เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย - Ramkhamhaeng Network for Democracy

เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย - Ramkhamhaeng Network for Democracy เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย -
สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี 2568

14 ตุลาคม 2516  #วันมหาวิปโยค สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ประชาชนลุกขึ้นเพื่อ “รัฐธรรมนูญของประชาชน”5...
14/10/2025

14 ตุลาคม 2516 #วันมหาวิปโยค สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ประชาชนลุกขึ้นเพื่อ “รัฐธรรมนูญของประชาชน”

52 ปีก่อน เสียงนักศึกษา และประชาชนธรรมดา ดังก้องไปทั่วถนนราชดำเนิน ไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พวกเขาไม่ได้เรียกร้องสิ่งใดมากไปกว่า
รัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนจริง ๆ

14 ตุลา 16 จึงไม่ใช่แค่เหตุการณ์ทางการเมือง
แต่มันคือ “การตื่นรู้ของคนไทย”
ว่าประชาธิปไตยไม่ใช่ของขวัญจากใคร
แต่ต้องได้มาด้วยการร่วมกันยืนหยัด

จนมาถึงวันนี้ เรายังพูดถึง “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” เพราะเรายังเชื่อในอุดมการณ์เดียวกับวันนั้น ว่ากฎหมายสูงสุดของประเทศ ควรถูกยึดโยงประชาชน เพื่อประชาชน เพราะประชาธิปไตย อำนาจสูงสุดอยู่ที่ประชาชน

ประชาธิปไตยไม่ได้มีแค่การเลือกตั้ง
แต่มันเริ่มต้นจาก รัฐธรรมนูญที่เป็นธรรม

#14ตุลา16 #รำลึก14ตุลา #รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 วันมหาวิปโยค เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชาชนไทย เป็นจุดเริ่มต้นที่ประชาชนตร...
14/10/2025

เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 วันมหาวิปโยค เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชาชนไทย เป็นจุดเริ่มต้นที่ประชาชนตระหนักว่า “อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน” และเป็นบทเรียนสำคัญว่า เสรีภาพไม่ได้มาโดยง่าย แต่ได้มาด้วยชีวิตและเลือดของผู้คนจำนวนมาก

หลังการรัฐประหารปี 2501 ประเทศไทยอยู่ภายใต้ การปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหาร มาอย่างยาวนาน โดยมีจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร เป็นผู้นำประเทศในฐานะคณะทหารที่ควบคุมทั้งอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และการแต่งตั้งข้าราชการ รวมถึงจำกัดเสรีภาพของประชาชน นักศึกษา และสื่อมวลชน

ในช่วงปลายทศวรรษ 2510 สังคมไทยเริ่มเกิดกระแสตื่นตัวทางการเมือง โดยเฉพาะในหมู่นักศึกษา ปัญญาชน และประชาชนชั้นกลางในเมือง ซึ่งเริ่มตั้งคำถามกับอำนาจทหารที่ไม่มาจากการเลือกตั้ง ความเหลื่อมล้ำ และการละเมิดสิทธิเสรีภาพ

กลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ เกษตรศาสตร์ ศิลปากร และรามคำแหง เริ่มรวมตัวกันจัดอภิปรายและรณรงค์ให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กลุ่มนักศึกษาเหล่านี้ต่อมาเรียกว่า “กลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ”

รัฐบาลได้จับกุมนักศึกษาและปัญญาชน 13 คน ในข้อหา “เป็นคอมมิวนิสต์” และ “ยุยงปลุกปั่น” เนื่องจากออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลร่างรัฐธรรมนูญและคืนอำนาจให้ประชาชน การจับกุมในครั้งนี้กลายเป็น ชนวนเหตุทางสังคม ทำให้เกิดกระแสไม่พอใจในหมู่นักศึกษาและประชาชนทั่วประเทศ

ในช่วงวันที่ 9–12 ตุลาคม 2516 การชุมนุมเริ่มขยายตัว นักศึกษาหลายหมื่นคนเริ่มชุมนุมบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีการจัดเวทีอภิปรายต่อเนื่อง เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับทั้ง 13 คน การชุมนุมดำเนินไปอย่างสงบและได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก ทั้งพ่อค้า แม่ค้า พระสงฆ์ และแรงงาน ขบวนการนักศึกษาประกาศว่า หากรัฐบาลยังไม่ยอมปล่อยตัวผู้ต้องหา จะมีการเคลื่อนขบวนใหญ่ในวันที่ 13 ตุลาคม

13 ตุลาคม 2516 ขบวนประชาชนเคลื่อนเข้าสู่ถนนราชดำเนิน ประชาชนและนักศึกษาหลายแสนคนจากทั่วประเทศรวมตัวกันที่ ถนนราชดำเนิน เดินขบวนจากธรรมศาสตร์ไปพระบรมมหาราชวัง เพื่อถวายฎีกาขอรัฐธรรมนูญ รัฐบาลยอม “ปล่อยตัวนักศึกษา 13 คน” และออกประกาศว่าจะจัดให้มีรัฐธรรมนูญภายใน 12 เดือน แต่เมื่อผู้ชุมนุมจะเดินขบวนกลับ ได้ถูกเจ้าหน้าที่สกัดกั้น ทำให้สถานการณ์เริ่มตึงเครียด

เวลาเช้ามืด วันที่ 14 ตุลาคม 2516 ผู้ชุมนุมยังคงอยู่เต็มถนนราชดำเนิน มีการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เวลาประมาณ 09.00 น. เกิดเหตุปะทะ มีการใช้แก๊สน้ำตา ยิงปืน และรถถังเข้าปราบปรามประชาชน เหตุการณ์บานปลายเป็นการนองเลือดกลางกรุงเทพ ประชาชนบางส่วนหนีเข้าไปหลบในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และถูกปิดล้อม เหตุการณ์นี้กลายเป็น การลุกฮือของประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย

ค่ำวันที่ 14 ตุลาคม 2516 การเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ จอมพลถนอม กิตติขจร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เดินทางออกนอกประเทศพร้อมครอบครัวและคณะ มีการแต่งตั้ง ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการแทน

หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 ถือเป็นยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน การลุกฮือของประชาชนครั้งนี้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทางการเมือง มีการจัดตั้งพรรคการเมืองเสรี สื่อมวลชนมีเสรีภาพ และการเคลื่อนไหวของแรงงาน ชาวนา และนักศึกษาขยายตัวอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างฝ่ายเสรีนิยม–ซ้าย กับฝ่ายอนุรักษ์นิยม–ขวา ได้ค่อยๆ สะสม จนท้ายที่สุดนำไปสู่โศกนาฏกรรมอีกครั้งใน 6 ตุลาคม 2519

#6ตุลา19 #วันมหาวิปโยค

06/10/2025
รายชื่อนักศึกษารามคำแหงที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 รุ่นพี่ของเราออกไปต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยแต่ต้องมาสู...
06/10/2025

รายชื่อนักศึกษารามคำแหงที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519
รุ่นพี่ของเราออกไปต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยแต่ต้องมาสูญเสียชีวิตเพราะฝีมือรัฐเผด็จการ ฝ่ายอนุรักษ์นิยม
รุ่นพี่ของเรายืนหยัดกับคำว่า #รามคำแหงมหาลัยของประชาชน

”ด้วยจิตคารวะ“

สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง บริหารงานโดยเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย และพรรคศรัทธา มหาวิทยาลัยรามคำแหง
#6ตุลา2519 #รำลึก6ตุลา #49ปี6ตุลา19

รำลึก 6 ตุลา 2519 ครบรอบ 49 ปี การสังหารหมู่ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยทำให้มีผู้เสียชีวิต 41 คน  - นักศึกษา ม.ร...
06/10/2025

รำลึก 6 ตุลา 2519
ครบรอบ 49 ปี การสังหารหมู่ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ทำให้มีผู้เสียชีวิต 41 คน
- นักศึกษา ม.รามคำแหง 13 คน
- นักศึกษา ม.มหิดล 5 คน
- นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ 4 คน
- นักศึกษา จุฬาฯ 1 คน
- นักศึกษา ม.กรุงเทพ 1 คน
- นักศึกษา ว.เพาะช่าง 1 คน
- ประชาชน 12 คน
- ถูกเผา 4 คน
และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก
สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง บริหารงานโดยเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย และพรรคศรัทธาธรรม ขอร่วมไว้อาลัยและรำลึกถึงวีรชนทุกท่าน
“ด้วยจิตคาราวะ”
#รำลึก6ตุลา #6ตุลา19 #49ปี6ตุลา

ครบรอบ 19 ปี นวมทอง ไพรวัลย์ ขับรถแท็กซี่ชนรถถังวันที่ 30 กันยายน 2549 นวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่วัย 60 ปี อดีตพนักงาน...
30/09/2025

ครบรอบ 19 ปี นวมทอง ไพรวัลย์ ขับรถแท็กซี่ชนรถถัง
วันที่ 30 กันยายน 2549 นวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่วัย 60 ปี อดีตพนักงานการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย ขับรถแท็กซี่ยี่ห้อ Toyota สีม่วง พุ่งชนรถถังรุ่น M41 ซึ่งจอดอยู่ข้างสวนอัมพร ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยที่ฝาท้ายกระโปรงรถแท็กซี่เขียนว่า ‘พลีชีพ’ ส่วนด้านข้างประตูเขียนว่า ‘พวกทำลายประเทศ’ การพุ่งชนทำให้บริเวณด้านหน้ารถพังยับเยิน ในขณะที่นวมทองซึ่งเป็นคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส ซี่โครงซ้ายหัก คางและปากแตก และตาซ้ายบวม
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองไทยจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) ซึ่งมี พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นแกนนำ นำกำลังทหารพร้อมรถถังเข้ายึดอำนาจรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
ในเวลาต่อมา พันเอก อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษก คปค. ให้สัมภาษณ์ว่า คงไม่มีคนไทยคนใดที่มีอุดมการณ์สูงถึงขนาดที่ต้องทำร้ายตัวเอง โดยการทำลายชีวิตเพื่อประชดหรือเรียกร้องต่อต้านการรัฐประหาร
ต่อมากลางดึกของวันที่ 31 ตุลาคม 2549 ลุงนวมทองตัดสินใจอัตวิบากกรรม ที่สะพานลอยหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ริมถนนวิภาวดีรังสิต โดยสวมเสื้อสกรีนข้อความของ กุหลาบ สายประดิษฐ์ (ศรีบูรพา) ข้อความว่า
“อันประชา สามัคคี มีจัดตั้ง
เป็นพลัง แกร่งกล้า มหาศาล
แสนอาวุธ แสนศัตรู หมู่อันธพาล
ไม่อาจต้าน แรงมหาประชาชน”
พร้อมกับกระดาษ 1 แผ่น เขียนข้อความว่า
“เหตุผลที่ผมเลือกวันสุดท้ายของเดือนตุลาคมเป็นวันพลีชีพ เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่วิญญาณของวีรชนที่สถิตอยู่ที่อนุสรณ์สถานฯ ที่ผมทำการพลีชีพนี้ได้เรียกร้องกระทั่งได้มาซึ่งประชาธิปไตย และวิญญาณของผมก็จะสถิตอยู่กับเหล่าวีรชนแห่งนี้ตลอดไป และขอยืนยันว่าปฏิบัติการทั้ง 2 ครั้งทำด้วยใจ ไม่มีใครจ้าง สุดท้ายขอให้ลูกๆ และภรรยาจงภูมิใจในตัวพ่อ ไม่ต้องเสียใจ ชาติหน้าเกิดมาคงไม่พบเจอการปฏิวัติอีก”
สภานักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ขอน้อมรำลึกถึงเจตจำนงอันแน่วแน่ของ “นวมทอง ไพรวัลย์” ผู้ยืนหยัดด้วยหัวใจแห่งประชาธิปไตย
ขอให้จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขา เป็นแสงนำทางให้ประชาชนทุกคนร่วมกันปกป้องเสรีภาพ ความยุติธรรม และประชาธิปไตยในผืนแผ่นดินนี้ตลอดไป

#ลุงนวมทอง #นวมทองไพรวัลย์

สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยลัยรามคำแหง และคณะกรรมการMeeting 68 ร่วมมอบทุนการศึกษา และของใช้ที่จำเป็น แก่นักเรียนโรงเรียนธรรม...
29/09/2025

สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยลัยรามคำแหง และคณะกรรมการMeeting 68 ร่วมมอบทุนการศึกษา และของใช้ที่จำเป็น แก่นักเรียนโรงเรียนธรรมิกวิทยา จ.เพชรบุรี

“กิจกรรมพัฒนาคน คนพัฒนาสังคม”

สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง บริหารงานโดยเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย และพรรคศรัทธาธรรม มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ครบรอบ 19 ปี การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549ในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) นำโดย พลเอกสนธิ...
19/09/2025

ครบรอบ 19 ปี การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

ในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) นำโดย พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ได้ทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ภายใต้การนำของนายทักษิณ ชินวัตร โดยให้เหตุผลเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจในทางที่ผิด และความขัดแย้งทางการเมืองที่ทวีความรุนแรง เหตุการณ์นั้นไม่เพียงทำลายกระบวนการประชาธิปไตย แต่ยังยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่เป็นสัญลักษณ์ของการมีส่วนร่วมของประชาชน

หลังรัฐประหาร มีการแต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราวโดย พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ และจัดทำรัฐธรรมนูญปี 2550 ก่อนการเลือกตั้งปี 2550 ที่นำไปสู่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งต่อมาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ สมัคร สุนทรเวช พ้นตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2551 เหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤตการณ์การเมืองปี 2551 ที่สะท้อนถึงความแตกแยกทางสังคมอันยืดเยื้อ ความขัดแย้งยกระดับจนเกิดรัฐประหารอีกครั้งในปี 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

แม้หลังจากการเลือกตั้งปี 2562 ประเทศไทยกลับสู่ระบบรัฐสภา แต่กลไกที่ถูกวางไว้โดยคณะรัฐประหารยังคงส่งผลต่อโครงสร้างอำนาจทางการเมือง เช่น การแต่งตั้งวุฒิสภาและการจำกัดสิทธิของพรรคการเมือง ส่งผลให้การจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้สะท้อนเจตจำนงของประชาชนอย่างแท้จริง เหตุการณ์การยุบพรรคอนาคตใหม่เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 และการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนในปี 2563–2564 แสดงให้เห็นถึงความต้องการการปฏิรูปทางการเมืองที่แท้จริง

การเลือกตั้งปี 2566 พรรคก้าวไกลชนะด้วยคะแนนสูงสุด แต่ไม่สามารถรวมเสียงจากวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหารได้เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคเพื่อไทยจึงรวมเสียงกับพรรคการเมืองที่เคยสนับสนุนรัฐประหาร และเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสินเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล และวันที่ 14 สิงหาคม 2567 นายเศรษฐาถูกถอดออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และในเวลาต่อมา แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

เหตุการณ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า วงจรการรัฐประหาร การยุบพรรคการเมือง การตัดสิทธิ์นักการเมือง และการใช้อำนาจผ่านองค์กรอิสระยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการพัฒนาประชาธิปไตยไทย ปัญหาที่เริ่มต้นเมื่อ 19 ปีก่อนยังไม่ถูกแก้ไขอย่างแท้จริง หากปราศจากการปฏิรูปโครงสร้างและการมีกติกาที่เป็นธรรม ประเทศจะยังคงติดอยู่ในวงจรเดิม

ประเทศไทยจำเป็นต้องมี #รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่มาจากการมีส่วนร่วมโดยตรงของประชาชนทุกภาคส่วน ไม่ใช่ผลผลิตจากรัฐประหารหรือการแต่งตั้งโดยชนชั้นนำ และทุกฝ่ายควร ยุติการใช้กฎหมายและกลไกที่ไม่เป็นธรรม เพื่อรักษาอำนาจของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และหันมาเคารพเสียงของประชาชน เพื่อให้การเมืองของประเทศกลับมามีความชอบธรรมตามเจตจำนงของประชาชนจริงๆ หากสถาบันการเมืองยังคงทำงานโดยไม่ตอบสนองต่อประชาชน วังวนแห่งการยึดอำนาจ การยุบพรรค และการจำกัดเสรีภาพจะยังคงเกิดซ้ำอีก

“เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”

สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง บริหารงานโดยเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย และพรรคศรัทธาธรรม

'อวสานคำสั่ง คสช.' สภาผู้แทนราษฎรมีมติเอกฉันท์ รับหลักการร่าง พ.ร.บ.โละคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 8/2560 และร่างทำนองเดียวกัน ร...
18/09/2025

'อวสานคำสั่ง คสช.' สภาผู้แทนราษฎรมีมติเอกฉันท์ รับหลักการร่าง พ.ร.บ.โละคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 8/2560 และร่างทำนองเดียวกัน รวม 5 ร่าง ด้วยคะแนน 317 ต่อ 0 เสียง คืนอำนาจบริหารงานบุคคลให้ท้องถิ่น หลังจากนี้จะมีการตั้ง กมธ.วิสามัญ โดยให้ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ของ 'วรภพ' พรรคประชาชน เป็นร่างหลัก

'อวสานคำสั่ง คสช.' สภาผู้แทนราษฎรมีมติเอกฉันท์ รับหลักการร่าง พ.ร.บ.โละคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 8/2560 และร่างทำนองเดียวกัน รวม 5 ร่าง ด้วยคะแนน 317 ต่อ 0 เสียง คืนอำนาจบริหารงานบุคคลให้ท้องถิ่น หลังจากนี้จะมีการตั้ง กมธ.วิสามัญ โดยให้ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ของ 'วรภพ' พรรคประชาชน เป็นร่างหลัก

อ่านรายละเอียด คลิกลิงก์ที่คอมเมนต์

#ประชาไท

18/09/2025
สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง ร่วมเดินขบวนงานบุญสาทรเดือนสิบ ประจำปี 2568 สืบสารประเพณีวิถีไทย ในวันที่ 16 กันยายน 256...
17/09/2025

สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง ร่วมเดินขบวนงานบุญสาทรเดือนสิบ ประจำปี 2568 สืบสารประเพณีวิถีไทย ในวันที่ 16 กันยายน 2568 ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก
ขอเชิญชวนเพื่อนๆ นักศึกษา และพี่น้องประชาชน มาเที่ยวงาน สืบสานประเพณีบุญสารทเดือนสิบ พบกับการออกร้านจากนักศึกษา ร้านค้าอื่นๆ ประเพณีชิงเปตร และฟรีคอนเสิร์ตตลอด 5 วัน 5 คืน ตั้งแต่วันที่ 15 - 19 กันยายน 2568 กิจกรรมจัดโดยองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

14/09/2025

สถานการณ์ผู้ต้องขังทางการเมือง ก.ย. 68: มีผู้ต้องขังได้รับอภัยโทษ 6 ราย ในขณะเดียวกันมีผู้ต้องขังเพิ่มใหม่สูง 11 ราย
ในรอบเดือนที่ผ่านมา (8 ส.ค. – 12 ก.ย. 2568) มีผู้ต้องขังทางการเมืองทั่วประเทศ อย่างน้อย 54 คน (เป็นคดีมาตรา 112 จำนวน 29 คน และคดีมาตรา 110 จำนวน 5 คน) ในจำนวนนี้ แยกเป็นผู้ต้องขังที่ไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดี อย่างน้อย 35 คน และผู้ต้องขังที่คดีสิ้นสุดแล้ว 18 คน และยังมีเยาวชน 1 คน ถูกคุมขังในสถานพินิจฯ ตามคำพิพากษาของศาลเยาวชนฯ
ในรอบเดือน มีผู้ต้องขังเพิ่มขึัน 11 ราย จากกรณีไม่ได้ประกันตัวในระหว่างพิจารณาคดี แต่ก็มีผู้ได้รับการปล่อยตัว 6 ราย หลังเข้าเกณฑ์ได้รับการปล่อยตัวจากพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ ปี พ.ศ.2568
📌ดูสถิติผู้ต้องขังการเมือง ปี 68 บนเว็บไซต์ในลิงค์ใต้คอมเมนต์:

ที่อยู่

Bang Kapi

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย - Ramkhamhaeng Network for Democracyผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์