หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ

หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ รับเช่า ให้เช่า พระเครื่องหลวงปู่หมุน ส่งรูปพระเครื่อง กดลิ้งค์👇👇
https://line.me/ti/p/-yrvgOm7n
(1)

เพจนี้จัดตั้งเพื่อไว้เป็นที่ พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบกาณ์ ความรู้ ในเรื่องวัตถุมงคล และประสบกาณ์ความศรัทธาและปาฎิหารย์ ของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ หากมีการแลกเปลี่ยน ซื้อขาย วัตถุมงคล ขอให้ทุกๆท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการ รับชม รับฟัง และตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ผู้ดูแลเพจจะไม่รับผิดชอบใดๆ จากการแลกเปลี่ยนซื้อขายดังกล่าว ด้วยความปราถณาดี.......ขอบคุณครับ

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อราวๆปีพ.ศ.2512​ ในงานพิธีพุทธา​ภิเษกวัตถุมงคลที่ วัดท่าเตียน อ.บางนางบวช​ จ.สุพรรณบุรี​ในวันนั้นหล...
05/06/2025

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อราวๆปีพ.ศ.2512​ ในงานพิธีพุทธา​ภิเษกวัตถุมงคลที่ วัดท่าเตียน อ.บางนางบวช​ จ.สุพรรณบุรี​

ในวันนั้นหลวงพ่อมุ่ย​ วัดดอนไร่​ ท่านได้รับนิมนต์มาเป็นประธานในพิธี และท่านชราภาพมากแล้วแต่ได้ให้ศิษย์ประ​คองท่านลงมานั่งรออยู่ที่ศาลาด้านหน้า เพื่อรอพบกับหลวงพ่อกวย​ วัด​โฆสิตา​ราม​

ทั้งหลวงพ่อมุ่ยและหลวงพ่อกวย มีพระอาจารย์ร่วมกันคือหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา พระเกจิอาจารย์ทั้ง​ 2​ รูป เคยเจอหน้ากันแต่ไม่เคยคุยกัน และนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ท่านทั้ง2ได้มีโอกาสสนทนากัน

" นี้หรือท่านกวย เขาว่าท่านเก่งมากๆวันนี้ได้มาพบกันเสียทีนะ "

เสียงหลวงพ่อมุ่ยท่านกล่าวทักทาย

"ครับหลวงพี่ ผมชื่อพระกวย" หลวงพ่อกวยท่านตอบกลับมา และหลวงพ่อมุ่ย ท่านก็ได้เอ่ยปากออกมา

"วันนี้ลมแรงมากจะจุดเทียนชัยได้ยังไงล่ะ"

หลวงพ่อกวยท่านจึงตอบว่า

"ผมไม่ยอมให้หลวงพี่จุดเทียนชัยไม่ได้แน่ๆครับ​ นี่ก็ใกล้จะได้เวลาแล้ว นิมนต์หลวงพี่ขึ้นข้างบนเถิดครับ"

หลังจากนั่งพร้อมในพิธี หลวงพ่อกวยท่านจึงนั่งหลับ​ตาทำสมาธิสักครู่ เมฆฝน และลมพายุก็สงบลงอย่างน่าอัศจรรย์

หลวงพ่อมุ่ย ท่านจึงจุดเทียนชัย และทำพิธีจนจบ

"ท่านกวยเก่งจริง ต่อไปนี้เราคงไม่ได้พบกันอีกแล้วนะ"

หลวงพ่อมุ่ยท่านพูดจบพร้อมกับหยิบรูปเหมือนปั๊มของท่าน ส่งให้หลวงพ่อกวยองค์หนึ่งเพื่อเป็นที่ระลึก

ภาพ​ ซ้าย​ หลวงพ่อมุ่ย​ วัดดอนไร่
ขวา​ หลวงพ่อกวย​ วัด​โฆสิตา​ราม

หลวงพ่อแช่ม อินทโชโต หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง" เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงแห่งลุ่มน้ำนครชัย...
04/06/2025

หลวงพ่อแช่ม อินทโชโต หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง" เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงแห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ. 2405 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และอุปสมบทเมื่ออายุ 20 ปี ณ วัดพะเนียงแตก โดยมีพระครูอุตรการบดี (หลวงพ่อทา โสณุตฺตโร) เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังจากอุปสมบท ท่านได้ศึกษาวิทยาคมและเจริญกรรมฐานตามแนวโบราณจารย์อย่างลึกซึ้ง รวมถึงการธุดงค์ไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและประเทศพม่า เพื่อศึกษาวิชาจากชาวไทย พม่า กะเหรี่ยง และมอญ

หลวงพ่อแช่มมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านการปลุกเสกวัตถุมงคล โดยเฉพาะ "เหรียญพระเจ้า 16 พระองค์" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เหรียญปืนไขว้" ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2484-2485 เพื่อแจกจ่ายให้กับทหารที่ผ่านสงครามอินโดจีน เหรียญนี้มีลักษณะพิเศษคือขอบหยัก 16 มุม สื่อถึงพระเจ้าสิบหกพระองค์ และเชื่อกันว่ามีพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี

นอกจากเหรียญดังกล่าวแล้ว วัตถุมงคลอื่น ๆ ที่ท่านปลุกเสกยังรวมถึงพระผงดินหน้าตะโพน กุมารดูดรก ตะกรุดไม้รวก มหาอุตม์ ผ้ายันต์ และเสื้อยันต์แดง ซึ่งล้วนได้รับความนิยมและเป็นที่แสวงหาของผู้ศรัทธา

หลวงพ่อแช่มมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2490 สิริอายุได้ 85 ปี พรรษา 65

ธรรมะสวัสดี“สุโข ปุญญัสสะ อุจจะโย การสั่งสมขึ้นแห่งบุญ นำมาซึ่งสุข”พระสัทธรรมเทศนา ให้เกิดสุข คนเราเมื่อเกิดมาแล้ว มีแก่...
03/06/2025

ธรรมะสวัสดี

“สุโข ปุญญัสสะ อุจจะโย การสั่งสมขึ้นแห่งบุญ นำมาซึ่งสุข”
พระสัทธรรมเทศนา ให้เกิดสุข คนเราเมื่อเกิดมาแล้ว มีแก่ มีเจ็บ มีตาย เป็นเช่นนี้ตลอด ความ แก่ เจ็บ ตาย นี้หนีไม่พ้น ตลอดชีวิตทุกวิถีทางน้อยใหญ่ตลอด ต่อมาก็(กำหนดจิตพิจารณาความไม่เที่ยง) ยุบหนอ พองหนอ ตายหนอ แน่นอนหนอ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
พระสัทธรรมเทศนา หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ณ วัดซับลำไย ปี ๒๕๔๓

🙏นมัสการพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยการปฏิบัติบูชา “เหนือการบูชาทั้งปวง”🙏

หลวงปู่รอด วัดโคนอน หรือที่รู้จักในนาม "พระภาวนาโกศล" เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ท่านมีภูมิ...
01/06/2025

หลวงปู่รอด วัดโคนอน หรือที่รู้จักในนาม "พระภาวนาโกศล" เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ท่านมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่คลองขวาง ตำบลคุ้งเผาถ่าน อำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรี (ในสมัยนั้น)

ท่านเริ่มต้นชีวิตสงฆ์ที่วัดหนัง ราชวรวิหาร โดยเป็นฐานานุกรมของพระนิโรธรังสี เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดหนัง ซึ่งเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 หลังจากพระนิโรธรังสีมรณภาพ หลวงปู่รอดได้รักษาการเจ้าอาวาสอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดนางนอง วรวิหาร และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น "พระภาวนาโกศล"

หลวงปู่รอดเป็นพระผู้เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนาธุระและพุทธาคม ท่านยังเป็นอาจารย์ของหลวงปู่เอี่ยม สุวณฺณสโร วัดหนัง ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น

เหตุการณ์สำคัญในชีวิตของหลวงปู่รอดเกิดขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานผ้าพระกฐิน ณ วัดนางนอง วรวิหาร หลวงปู่รอดไม่ยอมถวายอดิเรก (ถวายพระพร) ตามธรรมเนียมพระราชประเพณี แม้หลวงปู่เอี่ยมซึ่งขณะนั้นยังเป็นพระปลัด ได้เตือนให้ถวายอดิเรกแล้ว แต่ท่านก็ยังนิ่งเฉย เป็นเหตุให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงกริ้ว และมีพระราชโองการถอดหลวงปู่รอดออกจากสมณศักดิ์ในฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และเรียกพัดยศคืน

หลังจากนั้น หลวงปู่รอดได้ย้ายกลับไปอยู่วัดบ้านเกิดที่ห่างไกลจากความเจริญ คือ วัดโคนอน แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร และได้มรณภาพที่วัดแห่งนี้

ผู้คนเล่าขานว่า เหตุที่หลวงปู่รอดไม่ยอมถวายอดิเรกนั้น เป็นเพราะท่านไม่พอใจในการที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้แบ่งแยกพระสงฆ์ของไทยออกเป็น 2 นิกาย คือ มหานิกาย กับ ธรรมยุติกนิกาย อันเป็นสาเหตุทำให้คณะสงฆ์ต้องแตกแยกกัน

หลวงปู่รอดยังเป็นที่รู้จักในด้านอภินิหารและความขลัง มีเรื่องเล่าถึงการเดินบนใบบัว และการถ่ายทอดวิชาพุทธาคมให้กับหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ซึ่งเป็นศิษย์เอกของท่าน

ปัจจุบัน วัดโคนอนยังคงเป็นสถานที่ที่ผู้ศรัทธาเดินทางไปสักการะและศึกษาประวัติของหลวงปู่รอด โดยมีวัตถุมงคลที่ท่านได้สร้างไว้ เช่น พระปิดตา ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้สะสมพระเครื่อง

 #นาทีสุดท้ายของหลวงปู่เสาร์".. ในแวดวงพระกรรมฐานสายวัดป่า โดยเฉพาะภาคอีสานส่วนใหญ่แล้วยกย่องนับถือหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต...
31/05/2025

#นาทีสุดท้ายของหลวงปู่เสาร์
".. ในแวดวงพระกรรมฐานสายวัดป่า โดยเฉพาะภาคอีสานส่วนใหญ่แล้วยกย่องนับถือหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต เป็นบูรพาจารย์จำนวนไม่น้อยสามารถสืบสายครูบาอาจารย์ย้อนหลังไปถึงหลวงปู่มั่น แต่หากถามว่าใครเป็นอาจารย์ของหลวงปู่มั่น คำตอบก็คือ หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล

หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ยกย่องหลวงปู่เสาร์ ว่าเป็น “ #พ่อพระกรรมฐานภาคอีสาน” ท่านมีอัธยาศัยน้อมในทางสมาธิภาวนา และใฝ่ความสงบวิเวก จึงออกธุดงค์เป็นประจำ
ปักกลดอยู่ในป่าหรือในถ้ำเป็นนิจ หลังจากที่ประสบความก้าวหน้าในการปฏิบัติ ท่านก็มาเปิดสำนักปฏิบัติธรรมที่วัดเลียบ อำเภอเมืองจังหวัดอุบลราชธานี อันเป็นบ้านเกิดของท่าน

หลวงปู่เสาร์เป็นพระมหาเถระที่ไม่ชอบพูด เวลาเทศน์กล่าวเพียงไม่กี่ประโยคก็ลงจากธรรมาสน์ ว่ากันว่าทั้งวันท่านพูดกับใครไม่เกิน ๒ ประโยค แต่ท่านมีเมตตาสูงมาก ไม่เคยแสดงอาการโกรธเคืองใครเลย ใครได้พบเห็นก็รู้สึกเย็นใจ ท่านจึงเป็นที่เคารพเลื่อมใสของพระเณรมาก

ศิษย์ของท่านผู้หนึ่งก็คือหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นเคยประสบอุปสรรคในการปฏิบัติ ถึงกับเกิดสัญญาวิปลาส ก็ได้อาศัยหลวงปู่เสาร์ช่วยแก้วิปลาสให้จนสำเร็จเป็นที่อัศจรรย์แก่ลูกศิษย์ อย่างไรก็ตามท่านเป็นพระที่ถ่อมตนมาก ไม่อวดคุณวิเศษ.. "

" หลวงพ่อพุธ ฐานิโย เล่าว่าระหว่างที่ได้อุปัฏฐากท่านคราวหนึ่ง ได้ยินท่านเปรยขึ้นมาว่า “ #เวลานี้จิตข้ามันไม่สงบ_มันมีแต่ความคิด”

หลวงพ่อพุธแปลกใจ จึงถามว่า “ #จิตมันฟุ้งซ่านหรือไงอาจารย์”

หลวงปู่เสาร์ตอบสั้น ๆ ว่า “ #ถ้าให้มันหยุดนิ่งมันก็ไม่ก้าวหน้า”

หลวงพ่อพุธเล่าว่า กว่าจะเข้าใจความหมายของท่านก็ใช้เวลาหลายปี กล่าวคือท่านหมายความว่า เวลาปฏิบัติถ้าจิตมันหยุดนิ่งก็ปล่อยให้มันหยุดนิ่งไป อย่าไปรบกวนมัน ถ้ามันจะคิดก็ให้มันคิดไป เราเอาสติตัวเดียวเป็นตัวตั้งตัวตี

หลวงปู่เสาร์มีวัตรปฏิบัติอยู่ข้อหนึ่งคือ เมื่อออกพรรษา ท่านจะพาศิษย์ออกธุดงค์เป็นเวลาหลายเดือน ส่วนใหญ่มักไปที่ประเทศลาว แล้วกลับมาจำพรรษาที่เมืองไทย จนแม้ชราแล้วท่านก็ยังบำเพ็ญธุดงควัตรดังกล่าว

ในพ.ศ. ๒๔๘๔ ขณะที่ท่านอายุ ๘๒ ปี ท่าน
ได้พาศิษย์ไปธุดงค์ที่จำปาศักดิ์ และปากเซ ประเทศลาว เช่นเคย แต่ปีนั้นท่านอาพาธตั้งแต่ก่อนออกพรรษาแล้ว

สาเหตุก็เพราะบ่ายวันหนึ่งขณะที่ท่านนั่งสมาธิอยู่ใต้โคนต้นยาง มีเหยี่ยวตัวหนึ่งโฉบเอารังผึ้งซึ่งอยู่บนต้นยางต้นนั้นรวงผึ้งส่วนหนึ่งตกลงมาใกล้ ๆ กับที่ท่านนั่งอยู่ ผึ้งจึงรุมต่อยท่านหลายตัว จนท่านต้องเข้าไปหลบในมุ้งกลด นับแต่นั้นท่านก็อาพาธมาโดยตลอด

เมื่อท่านออกธุดงค์เข้าไปในเมืองลาวได้พักใหญ่ ก็ป่วยหนักศิษย์จึงพาท่านกลับมายังนครจำปาศักดิ์ ระหว่างนั้นท่านนั่งหลับตามาตลอด เมื่อถึงที่หมาย ท่านลืมตาขึ้นแล้วพูดว่า..
“ #ถึงแล้วใช่ไหม_ให้นำเราไปยังอุโบสถเลยเพราะเราจะไปตายที่นั่น”

ศิษย์ได้ประคองท่านเข้าไปในอุโบสถ แล้วท่านสั่งให้เอาผ้าสังฆาฏิมาพาด นั่งสมาธิพักใหญ่ แล้วท่านก็กราบพระ ๓ ครั้งพอกราบครั้งที่สาม ท่านก็นิ่งงัน ไม่ขยับเขยื้อน ลูกศิษย์เห็นท่านกราบนานผิดสังเกต จึงเอามือแตะที่จมูกท่าน ปรากฏว่าท่านหมดลมหายใจแล้ว... "
——————
๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๔
คือวันที่หลวงปู่เสาร์มรณภาพ
เป็นการมรณภาพที่แปลกไม่เหมือนใคร คือมรณภาพในท่านั่งกราบหน้าพระพุทธรูป

#จากหนังสือลำธารริมลานธรรม
#เขียนโดยพระไพศาล_วิสาโล
*******************************

 #1บ่มี2 อมตะเถระ5แผ่นดิน              [อายุกาลยืนนาน]        หลวงปู่หมุน ท่านเป็นผู้มีจริยวัตรอันงดงาม มีศีลอันบริสุทธิ...
30/05/2025

#1บ่มี2 อมตะเถระ5แผ่นดิน
[อายุกาลยืนนาน]
หลวงปู่หมุน ท่านเป็นผู้มีจริยวัตรอันงดงาม มีศีลอันบริสุทธิ์ ในเรื่องของกฤติยาคมและสุดยอดวิชาของท่านที่ได้ร่ำเรียนมาทาง(สายวิชาสำเร็จลุน)ผู้วิเศษเหนือโลกแห่งประเทศลาว ทำให้ท่านเป็น"หนึ่งไม่มีสอง"
ท่านเป็นผู้ถือศีล ให้ความสำคัญเรื่อง {สัจจะ} จึงมี วาจาประกาศิต และเมื่อท่านได้ทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลใดๆ แล้ว ย่อมเกิดปาฏิหาริย์เป็นที่อัศจรรย์ คุ้มครองผู้บูชาจนเล่ากันปากต่อปากไม่จบสิ้น
หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ

หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว จ.สุพรรณบุรี ๛พระมหาเถราจารย์ชื่อดังในอดีตแห่งเมืองสุพรรณ ผู้เรืองเวทย์ ทรงวิทยาคุณเข้มขลังหลวงพ่อโ...
29/05/2025

หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว จ.สุพรรณบุรี ๛
พระมหาเถราจารย์ชื่อดังในอดีตแห่งเมืองสุพรรณ ผู้เรืองเวทย์ ทรงวิทยาคุณเข้มขลัง
หลวงพ่อโบ้ย เกิดปีมะโรง พ.ศ.2435 ท่านเป็นชาวบ้าน บ้านสามหมื่น ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี โยมบิดาชื่อ โฉมศรี เมื่ออายุได้ 21 ปี ท่านอุปสมบทที่วัดมะนาว ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เมื่อพ.ศ. 2456 บวชแล้วก็จำพรรษอยู่ที่วัดมะนาว ท่านเริ่มศึกษา พระธรรมวินัยอย่างเข็งขัน ทั้งภาษาบาลีและภาษาขอม และปฏิบัติธรรมตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด

หลวงพ่อโบ้ยจำพรรษาที่วัดมะนาวได้ 3 พรรษา ท่านจึงเดินทางไปศึกษาหาคามรู้เพิ่มเติม เช่นพระธรรมวินัย มงคลทีปนี มูลกัจจายนะ ภาษาบาลี และอักษรใหญ่ ที่วัดชีปะขาว หรือ วัดศรีสุดาราม ธนบุรี ไม่เพียงแต่หลวงพ่อจะสนใจในทางคันถธุระเท่านั้น ท่านยังสนใจศึกษาในด้านวิปัสสนากรรมฐานและสมถกรรมฐานอีกด้วย ท่านจึงเดินทางไปเรียนและศึกษาสมถะวิปัสสนากรรมฐาน ที่วัดอัมรินทร์โฆสิตาราม ท่านศึกษาได้ 8-9 ปี ท่านจึงเดินทางกลับมาอยู่ที่วัดมะนาว ราวปีพ.ศ.2466 อยู่ได้ไม่นาน ท่านทราบว่า หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา มีความรู้ความสามารถในทางวิปัสสนากรรมฐาน ท่านจึงเดินทางไปหาหลวงพ่อปาน ที่วัดบางนมโค ศึกษาอยู่ถึง 1ปี ท่านจึงเดินทางกลับมาวัดมะนาว ในปี2467

เมื่อหลวงพ่อโบ้ย กลับมาจำพรรษาที่วัดมะนาว การปฏิบัติของหลวงพ่อ ท่านมุ่งบริการสังคมเป็นส่วนใหญ่ โดยมิหวังผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น ไม่รับปัจจัยทรัพย์สินเงินทอง ปฏิบัติให้ผู้ที่มาหาท่านโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง มีเมตตาธรรมแก่ชนทุกชั้นวรรณะ ท่านไม่ยึดติดในสมณะศักดิ์ใดๆ แม้ตำแหน่งเจ้าอาวาส กิจวัตรประจำวันของหลวงพ่อ ท่าจะตื่นแต่เช้ามืดประมาณตื่นตี 4 ทุกวัน ครองจีวรแล้วสวดมนต์ไหว้พระจนกระทั่งฟ้าสาง จึงออกบิณฑบาตร เมื่อกลับมาถึงวัด ท่านจะขอให้พระภิกษุทั้งวัดทุกรูปยืนเข้าแถว แล้วท่านก็ตักข้าวในบาตร ของท่านใส่บาตรพระทุกๆรูป เป็นเช่นนี้เสมอมา หลังจากฉันจังหันเช้าเสร็จ ท่านก็จะออกไปกวาดลานวัดหน้าโบสถ์ เป็นกิจวัตรที่ท่านถือปฏิบัติ ท่านจะจำวัดพักผ่อนเพียง2-3 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะตอนเย็นท่านต้องไปสร้างพระเครื่อง ของท่านต่อตลอดคืน

หลวงพ่อโบ้ย ท่านเริ่มสร้างพระเมื่อปี 2473 โดยให้ลูกศิษย์ท่านไปบอกบุญเรี่ยไร วัสดุต่างๆ เช่นทองเหลือง ทองแดง ขันลงหิน เชี่ยนหมาก โตก ขัน พาน ที่เป็นโลหะ แล้วนำมาหลอม สร้างเป็นพระเครื่องของท่าน พระของท่านบางครั้งจึงมีสีไม่ค่อยเหมือนกัน พระของท่านนั้นจะเทหล่อกันเองภายในวัด ตอนที่ท่านสร้างวัตถุมงคลนั้น หลวงพ่อโบ้ยท่านไม่ได้จำวัดตลอดทั้งคืน เทหล่อจนใกล้รุ่งสาง ใช้ตะไบแต่งริมขอบทุกองค์ รอยตะไบนี้ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งหลังจากฉันเพลแล้ว ท่านก็จะเอาพระเข้ากุฏิทำการปลุกเสก พอตอนบ่าย หลวงพ่อโบ้ยท่านก็จะเริ่มแจก ปรากฏว่ามีคนมาคอยรับแจกกันคับคั่ง แม้แต่ชาวต่างจังหวัดก็เดินทางมารับแจก ท่านแจกให้ผู้ที่ศรัทธากันฟรีๆ โดยไม่คิดเป็นปัจจัยเงินทองใดๆทั้งสิ้น ด้วยวัตถุมงคล อันเกิดจากความบริสุทธิ์ในการสร้าง ด้วยอิทธิบารมีของหลวงพ่อ ที่ทรงศีลธรรม และเวทย์วิทยาคม อันบริสุทธิ์ จึงทำให้ผู้ที่มีวัตถุมงคล ของหลวงพ่อโบ้ย ไว้บูชา เกิดประสบการณ์ต่างๆมากมาย ช่วยคุ้มครองป้องกันให้รอดพ้นจากภยันตรายต่างๆได้ ซึ่งคงไว้ซึ่งความแคล้วคลาดและคงกระพันเป็นหลัก.

ในปี พ.ศ.2479 หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาวท่านเริ่มสร้างพระเนื้อดินเผา ในปี พ.ศ.2500 ท่านสร้างพระเนื้อชานหมาก เป็นรูปท่าน เหรียญของหลวงพ่อโบ้ยสร้างในปี พ.ศ. 2508 คือเหรียญสี่ เหลี่ยมตัดมุม และเหรียญกลมนั่งเต็มองค์ สร้างเมื่อคราวผูกพัทธสีมา ส่วนเหรียญกลมครึ่งองค์ นั้นสร้างในคราวฌาปนกิจหลวงพ่อ หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาวท่านทำพระแจกอย่างเดียว ไม่ยอมรับปัจจัยจากผู้บริจาคอย่างเด็ดขาด พระของหลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาวนั้นมีประสบการณ์มากมาย ขนาดโดนยิ่งตกน้ำยังไม่เข้ามีแต่รอยไหม้เท่านั้น และอีกรายยิงต่อสู้กับพวกปล้น ถูกยิงหงายหลังก็ยังไม่เข้า ชาวสุพรรณฯ รู้เรื่องดี

หลวงพ่อโบ้ย ท่านมรณะภาพ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2508 สิริอายุ 73 ปี 52 พรรษา

"มึงคิดว่าดีหรือ ของขึ้นแล้วเอาวิญญาณสัตว์ไปสิง มึงก็เต้นอยู่อย่างนั้น คนอื่นรู้เคล็ด เขารุมตีมึง มึงก็ตาย ของกูนี่ ขึ้น...
29/05/2025

"มึงคิดว่าดีหรือ ของขึ้นแล้วเอาวิญญาณสัตว์ไปสิง มึงก็เต้นอยู่อย่างนั้น คนอื่นรู้เคล็ด เขารุมตีมึง มึงก็ตาย ของกูนี่ ขึ้นแค่พอขนพองสยองเกล้าให้รู้ว่าขึ้น ส่วนมึงจะสู้ หรือจะหนีก็คิดเอา"

หลวงพ่อพรหม์ วัดขนอนเหนือ ผู้สืบทอดวิชายันต์เสกสัก บุตร ลบ ผู้สยบหนุมาน จากหลวงพ่อขัน วัดนกระจาบ และเจ้าตำหรับ ยันต์นารายณ์ อันลือลั่น


สมัยก่อน การสัก ไม่ใช่เรื่องแฟชั่น จะสักคือต้องมั่นใจ อาจารย์ข้าเก่ง ลงเข็ม ปลุกอักขระเลขยันต์ ต้องครบเครื่อง สักกับวัดขนอน ต่างตรงที่อื่น "ไม่มีข้อห้าม..ขอให้ใจตั้งมั่นพอ" อยุธยา ถือเป็นพื้นที่รวมเกจิเก่งๆ และมีชื่อเสียงมากมาย แต่หลวงพ่อพรหม ออกเหรียญรุ่นแรก อายุ 30 กว่าๆ ผ้ายันต์ที่เคยได้ ระบุปี 2495 ก็มี เจ้าอาวาสก็ไม่ได้เป็น....แปลว่า วิชาอาคมท่านไม่ธรรมดา เก่งแต่หนุ่ม จนถึงมรณะภาพ วัตถุมงคลท่านดังจากประสบการณ์ล้วนๆ มีผู้พบเห็น ทดลอง ลองของมาหมด ..ขนาดพระสังฆราช(วาสน์) ยังยกย่อง ชื่นชม หลักฐานปรากฎใน....พิพิธภัณฑ์ ที่ท่านประทานรูปให้และเขียนข้อความ ลงพระนามไว้ให้หลวงพ่อพรหม คุณคิดเอาเอง... ว่าที่สุดแค่ไหน ชอบมากสำหรับคำว่า "ของไม่มีเสื่อม" พระจะถูกหรือแพง ขอให้มีติดตัวไว้เถิด

สิ่งใดที่เราเก็บไว้ในใจนานเกินไป ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความเศร้า ความเสียใจ หรือความคับแค้นใจ สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นเสมือน...
28/05/2025

สิ่งใดที่เราเก็บไว้ในใจนานเกินไป ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความเศร้า ความเสียใจ หรือความคับแค้นใจ สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นเสมือนของหนักที่เราแบกเอาไว้โดยไม่รู้ตัว ยิ่งถือไว้นานเท่าไหร่ ใจยิ่งเหนื่อย หนัก และทุกข์มากขึ้น

การปล่อยวาง จึงมิใช่การหนีปัญหา แต่คือปัญญาที่เห็นว่า… สิ่งใดควรเก็บไว้ สิ่งใดควรวางลง หากเรารู้จักปล่อยเสียบ้าง ใจเราก็จะได้เบาลง และมีความสุขมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาเงื่อนไขภายนอก

พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนในเรื่องนี้ว่า ความยึดมั่นถือมั่นในรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ เป็นเหตุแห่งทุกข์ (อุปาทานขันธ์ ๕) หากละอุปาทานได้ ความทุกข์ก็ย่อมดับลง

ดังนั้น… การปล่อยวาง คือปัญญา การยึดถือ คือปัญหา
จงเลือกให้ดี ว่าจะเป็นผู้แบกทุกข์ หรือผู้วางทุกข์

พุทโธ ธัมโม สังโฆ

ขออนุญาตเผยแพร่เป็นธรรมทานครับ

กูจนกว่าใครๆ จนที่สุดในโลกกูจนร่างกาย เพราะร่างกายกูแคระแกร็นกูจนการศึกษา มีใครรู้หรือเปล่ากูไม่ได้เล่าเรียนเท่าคนอื่นๆ ...
27/05/2025

กูจนกว่าใครๆ จนที่สุดในโลก
กูจนร่างกาย เพราะร่างกายกูแคระแกร็น
กูจนการศึกษา มีใครรู้หรือเปล่า
กูไม่ได้เล่าเรียนเท่าคนอื่นๆ หมื่นแสน
กูจนกระทั่งพ่อแม่ท่านตายตอนกูยังเด็ก
ความจนทั้งหมดทั้งหลาย กูมีธรรมะ คอยทดแทน

กว่าจะเป็นหลวงพ่อคูณ ต้องทำบุญหกพันล้าน
ก่อสร้างโรงพยาลบาล สถานศึกษาให้เยาวชน
คนจนยังมีมากมาย ทั้งเวียนว่ายทั้งดิ้นรน
ดีที่มีบุญกุศล จากพระจนๆ ผู้ยิ่งใหญ่

กราบหลวงพ่อคูญ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา
... " เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด " ...

#ธรรมะเป็นที่พึ่ง #กราบสาธุ #อนุโมทนาบุญ

พระคาถาไล่ภูติผีและอมนุษย์ ของครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม จังหวัดลำพูนตั้ง นะโม (๓ จบ) อะสะยักษ์ขัง กุเลพุท...
26/05/2025

พระคาถาไล่ภูติผีและอมนุษย์ ของครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม จังหวัดลำพูน

ตั้ง นะโม (๓ จบ)
อะสะยักษ์ขัง กุเลพุทโธ
อะสะยักษ์ขัง กุเลธัมโม
อะสะยักษ์ขัง กุเลสังโฆ
อะสะ เมตตายะ สุเล สวาหาย (*สวาหายะ)

#อนุโมทนาบุญ #สาธุ

 #คุณแม่ชี_บุญเรือน_โตงบุญเติม อรหันต์อีกรูปนึง ที่ยามมีชีวิตได้ช่วยเหลือ รักษาคนไว้มากมาย ยามเมื่อมรณภาพ เถ้ากระดูกได้ก...
26/05/2025

#คุณแม่ชี_บุญเรือน_โตงบุญเติม อรหันต์อีกรูปนึง ที่ยามมีชีวิตได้ช่วยเหลือ รักษาคนไว้มากมาย ยามเมื่อมรณภาพ เถ้ากระดูกได้กลายเป็นพระธาตุ ดังปรารภของท่านก่อนสิ้นใจ .

- คุณแม่ชี บุญเรือน โตงบุญเติม ท่านเป็นที่เคารพนับถือในหลายด้าน ทั้งในเรื่องของโชคลาภ ค้าขาย การรักษาโรค ใครที่นับถือท่านมักเจอประสพการณ์ต่างๆเป็นที่ประจักษ์ว่ากันว่า ท่านอยากให้ศิษย์ผู้นับถือท่าน ได้มาปฏิบัติธรรม หรือผู้ที่ทำบุญได้มีความเป็นอยู่ที่ดี มีเงินทอง ฐานะดีขึ้น ลืมตาอ้าปากได้ จะได้มีเวลามาปฏิบัติธรรม จะได้ไม่ต้องมากังวลคิดมากเรื่องปากท้อง ท่านจึงเมตตาให้คาถา และของดีมากมายไว้ให้ศิษย์ไว้ใช้ พลิกชะตาชีวิตจากผู้ที่ไม่มี ขัดสน ตกต่ำ ให้กลับฟื้นดีกว่า โดยที่ไม่เกินกฏแห่งกรรม

ที่อยู่

Bang Khen
34110

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ:

แชร์

Our Story

เพจนี้จัดตั้งเพื่อไว้เป็นที่ พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบกาณ์ ความรู้ ในเรื่องวัตถุมงคล และประสบกาณ์ความศรัทธาและปาฎิหารย์ ของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ หากมีการแลกเปลี่ยน ซื้อขาย วัตถุมงคล ขอให้ทุกๆท่านโปรดใช้ิจารณญาณในการ รับชม รับฟัง และตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ผู้ดูแลเพจจะไม่รับผิดชอบใดๆ จากการแลกเปลี่ยนซื้อขายดังกล่าว ด้วยความปราถณาดี.......ขอบคุณครับ