SiamConnext

18/09/2025

ไทยเปิดตัวในอิตาลีเจ้าภาพงานระดับโลก Gastech 2026 ขับเคลื่อนพลังงานระดับนานาชาติ

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ในฐานะผู้ประมูลสิทธิ์ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน Gastech 2026 จับมือกระทรวงพลังงานในฐานะองค์กรเจ้าภาพ พร้อมด้วยบริษัท ดีเอ็มจี อีเว้นท์ ผู้จัดงาน และพันธมิตรในอุตสาหกรรมพลังงานของไทยเข้าร่วมงาน Gastech 2025 เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ประเทศไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพงานแสดงสินค้าด้านอุตสาหกรรมพลังงานระดับโลก Gastech 2026 ระหว่างวันที่ 15-18 กันยายน 2569 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติไบเทค

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า การเปิดตัวของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพงาน Gastech 2026 ในสาธารณรัฐอิตาลี เป็นภาพสะท้อน Ecosystem ของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยที่มีการบูรณาการความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน หรือ public-private collaboration เพื่อขับเคลื่อนการจัดงานระดับโลกให้ประสบความสำเร็จ ถือเป็นปัจจัยทำให้ประเทศไทยได้รับความเชื่อถือและความไว้วางใจให้รับสิทธิต่อจากอิตาลีในการเป็นเจ้าภาพ Gastech 2026 ช่วยตอกย้ำความพร้อมของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางชั้นนำของเอเชียสำหรับการจัดงานนานาชาติ

อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับทีเส็บในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการใช้การจัดงานเป็นเครื่องมือส่งเสริมการค้าและการลงทุน การพัฒนาโอกาสทางธุรกิจและการต่อยอดภาคอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์หรือกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของประเทศ รวมไปถึงอุตสาหกรรมพลังงาน

ซึ่งประเทศไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงาน Gastech 2026 ไม่เพียงสะท้อนบทบาทของไทยต่ออุตสาหกรรมพลังงานระดับโลก ยังช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศในฐานะผู้นำด้านพลังงานของภูมิภาคเอเชีย และการเป็นศูนย์กลางงานแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ ยังเป็นกลไกสำคัญในการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศในหลากหลายมิติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการพัฒนาอุตสาหกรรมอีกด้วย

สำหรับประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการจัดงาน Gastech 2026 คือ โอกาสเจรจาธุรกิจและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับผู้ประกอบการพลังงานชั้นนำจากทั่วโลก โอกาสของความร่วมมือทั้งทวิภาคีและพหุภาคีต่อยอดด้านพลังงานในอนาคต โอกาสทางเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของผู้ร่วมงานและการสร้างงานให้กับบุคลากรชาวไทย ประการสำคัญคือภาพลักษณ์และบทบาทของไทยในเวทีโลก เพราะงาน Gastech 2026 จะมีบุคคลระดับรัฐมนตรีพลังงานจากนานาประเทศเดินทางมาร่วมงาน

โดยงาน Gastech 2026 คาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 50,000 ราย จาก 150 ประเทศทั่วโลก รวมถึงผู้แสดงสินค้ากว่า 1,000 ราย และวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานกว่า 1,000 คน สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจในภาพรวมมูลค่าประมาณ 14,620 ล้านบาท โดยในส่วนของการสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยประมาณการเป็นมูลค่า 7,500 ล้านบาท การจัดเก็บภาษี 1,023 ล้านบาท และการจ้างงาน 4,700 อัตรา

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการทีเส็บ กล่าวต่อว่า ในฐานะผู้ขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมไมซ์มีบทบาทพัฒนาประเทศ ทีเส็บเชื่อมั่นว่า งาน Gastech ที่กลับมาจัดในประเทศไทยในรอบ 18 ปี จะประสบความสำเร็จด้วยดี เพราะประเทศไทยมีความพร้อมของบุคลากรทั้งภาครัฐและเอกชนใน Ecosystem ของการจัดงาน สถานที่จัดงานและโรงแรมที่พักมีมาตรฐานสากลและประสบการณ์รองรับการจัดงานระดับโลกทั้งงานประชุมและงานแสดงสินค้า โครงสร้างพื้นฐานการเดินทางพร้อมดึงผู้ร่วมงานจากทั่วโลก เพราะปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินที่ให้บริการสายการบินจำนวนมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก การให้บริการด้วยวิถีไทยที่เป็นเอกลักษณ์มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ และแหล่งพักผ่อนหย่อนใจหลากหลายรูปแบบสำหรับนักเดินทางธุรกิจ

17/09/2025

กรมการท่องเที่ยวเสริมแกร่งผู้ประกอบการไทยอบรมบุคลากรรองรับการท่องเที่ยวมุสลิมครึ่งปีแรกมาเลเซียเที่ยวไทยทะลุ 3 ล้านคน

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมถือเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูง และมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโลก จากรายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยทะลุ 3 ล้านคน ติดอันดับ Top 3 นักท่องเที่ยวต่างชาติ ตอกย้ำความนิยมของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมุสลิม

“ประเทศไทยมีความพร้อมทั้งด้านแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย มาตรฐานการให้บริการ และเสน่ห์ของความเป็นมิตร การพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความเข้าใจและสามารถรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวมุสลิมได้อย่างถูกต้อง จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในเวทีโลก” นายจาตุรนต์ กล่าว

สำหรับการจัดกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านบริการท่องเที่ยว เพื่ออบรมยกระดับศักยภาพบุคลากรรองรับการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อมุสลิม ถือเป็นโอกาสอันดีในการพัฒนาการให้บริการของผู้ประกอบการและบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ให้มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะในการให้บริการที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและความเชื่อของนักท่องเที่ยวมุสลิม พร้อมทั้งคำนึงถึงมาตรฐานด้านความปลอดภัย ความสะอาด ความเป็นธรรม และความยั่งยืน มุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ใหม่และแนวคิดที่นำไปใช้ได้จริง การอบรมจะมีขึ้นจำนวน 4 ครั้ง คาดหวังกลุ่มเป้าหมายรวมไม่น้อยกว่า 600 คน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี กระบี่ และปัตตานี

ซึ่งกรมการท่องเที่ยวมั่นใจว่า จะช่วยยกระดับมาตรฐานบริการของผู้ประกอบการและบุคลากรท่องเที่ยว ให้สามารถรองรับตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิมได้อย่างมีคุณภาพ สร้างความประทับใจและภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศไทย พร้อมทั้งเสริมความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยก้าวสู่การพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารการอบรมต่างๆ ได้ทางเฟซบุ๊กเพจ กรมการท่องเที่ยว Department of Tourism

#กรมการท่องเที่ยว #ท่องเที่ยวมุสลิม

08/09/2025

เมื่อพลังความร่วมมือของคนในประเทศ
จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในเวทีโลก

: กับปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่จะเกิดขึ้น
กับงาน WorldPride 2030

“ในการที่จะดึง World Pride ปี 2030 สู่ไทย ถ้าทุกอย่างเกิดขึ้นได้ มันจะเป็นครั้งแรกของประเทศในเอเชียที่ได้จัดงานนี้”
— Parichat Svetasreni, Director of Mega Events & World Festivals Department (TCEB)

ในส่วนของ สสปน. หรือ TCEB เราเป็นสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมนิทรรศการ ซึ่งได้รับมอบหมายให้สนับสนุนการรวมพลังของพวกเรา เพื่อดึงงาน WorldPride 2030 เข้ามาสู่ประเทศไทย และหากทำได้สำเร็จ มันจะเป็นครั้งแรกของประเทศในเอเชียที่จัดงานนี้ขึ้น จากความร่วมมือร่วมใจของทุกคน

สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้เห็นแล้วว่าพลังจากท้องถิ่นกำลังเชื่อมต่อกับพลังระดับโลก ฟอรั่มครั้งนี้คือพื้นที่ที่คนไทยและไพรด์ไทยจากกว่า 20 จังหวัด มานำเสนอและแลกเปลี่ยนบทเรียนจากประสบการณ์ของแต่ละพื้นที่ เพื่อเชื่อมโยงต่อกับเครือข่ายไพรด์ทั่วโลก โดยเฉพาะการได้ต้อนรับ speaker จากชุมชนไพรด์ในเอเชีย ที่เข้ามาร่วมสะท้อนวัฒนธรรมและพลังของภูมิภาค ที่สามารถรวมใจกันและนำงานนี้เข้าสู่ประเทศไทยได้อย่างแท้จริง

ท้ายที่สุด ความเชื่อมั่นที่ถูกฝากไว้บนเวทีนี้ คือความร่วมมือของทุกคนในวันนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จ และจะต่อยอดไปสู่อนาคต ที่พลังจากชุมชนของเราจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญบนเวทีโลก

📌 Forum: Pride City to WorldPride
🗓️ วันที่ 4 กันยายน 2025
📍 ชั้น 7 ICONSIAM

✨ จัดโดย บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ Bangkok Pride และ Drag Bangkok
ภายใต้การสนับสนุนจาก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และ THACCA – Thailand Creative Culture Agency

“Bringing WorldPride 2030 to Thailand would mark the first time that any country in Asia has ever hosted this historic event.”
— Parichat Svetasreni, Director of Mega Events & World Festivals Department (TCEB)

At TCEB, the Thailand Convention and Exhibition Bureau, we are entrusted with supporting this collective effort — to unite our strengths in bringing WorldPride 2030 to Thailand. If we succeed, it will not only be a national milestone but also the very first time this global celebration is hosted in Asia, made possible through the solidarity of all communities.

What we witnessed today proves that local energy is connecting with global momentum. This forum has become a space where Thai Pride organizers from more than 20 provinces share experiences and lessons learned, linking with the worldwide Pride movement. Welcoming speakers from Pride communities across Asia further reflects the richness of our region’s culture and power — and shows how united we can be in bringing WorldPride to Thailand.

Ultimately, the confidence expressed on this stage is clear: the collaboration we are building today will lead us toward success, and the power of our communities will continue to drive change on the global stage.

📌 Forum: Pride City to WorldPride
🗓️ 3 September 2025
📍 7th Floor, ICONSIAM

✨ Organized by Kantana Group Public Company Limited, in collaboration with Bangkok Pride and Drag Bangkok
Supported by the Department of Cultural Promotion, Ministry of Culture, and THACCA – Thailand Creative Culture Agency

08/09/2025

วันที่ 8 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการจัดทำบัญชีรายชื่อคณะรัฐมนตี ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้บรรลุผลการทาบทาม นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ให้เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

#อนุทิน1 #ศุภจีสุธรรมพันธุ์ #รมวพาณิชย์

05/09/2025

เปิดวิสัยทัศน์ ผู้อำนวยการทีเส็บ
✨ “Change That Matters” ✨

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการทีเส็บ
เปิดตัวพบสื่อมวลชนในงาน "Meet the Press" ณ โรงแรมดุสิตธานี

📌 ปักธง “ไมซ์ต้องสร้างผลลัพธ์มูลค่าสูง”
เพื่อผลักดันไทย สู่จุดหมายการจัดงานเชิงธุรกิจที่โลกไว้วางใจ

วิสัยทัศน์และทิศทางการดำเนินงาน ดร.ศุภวรรณ ได้กำหนดให้ทีเส็บขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น “Global-Asia’s Trusted Gateway” หรือ ประตูสู่เอเชียที่ทั่วโลกให้ความไว้วางใจ

โดยมีเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ให้เกิดผลกระทบสูง (high-impact) และส่งมอบประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าและยั่งยืน (transformative, high-value, sustainable experiences) พร้อมขับเคลื่อนไมซ์ให้เป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจที่สร้างความยั่งยืนให้กับประเทศวิสัยทัศน์นี้จะขับเคลื่อนด้วย 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

🔑 กลยุทธ์ G-L-O-C

🌍 Global Reach ดึงงานนานาชาติที่สร้างผลลัพธ์สูง

🏙 Local Strength พัฒนาคลัสเตอร์เมืองไมซ์ ปั้นงานเรือธง

💻 Organisation Transformation พลิกสู่องค์กรดิจิทัล

🏆 Capabilities Excellence สู่บทบาท Policy Shaper และผู้เชี่ยวชาญไมซ์อาเซียน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.businesseventsthailand.com/th/press-media/news-press-release/detail/1667-change-that-matters

01/09/2025

เมื่อภารกิจหลักของ สกพอ. คือ การผลักดันให้พื้นที่ EEC ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งอนาคตของภูมิภาค

ดังนั้นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานสำคัญภายในพื้นที่ EEC การพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย และการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการลงทุนคุณภาพจากทั่วโลก จึงเป็นสิ่งสำคัญ

โดยเฉพาะ 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง ทั้งยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การแพทย์ครบวงจร การท่องเที่ยวคุณภาพสูง และอุตสาหกรรมดิจิทัล บูรณาการเทคโนโลยีขั้นสูงกับภาคการผลิตและบริการ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว

: พลาดไม่ได้กับแนวทางการดำเนินงานในอนาคตผ่านมุมอง ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพอ.

#สกพอ #พื้นที่อีอีซี

รายการทอล์คกัน ซันเดย์ เจาะลึก ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพ....

28/08/2025

“ทีเส็บ”ขยายพื้นที่ “อีอีซี”ยกระดับเศรษฐกิจระยอง
สู่ High Value-Added MICE Destination

ทีเส็บ เปิดศักยภาพไมซ์จังหวัดระยอง จัดงาน EEC MICE FAM Trip 2025 ภายใต้แนวคิด EEC MAXIMICE THE FUTURE: เปิดศักยภาพไมซ์ ก้าวสู่อนาคตไปกับอีอีซี เดินหน้าขยายพื้นที่ อีอีซี มหานครแห่งไมซ์ หรือ EEC MICETROPOLIS จากพัทยาสู่ระยอง สัมผัสประสบการณ์ไมซ์ระยองในทุกมิติ หวังยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่นในพื้นที่อีอีซี สู่การเป็น High Value-Added Destination พร้อมจัดงาน EEC Expo 2025 ชูโอกาสลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายและบริการแห่งอนาคต ดึงดูดนักธุรกิจทั่วโลกร่วมลงทุนในพื้นที่อีอีซี

27/08/2025

‘เซ็นทรัลพัฒนา’แจงการเข้าลงทุน’ดุสิตธานี’
หลัง’ชนินทธ์ โทณวณิก’ออกแถลงการณ์ปมชิงอำนาจ

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ได้ออกมาชี้แจงข้อมูลที่มีการพาดพิงถึงจากกรณีการถือหุ้นหลังเกิดมีข่าวศึกชิงอำนาจภายในบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) จนสร้างความเข้าใจผิดต่อนโยบายการเข้าลงทุนของบริษัท

โดยมีการชี้แจงประเด็นในต่างๆ ดังนี้

1.บริษัทฯ ได้รับโอกาสในการร่วมลงทุน และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับดุสิตธานีในการพัฒนาโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งใช้งบลงทุนมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท โครงการดำเนินการพัฒนาด้วยดีมาโดยตลอด ซึ่งในส่วนของโรงแรมและอาคารสำนักงานได้เปิดดำเนินการแล้ว และศูนย์การค้าเซ็นทรัล พาร์ค กำลังจะเปิดให้บริการในวันที่ 4 กันยายน 2568 นี้

2.ในปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนาถือหุ้นในดุสิตธานีจำนวน 145,238,320 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 17.09 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของดุสิตตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งที่ผ่านมาเซ็นทรัลพัฒนา เคารพในการบริหารงานของผู้ถือหุ้นใหญ่ และสนับสนุนการดำเนินงานด้วยดีมาโดยตลอด

3.เมื่อเซ็นทรัลพัฒนา ได้รับการเสนอให้ส่งตัวแทนเพื่อให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นแต่งตั้งเป็นกรรมการของดุสิตธานี ทางเซ็นทรัลพัฒนา เล็งเห็นว่าจะสามารถใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญเพื่อร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของดุสิตธานีให้เติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป จึงมีการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งกรรมการเป็นไปตามแนวทางการมีส่วนร่วมตามสัดส่วนการถือหุ้นซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติตามปกติ ในการดูแลเงินลงทุน โดยไม่มีอำนาจในการควบคุมในดุสิตแต่อย่างใด

4.เซ็นทรัลพัฒนา มีเจตนาอันดีและดำเนินงานภายใต้หลักธรรมภิบาลตามแนวทางของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งรวมถึงการกำกับดูแลเรื่องการจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict of Interest) อันเป็นสิ่งที่เซ็นทรัลพัฒนา ให้ความสำคัญ และดำเนินการในแนวทางปฏิบัติเดียวกันกับการร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจทุกรายทั้งในและต่างประเทศมาโดยตลอด

#ศึกสายเลือด #ดุสิตธานี #ท่านผู้หญิงชนัตถ์ #ชนินทธ์โทณวณิก #เซ็นทรัล

27/08/2025

ศึกสายเลือด"ดุสิตธานี"สู่เดิมพัน Take Over

วันที่ 27 สิงหาคม 2568 นางสาวมัณฑนี สุรกาญจน์กุล เลขานุการ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า โดยอ้างถึงหนังสือของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ฉบับลงวันที่ 11 สิงหาคม 2568 ถึงคณะกรรมการบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เรื่อง ขอให้คณะกรรมการบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เรียกประชุมและจัดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นภายใน 45 วัน ตามกฎหมาย โดยจะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 26 กันยายน 2568

โดยวาระสำคัญในการกำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น คือ การพิจารณาถอดถอน "นายชนินทธ์ โทณวณิก" ออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทดุสิตธานี โดยคณะกรรมการบริษัทซึ่งไม่รวมกรรมการที่มีส่วนได้เสีย (นายชนินทธ์ โทณวณิก และนางสินี เธียรประสิทธิ์) ได้แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า ผู้ถือหุ้นควรใช้วิจารณญาณในการพิจารณาวาระถอดถอนนายชนินทธ์ เนื่องจากคุณสมบัติของกรรมการบริษัทควรสอดคล้องกับธุรกิจหลักของดุสิต คือ ด้านโรงแรมและอาหาร จำเป็นที่จะต้องมีผู้นำที่มีความเข้าใจในธุรกิจและการปฏิบัติการ

ทั้งนี้คณะกรรมการได้เน้นย้ำถึงบทบาทของนายชนินทธ์ในการริเริ่ม โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการของบริษัทที่คาดว่าจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัท และเป็นโครงการที่ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อให้ดุสิตมีความทันสมัยแต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นไทย โดยได้เตือนว่า การถอดถอนนายชนินทธ์ โทณวณิกจะส่งผลกระทบต่อบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) รวมถึงโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค และความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกส่วนที่มีต่อบริษัท

ชนวนการแตกหัก

ด้าน นายชนินทธ์ โทณวณิก ได้ออกแถลงการณ์ด่วน ชี้แจงต่อสาธารณะถึง ความจริงเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ เกิดขึ้นหลังจากการเสียชีวิตของ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งและเสาหลักของธุรกิจ โดยโครงสร้างการลงนามร่วมของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน DUSIT ถูกปรับเปลี่ยนให้ นายชนินทธ์ หมดอำนาจลงนามหลัก ก่อนถูกปลดจากกรรมการทั้งในบริษัทแม่และบริษัทในกองมรดก

โดยนายชนินทธ์ ชี้ว่า ข้อตกลงเดิมที่เคยแบ่งมรดกเป็น 3 ส่วน เพื่อความเท่าเทียม ถูกน้อง ๆ ในตระกูลปฏิเสธภายหลัง โดยมีสัญญาณเชื่อมโยงกับความสำเร็จเกินคาดของโครงการ ดุสิต เรสซิเดนเซส ที่มียอดขายสูงกว่า 92% หลังโควิด ซึ่งทำให้หุ้นในดุสิตธานีกลายเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามหาศาล

ซึ่งประเด็นที่สร้างแรงสั่นสะเทือนตลาด คือ การเสนอแต่งตั้งกรรมการใหม่หลายคนที่มี “ความเชื่อมโยงใกล้ชิดกับกลุ่มเซ็นทรัล” ซึ่งเคยถือหุ้นใน DUSIT สูงสุดถึง 22.5% ในอดีต การเพิ่มจำนวนกรรมการจาก 12 เป็น 18 คน และการปรับอำนาจลงนาม อาจเปิดทางให้คนนอกครอบครัวมีสิทธิควบคุมกิจการได้ทันที

นายชนินทธ์ ระบุว่า นี่ไม่ใช่เพียงการถอดถอนตัวบุคคล แต่เป็น “การเปิดประตู” ให้กลุ่มทุนภายนอกครอบครองกิจการที่ครอบครัวโทณวณิกสร้างมากว่า 76 ปี ซึ่งอาจกระทบต่อโครงการยักษ์อย่าง ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มูลค่า 46,000 ล้านบาท และบั่นทอนความเชื่อมั่นจากลูกค้า นักลงทุน และผู้ถือหุ้นรายย่อย

ข้อกล่าวหาว่า DUSIT ขาดทุนต่อเนื่อง ถูกนายชนินทธ์ โต้ว่า เกิดจากภาระดอกเบี้ยลงทุนโครงการใหญ่ ไม่ใช่ปัญหาด้านการดำเนินงาน โดยย้ำว่า โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพแห่งใหม่ได้รับการตอบรับดี โครงการเรสซิเดนเซสขายแล้วกว่า 92% และการทยอยโอนในปีหน้าจะสร้างรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ช่วยปลดภาระหนี้และผลักดันบริษัทกลับสู่กำไร

พร้อมกันนี้ นายชนินทธ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นไม่ใช่การต่อสู้เพื่อเก้าอี้ แต่เป็นการปกป้องเจตนารมณ์ “Business with Honor” ของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ที่สร้างแบรนด์ไทยให้ยืนหยัดบนเวทีโลกมากว่า 7 ทศวรรษ พร้อมเตือนว่า หากปล่อยให้การ Take Over สำเร็จ ดุสิตธานีอาจสูญเสียเอกลักษณ์ และความเชื่อมั่นที่ลูกค้าและผู้ลงทุนทั่วโลกมีต่อแบรนด์

นอกจากนี้ นายชนินทธ์ ยังวิเคราะห์ความเสี่ยง ว่า น่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้ถือหุ้นรายย่อย เกดการสั่นคลอน หากเชื่อว่าผลประโยชน์ครอบครัวไม่ตรงกับผู้ลงทุน ส่วนพันธมิตรธุรกิจเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงอำนาจอาจกระทบโครงการร่วมทุน เช่น ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ส่วนภาพลักษณ์แบรนด์ ถ้าหากมี ‘คนนอกงเข้ามา ควบคุม อาจกระทบเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่เป็นจุดขายสำคัญ และตลาดทุนอาจจะเกิดความไม่แน่นอนกดดันราคาหุ้น DUSIT ในระยะสั้น

#ศึกสายเลือด #ดุสิตธานี #ท่านผู้หญิงชนัตถ์ #ชนินทธ์โทณวณิก #เซ็นทรัล

05/08/2025

กระหึ่ม!!'ทีเส็บ–อีอีซี'ผนึกกำลังจัดงาน EEC EXPO 2025 ดึงรัฐ–เอกชนชูศักยภาพการลงุทนในไทย 25-26 ส.ค.ที่ไบเทค

วันที่ 5 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพอ. จัดงาน EEC EXPO 2025 เวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ชูโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายและบริการแห่งอนาคต พร้อมโชว์ความก้าวหน้าด้านโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และระบบสนับสนุนการลงทุนแบบครบวงจร มุ่งเชื่อมโยงความร่วมมือกับนักลงทุนรายสำคัญทั้งในและต่างประเทศ

ซึ่งภายใต้บริบทที่เศรษฐกิจโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมดิจิทัล พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้กลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาว ด้วยจุดแข็งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม ระบบโลจิสติกส์ และระบบนิเวศเพื่อการลงทุนที่ทันสมัย ครบวงจร และเชื่อมโยงระดับภูมิภาค เพื่อตอกย้ำศักยภาพดังกล่าว ทีเส็บ จึงร่วมกับสกพอ. เตรียมจัดงาน "EEC EXPO 2025" ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอความก้าวหน้าและโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 สิงหาคม 2568 ณ ภิรัช คอนเวนชั่น เซนเตอร์ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพมหานคร

อ่านต่อ https://siamrath.co.th/n/641990

25/06/2025

ด่วน!!!

โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง
เปิดให้ผู้ประกอบการ ลงทะเบียนตั้งแต่ 25 มิย. 2568 เวลา 00.01 น.

ประชาชน ลงทะเบียน+จองได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568
ใช้สิทธิ์ (เดินทาง) ได้ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม –วันที่ 31 ตุลาคม 2568

#เที่ยวไทยคนละครึ่ง

06/03/2025

ไปเที่ยวปราจีนกันไหม!!



เปิดประสบการณ์พักผ่อนมีสไตล์
กับ'ทวาราวดี รีสอร์ท ปราจีนบุรี'

สำหรับ “ปราจีนบุรี”จังหวัดใกล้กรุงเทพฯระยะเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายในสไตล์ ที่ไม่เหมือนใคร แต่หลายๆคนอาจจะนึกไม่ออก ว่า ไปแล้วจะไปเที่ยวที่ไหน มีที่พักที่สามารถทิ้งตัวลงนอนได้แบบสบายใจผ่อนคลายไปกับธรรมชาติที่สวยงามสงบเงียบ ในวันนี้จึงขอแนะนำ "ทวาราวดี รีสอร์ท ปราจีนบุรี"ที่จะมาเปิดประสบการณ์การพักผ่อนอย่างมีสไตล์ในกลิ่นอายสมัยทวารวดีที่จะทำให้หลายๆคนเปลี่ยนมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม

ซึ่ง ทวาราวดี รีสอร์ท ปราจีนบุรี ภายใต้แบรนด์ เวิลด์โฮเทล ดิสทิงค์ทีฟ ในเครือดับเบิลยูเอช โฮเทล ได้มอบประสบการณ์การเข้าพักผสมผสานเอกลักษณ์และศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น ด้วยการออกแบบที่พักสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ตามความเป็นมาแห่งอารยธรรมทวารวดีอันยิ่งใหญ่ในอดีต ท่ามกลางหมู่แมกไม้นานาพรรณผสมผสานความเย็นฉ่ำจากทะเลสาบ ให้ความรู้สึกสดชื่นแก่ผู้มาเยือน

ติดตามรายละเอียดได้ที่ https://siamrath.co.th/n/605705