RETAILman X

28/07/2025

#ทันข่าวห้าง
แสดงพลังความเป็นไทย ร่วมส่งแรงใจและ #พลังกำลังใจ ให้ ‘เหล่าทหารกล้า’ และ ‘ชาวไทยที่ได้รับผลกระทบ’ จากสถานการณ์พื้นที่ชายแดน

กลุ่มบริษัท #สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้า #สยามพารากอน, ศูนย์การค้า #สยามเซ็นเตอร์, และศูนย์การค้า #สยามดิสคัฟเวอรี่ รวมทั้งเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของศูนย์การค้า #ไอคอนสยาม และศูนย์การค้า #สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต สุวรรณภูมิ-กรุงเทพฯ ขอแสดงพลังความห่วงใย พร้อมร่วม “พลังกำลังใจ” ให้แก่พี่น้องชาวไทยที่ได้รับผลกระทบทุกท่านจากสถานการณ์พื้นที่ชายแดน

พร้อมส่งแรงใจให้กับ #กองทัพไทย ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างปลอดภัยภายใต้โครงการ “สยามรวมใจ ไทยช่วยไทย” ด้วยการจัดประดับ #ธงชาติไทย ภายในพื้นที่ศูนย์การค้าทุกแห่งภายในเครือฯ เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของคนไทยที่ไม่ทอดทิ้งกันในยามยาก พร้อมกันนี้ กลุ่ม โดยบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ยังได้ร่วมกับองค์กรพันธมิตรภาครัฐและเอกชน รวมทั้งเหล่าพนักงานบริษัทฯ และร้านค้าผู้เช่าเปิดพื้นที่ศูนย์กลางรับบริจาคอาหารแห้ง ของใช้จำเป็น อาทิ; ข้าวสาร, อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน, ผ้าห่ม, เสื้อผ้า, ยากันยุง ฯลฯ โดยผู้สนใจสามารถร่วมบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ จุดรับบริจาค ดังนี้;

• ศูนย์การค้า - บริเวณลานพาร์ค พารากอน ชั้น M (ติดทางเชื่อมรถไฟฟ้า BTS สถานีสยาม)
• ศูนย์การค้า - บริเวณชั้น G (ใกล้ลิฟต์ Lobby D)

และในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 นี้ ทาง #กลุ่มสยามพิวรรธน์ ร่วมกับ #สถาบันพยาธิวิทยา #ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า เปิดจุด #รับบริจาคโลหิต เพื่อสำรองโลหิตเข้าคงคลัง เพื่อช่วยสนับสนุนโรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ชายแดน โดยสามารถร่วมบริจาคโลหิตได้ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 นี้ ตั้งแต่เวลา 9:00-12:00 น. ณ พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน



#รอบรู้ทันข่าวห้าง

#สยามรวมใจไทยช่วยไทย

28/07/2025

#ทันข่าวห้าง
#กลุ่มเอ็มบีเค ร่วมส่งความห่วงใยและ “ #พลังกำลังใจ” ผ่านจอภาพทุกศูนย์การค้าในเครือฯ ให้แก่เจ้าหน้าที่ ‘ #กองทัพไทย’ และ ‘ชาวไทยทุกคนที่ได้รับผลกระทบ’ จากสถานการณ์พื้นที่ทางชายแดน

กลุ่มบริษัท #เอ็มบีเค จำกัด (มหาชน) และศูนย์การค้าในเครือฯ อันประกอบด้วย; ศูนย์การค้า #เอ็มบีเคเซ็นเตอร์ ปทุมวัน, ศูนย์การค้า #พาราไดซ์พาร์ค ศรีนครินทร์, ศูนย์การค้า #พาราไดซ์เพลส ศรีนครินทร์, ศูนย์การค้า #เดอะไนน์เซ็นเตอร์พระราม9, และศูนย์การค้า #เดอะไนน์เซ็นเตอร์ติวานนท์ ขอเป็นหนึ่งพลังส่งความห่วงใยและ “พลังกำลังใจ” ไปยังเจ้าหน้าที่กองทัพไทยทุกท่านที่กำลังเสียสละปกป้องแผ่นดิน และเป็นกำลังใจแก่พี่น้องชาวไทยทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนผ่านจอภาพ “ #ธงชาติไทย” ทุกศูนย์การค้าในเครือฯ

กลุ่มเอ็มบีเค (MBK Group) ขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจให้เจ้าหน้าที่กองทัพไทยทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความปลอดภัย และจะก้าวผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน ด้วยหัวใจอันแข็งแกร่งและเป็นหนึ่งเดียวกัน

•••

MBK Group Public Company Limited and its affiliated shopping centers such as; Pathumwan, Srinakarin, Srinakarin, , and would like to be one of the forces sending concern and encouragement to all officers who are sacrificing themselves to protect the country and to be an encouragement to all Thai people who have been affected by the situation in the border areas through the “Thai Flag” screen at every shopping mall in the group.

would like to be another source of encouragement for all Royal Thai Army officers and teams to perform their duties safely and we will overcome this situation together with strong hearts and unity.



#รอบรู้ทันข่าวห้าง

#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

27/07/2025

#ทันข่าวห้าง
ขอร่วมส่ง #พลังกำลังใจ สู่ ‘เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่’ และ ‘ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ’ จากสถานการณ์ชายแดนผ่านจอภาพสาขาทั่วประเทศ

บริษัท #เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ #ซีพีเอ็น ขอร่วมส่งพลังใจจากหัวใจของคนไทยทั้งประเทศไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก “สถานการณ์ชายแดนที่กำลังเกิดขึ้น” โดยสะท้อนความตั้งใจผ่านจอภาพของสาขาทั่วประเทศ รวมถึงจอ บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้า #เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งได้เปลี่ยนเป็นภาพ “ #ธงชาติไทย ผืนใหญ่” เพื่อแสดงถึงน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทยทั้งชาติ

ศูนย์การค้า #เซ็นทรัล ทั่วประเทศ และเครือเซ็นทรัลพัฒนาขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งแรงใจให้เราทุกคนก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันอย่างดีที่สุด

•••

With care and concern, Central Pattana Public Limited Company joins the people of Thailand in sending heartfelt support to those affected by the recent border situation — both those serving and civilians.

The message of unity and togetherness is being shared through LED screens across the country, including ThePanOramix screen in front of shopping center in Bangkok — reflecting the care and compassion of a nation standing by all those impacted, with hope that we will move through this moment together with strength and understanding.

#รู้รอบทันข่าวห้าง





#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #กองทัพไทย

12/06/2025

#ทันข่าวห้าง
#สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เตรียมจัดงาน “ #มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ2568” ขนทัพงานวิจัยมาจัดแสดงกว่าพันผลงาน พร้อมเสวนาวิชาการและงานวิจัยกว่า 100 หัวข้อสุดยิ่งใหญ่แห่งปี วันที่ 16-20 มิ.ย.’68 นี้ที่เซ็นทาราแกรนด์ @ เซ็นทรัลเวิลด์

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้สังกัด #กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศจัดงานแถลงข่าวการเตรียมจัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 ( )” ภายใต้ธีมแนวคิด “Research for All: เชื่อมต่ออนาคตไทยด้วยวิจัยและนวัตกรรม” ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568 ระหว่างเวลา 9:00-17:00 น. ณ #บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22-23 โรงแรม #เซ็นทาราแกรนด์แอทเซ็นทรัลเวิลด์ ศูนย์การค้า #เซ็นทรัลเวิลด์ แยก #ราชประสงค์ #กรุงเทพมหานคร

•••

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า “การจัดงาน ‘มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2568’ หรือ ‘Thailand Research Expo 2025’ ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Research for All: เชื่อมต่ออนาคตไทยด้วยวิจัยและนวัตกรรม’ ซึ่งครั้งนี้จะแสดงให้เห็นว่างานวิจัยเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน โดยเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรม ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงไปอันรวดเร็วของโลกและสังคมสู่การขับเคลื่อนงานวิจัยไทยให้เชื่อมต่ออนาคตไทยด้วยผลงานวิจัยและนวัตกรรมเป็นหัวใจหลักอันสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในทุกมิติ”

“สำหรับงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ” นั้นเป็นเวทีจัดแสดงผลงานวิจัยระดับชาติ ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ทศวรรษ โดยการผนวกความร่วมมือระหว่างองค์กรเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าของผลงานวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีอันเชื่อมโยงสู่การพัฒนาประเทศในทุกมิติ”

•••

การจัดงานในปีนี้ทางสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และคณะผู้จัดงานฯ ได้รวบรวมผลงานวิจัย, นวัตกรรม, และเทคโนโลยีไว้มากกว่า 1,000 ผลงาน โดยครอบคลุมถึงการใช้ประโยชน์ในมิติต่างๆ ภายใต้ 6 ธีมหลัก ดังนี้;

1.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไทย
2.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างพลังสร้างสรรค์ Soft Power ของประเทศ
3.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่
4.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อยกระดับสังคมอย่างยั่งยืน
5.งานวิจัยและนวัตกรรมสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
6.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมศักยภาพวิสาหกิจชุมชน และธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs)

•••

นอกเหนือจากการนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมผลงานจากเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศแล้ว ภายในงานยังมีการจัดประชุมเสวนาวิชาการจำนวนมากกว่า 130 หัวข้อ พร้อมทั้งยังได้มีการนำเสนอนิทรรศการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น;

• นิทรรศการน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนารถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ผู้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งการวิจัยไทย”
• นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐
• นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ เจริญพระชนมายุ 70 พรรษา วันที่ 2 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา
• นิทรรศการผลงานนวัตกรรมสายอุดมศึกษา
• นิทรรศการเครือข่ายวิจัยภูมิภาค
• นิทรรศการศาสตร์และศิลป์งานวิจัย
• นิทรรศการ Research Festival
• นิทรรศการ Thailand Research Expo & Symposium 2025
• นิทรรศการ The National RGJ & RRI Conference 2025

•••

ทางสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ขอเชิญชวนนักวิจัย, นักวิชาการ, บุคลากรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน, ผู้ใช้ประโยชน์จากงานวิจัย, นักเรียน, นิสิต, นักศึกษา, และผู้ที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงาน “ #มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2568 (Thailand Research Expo 2025)” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568 นี้ เวลา 9:00-17:00 น. ภายในบริเวณ ชั้น 22-23 โรงแรม ศูนย์การค้า แยกราชประสงค์

สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่เว็บไซต์ https://www.ResearchExpoRegistration.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2579-1370-9 ต่อ 263, 264, 265 (สำหรับภาคการประชุมเสวนาวิชาการ) และ โทร.0-2579-1390 ต่อ 516, 517 (สำหรับภาคนิทรรศการ)



#รอบรู้ทันข่าวห้าง

https://youtu.be/-cAzpDeywvM

#สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ขอเชิญนักวิจัย นักเรียน และผู้ที่สนใจเข้าชมงาน #มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจ....

31/05/2025

#ททท.เปิดฉากแคมเปญ “Grand Wellness Moment” ด้วยกิจกรรม ‘โยคะภายในอควาเรียม’ ที่ #พารากอน ดันกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเที่ยวไทยแบบฮีลใจได้สุขภาพ

#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวแคมเปญ “ ” โดยเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญหลักประจำปี “ ” ภายใต้วาระปีแห่งการท่องเที่ยวไทย 2568 “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” ด้วยกิจกรรมพิเศษ ภายในอควาเรียม #ซีไลฟ์แบงค็อกโอเชียนเวิลด์ ( ) ชั้น B1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน วันสยามดิสทริค ถนนพระรามที่ 1 รอบเวลา 8:00 น. จำนวนทั้งหมด 6 รอบ (*จำกัดรอบละ 20 ท่าน) ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน จนถึง 25 สิงหาคม 2568

•••

กิจกรรม Aquarium Yoga นี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งมอบประสบการณ์ระดับ “Grand Moment” อันสุดประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่ม Health and Wellness โดยได้รับเกียรติจากคุณอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาเป็นประธานในพิธีเปิดแคมเปญ “Grand Wellness Moment” และกิจกรรม Aquarium Yoga พร้อมด้วยคุณวรรณภา เกียรติพงษา ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และผู้แทนจากองค์กรพันธมิตรในการจัดกิจกรรมนี้ คือ บริษัท สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล กรุงเทพ จำกัด, บริษัท เมอร์ลิน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด, บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด, บริษัท อีโวลูชั่น เวลล์เนสส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท อัพแอนด์อันเดอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ครอสแม็กซ์ รีเทล จำกัด, และบริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในงานพิธีเปิดแคมเปญและกิจกรรมครั้งนี้

•••

คุณอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health and Wellness Tourism) ถือเป็นหนึ่งทางเลือกอันสำคัญที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคปัจจุบัน เนื่องจากปัจจุบันการท่องเที่ยวไม่ได้จำกัดเพียงแค่การพักผ่อนเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถเป็นเครื่องมือฟื้นฟูสุขภาพกายและจิตใจให้แก่ผู้ที่ได้ท่องเที่ยวด้วย”

“ด้วยเหตุนี้ ททท.จึงจัดทำโครงการ Fresh Your Feel, Heal Your Soul ขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ไม่เพียงแต่สร้างความสุขเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงการฟื้นฟูกับการดูแลสุขภาพเข้าด้วยกันในทุกมิติ ทั้งนี้ยังเป็นกิจกรรมพร้อมกับการเปิดตัวแคมเปญ “Grand Wellness Moment” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญหลักประจำปี “Grand Moment” ภายใต้วาระปีแห่งการท่องเที่ยวไทย 2568 “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” อีกด้วย”

•••

“สำหรับการจัดงานดังกล่าวได้นำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวพร้อมทำกิจกรรมเชิงสุขภาพ และได้ค้นพบช่วงเวลาพิเศษของตนเอง (Grand Moment) ผ่านกิจกรรม Aquarium Yoga คลาสโยคะภายใต้บรรยากาศใต้ท้องทะเลลึกของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำครั้งแรกในประเทศไทย นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำและใช้ระยะเวลากับประสบการณ์พิเศษนี้ประมาณ 60 นาที ซึ่งคลาสพิเศษนี้จะเป็นการผสานศิลปะการเคลื่อนไหวและการหายใจเข้ากับบรรยากาศใต้ทะเลลึก โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจท่ามกลางบรรยากาศสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลต่างๆ มากมาย ณ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SEA LIFE Bangkok Ocean World ชั้น B1 ศูนย์การค้า #สยาม-ปทุมวัน”

“ทั้งนี้ ททท.หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพที่มีความสนใจด้านสุขภาพ อันเป็นหนึ่งในมิติใหม่ของการท่องเที่ยวที่ผสานกิจกรรมสร้างสรค์และเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีอย่างแท้จริง”

•••

สำหรับโครงการ “Fresh Your Feel, Heal Your Soul - ทริปฮีลใจ, เติมไฟให้ชีวิต” นั้นเป็นโครงการที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดทำกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยการรวบรวมสิทธิประโยชน์และดีลส่วนลดสุดพิเศษ โดยร่วมกับพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจกลุ่ม Health and Wellness ตลอดจนกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจาก ททท. เพื่อนำเสนอขายสินค้าและบริการทางด้านสุขภาพในราคาข้อเสนอสุดพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยว พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “Grand Wellness Moment” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญหลักประจำปี “Grand Moment” และได้ชูกิจกรรมไฮไลต์ด้วยกิจกรรมพิเศษ Aquarium Yoga เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตสมัยใหม่ที่นำการออกกำลังกายโยคะคลาส Gentle Flow Yoga จากสถานออกกำลังกาย Fitness First มาผสมผสานกับจุดขายโลกใต้ทะเลของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SEA LIFE Bangkok Ocean World ได้อย่างลงตัว ผู้ร่วมกิจกรรมโยคะจะได้รับประสบการณ์การผ่อนคลาย ทั้งกาย, ใจ, และดื่มด่ำกับบรรยากาศใต้ทะเล พร้อมเพลิดเพลินกับสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลในช่วงเวลาเช้าก่อนพิพิธภัณฑ์ฯ เปิดให้บริการ

•••

นักท่องเที่ยวผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ Aquarium Yoga สามารถสำรองบัตรได้ที่คลิก: https://www.visitsealife.com/bangkok โดยเปิดสำรองบัตรได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป บัตรราคาท่านละ 990 บาทต่อรอบ มีให้เลือก 6 รอบ (*กำจัดจำนวนรอบละ 20 คนเท่านั้น) คือ;

• รอบที่ 1 - วันที่ 16 มิถุนายน 2568 รอบเวลา 8:00 น. ระยะเวลาคลาสประมาณ 60 นาที
• รอบที่ 2 - วันที่ 30 มิถุนายน 2568 รอบเวลา 8:00 น. ระยะเวลาคลาสประมาณ 60 นาที
• รอบที่ 3 - วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 รอบเวลา 8:00 น. ระยะเวลาคลาสประมาณ 60 นาที
• รอบที่ 4 - วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 รอบเวลา 8:00 น. ระยะเวลาคลาสประมาณ 60 นาที
• รอบที่ 5 - วันที่ 11 สิงหาคม 2568 รอบเวลา 8:00 น. ระยะเวลาคลาสประมาณ 60 นาที
• รอบที่ 6 - วันที่ 25 สิงหาคม 2568 รอบเวลา 8:00 น. ระยะเวลาคลาสประมาณ 60 นาที

สิทธิประโยชน์สำหรับทุกการจอง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับดังนี้;

• สิทธิ์เข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SEA LIFE Bangkok Ocean World ต่อเนื่องฟรี* ในวันเดียวกับรอบที่ร่วมกิจกรรม
• สิทธิ์ในการเข้าใช้พื้นที่สถานออกกำลังกาย Finess First คลับสาขาแพลตตินัม สยามพารากอนฟรี* แบบ Full Access โดยเข้าใช้บริการได้ทั้งพื้นที่ล็อกเกอร์-ห้องอาบน้ำ-ห้องสุขา พร้อมสามารถยืมใช้ผ้าเช็ดตัวและชุดออกกำลังกายที่ใช้เฉพาะภายในคลับสาขา, พื้นที่เวทออกกำลังกาย, และเข้ากิจกรรมคลาสออกกำลังกายอื่นๆ ที่มีตารางในวันเดียวกับรอบที่ร่วมกิจกรรมนั้นตลอดวัน
• รับผลิตภัณฑ์น้ำแร่ FUJI ดื่มฟรี* ระหว่างเวลาร่วมกิจกรรม
• รับผลิตภัณฑ์นมโปรตีนแบรนด์ Hooray! ดื่มฟรี* ตลอดเวลาระหว่างเวลาร่วมกิจกรรม
• รับคูปองส่วนลดพิเศษสำหรับช้อปสินค้าหมวด Activewear ของแบรนด์ Up and Under มูลค่า 200 บาท* เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท

และพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC กับการแลกคะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต รับเครดิตเงินคืนสงสุด 13%* เมื่อมียอดใช้จ่ายที่ SEA LIFE Bangkok Ocean World สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คลิก: https://www.ktc.co.th/promotion/travel/air-ticket/ktc-travel-redeem

•••

นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษจากพันธมิตรโรงแรม, ที่พัก, กิจกรรมสุขภาพ และผู้ประกอบการด้าน Health and Wellness อื่นๆ จากทั่วประเทศ ซึ่งได้เข้าร่วมแคมเปญ Grand Wellness Moment ให้แก่สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คลิก: https://www.ktc.co.th/promotion/hotel-resort/domestic-hotel/hotelcashback

สามารถติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ “Fresh Your Feel, Heal Your Soul - ทริปฮีลใจ, เติมไฟให้ชีวิต” และสิทธิประโยชน์ทางการท่องเที่ยวของโครงการนี้เพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ https://www.freshyourfeel.com หรือ Official page: Your Feel, Heal Your Soul



#อีเวนต์เด่นห้างโดนโดน

#สยามพิวรรธน์ #ฟิตเนสเฟิร์ส

30/05/2025

#เก็บตกเรื่องห้าง
#เซ็นทรัลพัฒนาเรซซิเด้นซ์ เปิดตัว 9 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 16,000 ลบ. ดัน ‘บ้านและคอนโดฯ ลักชัวรี่และระดับบน’ ซีรีส์ใหม่ ทั้งนนทบุรี-ภูเก็ต-กระบี่ เชื่อมต่อการใช้ชีวิตคุณภาพเหนือระดับอันโดดเด่นกว่าใคร

บริษัท #เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ #ซีพีเอ็น ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ “Imagining Better Futures for All” และผู้พัฒนาธุรกิจ ทั้งศูนย์การค้า #เซ็นทรัล, ที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน, และโรงแรมทั่วประเทศ เผยถึงกลุ่มธุรกิจ ว่าเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด 10 ปี และปัจจุบันเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับโมเดล Retail-Led Mixed-Use Development ของเครือ

•••

ในปี 2568 นี้ทางกลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์เตรียมเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 9 โครงการ ทั้งรูปแบบแนวราบและแนวสูง รวมมูลค่าทั้งสิ้น 16,000 ล้านบาท โดยมีโครงการไฮไลต์เป็นบ้านลักชัวรี่แบรนด์ “บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์” ย่านถนนหอการค้าไทย จังหวัดนนทบุรีที่เจาะทำเลเมืองขยาย และตอบรับดีมานด์ที่อยู่อาศัยระดับบน

พร้อมทั้งเตรียมเปิดตัวโครงการทั้งบ้านและคอนโดฯ ระดับซูเปอร์พรีเมียมในโครงการมิกซ์ยูสศูนย์การค้า #เซ็นทรัลกระบี่ และต่อยอดความสำเร็จด้วยการเตรียมเปิดตัวคอนโดฯ Phuket - Phase 2 รับแผนขยาย Luxury Zone ของศูนย์การค้า #เซ็นทรัลภูเก็ต ฟลอเรสต้า โดยพบกับดีลที่ดีที่สุดและยิ่งใหญ่สุดแห่งปีของกลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ในงาน “Imagining Better Living” ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม จนถึง 1 มิถุนายน 2568 นี้ที่ลานโถง Central Court ชั้น 1 ศูนย์การค้า #เซ็นทรัลเวิลด์

•••

คุณวัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ได้เดินหน้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพด้วยความเชี่ยวชาญในฐานะเป็น Top Developer ระดับประเทศ โดยภายในสิ้นปี 2568 กลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์จะมีโครงการที่อยู่อาศัยทั้งหมด 51 โครงการใน 21 จังหวัดทั่วประเทศ ผ่านการขยายโครงการครอบคลุมใน 3 ทำเลหลัก คือ 1.กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล, 2.เมืองท่องเที่ยว ทั้งภูเก็ต-ระยอง-สุราษฎร์ธานี และปลายปีนี้เตรียมขยายโครงการใหม่ไปพร้อมกับศูนย์การค้า , และ 3.หัวเมืองใหญ่ อาทิ; ชลบุรี, ขอนแก่น, ขอนแก่น แคมปัส, นครสวรรค์, อุดรธานี, หาดใหญ่ เป็นต้น”

“ทั้งนี้ กลยุทธ์ความสำเร็จหลักยังคงเป็นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยไปพร้อมกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลภายใต้โมเดล Retail-Led Mixed-Use Development เพื่อเชื่อมโยงทุกมิติของการใช้ชีวิต โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพของการก่อสร้าง, ความปลอดภัย, และการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้เข้าพักอาศัยแต่ละบุคคลได้ง่าย รวมถึงบริการหลังการขายด้วยทีมนิติบุคคลของเซ็นทรัลพัฒนา”

“นอกจากนี้ #บ้านเซ็นทรัล ยังออกแบบให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยทุกช่วงวัยตั้งแต่ First Jobbers ไปจนถึงครอบครัว Multi-Generation ซึ่งวันนี้กลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ดูแลครอบครัว กว่า 10,000 ครอบครัวทั่วประเทศ”

•••

เรืออากาศเอก กรี เดชชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย (President of Residential Business) บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธุรกิจที่อยู่อาศัยของเครือเซ็นทรัลพัฒนาประสบความสำเร็จ ทั้งโครงการแนวสูงและโครงการแนวราบ สำหรับโครงการแนวสูง คอนโดฯ แบรนด์ ซึ่งเป็นแบรนด์คอนโดฯ ระดับ Premium Class ทำเลติดอยู่หรือใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลได้รับการตอบรับดีเยี่ยมทั่วประเทศ ตัวอย่างปีที่ผ่านมาโครงการ #เอสเซ็นท์ นครสวรรค์ และโครงการเอสเซ็นท์ นครปฐมสามารถปิดการขายได้หมดในช่วงพรีเซลล์ และทำเลต่างๆ ทั้งอุบลราชธานี, นครศรีธรรมราช และภูเก็ตมียอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้ขยายคอนโดฯ แบรนด์ PHYLL ซึ่งเป็นแบรนด์คอนโดฯ ระดับ Super Premium Class บนทำเลอันโดดเด่นใกล้สถานีรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวหลักอีกด้วย”

“ด้านโครงการแนวราบครอบคลุมตั้งแต่แบรนด์บ้านระดับ Premium Class จนถึงระดับ Super Luxury Class ซึ่งประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน โดย 3 โครงการที่คาดว่า จะปิดการขายได้ภายในปีนี้ คือ บรมราชชนนี, BAAN บางนา, และ BAAN กัลปพฤกษ์ รวมทั้งในปีนี้เตรียมเปิดโครงการบ้านลักชัวรี่ใหม่ BAAN แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์”

•••

สำหรับแผนปี 2568 ตั้งเป้ายอดขายไว้กว่า 7,000 ล้านบาท พร้อมกับเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งแนวราบและแนวสูงรวม 9 โครงการ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท ดังนี้;

• พื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล - เปิดตัว 5 โครงการใหม่ คือ BAAN NIRADA แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์, BAAN NINYA รามอินทรา 83, BAAN NINYA กรุงเทพกรีฑา, BAAN NIRATI แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์ และคอนโดฯ PHYLL พหลโยธิน 59 บนทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว

• พื้นที่จังหวัดภูเก็ต - เปิดตัวโครงการคอนโดฯ PHYLL Phuket - Phase 2 รองรับแผนขยายอาคาร Luxury Zone ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า

• พื้นที่จังหวัดกระบี่ - โครงการมิกซ์ยูสของเครือเซ็นทรัลพัฒนาล่าสุด พร้อมเปิดตัวโครงการระดับ Super Premium ทั้งรูปแบบแนวราบ BAAN NINYA กระบี่ และรูปแบบแนวสูงกับคอนโดฯ PHYLL กระบี่

• พื้นที่จังหวัดชลบุรี - เปิดตัวโครงการคอนโดฯ ESCENT ชลบุรี ติดด้านข้างศูนย์การค้าเซ็นทรัล ชลบุรี

เรืออากาศเอก กรี กล่าวต่ออีกว่า “กลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ยังรุกตลาดบ้านระดับบน โดยได้นำแบรนด์ ‘บ้านนิรดา’ ซึ่งเป็นแบรนด์บ้านระดับ Luxury ปัจจุบันมี 3 ทำเลที่ได้เปิดตัวไปแล้วทั้งบ้านนิรดา อุทยาน-อักษะ, บ้านนิรดา เอกชัย-วงแหวน, และบ้านนิรดา พระราม 2 ทั้ง 3 ทำเลทั้งหมดนี้ได้สร้างยอดขายกว่า 1,000 ล้านบาทแล้ว”

•••

ปีนี้กลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ได้เปิดตัวโครงการบ้านแนวราบใหม่ ‘บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์’ ย่านถนนหอการค้าไทย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ดีไซน์หรู ราคาเริ่มต้นที่ 25 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลโซนที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ เดินทางสะดวกและแวดล้อมด้วยสังคมคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น;

• โรงเรียนนานาชาติ อาทิ; โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์นนทบุรี (SIBS วิทยาเขตนนทบุรี), โรงเรียนนานาชาติดีบีเอส (Denla British School), โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ราชพฤกษ์ แคมปัส, โรงเรียนนานาชาติสาธิตคริสเตียนนนทบุรี, โรงเรียนนานาชาติ ดราก้อน เป็นต้น

• โรงพยาบาลชั้นนำ อาทิ; โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า, โรงพยาบาลชลประทาน, โรงพยาบาลปากเกร็ด, โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์, โรงพยาบาลวิภารามปากเกร็ด, โรงพยาบาลแบงค็อก เมนทัล เฮลท์ เป็นต้น

• ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ อาทิ; ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต, ห้างอิเกีย บางใหญ่, ศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์, ห้างโก โฮลเซลล์ รัตนาธิเบศร์, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, ตลาดบางใหญ่, ตลาดคลองเล, ตลาดน้ำวัดใหญ่สว่างอารมณ์ เป็นต้น

“แบรนด์ ‘บ้านนิรดา’ จะเป็นสัญลักษณ์ของความภูมิใจที่สะท้อนความสำเร็จอันสง่างาม และรสนิยมแห่งการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยกลุ่ม Elite Young Achiever เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวรุ่นใหม่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ซึ่งสามารถออกแบบพื้นที่ได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง”

•••

สำหรับโครงการใหม่ “บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์” มีความโดดเด่นในด้านต่างๆ อาทิ;

• A Promising Address - ทำเลที่ตั้งอยู่บนถนนหอการค้าไทย ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อระหว่างถนนชัยพฤกษ์กับถนนราชพฤกษ์ (ถนน 345) โดยเป็นโซนเมืองขยายทางทิศตะวันตกของกรุงเทพฯ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าสีชมพู และแวดล้อมด้วยสังคมคุณภาพ ถือเป็นย่าน The Most Exclusive Neighbourhoods

• A Statement of Sophisticated Living - มอบระดับความ Exclusive ด้วยจำนวนบ้านเพียง 68 ยูนิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ชีวิตเรียบหรูที่ใกล้ชิดธรรมชาติ” ผ่านการออกแบบในลักษณะ Organic Modern Design ซึ่งผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายของสถาปัตยกรรมแบบร่วมสมัยเข้ากับความอบอุ่นเป็นธรรมชาติ

• Versatile Design for Evolving Lifestyles - บ้านที่มอบฟังก์ชั่นครบและสามารถออกแบบเองได้รองรับการต่อเติมบ้านในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นห้องอเนกประสงค์และห้อง Living & Dining ที่มีพื้นที่กว้างขวาง รวมถึง Space ที่มีอิสระในการออกแบบพื้นที่ส่วนตัว

• Enduring Craftsmanship for Generations - แบบบ้านที่ออกแบบให้รองรับทุกช่วงวัยและทุกคนในครอบครัว ด้วยการเน้นความโปร่งโล่ง และอากาศถ่ายเทได้สะดวก พร้อมพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่สีเขียวอันลงตัว

•••

พบกับโปรโมชันและดีลที่ดีที่สุด สุดเร้าใจยิ่งใหญ่แห่งปีในงาน “IMAGINING BETTER LIVING” ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม จนถึง 1 มิถุนายน 2568 นี้บริเวณลานโถง Central Court ชั้น 1 ศูนย์การค้า งานเดียวที่ได้ดีลดีครบทุกภาคทั่วไทย ทั้งโครงการบ้าน-คอนโดมิเนียม-ทาวน์โฮมจากเซ็นทรัลพัฒนา ราคาเริ่มต้นที่ 1.39-52 ล้านบาท พร้อมส่วนลดสูงสุดกว่า 6 ล้านบาท และรับคะแนนบัตรสมาชิก สูงสุด 100,000 พ้อยต์ เพื่อไว้แลกใช้จ่ายกับร้านค้าพันธมิตรมากมาย พร้อมรับฟรี Gift Voucher มูลค่า 5,000 บาท

มาเป็นครอบครัว Central Citizen กัน ติดตามความเคลื่อนไหว Central Pattana Residence ได้ที่คลิก: https://residence.centralpattana.co.th/th/cpn-residence



#รู้รอบทันห้าง

29/05/2025

#ทันข่าวแบรนด์
#พญาไทไลฟ์ รีแพคเกจจิ้งฉลองครบรอบปีที่ 5 สู่ผู้นำ ‘ผลิตภัณฑ์สุขภาพเชิงป้องกัน’ พร้อมร่วมกับทีมแพทย์ผู้ชำนาญเตรียมออกผลิตภัณฑ์เชิงลึกตรงกับความต้องการของคนยุคใหม่

กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพเชิงป้องกัน ในเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ก้าวสู่ปีที่ 5 ด้วยจุดยืนอันชัดเจนที่แตกต่าง สู่ผู้นำด้านสุขภาพเชิงป้องกันท่ามกลางกระแสรักสุขภาพที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในสังคมยุคใหม่ และด้วยแนวคิด “Make Your Life Matters - สุขภาพของคุณมีความหมาย Phyathai Life พร้อมดูแลคุณในทุกวัน” จึงทำให้กลุ่มธุรกิจ Phyathai Life ตั้งใจและพร้อมส่งมอบการดูแลสุขภาพที่เข้าใจร่างกายจากภายในอย่างแท้จริง

•••

คุณสิตาภรณ์ วาณิชเสนี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โรงพยาบาลพญาไท 1 เผยว่า “เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโลได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทางโรงพยาบาลฯ จะช่วยให้คนไข้ของทางโรงพยาบาลฯ มีสุขภาพดีขึ้นได้อย่างไร? นอกเหนือจากการรักษาหรือรับประทานยา โดยจากคำถามดังกล่าวจึงเกิดเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ LAVITA และกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบรนด์ BREA ภายใต้กลุ่มธุรกิจ Phyathai Life ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์จากการพัฒนาร่วมกับทีมแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยที่ได้ผ่านการอบรมทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ เพื่อช่วยแก้ปัญหาสุขภาพแบบเจาะจงเชิงลึกตาม Pain Point ของคนไข้ที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ทั้งปัญหาภูมิแพ้-ภูมิคุ้มกัน, ปัญหาการนอนหลับ, ปัญหาอารมณ์แปรปรวน, ปัญหาระบบลำไส้, ไปจนกระทั่งการดูแลผิวจากภายใน”

“ตลอดการดำเนินการของกลุ่มธุรกิจนี้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าได้รับการตอบรับจากคนไข้และผู้บริโภคเป็นอย่างดี ทำให้สามารถยืนยันได้ว่าแนวทางนโยบายของกลุ่มธุรกิจ Phyathai Life นี้เดินมาถูกทาง และตลอดปีที่ผ่านมามีผู้เข้ารับบริการของเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา, กลุ่มที่ใส่ใจดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน, ไปจนถึงกลุ่มเวชศาสตร์เชิงป้องกัน (Wellness) ต่างให้ความไว้วางใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากกลุ่มธุรกิจ Phyathai Life รวมแล้วกว่า 10,000 ราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เริ่มต้นจากประสบการณ์การดูแลสุขภาพภายในโรงพยาบาล ไปจนสามารถต่อยอดสู่ความไว้วางใจในเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ภายใต้กลุ่มธุรกิจ Phyathai Life จนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันผ่านกระแสบอกต่อจากผู้ใช้จริงอย่างต่อเนื่อง”

•••

“และด้วยวิสัยทัศน์ในการขยายขอบเขตการดูแลสุขภาพให้กว้างไกลกว่าการให้บริการทางการแพทย์เพียงอย่างเดียว ด้วยการนำศักยภาพของบุคลากร, ความรู้, และความชำนาญการของทีมแพทย์ เพื่อส่งต่อความเข้าใจสุขภาพอย่างลึกซึ้ง สู่ผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือและใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันท่ามกลางยุคที่ผู้บริโภคเผชิญกับทางเลือกมากมายในตลาด ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจ Phyathai Life คือหนึ่งในไม่กี่ทางเลือกที่ยืนหยัดด้วยมาตรฐานทางการแพทย์และความปลอดภัย”

“สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินแบรนด์ LAVITA ได้รับการคิดค้นสูตรโดยแพทย์เฉพาะทาง พร้อมคัดสรรวัตถุดิบระดับพรีเมียม โดยใช้ในวงการ Personalized Supplement ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเวชสำอางแบรนด์ BREA ได้ถูกนำมาใช้จริงในโรงพยาบาลมานานกว่า 10 ปี และได้รับความพึงพอใจจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพจากการใช้งานจริงในระบบบริการสุขภาพ”

•••

วาระครบรอบ 5 ปีของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกของกลุ่มธุรกิจ Phyathai Life อย่างเป็นทางการ ทางเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโลจึงได้ปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ของทั้ง 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก คือ;

• กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร LAVITA - ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เป็นขวดแก้วสีชาพร้อมฝา Flip เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้ พร้อมรูปลักษณ์ทันสมัยและสะท้อนภาพลักษณ์พรีเมียม

• กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว BRAE - ปรับแพคเกจและ Mood & Tone ของแบรนด์ให้ดูคลีนและมินิมอล พร้อมฉลากสกรีนลงบนขวดจริงแทนการใช้สติ๊กเกอร์ เพื่อความทนทานและหรูหรายิ่งขึ้น พร้อมเปิดตัวไอเท็มใหม่อย่างผลิตภัณฑ์ Essence Water ภายในชุด Travel Set รุ่นใหม่

“ผู้บริโภคทุกวันนี้ไม่ได้มีเพียง Gen X หรือ Gen Y แต่ปัจจุบันยังเห็น Gen Z เริ่มเข้ามามีบทบาทในการใช้สอยเรื่องผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ดีต่อสุขภาพเพียงเท่านั้น แต่ตัวแพคเกจจิ้งจะต้องดูดีมีระดับ, พกพาง่าย, และตอบโจทย์ในการใช้ได้ในชีวิตจริงอีกด้วย” คุณสิตาภรณ์ กล่าว

•••

ดร.นิรุธ ศรีพวาทกุล ผู้อำนวยการสายพัฒนาคุณค่าธุรกิจและเพิ่มพูนการเรียนรู้ เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล กล่าวว่า “เบื้องหลังทุกสูตรผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจ Phyathai Life คือความตั้งใจของทีมแพทย์และบุคลากรผู้ชำนาญการเฉพาะทางของเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโลที่ต้องการสร้างสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ด้วยการนำข้อมูลเชิงลึกจากผู้ป่วยจริงและเทคโนโลยีทางการแพทย์มาพัฒนาออกเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตรงและตอบโจทย์ผู้ใช้งานจริงให้มากที่สุด โดยทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจ Phyathai Life ได้เลือกพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ Functional Supplement ซึ่งครอบคลุมการทำงานของร่างกายในด้านต่างๆ ตั้งแต่การเพิ่มความสมดุลของฮอร์โมน, เสริมความแข็งแรงของภูมิคุ้มกัน, ปรับสมดุลในการนอนหลับให้สบายและยาวนานไม่มีอะไรมาให้รบกวน, และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบเผาผลาญของร่างกาย ด้วยการผสานสารสกัดธรรมชาติระดับพรีเมียม พร้อมรับรองจากทีมแพทย์เฉพาะทางในแต่ละสูตร เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอันตอบโจทย์ผู้บริโภคเชิงลึก และสอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง”

•••

แพทย์หญิงกอบกุลยา จึงประเสริฐศรี ผู้อำนวยการศูนย์พรีเมี่ยมไลฟ์ โรงพยาบาลพญาไท 2 เผยว่า “หนึ่งในบทบาทสำคัญของแพทย์ในยุคใหม่นี้คือการสังเกตเทรนด์สุขภาพที่เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปไกล สุขภาพก็ต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน แต่จุดเริ่มต้นที่แท้จริงยังอยู่ที่ ‘การกลับมารู้จักร่างกายตัวเองให้มากขึ้น เพราะสุขภาพเริ่มต้นจากภายใน’ ปัจจุบันเทรนด์สุขภาพที่น่าจับตามองต้องดูแลอย่างใกล้ชิด คือ โรคในกลุ่ม NCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่ยังคงเป็นภัยเงียบอันดับหนึ่ง อาทิ; โรคเบาหวาน, โรคความดัน, โรคไขมันในเลือด เป็นต้น รวมถึงโรคในกลุ่มภาวะสุขภาพจิต อย่างโรคซึมเศร้าอันมาจากความเครียดและสภาวะทางสังคมที่เร่งรีบ และโรคเกี่ยวกับสุขภาพทางลำไส้ (Gut Health) ที่ต้องอาศัยความสัมพันธ์ที่สมดุลกับสมองและภูมิคุ้มกัน”

“ดังนั้น เพื่อลดอัตราความเสี่ยงในการเกิดภาวะโรคกลุ่มโรคเหล่านี้ คนไข้จึงต้องพยายามหันมาดูแลสุขภาพตั้งแต่ภายใน ควบคู่กับการวิเคราะห์สุขภาพเชิงลึกส่วนบุคคล (Personalized Health) อาทิ; การตรวจ DNA, การตรวจระดับฮอร์โมน, การตรวจระดับวิตามิน, การตรวจระดับสารพิษสะสม เป็นต้น เพื่อรู้จักร่างกายตัวเอง และรู้จักวิธีการเสริมสร้างดูแลในส่วนที่ขาด พร้อมทั้งระวังตนเองในส่วนที่เกินหรือมีความเสี่ยง ทั้งหมดนี้คือการดูแลสุขภาพที่ไม่ใช่เพียงเพื่อป้องกันโรค แต่คือการปรับสมดุลให้ร่างกายและชีวิตผ่านแนวคิด ‘Modern Self-Care from the Inside Out - การดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอก’ ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ทั่วโลก”

•••

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของกลุ่มธุรกิจ Phyathai Life อันมาจากความตั้งใจที่อยากช่วยให้คนไข้มีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยไม่ใช่เฉพาะตอนที่อยู่ภายในโรงพยาบาลเท่านั้น แต่อยากให้คนไข้มีสุขภาพดีในทุกวันของชีวิต และเมื่อเวลาผ่านไปความตั้งใจนั้นค่อยๆ เติบโต จนกลายเป็นกลุ่มธุรกิจแบรนด์ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่หลายคนไว้วางใจ เพราะกลุ่มธุรกิจ Phyathai Life ได้เชื่อมโยงความรู้และความเข้าใจในปัญหาสุขภาพของคนไข้และลูกค้าที่มารับบริการ จนพัฒนามาสู่ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

และวันนี้กลุ่มธุรกิจ Phyathai Life กำลังขยายตลาดกลุ่มผู้บริโภคให้กว้างขึ้น เพื่อให้คนทั่วไปได้เข้าถึงคุณภาพแบบเดียวกันกับที่โรงพยาบาลเลือกใช้ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ในทุกที่, ทุกวัน, และทุกไลฟ์สไตล์



#รอบรู้ทันแบรนด์


#เครือโรงพยาบาลพญาไทเปาโล #โรงพยาบาลพญาไทเปาโล