คัดข่าว

คัดข่าว คัดมาให้อ่าน

รมว กลาโหมสหรัฐฯเรียกตัวนายพลหลายร้อยนายประชุมลับด่วนโดยไร้เหตุผลชัดเจน – รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ พีท เฮกเซธ ออกคำสั่งฉุกเฉิ...
25/09/2025

รมว กลาโหมสหรัฐฯเรียกตัวนายพลหลายร้อยนายประชุมลับด่วนโดยไร้เหตุผลชัดเจน

– รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ พีท เฮกเซธ ออกคำสั่งฉุกเฉินเรียกนายพลและนายพลเรือ กว่า 800 นายจากทั่วโลกให้เข้าร่วมประชุมลับที่ฐานทัพนาวิกโยธินควอนติโก รัฐเวอร์จิเนีย วันอังคารที่ 30 กันยายนนี้ โดยไม่ระบุวาระหรือเหตุผล สร้างความสับสนและกังวลในหมู่ผู้นำทหารระดับสูง ท่ามกลางกระแสข่าวการปฏิรูประบบกลาโหมครั้งใหญ่ของรัฐบาลทรัมป์

ตามรายงานของวอชิงตันโพสต์ คำสั่งนี้ครอบคลุมนายทหารระดับ brigadier general ขึ้นไปจากทุกเหล่าทัพ รวมถึงผู้ประจำการในกว่า 50 ประเทศ เช่น ยูเครนและตะวันออกกลาง แหล่งข่าวในเพนตากอนเรียกการประชุมนี้ว่า "ผิดปกติอย่างยิ่ง" เนื่องจากไม่เคยมีการเรียกนายทหารจำนวนมากแบบกะทันหันและลับสุดยอดเช่นนี้ โฆษกเพนตากอน ชอน พาร์เนลล์ ยืนยันว่ารัฐมนตรีจะกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้นำทหาร แต่ปฏิเสธให้รายละเอียด แม้แต่คณะเสนาธิการร่วมยังไม่ทราบวาระ แหล่งข่าวระบุว่า การรวมตัวนายทหารในที่เดียวอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัยและช่องโหว่ด้านความมั่นคง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังเฮกเซธ ซึ่งได้รับฉายา "รัฐมนตรีสงคราม" จากประธานาธิบดีทรัมป์ ผลักดันปฏิรูปกลาโหม โดยปลดนายทหารอาวุโสกว่า 100 นาย และลดจำนวนนายพล 20% สำหรับระดับ 4 ดาว เพื่อ "ตัดโครงสร้างซ้ำซ้อน" นักวิเคราะห์จาก RAND Corporation คาดว่าการประชุมอาจเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์กลาโหมฉบับใหม่ ที่เน้น "ป้องกันแผ่นดินเกิด" มากกว่าการแข่งขันกับจีน หรืออาจลดบทบาทในยูเครนตามนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" โดยทรัมป์เพิ่งประกาศให้ NATO รับผิดชอบการส่งอาวุธให้ยูเครนมากขึ้น

บนแพลตฟอร์ม X ข่าวนี้จุดกระแสวิจารณ์ ผู้ใช้ ระบุว่า "การประชุมลับนี้น่ากลัวและน่าสงสัย" ขณะที่ โพสต์ว่า "ไม่มีเหตุผลอย่างเป็นทางการ" สร้างยอดวิวเกือบ 11,000 ครั้ง บางโพสต์เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ล่าสุด เช่น การโจมตีเรือกลุ่มกบฏในเวเนซุเอลา ซึ่งเฮกเซธสั่งโดยไม่มีการพิจารณาคดี ถูกวิจารณ์ว่า "ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ"

เฮกเซธ อดีตพิธีกรฟ็อกซ์นิวส์และทหารผ่านศึก ถูกเดโมแครตวิจารณ์ว่าขาดคุณสมบัติทางยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะหลังสนับสนุนการชุมนุม 6 มกราคม 2564 ผู้เชี่ยวชาญจาก Council on Foreign Relations เตือนว่าการประชุมนี้อาจนำไปสู่ความขัดแย้งภายในกองทัพ หากมีการลดกำลังพลเพิ่ม หรือผลักดันนโยบายเช่น "พระราชบัญญัติปราบกบฏ" ซึ่งอาจใช้ควบคุมสถานการณ์ภายใน สถานการณ์นี้ทวีความตึงเครียด ท่ามกลางสงครามยูเครนและความท้าทายจากจีนและรัสเซีย

26 กันยายน 2568 : คัดข่าว,หาดใหญ่

ที่มา: The Washington Post, Mediaite, The New Republic, HuffPost, Daily Mail, Reuters, RAND Corporation, Council on Foreign Relations, X posts (, , , , )

น้องทหารเขมร  ที่น้องกินตับขู่ทหารไทยน้องรู้ไหมกินตับในสำนวนไทยหมายถึงอะไร?แล้ว... น้องเป็นปอบเหรอ?
25/09/2025

น้องทหารเขมร ที่น้องกินตับขู่ทหารไทย

น้องรู้ไหมกินตับในสำนวนไทยหมายถึงอะไร?
แล้ว... น้องเป็นปอบเหรอ?

เออจริง
25/09/2025

เออจริง

อันวาร์ “อ้างคุยทรัมป์” กดดันไทย-กัมพูชาหยุดยิงชายแดน – ตัวกลางจริงหรือวาทกรรมเพื่อเครดิต? 25 กันยายน 2568 – นายกรัฐมนตร...
25/09/2025

อันวาร์ “อ้างคุยทรัมป์” กดดันไทย-กัมพูชาหยุดยิงชายแดน – ตัวกลางจริงหรือวาทกรรมเพื่อเครดิต?

25 กันยายน 2568 – นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย ออกโรงอ้างผ่าน FB เป็นทางการของเขาว่าได้สนทนากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และกำลังดำเนินการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยหยุดยิงระหว่างไทย-กัมพูชา ท่ามกลางวิกฤตชายแดนที่ปิดด่าน 7 แห่งตั้งแต่มิถุนายน ส่งผลให้การค้าหดตัว 40% และกัมพูชา

โดยสร้างความรู้สึก “ไม่กลาง” ในหมู่คนไทยที่มองว่าอันวาร์เอียงเข้าข้างกัมพูชา “จนน่าเกลียด” และนี่คือ “เกมเครดิต” เพื่อภาพลักษณ์ประธานอาเซียนปี 2568 มากกว่าการไกล่เกลี่ยจริงจัง

JBC สัปดาห์หน้าจะพิสูจน์ว่าเป็นตัวกลางจริงหรือแค่เกมเครดิตให้ตัวเอง

25 กันยายน 2568 : คัดข่าว, หาดใหญ่

ที่มา : https://www.facebook.com/anwaribrahimofficial

นักศึกษา ป.เอก จีนกิน “อาหารแมว” สู้ค่าครองชีพสวิส – ประเทศค่าครองชีพที่แพงสุดในยุโรปข้อมูลจาก Douyin (TikTok จีน) และ W...
25/09/2025

นักศึกษา ป.เอก จีนกิน “อาหารแมว” สู้ค่าครองชีพสวิส – ประเทศค่าครองชีพที่แพงสุดในยุโรป

ข้อมูลจาก Douyin (TikTok จีน) และ Weibo (22 ก.ย.) ระบุว่า จางนักศึกษาปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยซูริค (University of Zurich) โพสต์วิดีโอบล็อกชีวิตประหยัดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยเล่าว่าค่าครองชีพสวิสสูงลิ่ว (เช่าห้อง 800 ฟรังก์, อาหาร 400 ฟรังก์) ทำให้เขาเลือกอาหารแมว “Whiskas” ถุงละ 3 กิโลกรัม (โปรตีน 32%, ไขมัน 12%, คาร์โบไฮเดรต 50%) เพราะ “ราคาถูกกว่าปลาทูน่ากระป๋อง 2 เท่า” และ “มีส่วนผสมบำรุงขนที่ช่วยผม” เขายังแนะนำ “กินคู่ถั่วลิสงเพื่อเพิ่มโปรตีนและกลบกลิ่น” วิดีโอนี้มียอดวิว 10 ล้านครั้งและคอมเมนต์ 500,000 รายการ

จางยืนยันว่า “ไม่ใช่ทุกวัน แต่ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อประหยัด” และยังบริจาคเลือดเพื่อแลก “บุฟเฟต์ฟรี” (อาหารและน้ำผลไม้หลังบริจาค) ซึ่งในสวิสให้ทุก 8 สัปดาห์

จางเล่าว่าอาหารแมวถุงละ 3 กิโลกรัมราคา 4 ฟรังก์มีโปรตีน 32% ถูกกว่าปลาทูน่ากระป๋อง และ “ปลอดภัยเพราะผ่านมาตรฐาน EU” แม้ผู้เชี่ยวชาญโภชนาการเตือนว่าเสี่ยงขาดสารอาหารหากกินต่อเนื่อง

ดราม่าออนไลน์นี้สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้าง: สวิสมีค่าครองชีพสูงสุดในยุโรป (Numbeo Index 2025: 120.5) และสูงกว่าค่าเฉลี่ย EU ถึง 40% ส่งผลให้นักศึกษาต่างชาติ 1 ใน 10 ของผู้เรียนในสวิส (กว่า 50,000 คน โดยจีนและอินเดียเป็นสัดส่วนใหญ่) ต้องเผชิญแรงกดดันคล้ายจาง บางคนเลือกทำงานพิเศษมากเกินกว่ากำหนด บางคนต้องพึ่งการกู้ยืม ขณะที่ทุนการศึกษาของรัฐสวิสมีจำกัด

กรณีนี้ยังสะท้อนความเหลื่อมล้ำระหว่างนักศึกษาที่ได้รับทุนเต็มจากมหาวิทยาลัยหรือรัฐบาล กับกลุ่มที่เรียนด้วยทุนส่วนตัวจากครอบครัว – โดยหลังสุดมักเป็นผู้ที่ต้องแบกรับค่าครองชีพอย่างหนัก บางรายถึงขั้นบริจาคเลือดเพื่อแลกอาหารฟรีในโรงพยาบาล ซึ่งเกิดขึ้นจริงในซูริคและเจนีวา

ผลกระทบไม่ได้หยุดที่สวิส เพราะยุโรปโดยรวมกำลังเจอค่าครองชีพพุ่งขึ้น 15% ใน 5 ปี (Eurostat) นักศึกษาต่างชาติจากเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 2 ล้านคนจึงตกอยู่ในภาวะ “ฝันร้ายทางการเงิน” มากขึ้น จนหลายคนก็เริ่มกังวลว่า หากพวกเขาเผชิญแรงกดดันคล้ายในสวิส ความสัมพันธ์ทางการศึกษาระหว่างประเทศอาจสะดุด

กล่าวอีกแบบ เรื่องของจางกิน “อาหารแมว” ไม่ใช่แค่ดราม่าไวรัล แต่เป็นสัญญาณเตือน: ค่าครองชีพสวิสที่แพงที่สุดในยุโรปกำลังกัดกินโอกาสของนักศึกษาต่างชาติ และนี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างในคลื่นความเปราะบางที่กำลังลามไปทั้งภูมิภาค

24 กันยายน 2568 : คัดข่าว, หาดใหญ่

**ที่มา**: South China Morning Post, Global Times, Swissinfo.ch, SCMP, Bangkok Post, Eurostat, Numbeo

รัสเซียผงาดแซงยูเครน: ราชาข้าวสาลีโลก – เมื่ออาหารกลายเป็นอาวุธต่อรองรัสเซียไม่เพียงเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีอันดับหนึ่งของโ...
25/09/2025

รัสเซียผงาดแซงยูเครน: ราชาข้าวสาลีโลก – เมื่ออาหารกลายเป็นอาวุธต่อรอง

รัสเซียไม่เพียงเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีอันดับหนึ่งของโลก แต่กำลังใช้ “ธัญพืช” เป็นหนึ่งในอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ที่ตะวันตกไม่อาจปฏิเสธได้ ปี 2567 รัสเซียส่งออกข้าวสาลี 53.1 ล้านตัน ครอง 26% ของตลาดโลก แซงยูเครนที่เหลือเพียง 16 ล้านตันจากสงครามและการปิดกั้นทะเลดำ ทุกคำของขนมปัง พาสต้า หรือซีเรียลในยุโรปและตะวันออกกลาง วันนี้จึงมี “รัสเซีย” เป็นส่วนผสม – ความจริงที่โลกเสรีรับรู้แต่กลืนไม่ลง

ข้าวสาลี: จากเกษตรสู่ยุทธศาสตร์

การปฏิรูปการเกษตรครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2558 เปลี่ยนรัสเซียจากผู้ตามสู่ผู้กำหนดเกม รัฐบาลปูตินทุ่มงบ 1.2 ล้านล้านรูเบิล ปรับปรุงพันธุ์พืช ใช้ดาวเทียมและโดรนตรวจแปลง เพิ่มผลผลิตจาก 60 ล้านตันเป็น 90 ล้านตันต่อปี และอุดหนุนปุ๋ย–เครื่องจักร 40% ทำให้ต้นทุนต่ำกว่าสหรัฐฯ และแคนาดา

การส่งออกข้าวสาลีไปอียิปต์ 12 ล้านตัน ตุรกี 10 ล้านตัน และอินเดีย 5 ล้านตัน ไม่ใช่แค่เรื่องการค้า แต่คือการสร้าง “สายใยพึ่งพิง” ระหว่างประเทศ (FAO, 2568) รัสเซียใช้ท่าเรือโนโวรอสซิสค์และวลาดิวอสตอคต่อเนื่อง แม้ถูกคว่ำบาตร แต่ข้าวสาลีกลับถูกยกเว้นเพื่อเลี่ยงวิกฤตอาหารโลก – กลายเป็นเกราะคุ้มกันให้มอสโก

ยูเครนร่วง – รัสเซียรุ่ง

ในขณะที่ยูเครนซึ่งเคยเป็น “ตะกร้าขนมปังของยุโรป” สูญเสีย 30% การส่งออกจากการโจมตีท่าเรือโอเดสซา รัสเซียกลับขยายตลาดเข้าไปในยุโรปตะวันตกโดยอ้อม อิตาลีและสเปนเพิ่มการนำเข้าข้าวสาลีรัสเซียกว่า 15% เพื่อรักษาเส้นผลิตพาสต้าและขนมปัง แม้รัฐบาลยุโรปจะวิจารณ์รัสเซียบนเวที UN แต่ท้องว่างของประชาชนบังคับให้ต้องซื้อ

อาหารคืออำนาจ

ราคาข้าวสาลีโลกคงที่ 220-250 ดอลลาร์ต่อตัน แม้สงครามยังไม่จบ สิ่งนี้สะท้อนว่ามอสโกกำลังใช้ข้าวสาลีเป็น “Soft Power” บังคับคู่ค้าและตะวันตกต้องยอมพึ่งพา แม้ไม่อยากก็ตาม Council on Foreign Relations เตือนว่า

“รัสเซียไม่ใช่แค่ผู้ขาย แต่เป็นผู้กำหนดราคาอาหารโลก”

ความจริงที่กลืนไม่ลง รัสเซียใช้ข้าวสาลีเป็นอาวุธ: ทุกคำของขนมปังยุโรปมีมอสโกผสมอยู่ ตอกย้ำว่าการเมืองโลกวันนี้ไม่ใช่แค่รถถังหรือขีปนาวุธ แต่อาหารก็เป็นอาวุธที่เด็ดขาดกว่า – และตะวันตกไม่มีทางหันหลังให้มันได้

กล่าวอีกแบบ รัสเซียไม่ได้แค่ครองตลาดข้าวสาลี แต่กำลังพิสูจน์ว่า “อำนาจที่แท้จริง” อาจอยู่ในแป้งสาลีที่นวดขึ้นรูปเป็นขนมปัง ไม่ต่างจากน้ำมันหรือก๊าซ – และนี่คืออาวุธที่โลกเสรีไม่สามารถห้ามใช้หรือเลี่ยงได้เลย

24 กันยายน 2568 : คัดข่าว, หาดใหญ่

ที่มา: Reuters, Bloomberg, The Guardian, DW, Euronews, The Washington Post, Thai PBS, FAO, X post

นี่คือความจริงครับกัมพูชายอมถอยทีละนิดทีละนิดเพื่อไม่ให้เสียหน้ามากเกินไป  แล้วเสียทางการเมืองความจริงก็คือยิ่งปิดนานเท่...
25/09/2025

นี่คือความจริงครับกัมพูชายอมถอยทีละนิดทีละนิดเพื่อไม่ให้เสียหน้ามากเกินไป แล้วเสียทางการเมือง
ความจริงก็คือยิ่งปิดนานเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเจ็บตอนนี้สิ่งที่เขาคิดคือถอยยังไงให้ยังชนะและมีศักดิ์ศรี

แต่.... รัฐบาลไทยที่เขาคุยด้วยไม่ได้คือปัญหาใหญ่

กัมพูชาส่งหนังสือตอบไทย ยอมรื้อบ้าน 1 หลัง กลบคูเลต ในพื้นที่พิพาท แต่ปัดทุบบ้านประชาชน 2 หลังในสวนยาง โยน JBC ชี้ขาด
อ่านต่อในคอมเมนต์
#ข่าวเวิร์คพอยท์23 #ข่าวเวิร์คพอยท์23ออนไลน์

บินแพงก็ต้องบิน – ชีวิตจริงแรงงานกัมพูชา ไม่ใช่แฟนตาซีคีย์บอร์ดในขณะที่นักเลงคีย์บอร์ดตีโพยตีพายบนโซเชียล เรียกร้องให้ “...
25/09/2025

บินแพงก็ต้องบิน – ชีวิตจริงแรงงานกัมพูชา ไม่ใช่แฟนตาซีคีย์บอร์ด

ในขณะที่นักเลงคีย์บอร์ดตีโพยตีพายบนโซเชียล เรียกร้องให้ “เขมรกลับบ้าน” ภาพจริงที่สนามบินพนมเปญคือชาวกัมพูชาลากกระเป๋าใบเดียว คล้องพาสปอร์ตเก่า กู้เงินจากญาติหรือขายวัว เพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน 4,000–6,000 บาท บินเข้าสุวรรณภูมิหางานก่อสร้างในสีลม แม่บ้านสุขุมวิท หรือบริการสนามบิน รายได้ 15,000–20,000 บาทต่อเดือนในไทยยังเป็นแสงสว่าง เมื่อเทียบกับ 8,000 บาทในพนมเปญ

การปิดด่านบก 7 แห่งตั้งแต่มิถุนายน 2568 จากปะทะพระวิหารและช่องอานม้า ปิดเส้นเลือดหลักที่แรงงาน 5–10 หมื่นคนเคยข้ามทุกวัน การติดต่อทางน้ำก็ไม่มีจึงเหลือเพียง “ทางอากาศ” ตามสนธิสัญญาการบิน 1969

ปัจจุบันเที่ยวบินพนมเปญ–กรุงเทพฯ พุ่ง 30% (15,000 → 20,000 คน/เดือน) และสีหนุวิลล์–กรุงเทพฯ เพิ่ม 25% แม้ค่าตั๋วแพงขึ้น 2–3 เท่า แต่หากมีงานเงินโอนกลับบ้านก็ยังคุ้ม

นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก การส่งเงินกลับจากแรงงานในไทยคิดเป็น 100,000 ล้านบาทต่อปี หรือ 5% ของ GDP กัมพูชา ปีนี้หดลงแล้ว 40% จากด่านปิด (UNDP) ครอบครัวชนบท 300,000 ครัวเรือนกำลังขาดรายได้

ฝั่งไทยเองก็สะดุด: การขาดแรงงานแบบฉับพลัน 50,000 ตำแหน่ง ก่อสร้าง (40%) และบริการ (20%) ค่าแรงพุ่ง 10–15% สุขุมวิทยังต้องพึ่งเขมร เพราะ “ไม่มีใครแทนได้” ในราคาและความขยัน

แต่นี่แหละจุดเสี่ยงใหญ่ ถ้าด่านปิดต่อไปอีก 6 เดือน

เขมรอาจเสียเก้าอี้ในตลาดแรงงานไทย เพราะลาวกับเมียนมาพร้อมเข้ามาแทนที่ และเมื่อถึงวันนั้นการกลับมาทำงานในไทยอาจไม่ง่ายเหมือนเดิม เพราะนายจ้างเจอแรงงานใหม่ที่ราคาถูกไม่แพ้กัน

ดังนั้น การบินแพง ๆ วันนี้ไม่ใช่ความหรู แต่คือเดิมพันสุดท้ายเพื่อไม่ให้หลุดจากตลาดแรงงานไทย – เพราะถ้าหลุดแล้ว คนลาว–เมียนมาจะสวมแทนทันที และแรงงานเขมรจะเจ็บทั้งขึ้นทั้งล่อง

ชีวิตจริงแรงงานกัมพูชา มันคือ “บินแพงก็ต้องบิน” ไม่ใช่แฟนตาซีคีย์บอร์ดที่จะเขียนคำว่า “กลับบ้าน” ง่าย ๆ บนจอ

24 กันยายน 2568 : คัดข่าว, หาดใหญ่

ที่มา: Khmer Times, Bangkok Post, Phnom Penh Post, DW, Thai PBS, The Interpreter, UNDP, X posts

ปากกล้า ขาสั่น? วอชิงตันท้าซาอุฯ “ลองปิดก๊อกน้ำมันดูสิ”วิกฤตกาซากำลังลามออกนอกสนามรบ แต่ที่ร้อนกว่าจรวดก็คือ “น้ำมัน” เม...
25/09/2025

ปากกล้า ขาสั่น? วอชิงตันท้าซาอุฯ “ลองปิดก๊อกน้ำมันดูสิ”

วิกฤตกาซากำลังลามออกนอกสนามรบ แต่ที่ร้อนกว่าจรวดก็คือ “น้ำมัน” เมื่อเจ้าชายมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (MBS) ถูกจับตาว่าอาจชักดาบแบบปี 1973 ไหม
ปิดก๊อกใส่อเมริกาและโลกตะวันตกจนราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 4 เท่า

แต่ปัญหาคือ วันนี้ปี 2025 ไม่ใช่ปีที่สหรัฐฯ ต้องยืนต่อคิวยาวเหยียดหน้าปั๊มแบบนั้นอีกแล้ว

ย้อนดูอดีต—ปี 1973 OPEC ประกาศแบน ส่งออกน้ำมันไปตะวันตก ราคาพุ่ง 4 เท่า สหรัฐฯ แทบคุกเข่า คิสซิงเจอร์ต้องวิ่งโร่หาทางออก

แต่

วันนี้สถานการณ์กลับตาลปัตร สหรัฐฯ ผลิตน้ำมันได้เองกว่า 13 ล้านบาร์เรล/วัน เก็บสำรองไว้ใน Strategic Petroleum Reserve (SPR) อีก 700 ล้านบาร์เรล ใช้ได้เกิน 90 วัน และนำเข้าจากตะวันออกกลางเหลือแค่ 10% เท่านั้น

คำถามจึงพลิกฝั่ง—ถ้าซาอุฯ กล้าปิดก๊อกจริง ใครเจ็บกว่ากัน? เพราะรายได้จากน้ำมันคิดเป็น 73% ของการส่งออกซาอุฯ หรือกว่า 223 พันล้านดอลลาร์/ปี เงินพวกนี้คือสายป่าน Vision 2030 ของ MBS ที่ใช้สร้างเมืองอนาคต NEOM และโครงการทะเลแดง ถ้ารายได้หาย ริยาดเจ็บเองก่อนวอชิงตันเสียอีก

วอชิงตันจึงเล่นเกมกวน ๆ ส่งสัญญาณ “อยากปิดก็ปิดสิ” เพราะรู้ว่าตลาดโลกไม่เหมือนเดิมแล้ว

วันนี้จีนกับอินเดียคือผู้ซื้อรายใหญ่สุด พร้อมหาทางโยกน้ำมันจากประเทศอื่นอยู่แล้ว

ขณะที่สหรัฐฯ มีแคนาดา เม็กซิโก และเวเนซุเอลา คอยป้อนเสริม สุดท้ายซาอุฯ จะกลายเป็นแค่คนที่ยิงเท้าตัวเอง แล้วโดนรัสเซียกับอิหร่านเสียบแทนใน OPEC+

ผลลัพธ์คือสหรัฐฯ พยายามโชว์ “ไม่กลัว” โดยเล่นบทท้าทายให้ MBS เสียหน้า—ถ้ากล้าจริงก็ทำให้เห็น ไม่ใช่แค่ปากกล้าใช้วาทกรรมปลุกใจชาวอาหรับ สุดท้ายซาอุฯ คงเลือก “ขู่” มากกว่า “ทำจริง” เพราะรู้ว่าต้นทุนทางเศรษฐกิจมันสูงเกินไป

แต่คำถามใหญ่ที่ยังค้างอยู่คือ—ถ้าวันหนึ่งซาอุฯ ยอมแลกเลือดกับอเมริกา ยอมตัดรายได้มหาศาลเพื่อการเมือง จะเกิด “1973 เวอร์ชันรีมิกซ์” หรือว่านี่แค่เสียงข่มขู่แต่ไร้พิษสง?

25 กันยายน 2568 : คัดข่าว,หาดใหญ่

ที่มา: ข้อมูลจาก EIA (Energy Information Administration), รายงานเศรษฐกิจซาอุฯ 2024, World Bank Trade Data

เส้นทางทะเลเหนือของรัสเซีย (NSR): เส้นทางขนส่งที่เปลี่ยนเกมโลกการออกเดินทางของเรือคอนเทนเนอร์ Istanbul Bridge จากท่าเรือ...
25/09/2025

เส้นทางทะเลเหนือของรัสเซีย (NSR): เส้นทางขนส่งที่เปลี่ยนเกมโลก

การออกเดินทางของเรือคอนเทนเนอร์ Istanbul Bridge จากท่าเรือ Ningbo-Zhoushan ของจีนเมื่อ 20 กันยายน สู่ท่าเรือ Felixstowe ในสหราชอาณาจักรผ่านเส้นทางทะเลเหนือ (Northern Sea Route: NSR) ของรัสเซีย สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเปิดเส้นทางขนส่งคอนเทนเนอร์จีน-ยุโรปครั้งแรกที่ใช้ NSR อย่างเป็นทางการ

โดยเส้นทางนี้ลดเวลาเดินทางจาก 40-50 วัน (ผ่านคลองสุเอซ) เหลือ 18 วัน และลดคาร์บอน 50%

แต่ทำไม NSR ถึงเป็น “เกมเชนเจอร์” สำหรับการขนส่งโลก?

มันคือเส้นทางสั้นลง 40% (13,000 กม. เทียบ 21,000 กม.) ที่เปิดจากน้ำแข็งละลาย แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องฤดูกาล ภาษีรัสเซีย และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้เป็น “ทางเลือก” ที่น่าตื่นเต้นแต่ท้าทายสำหรับจีนและรัสเซียที่ต้องการท้าทายเส้นทางสุเอซ

NSR คืออะไร?
NSR คือเส้นทางเดินเรือที่เลียบชายฝั่งเหนือของรัสเซีย ตั้งแต่ช่องแคบ Kara Gates ถึงช่องแคบ Bering ยาว 5,600 กม. ผ่านทะเล Barents, Kara, Laptev, East Siberian และ Chukchi โดยรัสเซียควบคุมผ่าน Rosatom และ Northern Sea Route Administration (NSRA) เส้นทางนี้เคยถูกน้ำแข็งปิด 8-9 เดือนต่อปี แต่จากภาวะโลกร้อน น้ำแข็งละลายทำให้เปิดใช้ได้ 4-6 เดือน (กรกฎาคม-ธันวาคม) โดยมีเรือช่วยเหลือน้ำแข็ง (icebreaker) จากรัสเซีย (*Wikipedia*, Northern Sea Route) ในปี 2567 มีการขนส่งสินค้า 36.25 ล้านตัน (เพิ่ม 6.4% จากปีก่อน) โดย 60% เป็น LNG จาก Yamal

ทำไม NSR เป็นเกมเชนเจอร์?
NSR เปลี่ยนสมดุลการขนส่งโลก โดยเฉพาะสำหรับจีนที่พึ่งพาการค้าทะเล 90% ของ GDP (46% จากการนำเข้า-ส่งออก) ด้วยข้อดีหลัก:

1. สั้นลงและประหยัดเวลา : ลดระยะทาง 40% จากจีนสู่ยุโรปเหนือ (จาก 21,000 กม. เป็น 13,000 กม.) ลดเวลา 22 วันจากเส้นทางสุเอซ
Istanbul Bridge (4,890 TEU) ใช้เวลา 18 วันจาก Ningbo ไป Felixstowe โดยเรือ ice-strengthened สำหรับสินค้าความเร็วสูง เช่น e-commerce และแบตเตอรี่พลังงาน ค่าใช้จ่ายต่อคอนเทนเนอร์อยู่ระหว่างรถไฟจีน-ยุโรป (ถูกแต่ช้า) และสุเอซ (เร็วแต่แพง)

2. ลดคาร์บอนและต้นทุนเชื้อเพลิง : ลด CO2 50% จากระยะทางสั้น และประหยัดน้ำมัน 30%
จีนซึ่งเป็นผู้นำ EV และพลังงานสะอาด ใช้ NSR เพื่อภาพลักษณ์ “สีเขียว”

3. โอกาสเศรษฐกิจสำหรับรัสเซีย-จีน : รัสเซียลงทุน 20 พันล้านยูโร (ราว 7 แสนล้านบาท) ถึง 2578 เพื่อ NSR รวม icebreaker 15 ลำและท่าเรือ จีนซึ่งลงทุนใน Yamal LNG (Rosneft) ใช้ NSR ส่ง LNG ไปยุโรป 2 ล้านตันต่อปี

ข้อจำกัด: ทำไมยังไม่ใช่ “ทางหลัก”?
แม้เป็นเกมเชนเจอร์ แต่ NSR ยังมีอุปสรรค:

1. ฤดูกาลและน้ำแข็ง : เปิดใช้ได้ 4-6 เดือนต่อปี (กรกฎาคม-ธันวาคม) ต้องใช้เรือ ice-class (เพิ่มต้นทุน 20-30%) และ icebreaker (ค่าบริการ 500,000 ดอลลาร์ต่อลำ) ในปี 2567 มีเรือผ่าน 314 ลำ ขนส่ง 36 ล้านตัน (เพิ่ม 6% จากปีก่อน) แต่ส่วนใหญ่เป็นเรือรัสเซีย (LNG, น้ำมัน)

2. ต้นทุนและความเสี่ยง : ค่าใช้จ่ายต่อคอนเทนเนอร์สูงกว่าเส้นทางอื่น 10-20% จาก icebreaker และประกันภัย
ความเสี่ยงจากน้ำแข็ง (draft 12.5 ม.) จำกัดเรือใหญ่ (ULCC >50,000 DWT) และไซเบอร์แอทแทคใน Barents Sea เพิ่ม 50% ในปีนี้

3. ภูมิรัฐศาสตร์ : รัสเซียควบคุม 100% ต้องขอใบอนุญาตและจ่ายค่าธรรมเนียม (1.5 ล้านดอลลาร์ต่อลำ) สงครามยูเครนทำให้ชาติตะวันตกหลีกเลี่ยง

แต่จีน-รัสเซียใช้เพื่อท้าทายเส้นทางสุเอซที่ Houthi โจมตี

อนาคต: เกมเชนเจอร์หรือทางเลือกเฉพาะ?

NSR มีศักยภาพขนส่ง 80 ล้านตันต่อปีภายใน 2578 (รัสเซียลงทุน 20 พันล้านยูโร) แต่ยังเป็น “ทางเลือก” สำหรับสินค้าความเร็วสูง จีนซึ่งใช้ NSR 7 ครั้งในปี 2567 วางแผนเส้นทางปกติ แต่ปัญหาน้ำแข็งและ geopolitics ยังจำกัด

กล่าวอีกแบบ NSR คือ “เกมเชนเจอร์” ที่สั้นลง 40% และลดคาร์บอน 50% สำหรับจีน-ยุโรป แต่ข้อจำกัดฤดูกาลและ geopolitics ยังทำให้เป็น “ทางเลือก” – ถ้าน้ำแข็งละลายเร็วขึ้นและรัสเซียลงทุนเพิ่ม จะเปลี่ยนการค้าทะเลโลก แต่ตอนนี้ยังเป็น “หมากล้อม” ที่จีน-รัสเซียวางเพื่อท้าทายสุเอซ

24 กันยายน 2568 : คัดข่าว, หาดใหญ่

**ที่มา**: The Arctic Institute, South China Morning Post, Politico, Quora, Il Sole 24 ORE, Wikipedia, Cargo-Partner, Ship Technology, World Economic Forum, Ship Universe, ScienceDirect, Port Economics, Global Times, X posts

ญี่ปุ่นแบบนี้จริงๆครับ  ขึ้นราคายากมากและนี้อาจถือเป็นเรื่องปกติกึ่งใหญ่ของญี่ปุ่นที่การขึ้นราคาถึงขั้นต้องออกมาขอโทษขอโ...
25/09/2025

ญี่ปุ่นแบบนี้จริงๆครับ ขึ้นราคายากมากและนี้อาจถือเป็นเรื่องปกติกึ่งใหญ่ของญี่ปุ่นที่การขึ้นราคาถึงขั้นต้องออกมาขอโทษขอโพยกันแบบจริงจัง

ในปี 2016 บริษัทญี่ปุ่น Akagi Nyugyo ซึ่งเป็นผู้ผลิตไอศกรีมยอดนิยม Garigari-kun ได้ออกมาขอโทษต่อสาธารณชนหลังจากที่ขึ้นราคาสินค้าจาก 60 เป็น 70 เยน หรือประมาณ 0.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี เพื่อแสดงความเสียใจ บริษัทได้ปล่อยโฆษณาทางโทรทัศน์ยาว 60 วินาที ซึ่งมีประธานและพนักงานก้มศีรษะให้กล้อง ท่าทางที่ไม่ธรรมดานี้สะท้อนถึงความเคารพและความรับผิดชอบตามวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มีต่อผู้บริโภค

ที่อยู่

Ban Khao Rup Chang

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ คัดข่าวผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง คัดข่าว:

แชร์