เดอะ พัทยานิวส์ The Pattaya News

13/07/2025

😲😮😳

13/07/2025

13/07/2025

ไรเดอร์สายหื่น! ถูกผู้เสียหายสาวรวมตัวจับตัวส่งตำรวจ หลังถูกหลอกมีสัมพันธ์-ข่มขู่ด้วยคลิป 👇

13/07/2025

ปิดจ๊อบ! ตำรวจพัทยา ตามลากคอแก๊งจีน อุ้มปล้นเพื่อนร่วมชาติ
ปิดจ๊อบ! ตำรวจพัทยา ตามลากคอแก๊งจีน อุ้มปล้นเพื่อนร่วมชาติ สารภาพหวังโกยเงินดิจิตอล👇

13/07/2025

พลั้งมือฆ่าเพื่อน!! ช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ใช้ไม้คมแฝกกระหน่ำฟาดเพื่อนดับ ตำรวจตามตัวมาสอบเค้น ยอมรับลงมือทำไปเพราะเพื่อนเปิดก่อน ส่วนสาเหตุทะเลาะกันเรื่องอะไหล่แต่งรถ 👇

12/07/2025

ตํารวจบูรณาการรวบ รวบแก๊งชาวจีน อุ้มปล้นเพื่อนชาติเดียวกัน กลางเมืองพัทยา ยันไม่ใช่แก๊งตำรวจเก๊ อ่านต่อ 👇

12/07/2025

เมื่อเวลา 03.00น. ของวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.พัทยา ได้รับแจ้งเหตุจากพี่น้องประชาชน ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มนั่งเล่นมั่วสุมส่งเสียงดัง บริเวณสวนสาธารณะหน้ากรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ เขาพระตำหนัก พัทยา ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงมอบหมายให้ ร.ต.อ. กิตติสุข สุธีนิทัศวงศ์ รองรองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพัทยาพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเขตเข้าทำการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกลุ่มวัยรุ่นนั่งมั่วสุมกันกว่า 20 คนอายุประมาณ 15-25 ปี จึงทำการตรวจค้นรถจักรยานยนต์พร้อมทั้งตรวจค้นตัวกลุ่มวัยรุ่นพบผู้ต้องส่งสัย1คนพยายามจะหลบหนีจึงทำการตรวจค้นภาย ในกระเป๋าสะพายสีดำคาดหน้าอกพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์จำนวนหนึ่งกระบอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. อยู่ในรังเพลิง1ลูก และกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. อีก 1 ลูก มีดพกจำนวน1อัน ในกระเป๋าทราบชื่อต่อมาคือนายเต๋า อายุ 19 ปี จึงนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองพัทยา
สอบถามนายเต๋า บอกว่าตนและเพื่อนๆได้มาจับกลุ่มขี่รถเล่นและเจอกลุ่มคู่อริ จึงกลับบ้านไปนำปืนไทยประดิษฐ์ที่ตนซื้อมาจากเพื่อนนานแล้ว มาพกเพื่อป้องกันตัวกลัวจะมีปัญหากับกลุ่มคู่อริแต่มานั่งรวมตัวกันก่อนและมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมก่อน
เบื่องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำประวัติและสอบสวนเพิ่มเติมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหานำตัวผู้ต้องหาพร้อมอาวุธปืนส่งพนักงานสอบสวน สภ. เมืองพัทยาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

12/07/2025

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ในโลกโซเชียลมีมีการแชร์คลิปเหตุการณ์ ทะเลาะวิวาทกัน ระหว่างกลุ่ม นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีด้วยกันเอง โดยคลิปมีความรุนแรงถึงขนาดขั้นแรง ปาแก้วใส่หน้า กระโดดต่อยกันยับ จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย โดยไม่แคร์ ลูกค้าคนอื่นๆที่อยู่ภายในร้าน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 03.30 น. ของวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ภายในร้านอาหาร จิ้มจุ่ม - หมูกระทะ ภายในซอยถนนเพ็ชรตระกูล หมู่6 ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี
ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.ปาณสาร ครองสิทธิ์ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพัทยา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ลงพื้นที่ไปทำการตรวจสอบ พร้อมกับคุมตัวกลุ่มชาวเกาหลี จำนวน 4 คน ทั้งหมดเป็นเพื่อน และ นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน แต่เกิดผิดใจกันเอง และ ทะเลาะกันบนโต๊ะอาหาร ตามที่ปรากฏในคลิป ตำรวจได้คุมตัวทั้งหมด ไปทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.เมืองพัทยา โดยมีเจ้าของร้านอาหาร ร่วมเดินทางไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งภายหลังนำตัวไปสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า ทางร้าน ได้เอาผิดนักท่องเที่ยวกับเกาหลี เรื่องทำให้ทรัพย์สินภายในร้าน เสียหาย รวมถึง ค่าอาหารทั้งหมดภายในร้าน โดยคิดค่าเสียหายฝ่ายที่ทะเลาะวิวาทกัน ฝั่งละ 50,000 บาท
เบื้องต้น นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ที่ทะเลาะกัน มีการพูดคุยและตกลงกันได้ และ ยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้กับทางร้าน ตำรวจดำเนินคดีในข้อกล่าวหา ร่วมกันทะเลาะวิวาท ก่อนทำการเปรียบเทียบปรับ แล้วปล่อยตัวไป
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ลงพื้นที่ ไปยังบริเวณจุดเกิดเหตุ และพยายามสอบถามข้อมูลจากพนักงานทางร้าน แต่ไม่มีใครกล้าให้ข้อมูล จึงไม่ทราบว่า สาเหตุของการที่ทะเลาะกัน ถึงขั้นเปิดศึกต่อยกันกลางร้านอาหารเกิดจากสาเหตุใด แต่รู้ว่ากลุ่มชาวเกาหลีนั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน แต่ไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้น จู่ๆ ก็ลุกขึ้นต่อยกัน ขว้างจาน - แก้ว ใส่กัน ตามที่ปรากฏในคลิป

12/07/2025

โจ๋19ปีเจอคู่อริ ขับรถกลับบ้านพกปืนไทยประดิษฐ์ขนาด9 มม.พร้อมกระสุนปืนมาดักรอก่อนถูกตำรวจพัทยารวบ

เมื่อเวลา 03.00น. ของวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.พัทยา ได้รับแจ้งเหตุจากพี่น้องประชาชน ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มนั่งเล่นมั่วสุมส่งเสียงดัง บริเวณสวนสาธารณะหน้ากรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ เขาพระตำหนัก (พัทยา) ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงมอบหมายให้ร.ต.อ. กิตติสุข สุธีนิทัศวงศ์ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยาพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเขตเข้าทำการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกลุ่มวัยรุ่นนั่งมั่วสุมกันกว่า 20คนอายุประมาณ15-25ปี จึงทำการตรวจค้นรถจักรยานยนต์พร้อมทั้งตรวจค้นตัวกลุ่มวัยรุ่นพบผู้ต้องส่งสัย1คนพยายามจะหลบหนีจึงทำการตรวจค้นภาย ในกระเป๋าสะพายสีดำคาดหน้าอกพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์จำนวนหนึ่งกระบอกกระสุนปืนขนาด9 มม.อยู่ในรังเพลิง1ลูก และกระสุนปืนขนาด9 มม.อีก 1 ลูก มีดพกจำนวน1อัน ในกระเป๋าทราบชื่อต่อมาคือนายวิทวัส หรือเต๋า อายุ19ปี จึงนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่สภ.เมืองพัทยา
สอบถามนายวิทวัส บอกว่าตนและเพื่อนๆได้มาจับกลุ่มขี่รถเล่นและเจอกลุ่มคู่อริ จึงกลับบ้านไปนำปืนไทยประดิษฐ์ที่ตนซื้อมาจากเพื่อนนานแล้ว มาพกเพื่อป้องกันตัวกลัวจะมีปัญหากับกลุ่มคู่อริแต่มานั่งรวมตัวกันก่อนและมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมก่อน
เบื่องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำประวัติและสอบสวนเพิ่มเติมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหานำตัวผู้ต้องหาพร้อมอาวุธปืนส่งพนักงานสอบสวนสภ. เมืองพัทยาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

11/07/2025

ตำรวจบางละมุง รวบสองผู้ต้องหา คดีลักเหล็กอลูมิเนียมกลางดึก อ้างตกงาน-เลี้ยงแม่ป่วยและลูกน้อย

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 พ.ต.อ.สราวุธ นุชนารถ ผู้กำกับการ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี มอบหมายให้ พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส., พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ กาสา สว.สส., ร.ต.อ.สมาน บุญแก้ว รอง สวป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุลักทรัพย์บริเวณปากซอยสุขุมวิทพัทยา 79 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีคนร้ายกำลังก่อเหตุลักทรัพย์
เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายสุรชัย อายุ 45 ปี และนายประพันธ์ อายุ 43 ปี ขณะกำลังลักเหล็กอลูมิเนียมภายในบริเวณดังกล่าว โดยมีของกลางเป็นเหล็กอลูมิเนียมตัดเส้นหลายเส้น น้ำหนักรวมประมาณ 1 กิโลกรัม พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ ได้แก่ ค้อนปอนด์ เหล็กชะแลง ค้อนหงอน และรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง (ดัดแปลงสภาพ) ทะเบียน 1กข 9159 นครพนม
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุจริงโดยมีเจตนานำเหล็กไปขายในราคาประมาณ 200-300 บาท โดยอ้างว่าตกงาน ไม่มีรายได้ และต้องดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงรวมถึงบุตรที่ยังเล็ก พร้อมยอมรับผิดและขอโอกาสกลับตัว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

11/07/2025

นทท.เกาหลีปะทะเดือดตีกันเองยับ ในร้านอาหารกลางเมืองพัทยา

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ( 11 กรกฎาคม 2568 ) ในโลกโซเชียลมีมีการแชร์คลิปเหตุการณ์ ทะเลาะวิวาทกัน ระหว่างกลุ่ม นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีด้วยกันเอง โดยคลิปมีความรุนแรงถึงขนาดขั้นแรง ปาแก้วใส่หน้า กระโดดต่อยกันยับ จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย โดยไม่แคร์ ลูกค้าคนอื่นๆที่อยู่ภายในร้าน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 03.30 น. ของวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ภายในร้านอาหาร จิ้มจุ่ม - หมูกระทะ ภายในซอยถนนเพ็ชรตระกูล ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.ปาณสาร ครองสิทธิ์ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ลงพื้นที่ไปทำการตรวจสอบ พร้อมกับคุมตัวกลุ่มชาวเกาหลี จำนวน 4 คน ทั้งหมดเป็นเพื่อน และ นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน แต่เกิดผิดใจกันเอง และ ทะเลาะกันบนโต๊ะอาหาร ตามที่ปรากฏในคลิป ตำรวจได้คุมตัวทั้งหมด ไปทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.เมืองพัทยา โดยมีเจ้าของร้านอาหาร ร่วมเดินทางไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งภายหลังนำตัวไปสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า ทางร้าน ได้เอาผิดนักท่องเที่ยวกับเกาหลี เรื่องทำให้ทรัพย์สินภายในร้าน เสียหาย รวมถึง ค่าอาหารทั้งหมดภายในร้าน โดยคิดค่าเสียหายฝ่ายที่ทะเลาะวิวาทกัน ฝั่งละ 50,000 บาท

เบื้องต้น นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ที่ทะเลาะกัน มีการพูดคุยและตกลงกันได้ และ ยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้กับทางร้าน ตำรวจดำเนินคดีในข้อกล่าวหา ร่วมกันทะเลาะวิวาท ก่อนทำการเปรียบเทียบปรับ แล้วปล่อยตัวไป

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ลงพื้นที่ ไปยังบริเวณจุดเกิดเหตุ และพยายามสอบถามข้อมูลจากพนักงานทางร้าน แต่ไม่มีใครกล้าให้ข้อมูล จึงไม่ทราบว่า สาเหตุของการที่ทะเลาะกัน ถึงขั้นเปิดศึกต่อยกันกลางร้านอาหารเกิดจากสาเหตุใด แต่รู้ว่ากลุ่มชาวเกาหลีนั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน แต่ไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้น จู่ๆ ก็ลุกขึ้นต่อยกัน ขว้างจาน - แก้ว ใส่กัน ตามที่ปรากฏในคลิป….

11/07/2025

เมื่อเวลา 04.00น. วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ ร.ต.ชลธิศ เลยานนท์ ป้องกันจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยนายณฐาภพ ยมจินดา ปลัดอำเภอบางละมุง พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา บุกตรวจ ร้าน 86 คลับ ภายในซอยบงกชพัทยาใต้ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อ 2 ที่ผ่านมา เกิดเหตุกลุ่มมีกลุ่มวัยรุ่น แต่กลาย ลักษณะทำงานโฮส ยกพวกไปรุมทำร้ายวันรุ่นคู่อริ โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพวินาทีก่อเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนและไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองแต่อย่างใด จนผู้เสียหลายหวาดกลัว จึงนำเรื่องมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน กระทั่งกลุ่มผู้ก่อเหตเดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวานที่ผ่านมา ประกอบกับมีชาวบ้านร้องเรียนไปว่าผับแห่งนี้ เปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด รวมไปถึงเคยถูกจับและพบยาเสพติดภายในร้านมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าหน้าที่เสนอให้ทำการปิดให้บริการ 5 ปี แต่ก็ยังคงพบว่าเปิดให้บริการเย้ยกฎหมาย ยันรุ่งเช้ามายาวนาน ไม่มีการปิดให้บริการแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่จึงสนธินำกำลังว่างแผนบุกเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึง พบร้านดังกล่าวยังคงเปิดให้บริการจริง มีนักท่องราตรี ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ทางร้านปิดเพลง เปิดไฟ ตรวจค้นตามโต๊ะ พบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก ตั้งอยู่บนโต๊ะ และยังพบถุงพลาสติกใสแบบซองซิป บรรจุผงสีขาวตกอยู่บริเวณข้างโต๊ะอีกจำนวน 1 ถุง สันนิษฐานว่าเป็นยาเสพติด แต่ไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ จะสั่งคัดแยกผู้ชายผู้หญิง แล้วตรวจเอกสารแสดงตัวบุคคล ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย รวมถึงตรวจค้นภายในร้าน พบซองพลาสติกใสแบบซิป มีคลาบผงสีขาวคล้ายยาเสพติดเป็นจำนวนมาก และรถยนต์รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านด้วย
เบื้องต้นผลการตรวจปัสสาวะ พบผู้มีปัสสาวะสีม่วงจำนวน 18 ราย เป็นผู้ชาย14 ราย ผู้หญิง 4 ราย ส่วนเอกสารของร้านพบว่าไม่สามารถนำเอกสารใดๆมาแสดงได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเชิญผู้ดูแลร้าน พร้อมของกลางเป็นซองพลาสติกใสแบบซิป รวมถึงผู้ที่มีปัสสาวะสีม่วงไปตรวจ ว่าเป็นสารเสพติดหรือไม่ หากพบว่าเป็นสารเสพติด ซึ่งทางร้านก็เคยถูกจับมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ยังไม่เข็ดหลาบ ก็จะต้องทำการเสนอไปยังผู้ว่าการจังหวัดชลบุรีเพื่อเสนอปิด 5 ปีต่อไป
อย่างไรก็ตามสร้างความสงสัยให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับสถานบันเทิงแห่งนี้ ซึ่งเคยถูกจับมียาเสพติดภายในร้านมาแล้วหลายครั้ง จนได้สมยานามว่าผับเถื่อน แต่เพราะเหตุใดถึงยังคงลักลอบเปิดมาได้ยาวนานเช่นนี้ เพียงแค่เปลี่ยนชื่อร้านเท่านั้น