27/02/2025
"คนที่ไม่มีสติ" จะเกิดความคิดชั่ว การกระทำชั่ว การพูดชั่ว เพราะจิตเกิดอกุศลธรรมอันเป็นบาป จึงทำให้เป็นเช่นนั้น
คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ตัวว่าตัวเองมักคิดชั่ว
คือคิดว่าร้ายใครๆ อยู่เสมอ และคิดเบียดเบียนใครๆ ด้วยการคิดร้ายอยู่เสมอ เพราะจิตไม่มีสติ หลงไปยินดียินร้าย, หลงไปชอบใจหรือไม่ชอบใจ, หลงไปพอใจหรือไม่พอใจ ในผัสสะคือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสต่างๆ ที่เข้ามาทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
คนที่ถูกอกุศลจิตครอบงำ จะเป็นคนมี "อัตตา" คือ "ความยึดมั่นถือมั่น" เป็นคนมีอคติมองคนในแง่ร้ายไม่มีเมตตาธรรม เป็นคนขี้อิจฉาเห็นใครได้ดีไม่ได้ เป็นคนพาลชอบทำเรื่องชั่วร้าย
โลกคือรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ที่เราได้รับรู้อยู่ทุกวัน มีเรื่องราวมากมายที่ทำให้จิตของเรเกิดอกุศลธรรม เพราะความขาดสติ
จึงทำให้เก็บเรื่องราวเหล่านั้นมานึกคิดปรุงแต่งให้จิตใจเกิดเป็นทุกข์อยู่เสมอโดยไม่รู้ตัว เพราะจิตมีแต่ความเศร้าหมองที่เกิดจากอกุศลธรรมอันเป็นบาป
พระพุทธเจ้าจึงได้ทรงสอนให้ชาวพุทธรู้จักการฝึกสติไว้...เพื่อให้จิตเป็นกุศลธรรมอันเป็นบุญ เพราะการที่จิตเกิดกุศลธรรม จะทำให้จิตของเราเกิดเมตตาธรรม ไม่เกิดอัตตาและอคติ มองคนอื่นในแง่ดีมีมิตรไม่ตรีต่อกัน ไม่ว่าร้ายใครด้วยความพยาบาท ไม่คิดร้ายใครด้วยความเบียดเบียน มีจิตใจที่สงบนิ่งและเย็น
"การมีสติอยู่เสมอ" จะทำให้จิตสะอาดปราศจากกิเลสไม่เศร้าหมอง
ทำให้จิตสว่างทางปัญญาไม่หลงไปยึดมั่นถือมั่น
ทำให้จิตเกิดความสงบเป็นสมาธิได้จนเข้าถึงความเป็น "จิตว่าง" คือ "สูญญตาธรรม"
จึงควรสวดมนต์ภาวนาไว้เสมอในชีวิตประจำวันว่า
“ไม่ยินดียินร้าย...ไม่ว่าร้ายใคร...ไม่คิดร้ายใคร...” เพราะการสวดมนต์ภาวนาไว้เสมอ จะทำให้เกิดสติ
ถอนความรู้สึกยินดียินร้าย, ถอนความรู้สึกพอใจหรือไม่พอใจ, ถอนความรู้สึกชอบใจหรือไม่ชอบใจในโลกออกเสียได้ จึงทำให้เราอยู่เย็นเป็นสุข ดังนี้.
น้อมนำคำสอนหลวงพ่ออุดม มหาปุญโญ
#เห็นทุกข์เห็นธรรม