หนังสือพิมพ์ ประเด็นรัฐ

หนังสือพิมพ์ ประเด็นรัฐ หนังสือพิมพ์ เพื่อเผยแพร่ ข่าวของก?

ข่าวดี! กรมการจัดหางาน รับสมัครชายไทยฝึกงานญี่ปุ่น IM Japan สู่อุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้าง สมัครออนไลน์ ฟรี!นายสมชาย มร...
14/07/2025

ข่าวดี! กรมการจัดหางาน รับสมัครชายไทยฝึกงานญี่ปุ่น IM Japan สู่อุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้าง สมัครออนไลน์ ฟรี!

นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางาน ประกาศรับสมัครคัดเลือกผู้ฝึกงานเทคนิคคนไทยไปฝึกงานในประเทศญี่ปุ่นผ่านองค์กร IM Japan ปี 2568 ครั้งที่ 4 (เพศชาย) ในตำแหน่ง ผู้ฝึกปฏิบัติงานทางเทคนิค ประเภทงานอุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยแบ่งการสมัครออกเป็น 2 รอบ โดยรอบที่ 1 รับสมัครวันที่ 1 - 31 กรกฎาคม 2568 รอบที่ 2 รับสมัครวันที่ 1 - 31 สิงหาคม 2568 ผู้ที่สนใจสามารถสมัครสอบได้ที่เว็บไซต์ toea.doe.go.th ไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่เว้นวันหยุดราชการ ฟรีค่าตั๋วเครื่องบินไป - กลับ เมื่อฝึกปฏิบัติงานครบ 3 ปี ค่าเบี้ยเลี้ยงเดือนแรกจะได้รับ 80,000 เยน หรือประมาณ 17,800 บาท ฟรี ค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ เดือนที่ 2 ถึงเดือนที่ 36 จะได้ค่าจ้างไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่กฎหมายญี่ปุ่นกำหนด เมื่อสำเร็จการฝึกปฏิบัติครบ 3 ปี จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองการฝึกงานทางเทคนิค และเงินสนับสนุนการประกอบอาชีพจำนวน 600,000 เยน หรือประมาณ 134,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2568) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพเมื่อเดินทางกลับประเทศไทย

“โครงการนี้เป็นโอกาสทองสำหรับชายไทยที่ต้องการพัฒนาทักษะทางเทคนิคและประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างประเทศญี่ปุ่น” นายสมชาย กล่าว งานฝึกปฏิบัติงานทางเทคนิคนี้ครอบคลุมหลากหลายสาขา ทั้งประเภทงานอุตสาหกรรมการผลิต อาทิ งานหล่อแบบ งานกลึงโลหะ งานปั๊มขึ้นรูปโลหะ งานเชื่อมโลหะ งานประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ งานซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร งานพ่นสี งานแปรรูปอาหาร รวมถึงประเภทงานอุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่น งานนั่งร้าน งานก่อสร้างแบบหล่อ และงานเดินท่อ ซึ่งล้วนเป็นทักษะที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน

นายสมชาย กล่าวต่อไปว่า สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นเป็นเพศชาย อายุ 18 - 30 ปี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือปริญญาตรีไม่จำกัดสาขาวิชา สูงไม่ต่ำกว่า 160 เซนติเมตร สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ พ้นภาระทางทหาร ไม่มีรอยสักบนร่างกาย ไม่มีประวัติอาชญากรรม ไม่เคยทำงานหรือเข้าเมืองหรือพำนักโดยผิดกฎหมายหรือต้องห้ามเข้าญี่ปุ่น เป็นต้น การสอบคัดเลือกจะใช้วิธีการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย และประเมินภาษาญี่ปุ่น ณ ศูนย์สอบกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ กรมการจัดหางานจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ รอบที่ 1 ในวันที่ 8 สิงหาคม 2568 และ รอบที่ 2 ในวันที่ 5 กันยายน 2568 ทางเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas และ facebook: IMthailand สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 หรือกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน โทร. 0 2245 9428 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

“ธีรรัตน์” ตอบกระทู้ถามวุฒิสมาชิก ประเด็น “การแจ้งเตือนสาธารณภัย” ย้ำ รัฐบาลมุ่งพัฒนาระบบการเตือนภัยควบคู่การซักซ้อมเพื่...
14/07/2025

“ธีรรัตน์” ตอบกระทู้ถามวุฒิสมาชิก ประเด็น “การแจ้งเตือนสาธารณภัย” ย้ำ รัฐบาลมุ่งพัฒนาระบบการเตือนภัยควบคู่การซักซ้อมเพื่อป้องกันภัยด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความตระหนักรู้และลดความสูญเสียของประชาชน
วันนี้ (14 ก.ค. 68) นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบกระทู้ถามของ นาวาตรี วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สมาชิกวุฒิสภา เรื่อง การดำเนินการระบบเตือนภัยเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ในการประชุมวุฒิสภา ณ ห้องประชุมวุฒิสภา อาคารรัฐสภา ถ.สามเสน กรุงเทพฯ
นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า ในปัจจุบันวิกฤตจากภัยทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นมีความถี่และรุนแรงเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นทั่วโลกเกิดความผันผวนปวนแปรในอัตราที่สูงมาก ดังเช่นปลายปี 2567 ที่ประเทศไทยเผชิญกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ภายใต้การนำของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและบริหารจัดการระบบเตือนภัยซึ่งได้ติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะเพียงภัยธรรมชาติแต่ยังรวมถึงเหตุฉุกเฉินทั้งจากธรรมชาติหรือมนุษย์ที่ต้องแจ้งเตือนให้ประชาชนสามารถป้องกันตนเองและมีความพร้อมอยู่เสมอ
“กระทรวงมหาดไทยโดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้มีการเฝ้าระวังสาธารณภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเจ้าหน้าที่ติดตามข้อมูลความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดภัยและแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้พร้อมรับมือกับสาธารณภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกช่องทางการสื่อสาร ทั้งการออกหนังสือโทรสารแจ้งเตือนจากกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในทันทีเมื่อทราบข้อมูลจากการวิเคราะห์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการใช้ระบบวิทยุทรานซิสเตอร์ ทั้ง AM FM ซึ่งการสื่อสารข้อมูลที่ครบถ้วนตรงประเด็นและถูกต้องที่สุดจากส่วนกลาง จะช่วยลดความสับสนของประชาชนที่ต้องเผชิญกับปัญหาข่าวปลอม Fake news ที่มักเกิดขึ้นในช่วงเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน”
ในเรื่องอุปกรณ์เตือนภัยปัจจุบันมีจำนวน 516 แห่ง ได้แก่ หอเตือนภัย 353 แห่ง และเครื่องมือรับสัญญาณเตือนภัยผ่านดาวเทียม 163 แห่ง ซึ่งติดตั้งอยู่ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยทุกจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงการส่งข้อความแจ้งเตือน ทั้งระบบ SMS ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อกระจายข้อมูลไปยังช่องทางอื่น หอกระจายข่าวหมู่บ้าน เสียงตามสายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การส่งข้อความผ่านกลุ่ม Line ต่าง ๆ และแอปฯ Thai Disaster Alert แอปฯ ทางรัฐ ซึ่งมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง รวมถึงระบบ Cell Broadcast ที่ได้มีการทดสอบอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 และในห้วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งจากการทดสอบได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ระบบมาตรฐานเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก และจะสมบูรณ์ทั้งระบบภายในเดือนกรกฎาคม 2568 นี้ ทั้งนี้ เราต้องอาศัยช่องทางการเตือนภัยหลาย ๆ ช่องทางร่วมกัน เพื่อให้การเตือนภัยมีประสิทธิภาพซึ่งจะเป็นการเตรียมความพร้อมและลดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้
นางสาวธีรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเรื่องการฝึกซ้อมสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อซักซ้อมในเรื่องของการรับมือภัยสึนามิ หลังจากเกิดสึนามิเมื่อเดือนธันวาคมปี 2547 หรือเมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งในทุกวันนี้ พี่น้องประชาชนทุกคนก็ยังคงมีความกังวลใจว่าจะเกิดขึ้นซ้ำหรือไม่ แต่เรื่องการเตรียมพร้อมและรับมือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะภัยเราห้ามไม่ได้ จึงต้องมีการฝึกซ้อมในทุกปี ด้วยการรวบรวมทุกภาคีเครือข่ายทั้งท้องถิ่น องค์กรนานาชาติ เอกอัครราชทูต กงสุลจากประเทศต่าง ๆ มารับทราบและเตรียมพร้อมรับมือ โดยมีการฝึกร่วมกับอาสาสมัครในพื้นที่ หน่วยกู้ภัยต่าง ๆ ที่มีบทบาท มีเครื่องมือ มีความพร้อม ซึ่งเรามีการฝึกซ้อมจริงทั้ง 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามัน คือ ระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล โดยมีประชาชน นักเรียน ร่วมฝึกซ้อมเสมือนจริง และเมื่อเราบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมกันฝึกซ้อมภัยในทุก ๆ สาธารณภัยเฉกเช่นการฝึกซ้อมสึนามินี้ ถ้าหากเกิดเหตุจริงก็จะทำให้การปฏิบัติการมีความราบรื่นมากยิ่งขึ้น เพราะเรื่องการฝึกซ้อมเป็นสิ่งสำคัญที่เราสามารถลดความรุนแรงและความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากภัยพิบัติได้
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 375/2568
วันที่ 14 ก.ค. 2568

“สมศักดิ์” ไม่กังวลม็อบกัญชาปักหลัก พร้อมเผย 1 เดือน ตรวจร้านกัญชาแล้ว 1,565 ร้าน เพิกถอนใบอนุญาต 5 ราย พักใบอนุญาต 82 ร...
14/07/2025

“สมศักดิ์” ไม่กังวลม็อบกัญชาปักหลัก พร้อมเผย 1 เดือน ตรวจร้านกัญชาแล้ว 1,565 ร้าน เพิกถอนใบอนุญาต 5 ราย พักใบอนุญาต 82 ราย สกัดลักลอบส่งออก 940 กิโลกรัม

เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยพร้อมประชาชนผู้สนับสนุน ประกาศจะปักหลักชุมนุมที่หน้าสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นการค้างแรมยืดเยื้อ ว่า ไม่ได้มีความกังวลใจอะไรในเรื่องนี้ ส่วนความคืบหน้าของการควบคุมการใช้กัญชาทางการแพทย์ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) วันนี้ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีประชุมร่วมกับสมาคมธุรกิจกัญชา ซึ่งของให้ติดตามรายละเอียดจากท่านอธิบดีฯ ส่วนแนวโน้มการนำกัญชากลับสู่บัญชีรายชื่อยาเสพติด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูผลกระทบจากเยาวชน นักท่องเที่ยว ภาพรวมประเทศเป็นไปในรูปแบบไหน ก็ต้องทำไปแบบนั้น แต่เราไม่ได้ฝักใฝ่ให้คนไปสูบกัญชา เมื่อถามว่าการเปรียบเทียบปลดล็อกกัญชากับกระท่อม ที่มีคนเอาไปทำเป็นน้ำกระท่อมสำเร็จรูปขาย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อะไรที่ผิดกฎหมาย ก็ต้องจับ การนำกระท่อมไปผสมกับสิ่งเจือปนที่เป็นสารเสพติด หรือเป็นวัตถุออกฤทธิ์ ถ้าผิดตามกฎหมายก็ต้องจับ อะไรที่เป็นตัวมันเพียวๆ ไม่ได้เป็นสิ่งเสพติด แต่ถ้ามีการเอาไปผสมเป็นสารเสพติด ก็ผิดหมด

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวความคืบหน้าการลงพื้นที่บังคับใช้กฎหมาย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 ว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบร้านกัญชาตลอด 1 เดือน โดยได้ตรวจสอบ 1,565 ร้าน พักใช้ใบอนุญาต 82 ราย เพิกถอนใบอนุญาต 5 ราย (กรณีกระทําผิดเงื่อนไขร้ายแรง) จับกุมดําเนินคดี จํานวน 7 ราย (กรณีจําหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต) ทำผิดเงื่อนไขประกาศกระทรวง ไม่รายงานผลการดําเนินการ 209 ราย จัดทําโฆษณา 44 ราย สูบภายในสถานประกอบการ 4 ราย จําหน่ายให้กับผู้ที่ไม่มีใบสังจ่ายฯ 1 ราย จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ 3 ราย ตรวจยึดอายัดของต้องสงสัยช่อดอกกัญชา 3 ครั้ง 13 ราย มาตรการจัดการผู้ลักลอบนำกัญชาออกนอกราชอาณาจักร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง จับกุมผู้กระทำผิด 32 ราย ของกลาง 940.93 กิโลกรัม ทั้งนี้ หากพบเจอผู้กระทำผิด หรือผู้ประกอบการต้องการรับคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถติดต่อ กรมการแพทย์แผนไทยแลพะการแพทย์ทางเลือก และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

“ผมได้กำชับกับหน่วยงานที่ลงพื้นที่ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การใช้กัญชาเป็นไปตามเจตนารมณ์ใช้ในทางการแพทย์ 100 เปอร์เซ็นต์ หากพบว่ามีการละเมิดตามที่กำหนดไว้ ก็ต้องดำเนินการทันที”นายสมศักดิ์กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ในวันที่ 16 ก.ค. กรมการแพทย์แผนไทยฯ จะจัดอบรมผู้สั่งจ่ายกัญชา
ทั้งออนไลน์และออนไซต์ ใน 7 กลุ่มวิชาชีพตามประกาศกระทรวงฯ เพื่อเตรียมกลุ่มวิชาชีพในการสั่งจ่ายสมุนไพร ตั้งเป้าอบรม 2,000 คน โดยผู้ที่ผ่านหลักสูตรและสามารถวินิจฉัยกลุ่มอาการและออกใบสั่งจ่ายกัญชาได้ ส่วนผู้ประกอบการจำหน่ายช่อดอกกัญชา จะอบรมในวันที่ 17 ก.ค.เป้าหมาย 80,000 คน ส่วนการสั่งจ่ายกัญชาช่อดอก โดยผู้ประกอบวิชาชีพที่ผ่านการอบรม และขึ้นทะเบียนที่กรมการแพทย์แผนไทยฯ สั่งจ่ายตาม ภ.ท.33 ให้กับผู้ป่วย 5 กลุ่ม อาการ ได้แก่ นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ปวดเรื้อรัง มะเร็ง ไมเกรน พาร์กินสัน และกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีประวัติและใช้กัญชาในการรักษาจากประเทศ

///////////

เฝ้าระวัง โรคผิวหนังในหน้าฝนสถาบันโรคผิวหนังเผยช่วงฤดูฝน ความชื้นในอากาศจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เชื้อรา แบค...
14/07/2025

เฝ้าระวัง โรคผิวหนังในหน้าฝน

สถาบันโรคผิวหนังเผยช่วงฤดูฝน ความชื้นในอากาศจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เชื้อรา แบคทีเรีย และแมลงพาหะเจริญเติบโตได้ดี อีกทั้งประชาชนส่วนใหญ่ยังคงต้องเดินทางออกนอกบ้าน อาจต้องลุยฝน ลุยน้ำ หรือสวมใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้นเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่เอื้อต่อการเกิดโรคผิวหนังหลายชนิดได้ง่ายขึ้น หากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องตั้งแต่เนิ่น ๆ

นายแพทย์สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า ฤดูฝนเป็นช่วงที่มีความร้อนอบอ้าวและความชื้นสูง ร่วมกับเหงื่อและเสื้อผ้าเปียกชื้น อาจกระตุ้นให้เกิดโรคผิวหนังต่าง ๆ ได้ เช่น โรคน้ำกัดเท้า โรคกลาก โรคผิวหนังอักเสบ จากภูมิแพ้ ผื่นจากแมลงสัตว์กัดต่อย โรคเท้ามีกลิ่นเหม็น สิวเห่อ และโรคผื่นกุหลาบ จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังและสังเกตอาการผิดปกติของผิวหนังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบอบบางหรือมีโรคประจำตัว แนวทางการป้องกันโรคผิวหนังในฤดูฝน ได้แก่ การอาบน้ำ สระผม และทำความสะอาดร่างกายทันทีหลังจากเปียกฝน หมั่นล้างมือ ล้างเท้าหลังลุยน้ำด้วยสบู่และน้ำสะอาด แล้วเช็ดให้แห้งสนิทอยู่เสมอ สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด แห้ง ไม่อับชื้น และเลือกเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี หากมีอาการผิดปกติ เช่น คัน แสบ แดง หรือมีผื่น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างเหมาะสม

นายแพทย์วีรวัต อุครานันท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคผิวหนังที่พบบ่อยในฤดูฝนมีทั้งจากเชื้อรา แบคทีเรีย และปฏิกิริยาภูมิแพ้ โดยเฉพาะโรคน้ำกัดเท้า กลาก ซึ่งมักเกิดในบริเวณอับชื้น เช่น ซอกนิ้วเท้า ขาหนีบ หรือก้น ความอับชื้นจากถุงเท้าและรองเท้าหลังลุยน้ำเป็นสาเหตุสำคัญ นอกจากนี้ โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ก็สามารถกำเริบได้ง่ายเมื่อผิวระบายเหงื่อไม่ดีหรือเกิดการเสียดสีร่วมด้วยโรคเท้ามีกลิ่นเหม็นเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยในฤดูฝน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่หนังเท้าชั้นนอก ร่วมกับปัจจัยเสริมอื่น เช่น ความอับชื้น น้ำหนักตัวมาก หรือโรคเบาหวาน อาการอาจมีลักษณะเป็นขุย ผิวลอก หรือเห็นรูพรุนเล็ก ๆ บริเวณฝ่าเท้า นอกจากนี้ยังมีโรคผิวหนังอักเสบจากแมลงสัตว์ กัดต่อย ซึ่งแมลงบางชนิด เช่น ด้วงก้นกระดก หรือแมลงดูดเลือด อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้สัมผัส โดยบางรายอาจมีอาการรุนแรงจนต้องพบแพทย์

แพทย์หญิงนันท์นภัส โปวอนุสรณ์ นายแพทย์ชำนาญการ สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนยังพบปัญหาสิวเห่อเพิ่มขึ้นจากความชื้นและความร้อนที่ส่งผลต่อการเปิดของรูขุมขน การเจริญของเชื้อแบคทีเรีย และการผลิตไขมันบนใบหน้า นอกจากนี้ยังควรเฝ้าระวังโรคผื่นกุหลาบ ซึ่งเป็นผื่นผิวหนังเฉียบพลันที่อาจสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัส ผื่นมีลักษณะเป็นวงรีหรือกลม กระจายตามแนวผิวหนังคล้ายลายต้นสน ทั้งสองภาวะนี้สามารถรักษาได้ด้วยยาที่เหมาะสมภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อสุขภาพผิวที่ดีในช่วงฤดูฝน ขอให้ประชาชนทุกคนตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาความสะอาดของร่างกาย การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม และการเฝ้าระวังความผิดปกติของผิวหนังอยู่เสมอ หากพบอาการที่ไม่พึงประสงค์ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

#เฝ้าระวัง #โรคผิวหนังในหน้าฝน #โรคผิวหนังในหน้าฝน #โรคผิวหนัง #กรมการแพทย์ #สถาบันโรคผิวหนัง
#ทำดีที่สุดเพื่อทุกชีวิต #สถาบันโรคผิวหนังที่ชาวไทยไว้วางใจและภาคภูมิใจ

14 กรกฎาคม 2568

“พงศ์กวิน”  ห่วงน้ำท่วม ส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ดูแลลูกจ้าง สถานประกอบการ ขาดรายได้  นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐ...
13/07/2025

“พงศ์กวิน” ห่วงน้ำท่วม ส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ดูแลลูกจ้าง สถานประกอบการ ขาดรายได้
นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงงาน เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือและภาคอีสาน รวมทั้งพื้นที่ต่างๆ หลายจังหวัด ตนมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานทุกจังหวัดที่ประสบอุทกภัย บูรณาการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นการเร่งด่วน และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หลังพบว่า ในหลายจังหวัดมีปริมาณน้ำท่วมขัง บริเวณพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ประสบภัย เข้าไปพบผู้ประกอบการเพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดในการจ้างงาน สำรวจผลกระทบต่อลูกจ้างผู้ประกอบการ รวมถึงความห่วงใยเพื่อช่วยเหลือกรณีลูกจ้างขาดรายได้ นายจ้างไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ โดยได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการ รวมถึง จัดทีมช่างจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเข้าไปซ่อมแซมอุปกรณ์ บ้านเรือน รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในพื้นที่ที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย พร้อมได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันที บรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด
ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ผมได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน เข้าไปดูแลสิทธิประโยชน์ของลูกจ้างในพื้นที่ที่ไม่สามารถทำงานได้ แล้ว เนื่องจากบ้านหรือสถานประกอบการถูกน้ำท่วม พร้อมตรวจสอบข้อมูลแรงงานที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้การช่วยเหลือและคุ้มครองตามกฎหมาย รวมถึงสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานแก่ผู้ประกันตนกรณีนายจ้างหยุดประกอบกิจการชั่วคราวเนื่องจากเหตุสุดวิสัย ซึ่ง ลูกจ้างที่ไม่สามารถทำงานได้เพราะประสบอุทกภัยเช่นนี้ จะไม่ถือเป็นการขาดงานหรือละทิ้งหน้าที่ หากนายจ้างเลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย ลูกจ้างที่หยุดงานจะยังคงได้รับค่าจ้างตามกฎหมาย รวมถึงสวัสดิการอื่นๆ และกรณีที่เกิดการเจ็บป่วยจากเหตุน้ำท่วมยังสามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้ นอกจากนี้ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว จะจัดทีมช่างจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเข้าไปซ่อมแซมอุปกรณ์ บ้านเรือน รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ต่อไปด้วย โดยนายจ้าง ลูกจ้างหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สามารถแจ้งขอรับความช่วยเหลือผ่านสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 ได้

“กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดโปรแกรมอัปสกิลช่างแอร์ทั่วประเทศ หนุนเข้ารับการประเมินฯ พร้อมอบรมเทคโนโลยีรักษ์โลก”กรมพัฒนาฝีมื...
13/07/2025

“กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดโปรแกรมอัปสกิลช่างแอร์ทั่วประเทศ หนุนเข้ารับการประเมินฯ พร้อมอบรมเทคโนโลยีรักษ์โลก”

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดโปรแกรมพัฒนาช่างแอร์ต่อยอดมีหนังสือรับรองความรู้ แถมหลักสูตรสุดว้าวอบรมเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า ช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก เป็นอีกหนึ่งสาขาอาชีพที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เร่งพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อป้อนสู่ตลาดแรงงานในการติดตั้งและซ่อมแซมเครื่องปรับอากาศตามที่พักอาศัยและอาคารต่าง ๆ พร้อมทั้งส่งเสริมให้ช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็กต้องดำเนินการโดยผู้ที่ผ่านการประเมินและได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ เพื่อเป็นการการันตีทักษะฝีมือและเพิ่มความปลอดภัยต่อสาธารณะ ซึ่งช่างเหล่านี้ต้องผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและเข้ารับการสัมภาษณ์ประเมินความรู้ความสามารถถึงจะได้รับหนังสือดังกล่าว ส่งผลดีต่อการจ้างงานและได้รับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ ในปัจจุบันมีช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ที่ผ่านการประเมินแล้ว 12,326 คน

นายเดชา กล่าวต่อว่า ในส่วนของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์และจัดโปรแกรมต่าง ๆ ที่มีส่วนในการต่อยอดให้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ ซึ่งขณะนี้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 35 เพชรบุรี เปิดรับสมัครฝึกอบรมและทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 1 ฝึกอบรมระหว่างวันที่ 21-24 กรกฎาคม 2568 และทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ระหว่างวันที่ 25-26 กรกฎาคม 2568 รับจำนวนจำกัดเพียง 20 คน ผู้ผ่านฝึกอบรมและทดสอบฯ จะได้รับโอกาสเข้ารับการประเมินความรู้ความสามารถในอนาคต สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 08-5364-7740 หรือ 0-3247-0391-3 ส่วนจังหวัดอื่น ๆ จะดำเนินการทยอยเปิดโปรแกรมต่าง ๆ สามารถติดตามได้ที่เพจกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน www.facebook.com/dsdgothai

“นอกจากนี้เพื่อให้ช่างมีทักษะฝีมือทันต่อเทคโนโลยีของเครื่องปรับอากาศที่มีการนำสารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้มากขึ้น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จึงจัดฝึกอบรมหลักสูตรการจัดการสารทำความเย็นธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยอบรมที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา ฝึกเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ 19-20 และ 26 กรกฎาคม 2568 และที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 17 ระยอง ฝึกวันจันทร์-พุธ 21-23 กรกฎาคม 2568 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4 และเพจกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเช่นกัน” อธิบดี กพร.กล่าว

"ธีรรัตน์" เยี่ยมชม "ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ เพื่อสุขวิถีชุมชน เขตคลองเตย" พร้อมชื่นชมการขับเคลื่อน "สวน 15 นาที" ...
13/07/2025

"ธีรรัตน์" เยี่ยมชม "ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ เพื่อสุขวิถีชุมชน เขตคลองเตย" พร้อมชื่นชมการขับเคลื่อน "สวน 15 นาที" ตามนโยบายผู้ว่าฯ ชัชชาติ เพื่อสร้างวิถีชีวิตที่มีความสุขของคนกรุงเทพฯ อย่างยั่งยืน
วันนี้ (13 ก.ค. 68) เวลา 08.00 น. หลังจากกิจกรรม Kick off สุขุมวิทโมเดล Big Cleaning นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ เพื่อสุขวิถีชุมชน ณ สวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า ถนนพระรามที่ 3 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนางสาวเกศจริน สามิภักดิ์ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย และคณะ ร่วมให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ นางสาวธีรรัตน์ ได้เยี่ยมชมฐานกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ ฐานน้ำหมักชีวภาพ ฐานปุ๋ยหมักอินทรีย์ ฐานปุ๋ยหมักมูลสัตว์ ฐานปุ๋ยไส้เดือน ฐานการเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ฐานเพาะเห็ดนางฟ้า และนิทรรศการการจัดการขยะมูลฝอยตามหลัก 3Rs : Reduce (ใช้น้อย) Reuse (ใช้ซ้ำ) Recycle (นำกลับมาใช้ใหม่)
นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า ขอชื่นชมกรุงเทพมหานคร ที่ได้จัดทำศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ เพื่อสุขวิถีชุมชน พร้อมทั้งดำเนินการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ว่างและพื้นที่สาธารณะบริเวณต่าง ๆ ให้เข้าถึงพี่น้องประชาชน ทั้งข้างแฟลต สวนสาธารณะ ฯลฯ กลายเป็นสวน 15 นาทีแห่งความสุข ซึ่งเขตคลองเตยเป็นพื้นที่ที่มีพี่น้องประชาชนพักอาศัยจำนวนมาก และเป็นพื้นที่สำคัญที่ผู้คนต่างเดินทางมาเพื่อทำงาน ท่องเที่ยว ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ ดังนั้น "สวน 15 นาที" ตามนโยบายของท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะทำให้พี่น้องประชาชนได้มีวิถีชีวิตที่อยู่กับธรรมชาติ มีผักปลอดสารพิษ มีอาหาร มียารักษาโรคจากพืชนานาพันธุ์ ซึ่งแม้จะเป็นพื้นที่เล็ก ๆ แต่พื้นที่เล็ก ๆ นี้เองจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนมีแต่ความสมบูรณ์ ทำให้ร่างกายแข็งแรง และอยู่ร่วมกันด้วยความสุขอย่างยั่งยืน
นางสาวเกศจริน กล่าวว่า กรุงเทพมหานครโดยสำนักงานเขตคลองเตยได้พัฒนาปรับปรุงพื้นที่ว่างและพื้นที่สาธารณะบริเวณต่าง ๆ ตามนโยบายนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ด้วยการร่วมกับผู้นำชุมชนและประชาชน ตลอดจนภาคีเครือข่ายหน่วยงานเจ้าของที่ เปลี่ยนพื้นที่รกร้างให้กลายเป็นสวน 15 นาที จัดทำสวนเกษตรแปลงเล็ก เพื่อปลูกผักสวนครัว เสริมสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน โดยขยายผลจากศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ เพื่อสุขวิถีชุมชนสู่พื้นที่ ซึ่งปัจจุบันเขตคลองเตย มีสวน 15 นาที (สวนเดิม) จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1. สวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า พื้นที่ 9 ไร่ 2. สวนหย่อมป๋าเปรม พื้นที่ 50 ตารางวา 3. สวนหย่อมอาจณรงค์ภิรมย์ พื้นที่ 1 ไร่ และสวน 15 นาที (สวนใหม่) จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ 1. สวนคลองเตย พัก&Play สวนหย่อมหน้าสถานีรถไฟฟ้า MRT ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 2. สวน 50 สุข ซอยสุขุมวิท 50 (สวนไทรเฉลิมพระเกียรติ) 3. สวน 80 พรรษามหาราชินี (ใต้ทางด่วนซอยสุขุมวิท 48/1) 4. สวนวัดคลองเตยใน พื้นที่ 2 งาน 5. สวนเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา เติมสุข สู่สังคม 6. สวนเพลินจิต 7. สวน 24 ลุมพินีเพลส และ 8. สวนสุขวิถีชาวแฟลต ชุมชนแฟลต 11-18 โดยออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในสวนให้ตรงตามความต้องการของประชาชนที่จะเข้ามาใช้บริการ เพื่อให้การจัดทำสวน 15 นาที เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 372/2568
วันที่ 13 ก.ค. 2568

ข่าวดี! กรมการจัดหางาน เปิดรับ 'สาวไทย' ฝึกงานเทคนิคญี่ปุ่น ผ่าน IM Japan เงินเดือนดี สมัครออนไลน์ ฟรี 21-27 ก.ค. 68 นี้...
13/07/2025

ข่าวดี! กรมการจัดหางาน เปิดรับ 'สาวไทย' ฝึกงานเทคนิคญี่ปุ่น ผ่าน IM Japan เงินเดือนดี สมัครออนไลน์ ฟรี 21-27 ก.ค. 68 นี้


นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางาน ประกาศรับสมัครคัดเลือกผู้ฝึกงานเทคนิคคนไทยไปฝึกงานในประเทศญี่ปุ่นผ่านองค์กร IM Japan ปี 2568 ครั้งที่ 5 (เพศหญิง) ในตำแหน่งผู้ฝึกปฏิบัติงานทางเทคนิค ประเภทงานอุตสาหกรรมการผลิต อาทิ งานหล่อกลึงโลหะ งานพ่นสี งานปั้มขึ้นรูปโลหะ งานหล่อพลาสติก และงานผลิตอาหารสำเร็จรูป ระหว่างวันที่ 21 - 27 กรกฎาคม 2568 ไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่เว้นวันหยุดราชการ ฟรีค่าตั๋วเครื่องบินไป - กลับ เมื่อฝึกปฏิบัติงานครบ 3 ปี โดยผู้ผ่านการคัดเลือก เดือนแรกจะได้รับเบี้ยเลี้ยง 80,000 เยน หรือประมาณ 17,800 บาท ฟรี ค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ เดือนที่ 2 ถึงเดือนที่ 36 จะได้ค่าจ้างไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่กฎหมายญี่ปุ่นกำหนด เมื่อสำเร็จการฝึกปฏิบัติครบ 3 ปี จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองการฝึกงานทางเทคนิค และเงินสนับสนุนการประกอบอาชีพจำนวน 600,000 เยน หรือประมาณ 134,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2568) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพเมื่อเดินทางกลับประเทศไทย ผู้ที่สนใจสามารถสมัครสอบได้ที่เว็บไซต์ toea.doe.go.th ลงทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์ การบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียนคนหางาน และดำเนินการสมัครไปทำงาน โดยเลือกหัวข้อ "สมัครไปทำงานโดยรัฐจัดส่ง สมัครไปฝึกงานในประเทศญี่ปุ่น"

นายสมชายฯ กล่าวว่า คุณสมบัติเบื้องต้นของการรับสมัครในครั้งนี้จะต้องเป็นเพศหญิง อายุ 20 - 30 ปี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ไม่จำกัดสาขาวิชา สูงไม่ต่ำกว่า 150 เซนติเมตร สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีรอยสักบนร่างกาย ไม่มีประวัติอาชญากรรม ไม่เคยทำงานหรือเข้าเมืองหรือพำนักโดยผิดกฎหมายหรือต้องห้ามเข้าญี่ปุ่น เป็นต้น สำหรับการสอบคัดเลือกจะใช้วิธีการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย และสอบข้อเขียนภาษาญี่ปุ่น ณ ศูนย์สอบกรุงเทพมหานคร โดยจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ทางเว็บไซต์ของกรมการจัดหางาน doe.go.th/prd หรือเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas และ facebook: IMthailand

ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์จะสมัครคัดเลือกผู้ฝึกงานเทคนิคในประเทศญี่ปุ่นกับกรมการจัดหางาน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน โทร. 0 2245 9428 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

“DSD เดินหน้าพัฒนาคนพิการ เปิดอบรมทั่วไทยกว่า 70 หลักสูตร ตลอด ก.ค.–ส.ค. 68” กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดแผนรับสมัครฝึกอบรมให...
13/07/2025

“DSD เดินหน้าพัฒนาคนพิการ เปิดอบรมทั่วไทยกว่า 70 หลักสูตร ตลอด ก.ค.–ส.ค. 68”

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดแผนรับสมัครฝึกอบรมให้กับคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ ตั้งเป้า 4,328 คน ทั่วประเทศ ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้

นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์คนพิการไร้ฝีมือในประเทศไทยยังคงเป็นปัญหาที่ท้าทาย พบว่า มีคนพิการจำนวนมากที่ไม่มีงานทำ หรือทำงานในภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นงานที่รายได้ต่ำและไม่มั่นคง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีความห่วงใย และต้องการส่งเสริม พัฒนาทักษะอาชีพคนพิการและผู้ดูแลคนพิการสู่ความยั่งยืน จึงได้ดำเนินการฝึกอบรมใน 75 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งเป้าหมายพัฒนาทักษะคนพิการ ปี 2568 จำนวน 4,328 คน

นายเดชา กล่าวต่อว่า ในเดือนกรกฎาคม และ สิงหาคม 2568 มีแผนเปิดฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี หลักสูตรการทำศิลปะประดิษฐ์เครื่องประดับเพื่อการค้า สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 4 ราชบุรี หลักสูตรการทำเบเกอรี่และการทำขนมฟิวชั่น สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 7 อุบลราชธานี หลักสูตรการทำของที่ระลึก การทำเบเกอรี่และการทำขนมฟิวชั่น สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา หลักสูตรการทำขนมไทย สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 13 กรุงเทพมหานคร หลักสูตรการใช้สมาร์ตโฟนเพื่อการขายออนไลน์และเมืองอัจฉริยะสำหรับคนพิการทางการมองเห็น การใช้สมาร์ตโฟนเพื่อทำธุรกรรมเชิงพาณิชย์สำหรับคนพิการทางการมองเห็น ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์พื้นฐานสำหรับคนพิการทางการได้ยิน การบริการรถจักรยานยนต์สาธารณะสำหรับคนพิการทางการได้ยิน การทำคัมปิ้งกาแฟเชิงลึกสำหรับคนพิการทางการมองเห็น การทำขนมไดฟูกุและการสร้างแบรนด์สำหรับคนพิการทางการมองเห็น การทำเครื่องดื่มสุขภาพและการทำแซนวิชสำหรับคนพิการทางการมองเห็น การประกอบอาหารและเครื่องดื่ม สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 14 ปทุมธานี หลักสูตรศิลปะประดิษฐ์เพื่อการค้าตลาดออนไลน์ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 18 อุดรธานี หลักสูตรการทำผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 21 ภูเก็ต หลักสูตรการทำเบเกอรี่และการทำขนมฟิวชั่น สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 22 นครศรีธรรมราช หลักสูตรการทำผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร การพิมพ์ลายผ้าด้วยใบไม้ (ECO Printing) การสร้างผลิตภัณฑ์ด้วยกระบวนการมัดย้อม สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 23 ปัตตานี หลักสูตรพนักงานทำความสะอาดส่วนกลาง สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 29 ฉะเชิงเทรา หลักสูตรบาริสต้าขั้นพื้นฐานของคนตาบอด สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 45 กระบี่ หลักสูตรการเย็บผ้าห่มด้วยเศษผ้า สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานตรัง หลักสูตรการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์จากกระจูด การทำผ้ามัดย้อม การทำเบเกอรี่ สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานบึงกาฬ หลักสูตรการทำเบเกอรี่และการทำขนมฟิวชั่น สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานพังงา หลักสูตรการทำผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานสตูล หลักสูตรการสร้างผลิตภัณฑ์ด้วยกระบวนการมัดย้อม

นอกจากนี้ ในเดือนสิงหาคม ยังมีแผนเปิดฝึกอบรมอีกหลายหลักสูตรด้วยกัน สามารถติดตามดูข้อมูลได้ที่ เว็บไซต์กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน www.dsd.go.th หัวข้อกำหนดการฝึกอบรม หรือสถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ นายเดชากล่าวทิ้งท้าย

"มท.ธีรรัตน์" แท็กทีม "ผู้ว่าฯ ชัชชาติ" ผนึกกำลังกรุงเทพใต้ Kick off สุขุมวิทโมเดล Big Cleaning มุ่งสู่มหานครน่าอยู่ มหา...
13/07/2025

"มท.ธีรรัตน์" แท็กทีม "ผู้ว่าฯ ชัชชาติ" ผนึกกำลังกรุงเทพใต้ Kick off สุขุมวิทโมเดล Big Cleaning มุ่งสู่มหานครน่าอยู่ มหานครแห่งความสุขของทุกคน

วันนี้ (13 ก.ค. 68) เวลา 06.00 น. ณ บริเวณหน้าอุทยานเบญจสิริ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหาร ข้าราชการ และพนักงานกรุงเทพมหานคร กลุ่มกรุงเทพใต้ (เขตคลองเตย วัฒนา ปทุมวัน) Kick off "สุขุมวิทโมเดล Big Cleaning"ล้างทำความสะอาดทางเท้า ตั้งแต่ซอยสุขุมวิท 1 ถึงสุขุมวิท 39, ซอยสุขุมวิท 24 ถึงสุขุมวิท 2 และจากแยกเพลินจิตถึงแยกราชประสงค์ทั้ง 2 ฝั่ง

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยนำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกรุงเทพมหานคร มีนโยบายที่ชัดเจนในการ ขับเคลื่อนแนวทางเพื่อทำให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครแห่งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยว เป็นมหานครแห่งความสะอาดที่ใครไปใครมาต่างก็ต้องชื่นชมและบอกต่อว่าเราเป็นเมืองสะอาด มีภูมิทัศน์ที่งามตา เป็นเมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว การจราจรสะดวก จึงเป็นที่มาของ "สุขุมวิทโมเดล" ที่ได้มีการขับเคลื่อนมาโดยตลอด

"สิ่งสำคัญของการทำให้ "สุขุมวิทโมเดล" ประสบความสำเร็จ นั่นคือ ความร่วมมือกันของพวกเราชาวกรุงเทพมหานคร ทั้งผู้บริหารนำโดยท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารฝ่ายการเมือง สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ข้าราชการประจำ ทั้งท่านปลัด รองปลัด ผอ.สำนัก ผอ.เขต รวมถึงพี่ ๆ พนักงานทำความสะอาด พนักงานขับรถ พนักงานสวน และเราต้องทำให้เกิดพลังความสามัคคีจากทุกภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการ พี่น้องประชาชน คนขับรถสาธารณะ พี่วินมอเตอร์ไซค์ และพี่น้องประชาชน ร่วมด้วยช่วยกันดูแลความสะอาด คนละไม้ละมือ คนละเล็กละน้อง และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ทำจนเป็นกิจวัตร ไม่ใช่เป็นหน้าที่ เพื่อความสำเร็จและเป็น "โมเดลต้นแบบ" ให้กับพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป" นางสาวธีรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับกิจกรรม Kick off สุขุมวิทโมเดล Big Cleanging ในครั้งนี้ นางสาวธีรรัตน์ พร้อมด้วยนายชัชชาติ และทีมกรุงเทพใต้ได้ร่วมทำความสะอาดรวมระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร พร้อมพบปะทักทายพี่น้องประชาชนเพื่อรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันดูแลความสะอาดของทางเท้า และหน้าอาคารบ้านเรือนตนเองอย่างต่อเนื่อง ทำให้หน้าบ้านน่ามอง น่าเดิน น่าเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน

กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ /2568
วันที่ 13 ก.ค. 2568

ปลัดฯ 'บุญสงค์' เปิดงาน Vietjet Thailand Sky Career 2025 เปิดประตูเยาวชนคนรุ่นใหม่ไฟแรง ก้าวสู่เส้นทางอาชีพในฝันวันที่ 1...
12/07/2025

ปลัดฯ 'บุญสงค์' เปิดงาน Vietjet Thailand Sky Career 2025 เปิดประตูเยาวชนคนรุ่นใหม่ไฟแรง ก้าวสู่เส้นทางอาชีพในฝัน

วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.30 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน Vietjet Thailand Sky Career 2025 โดยมี คุณปิ่นยศ พิบูลสงคราม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการพาณิชย์และลูกค้าสัมพันธ์ และคณะผู้บริหารเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ร่วมให้การต้อนรับ
ณ พารากอน ซินีเพล็กซ์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

นายบุญสงค์ กล่าวว่า ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมในพิธีเปิดงาน Vietjet Thailand Sky Career 2025
ซึ่งจัดขึ้นโดยเวียตเจ็ทไทยแลนด์ในวันนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเวทีที่สำคัญในการเปิดโอกาสให้ประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้ค้นพบแนวทางและโอกาสในการประกอบอาชีพในอุตสาหกรรมการบิน ที่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

นายบุญสงค์ กล่าวต่อว่า ผมขอแสดงความยินดีกับเวียตเจ็ทไทยแลนด์ที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนแรงงานไทย โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ให้มีโอกาสได้แสดงศักยภาพ เรียนรู้ และเติบโตในสายอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน
ในฐานะกระทรวงแรงงาน เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ทั้งในด้านทักษะอาชีพ ทักษะดิจิทัล และทักษะภาษา เพื่อให้แรงงานไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาคและระดับสากล รวมถึงสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคเศรษฐกิจใหม่ และการที่ภาคเอกชนอย่างเวียตเจ็ทไทยแลนด์ได้จัดกิจกรรมที่ให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และมอบโอกาสในการเริ่มต้นอาชีพ จึงนับเป็นบทบาทที่มีคุณค่าและควรได้รับการสนับสนุนอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับคุณภาพแรงงานไทย แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานอย่างทั่วถึงและยั่งยืน

"ขอขอบคุณเวียตเจ็ทไทยแลนด์ที่จัดงานในวันนี้ขึ้น ซึ่งไม่เพียงเป็นเวทีสร้างโอกาส แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางอาชีพในฝัน และขอเป็นกำลังใจให้เยาวชนทุกท่านสามารถทำฝันนั้นให้เป็นจริง และเติบโตอย่างมั่นคงในเส้นทางที่เลือก และประสบความสำเร็จในทุกย่างก้าวของชีวิตการทำงาน นายบุญสงค์" กล่าว

สำหรับงาน Sky Career Festival ครั้งที่ 7: Road to the Sky journey 2025 เป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงได้ร่วมงานกับสายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์
ทั้งนี้ ภายในงานมีการเปิดรับสมัครตำแหน่งงานกว่า 120 ตำแหน่ง Cabin Crew รวมถึง นักบิน วิศวกร พนักงานภาคพื้นดิน การตลาด การเงิน และอีกมากมาย! ผู้สนใจสามารถสมัครด้วยตนเอง ตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.30 น. ณ Infinite Hall ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

“สมศักดิ์” สั่งการเจ้าหน้าที่ สธ. ดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัย “อุตรดิตถ์” และพื้นที่อื่น เตรียมเวชภัณฑ์ให้เพียงพอ ให้เกาะติ...
12/07/2025

“สมศักดิ์” สั่งการเจ้าหน้าที่ สธ. ดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัย “อุตรดิตถ์” และพื้นที่อื่น เตรียมเวชภัณฑ์ให้เพียงพอ ให้เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดอุตรดิตถ์และภาคเหนือตอนล่าง ว่า ขณะนี้ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้หลายจังหวัดมีปริมาณน้ำมาก และมีน้ำท่วมขัง ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน เช่น จ.อุตรดิตถ์ น่าน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขในจังหวัดที่ประสบภัยประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน ดูแลด้านช่วยเหลือประชาชนด้านการแพทย์และสาธารณสุข มอบหมายให้สาธารณสุขอำเภอและโรงพยาบาลจัดทีมลงพื้นที่ปฏิบัติงาน ดูแลกลุ่มเปราะบาง ช่วยเหลืออพยพผู้ป่วยติดเตียง และเฝ้าระวังติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้หากน้ำลดให้นำชุดทำความสะอาดไปมอบให้ แนะนำการจัดการสิ่งแวดล้อมในศูนย์พักพิงและบ้านเรือน แนะแนวทางดูแลตัวเองในช่วงน้ำท่วม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นรับรายงานว่า จังหวัดอุตรดิตถ์ได้จัดตั้งศูนย์พักพิง 2 แห่ง ที่อ.ฟากท่า ในเทศบาลตำบลและ อบต. ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บสาหัส ผู้เสียชีวิต มีเพียงผู้บาดเจ็บเล็กน้อย วิงเวียนศีรษะจากความเครียด 2 ราย นอกจากนี้ สาธารณสุขจังหวัดได้ประสานสนับสนุนยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนการให้ความดูแลในศูนย์พักพิงชั่วคราว จัดทีมดูแล หน่วยแพทย์ หรือจุดปฐมพยาบาล ทีมดูแลสุขภาพจิต มีอาหาร น้ำดื่ม น้ำใช้ การจัดการขยะ ห้องสุขาให้บริการ พร้อมทั้งแจกยาชุดผู้ประสบภัย และโลชั่นทากันยุง ขณะนี้ฝนหยุดตกแล้ว ปริมาณน้ำทรงตัว และคาดว่าจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติในวันพรุ่งนี้ หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม ขณะเดียวกันในจังหวัดอื่นๆ ก็จะต้องมีการเตรียมการเรื่องเวชภัณฑ์ยาให้พร้อมเพียงพอต่อการช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งเกาะติดและประเมินสถานการณ์จากเบาไปหาหนัก เพื่อเตรียมการช่วยเหลือให้ทันท่วงที หากติดขัดส่วนใดก็สามารถประสานขอรับความช่วยเหลือมาได้

ที่อยู่

Ban Bang Khu Wat

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หนังสือพิมพ์ ประเด็นรัฐผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์