหรือข้อมูลผิดพลาด

✅ สรุปง่าย ๆ: สร้างรายได้ได้จริง แต่ต้องเข้าใจว่าไม่มีอะไรการันตีแน่นอน และควรเตรียมรับมือกับความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของระบบครับ

02/10/2025

ทำเพจด้วยกันกับเพื่อนๆสามารถให้ทุกคนเป็นผู้ดูแลเรื่องการรับชำระเงินได้ไหม?

#คำตอบ

นโยบายการชำระเงิน (Meta Pay / Facebook Monetization Policies) โดยตรง

✅ หลักการของ Facebook เกี่ยวกับผู้ดูแลบัญชีธุรกรรม

บัญชีธุรกรรม (Payout Account) จะต้องมีเจ้าของที่ชัดเจน คือบุคคลจริงที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้ว (บัตรประชาชน + บัญชีธนาคารตรงกัน)

Facebook อนุญาตให้มี Admin หรือผู้ดูแลเพจหลายคน ได้ แต่ บัญชีธุรกรรมสำหรับรับเงินได้เพียงชุดเดียวต่อเพจ/บัญชีธุรกรรม

คือมี เจ้าของหลักคนเดียว ที่ต้องรับผิดชอบด้านเอกสารการเงิน

ถ้ามีหลายคนใส่ข้อมูลซ้ำซ้อน หรือลองเปลี่ยนเจ้าของบ่อย ๆ จะเสี่ยงโดนระงับว่า "Unusual Activity"

หากเพื่อนหลายคนร่วมทำเพจ ควรตกลงกันว่า ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบบัญชีธุรกรรมหลัก แล้วอีกคนสามารถเป็น Admin/Editor ของเพจ เพื่อโพสต์ จัดการเนื้อหา และดูสถิติ แต่ ห้ามใส่บัญชีธนาคารซ้ำหลายคน

⚠️ สิ่งที่ไม่ควรทำ

ไม่ควรใช้ บัญชีธนาคารคนละชื่อกับเจ้าของบัญชีธุรกรรม

ไม่ควรมี หลายคนใส่ข้อมูลการชำระเงินในเพจเดียวกัน

ไม่ควรให้เพื่อนเข้าถึง ข้อมูล Meta Pay หรือเอกสารยืนยันตัวตน เพราะเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยและผิดนโยบาย

📌 คำแนะนำเชิงปฏิบัติ

ให้ 1 คนเป็นเจ้าของบัญชีธุรกรรม (Owner of Payout Account)

อีกคนสามารถเป็น Admin ของเพจ เพื่อช่วยบริหาร แต่ไม่ต้องยุ่งกับส่วนการเงิน

หากต้องแบ่งรายได้ ให้ตกลงกันเองนอกระบบ Facebook เช่น โอนเงินจากบัญชีหลักหลังจาก Facebook จ่ายมาแล้ว

👉 สรุปสั้น ๆ:
บัญชีธุรกรรมการชำระเงินของ Facebook ควรมีผู้รับผิดชอบหลักเพียง 1 คนเท่านั้น เพื่อไม่ให้ผิดนโยบาย ส่วนเพื่อนสามารถร่วมบริหารเพจได้โดยไม่ต้องใส่บัญชีการเงินซ้ำ #การตั้งค่ารับชำระเงิน #วิทยาลัยครีเอเตอร์

02/10/2025

ตั้งค่าการสร้างรายได้จากเนื้อหาเสร็จถูกแจ้งให้ยืนยันเอกสาร เกิดจากสาเหตุอะไร?
มักเกิดจากชุดสาเหตุด้านล่าง (Meta ใช้ระบบตรวจสอบอัตโนมัติ + ข้อกำหนด KYC/AML เหมือนธนาคาร)

ทำไมจู่ ๆ ถึงถูกขอ “ยืนยันเอกสารการรับเงิน”

1. ขั้นตอน KYC/AML มาตรฐาน
Meta ระบุว่าบางบัญชี “จำเป็นต้องยืนยันตัวตน/เอกสารการเงิน” เพื่อจ่ายเงินได้จริง (เช่น บัตรประชาชน/พาสปอร์ต, สเตทเมนต์ธนาคาร, เอกสารธุรกิจ หรือเซลฟี่ยืนยัน) ซึ่งเป็นข้อกำหนดด้านการชำระเงินสากล ไม่ได้แปลว่าผิดกฎเสมอไปครับ.

2. รายละเอียดบัญชี–ธนาคาร–ภาษี “ไม่ตรงกัน”
หากชื่อ–นามสกุลในโปรไฟล์/เพจ, ชื่อในแบบฟอร์มภาษี/Tax ID และชื่อเจ้าของบัญชีธนาคารไม่ “ตรงกัน 100%” ระบบจะดีดให้ยืนยันใหม่ (รวมถึงสะกดผิด เว้นวรรค จุด วรรคตอน ภาษาไทย/อังกฤษ). หน้าช่วยเหลือของ Meta ก็ระบุชัดว่าต้องใช้ “ชื่อถูกต้องตามกฎหมาย/Tax ID” สำหรับบัญชีรับเงิน.

3. มีการ “เปลี่ยนแปลงสำคัญ” กับบัญชีจ่ายเงิน
เช่น เปลี่ยนประเทศ, เปลี่ยนผู้รับผลประโยชน์ (beneficiary), เปลี่ยนประเภทจากบุคคลเป็นนิติบุคคล, เปลี่ยนบัญชีธนาคาร—มักทำให้ระบบทริกเกอร์ขอยืนยันซ้ำตามขั้นตอน “Set up & manage payouts” ของ Meta.

4. สัญญาณ “กิจกรรมผิดปกติ (unusual activity)”
ถ้ามีสัญญาณเสี่ยง เช่น ล็อกอินจากหลายประเทศ/อุปกรณ์, การแก้ไขข้อมูลการจ่ายเงินหลายครั้ง, รายได้กระโดดผิดปกติ, หรือสัญญาณนโยบาย—ระบบอาจ “จำกัดการสร้างรายได้ชั่วคราว” จนกว่าจะยืนยันเอกสาร/แก้ปัญหา. Meta แนะนำให้เข้าไปที่หน้า Support/Restricted Account เพื่อตรวจเหตุและแนบหลักฐาน.

> สรุปสั้น ๆ: ไม่ได้แปลว่าบัญชีผิดกฎ แต่เป็น “ระบบคัดกรองความเสี่ยง” + “ชื่อ/ข้อมูลไม่ match” + “มีการเปลี่ยนแปลงหรือสัญญาณผิดปกติ” จึงถูกขอเอกสารยืนยันเพิ่มครับ

01/10/2025

กำลังเป็นกระแสในการทำคลิปขณะนี้แต่มีใครรู้ไหมว่า นี้คืออะไร
นี่คือ ขบวนโออิรันโดจู (Oiran Dōchū / 花魁道中) ครับ

โออิรัน (花魁) เป็นโสเภณีชั้นสูงหรือหญิงงามชั้นสูงในสมัยเอโดะของญี่ปุ่น ซึ่งต่างจากเกอิชา โดยโออิรันจะมีทั้งหน้าที่ให้ความบันเทิง พูดคุย เล่นดนตรี และอาจรวมถึงการค้าบริการทางเพศ แต่ถือว่ามีสถานะสูงกว่าหญิงบริการทั่วไปมาก

สิ่งที่เห็นในภาพคือพิธีเดินขบวนที่เรียกว่า โออิรันโดจู (花魁道中) ซึ่งเป็นการเดินแห่ของโออิรันไปตามถนนในย่านโยชิวาระ โดยจะมีการแต่งกายหรูหรา สวมกิโมโนหลายชั้น ลวดลายทองหรูหรา ใส่รองเท้าไม้สูงมากที่เรียกว่า โคมาอิเกะ (Koma-geta หรือ Sanmaiba Geta) และเดินด้วยท่าเฉพาะที่เรียกว่า ซานโปอาชิ (三歩足) คือการก้าวแบบช้า ๆ และสง่างาม

ปัจจุบันประเพณีนี้ไม่ได้ทำจริงเหมือนในอดีตแล้ว แต่จะถูกจัดแสดงเป็น การแสดงเชิงวัฒนธรรม/ท่องเที่ยว ในงานเทศกาลหรือตามหมู่บ้านจำลองสมัยเอโดะ เช่นที่เกียวโต (เทศกาล Kitano Odori) หรือ Edo Wonderland Nikko เป็นต้น

👉 สรุปง่าย ๆ:
สิ่งที่คุณเห็นคือ การแสดงขบวนโออิรันโดจู ซึ่งเป็นการจำลองขบวนแห่ของโสเภณีชั้นสูงในสมัยเอโดะของญี่ปุ่นครับ #ขบวนโออิรันโดจู