บางเหี้ยแลนด์

บางเหี้ยแลนด์ ส่งเสริมการพัฒนามิติทางสังคม
ภูมิทัศน์วัฒนธรรม มายาคติ และเศรษฐกิจ
ของพื้นที่บางเหี้ยจากอดีต ปัจจุบัน สู่อนาคต
ด้วยศิลปะและการออกแบบเชิงวัฒนธรรม

29/09/2024

#เจ้าจอมหรือพระสนมพระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี หรือที่เรารู้จักกันคือ #เจ้าจอมแว่น หญิงสาวชาวเวียงจันท์ (ลาว) หรือบ้างก็เรียกว่า #เจ้านางคำแว่น หรือ #เจ้าจอมคำแว่น แต่คนในพระราชวังเรียกพระนางว่า #คุณเสือ เจ้าจอมแว่นเดิมชื่อ #นางคำแว่น เป็นธิดาของเพี้ยเมืองแพน (ขุนนางแห่งเมืองเวียงจันท์) ได้พบรักกับรัชกาลที่ ๑ ในครั้งที่ยังดำรงพระยศเป็น #สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ยกทัพไปตีเมืองเวียงจันทน์ เมื่อเจ้าจอมแว่นมาอยู่ที่กรุงธนบุรีก็มีเรื่องเล่าขานกันว่า...เป็นสาเหตุให้คุณหญิงนาคไม่ยอมอยู่กับรัชกาลที่ ๑ ตราบจนรัชกาลที่ ๑ สวรรคต ดังที่ปรากฏในบันทึกของ #หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ปราโมช เจ้าจอมแว่นถือว่าเป็นเจ้าจอม (พระสนม) ที่รุ่งเรืองอย่างมากในสมัยรัชกาลที่ ๑ และเป็นที่ยำเกรงของชาววังรวมถึงพระเจ้าลูกเธอหลายพระองค์ และเจ้าจอมแว่นยังเป็นผู้คิดค้น #ขนมไข่เหี้ย อีกด้วย เรื่องราวของเจ้าจอมแว่นจะเป็นอย่างไร #อ่านภาษาไทยเพิ่มเติมใต้ภาษาอังกฤษ 👇
♦️ "Chao Chom Kham Waen" or "Chao Nang Kham Waen" also known as "Chao Chom Waen", whose original name was "Nang Kham Waen", (Thai: เจ้านางคำแว่น / เจ้าจอมคำแว่น / เจ้าจอมแว่น) was the daughter of Phia Muang Pan. (Nobility of Vientiane city) a resident of Phan Phrao city, currently is Phan Phrao Subdistrict, Si Chiang Mai District, Nong Khai Province. When he grew up, his father sent him to be lady-in-waiting Taking care of and serving the wife of King Siriboonsan, who was the King of Vientiane. Later in the year 1778, there was a war between Thonburi and the capital of Vientiane. (Since this post talks about Laos women, the page uses pictures of Laos women as illustrations.)
♦️ King Taksin the Great therefore gave royal command to King Rama I, who at that time held the title of Somdet Chao Phraya Maha Kasasuk and Chao Phraya Surasinhanath. (King Rama I's younger brother) led an army from Thonburi to attack Vientiane. When the army arrived at Phan Phrao city, which is on the right side of the Mekong River opposite Vientiane, Somdet Chao Phraya Maha Kasasuk (King Rama I) stopped and set up an army at Phan Phrao city. Later, this area was called "Phan Phrao Camp" during the battle, Somdet Chao Phraya Maha Kasasuk (King Rama I) fell in love with "Nang Kham Waen" the daughter of Phia Mueang Pan. (Nobleman of Vientiane). Somdet Chao Phraya Maha Kasasuk (King Rama I) then asked for Nang Kham Waen from Phia Mueang Pan to be his concubine. In order to be friendly with Siam, Phia Muang Pan agreed to give Nang Kham Waen to Somdet Chao Phraya Maha Kasasuk (King Rama I). After that, the Siamese army forcibly removed the royal family and soldiers from Vientiane, including Phan Phrao, to Thonburi. Nang Kham Waen therefore followed Somdet Chao Phraya Maha Kasasuk (King Rama I) to Thonburi as well. When Somdet Chao Phraya Maha Kasasuk be enthroned as "King Buddha Yodfa Chulalok the Great" and appointed Nang Khamwaen as the first concubine of the Chakri Dynasty.
♦️ Chao Chom Kham Waen was very respected by the palace people and all the sons and daughters of King Rama I. And once King Rama I wanted to eat eggs of varanus salvator (water monitor) grilled over fire with mangosteen. But during that time, the varanus salvator (water monitor) did not lay eggs, so the soldiers could not find eggs. (Varanus Salvator in Thai is called Hia / Thai: เหี้ย)
♦️ Chao Chom Kham Waen then went into the kitchen and took glutinous rice flour and stuffed it with mung beans, molded it into the shape of a varanus salvator egg, (water monitor) and fried it in oil, then mixed it with salt and sugar and presented it to King Rama I, who ate it with mangosteen instead of varanus salvator eggs. (water monitor) King Rama I was very pleased, so His Majesty called the dessert that Chao Chom Kham Waen made as Khanom Khai Hia (a type of Thai dessert / Thai: ขนมไข่เหี้ย). Chao Chom Kham Waen was considered a very prosperous concubine during the reign of King Rama I and died during the reign of King Rama II.
♦️ “เจ้าจอมแว่น” เดิมชื่อ “นางคำแว่น” เป็นธิดาของเพี้ยเมืองแพน (ขุนนางแห่งเมืองเวียงจันท์) ชาวเมืองพานพร้าว (ปัจจุบัน คือ ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย) เมื่อเจริญวัยขึ้นบิดาได้นำเข้าถวายตัวเป็นนางพระกำนัลในมเหสีของพระเจ้าศิริบุญสารของเมืองเวียงจันทน์ ต่อมาในปี ๒๓๒๑ เกิดสงครามระหว่างกรุงธนบุรีกับนครหลวงเวียงจันทน์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (รัชกาลที่ ๑) และเจ้าพระยาสุรสีหนาถ (อนุชาของรัชกาลที่ ๑) นำกองทัพจากกรุงธนบุรีขึ้นไปตีเมืองเวียงจันทน์ เมื่อกองทัพเดินทางมาถึงเมืองพานพร้าว ซึ่งอยู่ทางขวาของลำน้ำโขงตรงข้ามกับเมืองเวียงจันทน์ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (รัชกาลที่ ๑) จึงหยุดและตั้งทัพหลวง ณ เมืองพานพร้าว บริเวณนี้จึงเรียกว่า #ค่ายพานพร้าว ระหว่างศึกนั้นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (รัชกาลที่ ๑) ได้พบรักกับนางคำแว่นธิดาของเพี้ยเมืองแพน จึงได้ขอนางจากเพี้ยเมืองแพนเพื่อเป็นอนุภรรยา เพี้ยเมืองแพนจึงยอมยกนางคำแว่นให้เพื่อยอมเป็นไมตรีด้วย
♦️เมื่อเสร็จศึกจากเวียงจันทน์กองทัพของสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (รัชกาลที่ ๑) ได้กวาดต้อนพระบรมวงศานุวงศ์และไพร่พลจากเมืองเวียงจันทน์ รวมถึงเมืองพานพร้าวพร้อมทั้งพระแก้วมรกตมายังกรุงธนบุรี นางคำแว่นจึงได้ตามสามี (สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก หรือรัชกาลที่ ๑) มากับกองทัพในครานั้นด้วย จึงมีเรื่องเล่าขานกันว่า...เมื่อมาถึงกรุงธนบุรีทำให้นางคำแว่นมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับคุณหญิงนาคอยู่บ่อยครั้ง (คุณหญิงนาคต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระอมรินทรามาตย์) ซึ่งเรื่องความหึงหวงนี้ปรากฎในหนังสือเรื่อง #โครงกระดูกในตู้ ของหม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช ตอนหนึ่งว่า “…คืนวันหนึ่งท่านผู้หญิงถือดุ้นแสมไปยืนคอยดักอยู่ในที่มืดบนนอกชานเรือน พอคุณแว่นเดินออกมาจากเรือนหลังใหญ่อันเป็นที่อยู่ของสมเด็จเจ้าพระยาฯ ท่านผู้หญิงก็เอาดุ้นแสมตีหัว คุณแว่นก็ร้องขึ้นว่า…เจ้าคุณขา คุณหญิงตีหัวดิฉัน…สมเด็จเจ้าพระยาฯ ก็โกรธยิ่งนัก ฉวยได้ดาบจากเรือนจะมาฟันท่านผู้หญิง ฝ่ายท่านผู้หญิงก็วิ่งเข้าเรือนที่ท่านอยู่แล้วปิดประตูลั่นดานไว้ สมเด็จเจ้าพระยาฯ ก็เอาดาบฟันประตูอยู่โครมๆ…” เหตุการณ์นี้เองที่กล่าวกันว่า...ทำให้คุณหญิงนาคไม่ได้อยู่ร่วมกับสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (รัชกาลที่ ๑) อีกเลย แม้รัชกาลที่ ๑ ขึ้นครองราชย์คุณหญิงนาคก็มิได้เสด็จมาประทับในพระราชวังตราบจนรัชกาลที่ ๑ สวรรคต #หมายเหตุ เหตุนี้เองคุณหญิงนาคจึงไม่ค่อยปรากฎในพงศาวดารหรือบันทึกมากนัก
♦️เมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกปราบดาภิเษกขึ้นเป็น “พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” (รัชกาลที่ ๑) จึงได้แต่งตั้งนางคำแว่นให้เป็นเจ้าจอม (เจ้าจอมหรือพระสนมเอกคนแรกแห่งราชวงศ์จักรี) กล่าวกันว่า...เจ้าจอมแว่นเป็นที่เคารพยำเกรงของชาววังและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเป็นอันมาก จนขนานนามเจ้าจอมแว่นว่า “คุณเสือ” นอกจากนี้เจ้าจอมแว่นยังเป็นผู้มีศิลปะและความกล้าในการเพ็ดทูลต่อรัชกาลที่ ๑ เช่น เมื่อครั้งที่รัชกาลที่ ๒ ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ทรงมีความรักต่อเจ้าฟ้าหญิงบุญรอด (ต่อมาดำรงพระอิสริยศเป็นสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี) ทั้งสองพระองค์ไม่กล้ากราบทูลรัชกาลที่ ๑ แต่ก็ได้เจ้าจอมแว่นเป็นคนกลางช่วยประสานให้ กล่าวกันว่า...เจ้าจอมแว่นจะกราบทูลโดยไม่ได้เกรงกลัวพระราชอาญา ซึ่งรัชกาลที่ ๑ ทรงตระหนักถึงความภักดีและสุจริตใจของเจ้าจอมแว่นจึงไม่ทรงพิโรธ หากไม่เห็นด้วยก็จะพระราชทานคำอธิบายเหตุผล
♦️เจ้าจอมแว่นยังเป็นผู้คิดค้นเมนู #ขนมไข่เหี้ย ในครั้งที่รัชกาลที่ ๑ ทรงอยากเสวยไข่เหี้ยย่างไฟกับมังคุด แต่ในช่วงนั้นทหารหาไข่เหี้ยไม่ได้ เจ้าจอมแว่นจึงเข้าครัวนำแป้งข้าวเหนียวมาใส่ไส้ถั่วเขียวปั้นให้เป็นรูปร่างเหมือนไข่เหี้ยและนำไปทอดในน้ำมันจากนั้นก็นำมาคลุกเกลือกับน้ำตาลแล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯ ให้รัชกาลที่ ๑ เสวย รัชกาลที่ ๑ ทรงพอพระทัยมากจึงเรียกขนมที่เจ้าจอมแว่นทำขึ้นถวายว่า “ขนมไข่เหี้ย” ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ฝีมือการทำอาหารของเจ้าจอมแว่นเป็นที่เลื่องลือ ครั้งสร้างวัดพระแก้วเสร็จใหม่ๆ เจ้าจอมแว่นก็เป็นผู้ปรุงน้ำยาขนมจีนเลี้ยงพระตลอดทั้งงานพิธีเฉลิมฉลองในครั้งนั้น
♦️ เจ้าจอมแว่นถือเป็นเจ้าจอม (พระสนม) ที่รุ่งเรืองอย่างมากในสมัยรัชกาลที่ ๑ หลังสิ้นรัชกาล เจ้าจอมแว่นได้ออกจากพระราชวังไปอยู่กับพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดี พระราชธิดาพระองค์หนึ่งในรัชกาลที่ ๑ เนื่องจากมีเชื้อสายเวียงจันท์เช่นเดียวกัน และเจ้าจอมคำแว่นไม่มีพระราชโอรสหรือพระธิดากับรัชกาลที่ ๑ เลยสักพระองค์ และถึงแก่อสัญกรรมในสมัยรัชกาลที่ ๒ ประชาชนได้สร้างพระธาตุบรรจุพระอัฐิของเจ้าจอมแว่นไว้ ณ วัดนางเขียวค้อม เมืองพานพร้าว โดยเรียกว่า #ธาตุนางเขียวค้อม (เขียวค่อม คือ คำเรียกขานสตรีในอุดมคติของชาวลาว)
📌 บทความนี้เรียบเรียงและแปลโดยเพจ Love Thai Culture และ Thai Culture and Thai Travel #หากผู้ใดนำนำข้อมูลไปแชร์กรุณาให้เครดิตด้วยนะคะ
💥Credit: ขอบคุณเจ้าของภาพ (Pinterrest)
อ้างอิงที่มา (Reference)
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9580000123462
https://www.silpa-mag.com/history/article_22678
https://www.youtube.com/watch?v=pxDt-1rM2J8
+++++++++++++++++++++++++++++++
#รัชกาลที่1 #คุณหญิงนาค #สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี

มาจอยกันครับ  #เด็กบางเหี้ย
06/09/2024

มาจอยกันครับ #เด็กบางเหี้ย

06/09/2024

มาจอยกัน #เด็กบางเหี้ย

14/08/2024

เสียงจากชาวบ้านที่บอกว่า มัน สด มัน สะอาด มันปลอดภัยจริงๆ นี่แหล่ะ ศูนย์รวมของอาหารทะเลที่ใกล้กรุงเทพ อุดมสมบูรณ์ทั้ง ปลา กุ้ง หอย ปู ที่สำคัญ ยังมีของหวานๆ จากพืชธรรมชาติพื้นถิ่น

#วัฒนธรรมอาหารบางเหี้ย
#บางเหี้ย #คนบางเหี้ย #คนคลองด่าน #ไข่เหี้ย
#บางเหี้ยแลนด์ #คลองด่าน #มาทำเหี้ยๆกัน
#สมุทรปราการ

11/08/2024

กินปลาเพื่อสุขภาพ เพราะปลาเราสด

ขอบคุณ คุณวันเพ็ญ บุญรมย์ (ป้าหมู) สมาชิกสภาฯ อบต.คลองด่าน หมู่ที่ 12 ผู้นำกลุ่มแม่บ้าน สตรี บ้านสีล้ง ในการสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อชุมชน เพื่อคุณภาพชีวิตของท้องถิ่น คุณป้าสะท้อนถึงความรักสุขภาพ คุณภาพของอาหารทะเลที่อยู่ในชายทะเลบ้านเรา
สด ใหม่ สะอาด ปลอดภัย และเต็มไปด้วยคุณค่ามากมาย

ขอบคุณทุกแรงสนับสนุน

#วัฒนธรรมอาหารบางเหี้ย #ขนมไข่เหี้ย
#บางเหี้ย #คนบางเหี้ย #คนคลองด่าน
#บางเหี้ยแลนด์ #คลองด่าน #มาทำเหี้ยๆกัน
#สมุทรปราการ

ที่อยู่

999/9
Ban Khlong Dan
10550

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ บางเหี้ยแลนด์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์