MM Modern Manufacturing

28/10/2025

ขยะพลาสติกที่เราไม่ต้องการ อาจกลายเป็น “พรมหรู” ที่โลกต้องการ! 🌍
ทุกคนคงจะรู้อยู่แล้วว่าขยะพลาสติกหลายประเภทที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันนำมารีไซเคิลได้

แต่มาในวันนี้ “ขยะพลาสติก” จะกลายเป็นวัสดุชั้นสูงที่เข้าสู่โลกแฟชั่นระดับโลกได้จริง ๆ ณ จังหวัดขอนแก่น มีโรงงานไทยที่สามารถเปลี่ยนขวด PET ใช้แล้ว 100% ให้กลายเป็นพรมระดับพรีเมียม ผ่านกระบวนการ Upcycling ที่ผสมผสานทั้งศิลปะและเทคโนโลยีอย่างลงตัว
ตั้งแต่ขั้นตอนการย้อมสีที่ต้องใช้หม้อย้อมนับสิบเฉด ไปจนถึงการทอด้วยฝีมือช่างไทยที่ละเอียดระดับศิลปิน ทุกผืนไม่เพียงสวย แต่ยังสามารถแก้ Pain Point ได้ด้วยนวัตกรรมฆ่าเชื้อ
นี่คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าสิ่งของที่เกิดจากขยะ ไม่ได้ไร้ค่าเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อมาจากความตั้งใจและฝีมือของคนไทย
📖 อ่านเรื่องราวเต็มของ “พรมจากเส้นใยพลาสติก” ได้ที่เว็บไซต์ MM Thailand
#ขยะสร้างค่า

ค้นพบนวัตกรรมพรมจากเส้นใยพลาสติกรีไซเคิล 100% ที่ขอนแก่น ผลงานช่างไทยที่เปลี่ยนขยะให้กลายเป็นสินค้าระดับ.....

28/10/2025

MM Thailand News : กระทรวงอุตฯ ย้ำ MOU ไทย–สหรัฐฯ ด้านแร่หายาก “ไม่ผูกพันกฎหมาย” มุ่งเสริมอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด–เทคโนโลยีอนาคต
กระทรวงอุตสาหกรรมออกมาชี้แจงกรณีข้อกังวลของนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ พรรคประชาชน เกี่ยวกับการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ว่าด้วยความร่วมมือพัฒนาห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญ ซึ่งได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568
นางสาวภาดาท์ วรกานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และจ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ เปิดเผยว่า ข้อตกลงดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงทางอุตสาหกรรมของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านเทคโนโลยี การค้า และการลงทุนในอุตสาหกรรม แร่ธาตุจำเป็น (Critical Minerals) โดยเฉพาะแร่ที่ใช้ใน ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และ พลังงานสะอาด (Clean Energy)
ที่ปรึกษากระทรวงอุตสาหกรรมยืนยันว่า ประเทศไทยยังไม่มีเหมืองแร่หายากขนาดใหญ่ มีเพียงการค้นพบในบางพื้นที่ซึ่งยังไม่อยู่ในระดับเชิงพาณิชย์ จึงไม่เกิดความเสียเปรียบหรือผูกพันใด ๆ ต่อประเทศ เนื่องจาก MOU ฉบับนี้เป็นเพียงกรอบความร่วมมือทั่วไปไม่มีข้อผูกมัดทางกฎหมาย และยังเปิดทางให้ประเทศไทยสามารถกำหนดแนวทางการพัฒนาและควบคุมการลงทุนได้ตามกฎหมายภายในประเทศ
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีการลงทุนจริงในอนาคต ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรการสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อชุมชนและสุขภาพของประชาชน โดยรัฐบาลยืนยันจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก และมองว่า MOU ดังกล่าวเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประเทศไทยให้พร้อมรับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียวและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
✦ มุมมองในภาคอุตสาหกรรมของทาง MM Thailand

MOU ไทย–สหรัฐฯ ด้านแร่หายากครั้งนี้ แม้ไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมาย แต่สะท้อนถึงทิศทางยุทธศาสตร์ใหม่ของไทย ในการเข้าร่วมห่วงโซ่พลังงานสะอาดระดับโลก โดยใช้ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและการลงทุนจากสหรัฐฯ เป็นตัวเร่ง

ขณะเดียวกันไทยยังสามารถรักษาอำนาจอธิปไตยทางทรัพยากรและเลือกแนวทางพัฒนาแบบยั่งยืน ซึ่งหากบริหารจัดการได้ดีอาจต่อยอดสู่การผลิตวัสดุขั้นสูงและอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ในอนาคต
ที่มาข่าว : ฐานเศรษฐกิจ
#แร่หายาก #พลังงานสะอาด #อุตสาหกรรมไทย #เศรษฐกิจอนาคต

28/10/2025

🛎️ อีกไม่นานเกินรอ!

อย่าพลาดโอกาสในการพบปะ พูดคุย และต่อยอดความร่วมมือในงาน
“จับคู่ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ไต้หวัน – ไทย”
พื้นที่สำคัญในการเปิดโอกาสสร้างความร่วมมือทางธุรกิจและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศ
📆 ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568
⏰ เวลา 10:00-12:30 น.
📍 ณ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล DEPA (สำนักงานใหญ่) ถ. ลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
𝗧𝗮𝗶𝘄𝗮𝗻–𝗧𝗵𝗮𝗶𝗹𝗮𝗻𝗱 𝗧𝗲𝗰𝗵 & 𝗕𝘂𝘀𝗶𝗻𝗲𝘀𝘀 𝗠𝗮𝘁𝗰𝗵𝗺𝗮𝗸𝗶𝗻𝗴 𝘄𝗶𝘁𝗵 𝗧𝗵𝗮𝗶-𝗚𝗲𝗿𝗺𝗮𝗻 𝗜𝗻𝘀𝘁𝗶𝘁𝘂𝘁𝗲

💡ขอเชิญทุกท่านที่สนใจเข้าร่วมงาน "จับคู่ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระหว่าง ไต้หวัน – ไทย" เพื่อเปิดโอกาสในการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีสมัยใหม่

ซึ่งจัดขึ้นโดย 4️⃣ บริษัทนวัตกรรมจากไต้หวัน ที่จะมาเชื่อมต่อกับธุรกิจไทย ได้แก่

🔹𝗖𝘂𝗽𝗼𝗹𝗮𝟯𝟲𝟬 𝗜𝗻𝗰.
Cupola360 Inc. เป็นบริษัทในเครือของ ASPEED Technology ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการออกแบบวงจรรวม (IC) ให้บริการโซลูชันการถ่ายภาพพาโนรามา 360 องศาแบบไร้ความหน่วง
โดยร่วมมือกับผู้ให้บริการ AI และผู้ผสานรวมระบบ เพื่อนำเสนอโซลูชันการจัดการภาพอัจฉริยะแบบพาโนรามาจากระยะไกล ซึ่งครอบคลุมแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น การลาดตระเวนอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ การประชุมทางวิดีโอ และอื่นๆ อีกมากมาย
🔹𝗛𝗶𝗺𝗮𝘅 𝗧𝗲𝗰𝗵𝗻𝗼𝗹𝗼𝗴𝗶𝗲𝘀
Himax คือผู้ให้บริการโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์แบบแฟบเลสที่มุ่งเน้นเทคโนโลยีการประมวลผลภาพบนจอแสดงผล ซึ่งรวมถึง TDDI, AMOLED, เซ็นเซอร์ CMOS, ออปติกส์ และ AI Vision สำหรับแอปพลิเคชันมือถือ พีซี ยานยนต์ AR และ IoT ทั่วโลก
🔹𝗲𝗬𝘀𝟯𝗗 𝗠𝗶𝗰𝗿𝗼𝗲𝗹𝗲𝗰𝘁𝗿𝗼𝗻𝗶𝗰𝘀, 𝗖𝗼.
eYs3D Microelectronics คือผู้ให้บริการ SoC สำหรับการประมวลผลภาพ AI และโซลูชันการตรวจจับ 3 มิติ และนำเสนอระบบย่อยภาพ AI+ แบบเรียลไทม์ที่ผสานรวมอย่างมีประสิทธิภาพ
ใช้พลังงานต่ำ ซึ่งช่วยเร่งการใช้งานแอปพลิเคชันอัจฉริยะรุ่นใหม่ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีหลัก ได้แก่ AI Vision SoC และโมดูล 3D Stereo Vision

🔹𝗠𝗪𝗚 𝗧𝗲𝗰𝗵𝗻𝗼𝗹𝗼𝗴𝗶𝗲𝘀 𝗖𝗼., 𝗟𝘁𝗱.
MWG มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโซลูชันการดูแลสุขภาพอัจฉริยะ AIoT โดยให้บริการตรวจสอบการเคลื่อนไหว คุณภาพการนอนหลับ และความเสี่ยงต่อการหกล้มแบบสวมใส่ได้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและสนับสนุนผู้ดูแลโซลูชันของ MWG มอบข้อมูลเชิงลึกทางคลินิกที่เชื่อถือได้และช่วยลดภาระการดูแลด้วยการใช้งานที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในโรงพยาบาลขนาดใหญ่และสถานพยาบาลระยะยาว
🤝 เวทีแห่งความร่วมมือเพื่ออนาคตทางธุรกิจระหว่างไทยและไต้หวัน
งานนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเทคโนโลยี ค้นหาโอกาสในการเป็นพันธมิตร และสร้างการแลกเปลี่ยนที่มีความหมายระหว่างสองประเทศ

🌟 พบกับบริษัทชั้นนำจากไต้หวันที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล เปิดโอกาสในการพูดคุยโดยตรง สร้างพันธมิตรใหม่ และค้นพบศักยภาพในการเติบโตไปด้วยกัน
มาร่วมสร้างเครือข่ายธุรกิจใหม่ ๆ พร้อมเปิดมุมมองสู่ความร่วมมือระดับนานาชาติ
📌ลงทะเบียนได้ที่ :
https://www.stipc.org/tw/actregister/106

28/10/2025

AI แค่ช่วยงานหรือกำลัง “เปลี่ยนโรงงานทั้งระบบ”? 🤖
ในปี 2025 ผู้บริหารอุตสาหกรรมทั่วโลกต่างยืนยันตรงกันว่า AI ไม่ใช่อนาคต แต่คือปัจจุบันของโรงงานยุคใหม่ จากการคาดการณ์ความเสียหายของเครื่องจักรล่วงหน้า ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพชิ้นงานแบบ Real-time และการสร้างโรงงานจำลองเสมือน (Digital Twin) เพื่อปรับปรุงการผลิตโดยไม่ต้องหยุดสายงานจริง
แล้วถ้าวันนี้ AI สามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับคุณภาพได้จริง โรงงานไทยพร้อมแค่ไหนที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจในยุคแข่งขันระดับโลก?
📖 อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่เว็บไซต์ MM Thailand เพื่อเจาะลึกเทรนด์การนำ AI มาเปลี่ยนโรงงานให้กลายเป็น Smart Factory ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างแท้จริง

28/10/2025

MM Thailand News : กพช.อนุมัติ กฟผ. ลงทุน 3,000 ล้าน ปรับระบบส่งไฟฟ้ารับ Data Center – เดินหน้าหนุนพลังงานสะอาดเพิ่มความมั่นคง EEC
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เดินหน้า โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าภาคตะวันออก เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มผู้ประกอบการ Data Center ตามนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล
การลงทุนระยะแรกจะใช้งบประมาณ 3,000 ล้านบาท ภายใต้โครงการ Transmission System Improvement Project in Eastern Region to Enhance System Security (TIPE) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้แล้ว เพื่อพัฒนาและก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงในจังหวัดระยองและชลบุรี ให้รองรับการใช้ไฟฟ้ารวมประมาณ 1,750 เมกะวัตต์
พร้อมกันนี้ กพช. ยังมอบหมายให้ กฟผ. จัดทำแผนลงทุนระยะกลางและระยะยาวเพิ่มเติม วงเงินรวม 30,500 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพและความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐานพลังงานแห่งอนาคต โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติในลำดับถัดไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางดำเนินการโครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Ground-Mounted Solar Project) โดยอนุมัติให้ กฟผ. ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในอัตรา 2.1679 บาทต่อหน่วย ซึ่งสอดคล้องกับโครงสร้างต้นทุนของภาคเอกชนและต่ำกว่าอัตราเดิมที่กำหนดไว้ 2.1941 บาทต่อหน่วย เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและลดภาระค่าไฟฟ้าภาพรวมของประเทศ
ที่ประชุมยังเสนอให้ภาคเอกชนพิจารณาปรับลดอัตรารับซื้อไฟเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน พร้อมมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณาขยายระยะเวลาการลงนาม PPA และเลื่อนกำหนดเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (SCOD) ได้ไม่เกินปี 2573 สำหรับโครงการที่ได้รับผลกระทบจากการเลื่อนมติ กพช. เดิม
✦ มุมมองในภาคอุตสาหกรรมของทาง MM Thailand

การอนุมัติแผนลงทุนครั้งนี้ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของโครงสร้างพื้นฐานพลังงานไทยในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะการเติบโตของ Data Center และ AI Infrastructure ที่ต้องใช้ไฟฟ้าปริมาณสูงและต่อเนื่อง

การลงทุนของ กฟผ. จะช่วยเสริมความมั่นคงของระบบไฟในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นหัวใจของเศรษฐกิจใหม่ ขณะเดียวกัน การผลักดันพลังงานแสงอาทิตย์ในรอบนี้ยังสะท้อนแนวทางพลังงานสะอาดเพื่ออุตสาหกรรมดิจิทัลที่สอดคล้องกับแนวทาง Net Zero และทิศทางการลงทุนของต่างชาติในอนาคต
ที่มาข่าว : ฐานเศรษฐกิจ
#กฟผ #พลังงานไทย

27/10/2025

รู้ไหม❓ แผงโซลาร์ไม่ได้มีไว้แค่ผลิตไฟ แต่ยังช่วยให้พืชเติบโตได้ดีกว่าเดิมด้วย
ใครจะคิดว่าพลังงานแสงอาทิตย์กับการเกษตรจะไปด้วยกันได้
แต่ 𝗔𝗴𝗿𝗶𝘃𝗼𝗹𝘁𝗮𝗶𝗰𝘀 หรือเทคโนโลยีการปลูกพืชใต้แผงโซลาร์เซลล์ กำลังทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง
แนวคิดของมันเรียบง่ายแต่ทรงพลังเป็นอย่างมาก
คือการติดตั้งแผงโซลาร์ไว้เหนือแปลงเพาะปลูก เพื่อให้ทั้ง “พลังงานไฟฟ้า”
และ “ผลผลิตทางเกษตร” เติบโตไปพร้อมกัน 🌾⚡️
เมื่อแผงโซลาร์ให้ร่มเงาบางส่วน พืชจะได้รับแสงพอดี ไม่ร้อนจัดจนคายน้ำเกินไป
ผลวิจัยพบว่าพืชที่ปลูกใต้แผงโซลาร์ มีการเจริญเติบโตดีขึ้น และช่วยประหยัดน้ำได้ถึง 𝟰𝟬%

ในขณะเดียวกัน ความเย็นจากแปลงเพาะปลูกยังช่วยให้แผงโซลาร์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรียกได้ว่า “ต่างฝ่ายต่างช่วยกันเติบโต” อย่างแท้จริง
และสิ่งที่สวยงามที่สุดคือ เกษตรกรสามารถมีรายได้สองทาง
ทั้งจากการขายผลผลิต และการขายไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์
นั่นหมายความว่า ในพื้นที่เพียงผืนเดียว สามารถสร้างทั้งอาหารและพลังงานให้กับโลกได้ในเวลาเดียวกัน
นี่แหละคืออนาคตของการเกษตรยุคใหม่ที่ไม่ต้องเลือกข้างระหว่าง “โลก” กับ “คน” 👥🌏
เพราะทั้งคู่สามารถเติบโตไปพร้อมกันได้ ภายใต้ร่มเงาเดียวกันของ 𝗔𝗴𝗿𝗶𝘃𝗼𝗹𝘁𝗮𝗶𝗰𝘀 💚
________________________________________

📌 Fern Need You Know: เรื่องนี้เฟิร์นว่า "ต้องรู้!"
กดไลก์ กดแชร์ไว้เป็นคลังความรู้ดี ๆ แล้วกลับมารู้เรื่องใหม่ ๆ ในทุก จ.-พ.-ศ. 💡
#พลังงานสะอาด #เกษตรยั่งยืน #เทคโนโลยีเกษตร #เกษตรพลังงานแสงอาทิตย์

27/10/2025

🤖 หุ่นยนต์ที่ “เดินได้ บินได้ และคิดได้” กำลังจะเปลี่ยนอนาคตอุตสาหกรรมหรือไม่?
นักวิจัยจาก Caltech และสถาบันในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เผยโฉม “X1” หุ่นยนต์รูปแบบมนุษย์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมโดรนในตัว สามารถแยกออกไปบินได้อย่างอิสระ และทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์

นี่คือก้าวสำคัญของ Multimodal Robot System ที่รวมความสามารถของมนุษย์ หุ่นยนต์ และ AI เข้าด้วยกัน
จุดมุ่งหมายของการพัฒนา X1 ไม่ใช่แค่ให้หุ่นยนต์ที่ทำได้หลายอย่าง แต่คือการทำให้ทุกความสามารถเชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด ทั้งการเคลื่อนไหว การบิน และการประมวลผลข้อมูลผ่าน Machine Learning เพื่อให้หุ่นยนต์ตัดสินใจเองได้ในสถานการณ์จริง
📖 อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่เว็บไซต์ MM Thailand เพื่อดูว่าหุ่นยนต์ X1 จะกลายเป็นต้นแบบของมนุษย์จักรกลอัจฉริยะแห่งยุคใหม่ได้อย่างไร

นักวิจัยพัฒนา Multimodal System สำหรับหุ่นยนต์ขึ้นมา เป็นการรวบรวมความเชี่ยวชาญด้านระบบอัตโนมัติ, AI, หุ่นยนต์ และระบบ...

27/10/2025

MM Thailand News : ไทยจับมือสหรัฐฯ ลงนาม MOU แร่หายาก ยกระดับสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรมโลก – ก้าวสำคัญสู่ยุทธศาสตร์แร่สะอาด
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านแร่ธาตุจำเป็นและแร่หายาก ระหว่างรัฐบาลไทยและสหรัฐอเมริกา ถือเป็นข้อตกลงเชิงยุทธศาสตร์ฉบับแรกของไทยในด้านทรัพยากรแร่ โดยมีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ประเทศมาเลเซีย
สาระสำคัญของข้อตกลงมุ่งสร้างความร่วมมือในทุกมิติ ตั้งแต่การสำรวจ ค้นหา ผลิต และพัฒนาเทคโนโลยีแร่หายากภายในประเทศไทย เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านวัตถุดิบอุตสาหกรรม และกระจายห่วงโซ่อุปทานโลก โดยฝ่ายสหรัฐฯ จะสนับสนุนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และบุคลากร เพื่อเสริมขีดความสามารถให้ไทยก้าวสู่การเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง
แม้ MOU ฉบับนี้จะไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่ถือเป็นกรอบความร่วมมือเชิงเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่สำคัญ ซึ่งเปิดโอกาสให้สหรัฐฯ เข้าถึงทรัพยากรแร่หายากของไทยภายใต้หลักความโปร่งใส เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเปิดรับการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน
ขอบเขตของความร่วมมือครอบคลุมตั้งแต่การสำรวจทางธรณี เทคนิคการถลุงแร่ การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ ไปจนถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลวิจัยและเทคโนโลยีใหม่สำหรับการผลิตในอุตสาหกรรมยุคดิจิทัล
ข้อตกลงนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงที่การแข่งขันระหว่างสหรัฐฯ และจีนด้านแร่หายาก เข้าสู่จุดร้อนแรง ประเทศไทยจึงถูกจับตามองในฐานะสมรภูมิเศรษฐกิจใหม่ที่มีศักยภาพด้านทรัพยากรและทำเลเชิงยุทธศาสตร์ นักวิชาการและภาคสังคมเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเปิดเผยข้อมูลแผนการดำเนินงานอย่างโปร่งใส เพื่อป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมและความขัดแย้งกับชุมชนในอนาคต
✦ มุมมองในภาคอุตสาหกรรมของทาง MM Thailand

ข้อตกลงนี้สะท้อนจุดเปลี่ยนของไทยจากผู้ส่งออกวัตถุดิบดิบ สู่ผู้ร่วมพัฒนาในห่วงโซ่เทคโนโลยีโลก โดยเฉพาะในยุคที่แร่หายากเป็นหัวใจของอุตสาหกรรม AI, รถยนต์ไฟฟ้า และเซมิคอนดักเตอร์ การจับมือกับสหรัฐฯ ไม่เพียงเพิ่มโอกาสด้านการลงทุนและถ่ายทอดเทคโนโลยี แต่ยังผลักดันให้ไทยต้องเร่งยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม การกำกับดูแล และนโยบายแร่สะอาด เพื่อสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจใหม่และความยั่งยืนในระยะยาว
#ไทยสหรัฐความร่วมมือแร่หายาก #อุตสาหกรรมไทย #เศรษฐกิจยุทธศาสตร์

27/10/2025

เปลี่ยนเกมผลิตด้วย Gantry Robot XXL จาก igus® โหลดงานเร็วขึ้นที่ Metaprint
ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันสูง การลดต้นทุนมักมาพร้อมกับการลดจำนวนพนักงาน แต่คำถามที่ตามมาคือ จะรักษาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตได้อย่างไรในเมื่อกำลังคนลดลง? คำตอบที่หลายธุรกิจเริ่มให้ความสนใจ คือ ระบบอัตโนมัติ (Automation) ที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต อย่างไรก็ตาม ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) มักมองว่าการลงทุนในเทคโนโลยี เป็นเรื่องใหญ่และใช้งบประมาณสูงเกินไป แล้วบริษัทอย่าง เมตาพรินต์ คิดอย่างไรกับการลงทุนนี้?
#อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ #ลดต้นทุน #เพิ่มประสิทธิภาพ #อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ #บรรจุภัณฑ์สเปรย์ #โซลูชันอุตสาหกรรม #ระบบอัตโนมัติ

ค้นพบเรื่องราวความสำเร็จของ Metaprint ที่พลิกเกมการผลิตด้วย Gantry Robot XXL จาก igus® ซึ่งช่วยลดภาระงาน เพิ่มความแม่นยำ และป...

26/10/2025

🧬 Biotech...จะกลายเป็นขุมพลังใหม่ของเศรษฐกิจโลกจริงไหม?
ในศตวรรษหน้า เทคโนโลยีชีวภาพกำลังถูกมองว่าเป็นหัวใจของการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่การแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) ที่รักษาได้ตรงจุดระดับยีน ไปจนถึงอาหารแห่งอนาคตอย่างเนื้อสังเคราะห์ (Cultured Meat) และพลังงานชีวภาพที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
แต่คำถามคือ ประเทศไทยพร้อมแค่ไหนกับการก้าวสู่ยุค Biotech Economy อย่างเต็มตัว?
ในขณะที่ทั่วโลกเร่งลงทุนใน R&D และสร้าง Ecosystem ทางวิทยาศาสตร์ ประเทศไทยยังต้องเผชิญความท้าทายเรื่องบุคลากรและกฎหมายที่ยังตามไม่ทันความเร็วของเทคโนโลยี นักวิจัยและห้องแล็บจำเป็นต้อง “อัปสกิล” และเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน และสถาบันวิจัย เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างยั่งยืน
📖 “อุตสาหกรรมไบโอเทค” จะไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือโอกาสทองที่อาจนิยามอนาคตเศรษฐกิจไทยใหม่อีกครั้ง อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่เว็บไซต์ MM Thailand

เจาะลึกทิศทางอุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยีไทยในศตวรรษหน้า ตั้งแต่การแพทย์แม่นยำ อาหารยั่งยืน จนถึงพลังงานชีว...

26/10/2025

MM Thailand News : จีนสร้างประวัติศาสตร์! ศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก เปิดยุคใหม่ “Green Data Infrastructure”
จีนประกาศความสำเร็จในการก่อสร้าง ศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก ที่นครเซี่ยงไฮ้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของประเทศในการบูรณาการพลังงานหมุนเวียนเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยใช้งบลงทุนกว่า 1.6 พันล้านหยวน (ราว 226 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผลิตกำลังไฟฟ้าได้ 24 เมกะวัตต์ และมีอัตราการใช้พลังงานสะอาดเกิน 95%
โครงการนี้ตั้งอยู่ในเขตพิเศษหลินกั่ง (Lingang Special Area) ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีแห่งใหม่ของจีน ถูกออกแบบให้เป็นต้นแบบของ “Green Data Infrastructure” หรือระบบศูนย์ข้อมูลคาร์บอนต่ำแห่งอนาคต โดยใช้ น้ำทะเลระบายความร้อนตามธรรมชาติ ช่วยลดการใช้พลังงานในระบบทำความเย็นลงจาก 40-50% เหลือต่ำกว่า 10% ส่งผลให้ประหยัดพลังงานรวมกว่า 22.8% และใช้พื้นที่ดินน้อยกว่าศูนย์ข้อมูลทั่วไปกว่า 90%
ศูนย์ข้อมูลเฟสแรกที่สร้างเสร็จมีค่า PUE (Power Usage Effectiveness) ไม่เกิน 1.15 ถือเป็นหนึ่งในศูนย์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในโลก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “Green Development Policy for Data Centers” ของรัฐบาลจีน ที่ตั้งเป้าลดค่า PUE ของศูนย์ข้อมูลระดับชาติให้ไม่เกิน 1.2 ภายในปี 2025
การดำเนินงานโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในเซี่ยงไฮ้ โดยนำพลังงานลมนอกชายฝั่งมาใช้เป็นแหล่งพลังงานหลัก สามารถผลิตไฟฟ้าได้กว่า 3,000 ชั่วโมงต่อปี ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพให้จีนบรรลุเป้าหมาย มูลค่าเศรษฐกิจคลาวด์ 200 พันล้านหยวน และขีดความสามารถประมวลผลระดับ 200 EFLOPS ภายในปี 2027
ภาคเอกชนรายใหญ่ของจีน เช่น Shanghai Hicloud Technology, Shenergy Group, China Telecom และ INESA ได้ลงนามพัฒนาโครงการศูนย์ข้อมูลใต้น้ำขนาด 500 เมกะวัตต์ เพื่อขยายจากโครงการสาธิตสู่ระดับเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ โดยจะเชื่อมโยงเข้าสู่ยุทธศาสตร์ “East Data, West Computing” เพื่อกระจายภาระการประมวลผลจากภูมิภาคตะวันออกไปยังตะวันตก และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
✦ มุมมองในภาคอุตสาหกรรมของทาง MM Thailand

ความสำเร็จของจีนในการพัฒนาศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานหมุนเวียน ไม่เพียงสะท้อนศักยภาพด้านเทคโนโลยีและพลังงานสะอาด แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมดิจิทัลโลก เพราะเป็นโมเดลที่ลดทั้งต้นทุนพลังงาน พื้นที่ และคาร์บอนฟุตพรินต์ได้พร้อมกัน โดยเฉพาะในยุคที่ AI และ Cloud Computing ต้องการพลังประมวลผลสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แนวทางนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่ประเทศอื่นต้องศึกษา หากต้องการก้าวสู่เศรษฐกิจข้อมูลอย่างยั่งยืนในอนาคต
ที่มาข่าว : CHINADAILY
#พลังงานลม #อุตสาหกรรมดิจิทัล

26/10/2025

🧬 เมื่อเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของห้องแล็บอีกต่อไป แต่กลายเป็น “ขุมพลังเศรษฐกิจใหม่” ที่จะเปลี่ยนโฉมประเทศไทยใน 3 ปีข้างหน้า
จากเป้าหมาย Bio Hub of ASEAN ที่รัฐบาลตั้งไว้ พร้อมเม็ดเงินลงทุนกว่า 5.5 แสนล้านบาท อุตสาหกรรม Biotech ไทยกำลังเดินหน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านการแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine), พลังงานชีวภาพ (Biofuel), และอาหารแห่งอนาคต
โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย เทคโนโลยีชีวภาพจึงไม่ใช่แค่เรื่องของวิทยาศาสตร์ แต่คือคำตอบของสุขภาพ เศรษฐกิจ และความยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้ยังมีความท้าทาย ทั้งการขาดการเชื่อมโยงระหว่างงานวิจัยกับภาคธุรกิจ และข้อจำกัดจากระบบราชการที่ทำให้การเติบโตล่าช้า แต่เมื่อ AI เข้ามามีบทบาทในวงการไบโอเทค ตั้งแต่การวิเคราะห์พันธุกรรม ไปจนถึงการออกแบบยาและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
📍 อ่านต่อบทความเต็ม “Biotechnology ไทย: อนาคต 3 ปีข้างหน้า โอกาสท้าทาย และการมาถึงของ AI” ได้ที่เว็บไซต์ MM Thailand

เปิดมุมมองอนาคตอุตสาหกรรม Biotechnology ไทย ภายใต้นโยบาย Bio Hub of ASEAN การเติบโตของ Biofuel และ Biopharma โอกาสในสังคมสูงวัย และบทบาท.....