FYIThailand Channel

FYIThailand Channel ข่าวทั่วไทย

📣🎉สสว. เดินหน้ากิจกรรม Roadshow "SME Academy On Tour ครั้งที่ 8 ที่จังหวัดอุบลราชธานีเรียนรู้ธุรกิจฟรี กับ academy 365 เ...
30/11/2024

📣🎉สสว. เดินหน้ากิจกรรม Roadshow "SME Academy On Tour ครั้งที่ 8 ที่จังหวัดอุบลราชธานี
เรียนรู้ธุรกิจฟรี กับ academy 365 เสริมศักยภาพ SME ให้ธุรกิจเติบโตในยุคดิจิทัล
พบกับ 3 Session ที่จะต่อยอดธุรกิจให้สำเร็จจากกูรูด้านการตลาดและนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ 📈
🗓️ วันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2567 เวลา 08.30 – 16.00 น.
📌ณ ห้องทับทิมสยาม 4-5 โรงแรมสุนีย์แกรนด์ จังหวัดอุบลราชธานี

📈“SME Academy on Stage"
📍📍หัวข้อ "Drive Thru Your Brand รวบ-ลัด-ปั้นแบรนด์" โดยคุณ รษิกา พาณีวงศ์ (ซอฟท์) ช่อง softpomz
📍หัวข้อ “ภาษีเบื้องต้นสำหรับผู้ประกอบการ” โดย คุณอภิรดี ชัยกิจอุราใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี จากเพจ Taxster ภาษีอย่าไปกลัว
✍️"Hands on Workshop" เรียนรู้ด้านการตลาดออนไลน์✍️
📍คุณรินรดา วัชรินทร์รัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok
🏆"Wisdom of the Success" เสวนาถ่ายทอดภูมิปัญญาแห่งความสำเร็จ
📍คุณศิวาวุฒิ ว่องไว Co-Founder & Managing Director ธุรกิจ แบรนด์อากงอาม่า ผลิตภัณฑ์ เพื่อผิว คัน แห้ง ลอก
📍คุณยุทธนา ดาวเจริญ เจ้าของร้าน ‘Songsarn Coffee & Home Roaster’(ส่งสาร)
📍คุณธรรมรักษ์ อู่สมบัติชัย เจ้าของ "จั๊บจั๊บ ก๋วยจั๊บอุบล กึ่งสำเร็จรูป JubJub"
📸 บริการถ่ายรูปผลิตภัณฑ์ ให้กับผู้ประกอบการ SME ฟรี!!!
📌กิจกรรม SME Clinic รับคำปรึกษาทางธุรกิจ โดยที่ปรึกษาจากระบบ SME Coach
📌ซุ้ม KIOSK ให้ความรู้แนะนำบริการต่าง ๆ ของ สสว. รวมถึงหน่วยงานภาคีเครือข่ายการส่งเสริม SME
🪪ลงทะเบียนเข้าร่วมงานแสดงตัวตนด้วยบัตรประชาชน และรับสิทธิประโยชน์มากมายภายในงาน
📱สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คุณธิรดา เบอร์โทรศัพท์ 090-499-6292 คุณสุทธิตา เบอร์โทรศัพท์ 093 546 6394
#สสว #เสริมศักยภาพ #เติมเต็มความรู้ #เพิ่มโอกาสเติบโตให้ธุรกิจ

📣🎉สสว. เดินหน้ากิจกรรม Roadshow "SME Academy On Tour ครั้งที่ 3 ที่จังหวัดนครสวรรค์เรียนรู้ธุรกิจฟรี กับ academy 365 เสร...
28/11/2024

📣🎉สสว. เดินหน้ากิจกรรม Roadshow "SME Academy On Tour ครั้งที่ 3 ที่จังหวัดนครสวรรค์
เรียนรู้ธุรกิจฟรี กับ academy 365 เสริมศักยภาพ SME ให้ธุรกิจเติบโตในยุคดิจิทัล
พบกับ Session ที่จะต่อยอดธุรกิจให้สำเร็จจากกูรูด้านการตลาดและนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ 📈
🗓️ วันจันทร์ ที่ 18 พฤศจิกายน 2567 เวลา 08.30-16.00 น.
📌ณ ห้อง The Sun ชั้น2 โรงแรม 42C The Chic Hotel จังหวัดนครสวรรค์
📈“SME Academy on Stage"
📍หัวข้อ “LIVE Commerce Trends 2025” โดย ภญ.โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ หรือโค้ช โซอี้ จาก โซอี้ Digital Shortcut
📍หัวข้อ “ภาษีเบื้องต้นสำหรับผู้ประกอบการ” โดย คุณอภิรดี ชัยกิจอุราใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี จากเพจ Taxster ภาษีอย่าไปกลัว
🏆"Wisdom of the Success" เสวนาถ่ายทอดภูมิปัญญาแห่งความสำเร็จ
📍คุณวีรวุฒิ บำรุงไทย
ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครสวรรค์และผู้บริหาร หจก.ลิ่มเชียงเส็ง
📍คุณฉนัจตา สุทธิวรวิทย์
เจ้าของกิจการ คาเฟ่ยโรงเตียมคาเฟ่และ ธุรกิจเมทัลชีทบลูสโคป
📍คุณบุปผา วัน
ประธานวิสาหกิจชุมชนยาสีฟันสมุนไพรเอนไซม์เฮิร์บ บุปผา วัน
✍️"Hands on Workshop" เรียนรู้ด้านการตลาดออนไลน์
📍อาจารย์ยศ สอนไลฟ์ สุดยอดปรมาจารย์ด้าน TikTok Live
📸 บริการถ่ายรูปผลิตภัณฑ์ ให้กับผู้ประกอบการ SME ฟรี!!!
📌กิจกรรม SME Clinic รับคำปรึกษาทางธุรกิจ โดยที่ปรึกษาจากระบบ SME Coach
📌ซุ้ม KIOSK ให้ความรู้แนะนำบริการต่าง ๆ ของ สสว. รวมถึงหน่วยงานภาคีเครือข่ายการส่งเสริม SME
🪪ลงทะเบียนเข้าร่วมงานแสดงตัวตนด้วยบัตรประชาชน และรับสิทธิประโยชน์มากมายภายในงาน
📱สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คุณธิรดา เบอร์โทรศัพท์ 090-499-6292 คุณสุทธิตา เบอร์โทรศัพท์ 093 546 6394
#สสว #เสริมศักยภาพ #เติมเต็มความรู้ #เพิ่มโอกาสเติบโตให้ธุรกิจ

ขอให้ผู้มีสิทธิที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ เร่...
28/11/2024

ขอให้ผู้มีสิทธิที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ เร่งผูกบัญชีพร้อมเพย์ แก้ไขสถานะของบัญชีรับเงิน หรือต่ออายุ/ทำบัตรประจำตัวคนพิการ
​​​​
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการจ่ายเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ (โครงการฯ)
ซึ่งมีผู้มีสิทธิได้รับเงิน 10,000 บาท ตามโครงการฯ รวมประมาณ 14.55 ล้านคน ว่า กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้ทำการจ่ายเงินในโครงการฯ มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 และจะมีการจ่ายเงินในรอบการจ่ายซ้ำ (Retry) ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นการจ่ายเงินครั้งสุดท้าย ในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 โดยเมื่อพ้นวันดังกล่าวจะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ อย่างไรก็ดี จากข้อมูลเมื่อวันที่
21 พฤศจิกายน 2567 พบว่า มีผู้ได้รับเงินแล้ว 14,437,625 ราย และยังมีผู้มีสิทธิที่ยังมีปัญหา 3 กลุ่ม รวมจำนวน 75,415 ราย ดังนี้
- กลุ่มที่ 1 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่ได้ยืนยันตัวตน (e-KYC) สำเร็จแล้วภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2565 แต่ยังจ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 39,399 ราย
- กลุ่มที่ 2 คนพิการตามฐานข้อมูลของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) และเมืองพัทยา ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 แต่ยังจ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 4,300 ราย
- กลุ่มที่ 3 คนพิการที่ยังไม่เคยสั่งจ่ายเงินให้ เนื่องจากยังไม่ได้ต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ทำบัตรประจำตัวคนพิการ หรือแก้ไขข้อมูลประจำตัวคนพิการให้ถูกต้อง จำนวน 31,716 ราย
โฆษกกระทรวงการคลังจึงขอประชาสัมพันธ์ถึงผู้มีสิทธิที่ยังไม่เคยได้รับเงินในรอบการจ่ายเงินที่ผ่านมาดำเนินการต่าง ๆ โดยด่วนเพื่อให้พร้อมรับเงินในการจ่ายเงินรอบสุดท้าย ดังนี้
- กลุ่มที่ 1 ให้เร่งผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน หรือกรณีที่เคยผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนไว้แล้ว ให้ติดต่อธนาคารเพื่อตรวจสอบว่า บัญชีดังกล่าวมีสถานะปกติที่จะใช้รับเงินได้หรือไม่และแก้ไขให้ถูกต้อง ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2567
- กลุ่มที่ 2 ให้เร่งผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน (กรณีไม่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ) ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 หรือตรวจสอบบัญชีเงินฝากที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการอยู่ว่า บัญชีดังกล่าวมีสถานะปกติที่จะใช้รับเงินได้หรือไม่และแก้ไขให้ถูกต้อง
- กลุ่มที่ 3 ให้เร่งต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ทำบัตรประจำตัวคนพิการ หรือแก้ไขข้อมูลประจำตัวคนพิการที่ศูนย์บริการคนพิการทั่วประเทศให้ถูกต้องตามเงื่อนไขของโครงการฯ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และขอให้ดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน (กรณีไม่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ) ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 หรือตรวจสอบบัญชีเงินฝากที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการว่า มีสถานะปกติที่จะใช้รับเงินได้หรือไม่และแก้ไขให้ถูกต้อง
สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นบุคคลล้มละลายหรือถูกพิทักษ์ทรัพย์ ให้ติดต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และดำเนินการเกี่ยวกับสถานะของบัญชีที่จะใช้รับเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2567
​​​
ช่องทางการติดต่อ:
1. ตรวจสอบสิทธิและผลการโอนเงิน: เว็บไซต์ https:// โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567 .cgd.go.th
(ตรวจสอบผลการโอนเงินได้ในวันถัดไปหลังจากวันที่จ่ายเงิน)
2. สอบถามข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ: ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทรศัพท์หมายเลข 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
3. สอบถามข้อมูลคนพิการ: ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
4. สอบถามข้อมูลบุคคลล้มละลายหรือถูกพิทักษ์ทรัพย์: โทรศัพท์หมายเลข 0 2881 4999 หรือสายด่วน 1111 กด 79

25/11/2024

“Premier League” ยืนยันเป็นทางการแล้ว “JAS” ได้สิทธิ์ 6 ฤดูกาล ใน 3 ประเทศเพียงผู้เดียว!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ - https://mono29.com/news/498972.html

#พรีเมียร์ลีก

สสว. เดินหน้าจัดกิจกรรม SME Academy On Tour ครั้งแรกที่หาดใหญ่หนุน SME เข้าถึงความรู้เทคโนโลยีดิจิทัลเมื่อวันที่ 11 พฤศจ...
13/11/2024

สสว. เดินหน้าจัดกิจกรรม SME Academy On Tour ครั้งแรกที่หาดใหญ่
หนุน SME เข้าถึงความรู้เทคโนโลยีดิจิทัล
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดกิจกรรม Roadshow "SME Academy On Tour" ภายใต้แนวคิด "เสริมศักยภาพ เติมเต็มความรู้ เพิ่มโอกาสเติบโตให้ธุรกิจด้วย SME Academy 365" โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่จังหวัดสงขลา ณ ห้องปารีส แกรนด์บอลรูม โรงแรมคริสตัล หาดใหญ่เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SME ในพื้นที่ภาคใต้
นายวรพจน์ ประสานพานิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สสว. ได้กล่าวว่า “สสว. ได้ให้ความสําคัญกับการเร่งสร้าง การเติบโตทางเศรษฐกิจในมิติต่าง ๆ โดยการพัฒนาและการสนับสนุนให้ SME สามารถเข้าถึงบริการภาครัฐ ในรูปแบบที่มีความหลากหลาย เพื่อสร้างรายได้ของธุรกิจให้ SME การมุ่งเน้น พัฒนาองค์ความรู้ในการประกอบกิจการ จึงเป็นประเด็นสําคัญในการขับเคลื่อนการส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น โดยมุ่งพัฒนาและสนับสนุนให้ SME เข้าถึงบริการภาครัฐได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนการให้บริการผ่าน Digital Platform อาทิ SME CONNEXT, SME ONE ID, SMEONE และ SME Academy 365”
ทั้งนี้เพื่อบรรลุประสงค์ของภารกิจ สสว. จึงได้จัดกิจกรรม Roadshow “SME Academy On Tour” ภายใต้แนวคิด “เสริมศักยภาพ เติมเต็มความรู้ เพิ่มโอกาสเติบโตให้ธุรกิจด้วย SME Academy 365” เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ที่จําเป็นต่อการดําเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ MSME และผู้สนใจทําธุรกิจ หรือ Pre-startup นําความรู้ไปสู่ผู้ประกอบการ SME โดยมีกลุ่มพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินการทั้วประเทศ จำนวน 12 ครั้งในภูมิภาคต่าง ๆ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ในพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดสงขลา เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลและองค์ความรู้ให้ SME สามารถเข้าถึงได้ง่าย และสามารถนําไปต่อยอดธุรกิจได้จริง” ภายในงานทางสสว.ได้นำกูรูลงพื้นที่ คุณซอฟ รษิกา พาณีวงศ์ มาถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านการสร้างแบรนด์ , คุณอภิรดี ชัยกิจอุราใจ จากเพจ Taxster ด้านภาษีธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีนักธุรกิจชั้นนำในจังหวัดสงขลา มาถ่ายทอดประสบการณ์ความสำเร็จ พร้อมสนุกกับกิจกรรม “Hands on Workshop” วิธีการ Live ขายของออนไลน์ กลยุทธ์เทคนิคการปั้นช่อง สร้างรายได้ ทั้งภาคทฤษฎีและปฎิบัติ และกิจกรรมไฮไลท์ภายในงาน กิจกรรม Facebook Live ขายออนไลน์ยังไงให้ปัง! กับแม่ค้าออนไลน์ ไลฟ์สดขายสินค้าโดยแขกรับเชิญพิเศษ โดยคุณภัทรวดี ปิ่นทอง (หนูเล็ก ก่อนบ่าย) ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความสนใจตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมจากผู้ประกอบการ SME กว่า 200 คน
สำหรับกิจกรรม Roadshow “SME Academy On Tour” จะจัดขึ้นทั่วประเทศ จำนวน 12 ครั้งในภูมิภาคต่าง ๆ โดยผู้ประกอบการ SME ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารการจัดกิจกรรมได้ที่ เว็บไซต์: www.sme.go.th
Facebook: OSMEP Thailand , Facebook : SMEAcademy365onTour และ Application: SME CONNEXT

📣🎉สสว. Kick Off กิจกรรม Roadshow "SME Academy On Tour ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดสงขลาเสริมศักยภาพ SME ส่งความปังข้ามปี เติมเต...
08/11/2024

📣🎉สสว. Kick Off กิจกรรม Roadshow "SME Academy On Tour ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดสงขลา
เสริมศักยภาพ SME ส่งความปังข้ามปี เติมเต็มความรู้ด้านธุรกิจถึงที่ งานดีที่ไม่ควรพลาด
พบกับ Session ที่จะต่อยอดธุรกิจให้สำเร็จจากกูรูด้านการตลาดและนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ 📈
🗓️ วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.00 น.
📌ณ ห้องประชุมห้องปารีส แกรนด์บอลรูม ชั้น 2 โรงแรมคริสตัล หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
📈“SME Academy on Stage"
📍หัวข้อ "Drive Thru Your Brand รวบ-ลัด-ปั้นแบรนด์" โดยคุณ รษิกา พาณีวงศ์ (ซอฟท์) ช่อง softpomz
📍หัวข้อ "เคล็ดลับเรื่องภาษี " โดย คุณอภิรดี ชัยกิจอุราใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เจ้าของเพจ Taxster
🏆"Wisdom of the Success" ถ่ายทอดภูมิปัญญาแห่งความสำเร็จ
📍คุณศุกล สองสี สถาปนิกนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์
📍คุณปฐมพงศ์ สิทธิสาร นักธุรกิจรุ่นใหม่ CEO Beastlab HatYai ,why not wine, Chumthangniaogai Hatyai
📍คุณจุฑารัตน์ ไลวานิช นักธุรกิจในพื้นที่และประธานสภาอุสาหกรรมจังหวัดปัตตานี
✍️"Hands on Workshop" เรียนรู้ด้านการตลาดออนไลน์
📍อาจารย์ยศ สอนไลฟ์ สุดยอดปรมาจารย์ด้าน TikTok Live
🎉ไฮไลท์เด็ดกับแขกรับเชิญพิเศษ แม่ค้าออนไลน์สุดปัง
คุณภัทรวดี ปิ่นทอง หรือ “คุณหนูเล็ก ก่อนบ่าย” จากนักแสดงสู่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
🛒กับกิจกรรม TikTok Live โดยจะนำสินค้าจากผู้ประกอบการที่ สสว.
ได้คัดสรรมาจำหน่ายในราคาพิเศษผ่านช่อง Facebook เพจ หนูเล็ก ก่อนบ่าย ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.7 ล้านคน และ Facebook เพจ SMEAcademy365onTour
📌กิจกรรม SME Clinic รับคำปรึกษาทางธุรกิจ โดยที่ปรึกษาจากระบบ SME Coach
📌ซุ้ม KIOSK ให้ความรู้แนะนำบริการต่าง ๆ ของ สสว. รวมถึงหน่วยงานภาคีเครือข่ายการส่งเสริม SME
🪪ลงทะเบียนเข้าร่วมงานแสดงตัวตนด้วยบัตรประชาชน และรับสิทธิประโยชน์มากมายภายในงาน
📱สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คุณธิรดา เบอร์โทรศัพท์ 090-499-6292 คุณสุทธิตา เบอร์โทรศัพท์ 093 546 6394
#สสว #เสริมศักยภาพ #เติมเต็มความรู้ #เพิ่มโอกาสเติบโตให้ธุรกิจ

09/09/2024

ขอเชิญรับชม 🔴 Live สด
งาน "แถลงผลงานรอบ 1 ปี กระทรวงพาณิชย์"
โดยรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จากห้องประชุมบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 กระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี

https://www.facebook.com/share/v/gsuwoN3Sf6mZXz4g/?mibextid=WC7FNe

ตรวจ จับ เข้มงวด รถควันดำ เสียงดัง ลดมพิษควันดำที่เกิดจากท่อไอเสียรถยนต์ดีเซลเต็มไปด้วยเหล่าสารพิษที่มีมากกว่า 100 ชนิด ...
23/08/2024

ตรวจ จับ เข้มงวด รถควันดำ เสียงดัง ลดมพิษ
ควันดำที่เกิดจากท่อไอเสียรถยนต์ดีเซลเต็มไปด้วยเหล่าสารพิษที่มีมากกว่า 100 ชนิด ซึ่งร้อยละ 90 ของควันดำมีขนาดเล็กกว่า 1 ไมครอน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5
หากแพร่กระจายเข้าระบบทางเดินหายใจเข้าสู่ถุงลมในปอดและกระแสเลือดโดยตรง จะส่งผลเสียต่อร่างกายก่อให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ ตามมา นอกจาควันดำแล้วการวัดระดับเสียงดังของรถที่ใช้งานให้อยู่ในกำหนดกฎหมาย ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลายฝ่ายต้องร่วมมือกันบริหารจัดการ เพื่อควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดมลพิษทางอากาศและทางเสียง จนส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ล่าสุดกรมควบคุมมลพิษ ร่วมมือกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ และกองบังคับการตำรวจจราจร
จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ประจำปี 2567 เพื่อเพิ่มศักยภาพการตรวจสอบตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำ การตรวจวัดระดับเสียงจากรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานของ บก.จร. และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 – 16 ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 โดยรถยนต์ที่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตรวจพบรถยนต์มีมลพิษหรือเสียงดังเกินค่ามาตรฐาน จะสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองนำรถไปแก้ไขปรับปรุงเครื่องยนต์อุปกรณ์เพื่อให้ควันดำหรือระดับเสียง มีค่าไม่เกินมาตรฐาน และต้องนำรถมาให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หากไม่ได้นำรถกลับมาตรวจสอบภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ถูกคำสั่ง ถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 65 มีโทษตามมาตรา 102 ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
การตรวจวัดระดับเสียง ทางสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ได้พัฒนาเครื่องมือและซอฟต์แวร์
เครื่องตรวจวัดระดับเสียงจากยานพาหนะ และนำมาใช้งานจริง เพื่อให้การปฏิบัติงานตรวจสอบตรวจวัดรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถวิเคราะห์ ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ มีระบบการตรวจสอบย้อนกลับของข้อมูลที่ตรวจวัดได้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีร้องเรียนเรื่องรถยนต์และจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ดัดแปลงสภาพ ทำให้เกิดมลพิษ
ทางเสียงสร้างความเดือดร้อนรำคาญกับประชาชน โดยกรมควบคุมมลพิษได้ร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร เพิ่มความเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย ตั้งจุดกวดขันจับกุมบริเวณที่มีการร้องเรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยใช้เครื่องวัดระดับเสียงจากยานพาหนะที่สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ พัฒนาขึ้น สามารถอ่านค่าระดับเสียงแบบอัตโนมัติตามรอบของเครื่องยนต์ของรถแต่ละคันตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้การบังคับใช้กฎหมายมีความโปร่งใส เป็นธรรม และลดข้อโต้แย้งในการปฏิบัติ ซึ่งผลการจับกุมรถที่มีค่าเสียงเกินเกณฑ์
ที่กำหนด ระหว่างเดือนมิถุนายน 2567 จนถึงปัจจุบัน จับกุมรถยนต์ 19 คัน รถจักรยานยนต์ 225 คัน
ซึ่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 อัตราโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท และเจ้าหน้าที่จะออกคำสั่งห้ามใช้รถชั่วคราว ติดสติ๊กเกอร์เครื่องหมายคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราวไว้ที่ตัวรถ ให้นำไปปรับปรุงแก้ไขท่อไอเสีย จากจำนวน ที่จับกุม 244 คัน แก้ไขแล้ว 115 คัน (ร้อยละ 47) ผลจากการปฏิบัติ ทำให้ลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้เป็นอย่างดี
สำหรับการตรวจสอบตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำ กรมควบคุมมลพิษมีการบูรณาการร่วมกับ กองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก และ กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 -
31 กรกฎาคม 2567 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เรียกรถตรวจสอบทั้งหมด 103,349 คัน เป็นรถตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 จำนวน 54,949 คัน และรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์
พ.ศ. 2522 จำนวน 48,400 คัน พบรถยนต์ควันดำเกินมาตรฐานและออกคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะ จำนวน 1,023 คัน แก้ไขแล้ว 514 คัน (ร้อยละ 50) พื้นที่ต่างจังหวัด สำนักงานขนส่งจังหวัด ตรวจทั้งหมด 79,809 คัน เป็นรถตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 จำนวน 74,441 คัน และรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 จำนวน 5,368 คัน พบรถยนต์ควันดำเกินมาตรฐานและออกคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะ จำนวน 1,333 คัน แก้ไขแล้ว 921 คัน (ร้อยละ 69)
จะเห็นว่าการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษจากควันดำและเสียงดังเกินมาตรฐาน ดำเนินการ
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากประชาชนผู้ใช้รถช่วยกันหมั่นตรวจสภาพการใช้งานสม่ำเสมอ ในระยะยาวคงทำให้ฝุ่น PM2.5 ต้นเหตุปัญหามลพิษทางอากาศรวมถึงมลพิษทางเสียงลดลงไปได้ ซึ่งจะช่วยปกป้องระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมไม่ให้ถูกทำร้ายไปมากกว่านี้

21/08/2024

รัฐบาล "อุ๊งอิ๊ง" ลุยต่อ ดิจิทัลวอลเล็ตไม่แท้ง ปรับเงื่อนไขให้กลุ่มเปราะบางก่อน ภายใต้วงเงิน 1.22 แสนล้าน แจกเป็นเงินสด จ่อผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000076961

#คุยทุกเรื่องกับสนธิ

📢 สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ขอเชิญเข้าร่วมการฝึกอบรมเพื่อยกระดับสมรรถนะประชากรดิจิทั...
12/08/2024

📢 สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.)
ขอเชิญเข้าร่วมการฝึกอบรมเพื่อยกระดับสมรรถนะประชากรดิจิทัล Thailand - Digital Citizen
เรียนรู้กับ 20 เนื้อหาพัฒนาสมรรถนะด้านดิจิทัล เรียนรู้ด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์หรือศูนย์ดิจิทัลชุมชนทั่วประเทศ
เพื่อพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัลระดับพื้นที่ให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล
📍ครั้งที่ 1 วันที่ 13 สิงหาคม 2567 🕖 เวลา 08.30–16.30 น.
หลักสูตร หลักสูตร การเสริมสร้างความฉลาดทางดิจิทัล (Boosting Digital Intelligence)
วิทยากร อาจารย์ยุทธพงศ์ อุณหทวีทรัพย์
📌โดยผ่านช่องทาง ดังนี้
🖥️รูปแบบออนไลน์ผ่านระบบการประชุมทางไกล Zoom
•Link: https://shorturl.at/o7mre
🖥️และช่องทาง Live Streaming
🟦 Facebook : Digital Citizen By ONDE
Link : https://shorturl.at/rBXHv
🟥 YouTube : Digital Citizen By ONDE
Link : https://shorturl.at/93Aai
📌ทางโครงการมีเกียรติบัตรมอบให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรม โดยดำเนินการ ดังนี้
☑️ทำแบบทดสอบความรู้ก่อน-หลังอบรม Pre-test-Post-test
☑️ทำแบบประเมินความพึงพอใจ
📌ผู้เข้าอบรมลุ้นรับรางวัล หากทำแบบประเมินสมรรถนะดิจิทัล Digital-CT : ondedigitalct.com
โดยดำเนินการ ดังนี้
1. เข้าเรียนรู้อย่างน้อย 1 ครั้ง
2. ดำเนินการทำแบบประเมินสมรรถนะดิจิทัล Digital-CT : ondedigitalct.com
👉🏻 ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
📱line : https://bit.ly/mil67-support
💻 https://bit.ly/mil2567

07/08/2024

ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรค

#พรรคก้าวไกล #ยุบพรรคก้าวไกล #ม112 #ศาลรัฐธรรมนูญ #เรื่องข่าวเรื่องใหญ่

06/07/2024

เกิดเหตุไฟไหม้ภายในชุมชนตรอกโพธิ์ ถนนเยาวราช แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ กทม. เจ้าหน้าที่เร่งระงับเหตุ ต้นเพลิ...

กรมทะเล จับมือเครื่องสำอางมิสทิน ลุยพื้นที่เกาะเต่าดึงเครือข่ายชาวสุราษฎร์ฯร่วมกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะฟื้นฟูแนวปะการัง รักษา...
06/07/2024

กรมทะเล จับมือเครื่องสำอางมิสทิน ลุยพื้นที่เกาะเต่าดึงเครือข่ายชาวสุราษฎร์ฯ
ร่วมกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะฟื้นฟูแนวปะการัง รักษาระบบนิเวศท้องทะเลไทยให้ยั่งยืน
วันที่ 6 กรกฎาคม 2567 นายชิดชนก สุขมงคล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นประธานเปิดโครงการมิสทินร่วมใจรักษ์ฟื้นฟูแนวปะการังแหล่งท่องเที่ยวของไทย ครั้งที่ 2/2567 (กิจกรรมฟื้นฟูปะการังโดยการดำน้ำเก็บขยะบริเวณแนวปะการัง) ภายใต้โครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยมีคุณดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด นายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และกำหนดมาตรการจัดการทรัพยากรทางทะเล คุณปราการ สท้านโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด และนายวัชรินทร์ ฟ้าสิริพร นายกเทศมนตรีตำบลเกาะเต่า ตลอดจนคณะผู้บริหารจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (มิสทิน) ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชมชน ภาคเอกชน ตำรวจภูธรภาค 8 นักท่องเที่ยว นักดำน้ำจิตอาสาทั้งในและนอกพื้นที่ ผู้แทนชุมชนประมงพื้นบ้านเกาะเต่า ผู้ประกอบการ ในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรม ณ บริเวณอ่าวลึก ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ภายหลังจากพิธีเปิดนายชิดชนก สุขมงคล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความร่วมมือในการจัดกิจกรรมดังกล่าวว่า ปัญหาแนวปะการังเสื่อมโทรมและการเพิ่มปริมาณของขยะทะเล นับเป็นปัญหาระดับประเทศ รวมไปถึงช่วงนี้เกิดสถานการณ์ปะการังฟอกขาวทั่วประเทศและต่อไปมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องทุกปียากแก่การแก้ไข กรม ทช. ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังของประเทศไทย เพื่อใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนและเน้นการทำงานแบบมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ เครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ อาสาสมัครและผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะช่วยปะการังให้รอดพ้นจากวิกฤตที่เกิดขึ้น ดังนั้น การจัดกิจกรรมฟื้นฟูปะการังโดยการดำน้ำเก็บขยะบริเวณแนวปะการัง ภายใต้โครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา สอดคล้องกับภารกิจสำคัญของกรม ทช. ที่ต้องเร่งหาทางฟื้นฟูปะการังและแก้ไขปัญหาปะการังฟอกขาว รวมถึงการลดขยะที่ปกคลุมปะการัง ลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังอันเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยปะการังได้ อีกทั้งยังเป็นโครงการที่กรม ทช. ได้เสนอให้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมสนองพระดำริภายใต้โครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยฯ ที่พระองค์ทรงห่วงใยปัญหาความเสื่อมโทรมของแนวปะการัง อยากเห็นทุกฝ่ายร่วมมือกันอนุรักษ์แนวปะการังของไทย ที่ผ่านมากรม ทช. และบริษัท มิสทิน ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการยกเลิกการใช้สารที่เป็นอันตรายต่อปะการังในผลิตภัณฑ์กันแดด เพื่อรักษาแนวปะการังและสิ่งแวดล้อมทางทะเล โดยงดการผลิตและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตราย อีกทั้งมีความปลอดภัยทั้งต่อผู้บริโภค ปะการัง และสิ่งแวดล้อมทางทะเล ช่วยอนุรักษ์ฟื้นฟูแนวปะการังและส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนให้มีส่วนร่วมในการดูแลแหล่งท่องเที่ยวตามแนวปะการังของประเทศไทยในพื้นที่ต่างๆ สู่สายตาชาวโลก
นายชิดชนก รองอทช. กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาที่มีการดำเนินงานร่วมกันภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กรม ทช. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและแนวปะการัง จึงมอบหมายให้กองอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล โดยส่วนอนุรักษ์และกำหนดมาตรการจัดการทรัพยากรทางทะเล ร่วมกับบริษัท มิสทิน จัดกิจกรรมอนุรักษ์และฟื้นฟูแนวปะการังขึ้น ภายใต้ชื่อโครงการ “มิสทินร่วมใจรักษ์ฟื้นฟูแนวปะการังแหล่งท่องเที่ยวของไทย” ซึ่งมีเป้าหมายจัดกิจกรรมฟื้นฟูและเก็บขยะบริเวณแนวปะการังใน 3 พื้นที่ ได้แก่ เกาะราชาใหญ่ จ.ภูเก็ต เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี และเกาะล้าน จ.ชลบุรี โดยครั้งนี้ได้กำหนดจัดกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะบริเวณแนวปะการังในพื้นที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจาก
เกาะเต่าเป็นแหล่งผลิตดำน้ำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีแนวปะการังที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ รวมถึงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลน้อยใหญ่ ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 7 กรกฎาคม 2567 โดยภายในงานได้มีกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะบริเวณแนวปะการัง การมอบเงินโครงการสนับสนุนส่งเสริมศักยภาพของเครือข่ายอาสาสมัครดำน้ำและชุมชนชายฝั่งในการอนุรักษ์ฟื้นฟูปะการังให้แก่เครือข่ายชุมชนชายฝั่ง พื้นเกาะราชาใหญ่ จ.ภูเก็ต และเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี จากมูลนิธิดร.อมรเทพ ดีโรจนวงศ์ รวมจำนวน 200,000 บาท การมอบอุปกรณ์เก็บขยะ เสื้อปฏิบัติการใต้น้ำผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดมิสทินให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมและนักดำน้ำอาสาสมัคร การมอบป้ายสนับสนุนโครงการชมรมครูสอนดำน้ำคนไทยและชุมชนชายฝั่ง จ.สุราษฎร์ธานี กิจกรรมฟื้นฟูปะการังโดยการดำน้ำเก็บขยะ และกิจกรรมเข้าเรียนรู้บริเวณศูนย์การเรียนรู้รักษ์แบนเกาะเต่าที่ปันรักษ์ฟาร์ม เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กรม ทช. ต้องขอขอบคุณ บริษัท มิสทิน ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรทางทะเล และให้การสนับสนุนในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ อีกทั้งขอบคุณผู้ประกอบการ นักดำน้ำอาสาสมัครทุกท่านที่มาร่วมกันพิทักษ์รักษาทะเล สร้างจิตสำนึกในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูแนวปะการัง และ
ที่สำคัญต้องขอความร่วมมือให้ช่วยกันลดผลกระทบต่อระบบนิเวศแนวปะการังของไทย ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก ลดการใช้ครีมกันแดดที่มีสารอันตรายต่อแนวปะการัง ตลอดจนช่วยกันเป็นหูเป็นตาแทนเจ้าหน้าที่ในการดูแลทรัพยากรทางทะเล ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวดำน้ำที่จะทำร้ายแนวปะการัง และการทำประมงผิดกฎหมายในบริเวณพื้นที่แนวปะการัง ดังนั้นหากพบเจอการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายให้รีบแจ้งไปยังสายด่วนพิทักษ์ป่า และรักษาทะเล โทร. 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบได้ทันท่วงที
ด้าน คุณปราการ สท้านโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในนามผู้ผลิตเครื่องสำอางมิสทิน รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล โดยเฉพาะระบบนิเวศปะการังอันเป็นทรัพยากรสิ่งมีชีวิตชายฝั่งที่มีความสำคัญต่อความหลากหลายทางชีวภาพของท้องทะเล เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอนุบาลของสัตว์น้ำนานาชนิด โดยที่ผ่านมาบริษัท มิสทิน ได้ร่วมกับกรม ทช. จัดกิจกรรมฟื้นฟูปะการังโดยการดำน้ำเก็บขยะบริเวณแนวปะการังขึ้นเป็นครั้งแรกที่เกาะราชาใหญ่ จ.ภูเก็ต และในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ลงพื้นที่มาจัดกิจกรรมที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมกันรณรงค์และประชาสัมพันธ์ในการสนับสนุนกฎหมายไม่ใช้สารต้องห้ามในครีมกันแดดที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่แนวปะการังของไทย สำหรับกิจกรรมในวันนี้ บริษัท มิสทิน ได้ร่วมสนับสนุนงบประมาณ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากบริษัท มิสทิน ประเทศไทย บริษัท มิสทิน ประเทศจีน และมูลนิธิ ดร. อมรเทพ ดีโรจนวงศ์ อีกทั้งยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์กันแดด กำลังพล อุปกรณ์เก็บขยะ เสื้อปฏิบัติการดำน้ำให้กับกรม ทช. ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่โครงการทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน ให้ตระ

13/06/2024

ตำรวจน้ำงานเข้า! เรือของกลางคดีน้ำมันเถื่อนหายปริศนาคืนเดียว 3 ลำ พร้อมน้ำมัน 3.3 แสนลิตร ขณะจอดเก็บไว้ที่สถานีตำรวจน้ำสัตหีบ
เมื่อวานนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อมีเรือของกลางลักลอบขนน้ำมันเถื่อน 3 ลำ หายไปจากสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จากเรือของกลางทั้งหมด 5 ลำ ที่ถูกตำรวจ ปอศ. (กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. ) จับกุมได้ที่กลางทะเล เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 67
ระหว่างดำเนินคดี ตำรวจเอาเรือของกลาง 5 ลำ มาจอดเทียบท่ายังจุดนี้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 มี.ค.67 โดยเรือทั้ง 3 ลำ ที่หายไป ประกอบด้วย เรือ เจ.พี. พร้อมของกลางน้ำมันเถื่อนประมาณ 80,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ 7 คน เรือซีฮอต พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 150,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ 6 คน และเรือดาวรุ่ง พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 100,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ 5 คน
ตอนแรก เรือทั้ง 3 ลำ จอดทิ้งสมอ อยู่บริเวณหัวสะพานท่าเทียบเรือ ส่วนอีก 2 ลำ จอดอยู่ด้านข้างสะพานฝั่งละลำ
แต่วันที่ 9 มิ.ย. มีพายุเข้ามีกระแสลมแรง เกรงว่าสะพานไม่สามารถรองรับน้ำหนักเรือ 3 ลำที่จอดอยู่หัวสะพานได้ จึงให้เรือ ออก ลอยลำทิ้งสมอในระยะปลอดภัยห่างไป 100 เมตร (ส่วนอีก 2 ลำจอดที่เดิม)
โดยตำรวจที่เข้าเวร บอกว่า 2 ทุ่มวันที่ 11 มิ.ย. 67 ยังมองเห็นเรือเปิดไฟ พอช่วง 4 ทุ่ม เรือดับไฟลง กระทั่งช่วงเช้า (6.00 น.) วันที่ 12 มิ.ย. กลับพบว่าเรือหายไปแล้ว
หลังทราบเรื่อง ตำรวจน้ำสัตหีบ นำเรือตรวจการณ์ 815 และเรือตรวจการณ์ 632 ออกค้นหา - แต่ยังไม่พบ โดยตำรวจน้ำ ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สัตหีบ แล้ว
มีรายงานว่า เรือทั้ง 3 ลำ เป็นเครือข่ายของ “โจ้ น้ำมันเถื่อน” หรือ “โจ้ ปัตตานี” ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ในภาคใต้ ที่หลบหนีคดีน้ำมันเถื่อนอยู่ในต่างประเทศ
ล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะลงพื้นที่ด้วยตัวเองช่วงบ่ายวันนี้

#เรือน้ำมันเถื่อนหาย #สัตหีบ #เรือน้ำมันหาย #ไทยรัฐนิวส์โชว์

13/06/2024

กรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า ยังไม่เปิดตลาดโซนขายสัตว์เลี้ยงตลาดนัดจตุจักร หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ ยืนยันต้องทำระบบขึ้นทะเบียนสัตว์รอขายใหม่ทั้งหมด ขณะที่ประเมินตัวเลขสัตว์ตายกว่า 5 พันตัว เยียวยา ผู้ค้าได้รายละ 11,400 บาท

อ่านข่าว : https://www.thaipbs.or.th/news/content/340971

#กรุงเทพมหานคร #ไฟไหม้ตลาดนัดจตุจักร #ไฟไหม้ #ไฟไหม้จตุจักร #ข่าวไทยพีบีเอส #ข่าวที่คุณวางใจ

กรมทะเล จับมือ เชฟรอน เปิดตัวแอปพลิเคชั่น “Marine Warning”ระบบเตือนภัยท่องเที่ยวทางทะเล พร้อมกันทั้ง 10 พื้นที่ชายฝั่งทะ...
08/06/2024

กรมทะเล จับมือ เชฟรอน เปิดตัวแอปพลิเคชั่น “Marine Warning”
ระบบเตือนภัยท่องเที่ยวทางทะเล พร้อมกันทั้ง 10 พื้นที่ชายฝั่งทะเล
ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า เนื่องในวันที่ 8 มิถุนายน เป็นวันทะเลโลก ในปีนี้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจัดกิจกรรมขึ้นโดยจะมีกิจกรรมหลักที่ Sea Life Bangkok Ocean World สยามพารากอน กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด “Awaken New Depths ปลุกกระแส แก้วิกฤตมหาสมุทร” พร้อมเปิดตัวแอปพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า “Marine Warning” ระบบเตือนภัยท่องเที่ยวทางทะเล ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นแจ้งเตือนภัยบริเวณอาจเกิดภัยพิบัติขึ้นได้ รวมถึงข้อปฏิบัติเมื่อเผชิญเหตุพร้อมวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อได้รับบาดเจ็บจากแมงกะพรุนพิษและภัยทางทะเลอื่นๆ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กับบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ที่นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผ่านการทำงานของระบบเตือนภัยท่องเที่ยวทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นจากการท่องเที่ยว รวมทั้งติดตาม ตรวจสอบ เฝ้าระวัง และรายงานสถานการณ์ด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางทะเล และเพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจในการเป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ตามนโยบายของพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ต้องการให้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพในการ
เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล โดยให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสามารถเช็คข้อมูลสถานการณ์เพื่อวางแผนเส้นทางท่องเที่ยวทางทะเลให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Marine Warning Application on Mobile ระบบเตือนภัยท่องเที่ยวทางทะเล (Marine Tourism Warning System) ยังเป็นระบบแจ้งเตือนภัยนักท่องเที่ยวหรือประชาชนในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ ในการเฝ้าระวังและรวบรวมสถิติการเกิดปรากฏการณ์ภัยทางทะเล เช่น แมงกะพรุนพิษ น้ำทะเลเปลี่ยนสี คลื่นย้อนกลับ ปัญหาคราบน้ำมัน และการกัดเซาะชายฝั่งในรูปแบบ Web Application และ Mobile Application โดยมีเมนูการใช้งาน ประกอบด้วยแสดงจุดเตือนภัยตามพิกัดที่เกิดเหตุในรัศมีที่กำหนด ระบบแจ้งเตือนบนมือถือระหว่างที่ application ทำงาน พร้อมให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับภัยพิบัติทางทะเลและชายฝั่งทั้ง 5 เหตุการณ์ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดตัวแอปพลิเคชั่น Marine Warning ตนเชื่อมั่นว่า จะเป็นประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยว เครือข่ายชุมชนชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ในการรับรู้ช่องทางเพื่อที่จะวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวหรือรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อลดการบาดเจ็บและสูญเสีย อีกทั้งสามารถรับทราบสถานการณ์ทางทะเลและชายฝั่งได้ง่ายขึ้น ตลอดจนป้องกันตนเองจากภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงทีอีกด้วย “ดร.ปิ่นสักก์ กล่าว”
นายชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า เชฟรอนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุนกรม ทช. ในการพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยท่องเที่ยวทางทะเล (Marine Tourism Warning System) เพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้เข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์
อย่างทันท่วงที ที่ผ่านมา เราได้ประสานความร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยส่งทีมงานด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ ร่วมหาแนวทางในการพัฒนาระบบ ที่ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย โดยแอปพลิเคชั่นนี้มีระบบแจ้งเตือนภัยทางทะเลในกรณีต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีระบบรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ข้อควรระวัง รวมถึงแนวทางรับมือและการปฐมพยาบาล ตลอดจนองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ทางทะเล ซึ่งการสนับสนุนในครั้งนี้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของเชฟรอน ในฐานะบริษัทพลังงานที่มุ่งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่งต่อชุมชนและบุคลากร รวมถึงปกป้องสิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานในประเทศไทยมากว่า 6 ทศวรรษ

หยุดทะเลเดือด! “พัชรวาท” ปลุกกระแส แก้วิกฤตมหาสมุทร ในวันทะเลโลก ผนึกพลังคนรุ่นใหม่ร่วมกันรักษาทะเลไทยวันที่ 8 มิ.ย.ที่ส...
08/06/2024

หยุดทะเลเดือด! “พัชรวาท” ปลุกกระแส แก้วิกฤตมหาสมุทร ในวันทะเลโลก ผนึกพลังคนรุ่นใหม่ร่วมกันรักษาทะเลไทย
วันที่ 8 มิ.ย.ที่สยามพารากอน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เดินทางมาเป็นประธานเปิดกิจกรรมวันทะเลโลก ประจำปี พ.ศ. 2567 ที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “Awaken New Depths” หรือ "ปลุกกระแส แก้วิกฤตมหาสมุทร" เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนชาวไทยทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของท้องทะเล ซึ่งในปีนี้ กรม ทช. ได้จัดกิจกรรมวันทะเลโลกขึ้น ณ Sea Life Bangkok ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยมี ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และคณะผู้บริหารระดับสูง ผู้นำองค์กร ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชุมชนชายฝั่ง อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล เข้าร่วม
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า วันทะเลโลกในปีนี้ ทั่วโลกได้ร่วมกันจัดกิจกรรมในการดูแลรักษาทะเลและมหาสมุทรอย่างพร้อมเพรียง เพื่อกระตุ้นเตือนและให้ตระหนักถึงสถานการณ์ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น ส่งผลต่อทะเลและมหาสมุทรทั่วโลก ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีผลกระทบกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาในฐานะผู้นำองค์กรได้กำกับดูแลภารกิจด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ทรัพยากรทางทะเลและป่าชายเลน อย่างใกล้ชิด พร้อมผลักดันมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู รวมถึงปกป้องทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยยึดหลักการบูรณาการความร่วมมือของภาคีเครือข่าย และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับพี่น้องประชาชนเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งในการคุ้มครอง ดูแลรักษา และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้คงความสมบูรณ์และยั่งยืน “วันนี้อยากขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เป็นพลังสำคัญของประเทศ ให้นำเอาวันทะเลโลกเป็นจุดเริ่มต้นอีกวันหนึ่งที่จะร่วมกันอนุรักษ์และดูแลท้องทะเลไทย พร้อมปลูกฝังให้เยาวชนรุ่นต่อ ๆ ไป ได้รู้จักคุณค่าและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ ก็จะทำให้ทะเลของบ้านเรามีความสวยงามและมีสิ่งแวดล้อมที่ดีตลอดไป” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว
ดร.ปิ่นสักก์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ทะเลทั่วโลกเผชิญกับวิกฤตหนักที่สุด เนื่องจากสภาวะโลกร้อนที่ส่งผลให้อุณหภูมิของน้ำในทะเลและมหาสมุทรสูงขึ้นอย่างผิดปกติในรอบ 40 ปี หรือที่เรียกว่าทะเลเดือด ซึ่งกำลังส่งผลกระทบกับสรรพสิ่งในทะเล และจะกระทบต่อมนุษยชาติในปัจจุบันและอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาวะทะเลเดือดนี้ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อทรัพยากรปะการังและแหล่งหญ้าทะเลทั่วโลก ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่สำคัญต่อสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดในทะเลและเป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ โดยที่ผ่านมากรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ดำเนินตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยการส่งเสริมการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล นำเอาประชาชนทั่วประเทศเข้ามามีบทบาทในการปกป้อง คุ้มครอง ดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศไทย ในปัจจุบัน กรมฯ มีสมาชิกเครือข่ายชุมชนชายฝั่งกว่า 710 ชุมชน อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล 47,860 คน นับเป็นกำลังสำคัญต่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมทางทะเล เพื่อร่วมกันสอดส่องดูแลระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งให้มีความสมบูรณ์ยั่งยืนสืบไป
นอกจากนี้ ทช. ยังได้จัดกิจกรรมวันทะเลโลก อีก 10 แห่ง ตามสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ประชาชนสามารถร่วมทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ การเก็บขยะชายหาด รณรงค์ชายหาดปลอดพลาสติก การรณรงค์อนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก ชมนิทรรศการวันทะเลโลก เป็นต้น เพื่อกระตุ้นเตือนความสำคัญของท้องทะเล ที่ต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน

#วันทะเลโลก #กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ที่อยู่

Ban Banlang
10110

เบอร์โทรศัพท์

+66614157806

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ FYIThailand Channelผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง FYIThailand Channel:

แชร์