สนธิญาณ story

สนธิญาณ story สนธิญาณ story official account
ข่าวสาร • lifestyle • ธรรมะ

นรกกับสวรรค์ที่มาFB:ซุปตาร์ เกรียน ร่างสอง
27/10/2025

นรกกับสวรรค์

ที่มาFB:ซุปตาร์ เกรียน ร่างสอง

เกมมหาอำนาจ! สหรัฐฯรุกคืบเปิดดีลลับชิง "แร่หายากไทย" สร้างยุทโธปกรณ์ยุคใหม่ เขย่าอำนาจ-ความสัมพันธ์จีนเมื่อวันที่ 26 ตุล...
27/10/2025

เกมมหาอำนาจ! สหรัฐฯรุกคืบเปิดดีลลับชิง "แร่หายากไทย" สร้างยุทโธปกรณ์ยุคใหม่ เขย่าอำนาจ-ความสัมพันธ์จีน

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา การลงนามข้อตกลงสันติภาพ ระหว่างไทย-กัมพูชา กลับถูกสอดแทรกด้วยการค้าและแร่สำคัญระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์

ซึ่งเป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวสำคัญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างการเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทวิภาคี แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงพลวัตของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยมี "แร่หายาก" หรือ Rare Earth Elements (REEs) เป็นหมากสำคัญที่ถูกนำมาใช้ต่อรองบนกระดานภูมิรัฐศาสตร์โลก

สัญญาณดังกล่าวบ่งชี้ถึงโอกาสอันดีสำหรับประเทศไทยในการเป็นผู้เล่นหลักในห่วงโซ่อุปทานโลก แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นความเสี่ยงที่ต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการเผชิญหน้าระหว่างสองมหาอำนาจ

ที่ผ่านมา จีนเป็นผู้ครองตลาดแร่หายากเกือบเบ็ดเสร็จทั้งด้านการขุดและการแปรรูป ทำให้สหรัฐฯ และพันธมิตรต้องพึ่งพาจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อความขัดแย้งด้านการค้าและเทคโนโลยีทวีความตึงเครียดขึ้น จีนได้นำมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากมาใช้เพื่อตอบโต้ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของสหรัฐฯ อย่างรุนแรง ด้วยเหตุนี้ การแสวงหาแหล่งแร่สำรองและพันธมิตรใหม่จึงเป็นยุทธศาสตร์ที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และไทยซึ่งติด 1 ใน 5 ของโลกที่มีศักยภาพด้านทรัพยากรแร่หายากจึงถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

แร่หายากมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยแร่กลุ่มนี้ประกอบด้วยธาตุโลหะ 17 ชนิด ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษที่หาไม่ได้จากธาตุอื่น ทำให้แร่หายากเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีขั้นสูงในหลากหลายอุตสาหกรรม หนึ่งในประโยชน์ที่สำคัญที่สุดคือการใช้ผลิตแม่เหล็กถาวรประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในสมาร์ทโฟน กล้องดิจิทัล จอแสดงผลแบบแบน คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ยานยนต์ไฟฟ้า กังหันลม และอุปกรณ์ทางทหาร

นอกจากนี้ แร่หายากยังใช้ในกระบวนการผลิตพลังงานสะอาด เช่น แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงาน ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ แร่หายากใช้เป็นสารฟอสฟอร์ในหลอดไฟ แอลอีดี และจอแอลซีดี รวมถึงใช้ในการผลิตเลนส์กล้องประสิทธิภาพสูง ในด้านการแพทย์ แร่หายากเป็นส่วนประกอบในอุปกรณ์ MRI ส่วนในอุตสาหกรรมยานยนต์ ใช้ในตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalytic Converter) เพื่อลดมลพิษจากไอเสีย การลงนามข้อตกลงกับสหรัฐฯ จึงเป็นเหมือนการเปิดประตูให้ไทยเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีขั้นสูงระดับโลก และอาจนำไปสู่การลงทุนจากสหรัฐฯ ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่ารัฐบาลไทยจะยึดถือนโยบายการต่างประเทศแบบสมดุลมาโดยตลอด แต่การเข้าใกล้สหรัฐฯ ในประเด็นที่อ่อนไหวอย่างแร่หายาก ซึ่งเป็นจุดเปราะบางในสงครามการค้า อาจสร้างความไม่พอใจให้กับจีนได้ ที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนมีความแน่นแฟ้นและครอบคลุมหลายด้าน ทั้งด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว การรับมือกับความสัมพันธ์ที่มีความละเอียดอ่อนนี้จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยต้องคำนึงถึงอย่างยิ่ง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติในระยะยาว

นอกจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์แล้ว การพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายากยังมาพร้อมกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม การทำเหมืองแร่หายากมักจะก่อให้เกิดมลภาวะและผลกระทบต่อระบบนิเวศ ซึ่งไทยต้องมีมาตรการจัดการที่รัดกุม ขณะเดียวกัน ไทยยังขาดความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการสำรวจและแปรรูป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มมูลค่าให้กับแร่ที่ขุดได้ การพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ หรือพันธมิตรจึงเป็นสิ่งจำเป็น และต้องมีการบริหารจัดการอย่างโปร่งใสเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต

ในท้ายที่สุด การลงนามข้อตกลงแร่หายากกับสหรัฐฯ ถือเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงสำหรับประเทศไทย รัฐบาลต้องใช้ความรอบคอบในการกำหนดท่าทีทางยุทธศาสตร์เพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการผลกระทบเชิงลบอย่างมีประสิทธิภาพ หากทำได้ดี ประเทศไทยจะสามารถก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีขั้นสูงของโลก และได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ครั้งนี้

รายละเอียดข่าว : https://youtu.be/L_3Vm6bbpcI?si=zHaYt-5tax2WoQsf

ดับคากระทรวง! พี่ดี้ฟาดยับ นฤมลซัดคำสั่ง ศธ.สุดอัปยศ ออกประกาศกระทบเบื้องสูง จี้เปลี่ยนตัวรมว.ด่วนจากกรณีกระทรวงศึกษาธิก...
27/10/2025

ดับคากระทรวง! พี่ดี้ฟาดยับ นฤมลซัดคำสั่ง ศธ.สุดอัปยศ ออกประกาศกระทบเบื้องสูง จี้เปลี่ยนตัวรมว.ด่วน

จากกรณีกระทรวงศึกษาธิการ ส่งหนังสือด่วนที่สุด แจ้งเวียนหน่วยงาน องค์กรในกำกับ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อทราบและถือปฏิบัติต่อไป เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต นั้น กระทรวงศึกษาธิการ กำหนดให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เป็นตันไป ดังนี้

1.ให้หน่วยงานในสังกัดและสถานศึกษาทุกแห่งลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา 30 วัน

2.ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไว้ทุกข์ เป็นเวลา 1 ปี

3.ให้หน่วยงานในสังกัดและสถานศึกษาทุกแห่งงดจัดงานที่มีบรรยากาศรื่นเริงทุกประเภท เป็นเวลา 1 ปี

4.ให้หน่วยงานในสังกัดเผยแพร่พระราชกรณียกิจ บนหน้าหลักเว็บไซต์ของหน่วยงานและให้สถานศึกษาทุกแห่งจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

จนกระทั่งต่อมา ก็ทำให้เกิดเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยทางด้าน พี่ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดังและอดีตรองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจดนตรี ของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้ออกมาวิจารณ์กรณีที่ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ออกคำสั่งกระทรวงฯ "ให้หน่วยงานในสังกัดและสถานศึกษาทุกแห่ง งดจัดงานที่มีบรรยากาศรื่นเริ่งทุกประเภทเป็นเวลา 1 ปี" โดยมีใจความระบุว่า

นายกอนุทินกลับมาจากมาเลย์….ช่วยเรียกยัยรัฐมนตรีเอ๋อนี่มาอบรมให้ฉลาด และเปลี่ยนนโยบายคำสั่งแบบเด็ดขาดแต่ตื้นเขินนี้ ให้มีแนวทางที่มีกุศโลบายที่ฉลาดกว่านี้หน่อยเถิด….
ถ้าเปลี่ยนนางไปกระทรวงอื่นที่มีผลต่อเยาวชนน้อยกว่านี้ได้ ก็จะเป็นพระคุณยิ่ง…

ผู้บริหารจำไว้เป็นบทเรียนว่า…ในมุมกลับที่ดูเป็นการถวายความจงรักภักดีอย่างสูงและเคร่งครัดนั้น อาจจะกลับกลายเป็นการทำให้ความโกรธเคืองของผู้ได้รับผลกระทบพุ่งตรงไปสู่สถาบันเบื้องสูง โดยที่พระองค์ท่านไม่ทรงรู้เรื่องด้วยเลย….. “ประเทศไทย เป็นดินแดนแห่งการประนีประนอม” พระราชดำรัสตอบเมื่อครั้งมีผู้สื่อข่าวต่างประเทศสัมภาษณ์สดหน้าพระบรมมหาราชวัง เมื่อครั้งเสด็จพระราชพิธีและทรงทักทายกับหมู่พสกนิกรจำนวนมากครั้งนั้น…

ขณะที่ทางด้าน ครูต้นคูน ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ และติวเตอร์ชื่อดัง ได้ออกมาวิจารณ์ รมว.ศึกษาธิการ ด้วยว่า

ไม่ได้อยากจะพูดอะไรไม่ดี แต่ก็ควรจะต้องพูดว่าประกาศของกระทรวงศึกษาธิการที่สั่งให้โรงเรียนงดงานรื่นเริงเป็นเวลา 1 ปีนั้น เป็นประกาศที่โง่และชั่xว

ที่ว่าโง่นั้นก็คือ แทนที่กระทรวงศึกษาธิการจะใช้โอกาสนี้ให้นักเรียนได้มีความคิดสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้สิ่งทั้งหลายที่สมเด็จพระพันปีหลวงได้ใช้ทั้งชีวิตของท่านสร้างไว้ แต่กลับมางดกิจกรรมด้วยคำสั่งไร้สติ เรื่องที่ท่านทำมาตลอดชีวิต และเป็นคุณค่าสากลที่โลกยกย่อง รวมถึงเป็นทักษะสำคัญของพลเมืองไทยและพลเมืองโลกในศตวรรษที่ 21 คือเรื่องสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน (เช่น ป่ารักน้ำ) สิทธิมนุษยชน (เช่น พันธกิจของสภากาชาด การสังคมสงเคราะห์ และการเห็นคุณค่าของฝีมือชาวบ้าน) เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (เช่น งานศิลปาชีพ) และทุนทางวัฒนธรรม (เช่น โขนและประณีตศิลป์) เด็กควรจะได้รู้จักกับสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่แค่จะได้รู้จักพระองค์ท่าน แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือได้เข้าใจคุณค่าของสิ่งที่ท่านสร้างไว้และเอาไปทำต่อในแบบของตัวเอง

และผมจะบอกอะไรให้ว่า พระพันปีหลวงทรงสร้างความสนุกไว้ให้เราเอาไปใช้มากมาย ลองคิดถึงกีฬาสีที่ใส่ผ้าไทยแบบจัดเต็ม ใช้ดนตรีไทยบรรเลงประกอบกับวงดุริยางค์ แค่นี้ก็สนุกแล้ว หรืองานกีฬาสี Theme สิ่งแวดล้อม ป่ารักน้ำ ฯลฯ ก็ทำได้ ยังไม่รวมงานปีใหม่ งานปลายภาค มี Theme เยอะแยะให้เราเอาไปใช้ได้ เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องความยั่งยืน เรื่องนี้ต้องอยู่ในหัวใจของเด็กทุกคน

แทนที่เด็กจะได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมสนุกและสร้างสรรค์ กลับมาถูกห้ามเพราะความตื้นเขินของผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ผมเป็นเด็กกิจกรรมมาทั้งชีวิต ลองคิดว่าถ้าได้โจทย์ให้ทำละครเวทีเกี่ยวกับเรื่องศิลปาชีพ หรือสิ่งแวดล้อม หรืออะไรในขอบข่ายนี้ ผมคงจะสนุกมาก และคงไปหาอ่านอะไรต่อมิอะไรมากมาย ดีไม่ดีจะหาเวลาว่างลงพื้นที่ไปคุยกับผู้คนถ้าเป็นไปได้ ผมทำแบบนี้มาตั้งแต่เป็นเด็กกิจกรรม และแน่นอนว่าผมได้เรียนรู้อะไรมากมายผ่านสิ่งที่ผมทำ
แต่เพราะเรามีคนไร้สติปัญญาขึ้นมาบริหารการศึกษา คำสั่งที่ออกมาจึงไร้สติปัญญา และทำให้ผู้เรียนไร้สติปัญญาตามไปด้วย

ถามว่าคำสั่งนี้ชั่xวอย่างไร คำตอบก็คือ เด็กส่วนใหญ่ไม่ทราบหรอกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีช่วยชื่ออะไร อยู่พรรคไหน แต่การออกคำสั่งแบบนี้ทำให้เด็กหมดสนุก แล้วทำให้เด็กเกลียด ไม่แน่ใจว่ากระทรวงศึกษาธิการอยากจะวางยาใครหรือเปล่า โดยอาศัยการที่เด็กจำตัวเองไม่ได้ แต่เด็กอาจจะเข้าใจไปว่าเป็นคำสั่งจากผู้มีอำนาจอื่น เป็นการ 'ตัดคะแนน' ในการเลือกตั้งครั้งนี้และครั้งหน้าที่จะมาถึง

ตอนแรกผมคิดว่าผมจะเขียนถึงเรื่องนี้ด้วยสำนวนเชิงบวกกว่านี้ แต่คิดว่าสำนวนเหล่านั้นไม่สามารถสะท้อนความรู้สึกและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งทางตรงทางอ้อมต่อเด็กได้
ในฐานะครูคนหนึ่ง ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับการเรียนรู้ของนักเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสสำคัญของชีวิต ฉะนั้นจึงโกรธและเสียใจที่เห็นผู้บริหารการศึกษาในบ้านเมือง เหยียบย่ำสิ่งที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงทำมาทั้งชีวิต เพราะทรงให้ความสำคัญต่อการศึกษามาก ถ้ายังมีสำนึกอยู่บ้าง และยังมีสมอง คิดและไตร่ตรองใหม่ ยังไม่สาย

ขณะที่ทางเพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า
กราบเรียน รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะจิตแพทย์เด็ก ดิฉันเข้าใจและเคารพเจตนารมณ์ของการแสดงความไว้อาลัยต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งทรงเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรชาวไทย อย่างไรก็ตามดิฉันอยากขอให้ทบทวนคำสั่งนี้ค่ะ

การเรียนรู้ของเด็กไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในห้องเรียนเท่านั้น กิจกรรมรื่นเริงในโรงเรียน เช่น งานวันเด็ก การแสดงศิลปะ ดนตรี กีฬา หรือกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ คือพื้นที่แห่งความสุข ที่ช่วยพัฒนาอารมณ์ สังคม ความคิดสร้างสรรค์ และความร่วมมือของเด็กๆ ค่ะ

การงดกิจกรรมเหล่านี้ทั้งหมดอาจส่งผลต่อบรรยากาศการเรียนรู้ และลดโอกาสที่เด็กจะได้ฝึกทักษะสำคัญในชีวิต เราสามารถไว้อาลัยได้โดยไม่จำเป็นต้องงดความสุขของเด็กๆ ค่ะ เช่น จัดกิจกรรมที่แสดงความเคารพอย่างเหมาะสม หรือสอดแทรกการเรียนรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ให้เด็กได้ระลึกถึงด้วยความเข้าใจและความรู้สึกจากใจ

ความเคารพ และ ความรื่นเริง สามารถอยู่ร่วมกันได้ และนั่นคือสิ่งที่สังคมควรมอบให้กับการเรียนรู้ของเด็กทุกคนค่ะ ขอแสดงความนับถือ #หมอมินบานเย็น

รายละเอียดข่าว : https://youtu.be/2O29Gvi0qUM?si=OOtB1f_dmAkDt0xM

พระราชพิธีพระบรมศพวันแรก(๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๘) ประดิษฐานพระโกศทองใหญ่ภายใต้เศวตฉัตร ๙ ชั้น ถวายพระเกียรติยศสูงสุดแด่พระบรมศพ ส...
26/10/2025

พระราชพิธีพระบรมศพวันแรก

(๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๘) ประดิษฐานพระโกศทองใหญ่ภายใต้เศวตฉัตร ๙ ชั้น ถวายพระเกียรติยศสูงสุดแด่พระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
พระโกศทองใหญ่ทรงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แห่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ ประดิษฐานเหนือพระแท่นสุวรรณเบญจดลภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร แวดล้อมด้วยเครื่องสูงหักทองขวาง มีชุมสายฉัตร ๕ ชั้น บังแทรกฉัตร ๗ ชั้น ต้นไม้ทองเงิน อีกทั้งยังได้เชิญพระฉายาลักษณ์ประดิษฐานหน้าพระแท่นด้วย

โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ใช้พระเศวตฉัตร 9 ชั้นกางกั้นพระโกศทองใหญ่ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถวายพระเกียรติยศพระบรมวงศ์พิเศษสูงสุดเสมอด้วยพระมหากษัตริย์ ซึ่งแต่เดิมนั้น พระบรมวงศ์ในระดับสมเด็จพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมราชินี

รวมทั้งพระบรมวงศ์ระดับสูง จะได้รับสัปตปฎลเศวตฉัตร (ฉัตร 7 ชั้น) ถวายพระเกียรติยศ ถือเป็นการถวายพระเกียรติยศสูงสุดต่อสมเด็จพระบรมราชบุพการี

นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงได้รับการถวายพระเกียรติยศพิเศษสูงสุดเทียบเท่าพระมหากษัตริย์

อนึ่ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ประจำทั้งกลางวัน กลางคืน รับพระราชทานฉันเช้าวันละ ๘ รูป เพลวันละ ๘ รูป และประโคมย่ำยามกำหนด ๑๐๐ วัน

#สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

(Cr.พระลาน)

การถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงสำนักพระราชวังได้รับพระราชทานพระบ...
26/10/2025

การถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

สำนักพระราชวังได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดังนี้

๑. พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะเบื้องหน้า พระฉายาลักษณ์
ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
ทุกวัน เวลา ๐๘.๓๐ น. - ๑๖.๐๐ น.
เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๘

๒. พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนได้เข้าเฝ้า ฯ กราบถวายบังคม พระบรมศพ
ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากการพระราชพิธี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ ๑๕ วัน
ทุกวัน เวลา ๐๙.๐๐ น. - ๒๑.๐๐ น. เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ ที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๘

๓. พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ราชสกุล คณะองคมนตรี คณะรัฐบาล คณะบุคคล ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ ๑๐๐ วัน

#การถวายสักการะพระบรมศพ
#สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

( Cr.ข้อมูลภาพ/: เพจพระลาน)

26/10/2025

พสกนิกรหลั่งน้ำตา เฝ้าส่งเสด็จ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ขบวนรถอัญเชิญพระบรมศพ เคลื่อนจาก รพ.จุฬาฯ สู่พระบรมมหาราชวัง อย่างสมพระเกียรติ

(26 ตุลาคม 2568) เวลา 17.00 น.ขบวนรถอัญเชิญพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคลื่อนออกจากหน้าอาคารภูมิสิรมังคลานุรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มุ่งหน้าสู่ พระบรมมหาราชวัง เพื่อประกอบพระราชพิธีตามโบราณราชประเพณี

ตลอดเส้นทางที่ขบวนอัญเชิญพระบรมศพเคลื่อนผ่าน คณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยนิสิตแพทย์ นักศึกษาพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และพสกนิกรจำนวนมาก ต่างพากันก้มกราบถวายความอาลัยอย่างสุดซึ้ง เพื่อส่งเสด็จเป็นครั้งสุดท้าย ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าและความอาลัยรักอันหาที่สุดมิได้

สำหรับรถอัญเชิญพระบรมศพในครั้งนี้ เป็นรถตู้สีเทา ยี่ห้อโฟล์คสวาเกน หมายเลขทะเบียน 1ด–0929 ซึ่งเป็นรถยนต์พระที่นั่งส่วนพระองค์ที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เคยใช้ในพระราชกรณียกิจต่าง ๆ และยังเป็นรถคันเดียวกับที่ใช้ในการเคลื่อนขบวนพระบรมศพของพระองค์เมื่อปี พ.ศ. 2559 อีกด้วย

พสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศต่างพร้อมใจหลั่งไหลมาร่วมเฝ้าส่งเสด็จ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และร่วมถวายความอาลัยอย่างสมพระเกียรติ.

“พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย” พิธีเคลื่อนพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง  จากอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากา...
26/10/2025

“พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย” พิธีเคลื่อนพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง จากอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ไปยังพระที่นั่งพิมานรัตยา ในพระบรมมหาราชวัง

สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์ น้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ 🙏
๒๕ ตุลาคม,๒๕๖๘

#พระพันปีหลวง

เปิดคลิปช็อตเด็ด “ฮุน มาเนต” เสียมารยาท หลังชวนผู้นำสหรัฐฯคุยขณะ นายกไทย ขึ้นโพเดียม จนทรัมป์ต้องสะกิดให้หยุด!?เรียกได้ว...
26/10/2025

เปิดคลิปช็อตเด็ด “ฮุน มาเนต” เสียมารยาท หลังชวนผู้นำสหรัฐฯคุยขณะ นายกไทย ขึ้นโพเดียม จนทรัมป์ต้องสะกิดให้หยุด!?

เรียกได้ว่าจบลงด้วยดีสำหรับการพบกันของ นายกรัฐมนตรีไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล กับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายฮุน มาเนต ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียน โดยมี ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา เป็นพยานในการลงนามสันติภาพ

การลงนามร่วมครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดชายแดนที่ยืดเยื้อมานาน โดยทั้งไทยและกัมพูชาต้องการลดความรุนแรงก่อน โดยมี ปธน.ทรัมป์ ยกย่องว่าเป็น "ดีลสันติภาพที่ยิ่งใหญ่" แต่ผู้เชี่ยวชาญไม่ว่าจาก Reuters และ The Economic Times ชี้ว่า ยังห่างไกลจากข้อตกลงเต็มรูปแบบ เพราะขาดรายละเอียดเรื่องเขตแดนถาวรและการค้าชายแดน

โดยกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถ้อยแถลงผลการพบหารือ "อนุทิน-ฮุน มาเนต" ลงนามความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โดยทั้งสองประเทศจะลดความตึงเครียดทางทหาร ถอนอาวุธหนักจากแนวชายแดน เก็บกู้ทุ่นระเบิด ไม่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ และปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

แต่ในช่วงการแถลงของ นายอนุทิน ซึ่งอยู่บนโพเดี้ยม กับหลุดช๊อตเด็ดแย่งซีน นั่นก็คือความไร้มารยาทของ ฮุนมาเนต ผู้นำกัมพูชา ที่พยายามกระซิบพูดคุยกับ โดนัล ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แบบไม่ได้สนใจถ้อยแถลงของผู้นำไทยแต่อย่างใด ซึ่งเป็นการเสียมารยาทมากในระดับสากลโลก จนทำให้ทางด้าน โดนัล ทรัมป์ ต้องสะกิดที่ขาฮุนมาเนต เพื่อให้หยุดพูดคุยกัน เหมือนจะบอกว่า เอาไว้ก่อนๆ ตอนนี้ต้องฟังไทยก่อน เราลองไปดูคลิปจังหวะนี้กันครับ

รายละเอียดข่าว : https://youtu.be/DHAh3VJiib8?si=GuA16NMHClBhldPj

เปิดคลิประอุอาเซียน! ม็อบมาเลย์ประท้วงหนัก ลุกฮือต้านโดนัล ทรัมป์ ก่อนประชุมสุดยอดอาเซียน กลางกัวลาลัมเปอร์จากกรณีที่วัน...
26/10/2025

เปิดคลิประอุอาเซียน! ม็อบมาเลย์ประท้วงหนัก ลุกฮือต้านโดนัล ทรัมป์ ก่อนประชุมสุดยอดอาเซียน กลางกัวลาลัมเปอร์

จากกรณีที่วันนี้ (26 ตุลาคม 2568) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เดินทางถึงมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อย โดย อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียให้การต้อนรับ พร้อมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามถ้อยแถลงการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ช่วงบ่าย

ทั้งนี้ ทรัมป์เดินทางถึงมาเลเซียเวลา 9.00 น. ตามเวลาประเทศไทย หลังเดินทางออกจากสหรัฐฯ ในช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (25 ตุลาคม) โดยทันทีที่เดินทางมาถึง ทรัมป์ลงจากเครื่องบิน Air Force One พร้อมทักทายอันวาร์ด้วยการจับมือ ทักทาย และพูดคุยกัน

นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้รับความสนใจจากสื่อและสาธารณชนจากท่าเต้น ‘กำหมัด’ อันเป็นเอกลักษณ์ โดยหยอกล้อกับคณะต้อนรับของกลุ่มชาติพันธุ์มาเลเซีย ที่ทำการแสดงและแต่งกายด้วยสีสันสดใส

ภายหลังการลงนาม ทรัมป์ ยังมีกำหนดการหารือทวิภาคีกับผู้นำมาเลเซีย โดยเขาถือเป็นผู้นำคนที่ 3 ของสหรัฐฯ ที่เยือนมาเลเซีย ต่อจาก บารัก โอบามาในปี 2016 และ 2014 รวมถึง ลินดอน บี.จอห์นสัน ในปี 1966 ซึ่งสื่อต่างประเทศจับตามองว่า การเยือนของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ถือเป็นความพยายามของอันวาร์ ที่จะรักษาสมดุลการแข่งขันทางอำนาจระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

ล่าสุด มีรายงานว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงชาวมาเลเซียรวมตัวกันที่จัตุรัสเมอร์เดกา ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อจัดการชุมนุม "ฮิมปูนัน บันตาห์ ทรัมป์" หรือการชุมนุมต่อต้านทรัมป์ โดยมีเป้าหมายหลักคือการประท้วงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา และแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับชาวปาเลสไตน์ การประท้วงนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเยือนมาเลเซียของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ กลุ่มผู้ประท้วงได้เริ่มรวมตัวกันตั้งแต่เวลาประมาณ 09.30 น. ณ จัตุรัสเมอร์เดกา (Dataran Merdeka) เพื่อจัดการชุมนุมต่อต้านการเยือนมาเลเซียของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ

ผู้ชุมนุมได้โบกธงปาเลสไตน์ และชูป้ายเรียกร้องให้ยุติความรุนแรง พร้อมกับตะโกนคำขวัญ "ปลดปล่อยปาเลสไตน์ให้เป็นอิสระ" อย่างกึกก้อง ผู้เข้าร่วมการชุมนุมที่สำคัญ ได้แก่ ราจา กามารุล บาห์ริน ชาห์ ราจา อาหมัด ประธานสำนักงานกิจการระหว่างประเทศของพรรคอามานะฮ์และ เทียน ชัว นักกิจกรรมและอดีตรองประธานพรรคยุติธรรมประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการในพื้นที่เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย

เดิมทีการชุมนุมครั้งนี้กำหนดจัดขึ้นที่สวนสาธารณะแอมปัง พาร์ค ถนนจาลัน แอมปัง แต่ผู้จัดงานได้ตัดสินใจย้ายสถานที่มายังจัตุรัสเมอร์เดกาในนาทีสุดท้าย หลังได้รับคำแนะนำจากตำรวจ

ดาตุก ฟาดิล มาร์ซุส ผู้บัญชาการตำรวจกัวลาลัมเปอร์ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สถานที่เดิมไม่เหมาะสม เนื่องจากตั้งอยู่ห่างจาก "เขตเรดโซน" (red zone) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใช้สำหรับคณะผู้แทนการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 เพียงประมาณ 50 เมตร "ขอเตือนให้สาธารณชนปฏิบัติตามกฎหมาย ให้สอดคล้องกับค่านิยมประชาธิปไตยที่ใช้ในประเทศของเรา เพื่อความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสาธารณะ"

การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับการเดินทางมาถึงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเดินทางมายังมาเลเซียเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจของประชาชนมาเลเซียต่อจุดยืนของรัฐบาลทรัมป์ในความขัดแย้งกาซาที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน 2025 ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ อาเซียน โดยมีผู้แทนเข้าร่วมมากกว่า 1.2 หมื่นคน และหน่วยความรักษาความปลอดภัยราว 2 หมื่นคน

รายละเอียดข่าว : https://youtu.be/lsqO2wyWO2w?si=6wH-no1YckHuoe8B

กองทัพไทยซุ่มเงียบ "ยึดฐานทหารเขมร" พื้นที่พลาญยาวจำนวนมาก แถมลุยประชิด รบกี่รอบก็เข้าไม่ถึงภูมะเขือ!?เรียกได้ว่าตั้งแต่...
26/10/2025

กองทัพไทยซุ่มเงียบ "ยึดฐานทหารเขมร" พื้นที่พลาญยาวจำนวนมาก แถมลุยประชิด รบกี่รอบก็เข้าไม่ถึงภูมะเขือ!?

เรียกได้ว่าตั้งแต่ภูมะเขือ ไปจนถึงพลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน ต่างตกเป็นของไทยทั้งที่เมื่อก่อนมีฐานทหารเขมรอยู่เป็นจำนวนมาก ถือว่ากองทัพไทยบุกดุและทำได้สำเร็จเกินความคาดหมาย แต่หลายคนไม่เคยทราบ เพราะไม่มีใครเคยมาบอกเรื่องนี้ จนกระทั่งล่าสุดทางด้านเพจ Thai Burma railway ทางรถไฟสายมรณะ ได้เปิดเผลักฐานจากภาพดาวเทียม ซึ่งชัดเจนว่า ไทยกินพื้นที่หลายจุดหลังจากปะทะ 5 วัน โดยมีรายละเอียดว่า

ว่าด้วยเรื่องพื้นที่ฝั่งตะวันตกของภูมะเขือ พลาญยาว พลาญหินแปดก้อน ก่อนหน้านี้ที่ทางกองทัพบกได้ประกาศว่า ในสงคราม 5 วัน กองทัพสามารถยึดคืนพื้นที่ได้ในหลายจุด และพื้นที่ที่ไทยยึดได้มากที่สุดคือที่พลาญยาว 1.77 ตารางกิโลเมตร

ผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับพลาญยาว โดยสรุปคร่าวๆว่า พลาญยาวอยู่ฝั่งทางตะวันตกของภูมะเขือ เป็นแนวหน้าผายาว ประมาณ 5-7 กิโลเมตร ก่อนที่จะถึงพลาญหินศาล

ในอดีตทหารกัมพูชาได้มีการขึ้นมาอยู่ตามแนวริมหน้าผา โดยสร้างฐาน บ้านเรือน ตลอดจนได้ทําถนนขึ้นมาบริเวณพลาญยาวถึงสองจุด

และฝ่ายทหารไทยมีการสร้างถนนและสร้างฐานทหารเป็นแนวคู่ขนานอยู่ทางฝั่งทิศเหนือ เพื่อประกบขนานไปกับฐานทหารกัมพูชาและถนนที่สร้างขึ้นมา

และโชคดีที่ทหารไทยได้สร้างฐานติดริมหน้าผาในบริเวณพิกัดนี้ 14.4051316, 104.6263500 ก่อนที่ทหารกัมพูชาจะขึ้นมาสร้างฐานและถนน

ทําให้ในเวลาต่อมาเมื่อมีการสร้างถนนของฝ่ายกัมพูชาขึ้นบนพลาญยาว ฝ่ายกัมพูชาไม่สามารถที่จะเชื่อมต่อถนนของพลาญยาวทางทิศตะวันออกและตะวันตกให้เป็นเส้นเดียวกันได้ เพราะติดฐานทหารไทยฐานนี้

โดยส่วนตัวผมมองว่าทางฝ่ายกัมพูชา พยายามที่จะยึดแนวขอบหน้าผาทั้งหมดเพื่อไม่ให้ฝ่ายไทยเข้าถึงบริเวณหน้าผาซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถตรวจการและยิvอาวุธวิธีตรงใส่ทหารกัมพูชาได้หากเกิดการรบกัน (ผมมองว่าการขึ้นมายึดแนวหน้าผาเป็นวิธีที่ทหาร กพช. พยายามแก้ไขจุดบกพร่องในปี 54 เพื่อไม่ให้เราตรวจการได้ หรือยึดพื้นที่สูงข่มได้)

ในช่วงสงคราม 5 วัน มีการรบกัน สมรภูมิหลักๆในแถบนี้คือภูมะเขือช่องโดนเอาว์ เราจะไม่ค่อยได้ยินข่าวของพลาญยาวเลย

ในวันหยุดยิvวันแรก มีทหารกัมพูชาโพส FB พยายามอ้างว่าพวกเขายังสามารถรักษาภูมะเขือไว้ได้ แต่ภาพถ่าย ดันเป็นจุดที่ถ่ายจากภาพพลาญยาวฝั่งตะวันตกแล้วนำมาโพส(คือผมตรวจสอบภาพเป็นการถ่ายจากแถวนั้นครับ)

เมื่อไปที่ภูมะเขือสองวันก่อนคณะสื่อได้ฟังบรรยายสรุปจากท่าน พันโท จักรกฤษณ์ ขุรีรัง ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 11 หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ที่เป็นหน่วยดูแลภูมะเขือในปัจจุบัน

ท่านระบุว่า ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของภูมะเขือ นั่นก็คือ พลาญยาว เรื่อยไปจนถึงพลาญหินแปดก้อน ทหารไทยสามารถยึดได้เบ็ดเสร็จ (ผมเสริมนะครับ ท่านน่าจะหมายถึงตามแนวเขตแดนตามแผนที่ 1/50000)

เมื่อมาดูจากภาพถ่าย ภูมิประเทศจริง ที่ถ่ายจากภูมะเขือไปยังบริเวณทางตะวันตก ผมได้พยายามทําภาพให้มองเห็นได้ชัดเจนและง่ายต่อความเข้าใจ

จะเห็นได้ว่าพลาญยาวจะเป็นบริเวณที่มีหน้าผายาวเป็นแนว และจะมีถนนขึ้นสองทางจากฝั่งกัมพูชา (ใน gg earth ภาพ 3 และ 5 จะเห็นชัดหน่อยนะครับ)

แต่ในบริเวณ ที่ใกล้กับพลาญหินศาลและพลานหินแปดก่อน มีภูเขาอยู่ประมาณสามลูก ที่อยู่ไล่เรียงกันในพื้นที่ของกัมพูชา

นั่นก็คือเนิน 261 / 589 และ 621 เพื่อให้ภาพมองเห็นได้ชัดเจนผมจึงใช้เส้นสีแดงวาดตามแนวเขา เพื่อให้ดูได้ง่ายต่อการดูและเข้าใจ

ส่วนพื้นที่ที่เป็นของเราอยู่แล้วคือเนิน 666 รวมถึงพลาญหินแปดก้อน พลาญยาวลูกศรซ้ายคือตะวันตก ขวาคือตะวันออก เส้นเหลืองตรงกลางคือฐานทหารไทยที่ไปสร้างคั้นกลางไม่ให้เขมรเชื่อมถนนถึงกัน

ในภาพที่ 4 จะเห็นพลาญหินแปดก้อนอย่างชัดเจน ซึ่งจะมีลักษณะเป็นภูเขา มีสองชั้น ชั้นบนสุดคือยอดเขาเป็นลานหิน ส่วนชั่นล่าง เป็นพื้นที่ลาดต่ำลงมาฝั่งทิศใต้เป็นที่ราบริมหน้าผา

ก่อนการรบห้าวัน มีทหารกัมพูชาตั้งฐานประจัญหน้าทหารไทยบนยอดของพลาญหินแปดก้อนชั้นบน และชั้นล่างก็มีฐานทหารกัมพูชาเช่นกัน

แต่หลังจากการรบห้าวัน ผมได้รับข้อมูลว่าทหารไทยสามารถขับไล่ทหารกัมพูชาให้ลงจากยอดเนินชั้นบน ของพลาญหินแปดก้อนได้สำเร็จ

ส่วนพื้นที่ชั้นล่างเป็นพื้นที่ดั้งเดิมของทางกัมพูชาอยู่แล้ว ทหารไทยจึงไม่ได้ลงไปขับไล่ และเป็นที่มาของคลิปวิดีโอบางคลิปในช่วงก่อนหน้านี้ ที่มีความสับสนว่าทหารกัมพูชาสามารถยึดพื้นที่น้ำตกแถวช่องบกในฝั่งไทยได้ และมีการโพสต์ปั่นป่วนในช่วงหนึ่ง

แต่ที่แท้จริงแล้วเป็นพื้นที่ บริเวณชั้นล่างของพลาญหินแปดก้อนแห่งนี้ และที่เห็นน้ำตกนั้นก็คือ น้ำฝนที่ไหลรวมลงมาจากบริเวณลานหินแปดก้อนและยอดต่างๆ น้ำจะมาขังอยู่ตามแอ่งหินหรือบริเวณที่ต่ำตลอดจนบริเวณพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาได้ขุดไว้เพื่อเป็นที่รองรับน้ำตามร่องเขา

และเมื่อน้ำเต็มบริเวณที่รองรับแล้ว น้ำก็จะล้นและไหลลงไปยังหน้าผาเบื้องล่างดูเหมือนกับว่าเป็นน้ำตก

น้ำตกในลักษณะนี้จะมีเพียงหน้าฝนเท่านั้น ส่วนหน้าแล้งพลาญหินแปดก้อนจะเป็นพื้นที่ที่แห้งแล้งครับ

ผมเข้าใจว่า การยึดคืนพื้นที่พลาญยาว จนไปถึง พลาญหินแปดก้อน ของฝ่ายไทย

ส่งผลให้เส้นทางที่กัมพูชาใช้ในการขนส่งและเดินทางไปยังพลาญหินแปดก้อนชั้นล่างเส้นเดิม(ซึ่งใช้มานานมากๆ) ตกอยู่ในความเสี่ยงที่เส้นทางนี้จะถูกโจมตีจากฝ่ายไทย หากเกิดการรบกันอีก

ฝ่ายกัมพูชาจึงมีการเริ่มสร้างถนน จากทางทิศใต้เลาะเขาขึ้นมายังบริเวณพลาญหินแปดก้อนชั้นล่าง ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมาครับ ซึ่งผมพึ่งจะโพสไปเมื่อไม่กี่วันมานี้

ปล. อันนี้คือจากการวิเคราะห์ของผมนะครับ กรณีที่ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่า ในช่วงหยุดยิvวันแรกๆ ทหารกัมพูชาสองนายมีการโพสต์ภาพตนเองถ่ายรูปและอ้างว่าทหารกัมพูชายังยึดภูมะเขืออยู่นั้น

เมื่อผมตรวจสอบแล้ว พบว่าทหารทั้งสองนายยืนอยู่บริเวณหน้าผาของพลาญยาวฝั่งทางทิศตะวันตก

ข้อมูลในปัจจุบันที่ได้รับจากกองทัพ ประกอบกับภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุด พบว่าในพื้นที่พลาญยาว หลายจุดมีการสร้างถนนจากฐานทหารไทย(เดิม) ลงมายังฐานทหารกัมพูชาที่สร้างตามแนวริมหน้าผา ( ซึ่งในอดีตจะไม่มีถนนที่เชื่อมระหว่างฐานทหารไทยและกัมพูชา) นั่นหมายความว่าทหารไทยสามารถเข้ายึดพื้นที่พลาญยาวแล้วจริงๆ

เราจะได้ยินข่าวหนึ่งก่อนหน้านี้ประมาณสักหนึ่งเดือน ที่คุณวาสนา นาน่วม ได้ออกมาให้ข่าวว่าทหารกัมพูชาบางจุดละทิ้งพื้นที่ จนทหารไทยสามารถเข้ายึดฐานทหารกัมพูชาได้

ซึ่งผมตั้งข้อสังเกตว่า มีความเป็นไปได้ที่ทหารกัมพูชาจะละทิ้งฐานที่พลาญยาวฝั่งตะวันตก อย่างเช่นในกรณีที่คุณวาสนาออกมาให้ข่าวก็เป็นไปได้ เพราะในช่วงแรกของการหยุดยิvยังมีภาพที่ทหารกัมพูชายืนถ่ายรูปในบริเวณดังกล่าวอยู่

(ถ้าทหารกัมพูชาไม่นำรูปเก่ามาโพสต์ผมเชื่อว่าเป็นกรณีที่คุณวาสนาเคยออกมาให้ข่าว แต่ถ้าเป็นภาพเก่าก็เข้าใจได้ว่าทหารไทยสามารถรุกยึดพื้นที่ได้ตั้งแต่ช่วงที่รบ 5 วัน แต่ผมเชื่อว่าเป็นกรณีการถอยของทหารเขมรมากกว่า เพราะว่าในข่าวที่กองทัพให้มาในช่วงรบ5วัน มีข่าวของพลาญยาวน้อยมากครับ)
ผมจะแปะลิงค์ภาพถ่ายทหารเขมรสองคนที่พลาญยาวให้ดูในช่องแสดงความคิดเห็นครับ

การยึดแนวริมผาของพลาญยาวได้ ทําให้ทหารไทยสามารถตรวจการพื้นที่ฝั่งทางด้านทิศตะวันตกของภูมะเขือ รวมถึงบริเวณถนนที่จะขึ้นภูมะเขือ ตรงช่องโดนเอาว์ ก็อยู่ในสายตาและวิถึการยิvของอาวุธของฝ่ายไทยทั้งหมด

เพราะฉนั้นการที่ทหารกัมพูชาจะขึ้นมายึดเอาภูมะเขือจากฝั่งทางช่องโดนเอาว์นั้นเป็นเรื่องที่ ยาก's มาก

จงภูมิใจที่มีทหารไทยที่ปกป้องชาติบ้านเมืองและประชาชนครับ ร่วมเป็นกำลังใจให้ทหารแนวหน้าด้วยนะครับ

รายละเอียดข่าว : https://youtu.be/BEiC1kKSvmQ?si=5JuhReMH1eySsMd6

แฟนคลับ BLACKPINK ร่วมถวายอาลัยพระพันปีหลวง ขณะหมอลำหนุ่มปากไว ดิ้นแซะข้าราชการงดรับเงินเดือน เจอทัวร์ลงสนั่น!วันที่ 25 ...
26/10/2025

แฟนคลับ BLACKPINK ร่วมถวายอาลัยพระพันปีหลวง ขณะหมอลำหนุ่มปากไว ดิ้นแซะข้าราชการงดรับเงินเดือน เจอทัวร์ลงสนั่น!

วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เมื่อเวลา 12.05 น. นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายหลังการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รัฐบาลขอความร่วมมือจากภาคธุรกิจบันเทิง สถานบันเทิง และสถานบริการต่าง ๆ งดหรือลดกิจกรรมเพื่อความบันเทิงเป็นระยะเวลา 30 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาแห่งความอาลัยของปวงชนชาวไทย

ทั้งนี้ สำหรับกิจกรรมที่ได้ดำเนินการเตรียมการไปแล้ว ขอให้ผู้จัดพิจารณาปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับกาลเทศะ ส่วนกิจกรรมที่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ ขอให้พิจารณาเลื่อนการจัดออกไปก่อน จนกว่าช่วงเวลาแห่งความอาลัยจะสิ้นสุดลง โดยให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงความเหมาะสม ความสำรวม และความเคารพต่อพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงสุด

รองโฆษกรัฐบาล ระบุว่า ข้าราชการและหน่วยงานของรัฐได้ดำเนินการตามมาตรการไว้ทุกข์อย่างเป็นทางการแล้ว ส่วนประชาชนและภาคเอกชนสามารถร่วมแสดงความอาลัยได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ รัฐบาลขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกันรักษาบรรยากาศแห่งความสงบเรียบร้อย เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระพันปีหลวง

ต่อมาทางเพจ ปราชญ์ สามสี ได้โพสต์ข้อความระบุถึงคอนเสิร์ตBLACKPINK โดยระบุข้อความว่า ข่าว : แฟนคลับทั่วโลกร่วมถวายอาลัย “พระพันปีหลวง” ก่อนคอนเสิร์ต BLACKPINK เริ่ม

ค่ำวันที่ 25 ตุลาคม 2568 สนามราชมังคลากีฬาสถานเต็มไปด้วยแฟนคลับ BLACKPINK จากทั่วโลกที่หลั่งไหลมาร่วมชมคอนเสิร์ตใหญ่ของสี่ศิลปินสาวระดับโลก “ลิซ่า–จีซู–เจนนี่–โรเซ่”
ก่อนที่การแสดงจะเริ่มขึ้น แฟนคลับทั้งชาวไทยและต่างชาติได้พร้อมใจกัน ยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

เพจ Main Stand ได้เผยแพร่ภาพเหตุการณ์สุดประทับใจนี้ โดยมีผู้คนทั่วโลกแสดงความชื่นชมในความมีน้ำใจและความเคารพของแฟนคลับทุกคน ที่ร่วมกันแสดงออกถึงความอาลัยอย่างสง่างาม แม้ในช่วงเวลาแห่งความบันเทิง บรรยากาศในค่ำคืนนั้นไม่เพียงสะท้อนถึงพลังของดนตรี แต่ยังสะท้อนถึง “หัวใจของความเป็นไทย” ที่เปี่ยมด้วยความกตัญญูและความจงรักภักดี

ขณะที่ทางเพจ ความเห็นของผม ได้โพสต์ข้อความระบุว่า Thailand is the land of compromise. ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งการประนีประนอม
ประโยคนี้ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ทรงเคยพูดกับนักข่าวต่างประเทศเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน
มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างแท้จริงว่า ประเทศเราเป็นประเทศแห่งการประนีประนอมจริง ๆ

หลังมีการประกาศการสวรรคตของพระพันปีหลวงช่วงดึกวันศุกร์ต่อเช้ารุ่งของวันเสาร์ ในตอนสาย ๆ ของเมื่อวาน ทุกคนจึงจับตาดูท่าทีของรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไรกับคอนเสิร์ตแบล็คพิ้งค์ วงเกิร์ลกรุ๊ประดับโลกที่จะแสดงที่ไทยอีก 2 รอบ คือค่ำวันเสาร์ กับ อาทิตย์
หลายคนก็รอดูว่าจะมีการประกาศยกเลิกคอนเสิร์ตหรือไม่ หรือจะมีคอนเสิร์ตต่อ แล้วคนที่ไปดูจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

ก็ปรากฏว่า มีการขอความร่วมมือให้คนที่ไปดูแต่งชุดขาว/ดำ และในคอนเสิร์ตก็มีการไว้อาลัยก่อนเริ่มคอนเสิร์ต โดยคอนเสิร์ตก็ยังแสดงได้ต่อตามปรกติ ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกันได้อย่างดีเยี่ยม คนดูก็ได้ดู เพียงแค่อาจจะต้องใส่ชุดขาวดำ นักร้องก็แสดงต่อ ผู้จัดก็ไม่ต้องยกเลิกอะไร มันเป็นทางออกที่สวยงาม

ความเห็นของชาวโซเชียลจึงชื่นชมทางออกนี้กันอย่างล้นหลาม แม้จะมีความเศร้า แต่ทุกคนก็รู้ว่าพระอาทิตย์ยังคงส่องแสง โลกยังคงหมุน ชีวิตก็ต้องไปต่อ มันคือการ Compromise แบบที่ในหลวงทรงบอก นี่คือการปรับตัวของสถาบันพระมหากษัตริย์ยุคใหม่ โดยแท้จริง และรัฐบาลก็นำมาปรับใช้ได้อย่างดีเยี่ยม

กลายเป็นว่า ใครก็ตามที่ง้างปากรอจะด่าเพื่อก่อดราม่า เจอการประนีประนอมแบบนี้เข้าไป ก็หุบปากแทบไม่ทัน ใครที่ด่าไปแล้ว ก็เจอด่าสวนอีกต่างหาก ว่ารัฐบาลก็ผ่อนปรนให้อย่างมากแล้ว เพื่อไม่ให้กระทบกับทุกฝ่าย

ผมก็หวังว่าหลังจากนี้ คนไทยจะร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ กันแบบนี้ไปตลอดจนผ่านพ้นช่วงพระราชพิธีตามโบราณราชประเพณี ซึ่งผมว่าก็คงจะใช้เวลาเป็นปีเหมือนกัน ผมเชื่อว่า หากเราคิด และตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุและผล การร่วมกันแก้ปัญหาในเรื่องต่าง ๆ มันย่อมมีทางออกของมัน อย่างน้อยคนไทยก็ร่วมด้วยช่วยกัน ให้พระพันปีหลวงที่สถิตอยู่บนสวรรค์ ได้สบายพระราชหฤทัยเถิดครับ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ก็มีดราม่าสนั่นโซเชียล เมื่อหมอลำหนุ่ม ได้ออกมาโพสต์ถึงข้าราชการ ให้งดรับเงินเดือนในช่วงถวายความอาลัย โดยวู๊ดดี้ วุฒิชัย แฟนเพจ ได้โพสต์ข้อความในทำนองว่า ข้าราชการ งดรับเงินเดือนไหมเพื่อถวายความอาลัย จนล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาชี้แจง โดยบอกว่า

ผมต้องขอโทษทุกท่านที่ทำให้ผิดหวังนะคับ ที่ผมโพสไปโดยที่ขาดสติและไม่ไตร่ตรองก่อนโพส ผมลบโพสแล้วไม่อยากให้ทุกคนมาแขวะหรือมาด่าผม โดยที่ไม่ถามถึงเจตนาในการโพสครั้งนี้เลย ผมต้องกราบขออภัยทุกท่านอย่างสูงยิ่งนะคับ

ต่อไปผมจะไม่โพสอะไรแบบนี้อีก ขอให้จบที่โพสนี้นะคับ บางคนแค๊ปโพสแชทมาด่าผมก็มี แขวะไม่เลิกก็มี ตอนนั้นคือมันน้อยใจจริงๆ มันดิ่งมาก คือไม่ทีใครที่จะสามารถมารับผิดชอบอะไรทีมงานได้เลย คือทีมงานเดินทางไปถึงงานแล้ว กำลังตั้งเวทีแล้วมีเจ้าหน้าที่มาสั่งเก็บของกลับ โดยที่ทีมงานไม่ได้เงินสักบาทแถมทำงานฟรี ระยะทางร้อยกว่ากิโล ผมก็เลยเกิดความน้อยใจเจ้าหน้าที่ที่มาสั่งรื้อของกลับในตอนนั้น ก็เลยโพสออกไป

ประมาณว่าให้ท่านลองคิดกลับกันว่า ถ้าคุณถูกสั่งหยุดงานกระทันหันแล้ว ไม่ได้เงินสักบาท ครอบครัวคุณจะกินอะไร เพราะอาชีพอย่างพวกผมก็ไม่ได้มีเงินเดือน พึ่งผ่านช่วงออกพรรษามา กำลังจะลืมตาอ้าปากได้ก็ต้องมาหยุดอีก มีงานกะจั่งมีเงิน ประมาณว่าอยากให้เพิ่นมองจุดนี้ด้วยความเมตตา พวกผมกะจงรักภักดี สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คือกันคับ แต่รัฐบาลเพิ่นกะประกาศอยู่ว่าไม่ได้สั่งงดกิจกรรมรื่นเริงใดๆ น่าจะอนุโลมให้ผ่านคืนนี้ไปก่อน ผมก็เลยโพสไปด้วยคงามน้อยใจ อย่างที่ทุกท่านเห็น เพียงแค่ผมอาจจะใช้คำพูดที่มันกว้างเกินไป ก็เลยทำให้ดูเหมือนว่าผมไปเหยียดอาชีพอื่น ยังไงผมต้องกราบขออภัยทุกท่านด้วยนะคับ จะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกแน่นอน กราบขอโทษจากใจจริงครับ

รายละเอียดข่าว : https://youtu.be/e1BRignK9jA?si=xpnLff8bhIuWUc_p

26/10/2025

▪️ถ่ายทอดสด การเชิญพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ไปยังพระที่นั่งพิมานรัตยา ในพระบรมมหาราชวัง

ที่อยู่

206 ซ. ประชาราษฎร์ 4/1 ถ. ประชาราษฎร์ ต. ตลาดขวัญ
Bang Kruai
11000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สนธิญาณ storyผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์