เว็บไซต์คืออะไร?

https://www.facebook.com/266616446854583/

Tawansiam News, 25 Samakkhi Soi 9, Bang Yai (2025)

28/10/2025

โรบินสันไลฟ์สไตล์ มุ่งสู่ Tourist Destination ชู 5 สาขาในจังหวัดท่องเที่ยว
รุกเดินหน้า 3 แกนหลัก “แคมเปญ - บริการ – อิเวนต์”
พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มรูปแบบ

ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าขับเคลื่อนสู่ Tourist Destination อย่างเต็มรูปแบบ ชู 5 สาขาในจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง ได้แก่ สาขาสุวรรณภูมิ (ชื่อเดิม สาขาลาดกระบัง), สาขาฉลอง, สาขาถลาง, สาขาแม่สอด, และสาขามุกดาหาร โดยดำเนินการผ่าน 3 แกนสำคัญ เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้บริการของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างรอบด้าน

คุณณัฐวัฒน์ รัชพงศ์กุลยศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “การขับเคลื่อนโรบินสันไลฟ์สไตล์ให้เป็น Tourist Destination เป้าหมายคือการยกระดับบทบาทของศูนย์การค้าฯ ให้เป็นมากกว่าพื้นที่จับจ่าย โดยเรามุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์กลางชีวิตของทุกคน หรือ ‘Central to Life’ ที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ ภายใต้กลยุทธ์ ‘Lifestyle and Experiential Community’ ที่มุ่งสร้าง Complete Lifestyle Destination ที่ครอบคลุมทุกมิติของไลฟ์สไตล์ ทั้ง Dining, Family, Sport, Pet รวมทั้ง Tourist ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนหลักที่เรามุ่งพัฒนา ด้วยการออกแบบพื้นที่ บริการ และกิจกรรมที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยว พร้อมสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายและโมเมนต์ที่สร้างความทรงจำที่ดี เราเชื่อว่าการสร้างความแตกต่างเหล่านี้ จะทำให้โรบินสันไลฟ์สไตล์เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวได้รับความประทับใจ และความคุ้มค่าในทุกครั้งที่มาใช้บริการ”

เจาะ 5 ทำเลศักยภาพสูง ชูจุดแข็งด้านการท่องเที่ยว
โรบินสันไลฟ์สไตล์เดินหน้าสู่การเป็นหมุดหมายนักท่องเที่ยว ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งใน 5 สาขาศักยภาพ ที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ สาขาสุวรรณภูมิ มีจุดแข็งในฐานะศูนย์กลางการเดินทางเชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิ จึงรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบ Expat และ Short Stay Travelers ทั้งจากเอเชียและยุโรป โดยเป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย ชื่นชอบบริการที่รวดเร็วและครบวงจร ทั้งยังอยู่ติดกับโรงแรม GO Hotel กรุงเทพ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต ที่พร้อมเปิดตัวปลายปี 2568 นี้ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างสนามบินและใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์

ในกลุ่มจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างภูเก็ต สาขาฉลอง และสาขาถลาง เน้นรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบ Long Stay เป็นหลัก โดยเฉพาะ Individual Travelers และ Expat จากภูมิภาคเอเชีย (จีน มาเลเซีย อินเดีย) ยุโรป (รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี) รวมถึงตะวันออกกลาง และออสเตรเลีย

ในขณะที่ สาขามุกดาหาร เป็นจุดต้อนรับนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว และสาขาแม่สอด จังหวัดตาก เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศเมียนมา

เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของโรบินสันไลฟ์สไตล์ในฐานะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ศูนย์การค้าฯ ได้เดินหน้ามุ่งสู่ Tourist Destination ผ่านแกนหลัก 3 ข้อในการสร้างประสบการณ์ที่ครบวงจรและมอบความคุ้มค่าให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ การเดินทาง และระบบเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างลงตัว

แกนที่ 1: ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวด้วยแคมเปญโปรโมชัน และผนึกพันธมิตรในพื้นที่
สร้างสรรค์แคมเปญโปรโมชัน ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญ “Shop Here Get More! only Lifestyle” สำหรับนักท่องเที่ยวที่สาขาฉลอง เมื่อช้อปครบ 3,000 บาท พร้อมแสดงหนังสือเดินทาง รับฟรีกระเป๋า Special Edition โดยแคมเปญนี้จะจัดต่อเนื่องยาวถึงสิ้นปี 2568 เพื่อกระตุ้นการจับจ่าย

พร้อมกันนี้ ยังมีการจัดทำ “Tourist Privileges Pack” ซึ่งรวบรวมคูปองส่วนลดจากร้านค้าภายในศูนย์การค้าฯ เพื่อกระจายไปยังโรงแรมและบริษัททัวร์ในพื้นที่ในสาขาฉลอง และสาขาสุวรรณภูมิ เสริมด้วย โครงการ “Border Pass” สำหรับสาขาแม่สอด ที่ให้นักท่องเที่ยวแลกรับคูปองส่วนลดได้ทันที เพียงแสดงหนังสือเดินทาง

นอกจากนี้ โรบินสันไลฟ์สไตล์ยังจับมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ เพื่อมอบสิทธิพิเศษกับสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น รับคูปองชมการแสดงโลมาที่ Dolfin Bay หรือบัตรชมโชว์สิงโตที่ Lion Land สำหรับลูกค้าที่รับประทานอาหารครบตามเงื่อนไขที่ศูนย์อาหาร Everyday A Food House ภายในโรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขาฉลอง เป็นต้น

แกนที่ 2: ยกระดับประสบการณ์ ด้วยบริการพิเศษที่ครบครัน
เพื่ออำนวยความสะดวกอย่างรอบด้าน เพื่อยกระดับความประทับใจ พร้อมตอบโจทย์การเดินทางและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าต่างชาติ เช่น จุดเรียกรถแท็กซี่ภายในศูนย์การค้าฯ เพื่อเดินทางไปยังโรงแรม สนามบิน หรือแหล่งท่องเที่ยวหลัก ร้านค้าให้บริการเอกสารคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Refund) จุดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ รวมถึงการเลือกสรรร้านอาหารที่หลากหลายทั้งเชื้อชาติและข้อกำหนดด้านศาสนา อาทิ ร้านอาหารฮาลาล หรืออาหารรัสเซีย เป็นต้น

นอกจากนี้ โรบินสันไลฟ์สไตล์ยังมีแผนพัฒนาบริการใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น จุดรับฝากกระเป๋าเดินทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักเดินทางแบบ One-day Trip หรือผู้ที่ต้องการแวะพักระหว่างการเดินทาง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวและช่วยเพิ่มระยะเวลาการใช้บริการภายในศูนย์การค้าฯ ได้ด้วย

แกนที่ 3: ชูจุดเด่นเอกลักษณ์ความเป็นไทย จัดเต็มอิเวนต์ตรงใจนักท่องเที่ยว
ที่สอดคล้องกับความสนใจ ไลฟ์สไตล์ และวัฒนธรรมของกลุ่มลูกค้าแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะใน 5 สาขา ซึ่งมีการออกแบบกิจกรรมให้มีความหลากหลายทั้งในมิติของการท่องเที่ยว วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม และกีฬา เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมและสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างจากศูนย์การค้าฯ ทั่วไป

ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ยังจัดกิจกรรมไฮไลต์เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วง High Season ได้แก่ เทศกาลถือศีลกินผัก ครบรอบ 200 ปี จังหวัดภูเก็ต, Coffee Camping Party, เทศกาล Halloween และเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปี ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งศูนย์ในธีมคริสต์มาส และปีใหม่ ตลาดของขวัญ Flea Market และเทศกาลดนตรี เป็นต้น ทุกกิจกรรมออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ และทำให้โรบินสันไลฟ์สไตล์เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวเลือกมาใช้บริการ เพื่อรับประสบการณ์และความประทับใจในการมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย

“เราให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าในประเทศ หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แนวทางในการผลักดันโรบินสันไลฟ์สไตล์ให้เป็น Tourist Destination ไม่เพียงสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการใช้จ่าย สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ และต่อยอดเศรษฐกิจหมุนเวียนในทุกระดับได้อย่างเป็นรูปธรรม เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าฯ จึงเป็นการสร้างพลังทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นรอบด้าน เสริมความแข็งแกร่งให้กับ “ลูกค้า – คู่ค้า - สังคม” ตามเป้าหมายการเป็น Central to Life ศูนย์กลางชีวิตของทุกคน เพื่อดูแลทุกมิติของชีวิตให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” คุณณัฐวัฒน์ กล่าวสรุป

ติดตามข้อมูลข่าวสาร โปรโมชัน และอิเวนต์ใหม่ๆ ของศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ผ่านทาง page: Robinson Lifestyle (https://www.facebook.com/RobinsonLifestyleMall)

#ตะวันสยามนิวส์

28/10/2025

** ผลยกน้ำหนักเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศบาห์เรน (ช่วงดึกคืนวันที่ 27 ตุลาคม 2568)

การแข่งขันกีฬายกน้ำหนัก ในมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนยูธเกมส์ 2025 ที่กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ล่าสุดเมื่อช่วงดึกของวันที่ 27 ตุลาคม 2568 เป็นการแข่งขันรุ่น 71 กิโลกรัมชาย กลุ่มเอ ปรากฏว่า ท่าสแนทช์ ก้องหล้า พรมดวงศรี ยกได้ 122 กิโลกรัม จบอันดับ 7 ส่วนเหรียญทอง เป็นของ อลิคาน อัสเคอร์เบย์ จากคาซัคสถาน ยกได้ 144 กิโลกรัม ทำลายสถิติยุวชนโลก, เหรียญเงิน ซิงซิง เฉิน จากจีน สถิติ 143 กิโลกรัม, เหรียญทองแดง เฮย์ออตเบค เออร์มาตอฟ จากอุซเบกิสถาน สถิติ 131 กิโลกรัม

ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ก้องหล้า ยกได้ 150 กิโลกรัม จบอันดับ 7 ส่วนเหรียญทอง เป็นของ อลิคาน อัสเคอร์เบย์ จากคาซัคสถาน ยกได้ 172 กิโลกรัม ทำลายสถิติยุวชนโลก, เหรียญเงิน ซิงซิง เฉิน จากจีน สถิติ 171 กิโลกรัม, เหรียญทองแดง ฮาจุน คิม จากเกาหลีใต้ สถิติ 167 กิโลกรัม

ส่วนโปรแกรมของนักยกน้ำหนักไทยคนอื่นๆ มีดังนี้ วันที่ 28 ตุลาคม 2568 รุ่น 53 กิโลกรัมหญิง กลุ่มเอ นางสาววราภรณ์ ภักดีหาร เวลา 13.00 น. (17.00 น.เวลาไทย) และ รุ่น 58 กิโลกรัมหญิง กลุ่มเอ นางสาวกนิษฐา แซ่ตั๊ง เวลา 16.00 น. (20.00 น.เวลาไทย)

วันที่ 29 ตุลาคม 2568 รุ่น 79 กิโลกรัมชาย กลุ่มเอ นายชุติพันธ์ ทรัพย์ถมมา เวลา 16.00 น. (20.00 น. เวลาไทย)

#ตะวันสยามนิวส์

28/10/2025

ผลยกน้ำหนักเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศบาห์เรน ผลยกน้ำหนัก ในมหกรรมกีฬาเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศบาห์เรน เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ซึ่งในรายการนี้ เป็นครั้งแรก ที่มีการแจกเหรียญเฉพาะท่าสแนทช์ และ คลีนแอนด์เจิร์ก ไม่แจกเหรียญน้ำหนักรวม ผลงานของจอมพลังไทย ปรากฎว่า รุ่น 48 กิโลกรัมหญิง กลุ่มเอ นางสาวปนัดดา พรมชาติ ยกท่าสแนทช์ ได้ 69 กิโลกรัม ได้อันดับ 6 โดย ลัน ซิน ยี จากจีน คว้าเหรียญทอง สถิติ 77 กิโลกรัม คิม จู ยอง จากเกาหลีเหนือ ได้เหรียญเงิน สถิติ 76 กิโลกรัม โอดีโลวา มูนิซา จากอุซเบกิสถาน ได้เหรียญทองแดง สถิติ 72 กิโลกรัม ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ปนัดดา ยกได้ 89 กิโลกรัม ได้อันดับ 5 โดย ลัน ซิน ยี จากจีน คว้าเหรียญทอง สถิติ 93 กิโลกรัม คิม จู ยอง จากเกาหลีเหนือ ได้เหรียญเงิน สถิติ 92 กิโลกรัม ดิอาซ อเล็กซานดรา แอน จากฟิลิปปินส์ ได้เหรียญทองแดง สถิติ 92 กิโลกรัม (ยกได้หลังเกาหลีเหนือ) โปรแกรมของจอมพลังเยาวชนไทย ที่เหลือในรายการนี้ วันที่ 27 ตุลาคม 2568 รุ่น 71 กิโลกรัมชาย กลุ่มเอ นายก้องหล้า พรมดวงศรี เวลา 19.00 น. (23.00 น เวลาไทย), วันที่ 28 ตุลาคม 2568 รุ่น 53 กิโลกรัมหญิง กลุ่มเอ นางสาววราภรณ์ ภักดีหาร เวลา 13.00 น. (17.00 น. เวลาไทย) และ รุ่น 58 กิโลกรัมหญิง กลุ่มเอ นางสาวกนิษฐา แซ่ตั๊ง เวลา 16.00 น. (20.00 น.เวลาไทย) และ วันที่ 29 ตุลาคม 2568 รุ่น 79 กิโลกรัมชาย กลุ่มเอ นายชุติพันธ์ ทรัพย์ถมมา เวลา 16.00 น. (20.00 น. เวลาไทย)

#ตะวันสยามนิวส์

28/10/2025

หนุ่มบราซิลได้แชมป์แคล-คอมพ์ที่หัวหิน
"เปน" ประเดิมชัยฉลุยคัดหวดสัปดาห์ 2

การแข่งขันเทนนิสชายนานาชาติ ไอทีเอฟ เมนส์ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ เอ็ม15 หัวหิน รายการ แคล-คอมพ์ แอนด์ ซีซีเอยู อินดัสตรี 4.0 ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 516,000 บาท ที่อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นการแข่งขีนวันสุดท้าย
ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ อิกอร์ มาร์คอนเดส นักหวดหนุ่มบราซิล มือวางอันดับ 2 ของรายการ และมือ 609 ของโลก ออกแรงหวดนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนโค่น อาเธอร์ เวเบอร์ นักหวดหนุ่มฝรั่งเศส มือวางอันดับ 1 ของรายการ และมือ 485 ของโลก ลงได้สำเร็จ ด้วยสกอร์ 7-5 ทั้งสองเซต
อิกอร์ มาร์คอนเดส ได้ตำแหน่งผู้ชนะเลิศไปครอง พร้อมเงินรางวัล จำนวน 2,160 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 74,304 บาท และคะแนนสะสมอันดับโลก 15 คะแนน ส่วน อาเธอร์ เวเบอร์ ในฐานะรองชนะเลิศ ได้รับ 1,272 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 43,756 บาท และ 8 คะแนน
และวันเดียวกัน ยังมีการแข่งขัน แคล-คอมพ์ แอนด์ ซีซีเอยู อินดัสตรี 4.0 ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ 2025 สัปดาห์ที่ 2 เริ่มขึ้นด้วย โดยในประเภทชายเดี่ยว รอบคัดเลือก รอบแรก นักเทนนิสไทยพบกันเอง เปน จารุศร มือวางอันดับ 10 ของรอบคัดเลือก พบกับ ณัฏฐญุตม์ นิธิธนนนต์ และผลปรากฏว่า เปน เล่นได้ดี เอาชนะได้ 2 เซตรวด 6-3 และ 6-2 ส่งผลให้ เปน ผ่านเข้ารอบคัดเลือก รอบสอง ซึ่งเป็นแมทช์สุดท้ายของการคัดเลือกต่อไป โดยจะพบผู้ชนะระหว่าง เอเลียส ยูเลียน แวร์เนอร์ มือวาง 7 จากเยอรมนี กับ เรียว มินากาตะ จากญี่ปุ่น
ด้านผลการแข่งขันคู่อื่น ๆ มีดังนี้ ชายเดี่ยว รอบคัดเลือก รอบแรก ชาร์ลส์ กล่ำสมบัติ แพ้ ดอเรียง เทรมเบลย์ (ฝรั่งเศส) 2-6, 2-6 ปัญณ์ณวัชญ์ สุทธิสมบูรณ์ แพ้ คอร์บาน โครว์เธอร์ (นิวซีแลนด์) 1-6, 1-6 สิทธวีร์ กุลพิศาลรัศม์ แพ้ แอนโทนี่ ซูซานโต (อินโดนีเซีย) 3-6, 1-6
คงทรัพย์ คงคา แพ้ ซาย คาร์ทีก เรดดี้ กันตา (อินเดีย) 3-6, 4-6 พิชญะพงษ์ โสภณพิสุทธิ์ แพ้ ดานิล โบกาตอฟ 0-6, 0-6 ปุญชัช สุนทรปกาสิต แพ้ เร็น นากามูระ (ญี่ปุ่น) 0-6, 0-6 จูเลียน เดอ คุยแปร์ (1-ฝรั่งเศส) ชนะ วิโตริโอ สแตนคอฟ (บัลแกเรีย) 6-3, 6-0

#ตะวันสยามนิวส์

26/10/2025

ผลยกน้ำหนักเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศบาห์เรน

ผลยกน้ำหนัก ในมหกรรมกีฬาเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศบาห์เรน เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็นครั้งแรก ที่มีการแจกเหรียญเฉพาะท่าสแนทช์ และ คลีนแอนด์เจิร์ก ไม่แจกเหรียญน้ำหนักรวม ผลงานของจอมพลังไทย ในรุ่น 44 กิโลกรัมหญิง กลุ่มเอ ปรากฎว่า ท่าสแนทช์ พัชราภา แม่นปืน ยกได้ 50 กิโลกรัม ได้อันดับ 6 ส่วน วู จิฮง จากจีน ได้เหรียญทอง สถิติ 68 กิโลกรัม ขณะที่ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก พัชราภา ยกได้ 70 กิโลกรัม ได้อันดับ 6 เช่นกัน โดย บอย ปรีทีมิตา จากอินเดีย ได้เหรียญทอง สถิติ 92 กิโลกรัม
ส่วนรุ่น 56 กิโลกรัมชาย กลุ่มบี ณัฐชนน เชิดฉาย เรียก 98 กิโลกรัม ยกไม่ผ่านทั้ง 3 ครั้ง ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ยกได้ 121 กิโลกรัม ขณะที่รุ่น 60 กิโลกรัมชาย กลุ่มบี ธโนดม รักจันทร์ ท่าสแนทช์ ยกได้ 99 กิโลกรัม ส่วนท่าคลีนแอนเจิร์ก ยกได้ 122 กิโลกรัม

#ตะวันสยามนิวส์

26/10/2025

ผลการแข่งขัน EGAT ยกน้ำหนักยุวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ระดับยุวชน 13-15 ปี ที่แข่งขันเสร็จส้ินไปเมื่อวันที่ 16-20 ตุลาคม 2568 รางวัลชนะเลิศคะแนนรวมทีมยุวชนชายและหญิง ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ ทีม เอ 755 คะแนน

ส่วนรางวัลคะแนนรวมทีมยุวชนหญิง ชนะเลิศ โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมทีม เอ 380 คะแนน, รองอันดับ 1 โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี ทีม เอ 375 คะแนน, รองอันดับ 2 โรงเรียนกีฬาจังหวัดอ่างทอง ทีม เอ 362 คะแนน, รองอันดับ 3 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ ทีม เอ 358 คะแนน, รองอันดับ 4 โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี ทีม บี 347 คะแนน, รองอันดับ 5 โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร ทีม เอ 329 คะแนน
ขณะที่ รางวัลคะแนนรวมทีมยุวชนชาย ชนะเลิศ โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ทีม เอ 411 คะแนน, รองอันดับ 1 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ ทีม เอ 397 คะแนน, รองอันดับ 2 โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร ทีม เอ 374 คะแนน, รองอันดับ 3 โรงเรียนกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร ทีม เอ 362 คะแนน, รองอันดับ 4 โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครสวรรค์ ทีม เอ 324 คะแนน, รองอันดับ 5 โรงเรียนพันดอนวิทยา จังหวัดอุดรธานี 284 คะแนน

#ตะวันสยามนิวส์

26/10/2025

โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา ทีม เอ ชนะเลิศคะแนนรวมทีมเยาวชนชายและหญิง ได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการแข่งขัน EGAT ยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 ที่จังหวัดศรีสะเกษ

การแข่งขัน EGAT ยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 21-26 ตุลาคม 2568 ที่ห้องประชุมสโมสรพนักงานเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ชิงชัยเป็นวันสุดท้าย
เริ่มจากรุ่น 94 กิโลกรัมชาย กลุ่มเอ ประสิทธิ์ จอมเดชพิชยะ จากโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ เอ กวาด 3 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์ 135 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 165 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม 300 กิโลกรัม ส่วน นรงค์กร พุ่มพันธ์วงษ์ จากมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ คว้า 3 เหรียญเงิน จากท่าสแนทช์ 117 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 150 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม 267 กิโลกรัม และ วงศธร สายนาค จาก โรงเรียนพันดอนวิทยา จังหวัดอุดรธานี ได้ 3 เหรียญทองแดง จากท่าสแนทช์ 108 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 132 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม 240 กิโลกรัม
รุ่นมากกว่า 77 กิโลกรัมหญิง กลุ่มเอ ณัฐธิดา รอบรู้ จากศูนย์ฝึกยกน้ำหนักบางแก้ว สก.พัทลุง เหมา 3 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์ 95 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 120 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม 215 กิโลกรัม ส่วน กรกช สุดเมือง จากโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ เอ คว้า 3 เหรียญเงิน จากท่าสแนทช์ 87 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 108 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม 195 กิโลกรัม และ พริมรดา ทองผาภูมิเจริญ จากสโมสรยกน้ำหนักโรงเรียนบึงมะลูวิทยา จังหวัดศรีสะเกษ ได้ 3 เหรียญทองแดง จากท่าสแนทช์ 83 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 106 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม 189 กิโลกรัม
และรุ่นมากกว่า 94 กิโลกรัมชาย กลุ่มเอ พีระพงษ์ แก้วฉิม จากโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ เอ คว้า 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน โดย 2 เหรียญทอง ได้จาก ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 156 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม 282 กิโลกรัม ส่วน 1 เหรียญเงิน ได้จาก ท่าสแนทช์ 126 กิโลกรัม ส่วน ไรวินทร์ นิลแสน จากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 64 ได้ 1 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์ 131 กิโลกรัม โดยที่ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก และน้ำหนักรวม ไม่มีสถิติ
สรุปรางวัลชนะเลิศคะแนนรวมทีมเยาวชนชายและหญิง ได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา ทีม เอ 846 คะแนน
ส่วนรางวัลคะแนนรวมทีมเยาวชนหญิง ชนะเลิศ โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา เอ 468 คะแนน, รองอันดับ 1 โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี เอ 440 คะแนน, รองอันดับ 2 โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครสวรรค์ เอ 408 คะแนน, รองอันดับ 3 โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี เอ 348 คะแนน, รองอันดับ 4 โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช 336 คะแนน และ รองอันดับ 5 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ เอ 222 คะแนน
ขณะที่ รางวัลคะแนนรวมทีมเยาวชนชาย ชนะเลิศ โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ ทีม เอ 481 คะแนน, รองอันดับ 1 โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี ทีม เอ 379 คะแนน, รองอันดับ 2 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ ทีม บี 378 คะแนน, รองอันดับ 3 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา ทีม เอ 378 คะแนน, รองอันดับ 4 สโมสรราชนาวี 366 คะแนน และรองอันดับ 5 โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครสวรรค์ ทีม เอ 336 คะแนน

#ตะวันสยามนิวส์

26/10/2025

ประสิทธิ์ จอมเดชพิชยะ จอมพลังจากโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ เอ รุ่น 94 กิโลกรัมชาย และ ณัฐธิดา รอบรู้ จากศูนย์ฝึกยกน้ำหนักบางแก้ว สก.พัทลุง รุ่นมากกว่า 77 กิโลกรัมหญิง ต่างคว้าคนละ 3 เหรียญทอง ในการแข่งขัน EGAT ยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จังหวัดศรีสะเกษ วันสุดท้าย

การแข่งขัน EGAT ยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 21-26 ตุลาคม 2568 ที่ห้องประชุมสโมสรพนักงานเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ชิงชัยเป็นวันสุดท้าย
เริ่มจากรุ่น 94 กิโลกรัมชาย กลุ่มเอ ประสิทธิ์ จอมเดชพิชยะ จากโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ เอ กวาด 3 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์ 135 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 165 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม 300 กิโลกรัม ส่วน นรงค์กร พุ่มพันธ์วงษ์ จากมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ คว้า 3 เหรียญเงิน จากท่าสแนทช์ 117 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 150 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม 267 กิโลกรัม และ วงศธร สายนาค จาก โรงเรียนพันดอนวิทยา จังหวัดอุดรธานี ได้ 3 เหรียญทองแดง จากท่าสแนทช์ 108 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 132 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม 240 กิโลกรัม
รุ่นมากกว่า 77 กิโลกรัมหญิง กลุ่มเอ ณัฐธิดา รอบรู้ จากศูนย์ฝึกยกน้ำหนักบางแก้ว สก.พัทลุง เหมา 3 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์ 95 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 120 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม 215 กิโลกรัม ส่วน กรกช สุดเมือง จากโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ เอ คว้า 3 เหรียญเงิน จากท่าสแนทช์ 87 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 108 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม 195 กิโลกรัม และ พริมรดา ทองผาภูมิเจริญ จากสโมสรยกน้ำหนักโรงเรียนบึงมะลูวิทยา จังหวัดศรีสะเกษ ได้ 3 เหรียญทองแดง จากท่าสแนทช์ 83 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 106 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม 189 กิโลกรัม

*** และรุ่นมากกว่า 94 กิโลกรัมชาย กลุ่มเอ ... กำลังแข่งขัน ***

#ตะวันสยามนิวส์

26/10/2025

“พงศภัค” ตาม 6 สโตรก พลิกแซงชนะเพลย์ออฟ สร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคนแรกคว้าแชมป์ “เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ” คว้าสิทธิ์ลุยเดอะ มาสเตอร์ส และดิ โอเพ่น

(ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) – “ฟีฟ่า” พงศภัค เหล่าภักดี สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ “เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ” หลังพลิกสถานการณ์จากการตามหลังถึง 6 สโตรก ก่อนระเบิดฟอร์มเก่งในวันสุดท้าย ทำสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสี่วัน 15 อันเดอร์พาร์ 273 เท่ากับ ไทเซ นางาซากิ จากญี่ปุ่น และเฉือนชนะในการเพลย์ออฟหลุมที่สาม คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมคว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์ 2 รายการใหญ่ “เดอะ มาสเตอร์ส” และ “ดิ โอเพ่น” ในปี 2026
ในวันสุดท้ายของการแข่งขันที่สนามเอมิเรตส์ กอล์ฟ คลับ พงศภัค ซึ่งออกสตาร์ตในกลุ่มสุดท้ายตามหลังผู้นำ ไทเซ นางาซากิ อยู่ 6 สโตรก และเล่นร่วมกับ รินทาโระ นากาโนะ จากญี่ปุ่น เริ่มต้นได้ดีด้วยการทำเบอร์ดี้ที่หลุม 1 แต่พลาดเสียโบกี้ที่หลุม 3 และ 8 ก่อนกลับมาทำผลงานยอดเยี่ยมในช่วงเก้าหลุมหลัง เก็บเบอร์ดี้ได้ที่หลุม 10, 13 และ 15 ขึ้นมานำร่วมกับ ไทเซ ที่แม้ทำเบอร์ดี้ในช่วงต้น แต่พลาดเสียหลายโบกี้ในช่วงกลางเกม
ไทเซ กลับมาทำเบอร์ดี้ที่หลุม 16 แซงขึ้นนำเดี่ยวอีกครั้ง ขณะที่ พงศภัค ตามหลังหนึ่งสโตรกในสองหลุมสุดท้าย ทั้งคู่ต่างทำเบอร์ดี้ที่หลุม 17 ก่อนที่หลุม 18 พงศภัค จะทำเบอร์ดี้ ส่วน ไทเซ ทำพาร์ ส่งผลให้ทั้งคู่มีสกอร์รวมเท่ากัน ต้องตัดสินด้วยการเพลย์ออฟ
การเพลย์ออฟเริ่มที่หลุม 18 พาร์ 5 ทั้งสองทำเบอร์ดี้ ต้องไปต่อที่หลุม 17 พาร์ 4 ซึ่งต่างก็ทำเบอร์ดี้อีกครั้ง ก่อนกลับมาแข่งที่หลุม 18 เป็นครั้งที่สอง พงศภัค ตีช็อตสองไปตกข้างกรีนเกือบลงน้ำ ส่วน ไทเซ ตีออนแต่พัตต์เบอร์ดี้ไม่ลง พงศภัค ชิพเข้าเหลือระยะพัตต์ราว 3 ฟุต และพัตต์ลงได้อย่างเฉียบขาด คว้าแชมป์ไปครองสำเร็จ
จากชัยชนะครั้งนี้ พงศภัค จะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันเมเจอร์ “เดอะ มาสเตอร์ส” ที่สนามออกัสตา เนชันแนล กอล์ฟ คลับ รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในเดือนเมษายน 2026 และ “ดิ โอเพ่น” ที่สนามรอยัล เบิร์กเดล ประเทศอังกฤษ ในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน รวมถึงสิทธิ์เข้าร่วม “ดิ อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ” ในปีหน้า ขณะที่ ไทเซ นางาซากิ รองแชมป์ ได้สิทธิ์เข้าร่วมรอบคัดเลือกสุดท้าย (Final Qualifying) ของดิ โอเพ่น
พงศภัค กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า “ผมตั้งใจมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว วันนี้วางแผนกับแคดดี้ให้เล่นช็อตต่อช็อตไป และมาทำได้ดีในเก้าหลุมหลัง ดีใจมากที่ได้สิทธิ์ไปเล่นเมเจอร์ โดยเฉพาะเดอะ มาสเตอร์ส ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างสูงสำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นไทย”
รินทาโระ นากาโนะ จากญี่ปุ่น ทำสกอร์วันสุดท้าย 1 อันเดอร์พาร์ 71 รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 คว้าอันดับสาม ส่วน แฮร์รี ทาคิส จากออสเตรเลีย จบอันดับสี่ที่สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 276
ด้าน “ทีเค” รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ ทำ 1 อันเดอร์พาร์ 71 รวมสี่วัน 8 อันเดอร์พาร์ 280 จบอันดับ 11 ร่วม ขณะที่ผลงานนักกอล์ฟไทยคนอื่น ๆ ได้แก่ ธนวินท์ ลี รวมอีเวนพาร์ 288 (อันดับ 26), ปรินทร์ สารสมุทร รวม 4 โอเวอร์พาร์ 292 (อันดับ 37), ชนชน โชคประจักษ์ชัด รวม 8 โอเวอร์พาร์ 296 (อันดับ 45 ร่วม) และ ลพัษภล ลิแบร์โต้ เอราช-โกเมซ รวม 10 โอเวอร์พาร์ 226 (อันดับ 48 ร่วม)
สำหรับการแข่งขัน “เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ” ครั้งต่อไป จะจัดขึ้นที่สนามเท อาราย ลิงก์ส ประเทศนิวซีแลนด์ ในปี 2026
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขัน “เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ” ได้ที่ www.AACgolf.com

เครดิตภาพ:

#ตะวันสยามนิวส์

26/10/2025

สภท. จัดเดิน–วิ่ง มินิมาราธอนการกุศล “สภท. 60 ปี” รวมพลังคนสื่อ “ร่วมวิ่ง ร่วมให้ เพื่ออนาคตเยาวชนไทย”

วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2568 สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม เดิน–วิ่ง มินิมาราธอนการกุศล “สภท. 60 ปี” เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีแห่งการก่อตั้งสมาคมฯ ณ บริเวณลานสาเกตนคร บึงพลาญชัย (หอโหวด 101) อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม และ ยังได้รับเกียรติจาก นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด, นายพิชัยยา ตุระซอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด, นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด, พ.ต.อ.ไกร สอนสี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าร่วมกิจกรรมและร่วมวิ่งไปพร้อมกับประชาชนและสื่อมวลชน อีกทั้งยังได้รับเกียรติจาก นายสัญญา พรนารายณ์ ศิลปินลูกทุ่งอมตะนิรันดร์กาลร่วมขับร้องเพลง และสร้างบรรยากาศคึกคักแบบเป็นกันเองตลอดเส้นทาง

ภายในงานมีนักวิ่งเข้าร่วมจำนวนมาก เพื่อร่วมแสดงพลังความสามัคคีของคนสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป ภายใต้แนวคิด “ร่วมวิ่ง ร่วมให้ เพื่ออนาคตของเยาวชนไทย”

นายอนันต์ นิลมานนท์ นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “กิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการรวมพลังของคนหนังสือพิมพ์ทั่วประเทศ เพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดีและตอบแทนสังคม ภายใต้แนวคิด ‘ร่วมวิ่ง ร่วมให้ เพื่ออนาคตของเยาวชนไทย’ โดยรายได้จากกิจกรรมจะนำไปมอบเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนในจังหวัดร้อยเอ็ดและบุตรหลานของสมาชิกสมาคมฯ”

กิจกรรมดังกล่าวคึกคักตั้งแต่วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม ได้มีการเปิดให้ผู้สมัครมารับเสื้อและอุปกรณ์การวิ่ง ป้ายเบอร์ (BIB และ chip timing) ณ โรบินสันไลฟ์สไตล์ ร้อยเอ็ด ส่วนในวันงาน วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม กิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 05.00 น. ด้วยพิธีเปิดงาน ต่อด้วยเวลา 05.30 น. ปล่อยตัวนักวิ่งมินิมาราธอน ระยะทาง 10 กิโลเมตร และเวลา 05.45 น. ปล่อยตัวนักวิ่ง Fun Run ระยะทาง 5 กิโลเมตร จากนั้นเวลา 06.40 น. มีพิธีมอบรางวัลให้กับผู้ชนะในแต่ละรุ่นอายุ รวมถึงรางวัลประเภท Overall โดยมีจุดสตาร์ทและเส้นชัยบริเวณหน้าบึงพลาญชัย

ภายในงานยังมีบูธจากผู้สนับสนุนมากมาย ทั้งอาหารว่าง เครื่องดื่ม และสินค้าราคาพิเศษจากหลากหลายแบรนด์ พร้อมสนุกไปกับมินิคอนเสิร์ตจาก “สัญญา พรนารายณ์” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ที่มาร่วมสร้างสีสันและความสุขให้กับผู้เข้าร่วมงาน

สมาคมฯ ขอกราบขอบพระคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด ตลอดจนคณะครู–อาจารย์ และพี่น้องประชาชนชาวร้อยเอ็ด ที่ให้การสนับสนุนและร่วมเป็นเจ้าภาพต้อนรับอย่างอบอุ่น

รวมถึงขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนจากภาคเอกชนและองค์กรพันธมิตร ที่ร่วมทำให้กิจกรรม “สภท. 60 ปี เดิน–วิ่ง มินิมาราธอน 2025” สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี อาทิ ธนาคารออมสิน, บริษัท ซีพีแรม จำกัด, บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไอเรียล พลัส (ประเทศไทย) จำกัด, ผงซักฟอกคิงบริดจ์ ผลิตภัณฑ์คุณภาพจากไลอ้อน, มูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา, ลูกชิ้นรสเยี่ยม, รายการ “คุยเฟื่องเรื่องพระ” โดยอาจารย์วันชัย สุพรรณ, มะขามหวานไร่ชนิกา จ.เพชรบูรณ์, TS Sport ร้อยเอ็ด, DEVER Energy Gel, iShoot Runteam, กาแฟอราบัส, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สมาพันธ์ชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพไทย, ดูแลไตทุกระยะกับ C CAN CBD, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ควิก แสบ แสบเข้าเส้น”, บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด และมูลนิธิครอบครัวพอเพียง

ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมและได้อันดับ 1-5 จะได้รับถ้วยรางวัล และผู้เข้าเส้นชัยทุกท่านจะได้รับเหรียญที่ระลึก เพื่อเป็นเกียรติและขวัญกำลังใจในการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

กิจกรรม “สภท. 60 ปี เดิน–วิ่ง มินิมาราธอน 2025” ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สะท้อนถึงพลังความสามัคคีของคนสื่อทั่วประเทศ พร้อมสร้างสีสันและรอยยิ้มให้กับพี่น้องชาวจังหวัดร้อยเอ็ด สะท้อนบทบาทของสมาคมที่ไม่เพียงทำหน้าที่สื่อสารข้อมูล แต่ยังมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสังคม ส่งเสริมการท่องเที่ยว และดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างอบอุ่นและสร้างสรรค์

#สภท60ปีมินิมาราธอน2025 #ร้อยเอ็ด
#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

#ตะวันสยามนิวส์

26/10/2025

ส.ว.-นักบริหารไทย บินศึกษา 'โมเดลสี จิ้นผิง' ถอดรหัสยุทธศาสตร์เชื่อมโยงความร่วมมืออาเซียน-จีน

คณะสมาชิกวุฒิสภาและนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 29 (ปปร.29) จากสถาบันพระปกเกล้า เดินทางเข้าร่วมโครงการ “แลกเปลี่ยนทุนมนุษย์อาเซียน–จีน” ณ สถาบันการปกครองแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน (China National Academy of Government : CNAG) ณ กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 14 - 23 ตุลาคม 2568 เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารประเทศจีนในยุคปัจจุบัน และกระชับความร่วมมือด้านการบริหารจัดการระหว่างภูมิภาค

คณะผู้เข้าร่วมอบรม ซึ่งประกอบด้วย สมาชิกวุฒิสภา อาทิ นางสาวเข็มรัตน์ สุรเมธีมาณพ นายชวพล วัฒนพรมงคล นายชาญวิศว์ บรรจงการ นายเตชสิทธิ์ ชูแก้ว นางสาวมณีรัฐ เขมะวงค์ และนายมังกร ศรีเจริญกูล ได้รับการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพในหัวข้อสำคัญ 9 ประเด็น ที่ครอบคลุมยุทธศาสตร์การพัฒนาของจีนอย่างรอบด้าน อาทิ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสภาพบ้านเมือง การปฏิรูปโครงสร้างของรัฐและองค์กร แนวคิดสังคมนิยมที่มีอัตลักษณ์ในยุคใหม่ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง การส่งเสริมความเท่าเทียมของบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน การยกระดับความสามารถในการให้บริการสาธารณะของรัฐบาลท้องถิ่น รวมถึงการรับมือกับเหตุฉุกเฉินและสถานการณ์เฉพาะหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนแนวคิดอารยธรรมเชิงนิเวศควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน

ภายหลังการอบรมอย่างเข้มข้น คณะฯ ได้รับเกียรติจาก นายหลี่ เหวินถัง รองประธานสถาบัน CNAG และ ดร.กัว อี้เฟิง ผู้อำนวยการสำนักงานฝึกอบรมนานาชาติ ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสเสร็จสิ้นการอบรม ณ ห้องจัดเลี้ยงภายในสถาบันฯ ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีและความร่วมมือระหว่างสถาบันของทั้งสองประเทศ

นอกจากกิจกรรมในกรุงปักกิ่งแล้ว ระหว่างวันที่ 24-28 ตุลาคม 2568 คณะสมาชิกวุฒิสภาและนักศึกษา ปปร.29 ยังได้เดินทางไปทัศนศึกษายังเมืองสำคัญในมณฑลฝูเจี้ยน ได้แก่ เมืองฝูโจว และ เมืองเซี่ยเหมิน เพื่อศึกษาบริบทด้านการพัฒนาท้องถิ่น เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมเพิ่มเติม ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย การเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยน 'ทุนมนุษย์' ระดับสูง ซึ่งจะนำมาสู่การประยุกต์ใช้องค์ความรู้ด้านการบริหารเพื่อพัฒนาระบอบประชาธิปไตยและการบริการสาธารณะในประเทศไทยต่อไป

#ตะวันสยามนิวส์

26/10/2025

" 3 นักหวดสาวสุดปัง" น.ส.ฌัชชา กล่อมกมล , ด.ญ.เบลินด้า เอนจิ และ ด.ญ.ศิริกร พูนผล โชว์ฟอร์มคว้าคนละ 3 แชมป์
ในวันสุดท้ายของการแข่งขัน "พิษณุโลก ซอฟท์เทนนิส แชมเปี้ยนชิพ 2025"

วันที่ 26 ต.ค.68 ที่สนามเทนนิสภายในสนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก วันสุดท้ายของการชิงชัยกีฬาซอฟท์เทนนิสรายการ "พิษณุโลก ซอฟท์เทนนิส แชมเปี้ยนชิพ 2025" ที่สมาคมกีฬาซอฟท์เทนนิสแห่งประเทศไทย ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก , สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพิษณุโลก และชมรมกีฬาซอฟท์เทนนิสจังหวัดพิษณุโลก จัดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 24 - 26 ต.ค.68 โคจรมาถึงรอบชิงชนะเลิศทุกรายการ โดยมีผลการแข่งขันที่น่าสนใจดังนี้
หญงเดี่ยว 12 ปีรอบชิงชนะเลิศ ด.ญ.นกรณ์ เกตุมะยูร คว้าแชมป์หลังหวดชนะ ด.ญ.ขวัญชนก ศุภพิพัฒน์ 4 : 3 รองชนะเลิศอันดับสองได้แก่ ด.ญ.ปภาวรินทร์ ศิริมงคลสันต์ และ ด.ญ.รัตสรินทร์ ปารีศรี
ชายเดี่ยว 12 ปีรอบชิงชนะเลิศ ด.ช.ปิยะวัฒน์ มั่งคล้าย คว้าแชมป์ด้วยการชนะ ด.ช.ธนกร ไชยลังการ 4 : 2 รองชนะเลิศอันดับสอง ด.ช.ชวนากร ธนีภาพ และ ด.ช.นนท์ปวัฒน์ คำจริง
หญิงเดี่ยว 15 ปีรอบชิงชนะเลิศ น.ส.เรียนนา แคลร์ ซี โมราเรส สาวน้อยฟิลิปปินส์เกิดในไทยได้รองชนะเลิศอันดับ 1 หลังแพ้ให้กับ ด.ญ.ศิริกร พูนผล "น้องปาล์มมี่" นักหวดสาวน้อยเจ้าถิ่นวัย 12 ปี 1 : 4 รองชนะเลิศอันดับ 2 ด.ญ.นกรณ์ เกตุมะยูร และ ด.ญ.เบลินด้า เอนจิ
ชายเดี่ยว 15 ปีรอบชิงชนะเลิศ นายธนกฤษ พงศ์เศวต นักกีฬาพิษณุโลกเจ้าถิ่นได้แค่รองแชมป์หลังแพ้ให้กับ ด.ช.พลเดช ระภาพันธ์ 1 : 4 รองชนะเลิศอันดับสอง นายคณิศร พูนผล และ ด.ช.ประวัฒน์ชัย แม้นเหมือน
หญิงคู่ 15 ปีรอบชิงชนะเลิศแชมป์ตกเป็นของ"น้องปาล์มมี่" ด.ญ.ศิริกร พูนผล ที่จับคู่กับ ด.ญ.เบลินด้า เอนจิ หวดชนะ น.ส.เรียนนา แคลร์ ซี โมราเรส กับ ด.ญ.ปิยะวรรณ ยั่งยืนกุล 5 : 1 รองชนะเลิศอันดับสอง ด.ญ.บุญธาดา ศิริสุวัฒน์ กับ ด.ญ.ชลลภัทร วงศ์สง่า และด.ญ.ใบบุญ ไกรโชค กับ ด.ญ.นกรณ์ เกตุมะยูร
ชายคู่ 15 ปีรอบชิงชนะเลิศ ด.ช.ปิยะวัฒน์ มั่งคล้าย กับ ด.ช.พลเดช ระภาพันธ์ คว้าแชมป์ด้วยการหวดชนะ ด.ช.ธนกร ไชยลังการ และ ด.ช.ฐิติวัชร์ พรทรัพย์ปภา 5 : 4 รองชนะเลิศอันดับ 2 สองพี่น้อง ด.ช.อมร คาเลวี ฮัววิล่า จับคู่กับ ด.ช.คีมี่ ฮัววิล่า และคู่ของ ด.ช.ชวนากร ธนีภาพ กับ ด.ช.นนท์ปวัฒน์ คำจริง
หญิงเดี่ยว 18 ปีรอบชิงชนะเลิศ น.ส.เรียนนา แคลร์ ซี โมราเรส สาวน้อยฟิลิปปินส์คว้าแชมป์หลังหวดชนะ ด.ญ.ปิยะวรรณ ยั่งยืนกุล 4 : 1 รองชนะเลิศอันดับ 2 น.ส.ชยาภรณ์ จันทร์คำ และ ด.ญ.เบลินด้า เอนจิ
ชายเดี่ยว 18 ปีรอบชิงชนะเลิศแชมป์เป็นของนายเรวัตน์ ปารีศรี ชนะนายคงภัค คำทวี 4 : 3 รองชนะเลิศอันดับสอง นายธนกฤษ พงศ์เศวต และนายคณิศร พูนผล
หญิงคู่ 18 ปีรอบชิงชนะเลิศ ด.ญ.เบลินด้า เอนจิ จับคู่กับ ด.ญ.ศิริกร พูนผล คว้าแชมป์ประเภทคู่รายการที่สองหลังหวดชนะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เจริญรักษ์ธนกุล และ น.ส.วรรณิกา เพ็งประไพ 5 : 3 รองชนะเลิศอันดับสอง น.ส.ชยาภรณ์ จันทร์คำ กับ น.ส.วันพิมพ์ กลิ่นเพ็ญ และคู่ของ น.ส.เรียนนา แคลร์ ซี โมราเรส และ น.ส.ปิยะวรรณ ยั่งยืนกุล
ชายคู่ 18 ปีรอบชิงชนะเลิศสองคู่หู นายภูมิภัทร เธียรชัยพงศ์ และนายกฤติธี ปลื้มใจ คว้าแชมป์หลังหวดชนะนายวชิรปรัชญ์ การินตา กับนายนภัทร์ แซ่จีน 5 : 3 รองชนะเลิศอันดับ 2 นายคงภัค คำทวี กับนายปิยสุวรรณ มั่งคล้าย และคู่ของนายธัชพงศ์ สะอาด กับนายคณิศร พูนผล
หญิงเดี่ยว 20 ปีรอบชิงชนะเลิศแชมป์เป็นของ ด.ญ.เบลินด้า เอนจิ เอาชนะพาร์ทเนอร์ในประเภทคู่ของเธอ ด.ญ.ศิริกร พูนผล 4 : 1 รองชนะเลิศอันดับ 2 น.ส.ฌัชชา กล่อมกมล และ น.ส.ชยาภรณ์ จันทร์คำ
ชายเดี่ยว 20 ปีรอบชิงชนะเลิศ นายธัชพงศ์ สะอาด คว้าแชมป์หลังหวดชนะนายภูมิภัทร เธียรชัยพงษ์ 4 : 0 รองชนะเลิศอันดับสองนายคณิศร พูนผล และนายธนกฤษ พงศ์เศวต
หญิงคู่ 20 ปี รอบชิงชนะเลิศ น.ส.วรรณิกา เพ็งประไพ และ น.ส.ฌัชชา กล่อมกมล คว้าแชมป์ด้วยการหวดชนะ น.ส.เรียนนา แคลร์ ซี โมราเรส และ น.ส.ณัฏฐิกา เดชโนนสังข์ รองชนะเลิศอันดับสอง น.ส.ณัชชา มณีเขียว กับ น.ส.ธมลวรรณ ชนะภัย และ ด.ญ.ศิริกร พูนผล กับ ด.ญ.ปิยะวรรณ ยั่งยืนกุล
ชายคู่ 20 ปีรอบชิงชนะเลิศ นายกฤติธี ปลื้มใจ กับ นายภควัต สมสนิท คว้าแชมป์หลังหวดชนะ นายจิตติพัฒน์ อุ่นเจริญ กับ ด.ช.ปิยะวัฒน์ มั่งคล้าย 5 : 1 รองชนะเลิศอันดับสอง ด.ช.ชนกันต์ ซ่อนกลิ่น และนายคงภัค คำทวี กับคู่ของนายนภัทร์ แซ่จีน และนายเจริค เจสซี่ โมราเรส
คู่ผสม 20 ปีรอบชิงชนะเลิศ นายภัคพล เธียรชัยพงษ์ กับ น.ส.ธัญพิชชา สมสนิท คว้าแชมป์หวดชนะคู่ของ นายกฤติธี ปลื้มใจ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เจริญรักษ์ธนกุล 5 : 1 รองชนะเลิศอันดับสอง นายภควัต สมสนิท กับ ด.ญ.เบลินด้า เอนจิ และนายสิทธา แก้วกำจายภิญโญ กับ น.ส.วันพิมพ์ กลิ่นเพ็ง
หญิงเดี่ยวทั่วไปรอบชิงชนะเลิศ "น้องเนย" น.ส.ฌัชชา กล่อมกมล คว้าอีกแชมป์ด้วยการชนะ น.ส.วรรณิกา เพ็งประไพ 4 : 2 รองชนะเลิศอันดับ 2 น.ส.นราวรรณ เรืองเกิด และ ด.ญ.ศิริกร พูนผล
ชายเดี่ยวทั่วไปรอบชิงชนะเลิศ"ข้าวปั้น" นายภควัต สมสนิท คว้าแชมป์หวดชนะนายธัชพงศ์ สะอาด 4 : 1 รองชนะเลิศอันดับ 2 นายคณิศร พูนผล และนายกาณฑ์ กาญจนะศักดิ์ดา
หญิงคู่ทั่วไปรอบชิงชนะเลิศ น.ส.ฌัชชา กล่อมกมล จับคู่กับอดีตมือมือ 1 ทีมชาติ น.ส.แพรวา จงจิตร คว้าแชมป์ตามคาดชนะสองนักหวดทีมชาติรุ่นน้อง ด.ญ.เบลินด้า เอนจิ และ ด.ญ.ศิริกร พูนผล 5 : 3 รองชนะเลิศอันดับ 2 น.ส.กรชวัล พนาสันติสุข กัย น.ส.ธัญพิชชา สมสนิท และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เจริญรักษ์ธนกุล กับ น.ส.วรรณิกา เพ็งประไพ
ชายคู่ทั่วไปรอบชิงชนะเลิศ นายภูมิภัทร เธียรชัยพงษ์ กับนายกฤติธี ปลื้มใจ คว้าแชมป์ด้วยการชนะคู่ของนายวัชรพงษ์ ปัทมาศ กับนายกาณฑ์ กาญจนะศักดิ์ดา 5 : 2 รองชนะเลิศอันดับสองนายปิยสุวรรณ มั่งคล้าย กับนายวงศกร วรรณารักษ์ และนายภัคพล เธียรชัยพงศ์ และนายสิปปกร ทองงิ้ว
คู่ผสมทั่วไปรอบชิงชนะเลิศ นายภัคพล เธียรชัยพงษ์ กับ น.ส.ธัญพิชชา สมสนิท คว้าแชมป์เอาชนะคู่ของนายกฤติธี ปลื้มใจ กับ น.ส.แพรวา จงจิตร รองชนะเลิศอันดับสอง นายภควัต สมสนิท จับคู่กับ น.ส.บัณฑิตา พึ่งประภา และ นายสิปปกร ทองงิ้ว กับ น.ส.กรชวัล พนาสันติสุข
จากนั้นเป็นพิธีมอบเหรียญรางวัลชนะเลิศประเภทต่างๆ โดยได้รับเกียรติจากนายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ นายกเทศบาลนครพิษณุโลก , นายวิทยา อ่อนแก้ว รองนายกเทศบาลนครพิษณุโลก , นางอุดมลักษณ์ ศิริกุลเลิศรัฐ นายกสมาคมกีฬาซอฟท์เทนนิสแห่งประเทศไทย
, นางสุภาพร นาคนาคา กรรมการบริหารสมาคมฯ และพันตำรวจเอกวรเชษฐ์ พลขันธ์ ที่ปรึกษาชมรมซอฟท์เทนนิสพิษณุโลก ให้เกียรติขึ้นมอบเหรียญรางวัล , ถ้วยรางวัล และประกาศนียบัตรแก่น้องๆนักกีฬาที่ได้รับรางวัลก่อนที่นางอุดมลักษณ์ ศิริกุลเลิศรัฐ นายกสมาคมกีฬาซอฟท์เทนนิสแห่งประเทศไทย จะกล่าวขอบคุณนักกีฬา ผู้ปกครอง , ผู้ตัดสิน และฝ่ายจัดการแข่งขันตลอดจนทุกภาคส่วนของเจ้าภาพจังหวัดพิษณุโลกที่ช่วยกันทำงานรายการนี้จนบรรลุวัตถุประสงค์ พร้อมกล่าวเชิญชวนนักกีฬาให้เข้าร่วมการแข่งขันซอฟท์เทนนิสกีฬาระหว่างโรงเรียน กรมพละศึกษา ในระหว่างวันที่ 29 - 30 พ.ย.68 และอีกหนึ่งรายการใหญ่ในรายการระดับนานาชาติ ระหว่างวันที่ 16 - 21 ธ.ค.68 ทั้งสองรายการแข่งขันที่สนามเทนนิสมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คลองหก จ.ปทุมธานี นายกสมาคมกล่าวทิ้งท้าย

#ตะวันสยามนิวส์

Tawansiam News

28/10/2025

28/10/2025

28/10/2025

28/10/2025

26/10/2025

26/10/2025

26/10/2025

26/10/2025

26/10/2025

26/10/2025

26/10/2025

26/10/2025

ที่อยู่

เบอร์โทรศัพท์

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ทางลัด

แชร์

ประเภท