23/10/2025
เกมส์การเมืองไม่ใช่รื่องของอุดมการณ์
'ยิ่งกว่าธรณีสูบ'
ใครจะคิดว่า 'รัฐบาลอนุทิน' หมดเวลาฮันนี่มูนพีเรียดไวขนาดนี้ ที่จริงตอนจะตั้ง ครม. ก็มีเสียงทักท้วงเรื่องรายชื่อรัฐมนตรีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะ วรภัค, ธรรมนัส, สุชาติ (ชมกลิ่น) โอเคในทางการเมืองเรารู้ว่าสองคนหลังอาจจะเลี่ยง "ไม่ตั้ง" ยากหน่อย ในแง่ที่ "ก็เขาย้ายข้าง" มาหนุนอนุทิน แต่เคสวรภัค ทั้งที่มีเสียงเตือนแล้วว่าจะกลายเป็นสายล่อฟ้า และเลือกที่จะไม่ตั้งก็ทำได้ง่ายกว่า แต่ทำไมถึงก็ยังดึงดันที่จะตั้งให้ได้ก็ไม่รู้
(FYI : แน่นอนในทางคดีคุณวรภัคยังเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่เมื่อมีรายชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหาจาก ป.ป.ช. จากคดีเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ และคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณา เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง)
จุดเริ่มต้นของรัฐบาลนี้สร้างความสนใจให้คนในแง่ที่ดึงตัวท้อปอย่างศุภจี ซึ่งมีชื่อในวงการธุรกิจ, เอกนิติที่เป็นไฟแรงและภาพลักษณ์ดีในกระทรวงการคลัง, สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว จากกระทรวงต่างประเทศมาได้ แถมยังรีบโกยคะแนนออกแอคชั่นต่างๆ จนคนยอมมองข้ามรัฐมนตรียี้หลายคนไป
ไม่นับรวมกับท่าที 'เอาหล่อ' ของอนุทินก่อนหน้านี้ ที่ย้ำเรื่องการรักษาคำพูดยุบสภาฯ ใน 4 เดือน หรือการแสดงออกว่าพร้อมร่วมมือกับพรรคประชาชนผ่านกฎหมายรัวๆ ทำให้เกิดกระแสที่ทุกคนคิดว่า ภูมิใจไทยมาแน่ (และพรรคส้มรวมถึงพรรคอื่นจะลำบากมากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งถัดไป)
จนหลายคนคาดว่าในช่วง 4 เดือนของรัฐบาลอนุทินน่าจะทำคะแนนได้มหาศาลเพื่อกลายมาเป็นหัวหอกแกนนำฝั่งอนุรักษ์นิยมในการเลือกตั้งครั้งถัดไปแทนประชาธิปัตย์, พลังประชารัฐ, รวมไทยสร้างชาติ ที่แหลกสลายไปแล้ว และคงผลักอนุรักษ์นิยมใหม่อย่างเพื่อไทย (ที่พยายามจะถีบตัวมาเป็นแกนนำใหม่ให้ได้แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ) ให้ตกเวทีกลายไปเป็นพรรคขนาดกลางเล็กได้
ไม่รวมถึงการโหมโรงเปิดตัวคนที่จะมาร่วมงานกับภูมิใจไทย ที่มาเป็นดอกเห็ด ชวนฝันว่ารอบหน้าภูมิใจไทยจะมาเกิน 150-180 ที่นั่ง จนกลายเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลอีกครั้งแน่ๆ และยิ่งไปกว่านั้นพรรคส้มก็โดนโยนคำถามที่ชวนอ้ำอึ้ง บางคนมองว่าเป๋หนักไปด้วยซ้ำในเรื่องโหวตอนุทิน เวลาสื่อถามเท้งก็ตอบแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกสักเท่าไหร่ ไหนจะเรื่อง "แกรนด์ คอมโพรไมซ์" ที่แนวร่วมหลายคน “ไม่ซื้อ” และกลายเป็นการโดนตั้งคำถามกลับไปว่าเป็นการรับ "ใบอนุญาต" ใบที่สองต่อจากใบแรกของเพื่อไทย(ที่คุณเคยด่าเค้า)หรือเปล่า?
ไม่มีอะไรที่ดูเป็นเค้าลางจะเขย่ารัฐบาลภูมิใจไทยได้เลยในช่วงก่อนหน้านี้
แต่แล้วการเมืองก็ไม่แน่ไม่นอน การเปิดประเด็นเรื่องสแกมเมอร์ - ขบวนการฟอกเงิน - และความโยงใยกับนักธุรกิจ คนในรัฐบาลของสื่ออิสระกลุ่มหนึ่งในไทย + พรรคประชาชน + การนำเสนอข่าวของนักข่าวระดับโลกสังกัด The Wall Street Journal ที่เคยขุดคุ้ยเรื่องทุจริต 1MDB อย่าง Tom Wright ก็ทำให้สื่อไทยหลายสื่อเริ่มนำเสนอข่าวในประเด็นนี้มากขึ้น ยิ่งเมื่อรัฐบาลเกาหลีใต้แสดงท่าทางแอคชั่นกับปัญหานี้จริงจังเท่าไหร่ สื่อและกระแสสังคมไทยก็เริ่มตั้งคำถามกับรัฐบาลอนุทินมากขึ้นเท่านั้น
ยิ่งท่าทีของอนุทินในฐานะนายกรัฐมนตรีไม่ชัดเจนว่าจะทำอะไรให้เป็นรูปธรรมในประเด็นนี้ได้ + กระแสข่าวลือเรื่องนักการเมืองไทยเอี่ยวสแกมเมอร์ หรือมีบัญชีรับเงินเทาในเขมร + กระแสข่าวลือเรื่องจะตั้งวรภัคเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบสแกมเมอร์เมื่อวาน ก็ยิ่งเขย่ารัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ
การเปิดประเด็นสแกมเมอร์ของพรรคประชาชนเป็นการจัดใหญ่ ที่ทำให้ประเด็นนี้ "จุดติด" และเป็นการโยน "เผือกร้อน" ที่หนักมากไปยังรัฐบาล ถ้าจะมองในเชิงการเมืองว่าเกมนี้ พรรคประชาชนกำลังเล่นการเมืองในการดึงกระแสคืนก็ได้ (เพราะก่อนหน้านี้ก็เสียรังวัดโดนปรามาสว่าเกี๊ยะเซี๊ยะไม่ค้านจริง) การพลิกเกมรอบนี้จึงเป็นการตีเข้าจุดตายของรัฐบาล ทำให้วันนี้รัฐมนตรีช่วยคลังที่ถูกกล่าวหาต้องสละเรือก่อน และทำให้รัฐบาลนี้ถูกมองว่าง่อนแง่นจนอาจจะต้องยุบสภาฯเร็วกว่ากำหนดที่ตั้งไว้ในเดือนมกรา
ณ นาทีนี้อาจพูดได้ว่า "ฮันนีมูนพีเรียดของรัฐบาลอนุทินหมดลงแล้ว" หมดลงไวกว่าคาด และหมดด้วยมือของพรรคประชาชนที่โหวตให้อนุทินเองนี่ล่ะ และเผลอๆอาจจะหมดชนิดที่ สิบศุภจี หรือร้อยเอกนิติ อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมากแล้ว เพราะเมื่อใดก็ตามที่รัฐบาลดูง่อนแง่น สิ่งที่จะเกิดขึ้นมาพร้อมกันทันทีคือ ข้าราชการจะเริ่มเกียร์ว่าง ขาลอย การสั่งราชการจะเป็นไปได้อย่างติดขัด นโยบายที่วาดฝันว่าจะเป็น Quick Big Win อาจจะไม่ออกมาโกยคะแนนในช่วง 4 เดือนนี้อย่างที่ตั้งใจ (นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงมีการพูดเรื่องการยุบสภาฯ ก่อนกำหนดขึ้นมา)
อย่างไรก็ดีให้จับตาประเด็นเรื่องสแกมเมอร์ให้ดี ประเด็นนี้จะไม่ใช่แค่ประเด็นตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล หากแต่จะเป็นประเด็นที่ "ลากยาว" ไปจนถึงการหาเสียงในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เพราะท่ามกลางหลายนโยบายใหม่ๆหลายอย่างที่คนไทยไม่ได้สัมผัสประโยชน์อะไรมากนัก แต่ความทุกข์ร่วมกันของการเจอปัญหาสแกมเมอร์กลับเป็นเรื่อง ”จี้ใจ” ที่ทุกคนอินได้ไม่ยาก ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องนี้จะมีผลจริงไหม ให้ชายตาไปดูพรรคของคุณหญิงหน่อย ที่เริ่มจับทางลมรู้แล้วว่าประเด็นนี้ไปได้ต่อยาวแน่ๆ เลยกระโดดขอเข้ามาร่วมแจมกับวงมโหรีนี้ด้วย
ทางรอดเดียวของอนุทินตอนนี้คือ ต้องรีบพลิกกระดานหันมาเล่นบท “สั่งลุย” ถ้าพบว่าเกี่ยวข้องกับนักการเมือง รัฐมนตรี หรือคนใกล้ชิดก็อย่าเกรงใจ ต้องยอมบูชายัญคนเหล่านั้น เชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อกู้วิกฤติศรัทธา รีบสร้างภาพจำ เพื่อช่วงชิงการนำให้ได้ว่าตัวเองเอาจริงเอาจัง ไม่ใช่แค่ตั้งคณะทำงาน คณะกรรมการแล้วไม่เกิดผลลัพธ์อะไร อย่าลืมว่าขนาดนโยบายทางเศรษฐกิจ คุณยังต้องพูด Quick Big Win เลย นโยบายเรื่องนี้ก็เช่นกัน สถานการณ์ตอนนี้ในเกมกระดานการเมือง รัฐบาลภูมิใจไทยถูกหนีบเข้ามุมแล้ว ถ้าแก้เรื่องนี้ไม่ได้ ก็จะมีแต่ข้อสงสัย กังขา และโดนครหาว่ารัฐบาลกลัวอะไร? หรือเกรงใจใคร? ท้ายที่สุดแล้วก็จะพังทั้งกระดาน แต้มคะแนนและความเอาหล่อที่เก็บสะสมมาในตอนตั้งรัฐบาลนั้น จะร่วงยับพับไปทันทียิ่งกว่าธรณีสูบ