ทำนองหลักเพลงไทย

ทำนองหลักเพลงไทย ทำนองหลักเพลงไทย
รับใช้ประชาชน

22/10/2025

เพลงระบำศรีชัยสิงห์ เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของวิทยาลัยนาฏศิลป กรมศิลปากร โดยเป็นการแสดงประเภทระบำโบราณคดี ซึ่งการแสดงประเภทระบำโบราณคดีนั้นเป็นการจับระบำที่มีท่วงท่าและทำนองเพลงมาจากแรงบันดาลใจทางโบราณคดี เช่น โบราณสถาน ศิลปวัตถุ หรืออาณาจักรที่เคยรุ่งเรืองในอดีต โดยระบำศรีชัยสิงห์นี้ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจากอาณาจักรขอมโบราณที่มีนามว่า "ศรีชัยยะสิงหปุระ" ซึ่งมีอาณาเขตอยู่ในบริเวณปราสาทเมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรีในปัจจุบัน

สำหรับทำนองเพลงระบำศรีชัยสิงห์นี้ได้เรียบเรียงขึ้น โดยนำเพลงเขมรชมจันทร์และเพลงเขมรเร็ว มารวมบรรเลงเข้าเป็นชุด โดยใช้เพลงเขมรชมจันทร์บรรเลงช่วงสองชั้นและออกเพลงเร็วด้วยเพลงเขมรเร็ว

ท่านสามารถรับชมเพื่อปรับความเร็วได้ทาง Youtube ตาม Link ด้านล่าง

https://youtu.be/vHlT15FQvSE

*** วิดีโอชุดนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นสื่อกลางให้นักดนตรีที่ผ่านการเรียนเพลงดังกล่าวมาแล้วได้ทบทวน ผู้จัดทำยังเชื่อว่าการเรียนดนตรีควรเรียนกับครูผู้ชำนาญการ ***

ผู้บรรเลงฆ้องวงใหญ่ : ฐานิตา สังข์อ่อน
บอกทำนองหลัก : พงษ์พิพัฒน์ พรวัฒนาศิลป์
ควบคุมการผลิต : ปกป้อง ขำประเสริฐ
ฉิ่งและกลอง : เรียบเรียงในโปรแกรม FL Studio 20
Camera : Panasonic Lumix Gh4 with LUMIX G X VARIO 12-35mm / F2.8 II ASPH. / POWER O.I.S

👌
21/10/2025

👌

21/10/2025

ถ้าพูดถึงเพลงแขกบรเทศ เชื่อว่านักดนตรีไทยกว่าครึ่งเดินเข้าสู่เส้นทางดนตรีไทยด้วยเพลงนี้ เพลงยอดนิยมที่สุดในการฝึกหัดดนตรีไทย ด้วยสำนวนที่เรียบง่ายประกอบกับสังคีตลักษณ์แบบซ้ำท้าย ทำให้นักดนตรีที่เพิ่งเริ่มหัดใหม่สามารถพิชิตเพลงนี้ได้อย่างรวดเร็ว

ครูมนตรี ตราโมทและครูวิเชียร กุลตัณฑ์ ได้กล่าวถึงประวัติของเพลงนี้ไว้ว่า
"เฉพาะทำนอง ๓ ชั้น พระประดิษฐ์ไพเราะ (ครูมีแขก) ได้ประดิษฐ์ขึ้น ส่วนทำนอง ๒ ชั้นและชั้นเดียว มีอยู่ในเพลงสองไม้และเพลงเร็ว ทำนองของเพลงหมายถึงการเผชิญภัยหรือฝ่าฟันต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งผ่านพ้นมาแล้ว"

เพลงแขกบรเทศ เถา นอกจากจะบรรเลงเป็นเอกเทศแล้วยังสามารถบรรเลงต่อจากเพลงเชิดจีนได้อีกด้วย เนื่องจากบทร้องของทั้งสองเพลงมีความต่อเนื่องกัน (ทำนองหลักเพลงเชิดจีนจะนำมาเสนอในโอกาสหน้านะครับ)

การฝึกซ้อมเพลงแขกบรเทศนั้นมีประโยชน์มาก เพราะสามารถนำเพลงแขกบรเทศนี้ไปใช้งานได้ในหลายโอกาศ โดยเฉพาะเพลงแขกบรเทศชั้นเดียวที่เป็นเหมือนเพลงเอนกประสงค์ สามารถนำมาปรับใช้ได้ทั้งในการบรรเลงประกอบพิธีกรรมของวงดนตรีอื่นที่ไม่ใช่วงปี่พาทย์พิธี เช่น ในขั้นตอน รับ-ส่งพระ จุดธูปเทียน ก็สามารถใช้เพลงแขกบรเทศชั้นเดียวได้ หรือในการประกอบการแสดงเพลงแขกบรเทศชั้นเดียวก็ถูกใช้เป็นเพลงเร็วประกอบการรำเพลงช้า-เพลงเร็วได้อีกด้วย

ท่านสามารถรับชมเพื่อปรับความเร็วได้ทาง Youtube ตาม Link ด้านล่าง

https://youtu.be/bCjzx6oLYAw

*** วิดีโอชุดนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นสื่อกลางให้นักดนตรีที่ผ่านการเรียนเพลงดังกล่าวมาแล้วได้ทบทวน ผู้จัดทำยังเชื่อว่าการเรียนดนตรีควรเรียนกับครูผู้ชำนาญการ ***

ผู้บรรเลงฆ้องวงใหญ่ : ปกป้อง ขำประเสริฐ
ฉิ่งและกลองแขก : เรียบเรียงในโปรแกรม FL Studio 20
Camera : Panasonic Lumix Gh4 with LUMIX G X VARIO 12-35mm / F2.8 II ASPH. / POWER O.I.S

🕐
20/10/2025

🕐

19/10/2025

โครงการ "ศึกษาธรรมชาติ"
เพื่อการสร้างสรรค์ผลงานทางด้านดนตรี-นาฏศิลป์
วันที่ 5-6 ธันวาคม 2568

ท่านใดสนใจเข้าร่วม
ทักได้เลยครับ ♥️

ฉิ่งพระฉัน (ยิกิน)ลาวดำเนินทรายแขกสาหร่าย สองชั้น
16/10/2025

ฉิ่งพระฉัน (ยิกิน)
ลาวดำเนินทราย
แขกสาหร่าย สองชั้น

16/10/2025

เพลงช้าเรื่องสร้อยสน ทางฝั่งพระนครเป็นเรื่องประเภทเพลงช้า อยู่ในหลักสูตรของวิทยาลัยนาฏศิลป ในหลักสูตรนาฏศิลปชั้นต้น (ชั้นต้นปีที่ 2) เข้าใจว่าสำนวนดังกล่าวเป็นทางของครูหลวงบำรุงจิตเจริญ (ธูป สาตรวิลัย)

เหตุที่เรียกว่าทางฝั่งพระนครเนื่องจากเป็นทางที่ใช้บรรเลงกันแพร่หลายในวิทยาลัยนาฏศิลป กรมศิลปากร ซึ่งมีตำแหน่งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งพระนคร จึงเรียกว่าทางฝั่งพระนครเป็นชื่อลำลอง ล้อกับเพลงทางฝั่งธนซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักดนตรีบ้านพาทยโกศล ซึ่งมีตำแหน่งที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาย่านวัดกัลยาณมิตร ฝั่งธนบุรี

เพลงช้าเรื่องสร้อยสน มีการเรียบเรียงเพลงไว้หลายสำนวน มีความสั้นยาวของเพลงแตกต่างกันตามแต่ละสำนัก สำหรับเพลงช้าเรื่องสร้อยสนที่ปรากฎในคลิปวิดีโอนี้เป็นสำนวนของวิทยาลัยนาฏศิลป ซึ่งผู้บรรเลงได้รับการถ่ายทอดเมื่อราว พ.ศ.2542 จากอาจารย์ทนง แจ่มวิมลและอาจารย์กิตติ อัตถาผลเมื่อเรียนอยู่ชั้นต้นปีที่ 2 ที่วิทยาลัยนาฏศิลป (วังหน้า)

เพลงช้าเรื่องสร้อยสนทางนี้มีโครงสร้างเพลงเรียงตามลำดับดังนี้

1. เพลงช้าสร้อยสน 2 ท่อน
2. เพลงช้าพวงร้อย 2 ท่อน
3. สองไม้ (ไม่ทราบชื่อ) 5 ท่อน
4. เพลงเร็ว (ไม่ทราบชื่อ) 2 ท่อน
5.เพลงเร็ว ต้นบรเทศ 4 ท่อน
6.เพลงเร็ว บรเทศ 2 ท่อน
7. เพลงเร็ว ต้นบรเทศ(เปลี่ยนเสียง) 4 ท่อน
8. เพลงลา

เพลงที่รวมอยู่ในเพลงช้าเรื่องสร้อยสนนี้ มีหลายเพลงที่สร้างแรงบันดาลใจให้ครูบาอาจารย์นำไปประพันธ์ต่อยอดเพื่อแยกออกมาบรรเลงเป็นเอกเทศ เช่นเพลงสร้อยสน ถูกหยิบมาประพันธ์ใหม่โดยพระเพลงไพเราะ (โสม สุวาทิต) นำมาประพันธ์เหลือท่อนเดียวแล้วเรียกชื่อว่า "เพลงสร้อยสนตัด" และครูจำเนียร ศรีไทยพันธุ์นำมาขยายและตัดทอนจนครบเป็นเพลงเถา

เพลงพวงร้อยก็ถูกนำมาประพันธ์เป็นเพลงเถาหลายทาง เช่นทางพระนิพนธ์ใน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ซึ่งได้นิพนธ์ไว้สำหรับวงโยธวาทิตและวงปี่พาทย์ ทางของครูจางวางทั่ว พาทยโกศลและทางของครูสมาน ทองสุขโชติ

เพลงต้นบรเทศ ถูกนำมาประพันธ์ในรูปแบบของเพลงเถาโดยครูหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) แล้วเรียกชื่อใหม่ว่า "เพลงชมแสงจันทร์ เถา"

จะเห็นได้ว่าเพลงเรื่องเป็นต้นทางของการศึกษาเพลงไทยที่เปิดโอกาสให้ผู้ศึกษาได้มีโอกาสพัฒนาต่อยอดความรู้ได้ในขั้นสูง เนื่องจากเพลงเรื่องเป็นแหล่งรวมชั้นยอดของทำนองเพลงต่าง ๆ ที่โบราณจารย์คัดสรรค์เพลงที่มีทำนองเป็นเลิศมารวมเข้าเป็นชุดกัน เมื่อศึกษาจนเข้าใจแล้วจะสามารถนำทำนองเพลงต่าง ๆ ไปต่อยอดเป็นเพลงใหม่ ๆ ได้มากมาย

ท่านสามารถรับชมเพื่อปรับความเร็วได้ทาง Youtube ตาม Link ด้านล่าง

https://youtu.be/GHroqkUf91k

*** วิดีโอชุดนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นสื่อกลางให้นักดนตรีที่ผ่านการเรียนเพลงดังกล่าวมาแล้วได้ทบทวน ผู้จัดทำยังเชื่อว่าการเรียนดนตรีควรเรียนกับครูผู้ชำนาญการ ***

ผู้บรรเลงฆ้องวงใหญ่ : ปกป้อง ขำประเสริฐ
ฉิ่งและกลอง : เรียบเรียงในโปรแกรม FL Studio 20
Camera : Panasonic Lumix Gh4 with LUMIX G X VARIO 12-35mm / F2.8 II ASPH. / POWER O.I.S

❤🎶
14/10/2025

❤🎶

13/10/2025

เพลงแขกมอญเป็นเพลงประเภท ปรบไก่ มีสามท่อน ความยาวท่อนละ ๖ จังหวะ เป็นเพลงที่นักดนตรีนิยมบรรเลงกันมากจนมีผู้เคยกล่าวไว้ว่านักดนตรีไทยคนไหนยังเรียนไม่ถึงเพลงแขกมอญก็ถือว่า "ยังไม่เป็น"

ความน่าสนใจของเพลงแขกมอญนี้มีหลายประการ นับตั้งแต่ชื่อของเพลงที่มีสำเนียงภาษาเป็นชื่อเพลงอยู่ถึง 2 ภาษา ต่างจากเพลงไทยเพลงอื่น ๆ ที่มักจะมีสำเนียงเดียวตลอดทั้งเพลง

ครูมนตรี ตราโมทและครูวิเชียร กุลตัณฑ์ ได้กล่าวถึงประวัติของเพลงนี้ไว้ในหนังสื่อชื่อ "ฟังและเข้าใจเพลงไทย" ว่า

"เพลงเถา ย่อมเป็นที่เข้าใจกันอยู่โดยทั่วไปแล้วว่า ได้แก่เพลง ๆ เดียวกัน มีอัตราลดหลั่นตามลำดับ นำมาบรรเลงติดต่อกัน ประดุจภาชนะที่เป็นชนิดเดียวกัน มีขนาดใหญ่ กลางและเล็ก นำมาผูกมัดติดกันดังที่เรียกว่าเถานั้น

เพลงแขกมอญนี้ ๒ ชั้น เป็นเพลงเก่า พระประดิษฐ์ไพเราะ (มี ดุริยางกูร) แต่งขึ้นเป็น ๓ ชั้น และนายมนตรี ตราโมท ได้ตัดแต่งลงเป็นชั้นเดียวให้ครบเถา เมื่อราว พ.ศ. ๒๔๗๖ "

นอกจากครูมนตรี ตราโมทแล้ว ในสารานุกรมศัพท์ดนตรีไทย ภาคประวัติเพลงเกร็ดและเพลงละครร้อง ได้กล่าวถึงเพลงนี้ไว้ว่า พระยาเสนาะดุริยางค์ (แช่ม สุนทรวาทิน) และครูจางวางทั่ว พาทยโกศล ก็ได้ประพันธ์เพลงแขกมอญนี้เป็นชั้นเดียวเช่นกัน

เพลงแขกมอญนอกจากจะนิยมบรรเลงกันโดยทั่วไปแล้ว ยังนิยมนำมาประพันธ์เป็นเพลงเดี่ยวสำหรับเครื่องดนตรีต่าง ๆ อย่างแพร่หลายทั้งเครื่องสายและปี่พาทย์ ในการประลอง ประชัน รวมถึงการประกวดดนตรีไทยนิยมใช้เพลงแขกมอญในการวัดฝีมือของนักดนตรี เพราะถือว่าเพลงแขกมอญนี้มีสัดส่วนสำนวนที่หลากหลายทั้งสำนวนที่เป็นทางพื้นและสำเนียงที่เป็นการออกภาษามอญและแขก ต้องใช้ฝีมือในการบรรเลงเป็นอย่างมาก

ท่านสามารถรับชมเพื่อปรับความเร็วได้ทาง Youtube ตาม Link ด้านล่าง

https://youtu.be/DbvGAMyh9s0

*** วิดีโอชุดนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นสื่อกลางให้นักดนตรีที่ผ่านการเรียนเพลงดังกล่าวมาแล้วได้ทบทวน ผู้จัดทำยังเชื่อว่าการเรียนดนตรีควรเรียนกับครูผู้ชำนาญการ ***

ผู้บรรเลงฆ้องวงใหญ่ : ปกป้อง ขำประเสริฐ
ฉิ่งและกลองแขก : เรียบเรียงในโปรแกรม FL Studio 20
Camera : Panasonic Lumix Gh4 with LUMIX G X VARIO 12-35mm / F2.8 II ASPH. / POWER O.I.S

🌏
13/10/2025

🌏

12/10/2025

"การไล่" คือการฝึกฝีมือของนักดนตรีไทย ที่มุ่งเน้นฝึกทั้งด้านพละกำลังความแข็งแรงของร่างกายและฝึกน้ำอดน้ำทนของจิตใจ นักดนตรีที่มีฝีมือต่างต้องผ่านการไล่แทบทั้งสิ้น

วิธีการไล่นั้นมีรูปแบบมากมาย บางรูปแบบเป็นเคล็ดลับของแต่ละสำนัก แต่สิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือระยะเวลาของการไล่ จะต้องนานกว่าการบรรเลงปกติ ทั้งนี้เพื่อให้นักดนตรีมีความพร้อมสำหรับการบรรเลงในทุกรูปแบบ

เพลงฉิ่งมุล่งเป็นแบบฝึกหัดยอดนิยมสำหรับไล่มือของเครื่องดนตรีต่าง ๆ อย่างแพร่หลายทั้งปี่พาทย์และเครื่องสาย ด้วยสังคีตลักษณ์ที่เอื้ออำนวยให้สามารถกลับต้นได้อย่างไร้ข้อจำกัด ทำให้เพลงมุล่งสามารถทำเวลาได้อย่างอิสระ ตอบสนองความต้องการของผู้ที่ฝึกไล่มือเพิ่มพละกำลังได้เป็นอย่างดี

เพลงฉิ่งมุล่ง สองชั้น เป็นด่านทดสอบที่ท้าทายอีกระดับของนักดนตรีไทย เนื่องจากความยาวของเพลงนั้นมากเป็นสองเท่าของฉิ่งมุล่งชั้นเดียว อีกทั้งสำนวนเพลงที่สลับซับซ้อน ยากต่อการแปรทำนอง เพลงฉิ่งมุล่ง สองชั้น จึงเป็นปราการด่านที่สองของนักดนตรีที่ผ่านการฝึกไล่มือเพลงฉิ่งมุล่ง ชั้นเดียวมาจนเชี่ยวชาญแล้ว

มือฆ้องที่เป็นทำนองหลักเพลงมุล่ง สองชั้น ที่ปรากฎในวิดีโอนี้ เป็นสำนวนของครูพุ่ม บาปุยะวาทย์ ที่ประพันธ์ไว้ ราวพ.ศ. ๒๔๙๘ ซึ่งหากพิจารณาแล้วจะพบว่าสำนวนที่ใช้ในการประพันธ์เพลงนี้มีความคมคาย และต้องใช้กำลังในการบรรเลงมาก ทำให้เหมาะแก่การฝึกไล่มือสำหรับฆ้องวงใหญ่เป็นอย่างยิ่ง

เครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งในการไล่คือ "จังหวะ" ผู้ที่ฝึกไล่มือจะต้องมีผู้ควบคุมจังหวะไม่ให้แนวในการไล่ช้าลงจากการเมื่อยล้า คลิปวิดีโอนี้จึงมีวัตถุประวงค์เพื่อควบคุมจังหวะของผู้ที่ต้องการฝึกไล่มือแต่ไม่มีผู้ควบคุมจังหวะให้

นอกจากนั้นการที่ได้ไล่มือกับทำนองหลักจะได้ประโยชน์ในด้านการได้ซึมซับทำนองหลักของเพลง ทำให้มีความเข้าใจในทำนองหลักว่ามีความสัมพันธ์กับสำนวนกลอนของเครื่องดนตรีที่กำลังไล่อยู่เช่นไรบ้าง

ท่านสามารถรับชมเพื่อปรับความเร็วได้ทาง Youtube ตาม Link ด้านล่าง

https://youtu.be/cJyUeiuV6CA

*** วิดีโอชุดนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นสื่อกลางให้นักดนตรีที่ผ่านการเรียนเพลงดังกล่าวมาแล้วได้ทบทวน ผู้จัดทำยังเชื่อว่าการเรียนดนตรีควรเรียนกับครูผู้ชำนาญการ ***

ผู้บรรเลงฆ้องวงใหญ่ : ปกป้อง ขำประเสริฐ
ฉิ่งและกรับ : เรียบเรียงในโปรแกรม FL Studio 20
Camera : Panasonic Lumix Gh4 with LUMIX G X VARIO 12-35mm / F2.8 II ASPH. / POWER O.I.S

----
12/10/2025

----

ที่อยู่

Bangkok Yai

เบอร์โทรศัพท์

+66972205864

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ทำนองหลักเพลงไทยผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์